ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MY PRINCE เจ้าชายไร้รัก Yaoi ~(yunjae)~

    ลำดับตอนที่ #2 : เมืองซารัง ~องค์รัชทายาทองค์ใหม่~

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.01K
      2
      8 พ.ค. 52

        




         ณ เมืองซารังที่แสนสงบ ห่างหายจากการทำสงครามมานานหลายสิบปี อาณเขตที่กว้างขวาง พืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์ กษัตริย์ที่ป็นที่รักของราษฎรโดยกษัตริย์ที่มีชื่อว่า จินอุน พระองค์ทรงครองราชย์อย่างเป็นธรรม และมีเมตตา ทรงมีเมียอยู่สองพระองค์ นั้นคือองค์มเหสี กับพระสนม โดยองค์มเหสีทรงได้ให้กำเนิดราชโอรสซึ่งเป็นว่าที่องค์รัชทายาท


      
        .
        ..
        ...
        ....
       
        แต่ถึงแม้ว่าบ้านเมืองจะสงบสุขแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ภายในวังยังมีการแกร่งแย่งชิงดีกันอยู่ดีไม่ว่าจะเป็นเชื้อพระวงศ์หรือเหล่าบรรดาขุนนาง


        ในวันนี้เป็นอีกวันที่วังหลวงได้มีการจัดงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากที่พึ่งจะมีงานเลื่อนขั้นสนมคิม จินแจ ให้เป็นพระสนมเอกแต่สำหรับงานในวันนี้อาจจะยิ่งใหญ่กว่ามากนักเพราะเป็นวันแต่งตั้งองค์รัชทายาท ซึ่งก็ครบ1ปีเต็มที่องค์ชายลืมตาดูโลก แต่ใครจะรู้ว่าอาจเกิดอะไรขึ้นก็เป็นได้ ...ทุกอย่งย่อมไม่แน่นอน


       ...
       ...
       ...

        หลังจากเสร็จสิ้นงานพิธีการแต่งตั้งองค์รัชทายาทแล้ว เหล่าเชื้อพระวงศ์ขุนนางต่างพากับทยอยกลับ ...ยกเว้น... บุคคลหนึ่งร่างสูงที่ยืนมองเก้าอี้ของกษัตริย์ด้วยแววตาคมก่อนที่จะยกยิ้มที่มุมปาก

       "องค์รัชทายาทน้อย หวังว่าคงอยู่ดีนะกระหม่อม"


        .

        .

        .

        .
     
         ตำหนักพระสนมเอก


       "เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง  จินแจ" ชายร่างสูงที่เต็มไปด้วยยศศักดิ์อันทรงเกียรติถึงตำแหน่งกษัตริย์นั่งลงข้างเตียงทองหลังใหญ่ เพียงเพื่อไท่ถามอาการของพระสนมที่เมื่อไม่กี่เพลาที่ผ่านมานี้ได้ให้กำเนิด ราชโอรสกับราชธิดาคู่แฝดที่ใบหน้าเหมือนกันยังกับแกะ แต่คนละเพศก็เท่านั้น


       "ไม่เป็นไรแล้วเพค่ะ วันนี้เป็นวันสำคัญเจ้าพี่ควรจะอยู่กับพระมเหสีกับองค์รัชทายาทนะเพค่ะ"  เพราะนางเป็นคนโปรดของฝ่าบาทจึงทำให้เมื่อเวลาพบหน้ากับพระมเหสี จึงได้แต่หลบสายตาที่มองมาอย่างโกรธเคือง น้อยใจ และเจ็บปวดที่ถูกแย่งคนรักไป


       "เจ้าก็สำคัญนะจินแจ แล้วยิ่งเมื่อครู่ที่ทหารไปบอกเราเรื่องที่เจ้ากำลังจะให้กำเนิดลูก เราดีใจมากเลยรีบมาดูอาการ" กษัตริย์จินอุน เอ่ยขึ้นก่อนที่จะยิ้มบางเบาให้และจูบแก้มเนียนขาวไปหนึ่งทีก่อนจะเข้าไปสวมกอด

       "ขอบพระทัยเพค่ะ ขอบพระทัย หม่อมฉันรักฝ่าบาทเพค่ะ รัก"  สนมเอกสวมกอดสวามีแน่นพร้อมกับนําตาที่ไหลลงข้างแก้ม ...รู้ดี รู้ดีเสมอว่าฝ่าบาทคิดเช่นไร เป็นห่วงมากขนาดไหน


       "เราก็รักเจ้าจินแจ เอ่อเราได้ให้ท่านโหรหลวงตั้งชื่อให้ลูกแล้วล่ะ แต่เรไม่รู้ว่าเจ้าจะมีลูกฝาแฝด...ก็เลย"

       "ชื่อว่าอะไรเพค่ะ" ร่างบางนุ่มนิ่มถามขึ้นขณะอยู่ในอ้อมกอด

       "คิม จินฮวา เจ้าว่าเพราะไหม" กษัตริย์หนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะจูบลงตรงขมับซ้ายของพระสนม

       "เพราะเพค่ะ  ...ถ้าเป็นอย่างนั้นให้ชื่อจินฮวาเป็นชื่อขององค์หญิงน้อยนะเพค่ะส่วน องค์ชายก็ ..."

       "แจจุง คิมแจจุง ให้องค์ชายน้อยชื่อแจจุงนะเจ้าว่าดีไหม" 

       "เพค่ะ ตามพระทัยฝ่าบาท"






                                 ............6 ปีต่อมา...........


        
          
       "นายท่านเรียกข้ามามีการอันใดให้ทำหรือครับ" ชายร่างโปร่งพูดขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านเจ้านาย ผู้ที่มีพระคุณต่อเขา

       "จัดการซะ มันคงถึงเวลานั้นแล้ว"

       "นายท่าน หมายความว่า...."

       "เจ้าคงรู้ดี" ชายร่างสูงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นท่านเจ้านายเดินจากไปพร้อมกับยกยิ้มอย่างร้ายกาจก่อนจะนึกถึงใบหน้าของศัตรู

       "องค์รัชทายาทน้อยนับวันก็ยิ่งฉลาด ยิ่งเก่งแต่ก็น่าเสียดายที่เจ้าจะไม่มีวันได้เป็นกษัตริย์อย่างแน่นอน  ....เพราะทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามแผนของข้า"




         .....ในเวลาต่อมา.....


             "แต แต แต ๆ ๆ ๆ" เสียงของเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ในการสื่อความหมายของวังหลวง  .....กษัตริย์ได้สวรรคตแล้ว


               ..........
            
               ................

               ............................

       "ไม่!! ไม่!! องค์ชาย ลูกแม่ ไม่ ปล่อยลูกของเราเถอะนะ ขอร้อง ไม่ ไม่ อย่า!! องค์รัชทายาท!!!!!!!"
       




         

                                             .....................................................................




         เสียงอันดังจากการถกเถียงกันของเหล่าเสนาข้าหลวง 


       "จะทำเช่นไรกันดีในเมื่อตอนนี้พระมเหสีกับองค์รัชทายาททรงหายตัวไป เราจะทำเช่นไรกันดี"เสียงของขุนนางบางคนเอ่ยพูดขึ้นด้วยความหว้าวุ่น 


    .....หลังจากที่กษัตริย์ทรงสิ้นลงแล้ว ก็เกิดเรื่องในวังไม่หยุดหย่อน และเมื่อรุ่งเช้าที่ผ่านมาก็ดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเมื่อพระมเหสีกับองค์รัชทายาทได้หายตัวไปจากวังโดยไม่มีผู้ใดพบเห็น  


       "อันตัวข้าชอง ยองกึมเสนาบดี ..ข้าขอเสนอความคิดว่าเราควรจะแต่งตั้งองค์รัชทายาทขึ้นใหม่และตามความคิดของข้าแล้วผู้ที่เหมาะสมเห็นจะเป็นใครไปมิได้ นอกจาก องค์ชายแจจุง"


       "แต่ท่าน องค์ชายทรง......"


       "ในเมื่อองค์ชายทรงเป็นโอรสรองจากองค์รัชทายาทถึงแม้ว่าจะเป็นลูกพระสนมก็ตามที แต่องค์ชายแจจุงทรงเป็นโอรสเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น หรือท่านทั้งหลายคิดเห็นประการใด" เสนาบดีผู้อำนาจที่สุดในบรรดาเหล่าขุนนางพูดขึ้นและยิ้มเย็นออกมาเหมือนต้องการบอกให้รู้ว่า ทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามที่เค้าพูด



        เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างก็เข้าใจ...ในความปราถนาดีของท่านเสนาบดีที่อยากจะให้องค์ชายแจจุงได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปเพราะอย่างน้อยก็เป็นโอรสของกษัตริย์จินอุนเหมือนกัน...แต่กฎของราชสำนักกษัตริย์ผู้ที่ขึ้นเป็นกษัตริย์ได้ต้องเป็นลูกขององค์มเหสีเท่านั้น ซึ่งพระสนมจินแจยังไม่ได้รับแต่งตั้งทรงเป็นเพียงพระสนมเอกเท่านั้น


           ....



          ชอง ยองกึม เป็นเสนาบดีที่เก่งที่สุด มีความเมตตา ใจดี เป็นที่รักเป็นที่นับถือของเล่าเพื่อนพ้องและลูกน้องทั้งหลาย และที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ซํายังเป็นคนสนิทและเชื่อใจที่สุดของอดีตกษัตริย์จินอุน ...ยองกึมมีลูกชายอยู่หนึ่งคนซํายังเป็นว่าที่พระคู่หมั้นขององค์หญิงน้อยจินฮวาอีกด้วย แต่สำหรับเรื่องนี้ไม่มีใครได้รู้เป็นเพียงแค่สัญญาของผู้ใหญ่ตอนที่จินฮวาเกิดและกษัตริย์จินอุนพูดว่าจะยกราชธิดาให้กับลูกชายของท่านเสนาบดี



                   ....เขตพระราชฐาน....




       "แจจุงอา   แจจุงอา  .....คิมแจจุง!! " เสียงเล็กๆน่ารักขององค์หญิงจินฮวาวัย 6ขวบร้องเรียกน้องชายฝาแฝดเสียงดัง  ......คิม จินฮวาเสด็จพี่ของว่าที่องค์รัชทายาทคิม แจจุง

       "ครับ เจ้าพี่" 

       "แจจุงอาเราไปสวนดอกกุหลาบกันเถอะ" และแล้วพี่น้องฝาแฝดก็เดินไปยังสวนดอกกุหลาบ...สีสวยของดอกกุหลาบนานาสีหลายหลากพันธุ์กำลังเบ่งบานชูช่ออยู่ไปทั่วบริเวณ เหล่าบรรดาผีเสื้อน้อยใหญ่ต่างโบยบินไปมาท่ามกลางดอกไม้  ....แต่....

       "เจ้า ..ทำอะไรน่ะ   ..อ๊ะเจ้าคนบ้า" องค์ชายน้อยพูดอย่างตกใจเมื่อเด็กผู้ชายตัวใหญ่หันหน้ามา แล้วก็ยิ้มกวนให้

       "แจจุงอา ทำอะไรน่ะเสียงดังจังเลย  ...เจ้า"

       "เอ่อ กระหม่อมแค่จะดมดอกกุหลาบเท่านั้นเอง องค์หญิง....แต่องค์ชายแจจุงก็"

       "เจ้าชื่อว่าอะไร แล้วเข้ามาอยู่ในเขตพระราชฐานได้อย่างไรกัน" องค์หญิงจินฮวาถามขึ้นพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าบึ้งตึงของน้องชาย

       "กระหม่อมมีชื่อว่า ชอง ยุนโฮฝ่าบาท ที่เข้ามาที่นี่เพราะท่านพ่อของกระหม่อมบอกให้รออยู่แถวนี้ ก่อน ส่วนท่านพ่อทรงไปที่พระตำหนักปรึกษาเรื่องงานบ้านเมือง" ยุนโฮยิ้มอ่อนโยนให้กับองค์หญิงน้อยแล้วเลยไปถึงแจจุงด้วยที่ตอนนี้ทำท่าเบะปากอย่างรำคาญ

       "อืม พ่อเจ้าคงเป็นคนสำคัญซิน่ะ อ๊ะเราให้" จินฮวายืนดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ให้กับยุนโฮแล้วยิ้มให้อย่างน่ารัก ส่วนด้านยุนโฮก็อึ้งไปนิดก่อนจะรีบรับดอกกุหลาบและยิ้มหวานไปให้องค์หญิงจินฮวาด้วยความเขิน

       "จ้องอะไรเจ้าพี่เราอยู่ได้ ... ไปกันเถอะเจ้าพี่ น้องอยากไปสระนํา นะ เร็วซิเจ้าพี่"  แจจุงรีบเข้ามาจับมือเล็กของพี่สาวไว้และดึงให้ไปที่สระนําด้วยกัน ....หวง...หวงพี่...ไม่อยากให้มอง...ไม่อยากให้พี่ยิ้มให้ใคร....โดยเฉพาะเจ้าคนบ้านั้น



            ..............
     
       
       "เป็นอะไรของเจ้านะแจจุง ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย ไม่น่ารักเลยนะ" จินฮวาเอ่ยขึ้นเมื่อโดนแจจุงลากมาถึงที่สระนํา

       "ใช่ซิ ใครจะไปน่ารักเหมือนชอง ยุนโฮล่ะ" ใบหน้าองค์ชายน้อยนิ่วหน้าอย่างน้อยใจก่อนจะทำท่าเดินหนี

       "โอ๋ อย่างอนพี่เลยนะแจจุง ไม่มีใครน่ารักเท่าแจจุงของพี่อีกแล้วล่ะ" จินฮวาพูดง้อก่อนจะเดินเข้าไปกอด

      "ว่าแต่ เจ้าไม่ชอบ ชองยุนโฮเหรอทำไมทำท่ารังเกียจเค้านักล่ะ" 



          ......

          ..............

          .........................



                                                      ............15 ปีต่อมา...........




       "องค์รัชทายาท องค์ชาย องค์ชะ....."

       "อะไรของเจ้าห๊ะ!!  เจ้าไม่รู้รึไงเวลานี้เป็นเวลานอนของเราน่ะ" ร่างบางที่เดินมาเปิดประตูออกอย่างแรงพูดใส่เสียงดัง

       "ขออภัยเกล้ากระหม่อม กระหม่อมมีเรื่องด่วนจะแจ้งให้ทราบ ...เมื่อเช้านี้ได้มีการติดประกาศไปทั่วเมืองหลวงเรื่องขององค์หญิงจินฮวา" แจจุงที่ตอนแรกหน้าบึ้งกลับหันมาถามด้วยความสนใจ

       "ห๊ะอะไรน่ะ องค์หญิงจินฮวา ...เจ้าพี่ทำไม" 

       "ค คือในการประชุมเช้าวันนี้ องค์มเหสีกับเหล่าขุนนางทรงลงความเห็นในเรื่อง....การอภิเษกระหว่างองค์หญิงจินฮวากับ....."

       "กับใคร!!"

       "ท่านชอง ยุนโฮลูกชายของท่านเสนาบดีพะยะค่ะ เห็นบอกว่าท่านชองเป็นพระคู่หมั้นขององค์หญิงตั้งแต่ทรงพระเยาว์แล้วด้วย" 

       "เจ้าพี่ ....ไม่นะนี่ทำไมเราไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยล่ะ ทั้งๆที่เราเป็นองค์รัชทายาทแท้ๆ" องครักษ์พอฟังเข้าก็ทำปากขมุบขมิบ

       "จะทรงรู้เรื่องได้อย่างไร ไม่เคยสนพระทัยอะไรซักอย่าง"

       "เจ้าว่าอะไรนะชเว ซีวอน!!  อยากตายเหรอห๊ะ!!!"

       "กระหม่อมขออภัยพะยะค่ะ" ร่างสูงรีบเอ่ยขออภัยต่อองค์ชาย  ...ชเว ซีวอนนั้นรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์รัชทายาท เพราะด้วยความสนิทที่เกือบจะเป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว  ซีวอนรู้เสมอว่าองค์รัชทายาทผู้นี้เป็นเช่นไร ....ไม่เคยสนใจใคร ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น แต่สิ่งที่มีอิทธิพลต่อองค์รัชทายาทและสามารถยอมได้ทุกอย่างก็คือ องค์พระมเหสีกับ องค์หญิงจินฮวา ...สำหรับคำว่าแจจุงอานั้นมีแค่องค์หญิงจินฮวาเท่านั้นที่เรียกได้ เพราะทุกคนก็ต่างเกรงกลัวองค์รัชทายาททั้งนั้นมีเพียงองค์หญิงจินฮวาที่เข้าถึงจิตใจของน้องชายฝาแฝดคนนี้เป็นอย่างดี แจจุงจึงรักพี่สาวคนนี้มาก

       
       .

       ...

       .......

       ...........



       "แจจุงอา ....แจจุงอา เปิดประตูให้พี่หน่อยซิจ๊ะ..แจจุง  ....คิมแจจุง!!! " จินฮวาพูดเสียงแข็งใส่

       "มีอะไรครับ เจ้าพี่"

       "แจจุงอา เราโกรธพี่ใช่ไหม  ....องค์รัชทายาท!! ชั้นพูดกับนายอยู่นะ!!" ร่างบางเพียงแค่หันมามองใบหน้าหวานของพี่ก่อนจะหันไปทางอื่น
       
       "โธ่ แจจุงอา"

       "ใช่ แน่นอนที่สุดโกรธ โกรธมาก!!!" เมื่อได้ยินแบบนั้นองค์หญิงถึงกับอึ้ง  





       
                                             ..................to be con....................




      



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×