SF: เนื้อคู่ของผม [hunhan]
เขาว่ากันว่า ... ถ้าเราเจอใครแล้วหัวใจหยุดเต้นไป 10 วิ คนนั้นคือเนื้อคู่ของเรา ใครจะไปรู้ว่าเด็กหนุ่มคนหนึ่งจะได้มาพบกับเนื้อคู่ .. คุณพร้อมหรือยังที่จะมาหาเนื้อคู่พร้อมกับพวกเรา ?
ผู้เข้าชมรวม
1,898
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เขาว่ากันว่า ถ้าเราเจอใครแล้วหัวใจหยุดเต้นไป 10 วิ คนนั้นคือเนื้อคู่ของเรา ♥
.
.
แล้วคุณเคยเป็นไหม ? ผมเคยเป็นนะแต่เรื่องแปลกมันอยู่ตรงที่ผมดันเป็นอย่างนั้นต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่งสิครับ มันใช่เรื่องที่จะมาเล่นๆไหมเจ้าหัวใจดวงน้อยของผม และมันเป็นเรื่องบังเอิญหรือกามเทพกำลังเล่นตลกกับผมอยู่ ตอนนี้ผมกับเขามาร่วมงานด้วยกันอยู่วงเดียวกันครับ . . .
“โอ เซ ฮุน !!”
“ . . . ”
“โอ เซ ฮุน !!!!”
“ฮะมีอะไรครับฮยอง ? เรียกผมมีอะไรครับ”
ผมสะดุ้งตื่นมาจากภวังค์ทันทีที่ลีดเดอร์ฝั่งเคหรือรูมเมทของผมนั่นหละครับ ‘คิมจุนมยอน’ เขาเป็นคนที่ฝึกนานที่สุดในฝั่งเคครับ ผมล่ะนับถือจริงๆ
“ฉันเรียกนายตั้งนานแล้วจะขึ้นไลฟ์แล้วนะ มัวเหม่ออะไรอยู่?”
“เออะ ... เปล่าครับงั้นเดี๋ยวผมไปเตรียมตัวก่อนนะครับ”
ผมรีบเดินออกมาจากตรงนั้นนั่นเป็นเพราะผมรู้สึกกดดันเล็กๆ ช่วงนี้พวกเราทั้งเคและเอ็มฝึกหนักอย่างมากครับ และวันนี้พวกเราทั้ง 12 คนมารวมตัวกันเพื่อขึ้นไลฟ์ครับ ผมกลัวมันจะมีความผิดพลาด เพราะอะไรน่ะเหรอผมอยู่ต่อหน้า ‘ลู่ห่าน’ ฮยองแล้วผมทำอะไรไม่ถูกน่ะสิครับ ทุกอย่างในหัวผมตอนนั้นมันจะขาวโพลนและตอนนี้ผมกำลังจะเป็น ..
“เซฮุน ... ทำไมนายมาอยู่ตรงนี้ฝั่งขึ้นไลฟ์นายมันฝั่งนู้นไม่ใช่หรอ นี่มันฝั่งเอ็มนะ”
.. ฮะ? ผมเดินเลยมาฝั่งเอ็มแล้วหรอ ช่วงนี้ผมคงเบลอเพราะพิษไข้หวัดแน่ๆ ..
“เซฮุนนายได้ยินที่ฉันพูดบ้างไหมเนี่ย? เหม่อจังเลยช่วงนี้ ขึ้นไลฟ์ไหวรึเปล่าน่ะนาย?”
“เออะ เอ่อ ไหวครับลู่หานฮยอง งั้นผมไปก่อนนะครับ ..”
ทำไมผมถึงร้อนได้ขนาดนี้นะแค่มือฮยองมาแปะที่หน้าผากผมแค่นั้นเองนะ ผมว่ามันคงเป็นเพราะพิษไข้คงไม่ใช่อย่างอื่นหรอกนะ ... คงไม่ใช่หรอก
เมื่อไลฟ์จบทุกคนก็ลงจากเวทีแจ้นไปที่ห้องแต่งตัวกันทันทีเพราะมีงานต่อหรอครับ ไม่ใช่ครับทุกคนดีใจที่จะได้พักแล้วอยากกลับหอสักทีผมก็เป็นคนหนึ่งนะครับ แล้วไลฟ์วันนี้ก็เป็นไปได้ด้วยดีครับ แฟนๆท่วมท้น ผมล่ะปลาบปลื้ม แต่มันติดที่ว่าผมไม่สบายวันนี้เลยเต้นออกมาไม่ค่อยจะเต็มที่สักเท่าไรกลับไปผมคงต้องนอนยาวเลยแหละ ...
“พวกนายว่าไงที่จะไปกินหมูกระทะกันต่อฉลองกันหน่อยสิ .. วันนี้ออกมาได้ดีทีเดียวนะ” เสียงของจุนมยอนตะโกน
“ไปดิใครจะพลาด ..” ตามมาติดๆกับเสียงตะโกนจากด้านหลังของผมคยองซู
“เฮ้ยๆเดี๋ยวแล้วใครจะเลี้ยงพวกเรา?” เสียงใสๆจากชานยอลที่ได้รับว่าเป็น แฮปปี้ไวรัส ยิ้มท่าทางกวนๆใส่จุนมยอนอย่างกับรู้แล้วว่าใครจะเลี้ยงและเสียงที่ตามมานั้นก็เป็นแบคฮยอนที่คอยเสริมหลังตลอด ..
“ให้จุนมยอนเลี้ยงละกัน ไปพวกเรา ฮ่าๆ”
“เอ่อ ... ผมไม่ไปนะผมขอลากลับหอก่อน ผมไม่ค่อยสบายเท่าไร”
ทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียวกัน จนผมรู้สึกว่าผมทำอะไรผิดสักอย่าง .. ผมแค่อยากกลับไปพักผ่อนจริงๆนะครับ T-T ผมผิดอะไรหรอครับ ?
“นายไปนอนพักเหอะ พวกเราอย่าไปบังคับเซฮุนเลยหน้าตอนนี้ซีดเป็นไก่ต้มแล้ว ไปนอนเหอะเดี๋ยวกินเผื่อ ไปไป”
เสียงสวรรค์โปรด จงอินช่วยให้ผมไม่ต้องไปกินหมูกระทะอย่างรู้ดีว่าผมป่วยหนักไม่ได้โกหก ก็ทุกคนคิดว่าผมเป็นพวกค่อนข้างจะสันโดษเพราะทุกทีผมชอบปลีกตัวออกมาก่อน .. แต่ผมไม่ชอบอะไรที่มันอึกทึกเกินไปนี่นา (แล้วที่แกขึ้นไลฟ์นี่ไม่อึกทึกเลยใช่ไหมเน่ = - =)
ผมเดินขึ้นตึกมาอย่างยากลำบาก เพราะอะไรน่ะหรอครับ? ลิฟต์เสียมันทำให้ผมต้องลากสังขารของตัวเองที่แทบจะพยุงตัวเองไม่ได้แล้วขึ้นหอมา โอ่ยมันเป็นวันที่เหนื่อยจริงๆนะ ผมก็ยังหิวอีกด้วยแต่ไม่มีอารมณ์จะกินอะไรแล้วล่ะครับ .. แล้วเกิดอะไรกับหอฝั่งเคอีกล่ะครับนั่น เสียงมาจากห้องนั่นน่ะ ผมจำได้ว่าไม่มีใครอยู่หอนอกจากผมนี่หว่า
“เซอร์ไพรส์!!!! เอ่อะ ... ทำไมมีแต่นายมาคุณเดียวฮะ ?”
ฝั่งเอ็มมาทำอะไรที่ห้องของฝั่งเคและจัดโต้ะสุกี้เอาไว้ .. เอาไว้กินฉลองสินะ แต่ตอนนี้ผมก็ไม่ไหวละนะผมปวดหัวจริงๆ ผมไม่มีแรงจะตอบกลับ ผมเลยเดินเข้าห้องโดยผมไม่สนใจเสียงโวยวายดังลั่นของจงแดและจื้อเถาเลยสักนิด แต่ผมกลับหยุดด้วยเสียงเพียงเล็กน้อยของลู่หานที่มองมาหาผม
“นายน่ะ กินอะไรมาหรือยัง?”
เขาถามออกมาทำให้หัวใจผมอบอุ่นโดยผมบอกไม่ถูก ตอนนี้สมองผมขาวโพลนไปอีกแล้วสินะ ผมจะทำยังไงดี ผมควรตอบกลับเขาไปหรือผมควรจะอยู่นิ่งๆแล้วเดินเข้าห้องไปนะ ..
“ฉันถามว่านายกินอะไรมาหรือยัง? ได้ยินรึเปล่าน่ะ?”
“ได้ยินครับ .. ผมปวดหัวนิดหน่อยผมขอไปนอนแล้วนะครับ”
ผมปลีกตัวออกมาทันทีที่ผมพูดจบประโยค ถ้าผมจ้องหน้าลู่หานฮยองนานกว่านี้ผมคงละลายเป็นชานมแน่ๆเลย เพราะตอนนี้หน้าผมร้อนตัวก็ร้อนไม่รู้จะพิษไข้หรือเพราะเขินกันแน่ ผมจัดแจงที่นอนอาบน้ำทั้งๆที่ตาผมจะหลับอยู่แล้ว พอถึงเตียงผมก็พร้อมจะหลับทันที ผมเตรียมตัวเข้าไปในภวังค์แล้ว ..
LUHAN PART;
หลังจากที่เซฮุนเข้าห้องไปผมรู้สึกว่าหน้าเขารู้สึกแดงแปลกๆและเมื่อตอนก่อนขึ้นไลฟ์ที่ผมเอามือไปทาบบนหน้าผากก็ร้อนๆ ผมว่าคงไม่สบายแน่ๆเลย แถมยังไม่ทานอะไรอีก อยากให้คนๆนี้เป็นห่วงไปถึงไหน ‘โอ เซ ฮุน’ ผมเลยจัดการแย่งลูกชิ้นปลาที่ตอนนี้เหลือชิ้นสุดท้ายซึ่งกำลังทะเลาะกันอยู่แต่ผมก็ไม่สนใจเสียงโวยวายของพวกมันสักเท่าไร ผมสนแค่เซฮุนเท่านั้นแหละ ถ้าตายไปใครจะให้ผมดูแลจริงไหมครับ ..
“ฉันเข้าไปนะ”
“อือ ..”
ผมว่าเสียงเจ้าตัวตอบมานั่นคงไม่ใช่เสียงตอบรับที่ผมขออนุญาตหรอกตอนนี้คงหลับฝันหวานไปไกลแล้วแหละ แล้วถ้าไม่กินข้าวแล้วจะกินยายังไง ผมคงต้องปลุกเจ้าคนตัวสูงที่อยู่หน้าผมตอนนี้ก่อนสินะ
“นายตื่นมาก่อนสิ กินข้าวที่ฉันเตรียมมาให้ก่อนโอเซฮุน”
“อะไรครับฮยอง ... ผมง่วงจะตายอยู่แล้วนะครับ”
ดูมันสิครับ จะไม่ให้ผมห่วงได้ยังไงกินยาก็ไม่กินจะนอนอย่างเดียวถ้าไม่สบายหนักขึ้นมามันก็จะเป็นเรื่องอีก .. พรุ่งนี้ผมต้องกลับไปโปรโมทต่อที่จีน ผมคงจะอยู่ดูแลไม่ได้ เฮ้อผมยกเลิกงานดีกว่าไหมครับเนี่ย ถ้าเจ้าตัวยังรั้นไม่ยอมลุกขึ้นจากเตียงซึ่งตอนนี้ผมฉุดกระชากลากถูเต็มที่แล้ว ..
“ตื่นก่อนตื่นมากินข้าวก่อนสิ แล้วจะได้กินยา”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมก็หายแหละน่าลู่หานฮยอง .. ผมอึดจะตายไป”
“ถ้านายอึดจริงคงไม่ต้องให้ฉันพยุงนายขึ้นมาจากเตียงจริงมั๊ยล่ะ”
“ฮยองครับ ... รู้ไหมครับท่านี้มันสยิวแค่ไหน?”
ฮะ ... เออะพอมาดูท่าผมพยุงแล้วก็แอบพาติดเรทจริงๆนะ ตอนนี้ผมคร่อมตัวเขาอยู่ ผมไม่ผิดนะเซฮุนนายน่ะแหละที่ผิดไม่ยอมลุกตัวก็หนักมันเลยลงบทสรุปด้วยท่าแบบนี้ ผมจึงค่อยๆย้ายตัวออกจากร่างแต่อยู่ๆคนที่อยู่ตรงหน้าก็จับแขนไว้
“ฮยอง ... ป้อน ...”
“ป้อนด้วยท่าที่เป็นอย่างนี้อยู่เนี่ยนะ?”
แล้วมันก็พยักหน้าครับ ดูมันทำกับผมสิ T////T ผมอุส่าต์หวังดีดันมาลงเอยด้วยแบบนี้ให้ผมเขินทำอะไรไม่ถูกเนี่ยนะนายเซฮุน ผมจึงค่อยๆบรรจงเอาป้อนให้เข้าปากทีละคำจนหมดชาม หลังจากนั้นผมก็ป้อนยาแต่อุปสรรคมันอยู่ที่ ..
“ลู่หานฮยอง ผมไม่กินยาผมไม่ชอบ” แล้วเซฮุนก็ปัดมือผมที่ถือยาอยู่ให้ห่างจากปาก
“นายต้องกินสิ เดี๋ยวนายจะไม่หายเอานะ”
“ผมกิน ‘ฮยอง’ แทนได้ป่ะล่ะครับ”
ผมค้างเลยครับ ... ผมไม่เคยได้ยินคำนี้จากปากโอเซฮุนมาก่อน ทำไมคำพูดของคนป่วยเป็นไข้มันจะต้องติดเรททุกคนหรอครับ? ใครเป็นผู้รู้ช่วยตอบผมทีสิครับ
“อย่ามาทำเป็นเล่น ก็รู้ว่าคนเขาห่วงอยู่ กินยาๆ”
“นี่...ป้อนสิ”
เขาทำให้ผมช๊อคอีกแล้วครับอยู่ๆก็เอายาที่อยู่บนมือผมเข้าปากผม แล้วค่อยๆบรรจงเอาหน้าเข้ามาใกล้และเอาลิ้นเปิดปากผมออก แล้วค่อยๆควานหายาทั่วปากของผม จากที่ปากผมขมเพราะยาตอนนี้ทำไมผมรู้สึกรู้ถึงความหวาน ความอ่อนโยน นุ่มละมุนนะ ..
“ผมคิดว่าฮยองคงเป็นเนื้อคู่ของผมจริงแล้วแหละ♥ จริงไหมครับ?”
END OF LUHAN PART
ผมตื่นมาอย่างมึนๆเช้านี้ผมว่าผมคงต้องไปทำความสะอาดโต๊ะสุกี้ที่อยู่หน้าห้องผมแน่ๆเลยสิน่า เพราะอะไรหรอก็ผมยังได้กลิ่นอยู่เลยน่ะสิ ทำไมพวกเขาต้องให้งานหนักสำหรับคนเพิ่งหายป่วยตลอดเลยน่ะครับ? เมื่อคืนเหมือนผมรู้สึกว่าลู่หาน ฮยองเข้ามาในห้องผมเลย แต่ผมยังมึนๆผมเลยจำอะไรไม่ได้ แย่เนอะครับ แล้วนั่นมันกระดาษอะไรน่ะครับบนหัวเตียงผม ผมว่าเมื่อคืนไม่มีนี่นา ..
“ ตื่นมาอย่าลืมทานยานะครับ เดี๋ยวจะไม่หาย
แล้วก็นะ ฉันกลับจากจีนเมื่อไรฉันจะมาจัดการนาย
เมื่อคืนบังอาจทำตัวดื้อใส่ฉัน ระวังไว้เถอะนาย ;P
ป.ล. กลับมาไปซื้อชานมไข่มุกกันนะ
#ลู่หาน ”
ผมชักสนุกแล้วสิ ... ผมว่าตอนนี้ผมรู้แล้วแหละว่าผมรักใคร ใครเป็นเนื้อคู่ของผม ตอนนี้ผมชักเชื่อเรื่องพรหมลิขิตแล้วสินะ ผมแค่รอเวลานั้นจะมาถึง รอให้เขากลับมาหาผมก่อน เมื่อถึงเวลานั้นผมจะบอกความในใจจากผมให้หมดเปลือก ผมจะไม่อัดอั้นไว้ในใจอีกแล้วนะครับ แล้วเจอกันนะครับ ‘ลู่หานฮยอง’
________________________________________________________________
แว้กจบแล้ว T-T เรื่องแรกเลยนะ ชอบไม่ชอบติกันได้นะ ..
และก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเมนต์นะจ้ะ
สำหรับท่าน 'นักอ่านเงา' เราก็ไม่ได้อะไรหรอที่อ่านเฉยๆน่ะ แต่ถ้าชอบ
ฝากเอาไปโปรโมทต่อด้วย ฮี่ฮี่
เรื่องหน้าจะมาใหม่ บายชุ้บบบบ
ผลงานอื่นๆ ของ สีสันชานม ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สีสันชานม
ความคิดเห็น