คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : ARC 2 :: 19. [ Words can always hurt everyone. If you're not careful with your words The one who regrets the most is ourselves ]
o n l y u | fanfic bnha
midoriya izuku x shiori sachita (oc)
ARC 2 :: 19. [ Words can always hurt everyone. If you're not careful with your words The one who regrets the most is ourselves ]
ทีมของเธอตัดสินใจให้คนที่ขี่เป็นทาการะ พวกเราให้เด็กสาวตาบอดเป็นเจ้าของที่ถือครองคะแนนของทีมทั้งหมด อัตลักษณ์ของทีมเราค่อนข้างแตกต่างกันมากพอสมควร นั่นทำให้แอบกังวลอยู่ไม่มากก็น้อย - อัตลักษณ์สายโจมตีที่จะสามารถโจมตีคนอื่นได้เห็นจะมีแต่ทาการะและอาโอยามะ ในขณะที่เธอเป็นสายสนับสนุนอย่างชัดเจน ส่วนฮารุกิตอนที่เธอถามเขากลับตอนมาว่า มันไม่ใช่อัตลักษณ์ที่สุดยอดหรอกครับ เป็นอัตลักษณ์พื้นๆ อย่าใส่ใจเลย
พวกกั๊ก มันเก๊กแบบนี้ทุกคนเลยไหมนะ?
ซาจิตะได้แต่คิดและรอเวลานับถอยหลังในการปล่อยตัวให้การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ขณะที่ทบทวนตำแหน่งของตัวเอง เธออยู่ทางปีกขวา ฮารุกิอยู่ตรงปีกซ้าย และอาโอยามะคอยระวังหลังให้ในทีมของเรา เพื่อให้คนด้านหลังใช้เลเซอร์ยิงหนีในจังหวะที่เราเข้าตาจน ทีมของเราไม่สามารถต่อสู้บนอากาศได้ เนื่องจากอัตลักษณ์ไม่เอื้อ (ถ้านับจากอัตลักษณ์ของคนแค่สามคน - เพราะมันมีใครบางคนที่ยังไม่ยอมเปิดเผยความสามารถของอัตลักษณ์)
หลังจากเกมเริ่มไม่นาน เป็นอย่างที่คิดหลากหลายทีมพุ่งเป้าไปยังคะแนนสิบล้านที่อยู่กับทีมของอิซึคุ ซาจิตะทำตามแผนที่ว่า - จะไม่เข้าไปแตะต้องกับคะแนนสิบล้านบนหัวของเจ้าของเรือนผมสีเขียวเข้มที่มีแต่คนหมายปองในคะแนนนั้น
ศึกครั้งนี้การเคลื่อนไหวของแต่ละทีมรวมถึงความเข้ากันได้ของอัตลักษณ์ค่อนข้างจะสำคัญ
แค่สองนาทีก็วุ่นวายเอาซะแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้ซาจิตะสงสัยคือทีมของชินโซที่มีโคซากุระ โอจิโร่และใครบางคนจากห้อง 1-B อยู่ด้วย เธอค่อนข้างสงสัย ไม่มีทางที่เจ้าของอัตลักษณ์ซากุระจะดูยิ้มและอยู่เฉยๆอย่างไม่สนใจอะไรแบบนั้นได้ แถมดูเธอจะเม้ามอยกับชินโซที่กำลังทำสีหน้าเอือมๆอยู่อย่างออกรสออกชาติโดยไม่สนใจว่าผ้าคาดหัวของทีมตัวเองจะถูกขโมยไปตั้งแต่เปิดเกมเลยสักนิด
“มัวแต่คิดแบบนั้นจะดีเหรอครับ ชิโอริ”
เสียงเตือนของฮารุกิดังขึ้นมา ทำให้ซาจิตะที่พึ่งจะกลับมาตั้งสติได้พึ่งสังเกตว่ามีเรียวลิ้นยาวหลายเมตรกำลังตรงเข้ามา เด็กสาวบังคับให้ผ้าจับกุมพันกับเรียวลิ้นยาวของกบ อัตลักษณ์ของอะซุยเพื่อนร่วมห้อง ซาจิตะออกแรงให้ผ้าจับกุมรัดลิ้นของอะซุยเอาไว้ ขณะที่ร่างกายขนาดใหญ่ของโชจิวิ่งตรงเข้ามา จังหวะนั้นขาของซาจิก็รู้สึกถึงการขยับไม่ได้ - ทีมนี้เปลี่ยนเป้าหมายจากการเล่นงานทีมของที่หนึ่งมาเล่นงานทีมของเธอแทน
ก้อนสีม่วงที่คุ้นเคยเหมือนหมากฝรั่ง ซาจิตะจำได้ว่าเป็นอัตลักษณ์ของมิเนตะ และเธอก็สบตาเข้ากับเด็กหนุ่มร่างเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในร่างกายของโชจิเช่นเดียวกับอะซุย กระสุนจากฝ่ามือของทาการะถูกปล่อยออกไปเพื่อโจมตีโชจิที่กำลังวิ่งตรงเข้ามาอยู่
“โจมตีไม่โดนเลยค่ะ!”
ไม่ใช่ไม่โดน ทาการะ ไอโกะเข้าใจผิดว่าการโจมตีไม่โดน แต่เปล่าเลย - ปราการของโชจิแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก จนสามารถทนกับห่ากระสุนจากฝ่ามือของทาการะได้ ซาจิตะสูดลมหายใจ กำลังใช้ความคิดขณะที่อาโอยามะส่งเสียงโวยวาย
“ทำไงดีล่ะ ทำไงดี!”
“ใจเย็นๆกันนะครับ”
ฮารุกิเป็นฝ่ายเอ่ย ก่อนที่เด็กหนุ่มเจ้าของตาสีอาร์กติกจะขยับนิ้วมือวนบนอากาศ ฉับพลันอากาศนั้นก็คลับคล้ายเกิดวงสีเข้มขึ้นมามันเป็นวงเล็กๆในอากาศ “เจ้าลูกบอลกลมๆสีม่วงประหลาด ผมจะจัดการให้เอง ชิโอริช่วยเหวี่ยงเจ้าของลิ้นออกไปจากตรงนั้นก็แล้วกันนะครับ”
“โอเค”
“ส่วนทาการะจังกับอาโอยามะคุง - อาโอยามะคุงปล่อยเลเซอร์จากสะดือเพื่อพาพวกเราขึ้นฟ้าหนีครับ ทาการะจังก็ช่วยปล่อยกระสุนเพื่อเสริมแรงของอาโอยามะคุงหน่อยนะครับ”
คำสั่งการจากเด็กหนุ่มที่กำลังจะแสดงอัตลักษณ์ของตัวเองปรากฎออกมา ซาจิรับคำสั่งที่ว่าลิ้นของอะซุยที่กำลังหาทางขยับนั้น ซาจิตะออกแรงเหวี่ยงผ้าจับกุมของเธอ นั่นทำให้เห็นว่าร่างกายของอะซุยไหลตามแรงเหวี่ยงของเธอ เด็กสาวเจ้าของอัตลักษณ์กบเซถลาไปกับพื้น พอเห็นแบบนั้นลูกกลมสีม่วงที่มักประดับบนหัวของมิเนตะก็ยิ่งถูกปล่อยออกมามากขึ้นด้วยความใจร้อนหรือใจเสียที่เห็นอะซุยบาดเจ็บไปแล้ว
“หนอย! เอาไปกิน!”
สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาทำให้ซาจิตะประหลาดใจ ลูกกลมที่ควรจะตรงเข้ามาแปะ มันกลับถูกกลืนหายไปกับอากาศ ทำราวกับไม่เคยมีอยู่ - หายวับไปดื้อๆ และร่างกายของพวกเราก็ทะยานขึ้นฟ้าเพื่อหนีโชจิ
“อัตลักษณ์ของนาย?”
“ผมสร้างช่องว่างในอากาศเมื่อกี้ครับ”ฮารุกิตอบ “อัตลักษณ์ของผมคือสาบสูญครับ”
แค่ชื่อก็ฟังอันตราย “มันคล้ายๆกับของหมายเลขสิบสามน่ะครับ ถ้านึกไม่ออก ที่เหลือขอเก็บเป็นความลับไปก่อนแล้วกันนะครับ”
เพราะแบบนั้นเธอก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
เมื่อลงถึงพื้นได้ ก็ทำให้รู้ว่าตอนนี้ทีมบาคุโกกับทีมโมโนมะกำลังปะทะกันอยู่ ทีมของซาจิตะในเวลานี้ก็กำลังทำการแย่งชิงคะแนนจากทีมหนึ่งมาที่มี 50 คะแนน นั่นทำให้คะแนนของทีมเธอตีตื้นขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 6 เป็นรองทีมของโทโดโรกิที่อยู่ในลำดับที่ 5
นอกจากทีมของอิซึคุที่ยังครองอันดับหนึ่งอยู่ ลำดับที่สองถึงสี่ล้วนเป็นทีมของห้อง B ทั้งสิ้น และไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือร้าย
และจากนั้นทีมของบาคุโกที่ชิงคะแนนที่ถูกแย่งไปคืนมาได้กำลังอยู่ต่อหน้าของพวกเธอ
บ้าชะมัด
สถานการณ์เมื่อกี้เกิดขึ้นเร็วมาก
และประหลาดใจเหลือเกินที่ทาการะสามารถคว้าผ้าจากบาคุโกมาได้ แม้จะไม่ใช่ป้ายที่เป็นคะแนนสูงอะไรที่จะทำให้อันดับเปลี่ยนไป - แต่มันก็เป็นความสำเร็จที่เหลือเชื่อจนแม้แต่ซาจิตะก็ประหลาดใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝั่งของสนามเฮขึ้นหลังจากที่มิโดริยะแย่งผ้าจากโทโดโรกิมาได้
พวกเขาปะทะกันถึงสองครั้งถ้าอิงตามเสียงประกาศของพรีเซนท์ไมค์ที่ประกาศจับไมค์พูดรับหน้าที่เป็นพิธีกร และดูเหมือนว่าสิ่งผิดพลาดจะเกิดขึ้นเมื่อผ้าที่อิซึคุแย่งจากโทโดโรกิไปได้ไม่ใช่แต้มสิบล้าน อันดับของโทโดโรกิจึงยังคงเป็นลำดับที่หนึ่ง ขณะนี้เวลากำลังนับถอยหลังในหลักยี่สิบวินาที
ทีมบาคุโกที่ตรงไปในการต่อสู้กันของทีมโทโดโรกิและทีมมิโดริยะที่จะเข้าปะทะกันอีกรอบ
ขณะเดียวกันระหว่างที่พวกเราไม่ได้รับรู้อะไร - ลมซากุระที่ก่อตัวขึ้นก็พุ่งผ่านไป ซาจิตะหันเงยมองแต้มบนบอร์ด เห็นได้ชัดว่าแต้มของทีมเธอหายไป 50 คะแนน และ 50 คะแนนนั้นถูกส่งไปให้ทีมของชินโซทำให้อันดับของทีมนั้นตีขึ้นมา ซาจิตะหรี่ตาลงอย่างไม่เข้าใจ คิดจะชิงคะแนนท้ายเกมงั้นเหรอ?
แต่เวลาที่จะหมดแบบนี้ - ทำไมถึงมุ่งหน้าไปยังทีมเท็ตซึเท็ตซึล่ะ?
แต่สิ่งที่ทำให้เด็กสาวประหลาดใจมากกว่าการที่ทีมชินโซที่มีโคซากุระ โอจิโร่ และเด็กหนุ่มห้อง 1-B พุ่งไป สิ่งที่ประหลาดยิ่งกว่าคือการที่ทีมเท็ตซึเท็ตซึที่กระตือรือร้นมาตั้งแต่ต้นเกมนิ่งงันไม่มีทีท่าตั้งรับอะไรจนกระทั่งลมซากุระที่หยุดพัดลงนั้นทำให้เธอเห็นมือของเด็กหนุ่มผมสีม่วงหน้าง่วงคนนั้นคว้าผ้าคาดหัวของทีมเท็ตซึเท็ตซึมาได้
ง่ายดาย - ง่ายจนเกินไปด้วยซ้ำ
เหมือนไม่ได้ลงมืออะไรเลย
เวลายี่สิบวินาทีที่ตัวท็อปไปรุมตีกัน ทีมชินโซเพียงแค่หาทีมที่มีคะแนนมากพอที่ไม่เข้าไปอยู่ในวังวนนั้นและแย่งชิงมันมา
“Time up!!”
เสียงประกาศสำเนียงภาษาอังกฤษของพรีเซนท์ไมค์ตะโกนดังผ่านลำโพงออกมา ทำให้การแข่งขันทุกอย่างหยุดลง ไม่มีการไล่ล่ากันเกิดขึ้นอีกแล้ว ทางฝ่ายเด็กสาวตาบอดค่อยๆพูดถามไถ่ถึงคะแนน
“คะแนน…”
“อ่า พวกเราอยู่ลำดับที่หกค่ะ”
ซาจิตะบอกไปตามความเป็นจริง ไม่มีปิดบังใดๆ นั่นทำให้เรียกสีหน้าแอบผิดหวังของเด็กสาวผมฮิเมะคัท “งั้นเหรอคะ…”
“แต่พวกเราทำได้ดีแล้วครับ”
ฮารุกิพูดตามความเป็นจริง “บางทีมคะแนนไม่เหลืออยู่เลยด้วยซ้ำ แถมส่วนหนึ่งที่มาถึงอันดับนี้ได้ก็เพราะทาการะจังชิงคะแนนมาจากบาคุโกได้นะ”
“อันนี้ฉันเห็นด้วยค่ะ”
เธอปลอบให้กำลังใจไป ทาการะสมควรได้รับคำชม - ขณะเดียวกันซาจิตะก็เบนสายตาสีฟ้าอ่อนของเธอมองไปยังเด็กหนุ่มผมทองที่มาจากห้องเดียวกันและได้อยู่ห้องเดียวกัน “อาโอยามะก็ทำได้ดีเหมือนกันนะ”
“แน่นอนอยู่แล้วสิ ก็ฉันเป็นคนที่เปล่งประกายนี่นา!”
เธอเมินเขาทันทีที่เห็นท่าทางที่ไม่ได้เสียใจอะไร ก่อนจะค่อยๆกอดอกฟังลำดับคะแนนของแต่ละทีมจากปากของพรีเซนท์ไมค์อย่างเป็นทางการ
“ลำดับที่ 1 ได้แก่ทีมโทโดโรกิ!!”
นั่นหมายความว่าอิซึคุชิงผ้าคาดหัวสิบล้านมาไม่ได้ในเวลายี่สิบวินาทีที่ถอยหลังกันเมื่อครู่
“ลำดับที่ 2 ทีมบาคุโก!!”
เธอฟังลำดับไป ขณะที่ก้าวไปหาอิซึคุที่หน้าซีดเหมือนผิดหวัง แต่ก็เว้นระยะห่างไม่เข้าไปใกล้อะไรมาก รอคอยให้เขาพูดคุยกับเพื่อนของกลุ่มตัวเองที่ฝ่าฝันอันดับกันมา ท่าทางของเขาดูเสียใจเสมือนตกรอบทั้งๆที่เข้ารอบ - ระหว่างนั้นหูก็ฟังเสียงประกาศทีมลำดับสามที่สร้างความตื่นตกใจให้กับอาจารย์ผู้บรรยายการแข่งขัน
“ลำดับที่ 3 ทีมเท็ตซึ… เห! เป็นทีมชินโซเหรอเนี่ย!? ตั้งแต่เมื่อไรกัน?!”
มีแต่เธอ ฮารุกิ อาโอยามะเท่านั้นแหละที่ทันเหตุการณ์ภายใน 20 วินาทีนั้น
และทันทีที่ลำดับที่ 4 ถูกประกาศขึ้นมา เสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มมาตั้งแต่การประกาศทีมแรกที่เข้าสู่รอบการแข่งขันสุดท้ายก็ยิ่งดังขึ้นไปอีก อิซึคุร้องไห้น้ำตาท่วมดูเหมือนทั้งดีใจและปนขวัญเสียจากคราแรกที่ตัวเองคิดว่าตนไม่อาจได้เข้ารอบไป
ซาจิตะยินดีกับเขาด้วยจริงๆ
“ก็เข้าไปแสดงความยินดีกับเขาตรงๆสิ แม่ขา”
เด็กสาวอัตลักษณ์ซากุระจากห้องเดียวกันที่เข้าไปในรอบสุดท้ายเพราะทีมได้อันดับสามตรงเข้ามาหาเธอ และพูดจาล้อ นั่นทำให้เจ้าของผมหยักศกตัดสั้นถอนหายใจและทำหน้าเอือมระอาแบบทุกครั้ง
“ฉันไม่ต้องไปยินดีอะไรกับเขามากหรอกค่ะ”
“เหหหห”
“สนามนี้ยินดีกับเขามาตั้งแต่ที่เขาชนะในการแข่งวิ่งสิ่งกีดขวางแล้วค่ะ”
เธอเชื่อแบบนั้น
“คนเราจะฟอร์มไปเพื่ออะไร?”โคซากุระแย้งในคำพูด “คิดอะไรก็แสดงออกไปเลย ดีใจก็ดีใจด้วยเถอะน่า”
“เธอชอบยุ่งเรื่องคนอื่นดีนะ”
“โอ๊ยย แม่ขาด่าเค้าอีกแล้วอ่า!”
เธอส่ายหน้าแสดงออกว่าเหนื่อยหน่าย
แต่ขณะที่กำลังจะก้าวไปหาคนที่ออกมาจากกลุ่มเพื่อน ริทสึกะก็คว้าแขนของซาจิตะเอาไว้ ตาสีชมพูมาเจนต้าสบเข้ามาในตาของเด็กสาว “เดี๋ยวก่อนสิ เกือบลืมไปเลย”
“อะไร?”
“มีคน...อยากคุยกับเธอน่ะ”
ว่าแล้วริทสึกะก็พยักเพยิดให้มองไปด้านหลัง ตาสีฟ้าอ่อนมองตามไปก่อนจะพบร่างขอคนที่รออยู่
ชินโซ ฮิโตชิ แผนกสามัญ ห้อง 1-C ต้องการคุยกับเธอ
“มีอะไรรึเปล่าคะ?”
เธอถามหลังจากที่แยกออกมาทานข้าวกลางวันกับชินโซเพียงลำพัง ตาสีฟ้าไม่แสดงอารมณ์อะไร ไม่ต่างจากใบหน้าเรียบเฉยของเจ้าของนัยน์ตาสีไวโอเล็ต ชินโซค่อยๆวางช้อนส้อมลงและพูดกับเธอตรงๆ
“เธอคือชิโอริสินะ”
“ค่ะ”
ตอบไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ที่ฉันต้องการจะคุยกับเธอก็ไม่มีอะไรมาก”
เขาบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง - หากแต่บรรยากาศที่ส่งออกมาไม่อาจทำให้ซาจิคิดไปตามนั้นได้เลยแม้แต่น้อย “ฉันแค่มีคำถาม”
“อยากจะถามอะไรก็ถามออกมาตรงๆเลยค่ะ”
เขามองหน้าเธอตรงๆ
“เธอคิดว่าตัวเองเหมาะสมกับการอยู่แผนกฮีโร่งั้นเหรอ?”
ซาจิตะนิ่งหลังความจริงข้อนั้นจากปากของเด็กหนุ่มต่างสาขาตีแสกหน้าของเธอขึ้นมา มันเป็นคำถามที่ชวนให้โมโหได้ง่ายปนกับสับสน มันไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบอะไร นอกจากการหาเรื่องอย่างเงียบๆ
“แล้วแต่คนอื่นจะคิดแล้วกันค่ะ”
เธอตอบ - ยอมรับว่ามันเป็นการตอบที่แค่หนีปัญหาเท่านั้น
เธอรู้ในพลังที่ไม่ได้ดีเลิศอะไรของตัวเองที่สุด
“น่าผิดหวังจริงๆที่แผนกฮีโร่มีคนแบบเธอ”
ซาจิกำลังโดนชินโซโจมตีทางคำพูดในฐานะที่ไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในแผนกฮีโร่ - มันเป็นเรื่องที่เตรียมใจมาตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวเองจะต้องพบเจอ เธอคิดมาตั้งแต่แรกตั้งแต่วันที่พยายามแย่งชิงจนสามารถได้โควต้าพิเศษ
ชินโซจะมองว่ามันไม่ยุติธรรมก็คงไม่แปลกหรอก
“แล้วทำไมคะ?”
เธอแย้งถามกลับด้วยคำถาม มือกอดอกไม่พอใจ “คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดกันคะ?” ซาจิถามย้ำ
“คนที่ไม่ได้อยู่ในแผนกนี้ด้วยซ้ำ มีสิทธิ์มาพูดว่าคนอื่นด้วยเหรอคะ”
คำพูดที่ร้ายกาจเผลอหลุดจากปากของเธอไป แม้น้ำเสียงที่ใช้จะเรียบนิ่ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ท่ี่ว่าซาจิตะเองก็ตั้งใจใช้คำพูดของตัวเองโจมตีเขาไป และเป็นการโจมตีที่แย่มากๆด้วย
เพราะว่ามันก็ไม่ใส่ใจถึงความรู้สึกและความพยายามของคนตรงหน้าเหมือนกัน
“อย่างเธอจะไปเข้าใจอะไร!”
เขาขึ้นเสียงขึ้นมา นั่นทำให้ซาจิตะที่มักนิ่งเฉยสะดุ้งไหล่
“คนที่มีโอกาส ทั้งๆที่ก็มีคุณสมบัติไม่พอด้วยซ้ำแบบเธอน่ะ จะไปเข้าใจอะไร!?”
คำตะคอกที่ตีแสกหน้าซาจิอีกครั้ง ทำให้เธอชะงักนิ่งไป เมื่อก็คิดได้เช่นกันว่าตัวเองจะต่างอะไรจากอีกฝ่าย
“ฉัน...ฉันสอบเข้าแผนกฮีโร่ผ่านข้อเขียน”
เขาเล่า
“และรู้ไหม - ความจริงที่ว่าต่อให้อยากเป็นแค่ไหน แต่อัตลักษณ์ทำให้เป็นไม่ได้ มันเจ็บขนาดไหน?”
ซาจิตะพลาดไปจริงๆ
พลาดไปที่ตัวเองใช้คำพูดแบบนั้น
ทั้งๆที่คนที่ควรจะเข้าใจเรื่องนี้ที่สุดก็คือตัวเธอด้วยซ้ำ
ตัวเธอที่ไม่ได้มีอัตลักษณ์เกิดมาเพื่อสู้หรือต่อกรกับใคร
เราต่างกันตรงไหนเหรอ
ต่างกันแค่โอกาสที่ได้รับเท่านั้นเอง ไม่ใช่หรือไง
ยัยโง่ ซาจิตะ
ชินโซลุกออกไปแล้ว ขณะที่ซาจิยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เธอก้มหน้าลงสัมผัสถึงของเหลวที่กลั้นเอาไว้ไม่ได้ที่เอ่อขอบตาของตน ความรู้สึกที่ชวนหงุดหงิด
เธอหงุดหงิดตัวเอง
ทำไมถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกไปก่อน
คนที่แย่คือเธอเอง
มือของซาจิยกขึ้นมาปิดปากของตัวเอง พยายามกลั้นเสียงสะอื้นที่กำลังจะส่งออกมาจากริมฝีปาก ท่ามกลางความวุ่นวายของโรงอาหาร
และอาจเพราะใช้สมาธิจากการอดทนอดกลั้นความรู้สึกนี้
ร่างกายของอิซึคุก็ขยับเข้ามาใกล้ และย่อตัวลงข้างเก้าอี้ของซาจิตะ มือของอิซึคุจับมือของเธอข้างที่ว่างที่ไม่ได้ปิดปากกลั้นความรู้สึกขณะก้มหน้าเหมือนมืออีกข้าง
“ซัจจัง…”
“อิซึคุ…?”
“เกิดอะไรขึ้นกันครับ?”
ใบหน้ากระดูตื่นตกใจที่เห็นเธอร้องไห้ออกมา ซาจิตะส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นอะไร
“ไม่เป็นอะไรค่ะ”
“ร้องไห้เพราะแพ้เหรอครับ?”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นซะหน่อย”
ซาจิแย้งความเข้าใจผิด เธอไม่ได้ร้องไห้เพราะทีมของตัวเองแพ้ แต่ก็แค่รู้สึกว่าตัวเองไปทำร้ายความรู้สึกของใครที่ไม่ต่างอะไรจากตัวเองลงไปต่างหาก
มันเป็นความผิดหวังกับตัวเองมากกว่า
“นั่นสินะครับ...ซัจจังไม่ร้องไห้กับเรื่องนั้นอยู่แล้วนี่”
มือที่จับมือของเธอไว้ออกแรงบีบมือของซาจิตะที่เคยใช้อัตลักษณ์ของเธอในการช่วยให้เขารอดมาจากเหตุการณ์ที่ USJ
สุดท้ายมิโดริยะ อิซึคุก็สูดลมหายใจ - ใจกล้าขยับมือขึ้นเกลี่ยปัดน้ำตาที่คลออยู่ออกให้เบาๆ
“ขอโทษนะครับ ผมล้างมือแล้วนะ - ผมไม่ได้พกผ้าเช็ดหน้าไว้ด้วย ขอโทษที่ต้องใช้มือเช็ดให้แบบนี้นะ”
คำขอโทษที่เป็นห่วงเป็นใย
ออกจากปากของอิซึคุ - เด็กหนุ่มค่อยๆเช็ดมันให้ ก่อนจะถามคำถามที่ตัวเองค้างคาใจออกไป
“เมื่อกี้ เขาไม่ได้พูดอะไรทำร้ายจิตใจของซัจจังออกมาใช่ไหมครับ?”
มิโดริยะ อิซึคุ ไม่ปฏิเสธว่าตนเองบังเอิญเห็นว่าก่อนหน้านี้เพื่อนร่วมห้องสาวอยู่กับใคร หลังจากที่คุยกับโทโดโรกิเสร็จ มิโดริยะก็มาที่โรงอาหารและบังเอิญพบเห็นทั้งสองคนกำลังคุยกัน ตอนช่วงท้ายๆเข้าพอ และไม่ได้ยินเสียงบทสนทนาท่ามกลางเสียงดังในโรงอาหาร
คนถูกถามเบิกตาสีฟ้าขึ้น
และอิซึคุก็ถามย้ำอีกครั้ง
“รู้ไหม ไม่ว่าใคร...ก็ไม่สมควรพูดคำไม่ดีกับซัจจังหรอกนะครับ”
แม้จะไม่รู้ว่าคำนั้นคืออะไร
แต่คำที่ทำให้คนอื่นเสียใจน่ะ - มันเป็นคำที่ไม่ดีหรอกนะ
อิซึคุคิดแบบนั้น
||||
Talk with มาวว ♡
เป็นตอนที่แอบสูบพลังไม่น้อยเลยค่ะ แงงงง
โดยส่วนตัวยังคิดว่าตัวเองยังเขียนสื่อฉากสู้ได้มะค่อยเห็นภาพเลย
(รายละเอียดแอบตัดด้วย ซีนปะทะบคก. เดี๋ยวไปเล่าในพาร์ทไอจังแทนนะคะ แงๆ)
ที่งงสุดคือพยายามคำนวนคะแนนค่ะ ฮือ เอาเป็นว่าคือแบบนี้นะคะ
จังหวะเริ่มเกม ทีมของซัจจังไม่ได้ปะทะอะไรกับคนอื่นมาก
เพราะส่วนใหญ่ทีมทั้งหมดไปปะทะกับทีมของเดกุ //แนบผังคร่าวๆให้ ขอให้ทุกคนอ่านออกนะคะ ฮือ ใครอ่านไม่ออก เดี๋ยวมาวอธิบายเปงตัวอักษรให้ฟังนะคะ
ส่วนในท้ายตอนก็คิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่ว่าที่ซัจจังร้องไห้ออกมา
มันเป็นความรู้สึกที่ว่าตัวเองได้เป็นคนในแบบที่ตัวเองไม่ชอบน่ะค่ะ
เวลาเราไม่พอใจเวลาใครมาดูถูกเรา แต่เราดันไปดูถูกความรู้สึกของเขาและรู้ตัวขึ้นมา มันก็เจ็บเหมือนกันนะคะ แง
ใดๆท้ายที่สุดนี้ขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจมาให้กันตลอดนะคะ รักทุกคนมากเลย ขอบคุณมากๆนะคะ เจอกันใหม่น้า
ความคิดเห็น