ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องคำสาป Loving must of cures

    ลำดับตอนที่ #3 : Memories Puzzle:: Chatper 2 ความทรงจำปริศนา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 859
      13
      20 ก.พ. 58

    
    
    
                                                   Chatper 2 ความทรงจำปริศนา
    
    
            


                                   ควันสีดำปรากฏขึ้นเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่สวยงามเมื่อสักครู่นี้ให้เป็นทะเลสาบ ไบโอนี่มองไปยังเบื้องหน้าเห็นหญิงสาวกับเด็กหนุ่มยืนอยู่ ท่ามกลางความมืด

    "นายเรียกฉันมาที่นี้ทำไหม"เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย

    "ก็เพราะว่าฉันคิดถึงเธอ ฉันไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเรามากนัก"มัลฟอยพูดพลางสบตากับหญิงสาว แต่จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าแฮร์รี่นั้นเอง เขามองมัลฟอยสลับกับเฮอร์ไมโอนี่แต่แล้วจู่ๆก็มีการปรากฏตัวของร่างสูงในชุดเสื้อคลุมยาวคล้ายผู้เสพความตาย

    "สตูเปพาย"ไว้กว่าความคิดแฮร์รี่ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ผู้เสพความตายแล้วลากเฮอร์ไมโอนี่ให้หนีตามเขามา ทั้งสองวิ่งไปตามทาง และได้ยิ่นเสียงของผู้เสพความตาย'จับพอตเตอร์มา'

    "สตูเปพาย"ลำแสงสีเงินฟู่งใสร่างของผู้เสพความตายอีกคน เด็กทั้งสองวิ่งกลับเข้าไปในปราสาท เมื่ออยู่ในที่ๆที่ปลอดภัยแล้ว

    "เธอไปหามัลฟอยทำไหมเฮอร์ไมโอนี่"แฮร์รี่ถามเสียงเข็ม

    "ฉัน...ฉัน,.."เฮอร์ไมโอนี่ตะกุกตะกะ

    "มันไม่มีอะไรหรอกฉันแค่เห็นเขาเดินไปที่ทะเลสาบฉันก็แค่อยากรู้เท่านั้นเอง"หญิงสาวโกหกคำโตเธอไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าความสัมพันของเธอกับมัลฟอยอยู่ขึ้นไหนกันแล้ว

    "ดีนะที่ฉันไปช่วยไว้ทันไม่งั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้างเนีย"แฮร์รี่บ่น

    "ขอบคุณนายมากแฮร์รี่ที่ไปช่วยฉัน ฉันว่าจะกลับหอพรีเฟ็คละมันดึกมากแล้วฉันไปก่อนนะ"เฮอร์ไมโอนี่รีบกลับหอเพราะไม่อยากถูกเขาซักไซท์ พอกลับมาก็พบร่างของมัลฟอยอยู่กลางห้องนอนของเธอ

    "เธอเป็นอะไรหรือเปล่า"มัลฟอยถามอย่างเป็นห่วง

    "ฉันไม่เป็นไร แต่ทำไหมพวกนั้นถึงเข้ามาที่นี้ได้รึว่านาย...."เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่ทันพูดจบ สายตาจ้องไปที่มัลฟอย

    "ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าผู้เสพความตายพวกนั้นเข้ามาได้ยังไง"มัลฟอยพูดพลางกอดเฮอร์ไมโอนี่ไว้

    "ฉันเชื่อเธอ เดรโกฉันเชื่อเธอ"หญิงสามพึมพำพลางกอดเด็กหนุ่มแน่น

                                     ______________________________

    ควันสีดำรากฏขึ้นเปลี่ยนแปลงไปเป็นทางเดินเหมือนทางไปหอพรีเฟ็ค เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยเดินจับมือด้วยกันระหว่างทางทั้งสองเจอเข้ากับแอสเทอเรีย กรีนกราส

    "แก กล้าดียังไงมายุ่งกับเดรโกยัยเลือดสีโคลนโสโคลก"แอสเทอเรีย เริ่มเสียงดัง

    "แล้วเธอละมายุ่งอะไรกับเรา"มัลฟอยเถียง

    "หึ แล้วถ้าพ่อเธอรู้เรื่องเธอกับยายเลือดสีโคลนนั้นละมันยังจะเป็นเรื่องของเราอยู่ไหม"แอสเทอเรียตอบโต้กลับ

    "อย่ามาขู่ฉัน"มัลฟอยพูดเสียงแข็ง

    "ฉันไม่ได้ขู่ ฉันทำจริงแน่"แอสเทอพูดอย่สงถือไพ่เหนือกว่า

    "เธอกำลังเข้าใจผิดนะกรีนกราสฉันกับมัลฟ..."เสียงของเด็กสาวหายไป

    "แกคิดว่าฉันโง่หรอ มิน่าพักนี้เดรโกไม่ค่อยกลับหอมั้วไปคลุกอยู่กับแกที่หอพรีเฟ็คละสิแกอย่าอยู่เลย นังเลือดสีโคลน"แอสเทอเรียชักไม้กายสิทธิ์ออกมาจากเสื้อคลุม

    "เซ็กต้มเซ็มปร้า" มัลฟอยกระโดดคว้าตัวเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปกอดไว้แล้วโดนคาถาเข้าเต็มๆ เหมือนใบบีดนับสิบใบกรีดตามลำตัวของมัลฟอยเลือดไหลซึ้มอย่างรวดเร็ว

    "เดรโก ไม่นะ!"เฮอร์ไมโอนี่กอดเดรโกแน่พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างพรั่งพลู

    "เดรโก..."แอสเทอเรียมือสั่นขนาดมองไปร่างที่มีเลือดไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ด้วยความตกใจหญิงสาวรีบวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น

                                            _______________________

    ควันสีดำลอยมาเปลี่ยนสภาพทางเดินอีกครั้งให้กล่ายเป็น ห้องพยาบาล มีร่างของเด็กหนุ่มผมบอร์นนอนอยู่ข้างๆเป็นหญิงสาวผมสีน้ำตาลฟูฟอง

    "เธอเป็นห่วงฉันหรอ เฮอร์ไมโอนี่"มัลฟอยถามเสียงอ่อนลง แต่เธอเลือกที่จะไม่ตอบ

    "ฉันสัญญานะ ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเธอได้"มัลฟอยพูดพลางกุมมือหญิงสาวมาจูบ

    "ขอบคุณนะ ที่นายปกป้องฉัน"หญิงสาวบอกพลางกุมมือเขาแน่น แต่เธอไม่รุ้หรอกว่าสายตาของใครคนหนึ่งกำลังจ้องเธอจากหลังประตูอย่างอาฆาต




       

                         ควันสีดำลอยขึ้นอีกครั้งมันนำไบโอนี่มาอยู่ที่หอพรีเฟ็คเธอมองไปตรงกระจกเห็นร่างของเด็กสาวสวมชุดราตรีเกาะอกเข้ารูปยาวลากพื้นสีน้ำเงินเข้มและมีประกายเพชรห้อยๆลงมา ผมสีน้ำตาลถูกเกล้าขึ้นไปอย่างสวยงามและมีปรอยผมลงมาครอเครียแก้มใสที่ถูกตกแต่งกับริมฝีปากสีชมพูคล้ายดอกคาร์เนชั่นแพงขนตางอนงาม เฮอร์ไมโอนี่ยืนมองตัวเองในกระจกเธอชั่งงดงามร่าวกับรูปปั้น   เสียงประตูห้องเปิดออกอย่างเบามือเหมือนหญิงสาวจะไม่รุ้ตัว เด็กหนุ่มผมบอร์นเดินตรงเข้ามาหาเด็กสาวอย่างเงียบที่สุด  เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าลงแต่ก็รู้สึกแปลกที่อยู่มีวัตถุเย็นๆมาสัมผัสที่คอของเธอหญิงสาวเงยหน้าขึ้น พร้อมมองเงาสะท้อนในกระจก มันเป็นสร้อยเพชร สีน้ำเงินเข็ม รอมล้อบด้วยเพขรสีเงินเล็กๆทั้งเส้น  ส่วนมัลฟอยนั้นใสสูทสีดำตัดขาวซึ่งทำให้เขาดูหล่อขึ้นมาก


    "ชอบไหม ฉันให้เธอ"มัลฟอยถามพร้อมกับกอดเธอไว้จากด้านหลัง

    "เดรโก นายให้ฉันทำไหม ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกมันแพงเกินไป"หญิงสาวบอกพร้อมจะถอดสร้อยออกจากคอแต่มือของเดรโกคว้าเอาไว้ให้หญิงสาวหยุด

    "เพชรอันนี้เป็นของตะกูลมัลฟอย นั้นก็คือฉันเพราะฉันเป็นทายาทคนสุดท้าย และมันต้องคำสาปไว้อยู่"มัลฟอยกล่าวน้ำเสียงเรียบ ต่างจากเฮอร์ไมโอนี่ที่ท่าตกใจเมื่อได้ยิ่นว่าป็นของตะกูลมัลฟอย และต้องคำสาปอีก

    "เพชรอันนี้ ต้องคำสาป คือถ้าใครมาขโมยไปหรือไปอยู่กับคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่เต็มใจใครคนนั้นจะต้องมีอันเป็นไป ยกเว้นทายาทเท่านั้นที่จะสามารถมอบเพชรให้กับคนที่เขารักได้แต่มีข้อแม้ ถ้าเกิดใครสักคนหมดรักไป เพชรอันนี้จะทำลายตัวเองพร้อมกับพรากชีวิตของคนๆนั้นไปด้วย"มัลฟอยเล่าเรียบๆ

    "แสดงว่าเพชรอันนี้ก็เปรียบเสมือนกับคำสาบารชั่วนิรัดน์นะสิ"เฮอรฺไมโอนี่ถามอย่างสงสัย

    "ใช่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอให้เธอจำไว้ฉันจะรักเธอตลอดไป" มัลฟอยตอบเรียบๆ เฮร์ไมโอนี่จ้องตัวเองกับเดรโกสักพักภาพๆนี้ก็สลายไป

                                       ________________________

    แต่ภาพตรงหน้าก็หายไป เปลี่ยนเป็นอีกสถานที่หนึ่งเป็นเหมือนหอพรีเฟ็ค แอสเทอเรียกำลังครอเคียอยู่กับมัลฟอยบนโซฟาในห้องนั่ง

    "พอสักทีเถอะ"มัลฟอยพูดอย่างกราดเกี้ยว พร้อมพลักร่างของแอสเทออก

    "ทำไหมละหรือว่ายังคิดถึงยัยเลือดสีโคลนนั้นอีก"แอสเทอเรียพูดอย่างอารมณ์เสีย

    "จนป่านนี้เธอยังไม่รุ้อีกหรอ ฉันไม่ได้รักยัยเลือดสีโคลนนั้น ที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะฉันต้องการเอาชนะเธอแล้วก็เจ้าพอตเตอร์ ทุกอย่างมันเป็นแค่เกมเท่านั้น "มัลฟอยพูดอย่างผู้ชนะ

    "ฉันแค่ต้องการให้เจ้าพอตเตอร์มันเจ็บปวดที่สุด ด้วยการแย่งคนที่มันรักมาและใช้ยัยเลือดสีโคลนนั้นเป็นเหยื่อล่อ"มัลฟอยพูดพรางยิ้มที่มุมปาก

    "แสดงว่าวันนั้นที่นายพายัยเลือดสีโคลนนั้นไปงานเต้นรำก็เป็นแผนของนายทั้งหมดสิ นายตั้งใจทำให้มันคลั่งด้วยความหึงห่วง"แอสเทอเรียถาม

    "ใช่เพราะฉันรู้ไงว่ามันรักยัยเลือดสีโคลน รวมทั้งเรื่องที่ทะเลสาบด้วยฉันส่งจดหมายนัดย้ายเลือดสีโคลนออกมากลางดึก เพื่อจะล่อให้มันออกมาหาฉัน ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าพอตเตอร์ก็ต้องเป็นห่วงมันแล้วตามมันมา"มัลฟอยบอก

    "ทั้งที่จริงนายหลอกยัยเลือดสีโคลนนั้นเพื่อจะให้เจ้าพอเตอร์เข้าไปที่ทะเลสาบเพื่อจะนำตัวมันไปให้จอมมารใช่ไหม?"แอสเทอเรียถามเพื่อความแน่ใจ

    "ใช่ แต่เมื่อมันมาถึงผู้เสพความตายก็จับมันไม่ได้อีกทั้งยังพายัยเลือดสีโคลนหนีออกไปได้อีก"มัลฟอยพูดอย่างกราดเกรี้ยว

    "แต่ ตอนนี้ยัยเลือดสีโคลนคงรู้หมดแล้วละว่าโดนนายหลอกใช้"แอสเทอเรียถามอย่างสงสัย

    "ไม่หรอกยัยนั้นยังไม่รู้หรอกว่าทั้งหมดเป็นแผนของฉัน มันคิดว่าพวกผู้เสพความตายมาจับแฮร์รี่เองไม่ได้เกี่ยวกับฉัน อีกไม่นานพอเจ้าพอตเตอร์ไปอยู่ในมือของจอมมารยัยนั้นก็จะหมดประโยชน์สำหรับฉัน อย่าลืมสิยัยนั้นเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมที่สามารถล่อเจ้าพอตเตอร์นั้นได้เป็นอย่างดี เพราะมันรักยัยนั้น"มัลฟอยยิ้มอย่างชั่วร้าย

    "แสดงว่าที่ผ่านมาที่นายปกป้องยัยนั้นก็เป็นแค่เกมเพื่อให้ยัยนั้นตายใจน่ะสิ งั้นตอนนี้นายไม่ได้รักยัยนั้น แล้วนายรักฉันไหม?"แอสเทอเรียถาม แต่เด็กหนุ่มเลือกที่จะเงียบ

    "ถ้านายไม่ตอบฉันของพิสุทธ์ก็แล้วกัน"แอสเทอเรียโน้มริมฝีปากเข้ามาประกบกับริมฝีปากซีดของมัลฟอย โดยที่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ

    ซึ่งเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าหลังประตูนั้นมีร่างของหญิงสาวผมสีน้ำตาลหยกศกได้ยินทุกการกระทำทุกคำพูดของเขา น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มของหญิงสาว  นี้เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแฮร์รี่แอบรักเธอมาตลอด แต่เธอกลับไปรักมัลฟอยคนที่หลอกใช้เธอมาตลอดหญิงสาวรู้สึกเหมือนกับคนโง่ ทั้งหมดคงเป็นแผนของมัลฟอยนี้เองเขาคงเกลียดเธอกับแฮร์รี่มาก  เขาหลอกให้เธอรักเขาแล้วหลอกใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อจะได้ทำลายแฮร์รี่  เป็นเพราะเธอใช่ไหมที่ทำให้แฮร์รี่ถึงกับเกือบตายเป็นเพราะเธอที่ทำให้เขาเสียใจ ตลอดเวลาที่เขาอยู่กับเธอผ่านเรื่องราวร้ายๆมาด้วยกันแท้จริงก็เป็นแค่เกมเพื่อให้เธอตายใจ หญิงสาวรู้สึกเหมือนโดนตบไปหนึ่งฉากร่างของเธอชาไปทั้งตัว เธอรู้สึกอยากจะหายตัวไปอยากจะหนีไปจากปัญหานี้เหลือเกิน


            

                                          ______________________________

                         ควันสีดำปรากฏขึ้นแปบเปลี่ยนภาพตรงหน้า ตอนนี้ไบโอนี่ยืนอยู่ในหอนอนของกริฟฟินดอร์หญิงสาวมองไปรอบๆมีกระเป๋าที่ถูกจัดเก็บอย่างเรียบร้อยให้เดานี้คงเป็นวันปิดเทอมซึ้งก็คือวันนี้ของเมื่อตอนบ่ายแสงสว่างส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบร่างบางของเฮอร์ไมโอนี่เธอสวมเสื้อสเวตเตอร์สีขาวกับกางเกงยืนขายาวยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง มือทั้งสองข้างกำลังแกะจดหมายจากนกฮูดที่ดูคล้ายเหยียวเฮอร์ไมโอนี่คลี่จดหมายออกมาและเริ่มอ่าน

                  ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ มาพบฉันที่ทะเลสาบดำตอนนี้ นำสร้อยเพชรมาด้วย

                                                                                                        เดรโก มัลฟอย


                    หญิงสาวจ้องกระดาษอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ตั้งแต่เกิดเหตุกาณ์นั้นเธอก็เอาแต่หลบหน้ามัลฟอย  ใจหนึ่งเธอก็ไม่อยากจะไปเลย แต่หญิงสาวอยากให้เรื่องของเรามันจบลงเพียงเท่านี้ เธอไม่อยากเป็นเหยื่อในเกมของเขาอีกต่อไปแล้ว หญิงสาวหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงในลิ้นชักหัวเตียงเปิดกล่องออกเผยให้เห็นเพชรสีเงินประกายฟ้า หญิงสาวหยิบมันสวมไว้ที่คอแล้วดึงคอเสื้อขึ้นมาเปิดสร้อย แล้วเดินลงไปที่ทะเลสาบดำ หญิงสาวเดินมาอยู่ตรงหน้าทะเลสาบดำ ลมอ่อนๆพัดสัมผัสผิวเบาๆ ต้นไม้รายลอมเต็มไปหมดบริเวณรอบๆเหมือนจะไม่มีใคร  หญิงสาวพยายามมองหาร่างของเด็กหนุ่มผมบอร์นแต่ก็ไม่มีวี่แวว เสียงดังมาจากพุ่งไม้ร่างเบาของหญิงสาวผมดำยาว นัตตาสีดำสนิทก้าวออกมาส่งสายตาเหี้ยมเกี้ยมมาให้ พร้อมร่างสูงในชุดคลุมดำปกปิดใบหน้าสองคนเดินตรงมาหาเธอ นี้มันเป็นกับดักสินะคนที่ส่งจดหมายมาให้เธอคือแอสเทอเรีย ไม่ใช่เดรโก แล้วมัลฟอยมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ไหมความสับสนวิ่งกระทบสมองของเฮอร์ไมโอนี่อย่างมากแต่เธอต้องหยุดความคิดไว้เพียงเท่านั้นเพราะร่างสูงทั้งสองก้าวเดินมาใกล้เธอ หญิงสาวหันหลังพร้อมวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

    "จับมัน"แอสเทอเรียสั่งร่างสูง ร่างสูงโปร่งทั้งสองนั้นหายตัวไปดักหน้าเฮอร์ไมโอนี่แล้วจับแขนทั้งสองข้างไว้ หญิงสาวพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถสู้ได้

    "เอาตัวมันไป"แอสเทอเรียสั่ง ร่างสูงทั้งสองพาเฮอร์ไมโอนี่หายตัว ไปยังคุกใต้ดินที่มืดมนของคฤหาร์มัลฟอย

    
    
    
    เพลงนำของเรื่องและเป็นเพลงประกอบตอนที่2 My Immortal-evanescence 
    เป็นเพลงของเฮอร์ไมโอนี่ที่สื่อว่าในเวลาที่ผ่านมาเธอค่อยอยู่ข้างเขาตลอดแต่เขากลับทรยศต่อความรักของเธอ
    จริงๆเพลงนี้มันสองแง่สองงาบ อาจจะสื่อถึงคนที่ตายจากไปแล้วและสือถึงคนอกหักอีกด้วย
    เนื้อเพลงและคำแปลยังคงคล้ายกับเนื้อเรื่องในบทนี้อยู่
    
    
    
    
    


    { Winter Dark Theme }
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×