ฮอกวอตส์ - ฮอกวอตส์ นิยาย ฮอกวอตส์ : Dek-D.com - Writer

    ฮอกวอตส์

    ฮอกวอตส์ของเจนีวา

    ผู้เข้าชมรวม

    186

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    186

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 มี.ค. 55 / 23:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ฮอกวอตส์

      ที่ชานชลาเก้าเศษสามส่วนสี่ ครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่งเพิ่งวิ่งออกมาจากกำแพงตันๆ แล้วมุ่งไปที่รถไฟหัวจักรไอน้ำซึ่งส่งเสียงซู่ซ่าและพ่นไอน้ำออกมาเกือบตลอดเวลาครอบครัวนั้นประกอบด้วยพ่อชายวัยกลางคนผมสีน้ำตาลแดง แม่หญิงสาวร่างสูงผมสีทอง ฝาแฝดชายผมทองร่างสูงผึ่งผายเดนิสกับบาสแตร์ เด็กหญิงผมสีน้ำตาลแดงม้วนเป็นลอนสวยเจนีวา และน้องชายผู้มีผมสีน้ำตาลแดง นัยน์ตาสีฟ้าสดใสสแกนดาร์ ทั้งหมดคือครอบครัวเวนิส

      รอบข้างเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยกันจนฟังไม่ได้ศัพท์ พ่อแม่ต่างมาส่งบุตรทั้งหญิงชายสำหรับการเรียนอันยาวนานที่ฮอกวอตส์ โรงเรียนพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์แห่งเกาะอังกฤษ

      ผู้เป็นแม่ก้มลงจัดปกเสื้อให้เด็กหญิง

      “เดี๋ยวแม่จะเขียนจดหมายหานะ” เธอบอกลูกสาว ผู้เข้าฮอกวอตส์เป็นปีแรก สำหรับพี่ชายของเธอพวกเขาอยู่ปีสาม น้องชายจะเข้าฮอกวอตส์ในปีหน้า “แม่จะเขียนจดหมายหาทุกอาทิตย์เลย”

      “ไม่เป็นไรค่ะ แม่ สองอาทิตย์เขียนมาฉบับหนึ่งก็ได้” เด็กหญิงบอก ลูบผมข้างๆที่ชอบกระดกเสมอ แล้วมองรอบๆอย่างหวาดหวั่น

      “ไม่เป็นไร เจนีวา” เดนิสตบไหล่น้องสาวเบาๆ “เธอต้องได้อยู่กริฟฟินดอร์แน่นอน”

      เดนิสอยู่บ้านกริฟฟินดอร์เหมือนพ่อกับแม่ ทั้งสองเป็นมือปราบมารที่เก่งกาจและมีชื่อเสียง

      “คนฉลาดอย่างเธออยู่เรเวนคลอจะเหมาะกว่านะ” บาสแตร์สวนขึ้นมาทันควัน เขาอยู่เรเวนคลอ เขาเป็นคนที่ผ่าเหล่าผ่ากอ เพราะญาติฝ่ายแม่อยู่บ้านกริฟฟินดอร์ตลอดมา ฝ่ายพ่อมีบ้างที่อยู่เรเวนคลอ

      “ผมว่าพี่น่าจะได้อยู่ฮัฟเฟิลพัฟ” สแกนดาร์เอ่ยขึ้นเสียงสดใส พ่อหัวเราะ

      มีเสียงนกหวีด บอกเวลาว่ารถไฟใกล้ออกแล้ว

      “มาเถอะ” เดนิสชวน “บาสแตร์นายเองก็มาช่วยฉันยกกระเป๋าน้องขึ้นรถไฟด้วยสิ”

      เจนีวาแหย่นิ้วเข้าไปในกรงนกฮูก นกฮูกหนุ่มสีทองตัวโตขบนิ้วเธออย่างรักใคร่

      “ตั้งใจเรียนนะลูกรัก” ผู้เป็นแม่บอก “ไม่ว่าลูกจะอยู่บ้านไหน มันไม่สำคัญหรอกนะ แต่แม่ก็หวังให้ลูกอยู่บ้านกริฟฟินดอร์นะ”

      เฮเลนวิลเลี่ยมเอ็ดอย่างขบขัน “ขึ้นรถไฟได้แล้วล่ะ เจนีวา พวกพี่ๆคงรออยู่บนรถไฟ”

      เจนีวากอดพ่อกับแม่และน้องชายแล้วเดินไปที่ประตู ก่อนจะขึ้นรถไฟเธอหันไปหาพ่อกับแม่แล้วโบกมือให้ เมื่อเธอหันกลับก็ชนปังเข้ากับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง

      เขาเป็นคนผอม ผมดำ สวมแว่นตา และมีสีตาสีเขียวสดใส เขาจับแว่นที่หล่นเพราะแรงชนอย่างรวดเร็ว

      “ขอโทษนะ” เจนีวาบอก

      “ไม่เป็นไร” เขาพูดแล้วยิ้ม

      เธอยื่นมือออกไป “ฉันเจนีวา เจนีวา เวนิส (ไม่ต้องถามนะว่าฉันเกิดที่ไหน) ฉันมาฮอกวอตส์ครั้งแรก”

      เขายื่นมือมา “สวัสดี ฉันแฮร์รี่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ฮอกวอตส์ครั้งแรกเหมือนกัน”

      “โอ้โห!” เจนีวาร้อง “งั้นเป็นความจริงน่ะสิ”

      “อะไรเหรอ” แฮร์รี่ถามดูงุนงงไม่น้อยเลยทีเดียว

      “เธอมีชื่อเสียงจะตายไป เด็กชายผู้รอดชีวิต ไม่เคยได้ยินคำนี้เลยเหรอ เธอสามารถสยบคนที่คุณก็รู้ว่าใครได้” เจนีวาบอก เหลือบมองรอยแผลเป็นรูปสายฟ้า “โอ๊ะ โทษทีนะ ฉันต้องไปแล้ว ฉันหวังว่าเราจะได้อยู่บ้านเดียวกันนะ แฮร์รี่”

      เจนีวากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาพี่ชายฝาแฝด แล้วเข้าไปในห้องรถไฟ “เมื่อกี้หนูเจอแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วย! เขามีจริงๆ รอยแผลนั่น”

      ฝาแฝดมองหน้ากัน “แฮร์รี่ พอตเตอร์เหรอ” บาสแตร์ทวนชื่อนั้น “เขาอยู่กับครอบครัวมักเกิ้ลมาตลอดชีวิต ไม่ใช่เวทมนตร์เสื่อมไปแล้วเหรอ”

      “เวทมนตร์ไม่มีทางเสื่อมหรอก” เดนิสบอกอย่างรู้ดี “ฉันว่าเขาคงเข้าเรียนจริงๆล่ะ พ่อแม่ออกจะเก่งปานนั้น แม่ของเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นของลิลี่ พอตเตอร์นะ ตอนได้ข่าว แม่บอกว่าแทบไม่อยากเชื่อเพราะลิลี่ พอตเตอร์เป็นแม่มดที่เก่งฉกาจมาก”

      เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนของเดนิสกับบาสแตร์ตามมาสมทบ ทั้งห้ากินอาหารจากรถขายของบนรถไฟ พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เพื่อนของบาสแตรชื่อโอเว่น เพื่อนของเดนิสชื่อเจค พวกเขาบอกทางลับของฮอกวอตส์ให้เธอ ทุกคนสนุกมากจนกระทั่งประตูเปิด เด็กหญิงผมหนาฟันหน้าใหญ่ผิดปกติโผล่หน้าเข้ามา เธอทำให้บาสแตร์ถึงกับสำลักเลยทีเดียว

      “สวัสดี ฉันชื่อเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” เธอพูดอย่างรวดเร็ว “เห็นคางคกชื่อเทรเวอร์ไหม เนวิลล์ ลองบัทท่อมทำหาย”

      ทุกคนส่ายหน้า เจนีวาพิจารณาเฮอร์ไมโอนี่ ถึงเธอจะดูหยิ่งทะนง แต่เธอดูฉลาดไม่น้อยเลยทีเดียว -- ทุกคนเริ่มเปลี่ยนเป็นชุดของฮอกวอตส์ สีเขียว-เงินของบ้านสลิธีริน แดง-ทองของบ้านกริฟฟินดอร์ น้ำเงิน-ทอมสัมฤทธิ์ของบ้านเรเวนคลอ และเหลือง-ทองของบ้านฮัลเฟิลพัฟ

      ในห้องนี้ขาดก็แต่สลิธีริน

      “ปีแรกต้องนั่งเรือไป” เดนิสบอกเมื่อรถไฟจอด ข้างนอกคนเดินกันพลุกพล่าน “ลงไปข้างล่างจะเจอกับผู้ชายตัวโตชื่อแฮกริด เขาจะพาเด็กปีหนึ่งไปปราสาท ปีสองเธอถึงได้นั่งรถม้า”

      เจนีวาพยักหน้าแล้วแยกจากพี่ชาย เมื่อลงไปข้างล่างเธอรู้ทันทีว่าคนที่พี่ชายพูดถึงคือใคร เพราะเขาตัวใหญ่มากและกำลังตะโกนว่า

      “ปีหนึ่ง มาทางนี้พวกปีหนึ่ง” เขาตะโกน กวักมือเรียกพร้อมกับแกว่งตะเกียง

      “โอ๊ย! เธอเหยียบเท้าฉัน” เจนีวาร้อง หันไปขมวดคิ้วใส่คนที่เหยียบ เด็กชายผมแดงกระเต็มหน้า ผอมสูงเก้งก้าง เดินข้างแฮร์รี่ พอตเตอร์

      “ไง” แฮร์รี่ทักทายยิ้มให้เธอ

      “ใครเหรอแฮร์รี่” เด็กชายผมแดงถาม

      “เจนีวา เวนิส” เจนีวาบอก ไม่ยื่นมือออกไป “ยินดีที่ได้รู้จัก”

      เด็กชายผมแดงเลิกคิ้ว “ฉันรอน วีสลีย์ ยินดีที่ได้รู้จัก เธอเกิดที่ไหนน่ะ”

      “อย่าถามเรื่องนั้นสิ” แฮร์รี่เตือนรอน เจนีวาทำเป็นไม่สนใจ แม้จะแค้นลึกๆก็ตามที

       

      แฮกริดให้เด็กปีหนึ่งลงเรือลำละสามคน เจนีวาได้นั่งกับเจมส์ แพตตินสัน และมาเรีย บรู๊ค ทั้งสามสนิทกันเกือบจะในทันที

      ฮอกวอตส์สวยมาก ปราสาทตั้งอยู่บนแผ่นดินสูงขึ้นไปล้อมรอบด้วยป่าสนและภูเขา แสงไฟสีส้มทองส่องลอดออกมาจากตัวปราสาท ดูคล้ายแสงหิ่งห้อยในยามราตรี เรือหยุดเมื่อถึงตัวปราสาท แฮกริดส่งเด็กปีหนึ่งเดินขึ้นไปข้างบนพบกับแม่มดหน้าตาเข้มงวดคนหนึ่ง เธอบอกให้รอ

      “ใครน่ะ” มาเรียถาม เธอเป็นลูกมักเกิ้ล ไม่รู้จักฮอกวอตส์มาก่อนเลย เจมส่ายหน้า

      “ศาสตราจารย์มิเนอร์ว่า มักกอนากัล” เจนีวาตอบ “บาสแตร์เล่าให้ฟังว่าเธอเคยขู่จะสาปเขาให้เป็นกบมีหงอน โอ๊ย! ใครเหยียบเท้าฉันอีกแล้ว โอ้ วีสลีย์นี่เอง”

      “ขอโทษอีกครั้งก็แล้วกัน เวนิส” รอน วีสลีย์โพล่ง เจนีวากรอกตามองเจมส์ผู้ยักไหล่ตอบอย่างไม่ผูกมัดตัวเอง เจนีวาถอยห่างจากเขา

      “ฮอกวอตส์เป็นยังไงเหรอ” มาเรียถามขึ้น

      เจมส์ตอบ “ฮอกวอตส์แบ่งเป็นสี่บ้าน สลิธีรินคือบ้านของพวกเลือดบริสุทธิ์ เรเวนคลอคือบ้านของคนฉลาด กริฟฟินดอร์คือบ้านของคนกล้าหาญ ส่วนฮัฟเฟิลพัฟคือบ้านของคนที่ไม่มีคุณสมบัติทั้งหมดที่ว่ามา แต่มีความมุ่งมั่นเกินใคร ฉันหวังว่าเราคงไม่โดนทดสอบแบบโหดร้ายแล้วปรากฏว่าได้อยู่ฮัฟเฟิลพัฟกันทุกคนหรอกนะ”

      “แหม มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกน่ะ” เจนีวาพูดให้เพื่อนมั่นใจ “พี่ฉันบอกว่าการคัดสรรค์คือ เราต้องสวมหมวกเก่าๆใบหนึ่ง แล้วมันจะบอกว่าเราต้องไปที่ไหน”

      “ถ้ามันตะโกนว่าเราต้องออกไปจากฮอกวอตส์ล่ะ” มาเรียถามอย่างหวาดหวั่น

      “เราก็แค่ฉีกมันเป็นชิ้นๆก็พอ” เจมส์ตอบหน้าตาระรื่น

      ศาสตราจารย์มักกอนากัลกลับมาและให้นักเรียนเดินคู่เข้าไปข้างใน เพดานเป็นเพดานเวทมนตร์สวยงาม มีเทียนลอยล่อง เจนีวาเห็นเดนิสที่บ้านกริฟฟินดอร์ และเห็นบาสแตร์ที่บ้านเรเวนคลอ เขาโบกมือให้เธอ เธอยิ้ม

      หมวกเริ่มร้องเพลงการคัดสรรค์เป็นไปอย่างราบรื่น

      แฮนนา อับบอตเป็นคนแรก เธอไปฮัฟเฟิลพัฟ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ไปกริฟฟินดอร์ มาเรีย บรู๊คไปฮัฟเฟิลพัฟ (เจมส์บ่นเสียดาย) เจมส์ แพตตินสันไปเรเวนคลอ (เจนีวาเห็นพี่ชายเธอจับมือกับเจมส์) แฮร์รี่ พอตเตอร์เกือบถูกส่งไปสลิธีริน เขาได้ไปกริฟฟินดอร์ รอน วีสลีย์ (เธอเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง) ถูส่งไปกริฟฟินดอร์ เขามีพี่ๆอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ เป็นเด็กหัวแดงทั้งหมด

      หลายนาทีผ่านไป มีการคัดสรรค์เด็กจนเหลือน้อย และ “เจนีวา เวนิส”

      เธอเดินขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ สวมหมวกคัดสรรค์เก่าๆไว้บนหัว เสียงหนึ่งดังในหัวเธอ

       “อืม ใช่ เธอเหมือนพี่ชายเธอนะ -- เดนิส -- แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอต่างจากเขา ใช่สิ สิ่งที่อยู่ในหัวเธอ สิ่งที่เธอใช้มันเป็นประจำเหมือนบาสแตร์ เธอควรไปอยู่ -- เรเวนคลอ!

      คนบ้านเรเวนคลอตบมือรับ เจมส์ยกนิ้วโป้งให้เธอ บาสแตร์ตบไหล่เธอ

      “พี่บอกแล้ว คนฉลาดอย่างเธอต้องได้อยู่เรเวนคลอ” บาสแตร์บอก

      เจนีวา เวนิสยิ้ม เธอเป็นหนึ่งในนักเรียนบ้านเรเวนคลอแล้ว!

      ~The end~

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×