ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิธีการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ

    ลำดับตอนที่ #32 : ----- 32 ----- กินแป้งอย่างไรไม่ให้อ้วน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.8K
      0
      27 เม.ย. 50

    กินแป้งอย่างไรไม่ให้อ้วน

       

              ความเชื่อหนึ่งที่ฮิตกันมากเวลาเราจะลดความอ้วน นั้นคือการงดทานแป้งและน้ำตาล หรือ ลดสัดส่วนในการทานลงมากๆ

              ถามว่า ทำแบบนี้ถูกต้องไหม

              ก่อนจะตอบคำถามนี้ เรามาดูก่อนดีไหมครับว่า ทำไมแป้งและน้ำตาล จึงเป็นตัวอันตรายต่อความอ้วน เมื่อเราทานแป้งและน้ำตาลเข้าไป ร่างกายจะย่อยสลายมันกลายเป็น

              กลูโคสเข้าไปในกระแสเลือด ซึ่งมีผลให้  ตับอ่อนจะผลิตฮอร์โมน อินซูลิน จะว่าไปก็เหมือนเป็นภารโรงที่คอยเกบกวาดกลูโคสไปจากกระแสเลือดโดยการนำเข้าไปในเซลล์เพื่อใช้ในการเผาผลาญเพื่อเป็นพลังงาน แต่หากกลูโคสยังเหลือ อินซูลินก็ไปกระตุ้นให้เกิดเอนไซม์ชนิดหนึ่งเปลี่ยนเจ้ากลูโคส เป็นไกลโครนเจนเข้าไปฝากที่ตับและกล้ามเนื้อ

              แต่หากยังเหลืออีก คราวนี้แหละ อินซูลินจะเปลี่ยนกลูโคสกลายเป็นไขมันสะสมไว้ในร่างกายของคนเรา และนี้คือเหตุผลสำคัญว่า ทำไม แป้งและน้ำตาลถึงทำให้อ้วน

    ดังนั้นที่เขาชอบแนะนำให้งดหรือลดการทานเจ้าแป้งและน้ำตาล ก็เพื่อลดระดับกลูโคสในกระแสเลือดนั้นเอง

    แต่ในความจริงแล้ว เราก็มีวิธีการที่จะทำให้การกินแป้งไม่อ้วนแบบที่คิดได้ ด้วย 2 วิธีคือ

    (1) การเลือกกินแป้งและน้ำตาล ที่มีดัชนี ไกลซีมิก ต่ำ - ดัชนีนี้เป็นตัววัดว่า อาหารพวกแป้งและน้ำตาลนี้จะมีผลต่อระดับของกลูโคสในเลือดอย่างไร หากมีค่าไกลซีมิกสูงเท่าไร ระดับกลูโคสในเลือดก็เพิ่มขึ้นเร็วเท่านั้น

    โดยปกติ กลูโคสจะถือว่ามีค่าไกลซีมิกอยู่ที่ 100 ส่วนแป้งและน้ำตาลอื่นๆก็มีค่าน้อยลงลดหลั่นลงมา หากอาหารที่มีค่าไกลซีมิกต่ำกว่า 55 ถือว่ามีค่าไกลซีมิกต่ำ ส่วนระดับ 55-70 จัดว่ามีค่าอยู่ขั้นปานกลาง และระดับที่สูงกว่า 70 จัดอยู่ในขั้นสูง

    ดังนั้น หากไม่อยากให้เกิดระดับกลูโคสในเลือดสูงเกินไป ก็เลือกกินแป้งและน้ำตาลที่มีค่าไกลซีมิกต่ำนั้นเอง

    ตัวอย่าง แป้งและน้ำตาล ที่มีค่าไกลซีมิกสูง เช่น ขนมปัง (แม้แต่โฮลวีทที่มีวิตามินเยอะก็สูง) วัฟเฟิล แครกเกอร์ ข้าวขัดขาว มันฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็น เฟรนช์ฟราย หรือ อบ

    ตัวอย่าง แป้งและน้ำตาล ที่มีค่าไกลซีมิกต่ำๆ เช่น พวกแป้งและน้ำตาลที่อยู่ในถั่วโดยส่วนใหญ่ น้ำตาลในผลไม้ ข้าวซ้อมมือ พาสต้า หรือ สปาเก็ตตี้

    ปัญหาหลักของการทานดัชนีไกลซีมิกสูงๆ คือ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการฟอกสีและกระบวนการผลิตที่ทำให้อาหารที่มีค่าไกลซีมิกต่ำกลายเป็นอาหารที่มีค่าไกลซีมิกสูง อย่างพวกแป้งขัดขาวที่นำมาทำเป็นขนมปัง

    เคยมีสังเกตถึงคนชาวพื้นเมืองของอเมริกัน ที่แต่เดิมกินพวก หัวเผือกหัวมัน ถั่ว ข้าวโพด อาหารที่เส้นใย ผลไม้ ซึ่งมีค่าไกลซีมิกต่ำ แต่เมื่อพวกนี้เปลี่ยนมากินอาหารแบบคนเมือง คือ อาหารฟาสฟู๊ด น้ำอัดลม ขนมอบต่างๆ ปรากฏว่า กลายเป็นคนอ้วนไปตามๆกัน พร้อมทั้งมีปัญหาโรคเบาหวานมากขึ้น

    ดังนั้น ไม่ถึงกับต้องงดหรือลดการทานแป้งและน้ำตาลครับ แต่ให้เลือกพวกที่มีค่าไกลซีมิกต่ำ เป็นหลัก

    (2) การออกกำลังกาย - การออกกำลังกายนี้จะไปกระตุ้นตับอ่อนให้ผลิตฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งคือ กลูคากอน มันมีหน้าที่ในการรักษาระดับของกลูโคสในเลือดไม่ให้ต่ำเกินไป โดยการสลายไกลโครเจนที่สะสมไว้เป็นกลูโคส รวมไปถึงการเอาไขมันที่สะสมมาใช้ด้วย

    เห็นไหมนี้แหละทำไม ออกกำลังกายถึงทำให้ผอมลง

    เพราะฉะนั้น ในความคิดเห็นของผม อย่ากลัวแป้งและน้ำตาลมากจนเกินเหตุครับ ให้เราเลือกการรับประทาน และออกกำลังกายไปด้วย น้ำหนักก็ลดลงได้

     

    แหล่งที่มา » http://www.7wandee14wansuia.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=99604

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×