ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( sf exo ) music is my life. ( all baekhyun )

    ลำดับตอนที่ #6 : ( s f ) どうして君を好きになってしまったんだろう( c h a n b a e k ) - e n d -

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 56






     

     








     

     

    ..どうして君を好きになってしまったんだろう?

    ..どんなに時が流れても君はずっとに..

    ..ここにいると思ってたの..

    ..でも君が選んだのは違う道..

     

    ..เพราะเหตุใดสุดท้ายผมก็ต้องตกหลุมรักคุณ?

    ..ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด..

    ..ผมก็ยังเอาแต่คิดว่าคุณยังอยู่ตรงนี้..

    ..แต่ในความเป็นจริงคุณได้เลือกทางเดินที่แตกต่างไปแล้ว..

     

     








     

     

     

     

     

     

                สายลมเอื่อยๆ พัดผ่านหน้าผมเรื่อยๆ พร้อมกับความรู้สึกเย็นเฉียบในอุณหภูมิสิบองศา ทำให้ผมต้องกระชับเสื้อโค้ทให้แน่นยิ่งกว่าเดิม สายตาของผมทอดยาวมองไปยังแม่น้ำที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย หัวสมองปิดกั้นสิ่งต่างๆ ที่ต้องคิดในตอนนี้เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานอย่างหนักในทุกๆ วัน..

                นี่เป็นโอกาสที่มีไม่บ่อยนักที่ผมจะได้มายืนคิดอะไรเงียบๆ คนเดียวแบบนี้ ยิ่งในสถานที่สำคัญของผม..ณ ที่แห่งนี้ด้วยแล้วล่ะก็..

     

                “ขอรบกวนนายสักพักได้มั้ย?”

     

                เสียงทุ้มติดหวานหน่อยๆ เอ่ยขึ้นเรียกให้สายตาของผมหันไปมอง..ก็พบกับผู้ชายร่างบางที่ตัวเล็กกว่าผมมากกำลังยิ้มเหนื่อยๆ มาให้ผม ดวงหน้าหวานที่แสนคุ้นเคยดูซูบผอมลงไปมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน..

                “ได้สิ..แล้วงานราบรื่นดีมั้ย?” ผมตกใจนิดหน่อยที่เจออีกคนที่นี่..เพราะมันก็นานมากแล้วที่เราไม่ได้พบกัน..โดยเฉพาะกับที่แห่งนี้..

                “อืม..” ร่างบางครางในลำคอตอบ แต่กลับเอาแต่มองพื้นไม่ยอมมองหน้าผม ผมยิ้มฝืดๆ ก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง

                “..”

                “..”

                ความเงียบค่อยๆ เริ่มปกคลุมผม กับคนตัวเล็กทีละน้อยๆ จนกระทั่งผมเป็นฝ่ายทนความอึดอัดนี่ไม่ไหวจนต้องเปิดปากพูดออกมา ..แม้จะไม่รู้ว่าอีกคนจะมีท่าทีเช่นไรก็ตาม

     

                “นี่มันก็นานแล้วนะ..ที่เราไม่ได้มายืนคุยกันอย่างนี้..ที่นี่..”

     

                ผมเน้นย้ำคำว่า ที่นี่พลางลอบมองปฏิกิริยาของคนข้างตัวเล็กน้อยว่าจะมีท่าทีอย่างไร..และใช่..ร่างบางสะดุ้งก่อนจะหลุบตาลงต่ำกว่าเดิม..

                “ใช่..นานมากเลย..นานจนแทบจะจำได้ขึ้นใจ..” คนตัวเล็กเอ่ยประโยคหลังอย่างแผ่วเบา แต่ผมกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน ..ความทรงจำที่พวกเราสองคนเคยร่วมสร้างกันมา อีกคนยังคงจำมันได้ดี..

                “ฉันก็เหมือนกัน..แล้ว..นายมีอะไรหรือเปล่า?..ถึงได้มาที่นี่..” ผมถามอีกคน แต่ดูเหมือนว่าผมคงพูดจี้จุดให้อีกคนกังวล จนร่างบางสั่นน้อยๆ ผมมองดูด้วยความตกใจแต่ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม..ได้แค่เฝ้ามอง..

               

    “นายมีอะไรที่ไม่สบายใจก็บอกฉันได้เสมอนะ..แพคอยอน..”

     

    คราวนี้ดวงหน้าหวานยอมเงยขึ้นมาสบตากับผม แต่ผมก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้งเมื่อเห้นหน่วยน้ำที่คลออยู่นัยน์ตาสีสวยที่ผมหลงใหลนั่น..แต่ไม่ทันที่ผมจะได้เข้าไปกอดปลอบอีกฝ่าย ผมกลับต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินประโยคที่คล้ายกับหอกแหลมคมที่พุ่งเข้ามาปริตชีวิตผมภายในเสี้ยววินาที..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “..ฉันกำลังจะแต่งงาน..”




     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงดนตรีบรรเลงเพลงงานแต่งงานดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นของเหล่าแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญมาในงานแต่งงานครั้งนี้ โบสถ์สีขาวถูกตกแต่งด้วยผ้าหลากสี ลูกโปงหลากสีสรรค์ รวมไปถึงซุ้มดอกไม้ขนาดย่อมที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ของทางเดินที่ปูไว้ด้วยพรมสีแดงสุดหรู ทำให้บรรยากาศในงานดูคึกคักยิ่งขึ้น

     

    หากแต่อารมณ์ของผมในตอนนี้..มันคงคึกคักไม่ออก..

     

    “ฉันไม่คิดว่านายจะมาที่นี่นะ..” เสียงทุ้มติดไม่พอใจหน่อยๆ ดังขึ้นข้างหลังผม ร่างกายที่เหมือนก่อนใครๆ ก็ชมว่าเพอร์เฟ็กนักหนา..ในตอนนี้กลับยิ่งเพอร์เฟ็กมากขึ้นไปอีก เมื่อถูกสวมทับด้วยชุดสูทสีเทาอ่อน..

     

     

    มันคงจะดี..ถ้าเขาชื่นชมอีกคนได้มากกว่านี้..

     

     

     

     

    ..ถ้าหากคนคนนี้ไม่ใช่คนที่พรากคนที่เขารักไป..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “..ไม่ได้เจอกันนานนะ..”

    “..”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “..คริส..”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     "นั่นสินะ.. นายสบายดีนะ ชานยอล?" ร่างสูงกระตุกยิ้มที่มุมปากคล้ายเยาะย้าย ในสายตาของคนอื่นอาจะมองว่ามันเพอร์เฟ็ก และดูดีมากมายแค่ไหน..


     

     แต่สำหรับ ปาร์ค ชานยอล คนนี้..


     

     รอยยิ้มนั่นก็แค่รอยยิ้มเยาะเย้ยของคนร้ายกาจก็เท่านั้น



     

     "ก็อย่างที่นายเห็นนั่นแหละคริส และที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่ออวยพรให้นายและแพคฮยอนก็เท่านั้น" ชานยอลยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แต่ทว่าในใจเขานั้นกลับถูกไฟสุมจนแทบจะมอดไหม้ตายทั้งเป็น


     

     "หึ.. ฉันหวังว่านายจะทำอย่างที่นายพูดเอาไว้" คริสทำท่าจะเดินไปต้อนรับแขกท่านอื่นๆ แต่ก็มิวายหันมาตอกย้ำประโยคให้ปาร์คชานยอลคนนี้ได้เจ็บใจเล่น


     

     "..แล้วฉันก็หวังว่านายจะจากแพคฮยอนไปด้วยดี อ้อ.. อย่าคิดจะมาพังงานของเราล่ะ"




     

    หึ.. งานของ 'เรา' งั้นเหรอ..












     

    จะด่าว่าปาร์ค ชานยอลก็ได้ ที่ยังคงยืนเป็นไอ้โง่อยู่ในงานแต่งงานด้วยท่าทางเงียบขรึม ในขณะที่หัวใจของเขาถูกเหล็กร้อนหลายต่อหลานแท่งทิ่มแทงใจอย่างไม่มีวันหยุด..  ทั้งๆ ที่สมองสั่งไม่รู้ต่อครั้งต่อกี่ครั้งว่าถ้าไม่อยากเจ็บ ก็จงถอยออกมาเสีย..



            เขาไม่อยากทนเห็นภาพที่คนสองคนสวมแหวนให้กัน ภาพที่พวกเขาปฏิญาณรักต่อกัน และในตอนนี้.. เขาไม่อยากทนเห็นจุมพิตที่คนทั้งคู่มอบให้กันด้วยความรักใคร่อย่างสุดซึ้ง.. 



     

     แล้วยังไงล่ะ.. ถึงมันจะเจ็บแทบตายขนาดไหน



     

    ปาร์ค ชานยอลก็ยอมให้ความรู้สึกทรมานจนแทบบ้านั่นตรงเข้าเกาะกุมหัวใจด้วยความเจ็บปวด.. ราวกลับเขาเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะหวังจากตัวแพคฮยอนอีก..




             แต่ปาร์ค ชานยอลคนนี้ก็ยังคงหวัง.. หวังเพียงแค่แพคฮยอนหันมามองที่เขาด้วยรอยยิ้มที่สดใสดั่งพระอาทิตย์ในยามเช้าสักนิด.. แม้จะแค่ชายตามองมาที่เขา แต่เพียงแค่นั้น เขาสาบานได้เลยว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยแพคฮยอนไปไหนอีก ไม่มีวันทอดทิ้ง และจะไม่มีวันให้ใครได้ดูแลปกป้องแพคฮยอนไปตลอดชีวิต ..เพราะคนที่จะทำอย่างนั้นได้มีเพียงเขาเท่านั้น





             แต่ถึงอย่างนั้น.. ความหวังของเขาก็แค่ฝันกลางวันลมๆ แล้งๆ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของแขกทั้งหลายต่อคู่แต่งงาน เสียงเปียโนเพลงแต่งงานค่อยๆ ดังขึ้น เมื่อคนทั้งคู่ผละจุมพิตออกจากกัน..










             สิ้นสุดแล้ว.. ความหวังของปาร์คชานยอล..















             ร่างสูงของปาร์ค ชานยอลเลือกที่จะหันหลังให้กับคนที่เขารัก.. ไม่สิ ต่อจากนี้ไปมันจะเป็นเพียงแค่ 'อดีต' เท่านั้น..




             ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดมากแค่ไหนในการลืมเรื่องของแพคฮยอน และถึงแม้จะใช้เวลานานแค่ไหนในการลืมฝันร้ายทั้งหมดที่ผ่านมา.. เขาก็จะพยายาม.. พยายามเพื่อแพคฮยอน และที่สำคัญที่สุด..







             "ลาก่อน.. แพคฮยอน"












             ..เพื่อตัวของเขาเอง





















    ..





























     

    ต้องขอบอกว่าถ้าไม่มีอะไรมากระตุ้น
    ไรท์ก็คงไม่ได้เข้ามาอัพอีกนาน.. แต่เผอิญว่ามีปัญหากับลีดบางคน
    เลยต้องเข้ามาอัพให้มันจบๆ ไปเป็นเรื่องๆ
    ถ้าไม่สนุกก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ
    เพราะเราก็ห่างหายจากการเขียนฟิคมานานมาก
    เลยทำให้เนื้อเรื่องที่ปูออกมาตั้งแต่แรกบิดเบี้ยวไป
    ยังไงก็ต้องขอโทษสำหรับการรอคอยด้วยนะคะ

    ขอโทษและขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ (:

    สำหรับคนที่มีปัญหากับไรท์
    สามารถเคลียร์หลังไมค์ได้ค่ะ (;


     

     
    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×