คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ( s f ) w e d d i n g d r e s s ( k r i s x b a e k x j e s s i c a ) - e n d -
Some say it’s not over ‘till it’s over . .
But I guess this is really over now . .
There’s something I gotta say . . before I let you go . .
. . Listen . .
วันนี้เป็นวันที่ผมไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่าข้างกายผมอีกครั้ง.. แม้ความว่างเปล่าที่ต้องพบเจอทุกครั้งที่ลืมตาจะอยู่กับผมมานานข้ามปี..
แต่ผมก็ยังคงรู้สึกเหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อวาน..
ถึงแม้ไม่อยากทำสิ่งที่เป็นการทรมาณผมมากเสียเท่าไร.. แต่ผมกลับต้องจำใจทำมัน.. แม้ในทุกวันนี้ข้างกายของผมจะมีเพียงความว่างเปล่าก็ตาม..
ผมเลือกที่จะลืมตาตื่นขึ้นพบกับเช้าอันมืดมน.. แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ หรือแม้แต่สายลมพัดเอื่อยก็ไม่ได้ทำให้หัวใจของผมเบิกบานเลยสักนิด..
ผมลุกขึ้นจากเตียงขนาดคิงส์ไซส์สีขาวเดินเข้าไปทำธุระในห้องน้ำไม่กี่นาที โดยไม่ลืมแปรงฟันให้เรียบร้อย ผมล้างหน้าอย่างเอื่อยๆ พลางจ้องเข้าไปในกระจกบานใหญ่ตรงหน้า..
สิ่งที่ผมพบภายในกระจกบานนั้น..
มีเพียง ‘ความว่างเปล่า’ ..
ตัวผมในตอนนี้มันเหมือนกับร่างกายไร้วิญญาณ.. ไม่มีแม้กระทั่งกระจิตกระใจอยากที่จะทำอะไร ..คล้ายคนตายอดตายอยาก..
ผมเดินออกจากห้องน้ำ ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าสีดำสนิท ผมเปิดมันก่อนจะหยิบชุดศูทสีดำออกมา ผมเลื่อนสายตาไปมาที่ชั้นของเนคไท ก่อนจะตัดสินใจหยิบเนคไทสีดำที่ร่างบางของใครบางคนเคยซื้อให้เป็นของขวัญออกมา..
วันนี้เป็น ‘วันสำคัญ’ ของ ‘คนสำคัญ’ ของผม ..
ผมจัดการใส่ชุดสูทก่อนจะตามด้วยเนคไทสีดำ สายตาผมเลือบไปเห็นการ์ดบัตรเชิญสีขาวบริสุทธิ์ ก่อนที่เดินไปหยิบมันขึ้นมาดู ..
พยอน แพคฮยอน ♥ จอง ซูยอน . .
ผมรู้สึกจุกที่คออย่างบอกไม่ถูก.. ทำไมความรู้สึกแบบนี้ต้องเข้ามาจู่โจมทุกทีที่ผมนึกถึงเรื่องของพวกเขาด้วยนะ..
ผมเลือกที่จะหยุดความรู้สึกนี้ด้วยการสะบัดหัวแรงๆ ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์ และสมาร์ทการ์ด ก่อนจะเดินออกจากห้องไป โดยทิ้งความรู้สึกเหล่านั้นไว้เบื้องหลัง..
ผมมองหน้าปัดนาฬิกาที่ตอนนี้หยุดอยู่ที่เลขสามบอกเวลาบ่ายสามโมงตรง.. ก่อนจะเลื่อนสายตามองที่โบสถ์หลังใหญ่ตรงหน้าอย่างสับสน..
นี่ผมกำลังสับสนเรื่องอะไรอยู่ ..
“คริส! ทางนี้เว้ย!” เสียงเข้มๆ ของร่างสูงที่น้อยกว่าผมไม่มากดังขึ้นเรียกให้ผมหันไปหา ก่อนที่จะฉีกยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“ไง..ชานยอล ไม่เจอกันนานนะ” คนที่ได้ฉายาว่า ‘เศรษฐีฟัน’ สมัยมัธยมเงยหน้ามองผมอย่างหงุดหงิด เรียกสายตางงๆ จากผมได้อย่างดี
อะไรของเขา..
“ไหงไอ้หมามันถึงแต่งงานกับยัยป้านั่นล่ะ -*-” ผมชะงักก่อนจะแสร้งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะมองมันอย่างขำๆ
“ไม่รู้สิ” ผมตอบมันสั้นๆ ก่อนจะหันมองหาใครอีกคน
“แล้วพวกนั้นไม่มาเหรอ ” ผมถามถึงพวกเพื่อนๆ สมัยมัธยม ก่อนที่ชานยอลจะเบะปากแล้วพยักเพยิดไปทางเข้าโบสถ์
“พวกมันไปหาไอ้หมาน่ะ ..ว่าแต่แกเหอะ ทำใจได้แล้ว ” ผมเสมองไปทางอื่น ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา ชานยอลส่ายหัวอย่างเอือมระอา ก่อนจะตบไหล่ผมเบาๆ อย่างให้กำลังใจ..
“แกต้องทำใจนะเว้ย..เรามาช้าไป” ผมมองหน้าชานยอลนิ่งๆ โดยไม่พูดอะไร มันยิ้มให้ผมน้อยๆ ก่อนจะขอตัวไปหาอะไรกิน โดยปล่อยให้ผมยืนอยู่ตรงนั้นเพื่อคิดอะไรบางอย่างคนเดียว..
เรามาช้าเกินไป..
ใช่.. ผมมาช้าเกินไป.. มาช้าก่อนคนคนนั้น..
ผมสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านก่อนจะเดินเข้าไปในโบสถ์ อีกไม่กี่นาทีก็จะเริ่มงาน แขกเรือมากมายเริ่มเข้ามานั่งภายในโบสถ์ ซุ้มดอกไม้หลากสีตั้งตามจุดต่างๆ อย่างสวยงาม และผ้าผืนสีต่างๆ ที่นำมาตกแต่งทำให้บรรยากาศภายในโบสถ์ดูคึกคักเป็นพิเศษ
“เจ้าบ่าวหล่อจังเลยอ่ะแก” เสียงของหญิงสาวผู้เป็นแขกเอ่ยกระซิบกับเพื่อนสาวของตน โดยไม่แคร์เลยว่าใครจะได้ยิน..
“นั่นสิ เจ้าสาวก็สวย เจ้าบ่าวก็หล่อ..เหมาะสมกันชะมัด”
เหมาะสมกันชะมัด..
เหมาะสมกันชะมัด..
เหมาะสมกันชะมัด..
ราวกับมีคนเปิดรีเทปให้ผมฟัง.. คำพูดประโยคนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวของผมซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ..ราวกลับมันกำลังย้ำเตือนความรู้สึกผิดหวังในใจของผมได้อย่างเด่นชัด
“คริส!” ผมหันไปตามต้นเสียง ก่อนจะเห็นร่างบางเจ้าสาวของงานเดินออกมาจากอีกทางด้วยชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ เธอยิ้มหวานให้ผม ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“ขอบคุณที่มางานนี้นะ ..แล้วเจอแพคฮยอนรึยัง ” เธอกล่าวขอบคุณก่อนจะหันหน้าไปมาราวกลับหาใครสักคนอยู่ ผมฝืนยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้า เธอยู่หน้าอย่างขัดใจก่อนจะเอ่ยขอตัว ผมพยักหน้าให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปทางเปียโนหลังใหญ่ที่อยู่หน้าแท่นศักดิ์สิทธิ์
ผมสูดหายใจไล่ความตื่นเต้นปนผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้เล่นเปียโน นิ้วยาวๆ ที่ใครบางคนเคยบ่นว่าเกะกะ..วางลงบนแป้นเปียโนอย่างเบาๆ พลันนาฬิกาดังขึ้นบอกเวลาเป็นอันได้ฤกษ์..
ผมค่อยๆ ลงนิ้วบนแป้นเปียโนเบาๆ เสียงของมันดังขึ้นเรื่อยๆ เป็นทำนองหวานซึ้ง ..แต่ทว่ายิ่งเสียงของมันดังขึ้นมากเท่าไร..
ก็เหมือนกลับว่าร่างกายของผมถูกดึงลงเหวลึกเร็วขึ้นเท่านั้น..
ร่างบางของเจ้าบ่าวในชุดทักซิโด้สีดำปรากฎกายขึ้นเรียกเสียงฮือฮาของแขกในงานเป็นอย่างดี..รวมทั้งตัวผมเองก็เช่นกัน
เขา.. ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย
นั่นชุดแต่งงานที่คุณสวมมันอยู่ . .
เหมือนว่าเขาจะรู้ถึงสายตาที่ผมจ้องมอง ร่างบางหันหน้ามามองผมก่อนจะแย้มยิ้ม หัวใจผมกระตุกวูบทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้น..
รอยยิ้มเมื่อหนึ่งปีก่อน..
ผมรู้สึกไม่ค่อยดี . . แต่เพียงคุณแย้มยิ้ม . .
ผมก็กลับมาดีเหมือนเดิม . .
ดวงหน้าติดหวานยิ่งกว่าผู้หญิงของเขาตรึงสายตาของผมไว้ได้เป็นอย่างดี.. ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ ผมจึงสะบัดหัวหนึ่งครั้งเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกก่อนจะหันกลับมาตั้งใจเล่นเปียโนเช่นเดิม..เมื่อ..
ภาพของผู้หญิงคนนั้นซ้อนทับเข้ามา..
จนบางครั้งผมหวังให้เธอไม่มีความสุข . .
“นั่นเจ้าสาวหนิ!!” เสียงของแขกคนหนึ่งในงานดังขึ้นก่อนที่ทุกสายตาจะหันไปมองร่างระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ที่เดินคล้องแขนผู้เป็นพ่อตรงมายังแท่นศักดิ์สิทธ์ที่มีเจ้าบ่าวยืนอยู่..
ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องจบแล้วจริงๆ ..สินะ
ไม่อยากให้วันนี้เกิดขึ้นเลยจริงๆ . .
สายตาของคนเป็นเจ้าบ่าวสั่นวูบทันทีที่ได้เห็นว่าที่เจ้าสาวของตน.. มันไม่ใช่ความรู้สึกดีใจ หรือตื้นตันใจ..
แต่กลับเป็นความรู้สึกแปลกประหลาดเสียมากกว่า..
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเสมองไปทางร่างสูงที่นั่งดีดเปียโนอยู่ไม่ไกลนักอย่างสับสน.. หัวใจกระตุกทันทีเมื่อได้เห็นความรู้สึกบางอย่างภายในดวงตาสีดำสนิท..
ความเสียใจ ..และความผิดหวัง
ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่มือบางกำเข้าหากันแน่น.. ความรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูกก่อตัวขึ้นช้าๆ ..พลันภาพความทรงจำต่างๆ เมื่อหนึ่งปีก่อนย้อนเข้ามาในหัวอย่างช่วยไม่ได้..
ราวกลับทุกสิ่งทุกอย่างหยุดอยู่กับที่.. ภาพความทรงจำเมื่อหนึ่งปีก่อนไหลย้อนเข้ามาแทนที่ทุกๆ อย่างแทน..
ภาพของชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ กำลังนอนหนุนตักชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกันอย่างมีความสุข คนตัวสูงกว่าหลับตาพริ้มอย่างสุขใจ คงไม่มีอะไรดีกว่าการได้อยู่กับคนที่ตนเองรัก..
นอกเสียจากว่าจะมีใครมารบกวนพวกเขาเสียก่อน..
“แพค! คริส!” เสียงหวานใสของหญิงสาววัยเดียวกันเรียกให้ทั้งสองหันไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ..มันไม่ง่ายสำหรับเขาเลยที่ผู้หญิงคนนี้จะไม่เข้ามายุ่มย่ามในชีวิตของพวกเขา..
“ซูยอนอา..คิดถึงจังเลย” เจ้าของตักทนุ่มนิ่มลุกขึ้นไปหาหญิงสาวผู้มาใหม่ โดยไม่สนว่าคนที่หนุนหัวจะกระแทกพื้นหรือเปล่า
“โอ๊ยยยย!!” ร้องเสียงดังลั่นก่อนจะหันไปขาดโทษคนตัวเล็กที่เป็นเหตุให้หัวของเขากระแทกพื้นอย่างเคืองๆ
“สมน้ำหน้า” ตอกย้ำ พลางแลบลิ้นล้อเลียน ทำเอาทั้งหญิงสาวและคนตัวสูงอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ ร่างสูงวิ่งเข้าไปหมายจะทำโทษคนตัวเล็กกว่า แต่กลับต้องเสียแรงเหนื่อยกว่าเดิมเมื่ออีกคนวิ่งหนีไปอีกทาง
“กลับมานี่เลยนะ พยอน แพคฮยอน” ตะโกนตามหลังอีกคนที่วิ่งนำหน้า
“กลับไปก็โง่อ่ะดิ ไอ้หล่อวูฟาน :P” พูดไม่เท่าไร แถมยังหันมาแลบลิ้นใส่อีก มันน่าจับมาลงโทษให้เข็ดจริงๆ
หญิงสาวมองทั้งคู่ที่ไล่วิ่งกันอย่างสนุกสนานก่อนหัวเราะเบาๆ รอยยิ้มของทั้งสามเกิดขึ้นมาพร้อมกัน.. แต่ทว่า.. ความสุขที่เคยมีด้วยกัน..
กลับต้องหายไปเพียงชั่วข้ามคืน..
“แต่งงานกับฉันนะ ..แพคฮยอน” หญิงสาวนาว จอง ซูยอน ยืนหลับตาปี๋เพื่อรอคำตอบจากชายหนุ่มหน้าหวานเจ้าของชื่อตรงหน้า เขาเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นอย่างคิดหนัก..
“คือว่า..” เขามีท่าทีอึกอัก และลังเล ความสับสนในแววตานั้นไม่สามารถปิดให้มิดได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว..
“นายยังไม่ต้องตัดสินใจตอนนี้ก็ได้นะ..” ซูยอนเอ่ยเสียงสั่นเครือ หน่วยน้ำในตาพร้อมใจกันใหลออกมาไม่หยุด แพคฮยอนสะดุ้งตกใจก่อนจะตัดสินใจเอ่ยคำน่ายินดีออกมา
“แน่นอน..ฉันจะแต่งงานกับเธอ..” ซูยอนยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะโผลกอดอีกคนแน่น ในตอนนี้เธอมีความสุขที่สุด ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอีกมากมายแค่ไหน..ขอแค่มีคนคนนี้อยู่ข้างๆ เธอก็พร้อมจะฝ่าฝันมันไปร่วมกับเขา..
แต่เธอจะรู้อะไรไหมนะ..
ในขณะที่เธอมีความสุขกับคนคนนั้นของเธอ..
ใครอีกคนกลับต้องรู้สึกเจ็บปวด ..และทรมาณแทบตายทั้งเป็น..
คุณไม่เคยเข้าใจว่า . . ผมรู้สึกอย่างไรกับคุณ . .
ดังนั้น . . ผมจึงเกลียดคุณ . .
จนบางครั้ง . . ผมหวังให้คุณไม่มีความสุข . .
ตอนนี้ผมไม่เหลือน้ำตาที่จะร้องไห้อีกแล้วล่ะ . .
“..ฮยอน..แพคฮยอน..แพคฮยอน!!” ร่างบางสะดุ้งหลุดจากผวังค์ ก่อนจะหันหน้าเหลอหลาไปหาเจ้าสาวของตน
“อ..อะไรเหรอ” ถามอย่างงงๆ เรียกสายตาเหนื่อยอ่อนจากหญิงสาวตรงหน้าเป็นอย่างดี
“บาทหลวงเขาให้ปฏิญาณแล้วนะ..” ร่างบางพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ ก่อนที่บาทหลวงจะเอ่ยทวนคำปฏิญาณใหม่อีกครั้ง..
“พยอน แพคฮยอน.. จะรับจอง ซูยอนเป็นภรรยาหรือไม่ ” ร่างบางเหลือบไปมองร่างสูงที่นั่งตรงเปียโนหลังใหญ่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตกลงรับคำ
“มีใครจะปฏิเสธการแต่งงานของหนุ่มสาวคู่นี้หรือไม่ ” แขกเรือต่างแย้มยิ้มอย่างปลื้มปิติ โดยไม่มีท่าทีว่าจะมีใครสักคนปฏิเสธเสียด้วยซ้ำ..
..จะยกเว้นก็แต่เจ้าของร่างสูงนัยต์สีดำสนิทเท่านั้น
“พ่อขอประกาศว่า ..ชายหญิงคู่นี้เป็นสามีภรรยากัน” เสียงปรบมือดังระงมไปทั่ว พร้อมๆ กับเสียงเปียโนบรรเลงเพลงแต่งงาน
“ยินดีด้วยนะ” เสียงยินดีดังขึ้นจากแขกเรือหลายต่อหลายคน พร้อมๆ กับเสียงเชียร์ให้โยนดอกไม้ เจ้าสาวยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินเข้าไปจูงมือร่างสู.ที่นั่งตรงเปียโนให้ออกมารอรับดอกไม้ด้วย
“มารอรับสิคริส..เผื่อนายอาจจะฟลุ๊คเจอเนื้อคู่ของนายก็ได้นะ” ร่างสูงมองหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมออกมายืนด้วย ร่างบางของพยอน แพคฮยอนเดินเข้าไปหาร่างสู.ของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานก่อนจะโผลเข้ากอดอย่างโหยหา..
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ..วูฟาน” ร่างสูงชะงักก่อนจะฝืนยิ้มออกไป ความรู้สึกขมขื่นที่ร่างบางเห็นในแววตาของร่างสูงนั้น..มันคืออะไรกัน
“อ่า..นั่นสินะ”
“จะโยนล่ะนะ..หนึ่ง สอง สาม!” ช่อดอกไม้ถูกโยนลอยขึ้นฟ้าราวกับภาพสโลวโมชั่น ก่อนที่มันจะตกไปอยู่ในมือของร่างสูง แพคฮยอนยิ้มเล้กๆ ก่อนจะตบไหล่คนสูงกว่าเบาๆ
“โชคดีนะ..ขอให้เจอกับคนที่นายรักไวๆ..” ยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าสาวก่อนที่ทั้งคู่จะเดินจากไป ทิ้งให้ร่างสูงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม..
อยู่กับความว่างเปล่าอีกครั้ง..
ครั้งนี้ความว่างเปล่าที่ได้รับ.. มันคงจะอยู่กับเขาไปอีกนาน..
..นานแสนนาน..
จงอยู่กับเขาอย่างมีความสุข . .
เพราะฉะนั้น . . ผมจะได้ลืมคุณซะ . .
ได้โปรด . . ลืมไปซะ . . ว่าผมเป็นทุกข์แค่ไหน . .
มันคงจะเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมาก . . สำหรับผมไป . .
. . อีกนาน . .
- END -
แบบสมองแล่นมากเลยจ้าวันนี้ >< สงสัยเพราะได้นอนอยู่บ้าน -..-
วันนี้ไม่ได้ไปเรียนเพราะเกิดปวดวันมามาก TT
#ใครบอกผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ อยากบอกว่ากูแข็งแรงกว่าผู้ชายอย่างพวกมึงอีกค่ะ!! =^=
เอสเอฟเรื่องนี้เกิดขึ้นได้เพราะพ่อก้ามโตแทยังแห่งบีบี -..-
พอดีได้อ่านซับไทย แล้วเราก็ว่าเออ..ความหมายมันก็โอดีนะ เลยเอามาแต่ง
แล้วเจอปัญหา..ปัญหามันอยู่ที่เอาใครเป็นพระเอกดีวะ -*-
มีตัวเลือกสองตัวระหว่างเฮียคริส กับน้องไก่ เราเลยเอาเฮียดีกว่า..สูงดี #เกี่ยว ==
เอาเป็นว่าเรื่องนี้อ่านแล้วคุณรู้สึกยังไงบ้าง
ช่วยเม้นท์แชร์กันด้วยนะคะ :)
รักคนเม้นท์
ความคิดเห็น