คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : องก์ที่ 9 : บางทีปีศาจก็ไม่ได้กินเเค่เครื่องใน
ฉันเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวพอตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในถ้ำดินแคบๆแห่งหนึ่ง ที่นี่ทั้งมืดสลัวและอากาศถ่ายเทจนเย็นจับใจ
ภาพสุดท้ายในความทรงจำค่อยๆย้อนกลับเข้ามา ทั้งภาพของเจ้าปีศาจแมงมุมบ้าการต่อสู้ ภาพของชินเมียวมารุและคุณชิโระที่โดนอัดจนลุกไม่ขึ้น
และความอบอุ่นของร่างที่ฉันไม่ตั้งใจจะซุกไซร้ -_-
เขาคนนั้น....คงไม่ใช่ปีศาจละมั้งนะ
ฉันลูบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติก่อนจะหันมองรอบๆตัว
แล้วฉันก็พบว่าในถ้ำเล็กๆแห่งนี้ยังมีบุคคลอื่นอยู่อีก ที่ปากถ้ำซึ่งมองออกไปเห็นพระจันทร์ดวงโตมีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งพิงผนังด้วยท่าทางสบายๆ ขาข้างหนึ่งของเขายืดขวางทางออกส่วนมือสองข้างก็กอดอกไว้หลวมๆ
เสี้ยวหน้าที่ต้องแสงจันทร์คมได้รูปราวกับเป็นเทพบุตรก็ไม่ปาน
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นมองบริเวณปากถ้ำอีกครั้งเพื่อย้ำให้แน่ใจว่าตัวเองตื่นแล้วจริงๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ใบหน้าภายใต้เงาจันทร์หันมามองฉันช้าๆ อา.....หล่อเว่อร์
พระเจ้า....ฉันเห็นเทวดา แบบว่าเทวดาตัวเป็นๆเลย!
เดี๋ยวนะ!
แถวนี้มันจะมีคำว่าเทพบุตรเทพธิดาจริงๆนะเรอะ(เถียงกับตัวเองแปป)
“ก็เคยนึกไว้ว่าถ้าโตขึ้นใบหน้าเจ้าคงจะพริ้มเพรา” มุมปากของชายหนุ่มกระดกเป็นรอยยิ้มจางๆก่อนจะละสายตาจากฉันไปมองพระจันทร์ดวงโตแทน “....แต่ไม่คิดว่าจะงดงามถึงเพียงนี้”
คำพูดของเขาทำให้ฉันต้องนั่งเงียบเพราะทำอะไรไม่ถูก น้ำเสียงของคนคนนี้แม้จะดูสงบและเย็นชาแต่ก็มีความเป็นมิตรแฝงอยู่เล็กน้อย(ย้ำว่าน้อยมาก)
เขาแต่งกายด้วยชุดสีดำทั้งตัว มีเครื่องประดับทำจากทองคำขาวแซมอยู่ในชุดแค่เพียงเล็กน้อยแต่ก็ดูเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก มันดูเหมือนชุดออกรบของชนชั้นสูง ผมสลวยสีดำที่ยาวถึงกลางหลังทำให้ฉันพอจะรู้แล้วว่าเขาคือใคร
“คุณ....เอ่อ หมายถึงท่าน คือคนที่สู้กับซึจิคุโมะใช่รึเปล่าคะ” คิดถึงช่วงนั้นแล้วรู้สึกอายชะมัด ไม่น่าหันไปกอดเขาเลย
“ใช่เหรอ?”
คำพูดเพียงสั้นๆทำให้ฉันเริ่มลังเลใจเล็กน้อย แต่เมื่อลองประมวลภาพเหตุการณ์ดูอีกทีฉันก็มันใจว่าตัวเองคิดถูกแล้ว
“ก็ฉันเห็นท่าน....”
“ซึจิคุโมะเป็นปีศาจที่แข็งแรงแล้วก็ฆ่ายากมาก
มนุษย์ธรรมดาแบบข้าจะเอาปัญญาที่ไหนไปทำอย่างที่เจ้าบอก” ชายหนุ่มพูดพลางหันกลับมามองฉันก่อนที่เขาจะโยนอะไรบางอย่างมาตรงหน้า
“ของเจ้า”
ฉันมองดูดาบตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้ว แม้จะมีลายนกกระเรียนสีทองเหมือนอันที่คุณชิโระให้ แต่เจ้าดาบตรงหน้ากลับเป็นสีดำแทนที่จะเป็นสีขาวบริสุทธิ์
“ไม่ใช่อันนี้” ฉันพึมพำกับตัวเองพลางไล่สายตามองชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะพบว่าดาบของฉันมันวางอยู่ข้างๆเขา
อา....สรุปแล้วชายคนนี้เป็นมิตรหรือเป็นปีศาจกันแน่เนี่ย เริ่มงงแล้วนะว้อย!
แต่ก่อนที่ฉันจะได้ถามอะไรออกไปร่างคล้ายคนแก่แต่มีจมูกยื่นยาวกว่าคนปกติแถมยังมีปีกสีดำคู่ใหญ่อยู่ที่หลังก็บินโฉบมาหยุดอยู่ตรงปากถ้ำซะก่อน ส่วนผู้ชายคนนี้ก็เอาแต่จ้องฉันอยู่ได้ เขาไม่รู้ตัวรึไงว่ามีปีศาจมาอ่ะ
“คุณระวัง!”
ฉันวิ่งไปหยิบดาบคาตานะที่เขาโยนมาก่อนจะชักมันออกจากฝักแล้วชี้หน้าปีศาจมีปีกจนเจ้าปีศาจบินถอยไปพร้อมกับยกมือสองข้างขึ้น
“ท่านหญิงได้โปรดใจเย็นก่อนขอรับ ข้าไม่ได้จะทำอะไรนายท่าน” ปีศาจมีปีกว่าพร้อมกับส่ายหัวรัวๆ
“แต่คุณเป็นปีศาจ” แม้จะกลัวอยู่บ้างแต่ฉันก็กัดฟันยืนเผชิญหน้ากับปีศาจนกตนนี้อย่างไม่เกรงกลัว
น่าแปลกที่ผู้ชายหน้าหล่อยังนั่งอยู่ที่เดิมราวกับไม่ทุกข์ร้อนอะไร แถมเขายังลอบยิ้มเหมือนพยายามกลั้นขำกับเรื่องอะไรบางอย่าง
“ท่านชิราคาวะ~~~”
ปีศาจนกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก่อนจะแปลงร่างเป็นนกตัวเล็กๆแล้วบินไปหาชายหนุ่มที่นั่งขำอยู่ข้างๆฉัน
“ได้เห็นนางเเล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรคาราสึเท็งงู” ชายหนุ่มกลับเข้าโหมดเดิมก่อนจะเอ่ยปากถามเจ้านกที่พยายามออกแรงดึงให้เขาลุกขึ้นยืน
“งดงามดังที่ท่านว่า เเต่นางจะเป็นอันตรายต่อท่านนะขอรับ”
“เรื่องนั้นข้าเองก็รู้อยู่ หากหมดหน้าที่เจ้าก็ไปได้แล้ว”
“ข้ายังไม่ได้รายงานถึงสิ่งที่นายท่านสั่ง” คาราสึเท็งงูกลับเป็นร่างเดิมก่อนก่อนจะเริ่มสาธยายในขณะที่ฉันยังคงยืนอึ้ง! อึ้ง! อึ้ง! และอึ้ง!
“รู้หมดแล้ว เจ้ากลับไปได้” ชายหนุ่มยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเดินมาหยิบดาบจากมือฉันไปถือไว้
“ขอรับท่านปีศาจ”
พูดจบร่างนั้นก็หายไปราวกับว่าเขามีความสามารถในการหายตัว
ในถ้ำแห่งนี้จึงเหลือเพียงฉันกับชายหนุ่มที่ปีศาจตนนั้นเรียกว่าท่านปีศาจ
“ขอบคุณที่ปกป้องข้าจากปีศาจร้าย”
ชายหนุ่มที่ชื่อชิราคาวะพูดพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นใบหน้าของเขาแบบชัดๆ ทุกอย่างของเขาดูสมบูรณ์แบบไปหมด อยากรู้จริงๆว่าเขาเป็นปีศาจประเภทไหน
“ท่านก็เป็นปีศาจ”
ฉันก้าวถอยหลังจนกระทั้งหยุดอยู่ที่ปากถ้ำ ตอนแรกคิดว่าจะกระโดดลงไปแต่พอได้เห็นความสูงจากพื้นขึ้นมาถึงถ้ำ ฉันจึงรู้ว่าไม่ควรเสี่ยงชีวิต -_-
“....”
ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเขาขยับเข้ามาใกล้อีกในขณะที่ฉันไร้ทางหนี
เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มมาใกล้ฉันจึงขยับถอยหลังไปเพียงเล็กน้อย ตอนนี้ฉันกำลังจะหงายหลังตกหน้าผาแล้ว กรุณาอย่าขยับเข้ามาได้ม้ายยย!!!
“เหวอ!!!” อยู่ๆหินที่เหยียบอยู่มันก็กลิ้งลงไปข้างล่าง แต่ยังดีที่ฉันไม่กลิ้งลงไปด้วยเพราะผู้ชายตรงหน้าจับร่างไว้ทัน
แต่ที่แย่คือเรากำลังกอดกัน ไม่นะฉันจะกอดกับปีศาจเป็นรอบที่สองไม่ได้
“ท่านจับข้ามาทำไม....ต้องการอะไรกันแน่คะ” ฉันขยับตัวไปไหนไม่ได้เพราะโดนแขนแข็งแรงของคนตรงหน้าล็อกร่างเข้าประชิดลำตัวของเขา
“ข้าต้องการเจ้า...”
คำตอบของปีศาจตนนี้ทำให้ฉันต้องเงยหน้ามองเขาด้วยความงง นั้นจึงทำให้สายตาของเราประสานกันเป๊ะๆ นัยน์ตาของเขาเป็นสีดำรัตติกาล ริมฝีปากเรียวบางรับกับคิ้วเข้มและสายตาดุๆจนดูสมส่วนไปหมด ใบหน้านอกจากจะเรียวคมแล้วยังมีสันกรามนิดๆด้วย
อา....ชายในฝันของฉันชัดๆ คนสมัยนี้เขาจะรู้จักวิธีการจูบมั้ยนะ แบบว่าฉันไม่เคยรู้สึกอยากจูบผู้ชายเท่านี้มาก่อนเลย โอ้ย! จะบ้าตาย
แต่เขาคงคิดจะฆ่าฉันมากกว่าแฮะ
ฉันเคยอ่านมาว่าปีศาจชอบกินเครื่องในสดๆของมนุษย์ และคงไม่มีปีศาจตนไหนที่หลงรักอาหารจานหลักหรอกมั้ง วันนี้ฉันคงตายแบบของแท้เลยล่ะ แต่ฉันยังไม่ยากตายเลยนะ T_T
หลังจากยืนเงียบกันอยู่นานฉันก็เป็นฝ่ายขยับปากขึ้นพูด
“ทะ....ท่านจะฆ่าข้าเหรอคะ” พูดจบฉันก็หลับตาปี๋ทันที จะฆ่าวิธีไหนก็ได้ขอแค่ไม่เจ็บก็พอ
ฉันรู้สึกได้ว่าเขาเอาดาบซึ่งยังอยู่ในฝักดันหลังฉันให้เข้าประชิดตัวเขามากขึ้น และต่อมาเขาคงจะชักมันออกจากฝักแล้วฟันตัวฉันจนขาดสองท่อน ฮือออออ~ ไส้ฉันคงไหลลงมากองอยู่บนพื้น ศพของฉันคงจะน่าขยะแขยงมากๆแน่เลย แง
“อยากให้ฆ่าเหรอ? งั้นข้าจะฆ่าเจ้าเเล้วจับกินตรงนี้ซะเลยดีมั้ย” น้ำเสียงจริงจังพร้อมด้วยลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดใบหน้าทำให้ฉันแทบจะร้องไห้ออกมาจริงๆ
เขาอยากกินเครื่องในของฉันจริงๆเหรอเนี่ย ทำไมท่านหญิงมิซึกิต้องเกิดมาสวยเหมือนฉันด้วยห้ะ ไม่รู้รึไงว่าคนสวยมักตายเร็ว
“......”
เวลาผ่านไปไม่นานนัก รอบตัวของเราทั้งสองมีเพียงความเงียบสงบไม่มีฝ่ายใดเอ่ยอะไรออกมา เเละไม่เห็นว่าปีศาจตนนี้จะทำอะไรกับฉันสักที
ฉันได้เเต่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัวก่อนจะลอบกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ลงคอเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆดังออกมาจากคนตรงหน้า เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขนั้น......ราวกับว่าเขากำลังขำในท่าทางของฉัน
“ลืมตาได้แล้ว.....ข้าจะไปส่งเจ้า”
ห้ะ!?!?!?!
ฉันรีบลืมตาขึ้นทันทีเพราะรู้สึกได้ว่าร่างกายถูกอุ้มในท่าเจ้าหญิง ก่อนจะรีบหลับตาและกอดคอเขาแน่นเมื่อเห็นว่าปีศาจตนนี้กำลังจะกระโดดลงจากถ้ำ!
ตุบ
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะโดดลงมาด้วยความนุ่มนวล ท่านชิราคาวะวางฉันลงบนอะไรสักอย่างที่ดูแข็งแล้วก็นุ่มนิ่มแปลกๆ
และเมื่อลืมตาขึ้นมองฉันจึงพบว่าเจ้าสิงที่เราสองคนกำลังนั่งอยู่คือมังกรสีดำตัวเป็นๆ ขนาดของเจ้าตัวนี้เท่ารถไฟหนึ่งขบวนเลยล่ะ
เจ้ามังกรทยานขึ้นสู่ฟ้าจนฉันแทบกรี๊ดออกมา ก่อนที่มันจะเคลื่อนไปบนท้องฟ้าช้าๆจนฉันสามารถพยุงตัวอยู่ได้โดยไม่ต้องกลัวตกลงมา
เมื่อมองลงไปเบื้องล่างมีเพียงความมืดมิดเท่านั้นที่ปกคลุม ฉันไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นความฝันหรือเป็นความจริงกันแน่ น่าเหลือเชื่อชะมัด ฉันเนี่ยนะนั่งอยู่บนหลังมังกร
ส่วนชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังก็ยังคงนั่งกอดอกพร้อมกับหลับตาพริมเหมือนเวลาที่เราเจอกันครั้งแรก บางครั้งผมของฉันมันก็ไปสะกิดหน้าเขาเล็กน้อย(มั้ง) จนฉันต้องคอยรวบมันมาไว้ข้างหน้า
ไม่นานนักเจ้ามังกรก็มาหยุดอยู่ที่สนามหญ้าบริเวณฝั่งห้องนอนของฉัน ฉันรีบกระโดดลงมาก่อนจะวิ่งเข้าห้องทันที ไม่มีการกล่าวอำลาใดๆเพราะชายคนนั้นน่าจะหลับไปแล้ว
สรุปแล้วที่นี่มันยังไงกันแน่นะ น่าเหนื่อยใจชะมัด
แต่ก็ต้องขอขอบคุณพระเจ้านะคะ ที่ทำให้คนในปราสาทหลับกันจนหมด......ถ้าพวกเขามาเห็นอะไรแบบนี้จะเป็นยังไงกันนะ
.........................................................
ความคิดเห็น