มหาสงครามวันพิพากษา หากคอการ์ตูนขนานแท้ทั้งหลายได้มาคุยกันในเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับการ์ตูนวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ร่วมสมัยแล้ว การ์ตูนเรื่อง Neon Genesis Evangelion หรือที่ใช้ชื่อไทยว่า อีวานเกเลี่ยน มหาสงครามวันพิพากษา เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มักจะได้รับการหยิบยก ขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ทั้งติและชมคละเคล้ากันไป เนื่องจากได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ
การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนวิทยาศาสตร์ที่วางพล็อตอยู่บน แนวเรื่องและแนวคิดต่างๆ กัน หลายๆประเด็น ที่มีการนำมารวม เข้าด้วยกันเอาไว้อย่างกลมกลืน ผู้แต่งต้องการสะท้อนสิ่งต่างๆ ออกมาในงานของเขาให้ผู้ชมได้รับแง่คิดต่างๆ ไปตามพื้นฐาน ของแต่ละคนจากการนำเสนอในเรื่อง สิ่งที่ได้มีการสอดแทรก เข้าไว้ในเรื่องนี้ได้แก่ ปมทางจิตวิทยาที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่ มุมมองเกี่ยวกับสภาพสังคมในเมืองใหญ่ ธรรมชาติของมนุษย์ พล็อตเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะผลกระทบ ของเทคโนโลยีชีวภาพและพันธุวิศวกรรมต่อสังคมมนุษย์ในอนาคต รวมไปถึงมุมมองทางอภิปรัชญาและศาสนาในหลายๆ เรื่อง ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง การ์ตูนเรื่องนี้มีวางจำหน่ายในรูปแบบภาพยนตร์การ์ตูนวีดิทัศน์ โดยเฉพาะ ตั้งแต่ที่ต้นทางในประเทศญี่ปุ่นแล้ว (เราเรียกการ์ตูนที่ทำออกมาเป็นวีดิโอขาย หรือ เช่าอย่างเดียวนี้ว่า Original Video Animation : OVA) ในจำนวน 13 ม้วน และ ทำเป็นภาพยนตร์ฉายตามโรงที่นับได้ว่าเป็นตอนสรุปจบจริงๆ อีก 2 เรื่อง แล้วถึงเขียนออกมาเป็นหนังสือการ์ตูนขายครับ
เนื้อเรื่องโดยย่อจะเป็นการกล่าวถึงสภาพของโลกภายหลังหายนะที่เกิดขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ภายหลังเกิดการระเบิดที่ขั้วโลกใต้อย่างรุนแรงในปี 1999 ซึ่งมีชื่อเรียกในเรื่องว่า Second Impact ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นจน เกิดเป็นภัยพิบัติขึ้นทั่วโลก สาเหตุที่เกิดการระเบิดนั้น ตอนเริ่มเรื่องมีการสันนิษฐานว่าเกิดจากอุกกาบาตขนาดยักษ์เข้ามาชนโลก [ แต่จริงๆแล้วสาเหตุเกิดจาก การที่มนุษย์โคลนนิ่ง อดัม มนุษย์คนแรก (เทวทูตองค์แรก) ขึ้นเป็น Eva 01 แล้วเกิดเหตุผิดพลาดจนเกิดการระเบิดขึ้นนั่นเอง - HotAHA!com] 15 ปีหลังจากนั้นมนุษยชาติก็เริ่มฟื้นตัวจากหายนภัยครั้งนั้น แต่เคราะห์กรรมก็เข้ามาซ้ำเติมมนุษย์ซ้ำสอง เมื่อมี "เทวทูต" ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาชั้นสูงที่ไม่ทราบที่มา แต่กลับมี DNA เหมือนมนุษย์ถึง 99 % แห่กันเข้ามาโจมตีมนุษยชาติอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องนั้นเอเลียนที่ถูกเรียกว่า "เทวทูต" นั้นมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งออกมาในรูปของสัตว์ประหลาด สิ่งมีชีวิตที่มีรูปลักษณะเป็นกลไก สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในรูปแบบของนาโนแมชชีนซึ่งภายหลังกลายรูปเป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในมิติอื่น สิ่งมีชีวิตที่สามารถอาศัยในหินหลอมเหลวใต้ผิวโลก สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้น้ำ แม้แต่มาในรูปแบบของมนุษย์ ซึ่งมนุษย์เองก็มิได้นิ่งนอนใจกับ การคุกคามดังกล่าว จึงสร้าง "อาวุธในรูปแบบมนุษย์" หรือหุ่นยักษ์ขึ้นมาต่อสู้ โดยอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การลับที่มีชื่อว่า เนิร์ฟ (Nerv) ซึ่งถูกองค์การลับที่มีชื่อว่า เซเล (Selee) ชักใยอยู่เบื้องหลังอีกที (การ์ตูนญึ่ปุ่นนี่ยังไงๆ ก็ยังไม่ทิ้งรูปแบบการ์ตูนหุ่นยนต์ยักษ์สิน่า) หุ่นรบนี้มีชื่อว่า อีวานเกเลี่ยน (Evangelion) หรือ อีวา (EVA) เป็นหุ่นรบที่จะเรียกว่าหุ่นยนต์ก็ไม่ถูกนัก เพราะไม่ใช่เครื่องจักร หากเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์ยักษ์ ที่ถูกสร้างขึ้นโดยการโคลนนิ่งและมีรหัสพันธุกรรมที่เหมือนกับมนุษย์เราถึง 99 % เป็นความสำเร็จที่ได้จากการประมวลเทคโนโลยีหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน คือ เทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรม เทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อระบบประสาทนักบินให้สามารถเชื่อมต่อสั่งการคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง และเทคโนโลยีทางวัสดุศาสตร์ในการสร้าง Composite Material สำหรับเป็นเกราะให้ตัวหุ่นรบครับ
หุ่นมนุษย์ยักษ์ดังกล่าวถูกทำให้ไร้ความสามารถที่จะเคลื่อนไหวได้เอง เพราะระบบประสาทส่วนกลางของหุ่นรบ ที่มีจุดรวมประสาทที่ท้ายทอยต่อมายังกระดูกสันหลังซึ่งปกติจะถูกสั่งการจากสมอง จะถูกควบคุมโดยเชื่อมต่อสัญญาณจากระบบประสาทส่วนกลางของ นักบินที่เป็นมนุษย์โดยตรงแทน (น่าสงสารหุ่นพวกนี้จัง) โดยสัญญาณจากสมองของนักบินนั้นจะถูกขยายและปรับโดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามเครื่องที่เรียกว่า เมไจ (Magi) หรือมากิ [ คือ เมไจบัลคาซาร์ เมไจเมคิออล์ และเมไจแคสเปอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการปลูกถ่ายบุคคลิกภาพของคนใส่ในคอมพิวเตอร์ โดยเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในห้องนักบินของอีวาด้วย โดยเมไจเป็นเครื่องแรก และบุคคลิกที่ปลูกถ่ายก็เป็นของแม่ของ ดร.อาคากิ - HotAHA!com] ซึ่งมีการประมวลผลแบบขนานเพื่อให้เกิดความเร็วในการประมวลผลสูงสุด จากนั้นจึงป้อนสัญญาณจากสมองของนักบิน ผ่านห้องนักบินเข้าไปควบคุมหุ่นรบโดยตรง พูดง่ายๆ ก็คือ หากเรานึกจะขยับแขนขา หุ่นก็จะทำตามอย่างที่เรานึก เหมือนกับเป็นร่างกายของเราเอง การทำแบบนี้มีข้อเสียหลายอย่างคือ เนื่องจากต้องเชื่อมต่อสัญญาณประสาทให้นักบิน เข้ากันกับหุ่นได้ดีและมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการคัดเลือกนักบินที่มีคลื่นสมอง เข้ากันได้กับคลื่นสมองของหุ่นแต่ละตัวโดยเฉพาะ นักบินเหล่านี้จะมีโค้ดเนมว่า "บุตร" (Children) เช่น นักบินคนที่หนึ่งที่ถูกเลือก คือ First Children คนที่สอง ที่ถูกเลือก คือ Second Children เป็นต้น [ ซึ่งจริงๆ แล้วทุกอย่างรวมทั้งนักบินทุกคนได้ถูกเลือกไว้หมดแล้ว โดยองค์การมาร์ดุกที่เป็นองค์การที่คัดนักบินนั้น ถูกชักใยโดยเนิร์ฟเอง และนักบินทุกคนจะมีประวัติประเภทกำพร้าแม่ ยกเว้นเรย์ เพราะแม่ทุกคนจะต้องสละร่างเนื้อและวิญญาณสถิตอยู่ในอีวาตัวนั้นๆ ดังนั้นคนที่ขับได้จึง เป็นลูกของเธอเองเท่านั้น - HotAHA!com] การควบคุมหุ่นจะต้องเหนี่ยวนำให้คลื่นสมองของหุ่นเกิดการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆ กันกับคลื่นสมองของนักบินในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งเรียกว่า "การซิงโครไนซ์ (Synchronize)" เพื่อให้บังคับหุ่นให้เคลื่อนไหวได้ หากนักบินเสียสมาธิไป หรือเปลี่ยนแปลงตัวนักบินเป็นคนอื่น จะพบว่า "อัตราการเข้ากันได้ของคลื่นสมองนักบินกับตัวหุ่น หรือ อัตราการซิงโครไนซ์" จะตก ทำให้ประสิทธิภาพของการขับเคลื่อนลดลง คือเคลื่อนไหวช้า หรือมีแรงน้อย หรือที่ร้ายกว่านั้นก็อาจเคลื่อนไหวไม่ได้เลย เป็นต้น นอกจากนี้เนื่องจากมีการเชื่อมต่อของระบบประสาทของนักบินกับหุ่นยักษ์ที่มีชีวิตดังกล่าว ดังนั้นถ้าได้รับ การโจมตีจนหุ่นบาดเจ็บ นักบินจะรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยเนื่องจากระบบประสาทต่อกันอยู่ จึงอาจจะทำให้นักบินเสียชีวิตได้ด้วยอาการช็อค เนื่องจากความเจ็บปวด ที่ส่งมาตามระบบประสาทหากหุ่นรบถูกทำลาย (หุ่นตาย)
หุ่นรบดังกล่าวเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่ดัดแปลงจากมนุษย์ ลึกๆ แล้วจึงมีความนึกคิดเป็นของตนเอง แต่ถูกควบคุมไว้ไม่ให้แสดงออกโดยมนุษย์ผู้สร้างมันขึ้นมา แน่นอนครับ เป็นใครโดนทำเป็น "หุ่นเชิด" อย่างนั้นย่อมต้องรู้สึกไม่ชอบเป็นธรรมดา ดังนั้นเมื่อหลุดจากการควบคุมจะพบว่า หุ่นอีวาเกิดอาละวาดอยู่นอกเหนือการควบคุมอยู่บ่อยๆ จนต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น ระบบดีดตัวห้องนักบินออกฉุกเฉิน ระบบทำลายตัวเอง ระบบแช่แข็งหุ่นให้หยุดการเคลื่อนไหว ด้วยของเหลวพิเศษ และสุดท้ายคือการกำหนดให้หุ่นเคลื่อนไหวได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก คือ ต้องเสียบปลั๊กและมีสายเคเบิลเชื่อมกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลาที่ใช้งาน
มิฉะนั้นจะเคลื่อนไหวไม่ได้ และหากสายเคเบิลป้อนไฟเข้าตัวหุ่นถูกตัดขาด หุ่นจะมีแบตเตอรี่สำรองในตัวให้สามารถทำงานได้เพียงสามนาทีเท่า ซึ่งเป็นข้อจำกัดด้านเทคนิคของมนุษย์ เป็นจุดอ่อน แต่ก็มีไว้เพื่อป้องกันหุ่นอาละวาดอีกด้วย
แนะนำตัวละคร
ตัวละครหลักๆ ในเรื่อง มีดังต่อไปนี้
อายานามิ เรย์ เป็นนักบินคนที่หนึ่งของอีวา นางเอกคนแรก ไม่มีใครทราบที่มาของเธอ เนื่องจากประวัติต่างๆ ถูกทำลายทิ้งอย่างจงใจจนหมด [ จากคำสั่งของอิคาริ เก็นโด พ่อของชินจิ ] มีบุคลิกเรียบเฉย เป็นคนเยือกเย็นจนน่ากลัวเนื่องจากเป็นคนที่ไม่รู้จักอารมณ์ความรู้สึกมนุษย์คนอื่นๆ มี [ เรย์ถูกสร้างจากดินสีแดง โดยมี DNA ผสมระหว่างลิลิธ และยูอิแม่ของชินจิ และเธอมีโคลนนิ่งหลายร่าง ที่ปรากฏในเรื่องมี 3 ร่าง ร่างที่ 3 เนื่องจากความผิดพลาดทำให้มี DNA ของลิลิธมากเกินไป เธอจึงเป็นเทวทูตองค์สุดท้ายในท้ายสุดของเรื่อง - HotAHA!com ]
อิคาริ ชินจิ นักบินคนที่สาม ของอีวา พระเอกของเรื่อง เป็นบุตรชายของ อิคาริ เก็นโด มีลักษณะนิสัยไม่มั่นใจในตนเอง ขี้ขลาด และเป็นคนขาดความรัก
โชริว อาสึกะ แลงก์เลย์ นักบินคนที่สอง ของอีวา นางเอกคนที่สอง [ นางเอกจริงของเรื่อง - HotAHA!com ] เป็นคนที่มีบุคลิกตรงข้ามกับ อายานามิ เรย์ อย่างที่เรียกได้ว่าคนละขั้ว คือ ใจร้อน เอาแต่ใจ โมโหร้าย เป็นคนที่มีบุคลิกร้อนแรงเหมือนไฟ มีความต้องการเอาชนะสูงมาก จากปมปัญหาในใจของเธอตั้งแต่วัยเด็ก
อิคาริ เก็นโด พ่อของอิคาริ ชินจิ ชื่อเดิม โรคุบุนงิ เก็นโด เป็นผู้บัญชาการสูงสุดขององค์การเนิร์ฟ หน่วยงานซึ่งทำตามแผนการลับที่ถูกกำหนดนโยบายมาโดยตรงจากองค์การเซเล่ องค์การซึ่งต้องการนำมนุษยชาติ ไปสู่ภาวะนิรันดร์ตามพันธะสัญญาในพระคัมภีร์ แต่โดยส่วนตัวลึกๆ แล้ว ผบ.อิคาริ ก็มีแผนในใจของตนเองที่จะทรยศต่อองค์การเซเล่เช่นกัน
คาซึรางิ มิซาโตะ สังกัดแผนก 1 กองแผนการรบ ฝ่ายเสนาธิการ กองบัญชาการเนิร์ฟ เป็นผู้ดูแลฝ่ายยุทธการของเนิร์ฟ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชาของชินจิ และในทางปฏิบัติก็เป็นผู้ปกครองของชินจิอีกด้วย เธอมีหน้าที่สั่งการยามเกิดการสู้รบกับเหล่าเทวทูต เธอเป็นคนง่ายๆ ทำตัวตามสบาย แต่บางครั้งออกจะปล่อยตัวไปสักหน่อย และมีนิสัยค่อนข้างใจร้อน
ดร.อาคากิ ริซึโกะ นักวิทยาศาสตร์ สังกัดฝ่ายเทคนิคที่ 1 หน่อยพัฒนากองบัญชาการเนิร์ฟ เป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนาหุ่นอีวา และเซ็ทระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์เมไจของหน่วยบัญชาการฯ เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมิซาโตะ เป็นคนใจเย็น เงียบขรึมเรียบร้อย ซึ่งตรงข้ามกับมิซาโตะ
คาจิ เรียวจิ หนุ่มเจ้าสำราญคนรักเก่าของมิซาโตะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราการทำงานของเนิร์ฟ และเจ้าหน้าที่สำรวจข้อมูล กระทรวงมหาดไทย สังกัดรัฐบาลญี่ปุ่น ทำหน้าที่เป็นสายลับสองหน้า ให้กับทั้งรัฐบาลญี่ปุ่น และเนิร์ฟ เขาไม่ใช่คนเลว แต่กลับมีความเข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง เป็นคนที่มีบุคลิกทะเล้น เจ้าชู้ อ่อนโยน เศร้า และอบอุ่น รวมกัน เป็นตัวละครที่น่าสนใจคนหนึ่ง เป็นแบบอย่างของคนที่มีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ ที่มนุษย์เราควรจะเป็น ท่ามกลางบุคลิกผู้ใหญ่ของตัวละครอื่นๆ ที่มีความบกพร่องปะปนอยู่
อีวานเกเลียน จับเนื้อหาทั้งเรื่องศาสนา ปรัชญา นิยายวิทยาศาสตร์ ปัญหาครอบครัว จิตวิทยา มาหลอมรวมกันเป็นเรื่องเดียว จึงทำให้ได้ผลงานที่มีการนำเสนอออกมาอย่างน่าสนใจ ที่จริงแล้วเรื่องนี้มีเนื้อหาวิทยาศาสตร์ เป็นส่วนประกอบเท่านั้น แต่ต้องการกล่าวถึงเรื่องจิตใจของมนุษย์เป็นหลัก หลายๆ ส่วนของโครงเรื่องได้หยิบยกเนื้อหา และสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ปรากฏในพระคัมภีร์ทางศาสนา มาประกอบ เช่น
ดวงตา (ของหุ่นอีวาซีรีย์ ปรากฏในม้วนสุดท้าย ม้วนที่ 15) หมายถึงความรู้แจ้ง ความสว่าง [ อยู่หลังใต้ปีกอีวาซีรีย์ - HotAHA!com ]
ตาเจ็ดดวง (ที่ปรากฏอยู่บนหน้ากากที่สวมอยู่บนใบหน้าของลิลิธ ที่ถูกตรึงอยู่ใต้องค์การเนิร์ฟ ซึ่งถูกเข้าใจว่าคือ อดัม) หมายถึงความลึกลับและงานของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงเปิดเผย, หมายถึงศาสนจักรทั้งเจ็ดบนโลก เรื่องที่ซ่อนอยู่ในโครงการของพระองค์เกี่ยวกับแผ่นดินโลกนี้ในระหว่าง เจ็ดพันปีที่เหตุการณ์ดำเนินไป ตาดวงแรกคือพันปีแรก ดวงที่สองคือพันปีที่ 2 และต่อๆ ไปจนถึงดวงที่เจ็ด (วิวรณ์ 1-3) (วิวรณ์ 6)
ต้นไม้แห่งชีวิต (หอกลองกินุสที่กลายสภาพ และภาพวาดต้นไม้แห่งชีวิตที่แทรกอยู่ตรงเพลงไตเติลของเรื่อง) และต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว (ต้นไม้ที่ให้ผลไม้แห่งปัญญา ซึ่งภายหลังอดัมและอีฟกินเข้าไป และมนุษย์ที่สืบทอดกันต่อมา ได้รับสืบทอดอำนาจของผลไม้ดังกล่าวเอาไว้ด้วย ซึ่งในเรื่องนี้วิญญาณและร่างกายของ อิคาริ ชินจิ เป็นตัวแทน) ตั้งอยู่กลางสวนอีเดน ถูกหล่อเลี้ยงด้วยแม่น้ำสี่สาย จากต้นน้ำเดียวกัน คือ ไพซัน (หรือปิโธน) โกฮอน (หรือกิโฮน) ฮิตเดเค็ล (หรือไทกริส) และยูเฟรติส (โมเสส 3:10-14) (ปฐมกาล 2:8-14)
วันพิพากษา (วิวรณ์ 20:4) พระเจ้าของเราทรงสัญญากับอัครสาวกผู้ปฏิบัติศาสนกิจของพระเจ้าในเยรูซาเล็มว่า เมื่อพระองค์เสด็จมาในรัศมีภาพ พวกเขาด้วยที่จะนั่งบนบัลลังก์สิบสองบัลลังก์เพื่อพิพากษาเผ่าสิบสองเผ่าของอิสลาเอล (วิวรณ์ 20:4, ลูกา 22:30) [ ซึ่งในเรื่องคณะกรรมการเซเล่ก็มี 12 คนเช่นกัน 00 - 11 จะปรากฏในตอนท้ายเรื่อง ]
ตามท้องเรื่องกล่าวถึง การค้นพบฟอสซิลที่มีชีวิตของมนุษย์คนแรกซึ่งถูกตั้งชื่อรหัสว่า อดัม ถูกแช่แข็งเอาไว้ที่ขั้วโลกใต้ ซึ่งได้ถูกนำมาโคลนนิ่งดัดแปลงออกมาเป็นหุ่น EVA-01 ตัวการทำให้เกิด Second Impact และต่อมาทุกคนจะถูกทำให้เข้าใจผิดคิดว่าหุ่น EVA-01 เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกโคลนนิ่งมาจาก รูปแบบชีวิต ตัวสีขาวที่มีชื่อรหัสว่าอดัมที่ถูกตรึงเอาไว้ บนแท่นกางเขนในส่วนของห้อง Terminal Dogma ใต้ที่ตั้งขององค์การเนิร์ฟ เช่นเดียวกับหุ่นอีวาตัวอื่นๆ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เช่นนั้น เพราะอดัมตัวจริงถูกผนึกเอาไว้ในมือของ ผบ.อิคาริ นั่นเอง ส่วนสิ่งมีชีวิตสีขาวนั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่อดัม หาก คือ "ลิลิธ" ภรรยาคนแรกของอดัมที่กล่าวไว้ตามคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเป็นต้นแบบในการโคลนนิ่งหุ่น EVA-00 EVA-02 EVA-03 EVA-04 EVA-05 EVA-Series, คาโอรุ, อายานามิ เรย์ รวมทั้งพวกเทวทูตที่องค์การเซเล่สร้างขึ้นอย่างลับๆ เพื่อส่งมาสร้างสถานการณ์การโจมตีของเทวทูต ให้มีข้ออ้างในการสร้างหุ่นอีวาขึ้นมาเพื่อที่พวกตนจะได้ดำเนินการตามแผน "พัฒนารูปแบบมนุษยชาติ" โดยรวมมนุษยชาติทั้งหมดให้เป็น "มนุษยดั้งเดิม" ที่มีร่างเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งมองได้ทั้งมุมมองทางนิยายวิทยาศาสตร์ที่ได้กล่าวถึงเอาไว้ในเรื่องว่า องค์การเซเล่มองว่ามนุษย์ปัจจุบัน ไม่มีความสามารถเพียงพอในการย้ายไปอยู่บนดาวดวงอื่น การจะทำเช่นนั้นได้จะต้องให้เกิดมีมนุษย์รูปแบบอื่นๆ ที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในอวกาศได้เท่านั้น แต่มุมมองทางจิตวิทยาก็คือองค์การเซเล่และเนิร์ฟ เป็นตัวแทนของมนุษย์ในปัจจุบัน ที่มีศักยภาพทางเทคโนโลยีเพียงพอที่จะจัดการสร้าง และดัดแปลงสิ่งมีชีวิตขึ้นตามใจชอบ นั่นคือความพยายามของมนุษย์ที่จะเล่นบทเป็นพระเจ้านั่นเอง แผนขององค์การเซเล่จะเกิดขึ้น เมื่อการณ์ต่างๆ ดำเนินไปตามที่ถูกกล่าวไว้ในพระคัมภีร์เท่านั้น ซึ่งเป็นเช่นนั้นต่อเมื่อมีการรวมตัวกันระหว่าง EVA-01 (ส่วนหนึ่งของอดัม) หอกลองกินุส (ตัวแทนของผลไม้แห่งชีวิต หรือแผนผังของวิวัฒนาการ) จิตและร่างกายของอิคาริ ชินจิ (ตัวแทนของผลไม้แห่งปัญญา) จนกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่มีศักยภาพเทียบเท่าพระเจ้า (ในเรื่องจะเห็นในตอนจบที่หอกลองกินุสเสียบเข้าไปในตัว EVA-01 จนกลายสภาพเป็นสิ่งที่มีดวงตามากมาย) กับอีกข้างหนึ่งก็คือการรวมกันระหว่าง อายานามี เรย์ กับลิลิธ และอดัม ที่ฝังอยู่ในมือของผู้การอิคาริ จนได้เป็นกายหยาบของมนุษย์ดั้งเดิม ซึ่งภายหลังจะรวมเข้าไว้ซึ่งวิญญาณของมนุษย์ทั้งโลกเอาไว้จนมีสภาพเป็นร่างรวมของมนุษย์ และที่สุดแล้วเมื่อทั้งหมดนี้รวมกัน มนุษย์จะกลายเป็นเอกสภาวะ ซึ่งมีชีวิตเป็นนิรันดร์ แต่ภายหลังชินจิเลือกที่จะแบ่งแยกมนุษย์ออกเป็นส่วนย่อยๆ อีกครั้งหนึ่ง ร่างรวมดังกล่าวจึงแตกดับไป อันที่จริงตัวเทวทูตชนิดต่างๆ นั้นคือทางเลือกต่างๆ ในการวิวัฒนาการของ "มนุษย์ในร่างดั้งเดิม" ในสมัยดึกดำบรรพ์ เพื่อเลือก รูปร่าง (form) ที่เหมาะสมในการอยู่อาศัยในดาวเคราะห์โลก ในฐานะของสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญา และตัวมนุษยชาติทั้งหมดเองก็คือ เทวทูตตนหนึ่งที่เลือกหนทางในการวิวัฒนาการแล้วนั่นเอง ดังนั้น คาโอรุ ที่มีจิตใจดีงาม ซึ่งเป็นเทวทูตตัวสุดท้าย [ แต่ไม่ท้ายสุด ] ที่เซเล่ส่งมาในรูปร่างแบบมนุษย์ธรรมดา จึงกล่าวแก่ชินจิว่าให้ฆ่าเขาเสีย เพราะ มนุษยชาติมีทางเลือกเพียงสองแบบเท่านั้น ว่าจะวิวัฒนาการเป็นมนุษย์ตามแบบของคาโอรุ หรือมนุษย์ตามแบบของมนุษย์ปัจจุบัน หากคาโอรุเป็นผู้ที่จะต้องอยู่ต่อไปแล้ว มนุษย์เราซึ่งเป็นพวกเดียวกับชินจิ พระเอกของเรื่อง จะต้องตาย
อีวานเกเลี่ยน เสนอว่ามนุษย์แต่ละคนนั้นมีความอ่อนแออยู่ในตัว จากปมต่างๆ ที่เราแต่ละคนสะสมมาจากสิ่งที่ได้พานพบมาทั้งชีวิต และแต่ละคนก็มีวิธีเลือกจัดการกับปมในจิตใจต่างกัน ทั้งพยายามหาความหมายการมีอยู่ของตนเอง ในฐานะปัจเจกและการพยายามทำความรู้จัก กับอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ที่ตนเองไม่เคยเข้าใจ (อายานามิ เรย์) การพยายามยอมทำตามสิ่งที่สังคมต้องการ โดยไม่ปริปากบ่นเพื่อให้คนหันมาสนใจตนเอง (ชินจิ) การแสดงความก้าวร้าว แสดงความสามารถที่โดดเด่น และภาวะเป็นผู้นำออกมาสู่คนที่อยู่รอบตัว เพื่อปกปิดความอ่อนแอของตนเอง (อาซึกะ) การทำตนเองให้จมอยู่กับงาน (ดร. ริซึโกะ) หรือการแสดงความร่าเริง เฉียบขาด และเอาใจใส่ในการงานเพื่อให้ลืมความตายของพ่อ และการจากไปของคนรัก (มิซาโตะ) และของตัวละครอื่นๆ อีกมาก พฤติกรรมเหล่านี้ทำเพื่อมิให้คนอื่นๆ เข้ามาล่วงรู้ ความอ่อนแอที่ตนเองต้องการปกปิด จึงเปรียบเสมือนว่า มนุษย์แต่ละคนได้สร้างกำแพงแห่งจิตใจขึ้นมาป้องกันคนอื่นๆ ออกไปจากอาณาเขตอันศักดิ์สิทธิ์ส่วนตัวของตนเอง ในโครงเรื่องได้มีการใช้ สนามพลังเอที (Absolute Terror Field : AT Field) เป็นทั้งอาวุธสนามพลังป้องกันตัวของหุ่น EVA และเทวทูต และเป็นทั้งความหมายในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งหมายถึงกำแพงแห่งจิตใจดังกล่าวด้วย จริงๆ แล้ว ลึกๆ ในใจเราทุกคนจะมีความเหงา และโดดเดี่ยวอยู่ ทุกคนต้องการทำลายกำแพงแห่งจิตใจดังกล่าวแต่ทำไม่ได้ เพราะกลัวการรวมจิตใจเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ผู้อื่น ตามเรื่องแล้ว เทวทูตต้องการที่จะรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องโดดเดี่ยว ดังเทวทูตตัวหนึ่งได้เคยตั้งคำถามกับ เรย์ โดยใช้การสื่อสารทางจิตโดยตรงว่า เธอไม่เหงาหรือ "ไม่ต้องการมารวมเป็นหนึ่งเดียวกับฉันหรือ" ซึ่งวลีทำนองนี้ มีปรากฏอยู่ตลอดเรื่อง เรื่องยังได้วิเคราะห์พฤติกรรมของมนุษย์ตั้งแต่ การคบเพื่อน การมีครอบครัว การมีความรักทั้งในเชิงของ ความรักในครอบครัว ความรักอย่างชื่นชม ความรักอย่างชู้สาว การร่วมเพศ การเข้าสังคม และความต้องการการยอมรับจากสังคม ให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ว่าเป็นสิ่งที่เกิดจากความต้องการร่วมของมวลมนุษย์ที่จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งทางกายภาพ บุคลิก จิตใจ ปัจเจกภาพ และวิญญาณ และเสนอว่าการต่อสู้ สงคราม และภาพของการทำลายล้างต่างๆ นั้น ลึกๆ แล้วเป็นเพราะความต้องการของมนุษย์ที่จะทำลายกำแพงที่แบ่งแยกตนเองออกจากผู้อื่นต่างหาก
เรื่องยังได้เน้นความสำคัญของปัจเจกอีกว่า สิ่งที่เป็นร่างกายของมนุษย์จะไร้ความหมายหากไร้ซึ่งวิญญาณ ตัวหุ่นอีวาก็เช่นเดียวกัน เปรียบเสมือนภาชนะที่ว่างเปล่า แต่จะเคลื่อนไหวได้เมื่อมีวิญญาณของนักบิน ใส่เข้าไปในตัวหุ่น หรือส่งสัญญาณควบคุมหุ่นจากระยะไกลเท่านั้น ห้องนักบินที่มีชื่อเรียกว่า เอนทรีพลั๊ก (Entry Plug) หรือระบบควบคุมระยะไกลโดยใช้การส่งสัญญาณจากคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาพื้นฐานมาจากบุคลิกของอายานามิ เรย์ ที่เรียกว่า ดัมมีพลั๊ก (Dummy Plug System) นั้นก็เป็นสัญลักษณ์แทน "บัลลังก์แห่งวิญญาณ" ที่ใช้ในเรื่องนี้
การ์ตูนเรื่องนี้ยังได้เสนอมุมมองของอารยธรรมเมืองที่เป็นภาพลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง ปลอดภัยและมั่นคงเอาไว้อย่างน่าสนใจด้วยว่า ที่จริงแล้วนอกจากจะสร้างกำแพงแห่งจิตใจเอาไว้ปกป้องจิตใจของตนเองจากการล่วงล้ำของมนุษย์ผู้อื่นแล้ว มนุษย์เราสร้างเมืองเพื่อปกป้องความอ่อนแอของตนเองต่างหาก เพื่อปกป้องตนเองและแยกตนเองออกจากธรรมชาติอีกด้วย ดัง เนโอโตเกียวที่สาม ซึ่งเป็น "เมืองแห่งป้อมปราการ" สำหรับป้องกันการโจมตีจากภายนอก ดังฉากหนึ่งที่อายานามิ เรย์ ทอดสายตามองเมือง และกล่าวว่า "มนุษย์กลัวความมืด จึงใช้ไฟ มนุษย์จึงมีชีวิตอยู่โดยตัดความมืดทิ้งไป"
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น