"เฮ้ ซาซึเกะ ประชุมครั้งนี้ เลิกไวกว่ากำหนด ไปหา เจ้าพวกนั้นสักหน่อยมั๊ย เห็นพวกนั้นถามหาอยู่น่ะ" หนุ่มผมดำยาวผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทอุจิฮะ ได้ถามน้องซึ่งเป็นรองประธาน
"อืม" คำตอบสั้นๆ ไม่ยินดียินร้าย แต่ทำให้พี่ชาย เผลอยิ้มเล็กน้อย ก็แหม ปกติประชุมเสร็จ ท่านรองประธานคนนี้จะตรงดิ่งกลับบริษัทเพื่อทำงานต่อทันที ที่เขาถามก็แค่ลองเชิงดูเท่านั้นแหละ ไม่คิดว่าจะตกลงไปจริงๆ ความจริงก็คงคิดถึงพวกเพื่ออยู่้เหมือนกัน แต่ทำเป็นเก็กสินะ
คนพี่ได้แต่คิดอยู่ในใจ ก่อนจะส่งเมลให้เหล่าเพื่อนๆของซาซึเกะซึ่งเขาก็สนิทกับเจ่้าพวกนั่้น พอๆกัน เจอกันที่ร้านประจำมุมเดิมที่ไม่ได้ไปซะนาน ก่อนจะเดินเตรียมตัวขึ้นรถเพื่อไปยังสถานที่นัดหมาย ก็มีกระดาษปลิวมาแปะหน้าเขาซะงั้น ซาซึเกะหยิบมันออกจกใบหน้า"คุณเชื่อเรื่องโชคชะตาหรือไม่ หึ ไร้สาระ" ซาซึเกะปล่อยมันเพื่อจะเดินไปขึ้นรถ แต่ก่อนที่จะไปถึงรถ
"หลบๆๆ หลบไป หลีกทางหน่อยยย โอ๊ะ พลั๊ก ปึกโคร้มม" เสียงตะโกนดังมาไกล แตาก็คงไม่ไกลมากเท่าไหร่เพราะ มันทำให้ ซาซึเกะ โดนชมและล้มหงายลงไปเต็ม
"โอ๊ยย เจ็บอ่าา เฮ้ นาย เป็นอะไรป่าว ขอโทษทีนะ เผอิญ ชั้นกำลังจะตกรถเลยรีบไปหน่อย" เจ้าตัวการ เอ่ยขโทษ เสียงใสแจ๋วพร้อมกับ รีบยกมือประกบบนหัว
"ลุ... ลุกออกไปซะที ยัยบ้า" ซาซึเกะที่ตอนนี้ โดดนนั่งทับจนกลายเป็นเบาะรองนั่ง เอ่ยน้ำเสียงสั่งคนที่นั่งทับเขาอยู่
"อ๊ะ ขะ ขอโทษนะ " เด็กสาวรีบลุกขึ้นหน้าแดง เพราะไปนั่งอยู่บนตัวคนอื่นทันที
"ลุกไปได้สักทีก็ดี คนอะไร แย่ชะมัด วิ่งไม่มองเลยหรือยังไง คนทั้งคน ชนมาดะ...ได้" ซาซึเกะ ลุกขึ้นมาพร้อมก้มปัดตัวโดยไม่มองหญิงสาวเลยสักนิด และต่อว่าถึงอีกคนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาลงไปนอนกับพื่นอย่างงี้แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา สบตาสีฟ้าใราวกับน้ำทะเลที่ระยิบระยับสะท้อนแสง ผิวขาวที่ออกอมชมพู จากการวิ่งหรืออะไรก็ไม่ทราบ ริมฝีปากได้รูป บวก เสียงผมยาวสีทองสวย ทำให้เขาถึงกับพูดแทบไม่ออกเมื่อเห็นคนตรงหน่้านี้
"ก็ชั้นขอโทษละไง อีกอย่างบอกให้หลบๆ ยังขวางอยู่ได้ เลิกว่าชั้นสักที" รางบางตอนนี้ที่โดนต่อว่า ก็เถียงกลับ ด้วยความหงุดหงิด ที่เริ่มมีบ้างแล้วเหมือนกัน
"ผิดแล้วยังจะมาเถียงอีก วิ่งมาไวขนาดนั้น แถมกระชันชิดขนาดนี้ หลบทันก็บ้าละ" ซาซึกเกะที่ตั้งสติได้ จึงว่ากลับ
อิทาจิมองน้องชาย ที่ตอนนี้ ยืนเถียงกับหญิงสาวน่ารักที่วิ่งมาชนอย่างสนุก เอ๊ะ เถียงกันแต่หมอนั้นมองสนุก ปกติจะเย็นชา สงสัยคงจะถูกใจสินะ
ขณะที่อิทาจิมองดูน้องชายตัวเองอยู่นั้น ก็เห็นรถประจำทางผ่านไป พลางพรึมพรำกับตัวเอง
"อ่า ใช่รถที่สาวน้อยคนนั้นบอกจะรีบไปขั้นมั๊ยนะ"
ขณะที่สองนั้นก็ยังเถียงกันไม่จบโดยไม่สนใจรอบข้างที่มองมากันใหญ่ละ
"นายแหละที่ผิด ไม่หลบไป หูหนวกหรือไงกัน"
"เธอแหละยัยบ้า วิ่งไม่มอง แถมมาชนยังจะมาว่าอีก"
"ว่าใครบ้ากันห้ะ นายแหละผิด"
"เธอนั้นแหละ"
"นายนั้นแหละ"
"เอ่อ.. เฮ้ๆ เลิกทะเลากันได้แล้วน่า คนมองกันเยอะแยะไปหมดแล้วนะ"
"อิทาจิ ก็ยัยนี่มันไม่หยุดอ่ะ"
"นายนั้นแหละ ไม่หยุด ขอโทษแล้ว ก็แล้วกันสิ"
"มันไม่ง่ายไปหน่อยหรือไง"
"ซาซึเกะ บอกให้หยุดไงล่ะ อ่า แล้วก็สาวน้อย รถที่เธอว่าเนี้ย ใช่คนที่ออกไปสักพักนั้นแล้วหรือป่าว?"
"คะ ?" หญิงสาวรีบหันไปมอง และรถมันก็ไม่อยู่แล้ว ก่อนจะบ่นกับตัวเองอย่างสติแตก
"อ้ากกกก แย่ละซิ ตายแน่ๆ ให้ตายสิ"
"หึ สมหน้า "
"พอได้แล้วน่า เอ่อ นี่เธอ ใจเย็นๆก่อนนะ คือเธอจะไปไหนงั้นหรอ พอดีพวกชั้นกำลังจะไปทางเส้นที่รถประจำทางนั้นพอดี เผื่อผ่านทางน่ะ"
"เอ่อ... คือชั้นจะไปที่ร้านโคโนฮะคาเฟ่น่ะค่ะ นัดกับพี่ชายไว้ เดี๋ยวคงต้องโทรให้พี่มารับแทน"
"ร้านโคโนฮะค่าเฟ่งั้นหรอ ที่เดียวกันพอดี ไปกับพวกชั้นมั๊ยล่ะ" อิทาจิถาม
"ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ รบกวนป่าวๆ อีกอย่างเดี๋ยวโทรให้พี่มารับดีกว่า"
"หึ นึกว่าแน่ ที่แท้คงกลัวชั้นล่ะสิ"
"ใครกลัวนายกัน ไอ้บ้าขี้เก๊กเอ้ย ไปก็ไปสิ รบกวนด้วยนะคะ" หญิงสาวตอกกลับไป ก่อนจะหันมาขอบคุณอิทาจิ
"ว่าใครขี้เก็กกัน ยัยเบ๊อะเซ๊อะ"
"ชั้นไม่ได้เบ๊อะเซ๊อะนะ นายนั้นแหละขี้เก๊ก"
"อ่า พอๆๆ เราไปขึ้นรถกันดีกว่า"อิทาจิมองอย่างหน่ายๆ ก่อนจะพากันไปขึ้นรถ
ระหว่างทาง ทั้งคู่ก็กัดกันไม่เลิกสักที จนเดวิลอิทาจิปรากฏ ในรถถึงเข้าสู่ความสงบ เงียบ จนถึงที่ร้าน
"อ่ะ ถึงแล่้ว โชคดีนะ สาวน้อย"
"ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ ลาก่อนนะคะ"พูดจบ เธอก็วิ่งเข้าร้านไปโดยไม่หันมามองอีกคนเลยสักนิด
"เห้ย ยัยบ้า ไม่คิดจะขอบคุณเลยหรือไง แล้ว อิทาจิ ทำไมนายไม่ถามชื่อยัยนั้นห้ะ"ซาซึเกะ สบทอย่างหัวเสีย ถูกเมิน แถมยังไม่ได้รู่้ชื่ออีก
"เอ้อ ลืมถามชื่อไปเลยแฮะ แต่ซาซึเกะ วันนี้นายพูดมากนะ แถมยังสนใจคนอื่นอีก สนใจสาวน้อยน่ารักคนนั้นหรอ" ซาซึเกะได้ยินก็เงียบพร้อมทำเย็นชาใส่ทันที หึ ยังไงก็ร้านเดียวกัน ยังไงเราก็คงได้เจอกันอีกอยู่ดีแหละ ซาซึเกะก่อนจะยิ้มนิดๆ แล้วปรับมาเป็นหน้าปกติก่อนเดินนำเข้าไปในร้าน
"พี่เดอิ นารุคิดถึงพี่ที่สุดเลยล่ะ ไม่ได้กลับมาตั้งนาน คิดถึงทุกคนจัง"นารูโตะ หรือนารุจัง สาวน้อยผมสีทานตะวันร่างน้อยที่ตอนนี้แทบจะกระโดดกอดชายผมสีเดียวกันจนแทบจะล้มลงจนเซถอยหลังไปชนอิทาจิที่กำลังเดินเข้าร้านมาพร้อมซาซึเกะพอดี
"ขอโทษครับๆ" เดอิดาระรีบหันไปขอโทษคนที่ตัวเองชนทันที
อิทาจิเห็นดังนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร และเหลือบไปมองทางสาวน้อยที่อยู่ข้างๆอีกคน
"ไม่เป็นไรครับ อ่า เจอกันอีกแล้วสาวน้อย^^"
"รู้จักนารุด้วยหรอครับ คนรู้จักหรอ"เดอิดาระ ถามกลับไปยังคนเดิม พร้อมหันมาถามน้องสาวตนเองเบาๆ
"อ่า ป่าวหรอกครับ เผอิญเจอกันระหว่างทางเนอะ สาวน้อย" อิทาจิหันไปยิ้มให้นารูโตะ
"อ่าค่ะ^^ พี่เดอิ คือพี่ชายคนนี้เขาช่วยพานารุมาส่งที่นี่อ่ะ เพราะดันตกรถไม่ทันรถประจำทาง "
"อ้าว แล้วไมไม่ดทรให้พี่ไปรับฮะ ขอโทษที่รบกวนนะครับ ขอบคุณจริงๆที่อุตส่าห์่วยพามาส่งด้วย"
"ไม่เป็นไรครับ^^"
"อะแฮ่มๆๆ"ซาสึเกะที่ถูกลืมไปแล้ว ก็กระแอมขึ้นมา เพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไม่ได้ส่งผลเลยสักนิด
"งั้นพวกผมขอตัวกันนะครับ โชคดีครับ" อิทาจิกล่าวลา โดยที่ไม่คิดจะแนะนำตัวเลยสักนิด ทำใหซาสึเกะ แสดงท่าทีหงุดหงิดขึ้นมาทันที
อิทาจิเดินนำแล้วพาน้องชายที่ตอนนี้ถึงจะเก็กหน้านิ่งแต่ก็แสดงอารมณ์เสียอย่างชัดเจนเข้าไปยังโต๊ะมุมประจำทันที
ซาซึเกะ เดินเข้าไปนั่งเลือกมุมที่สามารถมองเห็นด้านที่นั่งของนารูโตะชัดเจน โดยไม่กล่าวทักทายเพื่อนๆสักคำ อิทาจิรู้ทันทีว่าเพราะอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่อมยิ้มนิดๆกับนิสัยน่ารักของซาซึเกะที่ไม่ค่อยมีให้เห็น สนใจเด็กสาวคนนั้นเข้าอย่างจังเลยสินะ
ในระหว่างที่กลุ่มของซาซึเกะที่พูดคุยกันตามประสาไม่ได้เจอกันนาน ถามไถ่เล่าเรื่องราวต่างๆ หน้าที่การงาน ความรัก ซาซึเกะที่ไม่ได้สนใจก็เออออไปพลาง ก็ต้องสนใจไปที่โต๊ะของอีกคนทันที
"คาคาชิซัง นารุคิดถึงคาคาชซังมากที่สึด รองจากพี่เดอิเลย " นารูโตะ กอดคาคาชิ ที่เปรียบเสมือนพี่ชายอีกคนของตนเป็นทั้งพี่ เพื่อน และครูในคนเดียวกัน กอดแล้วก็หอมแก้มซ้ายขวา อย่างเคยชิน
"จร้าๆ ชั้นก็คิดถึงนารุมากเหมือนกัน โตขึ้นเยอะเลยนะนารุจัง " คาคาชิหนุ่มผมเงิน ที่มีหน้ากาก ปิดอยู่ครึ่งหน้า แต่ก็มองหล่อและดูดีมากๆคนหนึ่ง ตอบ แล้วหอมแก้มกลับ
ซาสึเกะมองทั้งสามคนคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ทั้งสองคนนั้นคอยดูแลนารุจังของเขาอยู่ตลอด (นารุเป็นของเกะตอนไหนกันนนน!!!!) แววตาที่ทั้งสองมองนารุนั้นมีทั้งความห่วงใยความรักให้ตลอด คนหนึ่งคือพี่ชาย เขาพอรู้ แต่อีกคนล่ะ เป็นใคร แถมดูดีสุดๆ จนเขายอมรับ หอมแก้ม กอด คุยกันอย่างสนิทสนมขนาดนั้น คนรักงั้นหรอ นี่เขาเพิ่งเจอผู้หญิงคนนั้นแค่วันเดียวนะเนี้ย ทำไม ถึงได้สนใจขนาดนี้กัน?ตอนนี้ซาสึเกะไม่ได้สนใจรอบข้างเลยเขาจมอยู่แต่ในความคิดตัวเอง จนอิทาจิสังเกตุเห็นได้ง่าย รวมถึงเพื่อนในกลุ่มก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่มีใครพูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าซาซึเกะ กำลังคิดมากเรื่องอะไร
ขณะที่ซาซึเกะนั้นนั่งจมความคิดตัวเอง กลุ่มนารูโตะก็ได้ออกจากร้านไปตอนไหนก็ไม่รู้ เขารู้ตัวอีกทีเมื่ออิทาจิสะกิดเรียก เพื่อจะได้กลับบ้าน เพราะคุยกันนานแล้ว และดูเหมือน กาอาระ และเนจิจะมีธุระต่อ จึงต้องแยกย้ายกัน เขาหันไปลาเพื่อนๆเสร็จก็มองไปยังโต๊ะตัวเดิม นี่เขาพลาดโอกาสได้รู้จักกันอีกแล้วหรอเนี้ย
และแล้วทุกๆอย่างก็กลับคือสู่ความปกติอีกครั้ง แต่ความรู้สึกของซาซึเกะในตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ในหัว มีแต่ สาวผมทานตะวันคนที่เจอเมื่อหลายวันก่อนนั้นเต็มไปหมด ไม่มีทาง อย่างเขาเนี้ยนะ หนุ่มหล่อแสนจะเพอร์เฟค เพียงแค่กระดิกนิ้ว สาวๆก็วิ่งเข้าใส่ หนุ่มธุรกิจดังที่สาวๆอย่างเป็นแฟนด้วยมากสุด แต่กลับมีเด็กกะโปโลที่ไหนไม่รุ้ มาทำให้เขาเพ้อแทบเป็นบ้า เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เขาแค่คิดมาก หลงชั่ววูบ เพียงแค่นั้น นึกได้ดังนั้นก็ตัดสินใจชวนอิทาจิไปผับ ไปผ่อนคลายสักหน่อยคงดี
อิทาจิก็ได้แต่มองน้องด้วยความแปลกใจ ร้อยวันพันปีไม่เคยอยากจะไปเที่ยวผับ เที่ยวเล่น วันๆคิดแต่เรื่องงานอย่างซาซึเกะ ไหงวันนี้ถึงชวนเขาได้นะ หลังจากกลับจากทำงานก็สามทุ่มกว่าแล้ว ทั้งคู่ก็เตรียมอาบน้ำแต่งตัว เพื่อท่องราตรี เตรียมตัวไปผับชื่อดังที่เพื่อนเป็นเจ้าของ
"แหมเป็นไงมาไงครับเนี้ย คุณชายอุจิวะถึงมาเยือนยันที่นี้" คิบะเจ้าของผับที่เป็นหุ้นส่วนกันกับเพื่อนอีก3 คนเข้ามาทักทายทันทีที่เห็นซาซึเกะและอิทาจิเดินเข้ามาในร้าน
"ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แค่อยากพักสมองบ้าง" ซาซึเกะตอบด้วยเสียงเรียบๆ พร้อมกับเดินไปที่โต๊มุมที่ประจำของเขากลุ่มเพื่อน"เออ ดีเว้ย นานๆทีมาเที่ยวอุดหนุนพวกชั้นบ้างก็ดี เดี๋ยวชั้นไปตามพวกชิกามารุ ชิโนะ แล้วก็โจจิมาละกัน นานๆจะมาร้านกันพร้อมหน้าอย่างนี้"
ว่าแล้วคิบะก็เดินไป
"อ่าาาา น่ารำคาญชะมัดเลยทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยวะเนี้ย"เสยงบ่นรำคาญจากชิกามารุนำมาเลยคนทำให้ซาซึเกะแปลกใจใช่เล่น ปกติหมอนี่ไม่ค่อยจะพูดมากเท่าไหร่
"น่าๆ เดี๋ยวชิกามารุค่อยแยกไปตอนที่ถึงเวลานัดก็ได้ อย่าอารมณ์เสียน่า" คิบะพูดเพื่อให้ชิกามารุใจเย็นลง ยิ่งทำให้ซาซึเกะแปลกใจ
"ใช่กินนี่สิ แล้วใจเย็นๆก่อน" โจจิช่วยเสริมพร้อมยื่นแก้วเหล้าให้
"อ่า แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวคุยโทรศัพท์แปป " ซาซึกเกะมองชิกามารุที่วันนี้ดูแปลกที่ตอนนี้คุยโทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะ อย่างสงสัย ดีที่โต๊ะอยู่ตรงมุมด้านในพอดีเลยทำให้เสียงไม่ค่อยดังมาก
"ฮัลโหล นารุมาละหรอ ให้ไปรับมั๊ย อ่าๆเข้ามาแล้ว อื้อ อยู่ตรงมุมซ้ายมือด้านใน โต๊ะที่แยกต่างหากออกมาอ่ะ เจอแล้วๆ เดี๋ยวออกไปหา" บทสนทนาที่ชิกามารุทำให้ซาซึกเกะสนใจเป็นอย่างมาก
"นารุ หรอ จะใช้ยัยนั่นหรือป่าวนะ"ซาซึเกะได้แต่พึมพัมกับตัวเองก่อนมองชิกามารุที่ลุกพรวดขึ้นไปพร้อมบอกว่ามีนัดต้องไปก่อน ซาซึเกะที่มองตามก็ได้เห็นนารุ เด็กสาวคนนั้น จนเกือบจะลุกตามไป แต่เสียงของคิบะที่พูดเรียกสติของซาซึเกะไว้ก่อน
"แหม หมอนั่นพอเป็นเรื่องนารุทีไร ไม่เคยบ่นเลยนะ รักกันขนาดนั้นเลย 55555+ ได้ข่าวเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศพอดียังไม่คุ้นๆที่ทางเท่าไหร่"
"นั่นสิ ถึงจะบ่นว่าทำไมต้องเป็นัวนนี้ แต่ตั้งแต่นารุกลับมา ชิกามารุก็ตามดูแลตลอดเลยนี่"โจจิช่วยเสริมที่คิบะพูดไว้
"ก็คนสำคัญเลยนี่ ไม่เห็นแปลก" ชิโนะที่นั่งเงียบมาตลอดก็แสดงความคิดออกมาบ้าง
"นารุ ใครกันทำไมชั้นไม่เห็นรู้จักเลย" ซาซึเกะที่สนใจในตัวนารุอยู่ยิ่งอยากรู้เรื่องของนารุจังเข้าไปใหญ่
"เพื่อน/แฟน/น้อง ของชิกามารุ" โจจิ คิบะ แล้วก็ชิโนะ เอ่ยขึ้นมาพร้อมๆกัน
"สรุปเป็นอะไรกันแน่"อิทาจิที่นั่งเงียบมาตลอดก็เอ่ยถามบ้าง พร้อมลอบมองปฏิกิริยาของซาซึเกะเป็นระยะๆ
"เพื่อนสิ เพื่อนที่รักมาของชิกามารุแน่นอน เพราะชิกามารุพูดถึงและห่วงนารุจังตลอดเลย" โจจิว่า
"ไม่หรอก เพื่อนอะไรจะดูแลขนาดนั้น แฟนต่างหาก หมอนนั่นไม่เคยยอมผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากนารุจัง พอนารุจังมา ชิกามารุก็คอยดูแลตลอดไม่บ่นรำคาญหรือว่าอะไรเลยด้วย" คิบะว่าบ้าง พร้อมเหตุผลที่ยืนยันให้น่าเชื่อ
"อ่าน้องสาวล่ะมั้ง ชิกามารุไม่น่าจะสนเรื่องเรื่องรักๆใคร่ๆเท่าไหร่ แต่...... ที่คิบะพูดมาก็มีเหตุผล อาจจะเป็นแฟนก็ได้มั้ง" ชิโนธที่คิดว่าน่าจะเป็นน้องในตอนแรกเริ่มเอนเอียงไปทางคิบะแทน
"จะว่าไปคิบะพูดก็ไม่เหตุผลนะ " โจจิเริ่มคล้อยตามอีกคน
"สรุป แฟน! สินะ" อิทาจิพูด แต่ที่ซาซึเกะได้ยินรู้สึกว่าคำว่าแฟนจะก้องในหัวเขามาก
นี่เขาตั้งใจมาเที่ยวเพื่อจะได้เลิกคิดเรื่องยัยนั่น ไหงทำไมมันบังเอิญอย่างนี้วะเนี้ย
"เฮ้ พวกนาย คุยอะไรกันอยู่ ชั้นจะแนะนำให้รู้จักนารุจังนะ นารุจังเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ยังไม่ค่อยรู้ที่ทางเท่าไหร่ เลยคิดว่าจะพาเที่ยวซะหน่อยแต่นายดันมาวันนี้พอดี นารุจังเลยบอกว่าให้มานั่งด้วยก็ได้ ชั้นให้นารุร่วมวงอีกคนละกันนะ"ชิกามารุที่กลับมาพร้อมเด็กสาวที่อยู่ในความคิดของซาซึเกะมาตลอดตั้งแต่แรกเจอตอนนี้มาอยู่ตรงหน้า
"แน่นอน นั่งสิๆ นี่ซาซึเกะ กับอิทาจิ เป็นพี่ชายของหมอนั่นล่ะ" คิบะแนะนำให้ซาซึเกะให้กับนารุโตะได้รู้จัก
"อ่า เคยเจอกันแล้วล่ะ นี่ไงชิก้าที่ชั้นบอกว่าเจอพี่ชายใจดีกับไอ้บ้าขี้เก็กช่วยไว้วันที่กลับมาพอดี พี่ชายคนนี้แหละที่ช่วยไว้" นารุโตะ หันไปบอกให้ชิกามารุฟัง
"ชิก้า ฮ่าๆๆ ชิกามารุ นายเปลี่ยนชื่อเป็นชิก้าแล้วหรอเนี้ยยย" คิบะหัวเราะชื่อที่นารุเรียกชิกามารุ ไม่น่าเชื่อว่าอย่างหมอนนี่จะยอมนารุจังหมดจริงๆ
"เออแล้วไง ชั้นให้นารุจังเรียกคนเดียวเท่านั้นแหละ แกอย่ามาล้อส่งเดช น่ารำคาญจริง" ชิกามารุบ่น
"เจอกันอีกแล้วนะสาวน้อย เรียกชั้นว่าพี่อิทาจิก็ได้นะ นารุจัง ใช่มั๊ย" อิทาจิหันไปพูดกับนารุจังด้วยความใจดี
"เห้ เธอชั้นก็ช่วยเธอนะ ทำไมถึงชมแต่อิทาจิคนเดียวล่ะ" ซาซึเกะที่นั่งฟังก็เอ่ยขึ้นมา
"แล้วทำไมชั้นต้องยินดี ชมไอ้บ้าขี้เก็กอย่างนายด้วยล่ะ ถ้านายไม่มามีเรื่องกับชั้น ชั้นก็ไม่ตกรถหรอก อีกอย่างพี่อิทาจิเป็นคนช่วยชั้นต่างหาก เป็นเด็กหรือไง แค่นี้ทำมาเป็นขอให้ชม" นารูโตะที่ยังคงโมโหที่ซาซึเกะต่อว่าทั้งๆที่เธอก็ขอโทษแล้ว ทำให้ว่ากลับไป จนซาซึเกะรู้สึกผิด แต่ก็ยังจะตอกกลับไปต่อ
"แล้วยัยเบ๊อะเซอะที่ไหนวิ่งไมดูตาม้าตาเรือกันล่ะ ถึงทำให้ตกรถล่ะ"
"เอาน่าๆ นารุจังอย่าไปเถียงเข้านี่เลย มานั่งดีกว่าๆ นั่งข้างพี่มั๊ย" อิทาจิช่วยห้ามให้อีกครั้ง
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวนารุนั่งข้างชิก้าดีกว่า" นารุปฏิเสธอย่างน่ารัก
"มานี่สิ เอานั่ง กินไรมั๊ย แต่ไม่มีราเมงนะ " ชิก้าถามพร้อมดักคอไว้ก่อน
"รู้น่าว่าไม่มีอ่ะ นายนี่นะ" ทั้งโต๊กลับสู่ความสนุกสนานอีกครั้ง นารุจังน่ารักและอัธยาศัยดี เลยทำให้ทุกคนสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว ยกเว้นซาซึเกะที่ไม่ค่อยพูดอะไร ได้แต่แอบมองสาวเจ้าไป็นระยะๆ เวลาร่วงเลยผ่านไปจนเที่ยงคืน นารุที่ตอนนี้ก็เมาจนเรื้อน เอ่ยรั่วก็ถูกชิก้าประคองเพื่อพากลับ
"ยัยโง่นี่ รู้ว่าตัวเองคออ่อนแท้ๆยังจะกินอีก สภาพแบบนี้พาไปส่งบ้านไม่ได้แน่ๆ นารุจังๆ ไปนอนที่คอนโดชั้นก่อนละกันนะ " คำพูดที่ชิกามารุพูดถึงกลับทำให้ซาซึเกะคิ้วกระตุก
"อ่าาา ชิก้าาา นอนด้วยคนน้าาาา " และคำตอบของนารุโตะยิ่งทำให้ซาซึเกะหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ นี่สรุปเป็นแฟนกัน กลับมาไม่กี่วันเองเนี้ยนะ แถมถึงขั้นนอนค้างด้วยกัน อะไรวะเนี้ย ยัยนี่ทำไมไวไฟอย่างงี้ แล้วไหนจะผู้ชายผมเงินนั่นอีก สรุปใครเป็นแฟนยัยนี่แน่ฟนะ ในสมองซาซึเกะมีแต่เรื่องของนารุจังเต็มไปหมด
"เฮ้ พวกนาย ถึงพวกนายจะเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญ แต่พรุงนี้มีประชุมตอนเช้า 9.00 น. อย่าไปสายล่ะ " อิทาจิเตือนทุกคนอีกครั้ง เขารู้ดีกว่าพวกนี้มีความรับผิดชอบกันมาก แต่ก็อดห่วงไม่ได้ ก็วันนี้ดื่มกันหนักทุกคนเลยจนทำให้เขาต้องเตือนหลายครั้ง ทั้งๆที่เขาก็เตือนตั้งแต่ สี่ทุ่ม บอกให้กลับ ก็ไม่มีใครสนใจ คนแก่น้อยใจชะมัด
เมื่อรับรู้กันทุกคนก็แยกย้าย
ณ ห้องประชุมใดประชุมหนึ่ง บริษัทใดบริษัทหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ที่ใดที่หนุ่งในโลก
การประชุมเริ่มไปครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว ชิกามารุเพิ่งมาถึงพร้อมขอโทษทุกคน วันนี้การประชุมจึงเป็นไปอย่างราบรื่น จนจบลงด้วยดี
"เห้ยชิกามารุ ปกตินายเป็นคนที่ตรงเวลามาก แถมมาก่อนเพื่อน ไหงวันนี้มาสายวะ" คิบะถาม
"โทษทีเมื่อคืนเหนื่อยไปหน่อย กว่านารุจังจะยอมนอนได้"
"หนักเลยดิเพื่อน" คิบะถามต่อ
"หนักเลยรอบนี้ แถมเมื่อเช้ากว่าจะออกมายังเดินตามมาอ้อน กว่าจะจับให้นอนอยู่นิ่งๆได้แทบแย่"
"ถึงจะพูดงั้น แต่ชิกามารุก็ไม่เห็นจะบ่นรำคาญเลยหนิ" โจจิเสริม
"ก็นะ เพราะเป็นนารุจังไงล่ะ" ชิโนะช่วยต่อ
"เลิกพูดมากเหอะ ชั้นกลับเลยละกัน เดี๋ยวต้องไปดูนารุต่อ" ชิกะมารุพูดตัดบท
"งั้นชั้นไปด้วยละกัน เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน/ชั้นด้วย/ชั้นด้วย" คิบะ โจจิ และชิโนะ จึงขอตามไปด้วย
"ชั้นไปด้วย" ซาซึเกะเอ่ยขึ้นบ้าง ถึงกับทำให้ที่เหลือมองไปด้วยความสงสัย
"ไม่ต้องมอง ไม่มีงานไรแล้ว เลยแค่อยากไปกับพวกแกเท่านั้น" ซาซึเกะรีบบอกเหตุผลเพื่อคลายความสงสัย อันที่จริงเขาก็อยากจะไปดูนารุจังนั่นแหละ
"อ่า งั้นไปเจอกกันที่คอนโดชั้นละกัน อ่ะเอาคีย์การ์ดไป เดี๋ยวชั้นแวะซื้อของโปรดนารุก่อน " ชิกามารุบอกแล้วทิ้งกุญแจไว้ที่คิบะ
"โอเค งั้นเจอกัน"
แล้วทุกคนก็เคลื่อนพลไปกันที่ห้องชิกามารุ คิบะที่เข้ามาคนแรกก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องเพื่อดูอาการนารุก่อนอย่างแรก
"ชิก้า กลับมาแล้วหรอ อืออออออออออ" นารุจังได้ยินเสียงคนเข้ามาในห้องจึงร้องถามทั้งๆที่ยังคงหลับตาไว้
"ใช่ที่ไหนนารุจัง ชั้นคิบะต่างหาก เป็นไงบ้างดีขึ้นยัง ได้ข่าวเมื่อวานหนักเลยนี่ ชิกามารุบอก"
"อือ เมื่อคืนค่อนข้างหนักอยู่ แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว"
"อ่างั้นเดี๋ยวชั้นเปลี่ยนผ้าให้ใหม่ละกันนะ" คิบะบอก ซาซึเกะที่เข้ามาได้ยินพอดี ยิ่งทำให้เขารุ้สึกแย่กับนารุจังเข้าไปใหญ่
"อะไรกัน ผู้หญิงคนนี้ ใจง่ายไปหน่อยมั้ง เพื่อนแฟนก็ไม่เว้น" ซาซึเกะเอ่ยพึมพำกับตัวเองเบา
"อ้าวซาซึเกะ มาพอดีเลย ชิโนะ กับ โจจิล่ะ "
"ซื้อของอยู่ข้างล่าง มีไรหรือไง"
"ป่าวไม่มี ฝากดูแลนารุจังแปปละกัน ชั้นไปเปลี่ยนผ้าก่อน"
"เออ"
"อืออ ชิก้าาา ปวดดจัง ชิก้าาา ช่วยนารุหน่อย" นารุจังที่กึ่งหลับกึ่งตื่นครางละเมอหาชิกามารุจนทำให้ซาซึเกะยิ่งหมันไส้
"ชิกามารุไม่อยู่ อยู่แต่ชั้นซาซึเกะ ให้ชั้นช่วยแทนมั๊ยล่ะ" ซาซึเกะถามลองใจ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างนั้น ใครก็ได้ เดี๋ยวก็คนผมเงินนั่น เดี๋ยวก็ชิกามารุ ไหนจะคิบะอีก เขาอีกคนจะเป็นไรไป
"อือออ ช่วยหน่อย ไม่ไหวแล้ว ปวดไปหมด" นารุจังตอบกลับมาพร้อมกับเริ่มดิ้นจนน่ากลัว ทำให้ซาซึเกะตกใจรีบจับให้อยู่นิ่งถึงได้รุ้ว่าที่นารุจังหมายถึงมันคืออะไร เขาเข้าใจผิดไป
"ตัวร้อนยังกับไฟเลยแฮะ"
"ซาซึเกะมาทำไรในห้องวะ เห้ย นารุๆ เป็นไงบ้าง ไหวมั๊ยไปหาหมอเถอะ" ชิกามารุที่เพิ่งกลับมาก็ถามซาซึเกะก่อนที่จะเห็นนารุจังที่อาการแย่ลงมาก
"ผ้ามาแล้วๆ เอาไปโปะไว้บนหน้าผากก่อน ไข้สุงไปแล้ว พาไปหาหมอเหอะ" คิบะที่เอาผ้าไปเปลี่ยนมาเสนอ
"นารุไม่ยอมแน่ๆ รายนี้เกลียดโรงพยาบาลยิ่งกว่าอะไรทั้งๆที่รู้อย่างงี้ก็ยังจะดื่มมาก พอดื่มเหล้าทีไรไม่สบายหนักทุกที" ชิกามารุบ่น แต่เป็นบ่นด้วยความเป็นห่วงซะงั้น
"งั้นก็มีวิธีเดียวแล้วล่ะ โทรตามคาคาชิซังมาดูแล หนักขนาดนี้แกดูไม่ไหวหรอก " คิบะเสนอแนอีกครั้ง
หลังจากตกลงกันได้ก็ให้นารุลุกขึ้นมากินราเมงของโปรดเพราะชิกามารุ รู้อยู่ว่าถ้าเป็นอย่างอื่นนารุคงฝืนกินไม่ได้แน่ๆ เมื่อให้กินเสร็จก็จัดยาให้กินแล้วพาไปนอนต่อ รอจนคาคาชิซังมารับกลับไป ทุกคนช่วยกันอย่างรู้งานยกเว้นซาซึเกะ ที่ไม่เคยดูแลใครและไม่ได้สนิทกับนารุมาก่อน เรียกว่าไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำนอกจากเจอกันสองครั้งนั้น เมื่อนารุกลับไปกับคนที่ชื่อคาคาชิอะไรนั่นแล้ว ซาซึเกะจึงถามชิกามารุดูเกี๋ยวกับนารุ ก็ได้ความมาว่านารุจังเป็นเพื่อนสนิทที่รักมาเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ไม่ได้เจอกันนานเกือบห้าปี พอกลับมาก็ยังขี้อ้อนเหมือนเดิมจนเขากับคาคาชิซังที่เป็นพี่ที่เลี้ยงนารุมาแต่เด็กๆเพราะรู้จักกันผ้านอิรูกะซังที่เป็นครูพิเศษ ทำให้ทุกคนต้องคอยดูและเป็นพิเศษ แต่ด้วยความน่ารักและเป็นเด็กดีมาตลอด แม้้จะแก่นบ้าง ง๊องแง๊งไปบ้าง แต่ก็เป็นที่รักของทุกคนที่รู้จักเสมอ ซึ่งข้อนี้ซาซึเกะเห้นด้วยอย่างแรง
และความบังเอิ๊ญบังเอิญก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
บังเอิญชนกัน
บังเอิญไปทางเดียวกัน
บังเอิญเจอกันกันเพราะเพื่อน
บังเอิญ............
นารุมาฝึกงานที่บริษัทของเขา
แต่ด้วยที่ซาซึเกะเข้าใจนารุทุกอย่างแล้ว เขาก็พยายามทำดี เอาอกเอาใจไม่มากเกิน แต่ก็ไม่น้อยจนถึงกับขาดความใส่ใจ เขามารู้ทีหลังว่าคาคาชิซังเป็นเสมือนทั้งพ่อและพี่ชายนารุอีกคน ยิ่งทำให้ทุกอย่างเป็นใจให้เขากล้าที่จะจีบนารุอย่างจริงจัง กว่านารุจะยอมเป็นแฟนก็เกือบสองปีเต็มๆ
แต่ทุกคนก็ย่อมรู้ดี ชีวิตมันไม่ได้แฮปปี้ตลอดแน่ และแน่นอน ในที่สุดช่วงเวลาร้ายมันมักมาในวันที่เราไม่ทันรู้ตัว
"ซาซึเกะ พน.พี่มีนัดประชุมสำคัญกับบริษิทโอโรจิมารุแต่ว่าพี่ต้องไปงานอีกงาน แกไปแทนชั้นทีสิ รายละเอียดเดี๋ยวให้เลขาชั้นเอามาให้" อิทาจิ
"ได้ พน.ชั้นก็ไม่มีนัดอะไรด้วย เดี๋ยวไปแทนให้ละกัน" ซาซึเกะตอบกลับพี่ของตน แล้วทำงานต่อ โดยไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปนัดนารุจังทานอาหารเย็น
โดยซาซึเกะมักบอกนารุจังตลอดว่ามีนัดอะไรกับใครเสมอเพื่อไม่ให้ร่างบางคนนี้น้อยใจเวลาไม่รับโทรศัพท์หรือห่วงเวลาเขาหายไป เป็นอย่างนี้มาตลอด เสมอต้นเสมอปลาย บทสนทนาระหว่างดินเนอร์เป็นไปด้วยดีตลอดจนเขาไปส่งนารุถึงบ้าน
"ซาซเกะ ขอบใจที่มาส่ง รักนะ ฝันดี" นารุจังบอกกับซาซึเกะก่อนจุ้บแก้มลา ให้ตายเถอะ ถึงจะคบกันมาสองปีกว่าแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เคยเลยที่จะล่วงเกินนารุโตะ มากสุดก็จูบกอด หอมแก้ม ไม่มีมากกว่านั้น นับวันๆนารุจังก็ยิ่งทำตัวน่ารักขึ้นๆ เขาจะทนไม่ไหวเอานะ ถึงอย่างงั้นก็เหอะ เขาก็ยังไม่คิดจะทำอะไรไปมากกว่าจูบอยู่แล้ว เพราะรักมาก จึงอยากถนอมที่สุด รอจนถึงวันแต่งงานก็ได้ รอได้เสมอ
"ที่แก้ม มันไม่พอหรอกนะ นา-รุ-จัง " ซาซึเกะค่อยๆเชยคางของนารุโตะขึ้นก่อนมอบจุมพิตที่อ่อนโยน ไม่ละลาบละล้วง แต่ก็ร้อนแรง เนิ่นนานจนคนถูกจูบเริ่มที่จะหายใจไม่ทัน จึงปล่อย
"กู๊ดไนท์คิส ฝันดีครับผม "
การประชุมวันนี้กับโอจิมารุกรุ๊ปเป็นไปด้วยดี โดยบุคคลที่มาประชุมไม่ใช่ท่านประธานบริษัทอย่างโอโรจิมารุแต่อย่างใด แต่เป็นคาบูโตะ และคาริน ลูกของโอโรจิมารุแทน
หลังจากประชุมเสร็จทางฝ่ายคาบูโตะก็เชิญกันไปรับประทานอาหารร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เพราะอีกไม่นาน ทั้งสองบริษัทจะต้องทำงานร่วมกันในโปรเจ็คใหม่นี้ ซึงเขาก็ต้องตอบตกลงตามมารยาท แม้อยากจะไปเจอตัวเล็กของเขาใจจะขาดที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่เมื่อคืน เพราะตอนเช้าเขายังไม่ได้เข้าบริษัทแต่ตรงมาประชุมเลย การรับประทานอาหารครั้งนี้เป็นไปด้วยดี โดยที่ซาซึเกะไม่ได้สังเกตุเลยว่า คาริน พยายามที่จะอ่อย เอ้ย ทอดสะพานให้ซาซึเกะอย่างเต็มที่ แต่เขาไม่ทันรู้สึกเพราะมัวคิดถึงใครอีกคนอยู่
หลังจากนั้น เขาและทางฝั่งโอโรจิมารุก็นัดคุยงานกันบ่อยขึ้น โดยคนที่มาเสมอก็จะเป็นซาซึเกะ โดยที่คารินนั้นพยายามชวนซาซึเกะไปนู้นนี่เสมอจนน่ารำคาญ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเดี่ยวจะส่งผลถึงบริษัท คารินถามเรื่องส่วนตัวเขาบ่อยครั้ง เขาจำต้องตอบเพื่อรักษมารยาทแต่ถึงอย่างนั้น ซาซึเกะก็ทำตัวชัดเจน ว่ามีแฟนแล้ว เพื่อเป็นการบอกอ้อมๆให้คารินเรื่องยุ่งกับเขา จนในที่สุดคารินก็เริ่มห่างออกไป เรื่องพวกนี้เขาไม่ได้บอกนารุโตะแต่อย่างใด เพราะกลัวเจ้าตัวเขาจะคิดมาก และเขาก็ไม่คิดนอกใจแน่นอนจึงคิดว่าไม่บอกน่าจะดีกว่า บอกแค่คุยงานเพื่อให้นารุจังสบายใจคงดีสุด
ทางฝ่ายคาริน ตั้งแต่เจอซาซึเกะคุงครั้งแรก เธอก็รู้สึกอยากจะครอบครัวผู้ชายคนนี้มาก เธอพยายามทำทุกทางเพื่อให้เขาหันมามอง มาสนใจเธอ แต่มันก็ไม่ได้ผลสักวิธี เอาเรื่องงานมาอ้างก็แล้ว ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน เธอพยายามถามถึงสเปคของเขา ถามความรู้สึก แต่ดูเหมือนฝ่ายนั้นจะมีแฟนแล้ว ซึ่งเธอทำทีเป็นยอมถอยออกมา
แต่เรื่องอะไรชั้นจะยอมปล่อยผู้ชายคนนี้ไปล่ะ หลังจากนี้ ซาซึเกะคุงต้องเป็นของชั้นคนเดียว เธอจ้างนักสืบตามเรื่องซาซึเกะและแฟนของซาซึเกะทั้งหมด
หลังจากนั้น เธอพยายามทำทุกอย่างให้ความสัมพันธ์ฝ่ายนั้นร้าว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเลยสักนิด ซาซึเกะกับนารุโตะรักกันและเชื่อใจกันอย่างมาก จนเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคงต้องใช้ยาอย่างเดียว
วันนี้ซาซึเกะมีความสุขแต่เช้า นารุที่มารู้เรื่องคารินทีหลังก็เข้าใจเขา เชื่อใจเขา แถมค่ำวันนี้นารุจังจะมาที่ห้องเขาเพื่อทำอาหารให้เขาในรอบสามเดือนเลยที่ไม่ได้มาหาเขาที่ห้อง ขณะที่กำลังคิดเพลินๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาจึงเอ่ยตอบให้อีกฝ่ายเข้ามาได้
"คุณซาซึเกะคะ วันนี้ตอนเย็น คุณอิทาจิบอกให้คุณไปคุยงานกับคุณคารินแทนที่ภัตาคารโรงแรมxxx นะคะ " เมื่อซาซึเกะได้ยินก็เปลี่ยนจากอารมณ์ดีๆมานิ่งทันที เขาไม่อยากจะเจอกับผู้หญิงคนนั้นเลย แต่อย่างนั้นเขาก็ทำได้แค่เพียง ตอบตกลงไป เขาต้องแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออก ก่อนที่จะโทรไปบอกนารุจังว่าวันนี้คงกับช้าเพราะต้องไปคุยงานกับบริษัทโอโรจิมารุ เวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลานัดคุยงาน ครั้งนี้มีแต่คารินมาคนเดียว ปกติ คาบูโตะ หรือคนอื่นจะมาด้วย ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจ การคุยก็ดำเนินไปเรื่อยๆ คารินก็พยายามที่จะเกาะแกะเขาจนรำคาญ จึงขอตัวไปห้องน้ำเพื่อสงบอารมณ์ความรังเกียจที่มี
หลังจากกลับมาคารินก็สงบเสงี่ยมขึ้น คิดว่าน่าจะเพราะคงเริ่มรู้ตัวว่าทำให้เขารำคาญละมั้ง อาหารที่สั่งไว้ก็มาเสริฟแล้ว เขาไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่เพราะอยากจะกลับไปกินฝีมือออีกคนที่รออยู่ที่ห้องมากกว่า ถึงอย่างนั้นเขาก็ตองทานพอเป็นมารยาทอยู่ดี เขาทานไปนิดหน่อยแล้วดื่มไวน์ซะส่วนใหญ่
แต่แล้วความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มพวยพุ่งขึ้นมา เขารู้สึกต้องการอย่างที่สุด และพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"อึก คะ คาริน เธอ " ซาซึเกะ พยายามอย่างมากที่จะกดความรู้สึกนี้ลง โดยมีคารินพยายามที่จะพาเขาออกจากภัตคารไปที่ลิฟ์ ตอนนี้สมองเขารู้สึกว่าง เบลอ อยาก ต้องการปลดปล่อยอย่างถึงที่สุด เขารังเกียจหญิงสาวคนนี้ แต่ร่างกายเขากับไม่ยอมเป็นดังใจ ตอนนี้เขาแทบจะทนไม่ไหวอยุ่แล้ว มือไม้เริ่มสะเปะสะปะจะดึงคนข้างๆเข้ามาซึ่งสาวเจ้าก็เสนอตัวอย่างมาก ตอนนี้คารินก็พาเขาเข้ามาในห้องพร้อมถอดเสื้อผ้ายั่วเขา เขาที่ตอนนี้เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ก็เริ่มไม่สนอะไรอีกแล้ว ดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดนัวเนียต้นคอก่อนเงยหน้าขึ้นไปเพื่อจะพรมจูบ แต่เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายเขาก็มีสติขึ้นมาได้ เห็นนารุจังต้องเสียใจถ้าเขาทำเรื่องแบบนี้ไป จึงผลักคารินออกไปอย่างแรงก่อนรวบรวมสติและแรงทั้งหมดที่ยังพอจะครองไว้ได้หนีออกจากห้องมาเพื่อกลับห้อแทน โชคดีที่คอนโดเขานั้นอยู่ใกล้ๆขับรถแปปเดียวถึง แต่เมื่อถึงห้องเขาก็ต้องเจอกับปัญหาใหม่ นารุจังอยู่ในห้องรอเขากลับมา เขาแทบจะวิ่งปรี่ไปดึงอีกคนเข้ามาพรมจูบกอด จนนารุจังที่ไม่ทันตั้งตัวมึนงงและตกใจไปหมด
"ซะ ซาซึเกะ เป็นอะไรหรือป่าว" เสียงของนารุจังเรียกสติเขาอีกครั้ง เมื่อสติกลับมายิ่งรู้สึกผิด แต่แรงอารมณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็พลุ่มพล่านร้อนแรงเกินกว่าเขาจะห้ามได้ จึงต้องวิ่งเข้าห้องน้ำเปิดน้ำเย็นรดตัวอยู่อย่างนั้น
"ซาซึเกะ" นารุส่งเสียงเรียกด้วยความเป็นห่วง
"อะ ออกไป " เสียงซาซึเกะแหบพล่าสั่นจนน่ากลัว
"ซาซึเกะ เป็นอะไร ทำไม" นารุจังที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่
"ชั้นบออก ให้ออกไป !! อึก " เสียงต่ำแหบพล่าเอ่อออกมาอีกครั้งแต่รุนแรงกว่าเดิม พร้อมเสียงหอบหายใจจนน่ากลัว น้ำเย็นที่เปิดค้างไว้ ทำให้ร่างกายสั่นจากความหนาว แต่ข้างในกลับรุมร้อนเกินกว่าจะรู้สึกถึงความหนาว
"ไปได้ไง ถ้านายดูแย่ขนาดนี้" นารุที่ห่วงก็พยายามที่จะเ้ขาไปหา
"ไม่ ออกไป อึก ชั้นโดนยาปลุก อ๊ากก" เสียงที่พยายามเปล่งออกมาอย่างลำบาก เพื่อเตือนให้อีกคนอย่าเข้ามา ยิ่งนานเข้ายิ่งหอบหายใจจนน่ากลัว น่าห่วง
"ซาซึเกะ... " นารุจังได้ยินดังนั้น ก็ยิ่งห่วง และตัดสินใจเดินเข้าไปกอดซาซึเกะไว้
"ไม่เป็นไรๆ ซาซึเกะ ไม่เป็นไร ถ้าเป็นนาย...ถ้าเพื่อช่วยนาย ชั้นยินดี"
เมื่อซาซึเกะได้ยินดังนั้น ฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดผึง หากเป็นคนอื่นเขาอาจจะพอยับยั้งใจตัวเองได้ แต่ ถ้าเป็นนารุจังแล้ว เขาคงคุมสติตัวเองไม่อยู่แน่
"นารุจัง... " ซาซึเกะพูดเพียงเท่านั้น ก่อนดึงร่างบางเข้ามาบรรจงจูบจากอ่อนโยน แปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงแรงขึ้น มื้อไม้เขาสะเปะสะปะไปมา ลูบคลำไปทั่วร่างของร่างเล็ก ก่อนอุ้มนารุเข้าไปที่ห้องนอน แล้วก็ทำทุกอย่างไปตามแรงอารมณ์และสัญชาติญาณ
....................................................................................................................
เช้าวันรุ่งขึ้น ซาซึเกะที่ตื่นก่อนก็ได้แต่อมยิ้ม นอนมองนารุจุงที่อยู่ในอ้อมแขนเขาอย่างอ่อนโยน
" รักนะ นารุจัง" พร้อมกระซิบเบาๆเพื่อบ่งบอกถึงความรักที่เขามีให้ แต่อีกใจเขาก็รู้สึกผิด เพราะเขาหวังที่จะถนอมเธอไว้ แต่กลับทำรุนแรงเกินไปจนได้ จะเพราะฤทธิ์ยา หรือรวมกับความปราถนาในตัวนารุจากใจเขา เขาก็ได้เผลอทำรุนแรงไปแล้ว ได้แต่หวังว่าร่างบางนี้จะไม่บอบชำ้เกิน
"อรุณสวัสดิ์ ตื่นแล้วหรอ นารุจัง " ซาซึเกะที่เห็น นารุจังของเขาตื่นก็เอ่ยทัก
"อ่า .. อะ อรุณสวัสดิ์"นารุ ที่เพิ่งตื่นเมื่อตั้งสติได้ก็ ตอบกลับไปอายๆ ยิ่งนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนหน้าก็ยิ่งร้อนผ่าว
ซาซึเกะที่เห็นปฏิกิริยาอย่างนั้นก็อดที่จะดึงพลิกตัวนารุโตะให้ขึ้นมานอนบนตัวเพื่อจะกอดแน่นๆไม่ได้
"หวาาา" นารุจังที่ยิ่งโดนจับให้มานอนบนตัวซาซึเกะก็ยิ่งอายจนเอาหน้าซุกเข้าที่อกของซาซึเกะเพื่อหลยสายตาที่หวานซึ้งจากซาซึเกะ โดยลืมไปสนิทว่าตอนนี้เขาทั้งสองไม่มีอะไรคั่นระหว่างกันเลย เนื้อแนบเนื้อสุดๆยิ่งทำให้นารุเขินหนักกว่าเก่าไปอีก
ซาซึเกะที่เห็นท่าไม่ดี กลัวจะเผลอพลั้งทำอะไรไปอีกก็เลยจัดแจงอุ้มนารุลงจากตัวแล้วรีบปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ แต่เมื่ออกมาก็แปลกใจเพราะคิดว่านารุจังน่าจะลุกมาแต่งตัวแต่กลับยังคงนอนอยู่ที่เดิม
"เอ่อ นารุจังเป็นอะไรหรือป่าว" ซาซึเกะที่แต่งตัวแล้วเดินเข้าไปนั่งที่ที่นอนพร้อมถาม
"คือ..เจ็บจนลุกไม่ไหวอ่ะ" นารุจังที่พยายามจะลุกแต่ก็เจ็บแปปจากกิจกรรมเมื่อคืน ตอบอย่างอายๆ
ซาซึเกะที่ได้ยินดังนั้นก็แอบรู้สึกผิด วันนี้ทั้งวันซาซึเกะจึงลางานแล้วมาดูแลนารุทั้งวัน
วันเวลาผ่านไปหลังจากเรื่องราวในวันนั้น
ซาซึเกะก็ได้แต่งงานกับนารโตะ จนเป็นข่าวดังไปทั่ว
ทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขโดยที่ไม่เคยตาดคิดมาก่อน
ไม่ว่าเป็นเพราะความบังเอิญที่เกิดขึ้นทำให้เขาได้พบกัน ได้รุ้จักัน ได้รักกัน
หรือเป็นเพราะโชคชะตา ที่ทำหน้าที่ให้เขาได้อยู่ร่วมกันแบบนี้
แต่ก็ต้องขอบคุณกระดาษหนึ่งแผ่นในวันนั้น และความซุ่มซ่ามของเธอคนนี้ ที่ทำให้เราได้เจอกัน
-----------------------------------------------------------------------
จบแล้วฮะผม ดองยาวนานมาก แถมตัดจบดื้อ5555+ หวังว่าคงจะชอบเรื่องนี้กันนะฮะ
แถมรูปนารุจัง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น