[Fic Digimon] ความรักที่ไร้ตัวตน - [Fic Digimon] ความรักที่ไร้ตัวตน นิยาย [Fic Digimon] ความรักที่ไร้ตัวตน : Dek-D.com - Writer

    [Fic Digimon] ความรักที่ไร้ตัวตน

    เรื่องรักสามเศร้าที่เจ็บปวดทรมาน ของ ไทจิ โซระ และ ยามาโตะ

    ผู้เข้าชมรวม

    2,170

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    33

    ผู้เข้าชมรวม


    2.17K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    16
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ต.ค. 57 / 09:26 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น











     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      หลังจากที่พวกเรากลับมาจากโลกดิจิตอล พวกเราทุกคนก็สนิทกันมากขึ้นเป็นเพื่อนที่รักกัน เป็นห่วงเป็นใยกันเสมอ พวกเราทุกคนไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไป จนเวลาล่วงเลยผ่านไป จิตใจของคนเราก็อ่อนไหวขึ้นเลื่อยๆ เมื่อเราโตขึ้น เราก็รู้จักอะไรมากขึ้น และพวกเราก็รู้จักคำว่า ความรัก 




       
       
                  ใครต่อใครบอกว่าความรักมันเป็นสิ่งที่สวยงาม มีมันแล้วเรามีความสุข แต่การที่มีมันอยู่คนเดียวโดยที่อีกฝ่ายไม่มีมันกลับทำให้เจ็บจนใจแทบขาด ผมและเพื่อนๆทุกคนโตขึ้นเลื่อยๆ สนิทกันมากขึ้นเลื่อยๆ มากสะจนความรู้สึกนั้นมันเริ่มเอนอ่อนมาเป็นเข้าอกเข้าใจกันรู้ซึ้งขึ้นเลื่อยๆ หรืออีกในหนึ่งที่เค้าเรียกกันว่าความรัก 




       
       
                  พวกเราบางคนในกลุ่มเริ่มคบหากันเองอย่างจริงจัง นั้นคือ มีมี่กับโคจิโร่ และ ทาเครุน้องชายผม กับฮิคาริน้องสาวของไทจิที่เป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญของผม ส่วนตัวผมก็มีคนที่ชอบอยู่เหมือนกัน แต่ว่าผมพอจะรู้คำตอบอยู่คร่าวๆแล้ว เพราะเราสนิทกันมาก มากสะจนทำให้ผมรู้ซึ้งถึงอะไรบางอย่าง ที่มันทำให้ผมเจ็บปวดจนถึงทุกวันนี้ แต่ถึงแม้จะรู้ผมก็ยังอยากจะหวังว่าสักวันอะไรๆมันจะดีขึ้น สิ่งที่ผมหวังมันมากเกินไปรึเปล่านะ 



       
       
       
       
       
      “ ยามาโตะ มีคนมาหาน่ะ ”    เด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นขณะที่เดินเข้ามาในห้องซ้อม เพื่อบอกให้นักร้องนำเจ้าของชื่อออกไปพบคนข้างนอกที่มาหา

      “ ไง ”    เด็กหนุ่มคนหนึ่งทักขึ้นทันทีที่เห็นเพื่อนเดินออกมาจากห้องซ้อมดนตรี
       
      “ นายเองหรอไทจิ มีอะไรรึเปล่า ”

      “ ชั้นมารบกวนนายรึเปล่า ”
       
      “ กำลังจะพักพอดี มีอะไรก็ว่ามา ”
       
      “ นายนี่เหนื่อยแย่เลยนะ ใกล้จะถึงงานประกวดแล้วด้วย ”
       
      “ ก็นะ ว่าแต่เมื่อไหร่จะเข้าเรื่อง ”
       
      “ โอเคๆ อย่าพึ่งโมโหสิ คือว่านายช่วยไปดูการแข่งเทนนิสของโซระแทนชั้นทีสิ ”    
       
      “ ทำไมนายไม่ไปเอง ”    ยามาโตะตอบด้วยสีหน้าเฉยเมยซึ่งมันผิดกับความรู้สึกภายใน
       
      “ คือชั้นมีธุระด่วนที่ต้องไปทำน่ะสิ นะยามาโตะ ชั้นสัญญากับยัยนั้นไว้แล้วด้วย ”    ไทจิพูดไปก็ทำหน้าตาอ้อนวอนสุดฤทธิ์
       
      “ ธุระอะไรของนาย นายสัญญากับโซระไว้แล้วนะ ”
       
      “ คือว่าแม่ชั้นเค้าจะไปซื้อของกับฮิคาริ เลยให้ชั้นรีบกลับไปเฝ้าบ้านน่ะสิ ”
       
      “ เฮ้อ นายนี่นะ ”
       
      “ นะๆยามาโตะ ไม่งั้นยัยนั้นต้องโกธรชั้นแน่ ยัยนั้นบอกว่าเป็นการแข่งครั้งแรก เลยอยากให้เพื่อนคนสำคัญไปดู เพราะฉะนั้นนายไปแทนชั้นหน่อยนะ เพราะนายก็เป็นเพื่อนคนสำคัญเหมือนกัน ”
       
      “ งั้นก็ได้ เย็นนี้ใช่ไหม ”    ยามาโตะพยักหน้าอย่างรำคาญ
       
      “ ขอบใจนะเพื่อน นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย ”    ไทจิพูดทั้งรอยยิ้มก่อนจะวิ่งจากไป
       
      (แต่ชั้นไม่มั่นใจหรอกนะว่าโซระจะดีเท่ากับการที่นายไปดูรึเปล่า)



       
       
       
       
       
       
       
       
      ที่คอร์ดเทนนิส ชมรมกีฬา



       
       
       
       
       
      “ โซระ สู้เค้านะ ”   
       
      “ ยามาโตะ ชั้นนึกว่านายจะไม่ว่างมาดูสะอีกเลยไม่ได้ชวน ขอโทษนะ ว่าแต่เห็นไทจิบ้างไหม ”    เด็กสาววิ่งมาตามเสียงทัก พร้อมเปิดบทสนทา
       
      “ คือไทจิมีธุระสำคัญที่บ้านน่ะ เลยให้ชั้นมีดูแทน ”
       
      “ อย่างงั้นหรอ ทั้งที่สัญญากันไว้แล้วแท้ๆ ”  
            
          
      “ ถึงไทจิไม่มาก็สู้ๆล่ะ ชั้นจะเป็นกำลังใจให้ ”    ยามาโตะที่เห็นว่าสีหน้าโซระดูเปลี่ยนไปก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
       
      “ แต่มันก็เป็นการแข่งครั้งแรก ชั้นก็อยากให้คนสำคัญมาดู ”    เด็กสาวบ่นกับตัวเองเบาๆโดยไม่รู้เลยว่าคำพูดนั้นทำให้ใครบางคนที่ได้ยินรู้สึกเจ็บที่หัวใจจนต้องกำหมัดแน่น 
       
      “ สู้ๆนะโซระ ”    ยามาโตะพูดพร้อมรอยยิ้ม รอยยิ้มที่มีแต่ความขมขืนในใจ




       
       
       
       
       
       
      “ กลับมาแล้วครับ ”
       
      “ กลับมาแล้วหรอพี่ ”    เด็กหนุ่มคนหนึงทักขึ้นขณะกำลังเดินมาหน้าบ้าน

      “ อ้าวทาเครุ ทำไมมาอยู่นี่ล่ะ ”
       
      “ วันนี้ผมขอนอนนี้คืนหนึงนะพี่ ”
       
      “ได้สิ แต่ตอนนี้พี่ขอตัวก่อนนะ ”    ยามาโตะว่าต่อพร้อมเดินตรงไปที่ห้องตัวเอง
       
      “ พี่ครับ เมื่อไหร่พี่จะมีแฟนกับเค้าสักทีล่ะ ”    ทาเครุที่เดินมานั่งที่โซฟาพร้อมถามขึ้น ทำให้ยามาโตะที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดหยุดชะงักทันที
       
      “ ทำไมล่ะ ”

      “ เปล่าหรอกครับ ก็เห็นพี่วันๆเอาแต่ซ้อมดนตรี ไม่เห็นจะไปกุ๊กกิ๊กกับใครเลยทั้งที่สาวๆก็ออกจะล้อมหน้าล้อมหลังสะขนาดนั้น ”
       
      “ อย่างงั้นหรอ เพราะพี่ยังไม่คิดอยากจะมีระมั้ง ”
       
      “ ทำไมล่ะครับ การมีใครสักคนให้คิดถึงน่ะ มีความสุขออกจะตายไป ”

      “ งั้นหรอ ”
       
      (แต่ทำไมการคิดถึงคนคนนั้นของเรามันถึงได้มีแต่ความเจ็บปวดล่ะ)



       
       
       
       
       
       
      “ โซระ ชั้นขอโทษนะ ชั้นมีธุระด่วนจริงๆ ”    เสียงคุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้นขณะที่ยามาโตะกำลังเดินออกจากโรงเรียน
       
      “ แล้วอย่างไง นายสัญญากับชั้นไว้แล้วนะ ถ้าจะไม่มาก็น่าจะโทรมาบอกกันบ้างไม่ใช่อยู่ดีๆก็หายไปเลย ”
       
      “ ชั้นก็ฝากยามาโตะไปบอกแล้วไง ฝากมันไปดูแทนด้วย ”
       
      “ มันไม่เหมือนกัน คนที่ชั้นอยากให้ไปดูคือนายนะ ”
       
      “ พูดขนาดนี้ถ้ายามาโตะมาได้ยินจะเสียใจเอานะ ”
       
      “ นี่ไทจิ นายจริงจังกับชั้นรึเปล่า ไหนนายบอกว่าอยากลองคบกับชั้นไง แล้วดูนายทำตัวสิ ชั้นควรจะเชื่อคำพูดนายไหม ”
       
      “ โซระน่า ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ชั้นสัญญา ”




       
       
       
       
       
       
      (ทำไมเราต้องเดินมาได้ยินอะไรแบบนี้ด้วยนะ คำพูดพวกนี้มันกำลังฆ่าเราทีละนิด เราจะทำอย่างไงดี)
       
      “ อ้าวยามาโตะ มาพอดีเลย มาช่วยชั้นง้อโซระหน่อยสิ ”    ไทจิที่หันไปเห็นยามาโตะยืนอยู่พอดีจึงเข้าไปขอความช่วยเหลือ
       
      “ เรื่องของนาย ทำเองก็ต้องแก้เอง ”    พูดจบก็ทำท่าจะเดินหนี แต่มีมือมือหนึงฉวยเอามือของเค้าไปพร้อมกับเดินนำหน้าและดึงมือของเค้าไปด้วย
       
      “ ยามาโตะ อย่าไปคุยกับคนแบบนั้นเลยนะ ”    โซระที่เป็นคนจับมือของยามาโตะไว้ก่อนจะดึงเบาๆเพื่อให้ยามาโตะเดินตาม โดยที่ยามาโตะก็เดินตามไปโดยดี ซึ่งการกระทำนั้นทำให้เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งยืนตาค้าง




       
       
       
       
       
       
      “ จะไปไหนน่ะโซระ ”    ยามาโตะถามขึ้นขณะที่ยังเดินตามโซระที่ดึงมือเค้าไปเลื่อย
       
      “ นายน่ะ ไม่บ่นชั้นสักครั้งแล้วเดินตามมาเงียบๆจะได้ไหม ”    โซระพูดขึ้นขณะที่ยังเดินต่อไปไม่หยุด แล้วยังกำมือของยามาโตะแน่นขึ้นด้วย
       
       
       
       
       
      “ ถึงแล้วล่ะ ”    โซระหยุดฝีเท้าลงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนหลังโรงเรียน 

       
       
       
      เด็กสาวทิ้งตัวนั่งลงบนม้านั่งและถอดสายตามองออกไปไม่มีจุดหมายยามาโตะเดินไปยืนพิงต้นไม้ต้นใหญ่ข้างๆที่โซระนั่งด้วยจิตใจที่พองโตเล็กน้อย หลังจากที่ถูกเด็กสาวที่ตนหลงรักเดินจับมือมาตลอดทาง แต่แล้วหัวใจที่กำลังพองโตก็ต้องหยุดลง และเปลี่ยนมาเป็นบีบรัดแน่นจนเค้ารู้สึกเจ็บแปล๊บ เจ็บ เจ็บจนแถบจะทนไม่ไหว กับบทสนทนาที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากเด็กสาว


       
       
       
      “ ยามาโตะ ชั้นรักไทจิล่ะ ”

      ……
       
      “ นายคิดว่าไทจิรู้สึกเหมือนอย่างชั้นไหม ”
       
      “ ไม่รู้สิ ชั้นไม่ใช่เค้า ”    ยามาโตะตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา เพื่อซ้อนความสั่นเครือไว้ภายใน
       
      “ นายสนิทกับเค้ามากไม่ใช่หรอ เค้าไม่เคยบอกอะไรนายเลยหรอ ”
       
      “ ชั้นสนิทกับเค้าพอๆกับที่สนิทกับเธอนั้นล่ะ ”
       
      “ นายดูเย็นชาจังนะ เป็นอะไรรึเปล่า ”
       
      “ ก็เปล่านิ ชั้นก็เป็นของชั้นแบบนี้ ”
       
      “ นั้นสินะ ชั้นจะไปบอกความรู้สึกกับไทจิดีไหม ”
       
      (อย่านะ)
       
      “ ถ้ามันจะทำให้เธอสบายใจก็ทำไปเถอะ ”    ทั้งที่ปากบอกไปอย่างนั้นแต่ในใจกลับตรงกันข้าม
       
      “ งั้นชั้นจะ….
       
      “ โซระ ”    เด็กสาวจะพูดต่อแต่ถูกขัดขึ้นก่อนโดยเด็กหนุ่มที่กลัวกับคำพูดของเธอ
       
      “ ว่าไง เรียกสะเสียงดังจนชั้นตกใจหมดเลย ”
       
      “ อีกสองวันชั้นจะประกวดร้องเพลง ชั้นมีเพลงที่แต่งให้เธอด้วย ชั้นอยากให้เธอไปลองฟังดู เผื่อว่าเพลงของชั้นมันจะทำให้เธอตัดสินใจง่ายขึ้น ”
       
      “ หรอ ”    เด็กสาวทำท่างงเล็กน้อยกับท่าทางของเด็กหนุ่มที่ดูจะว้าวุ่นผิดปกติ
       
      “ นี้บัตร เธอจะไปรึเปล่า ”
       
      “ ไปสิ ก็นายเป็นเพื่อนคนสำคัญของชั้นนิ จะไม่ไปได้ไง ”    เด็กสาวยิ้มหวานพร้อมหยิบบัตรเข้างานในมือของเด็กหนุ่มไป
       
      “ ขอบใจนะ ยามาโตะ ”
       
      “ อืม ”    เด็กหนุ่มยิ้มรับ

      (ขอบใจนะโซระ)






       
       
       
       
       
       
      “ ยามาโตะ ชั้นมีเรื่องจะคุยกับนาย ”    เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหลังของเด็กหนุ่มสาว ทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมองทันที



       
       
                 
                  เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลคนหนึ่งยืนนิ่งและมองตรงขเม็งมาที่เด็กหนุ่มสาวที่ยืนอยู่ก่อน ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ขึ้น พร้อมทั้งมองหน้าเด็กหนุ่มผมทองนิ่งสลับกับเด็กสาวที่ยื่นข้างๆ





       
       
       
      “ เรื่องสำคัญ ”    เด็กหนุ่มพูดเสียงเข้มขึ้นด้วยอารมณ์กรุนๆ
       
      “ งั้นชั้นขอตัวกลับก่อนนะ แล้วเจอกันนะยามาโตะ ”    โซระพูดจบก็วิ่งไปโดยไม่แม้แต่หันมามองเด็กหนุ่มอีกคนเลย






       
       
       
                  เมื่อเด็กสาวเดินจนลับตาไปเด็กหนุ่มผู้มาใหม่จึงเริ่มเปิดบทสนทนา
       
      “ นายรักโซระหรอ ”

      “ ไทจิ ”
       
      “ ชั้นไม่ได้ให้นายมาเรียกชื่อชั้น ชั้นถามว่านายรักโซระรึเปล่า ”    ไทจิเน้นคำอย่างหนักแน่นพร้อมองเขม็งเข้าไปในตาของเพื่อนสนิท
       
      “ ชั้น….

      (ถ้าชั้นบอกว่าใช่นายจะว่าอย่างไงล่ะไทจิ)
       
      “ ถ้าใช่ชั้นขอบอกให้นายตัดใจสะ ”    ไทจิพูดต่อแล้วถอดสายตามองไปข้างหน้าแทน
       
      “ ถึงแม้จะเป็นนายชั้นก็ไม่ยอมยกโซระให้หรอกนะ เพราะเค้าคือคนที่ชั้นรักจนหมดหัวใจ นายก็รู้นิ ตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่โลกดิจิตอลแล้ว ”
       
      (ใช่ชั้นรู้ดี ก็นายเป็นคนมาบอกชั้นเอง ชั้นรู้ รู้ดี รู้ว่านายรักเค้า และเค้าก็รักนาย แต่ชั้นก็ยังอยากจะหวัง ถึงแม้ความหวังนั้นมันไม่มีทางเป็นจริงก็ตาม ใช่ ชั้นรักโซระ แต่ชั้นก็พูดมันออกไปไม่ได้ เพราะพวกนายคือคนสำคัญของชั้น เพื่อนคนสำคัญของชั้น ชั้นทำได้แค่เก็บมันไว้ เก็บทั้งความรักและความเจ็บปวดเอาไว้ ให้มันตายไปพร้อมกับชั้น มันจะไม่มีวันที่ทำให้ใครต้องเจ็บปวดเด็ดขาด)
       
      “ ชั้นไม่เคยคิดอะไรกับโซระนอกจากคำว่าเพื่อน ”    ยามาโตะค่อยๆพูดออกมาอย่าช้าๆและชัดเจน ซึ้งมันเป็นการเอ่ยปากที่ยากที่สุดในชีวิตของเค้า
       
      “ จริงหรอ ”
       
      “ ชั้นจะโกหกนายทำไม ”
       
      “ งั้นชั้นขอโทษนะที่เข้าใจนายผิด ”     ไทจิหันมาขอโทษขอโพยยกใหญ่พร้อมทั้งยิ้มแห้งๆมาให้
       
      “ นายรู้ไหม เพราะนายทำให้ชั้นปั้นหน้าขรึมมาตั้งนาน ”
       
      “ ก็นายเข้าใจผิดเองนิ ”     ยามาโตะยิ้มน้อยๆขณะที่กำลังกดความรู้สึกเจ็บให้ลึกลงไปในส่วนลึกที่สุดในจิตใจ
       
      “ แต่จริงๆนะ ถ้านายเกิดชอบโซระขึ้นมาเหมือนกัน ชั้นก็ไม่รู้จะทำอย่างไงดี เพราะนายเป็นเพื่อนคนสำคัญที่สุดของชั้น ”
       
      “ นายก็เป็นเพื่อนคนสำคัญของชั้นเหมือนกัน ชั้นไม่มีวันทรยศนายหรอ ”

      “ ยามาโตะ ขอบใจนะ ชั้นกำลังจะทำให้ทุกอย่างมันชัดเจนเร็วๆนี้ล่ะ ”
       
      “ อืม พยายามเข้าล่ะ ”
       
      “ อืม ”    และทั้งสองคนก็หันหมัดมาชนกันเพื่อเป็นสัญญาของลูกผู้ชาย
       
      (ชั้นสัญญาว่าจะไม่ทรยศนาย ถึงแม้จะต้องทรยศต่อตัวเองก็ตาม)






       
       
       
       
       
       
       
      2 วันผ่านไป






       
       
       
       
       
      “ วงต่อไปเตรียมตัวได้เลยนะคะ เหลือเวลาอีกยี่สิบนาที ”
       
      “ ครับ ”





       
       
       
       
       
       
      “ ตื่นเต้นจังเลยเนอะ ขาชั้นสั่นไปหมดแล้ว ”
       
      “ ใจเย็นๆน่าพวกนาย ”
       
      “ ใครจะไปใจเย็นเหมือนนายล่ะยามาโตะ แถมเตรียมเพลงจะมาบอกรักใครในงานประกวดสะด้วย ”
       
      “ ถ้าเค้ามาฟังก็คงดีสินะ ”





       
       
       
       
       
       
      “ นั้นพี่โซระนี่นา พี่โซระคะ ”    เสียงใสของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นทำให้เจ้าของชื่อต้องหันมาตามเสียงเรียก
       
      “ ฮิคาริจังกับทาเครุนิ มาทำอะไรแถวนี้กันหรอ ”
       
      “ กำลังจะไปดูการแข่งรอบชิงของพี่ไทจิน่ะครับ ”   ทาเครุตอบพร้อมยิ้มหวาน
       
      “ รอบชิงอะไรหรอ พี่ไม่เห็นรู้เลย ”
       
      “ งั้นหรอคะ ก็วันนี้พี่ชายน่ะมีแข่งฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศไงคะ ”
       
      “ แปลกจังทำไมพี่ไทจิไม่บอกพี่โซระล่ะ รึว่าอยากจะเซอร์ไพร ”
       
      “ ว่าแต่พี่กำลังจะไปไหนหรอคะ ”    ฮิคาริถามขึ้นอีกเพราะเห็นว่าโซระแต่งตัวเหมือนจะไปไหนสักแห่ง
       
      “ ชั่งเถอะ ว่าแต่พี่ไปด้วยคนได้ไหม ”
       
      “ ได้สิคะ รีบไปกันเถอะค่ะ การแข่งจะเริ่มแล้ว ”
       
      “ จ๊ะๆ ”    และทั้งสามคนก็รีบวิ่งไปทันที




       
       
       
       
       
      “ ต่อไปขอเชิญวง ปริ้นฮาวร์ ได้เลยค่ะ ”




       
       
       
                  เมื่อเสียงประกาศจบลงเด็กหนุ่มทั้งสี่คนก็เดินขึ้นมาบนเวที เสียงกรี๊ดกร๊าดดังไม่หยุด เนื่องจากแต่ละคนในวงนั้คัดหน้าตามาเต็มที่ โดยเฉพาะนักร้องนำที่หล่อสุดตาที่สุดในวง




       
       
       
                  เด็กหนุ่มผมทองเดินขึ้นมายืนที่กลางเวที ก่อนจะสาดสายตาไปที่คนดูข้างล่างเพื่อตามหาใครบางคน ก่อนที่สายตาจะไปสดุดกับเก้าอี้ว่างที่หนึ่ง ที่ที่เค้าจองไว้ให้ก็เธอคนนั้น ความเจ็บปวดที่กดไว้ลึกนั้นเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่เค้าก็พยายามปลอบใจตัวเอง ถึงแม้มันจะไม่ค่อยได้ผลก็ตาม




       
       
       
      (เธออาจจะไม่ว่างก็ได้ อย่างคิดมากสิ นี่มันงานประกวดนะ ถึงไม่มีเธอเราก็ต้องทำให้ดีที่สุด)

       
       
       
       
       
       
      ตกเย็น


       
       
       
       
       
      “ ยามาโตะ ทำไมอยู่ดีๆก็ไม่เล่นเพลงตามที่ตรียมไว้สะดื้อๆเลยล่ะ ”
       
      “ ใช่ ถึงแม้เราจะชนะ แต่เพลงนั้นเราก็เตรียมมาเพื่องานนี้ไม่ใช่หรอ ไม่งั้นนายคงไม่อดหลับอดนอนแต่งมันหรอกจริงไหม ”
       
      “ เงียบๆเถอะน่า ชั้นก็แค่จำเนื้อไม่ได้เท่านั้นเอง ”
       
      “ โกหกน่า นายเป็นคนแต่งนะ แถมเป็นคนมาซ้อมให้พวกเราอีกจะจำเนื้อไม่ได้ได้ไง ”
       
      (ใช่ชั้นจำได้แม่นเลยล่ะ จำได้ขึ้นใจ แต่ในเมื่อเค้าไม่มาฟัง แล้วชั้นจะร้องไปทำใมให้ปวดใจ)
       
      “ เอาเป็นว่าชั้นไม่อยากเล่น จบไหม ”
       
      “ โห อะไรว่ะ ”
       
      “ เฮ้ย ยามาโตะ นั้นเพื่อนนายนิ ”    เพื่อนในวงคนหนึ่งทักขึ้นยามาโตะจึงหันไปมองตามก็เห็น ทาเครุกับฮิคาริที่เดินมาด้วยกัน พร้อมกับอีกสองคนที่เค้ารู้ดีว่าเป็นใคร
       
      “ งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะ ”
       
      “ อืม ”    ยามาโตะพยักหน้ารับก่อนที่เพื่อนในวงจะแยกตัวกลับไปก่อน 





       
       
       
       
       
      “ พี่ครับ ผมกำลังจะไปหาพี่พอดีเลย ”    ทาเครุทักขึ้นแล้วเดินเข้าไปหายามาโตะ
       
      “ ไง ”   ยามาโตะทักสั้นๆ ขณะที่สายตามองไปที่มือของเพื่อนสนิทที่จับแน่นอยู่กับมือของเธอที่เค้ารัก

      (รึว่าทั้งคู่จะ)






       
       
       
                  ความเจ็บปวดที่ถูกกดไว้มานานมาเอ่อล้นออกมาจนเห็นได้ชัดทางสายตาของเด็กหนุ่ม หัวใจที่เคยมีความหวังเล็กๆกลับดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสว่าง มือที่กำแน่นเพื่อผ่อนคลายอาการเจ็บปวดที่หัวใจมันกำแน่นจนเล็บแทบจะเจาะเข้าไปในเนื้อ ก่อนที่ความรู้สึกจะทะลักออกมา ถ่อยคำหนึ่งก็ดังขึ้นทำให้จิตใจที่เจ็บปวด ปวดขึ้น ปวดขึ้น จนรู้สึกชา





       
       
       
      “ มองอะไรน่ะยามาโตะ แปลกใจใช่ไหม ชั้นกับโซระเราคบกันแล้วล่ะ ”

      ……….”
       
      “ คือหลังจากที่ชั้นแข่งบอลเสร็จชั้นก็รีบไปบอกโซระเลย ดีใจกับชั้นไหม ” 
       
      (ที่แท้ก็ไปดูไทจิแข่งบอลสินะ นั้นสินะอย่างไงเรื่องของไทจิก็ต้องมาก่อน)
       
      “ งั้นหรอ ดี ดีใจด้วยนะ ”    ปากบางที่พยายามกลั่นคำพูดออกมา พร้อมกับสะกดความเศร้าไปด้วย
       
      “ ขอโทษนะยามาโตะที่ชั้นไม่ได้ไปชมการแข่งน่ะ ”
       
      “ ชั่งมันเถอะ ”
       
      (อย่างงี้แหละดีแล้ว อย่างน้อยเธอก็ยังไม่รู้ความรู้สึกของเรา ให้มันเป็นความรักที่ไร้ตัวตนแบบนี้แหละดีแล้ว)
       
      “ แต่ชั้นอยากฟังเพลงนั้นจริงๆนะ เพลงที่เธอแต่งให้น่ะ ”
      “ หรอ จะดีหรอ ”
       
      “ งั้นเอางี้ไหมคะ เราไปคาราโอเกะกันต่อ จะได้ให้พี่ยามาโตะร้องเพลงนั้นให้เราฟังด้วย แล้วก็ฉลองที่พวกพี่ชายคบกันด้วย ”    ฮิคาริออกความเห็น
       
      “ จะดีหรอ ”    โซระพูดพร้อมใบหน้าที่เขินอาย
       
      “ ดีสิคะ ไปนะคะพี่ยามาโตะ ”
       
      “ อืม ”






       
       
       
       
       
       
      ที่ร้านคาราโอเกะ



       
       
       
       
       
                  “ งั้นชั้นขอมอบเพลงนี้ให้เพื่อนรักทั้งสองที่รักกันนะ ”    ยามาโตะพูดขึ้นช้าๆก็จะค่อยๆร้องเพลงเบาๆ




       
       
       
                  เพลงรักที่เค้าแต่งมาเพื่อบอกความรู้สึกของเค้าให้เธอรู้ ณ บัดนี้ มันกลับเป็นเพลงที่ร้องเพื่อแสดงความยินดีในความรักของเพื่อนรักของเค้า กับคนที่เค้าแอบรักจนหมดหัวใจ 




       
       
       
      (มันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ความหวัง หรือความรักของเค้า ใครว่าความรักมันหอมหวาน แต่ทำไมความรักของเราถึงขมขืนขนาดนี้ ทำไมต้องเป็นเราที่เจ็บปวด ทำไมเราต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ ทำไมเราต้องรักเธอด้วย)





       
       
       
      “ พะ พี่ ร้องไห้หรอครับ ”    ทาเครุพูดออกมาอย่าตะกุกตะกัก เพราะตกใจกับสิ่งที่ตนเห็น




       
       
       
                  ยามาโตะยกมือขึ้นแตะที่ตาของตัวเองที่ทีน้ำใสๆเย็นๆไหลออกมาไม่หยุด



       
       
       
      “ ชั้นขอตัว ”








       
       
       
       
                  เด็กหนุ่มที่วิ่งออกมาจากร้าน วิ่งไปยังถนนที่ว่างเปล่า ฝนเม็ดเล็กๆกำลังพรำตกลงมา พร้อมกับน้ำตาของเค้าที่ไหลออกมาไม่หยุด หัวใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เค้าจะทำอย่างไงดี เค้าไม่อาจจะหันกลับไปสู้หน้าทั้งคู่ได้ ไม่มีทาง ไม่มีวัน จนกว่าหัวใจของเค้าจะตาย


       
       
       
      (นี่สินะความรักที่มันไร้ตัวตน เพราะไม่มีใครเห็นมันถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้ไง)     และรอยยิ้มสุดท้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนที่ชื่อ อิชิดะ ยามาโตะ

       
       
       
       
      …………………………………………….



      เรื่องนี้อาจจะมีการนำไปแต่งเป็นเรื่องยาว


      กำลังอยู่ในช่วงเตรียมการค่ะ


      ช่วงนี้งานยุ่ง



      ขอบคุณค่ะ



       
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "เศร้ามาก"

      (แจ้งลบ)

      น่าสงสารยามาโตะอ่ะ ความรักก็เหมือนดาบสองคม บางครั้งก็ความรักก็เหมือนน้ำตาลหวานที่ทำให้คนเรามีความสุขได้ แต่บางครั้งมันก็เป็นยาพิษร้ายที่ฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้เหมือนกัน น่าสงสารยามาโตะจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ถึงยังไงถ้าจะเอาไปแต่งเป็นนิยายยาวๆ ก็สู้ๆนะคะ แต่งเมื่อไหรร่ไปบอกกันที่ไอดีด้วยนะคะ จะตามไปเม้นให้ อย่าลืมหาคู่ให้ยามาโตะด้วยนะคะ อ่านเพิ่มเติม

      น่าสงสารยามาโตะอ่ะ ความรักก็เหมือนดาบสองคม บางครั้งก็ความรักก็เหมือนน้ำตาลหวานที่ทำให้คนเรามีความสุขได้ แต่บางครั้งมันก็เป็นยาพิษร้ายที่ฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้เหมือนกัน น่าสงสารยามาโตะจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ถึงยังไงถ้าจะเอาไปแต่งเป็นนิยายยาวๆ ก็สู้ๆนะคะ แต่งเมื่อไหรร่ไปบอกกันที่ไอดีด้วยนะคะ จะตามไปเม้นให้ อย่าลืมหาคู่ให้ยามาโตะด้วยนะคะ  

      ชมรมคนรักดิจิมอน | 28 ก.พ. 54

      • 4

      • 0

      คำนิยมล่าสุด

      "เศร้ามาก"

      (แจ้งลบ)

      น่าสงสารยามาโตะอ่ะ ความรักก็เหมือนดาบสองคม บางครั้งก็ความรักก็เหมือนน้ำตาลหวานที่ทำให้คนเรามีความสุขได้ แต่บางครั้งมันก็เป็นยาพิษร้ายที่ฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้เหมือนกัน น่าสงสารยามาโตะจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ถึงยังไงถ้าจะเอาไปแต่งเป็นนิยายยาวๆ ก็สู้ๆนะคะ แต่งเมื่อไหรร่ไปบอกกันที่ไอดีด้วยนะคะ จะตามไปเม้นให้ อย่าลืมหาคู่ให้ยามาโตะด้วยนะคะ อ่านเพิ่มเติม

      น่าสงสารยามาโตะอ่ะ ความรักก็เหมือนดาบสองคม บางครั้งก็ความรักก็เหมือนน้ำตาลหวานที่ทำให้คนเรามีความสุขได้ แต่บางครั้งมันก็เป็นยาพิษร้ายที่ฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้เหมือนกัน น่าสงสารยามาโตะจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ถึงยังไงถ้าจะเอาไปแต่งเป็นนิยายยาวๆ ก็สู้ๆนะคะ แต่งเมื่อไหรร่ไปบอกกันที่ไอดีด้วยนะคะ จะตามไปเม้นให้ อย่าลืมหาคู่ให้ยามาโตะด้วยนะคะ  

      ชมรมคนรักดิจิมอน | 28 ก.พ. 54

      • 4

      • 0

      ความคิดเห็น

      ×