Dragon1 - Dragon1 นิยาย Dragon1 : Dek-D.com - Writer

    Dragon1

    คำอธิบายเกี่ยวกับเพื่อนขนปุยที่พ่นไฟได้พันธุ์ต่างๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    377

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    377

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ต.ค. 49 / 11:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

            มังกร (Dragon) มังกรเป็นสัตว์ที่ปรากฏในตำนานของเกือบทุกชาติในโลก ในตำนานยุโรป  มังกรเป็นสัตว์ที่ดุร้ายและเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายที่ต้องทำการปราบโดยอัศวินหรือวีรบุรุษในตำนาน  ในขณะที่คนเอเชียมองมังกรในเชิงเคารพบูชา เพราะ พวกเขาถือว่ามังกรเป็นสัญลักษณ์ของความสูงส่ง และความอุดมสมบูรณ์
             มังกรตัวเมียส่วนมากจะมีขนาดใหญ่กว่าและดุร้ายกว่าตัวผู้  แต่ไม่ว่าจะเป็นมังกรเพศไหนก็ไม่ควรเข้าใกล้ด้วยกันทั้งนั้น หนัง เลือด หัวใจ ตับ และเขาของมังกร ล้วนมีคุณสมบัติทางเวทมนตร์สูง
            มังกรมีอยู่ 10 สายพันธุ์  แต่บางครั้งก็มีการผสมข้ามพันธุ์  ซึ่งทำให้เกิดสายพันธุ์ที่หายากขึ้นมาได้  มังกรสายพันธุ์แท้มีดังต่อไปนี้

        
      1. พันธุ์จีนลูกไฟ (Chinese Fireball) มังกรพันธุ์จีนลูกไฟ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ มังกรพันธุ์สิงโต  มังกรนี้พันธุ์นี้เป็นมังกรเอเชียเพียงพันธุ์เดียว  และมีรูปร่างที่แปลกแตกต่างจากพันธุ์อื่น  มันมีเกล็ดเรียบสีม่วงรอบใบหน้าที่สั้นและย่น  มีระบายครีบสีทองล้อมประดับดวงตาโปนโต เปลวไฟรูปร่างคล้ายดอกเห็ดที่มันพ่นออกมาในยามโกรธ  ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ พันธุ์จีนลูกไฟ น้ำหนักอยู่ระหว่าง 2-4  ตัน  ตัวเมียจะใหญ่กว่าตัวผู้ ไข่เป็นสีทับทิมสดมีจุดสีทอง  เปลือกไข่มีค่ามาก เพราะนำไปใช้ประกอบเวทมนตร์แบบจีนได้  พันธุ์จีนลูกไฟมีนิสัยดุร้าย  แต่มีความอดทนต่อสายพันธุ์เดียวกันสูงกว่ามังกรส่วนใหญ่ บางครั้ง พวก

       มันถึงกับยอมให้ใช้อาณาเขตร่วมกับตัวอื่นถึงสองตัว  พันธุ์จีนลูกไฟกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นอาหาร  แม้ว่ามันจะชอบกินหมูและมนุษย์มากกว่าก็ตาม

         2. พันธุ์นอร์เวย์หลังเป็นสัน (Norwegian Ridgeback)  มังกรพันธุ์นอร์เวย์หลังเป็นสันมีความคล้ายคลึงกับมังกรพันธุ์ฮังการีหางหนามในหลายๆด้าน แต่แทนที่จะมีหนามแหลมที่หาง  มันกลับมีสันสีดำสนิทที่ยื่นออกมาจากหลังแทน  พันธุ์หลังเป็นสันจะดุร้ายกับพันธุ์เดียวกันเป็นพิเศษ ทุกวันนี้ มันจัดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์มังกรที่หายากขึ้นทุกที  มันเคยโจมตีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่บนดินมาแล้วแทบทุกชนิด  และที่ต่างจากมังกรทั่วไปคือ มันกินสิ่งมีชีวิตในน้ำด้วย  รายงานที่ปราศจากหลักฐานระบุว่ามังกรพันธุ์นี้เคยโฉบเอาลูกปลาวาฬไปจากชายหาดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์เมื่อปี  ค.ศ. 1802 ไข่ของพันธุ์นอร์เวย์หลังเป็นสันมีสีดำ  และตัวอ่อนจะพัฒนาความสามารถในการพ่นไฟได้เร็วกว่าพันธุ์อื่น  (ระหว่างหนึ่งถึงสามเดือนเท่านั้น)

          3. พันธุ์เปรูเวียน ไวเปอร์ทูท (Peruvain Vipertooth) มังกรพันธุ์เปรูเวียน ไวเปอร์ทูทหรือเปรูเขี้ยวพิษ  เป็นมังกรพันธุ์เล็กที่สุดและบินได้เร็วที่สุด ความยาวอยู่ราวๆ  สิบห้าฟุต เกล็ดเรียบสีทองแดง และมีสันสีดำ เขาสั้น เขี้ยวมีพิษร้ายแรง  พันธุ์เขี้ยวพิษโปรดปรานแพะและวัว แต่ก็ชื่นชอบรสเนื้อมนุษย์ด้วย  จนสมาพันธ์พ่อมดนานาชาติ

       จำเป็นต้องส่งผู้ควบคุมไปลดปริมาณของพันธุ์เขี้ยวพิษเมื่อปลาศตวรรษที่ 19 ก่อนหน้านั้น  ปริมาณของมังกรพันธุ์นี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ

        4. พันธุ์ยูเครเนียน ไอรอนเบลลี (Ukrainian Ironbelly)

      มังกรพันธุ์ยูเครเนียน ไอรอนเบลลีหรือยูเครนกระเพาะเหล็ก  เป็นมังกรพันธุ์ใหญ่ที่สุด น้ำหนักมากที่สุดถึง 6 ตัน ตัวกลมป้อม  บินได้ช้ากว่าพันธุ์เขี้ยวพิษและพันธุ์โรมาเนียเขายาว [สงสัยหนักน้ำหนักตัวเอง]
            อย่างไรก็ตาม  พันธุ์กระเพาะเหล็กมีอันตรายมาก  มันสามารถทำลายบ้านเรือนให้ราบเป็นหน้ากลองได้ มันมีเกล็ดสีเทาเป็นมัน  ตามสีแดงเข้ม กรงเล็บยาวและแหลมคมมาก  มังกรพันธุ์กระเพาะเหล็กถูกเจ้าหน้าที่พ่อมดยูเครนจับตามดูอย่างใกล้ชิด  นับตั้งแต่มีตัวหนึ่งโฉบไปหิ้วเรือใบ แต่โชคดีที่เรือใบลำนั้นว่างเปล่า  จากทะเลดำเมื่อปี ค.ศ. 1799

         5. พันธุ์โรมาเนียน ลองฮอร์น (Romanian Longhorn)

       มังกรพันธุ์โรมาเนียน ลองฮอร์นหรือ  โรมาเนียเขายาว มีเกล็ดสีเขียวดำ เขาสีทองเป็นประกาย  ซึ่งมันจะใช้เสียบเหยื่อย่างไฟ เขาของมันเมื่อเอาไปป่นเป็นผงแล้วมีค่ามาก ใช้เป็นเครื่องปรุงยาได้  ปัจจุบันนี้ดินแดนแหล่งกำเนิดของพันธุ์โรมาเนียเขายาวได้กลายเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์มังกรที่สำคัญที่สุดในโลก  ซึ่งพ่อมดทุกสัญชาติได้ศึกษามังกรพันธุ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด  พันธุ์เขายาวถูกจัดอยู่ในโครงการเพาะพันธุ์

       เร่งด่วนด้วย  เนื่องจากจำนวนของมันลดต่ำลงมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา  ส่วนใหญ่เป็นเพราะการซื้อขายเขาของมันนั่นเอง

         6. พันธุ์เวลล์สีเขียวธรรมดา (Common Welsh Green) มังกรพันธุ์เวลล์สีเขียวธรรมดานั้น  มีสีกลมกลืนกับหญ้าสีเขียวสดที่บ้านเกิดของมันเป็นอย่างดี  มันมักจะทำรังอยู่บนภูเขาสูง  ซึ่งกำหนดไว้เป็นเขตอนุรักษ์เพื่อให้มันอยู่อาศัย  สายพันธุ์นี้จัดอยู่ในประเภทที่สร้างปัญหาน้อยที่สุด  มันชอบกินแกะเป็นอาหาร และจะหลีกเลี่ยงจากมนุษย์ ยกเว้นเมื่อถูกรบกวน  พันธุ์เวลล์สีเขียวมีเสียงคำรามที่สูงๆต่ำๆ  เหมือนดนตรีอย่างน่าประหลาด และเป็นเสียงที่จดจำได้ง่าย  มันจะพ่นไฟเป็นลำบางๆ ไข่มีสีน้ำตาลหม่นๆ มีจุดสีเขีย

        7. พันธุ์สวีเดนจมูกสั้น (Swedish Short-Snout) มังกรพันธุ์สวีเดนจมูกสั้น เป็นมังกรสีฟ้าเหลือบเงินแสนสวย คนมักเอาหนังของมันมาทำถุงมือและโล่  เปลวไฟที่พ่นออกมาเป็นสีฟ้าใส  ซึ่งเผาผลาญไม้และกระดูกเป็นเถ้าถ่านได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที  พันธุ์จมูกสั้นฆ่ามนุษย์น้อยกว่ามังกรส่วนใหญ่  มันมักอาศัยอยู่ตามป่าและบริเวณภูเขาที่ไม่มีคนอาศัยอยู่  จึงไม่มีวีรกรรมมากนัก
      8. พันธุ์แอนติโพเดี้ยน โอเพิอาย (Antipodean Opaleye)

      มังกรพันธุ์แอนติโพเดี้ยน โอเพิลอายหรือ  แอนติโพเดี้ยนตาสีรุ้ง มีถิ่นกำเนิดในนิวซีแลนด์  แต่ต่อมาอพยพไปอยู่ออสเตรเลีย  เนื่องจากที่อยู่

       อาศัยในบ้านเกิดเริ่มมีจำกัด  มันมักอาศัยอยู่ในหุบเขามากกว่าตามภูเขา ซึ่งแตกต่างจากมังกรทั่วไป  มังกรประเภทนี้มีขนาดกลาง มีน้ำหนักระหว่าง 2-3 ตัน  มังกรตาสีรุ้งอาจเป็นมังกรพันธุ์ที่สวยงามที่สุดก็เป็นได้  มีเกล็ดมันวาวสีเหลือบรุ้ง และมีดวงตาหลากสีส่องประกายปราศจากม่านตา  ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ มังกรพันธุ์นี้จะพ่นไฟสีม่วงเจิดจ้า  ตามมาตรฐานมังกรถือว่าไม่ดุร้ายมากนัก ส่วนมากถ้าไม่หิวก็จะไม่ฆ่า  อาหารโปรดของมันคือแกะ แต่ก็เคยล่าเหยื่อที่ใหญ่กว่านั้น  การฆ่าจิงโจ้ครั้งใหญ่ตอนปลายทศวรรษที่ 1970 เป็นฝีมือของพันธุ์ตาสีรุ้งตัวผู้ที่ถูกตัวเมียซึ่งมีอิทธิพลมากกว่าไล่ออกจากบ้าน  ไข่ของมันสีเทาซีด และมักเกิ้ลที่ไม่รู้เรื่องราวมักเข้าใจผิดว่าเป็นฟอสซิล

          9. พันธุ์ฮังการีหางหนาม (Hungarian Horntail)

       มังกรพันธุ์ฮังการีหางหนาม  คาดว่าดุร้ายที่สุดในบรรดามังกรทุกสายพันธุ์ [รับรองโดยแฮร์รี่ พอตเตอร์]  พันธุ์ฮังการีหางหนามมีเกล็ดสีดำ  มีรูปร่างคล้ายกิ้งก่า ตาสีเหลือง เขาสีบรอนซ์  และตลอดหางอันยาวเหยียดของมันก็ทีหนามแหลมสีบรอนซ์เช่นเดียวกัน  พันธุ์หางหนามพ่นไฟได้ไกลที่สุดถึงสิบห้าฟุต  มีไข่สีเทาเหมือนซีเมนต์และเปลือกแข็งมาก  ตัวอ่อนจะเจาะเปลือกออกมาโดยใช้หาง ซึ่งมีหนาม

      แหลมติดตัวมาตั้งแต่เกิด  พันธุ์หางหนามกินแพะ แกะ และถ้าเป็นไปได้ก็จะกินมนุษย์เป็นอาหาร

       10. พันธุ์เฮบริเดียนสีดำ (Hebidean Black)  มังกรพันธุ์เฮบริเดียนสีดำ  เป็นมังกรพันธุ์ท้องถิ่นของอังกฤษอีกสายพันธุ์หนึ่งซึ่งดุร้ายกว่าพันธุ์เวลล์สีเขียวเพื่อนร่วมถิ่นมาก  พันธุ์เฮบริเดียนสีดำใช้พื้นที่อยู่อาศัยถึงหนึ่งร้อยตารางไมล์ต่อหนึ่งตัว  ลำตัวยาวได้ถึงสามสิบฟุต เกล็ดไม่เรียบ ตาสีม่วงสุกใส และมีสันเตี้ยๆ  แต่คมกริบเรียงเป็นแถวตลอดแนวหลัง ปลายหางมีหนามใหญ่ลักษณะเหมือนลูกศร  และมีปีกเหมือนค้างคาว พันธุ์เฮบริเดียนสีดำกินกวางเป็นอาหาร  แต่ก็เคยบินโฉบเอาสุนัขตัวใหญ่หรือแม้แต่แม่วัวไปกิน ตระกูลพ่อมดแมกฟัสตี้ที่มีถิ่นพำนักอยู่ในแถบเฮบริดีซมานับศตวรรษรับหน้าที่ดูแล ควบคุมมังกรประจำถิ่นพันธุ์นี้เรื่อยมาจนเป็นประเพณี

       From-www.potterstoryweb.com

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×