ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Naruto ] โอ๊ะโอ!! รักนายได้มั้ยนายพี่เลี้ยง

    ลำดับตอนที่ #45 : :: Oh oh...Chapter 43::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.68K
      16
      16 มิ.ย. 58





    ________________________________________________________________________________






    Oh oh...Chapter 43

    ความลับที่ต้องเปิด

    100% แลวจ้า~






              “นารุจางงงง~~”น้ำเสียงตะแง้วๆดังมาแต่ไกลพร้อมกับร่างเล็กๆนุ่มๆจะพุ่งเข้ามารัด(?)ผม เม็นมะนั่นเองและตามมาด้วยพี่อิทาจิที่กำลังเดินเข้ามาในโรงซ้อมเคนโด้พอดี

              “นารุจังปลอดภัยดีใช่มั้ยอ่า เนี่ยๆเค้าให้คุณอิทาจิเหยียบมิดมาเลยน้า”ว่าแล้วก็เอาหัวกลมๆไถแขนผมอย่างออดอ้อนโดยไม่สนสายตาซาสึเกะ ที่ตอนนี้ทำหน้าอย่างกับอยากจะเอาดาบไม้ไผ่มาฟาดเจ้าคนที่เกาะแกะผมเสียเต็มประดา

              “ยังอยู่ดี ยังไม่บุบสลายตรงไหน”

              “อ้า..ดีจัง เค้าเป็นห่วงนารุจังมากๆเลยนะ”ดวงตากลมโตของเขามองมาอย่างเป็นห่วงอย่างที่เจ้าตัวบอกจริงๆ แต่ว่าแววตานั้นกลับดูเหมือนว่ามีเรื่องปิดบังอยู่

              “เม็นมะ”

              “หืม?”

              “เม็นมะมีอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า?”เม็นมะสะดุ้งน้อยๆก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน ท่าทางเหมือนไม่อยากจะบอก อันที่จริงผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบซักไซ้เรื่องส่วนตัวของใครหรอกนะครับ แต่ว่าเรื่องนี้มันทำผมเกือบซวยไปแล้วเลยความจำเป็นที่จะต้องรู้ให้ได้ และผมก็คาดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องสำคัญด้วย

              “เค้าไม่ได้อยากจะโกหกนารุจังหรอกนะ แต่มันจำเป็น...”

              “จำเป็นขนาดไหนหะไอ้เตี้ย ทำนารูโตะเกือบซวยน่ะ”ซาสึเกะที่รู้เรื่องจากผมแล้วเอ่ยออกมา ผมก็ได้แต่ปรามเขาไม่ให้พูดไปมากกว่านี้ บางทีเม็นมะเขาอาจะมีความจำเป็นที่บอกใครไม่ได้ก็ได้

              “พอจะบอกนารุจังได้มั้ย เอาแค่บางส่วนก็ได้ถ้านายไม่อยากจะบอกมันทั้งหมด”จนใจจะคะยั้นคะยอครับ...เข้าใจม่ะ แบบว่า..ใจอ่อนง่ะ ก็มีเด็กตัวผอมๆบางๆตาโตๆมาทำสีหน้าลำบากใจได้โมเอ้สุดๆแบบนี้จะไม่ใจอ่อนได้ยังไงกันล่ะ??

              “อือ...เค้าจะบอกนารุจังทุกอย่างเลย โทษฐานที่ทำให้นารุจังพลอยติดร่างแหไปด้วย”

              “อื้ม งั้นก็เล่ามา”


              แล้วเจ้าตัวก็เล่ามาครับ...

              เม็นมะเป็นลูกชายนักการเมืองมีชื่อคนหนึ่งซึ่งกำลังจะแต่งงานใหม่เพราะคุณแม่ของเม็นมะนั้นเสียชีวิตตั้งแต่เจ้าตัวนั้นยังเล็ก แต่เขาไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยประชดชีวิตหนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 12 สะโหลสะเหลไปมาอยู่ได้สักพักจนกระทั่งไปเจอะกับไอ้สารเลวโทบิตอนอายุ 14 (เล่าถึงตรงนี้พี่อิทาจิถึงกับเส้นเลือดแถวขมับปูดโปน) แล้วก็หนีมันมาได้(อันนี้ผมมั่นใจว่าเม็นมะจงใจเล่าข้ามๆส่วนนี้ไปเพราะไม่อยากจะรื้อฟื้นด้วย) จนจับพลัดจับพลูมาอยู่กับผมเจ้าตัวก็ยังคงหนีไม่ติดต่อที่บ้านอยู่ดี

              จนกระทั่ง...ตอนนี้..

              ถึงขั้นส่งลูกน้องมาแบบนี้

              กลับบ้านเถอะเม็นมะ อิโตะคนนี้อยากจะเอ่ย!!

              “แล้วทำไมไม่กลับไปหาเขาล่ะ เขาอาจจะเป็นห่วงอยู่ก็ได้”ผมว่าเม็นมะรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งอมลมแก้มป่องคิ้วขมวดมาเป็นเซ็ต

              “ไม่เอาด้วยหรอก ตัวเองแต่งงานใหม่มีความสุขไปแล้วแท้ๆ ยังจะมายุ่งกับเค้าทำไม กลับไป..ยังไงซะก็เป็นแค่ส่วนเกินก็เท่านั้นแหละ!”

              “ไม่จริงหรอก การที่เขาส่งลูกน้องออกมาตามแบบนั้นก็แสดงว่าเขาเป็นห่วงเธอนะ”คราวนี้พี่อิทาจิเสริมบ้างเผื่อเจ้าตัวจะยอมฟัง

              “คุณอิทาจิไม่รู้อะไรไม่ต้องมาพูดเลย ผมไม่ฟังหรอก”ขนาดพี่อิทาจิยังเอาไม่อยู่เลยแหะ เวรกรรมจริงๆ..

              “โถ..ไอ้เตี้ยเป็นเด็กมีปัญหางั้นหรอเนี่ย น่าสงสารจริงๆ”ถ้อยคำเหน็บแหนมน้จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก...

              “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองนะไอ้หัวตูดเป็ด”

              “ห๊า!?”

              ...แล้วก็มหกรรมหมากั— เอ้ย! เด็กตีกันก็บังเกิดขึ้น

              เหนื่อยใจกับสองคนนี้จริงๆ


     

              สุดท้ายพวกเราก็ต้องรอจนกว่าซาสึเกะจะเลิกเรียน ไม่ใช่เพราะต้องการจะรอมันเลิกหรอกครับ ผมแค่รอให้ชายชุดดำพวกนั้นกลับไป แล้วตัวผมถึงได้ค่อยๆจรลีหนีกลับบ้านโดยสวัสดิ์ภาพ ตอนนี้ผมจะปลีกตัวกลับบ้านทุกคนก็ลงความเห็นกันว่ามันเสี่ยงเกินไป ไอ้ผมตอนแรกก็ไม่คิดเออออห่อหมกด้วยหรอก แต่เม็นมะดันบอกมาว่าพ่อของเขาสายตากว้างไกล กว่าเจ้าตัวจะหลบได้ก็ลำบากแทบแย่ จนตอนนี้มาเจอตัว(คนที่คล้ายๆ)แล้ว คงจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ

              ได้ยินดังนั้นอิโตะคนนี้ก็ต้องเซย์เยสเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆเลยครับ

              เพราะงั้น...

              นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมต้องมาสิงสถิตอยู่ที่โคตรบ้านอุจิฮะต่อไป

              ...ลุงจะคิดถึงผมบ้างมั้ยนะ? ..ก็ไม่ได้เจอหน้ากันหลายวันแล้วนี่

              (อีกด้านหนึ่งคือจิไรยะทำลายสถิตินอนข้ามวันข้ามคืนอยู่ หลังจากช่วงที่หลานชายไม่อยู่ตัวเองทนหลังขดหลังแข็งปั่นนิยายจนเสร็จ)

              “คืนนี้นารูโตะนอนกับฉันนะ!”เท้าแตะพื้นบ้านไอ้หัวตูดเป็ดก็เอ่ยปากขึ้นมาทันที นี่กะดักไม่ให้คุณซากุระที่มารอรับกระเป๋าไม่ให้ไปเตรียมห้องใช้มั้ย!?

              “เม็นมะคืนนี้ก็นอนกับฉันเหมือนเดิมนะ”พี่อิทาจิก็เอาอีกคน

              “ก็ปกติก็นอนด้วยอยู่แล้วยังจะพูดทำไมอีกเนี่ย!”ว่าจบก็ตีไปด้วยความเขินอายหนึ่งเพียะแรงๆก่อนเจ้าตัวจะเดินนำลิ่วๆหนีไป คนที่โดนผ่ามือพิฆาตก็ได้แต่ยิ้มเล็กยิ้มน้อยอย่างชอบอกชอบใจก่อนจะรีบเดินตามไปทีหลัง

              “พี่นายท่าจะหลงเม็นมะเอามาก”

              “คงงั้น ก็เห็นประคมประหงมเช้า กลางวัน เย็นเชียวล่ะ”

              “อ้อ...น่าอิจฉาจังน้า”

              “อยากได้แบบนั้นบ้างหรอ?”เจ้าหัวตูดเป็ดว่าแล้วก่อนจะส่งยิ้มกริ่มๆมาให้ผม ผมได้แต่ทำหน้าปลาตายใส่เขาก่อนเอาสันมือตีเข้าที่กลางหัวด้วยแรงไม่น้อยทำเอาเจ้าตัวร้องจ้าก แล้วผมจึงเดินหนีมันขึ้นห้องทันที

              ถามว่าหนีไปห้องใครหรอ?

              ก็ห้องเจ้าเด็กเปรตน่ะสิ จะไปห้องไหนได้ล่ะ?

              จะไปห้องพี่อิทาจิก็กลัวว่าจะไปเจอภาพที่ไม่ควรเห็นเข้า เกิดถ้าเข้าไปแล้วดันไปขัดจังหวะสวีทของทั้งสองคนขึ้นมาทำไงอ่ะ? เอ้อ...


              เมื่อมาถึงห้องผมก็ทิ้งตัวกลิ้งปาบนเตียงคิงไซส์นุ่มๆทันที บิดขี้เกียจเล็กน้อยประหนึ่งว่านี่คือบ้านตัวเอง 5555+ สักพักซาสึเกะก็ตามเข้ามา เจ้าตัวยังคงเอามือลูบหัวน้อยๆราวกับว่ามันเจ็บไม่หาย

              “ลูบอยู่นั่นแหละ ฉันไม่ได้ทำแรงขนาดนั้นซะหน่อย”...มั้งนะ!

              “ใครว่ากันล่ะ เจ็บมากๆเลยเนี่ย ไม่รู้ว่าหัวจะโนหรือเปล่า”ว่าแล้วก็ทำหน้ามุ่ยน้อยๆก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนเตียงข้างๆผม ผมยันตัวลุกขึ้นว่าจะเข้าไปดูผลงานที่ตัวเองทำ ยังไม่ทันจะแหวกผมดูหัวมัน...ไอ้เด็กเปรตก็รวบตัวผมก่อนจะดึงให้นอนไปด้วยกัน

              “แก!...ไอ้หัวตูดเป็ด!! เจ้าเล่ห์นักนะ!! อย่างนี้มันน่าตีให้หัวแตก”ปากกว่าจะตีให้หัวแตกแต่สิ่งที่ผมทำคือดิ้นครับ แต่ไอ้บ้านี่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะปล่อยสัก ใบหน้าของซาสึเกะซุกอยู่ที่ผม ไอ้โตะคนนี้ก็ได้แต่จนใจเอามือไปลูบหัวเบาๆ นิ้วมือสอดเข้าไประหว่างเส้นผมที่ชื้นน้อยๆเพราะเหงื่อ

              งืม...นุ่มดี

              ให้ความรู้สึกเหมือนลูบหัวหมาเลยว่ะ 5555+

              โทษทีนะซาสึเกะ

              “นารูโตะ”หมาที่ซุกท้องอยู่เรียกทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าจากท้องผม

              “อะไร”ผมก็ถามกลับ

              “จูบได้มั้ย”

              “.....”ไอ้โตะนี่แดกจุดเลยครับ

              แม่งงงงงงงง มาขออะไรง่ายๆแบบนี้วะ! ของ่ายอย่างกะขอลูกอม!!

              “แล้วถ้าไม่ให้ล่ะ?”อย่าว่างั้นว่างี้ไหนๆก็เป็นแฟนกันแล้วไอ้ให้จูบน่ะ ให้ได้อยู่แล้วล่ะ แต่ก็ขอเล่นตัวหน่อยเหอะ ผมชอบเห็นตอนที่ซาสึเกะมันถูกผมขัดใจ มีความสุขพิลึกดี

              “ก็จะตื้อให้ได้”

              “หรอ”

              “อื้อ...ตกลงจะให้จูบมั้ยอ่ะ”

              “ก็เงยหน้าขึ้นมาจากพุงฉันก่อนสิ”พูดจบคนที่เอาหน้าซุกพุงผมก็เงยหน้าขึ้นมา ผมก็จัดการจุ๊บเหม่งมันไปที ซาสึเกะทำหน้าติดว่าจะอึ้งน้อยๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้ามุ่ยแทน

              “ไม่เอาแบบนี้อ่ะ”

              “แล้วจะเอาแบบไหนล่ะ”รู้อยู่หรอกว่ามันจะเอาแบบไหน แต่ไม่ยอมง่ายๆให้เสียเชิงชายหรอกเว้ย! ฮ่าๆๆๆ

              “เอาแบบปากจูบปากอ่ะ ไม่เอาแบบแตะกันนะ แบบนั้นมันไม่ถึงใจ”แหม...ฟังแล้วอยากจะเอารองเท้าเบอร์ 39 กระแทกปากมันจังครับ เฮ้อ...

              ผมเอามือประคองหน้ามันขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดียวกันก่อนจะประกบจูบลงไป ซาสึเกะนิ่งไปสักพักก่อนจะฝ่ายเริ่มชักนำให้ผมหลงตามกับท่วงทำนองรสจูบหวานๆนั่น ใบหน้าคมของคนตรงหน้าผละออกก่อนจะเปลี่ยนมุมประกบเข้ามาใหม่ไม่เว้นวรรคให้ผมได้หายใจหายคอเลยสักนิด

              แต่ผมก็ต้องยอมๆมันไปล่ะครับ ก็นั่นแฟนนี่

              มือหนาของเจ้าตัวที่อยู่ข้างหลังผมชักจะขยับขึ้นลง แต่ที่หนักที่สุดคือมือข้างนึงของวันกำลังเลิกผมขึ้นพร้อมกับท่อนล่างที่เริ่มเบียดชิดเข้ามา

              แม่งมีอารมณ์แล้วนี่หว่า ซวยล่ะ!!

              “อื้อ..อือ ซาสึ...งื้อ”ไม่ปล่อยผมง่ายๆด้วยแน่ะ ริมฝีปากของซาสึเกะยังคงพรมจูบผมไปเรื่อยๆ เวียนไปที่หน้าผาก จมูก แก้ม คางแล้วก็จบที่ริมฝีปาก โดยที่มืออีกข้างที่ก็ลูบไล้แผ่นหลังให้ผมสยิวเล่นไม่เลิก

              “ซาสึเกะ...อื้ม ซาส..โว้ยยยยยยยยยย!!!!”


              พลั่ก!!

              ตุ้บ!


              เนื่องจากมือที่ซุกซนของมันเริ่มที่จะทำให้ผมรู้สึกถึงอันตรายที่ผมคาดว่ามันจะตามมา ผมก็จัดการรวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย(?)ก่อนจะหลงไปกับมันมากกว่านี้ ผมก็จัดการยันโครมมันตกเตียงลงไปทันที

              “ไสหัวไปนอนกับพี่อิทาจิเลยไป!!”

              ว่าจบผมเดินออกจากห้องซาสึเกะไปยังห้องพี่อิทาจิทันที เคาะประตูพอเป็นพิธีก่อนจะขอพี่อิทาจิให้เม็นมะมานอนกับผมแล้วก็ให้พี่เขานอนกับน้องชายตัวเอง พี่อิทาจิทำสีหน้าแอบไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ต้องยอมแพ้เม็นมะที่กำลังทำหน้าอ้อนอย่างสุดฤทธิ์

              และสุดท้าย...ไอ่โตะกับเม็นมะก็ Win ครับ

              แล้วสองศรีพี่น้องก็ต้องทนนอนห้องเดียวกันไปนะคืนนี้~




    ________________________________________________________________________________

    The End!!


    มาอัพแล้วค่าาาาา!!~

    ขอโทษที่หายไปนายเพราะแอบตัน(ไม่แอบมั้งแบบนี้) ไม่มีคำแก้ตัวเลยค่าU_U

    ผิดจริง ผิดจัง ผิดเต็มๆเลย ปิดเทอมแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมมาอัพ ขอโทษนะค้าาาา(>/l\<)

    วันนี้มาสอบถามความคิดเห็นหน่อยค่า อาบิว่ากำลังจะรวมเล่มฟิคเรื่อง 
    Got a married ? คู่นรกสวรรค์
    (เข้าไปอ่านชิมลางได้ที่นี่ >> 
    http://my.dek-d.com/-narutokung-/writer/viewlongc.php?id=733582&chapter=27)

    แล้วก็รีปริ้นท์เรื่อง I love You, Baby I'm not a Monster... น่ะค่ะ

    ทำแบบสอบถามจิ้มที่นี่เบย >>> 
    http://goo.gl/forms/nFWgR1TMtS

    ไม่รู้มีใครสนใจมั้ย หรือถ้าคนสนใจน้อยก็คงจะไม่ทำอ่ะค่ะ อาบิกลัวไม่ทันเพราะอีกเดือนครึ่งก็จะเปิดเทอมละ และอาบิต้องกลับไปหอตั้งแต่ต้นสิงหาอ่ะค่ะ

    ถ้าถามอาบิ..ใจจริงก็อยากทำนะคะ แต่กลัวอยู่สองอย่างคือ ไม่มีเวลา กับไม่มีคนซื้อ เอื้อกกกกก...

    งืม..เริ่มยาวล่ะ ทิ้งท้ายก่อนจากอย่าลืมไปทำแบบสอบถามกันนะคะ

    ตอนนี้ก็บายบีค่า^^


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×