“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!”
อยู่ๆเสียงกรี๊ดของนักเรียนในห้องก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างของนักเรียนหญิงที่วิ่งฉิวไปยังหน้าต่างห้องเรียนอย่างรวดเร็ว รวมถึงไอ้สองและไอ้แซม(มี่)เพื่อนสองตัวของฉันด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ซีวอนเดินหลงทางมาโรงเรียนฉันหรือว่ามีควายสะพายเป้มาเรียนหนังสือ-_-^
“กรี๊ดๆๆ>O<ไอ้แซนๆๆ”
เสียงไอ้แซมเรียกในขณะที่ฉันกำลังหยิบการบ้านที่ต้องส่งเช้านี้ขึ้นมาทำและที่ต้องมาทำเช้านี้ก็เนื่องมาจากว่าเมื่อวานฉันเอาเวลาที่ต้องทำการบ้านไปแรดหมดแล้ว-*-
“อะไรของแกฮะ?”
ฉันเงยหน้ามองเพื่อนชาย(ที่ไม่สมควรเกิดมาเป็นผู้ชาย)อย่างเซ็งๆ ปากแดงเชียวไอ้บ้านี่-_-น่าสงสารพ่อแม่มันจริงๆที่ไม่ได้รู้เลยว่าลูกชายสุดแสนน่า (จะ) ภาคภูมิใจของพวกเขาเป็นเช่นนี้ ฉันไม่ได้ว่าอะไรมันนะ แต่ความจริงแล้วมันเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนหนึ่งเลยล่ะT_Tน่าเสียดาย มันไม่น่าหลง(เพศเดียวกัน)เล้ย~
“แกๆๆๆ เจ้าชายอ่ะแก เจ้าชาย>_<”
หาO_o เจ้าชาย เจ้าชายไหนฟระ มีเจ้าชายมาเรียนที่โรงเรียนของเราด้วยหรอ โอ้ม่าย>.,<โรงเรียนฉันอินเตอร์ถึงขนาดมีเจ้าชายมาเรียนเลยหรอเนี่ย ว่าแต่เขาเป็นเจ้าชายที่ไหนล่ะฮะ เพื่อเขาจะชอบผู้หญิง(เซ่อ)ซ่าร์แบบฉันบ้าง โฮะๆๆ
“เจ้าชายจริงๆหรอฟะ? O_o”
“ก็จริงอ่ะดิ มาดูเร็ว!”
ว่าแล้วไอ้แซมก็มาลากฉันไปหาไอ้สองที่ยืนกรี๊ดที่ริมหน้าต่างอยู่ก่อนแล้ว ฉันค่อยๆเดินแทรกนักเรียนคนอื่นๆจนในที่สุดก็เดินไปถึงหน้าต่างห้อง ไหนเจ้าชายที่ว่าอ่ะ>///<อยากเห็นๆๆ
“ไหนอ่ะเจ้าชาย-_-^^”
ฉันที่ยืนชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟ น้ำลายยืด สายตาส่อแววหื่นกามเล็กน้อยถึงปานกลางถึงมากถึงมากที่สุด@///@(ไอ้ที่บรรยายมาคนหรือหมาบ้ากันแน่ฮะ=_=)หันไปถามไอ้แซมและไอ้สอง เพราะว่ามองยังไงก็ไม่เห็นเจ้าชายที่พวกมันว่าซักกะที
“อึ๋ย! แกนี่มันตาไม่ถึงจริงๆเลยนะ”
นี่แกมาว่าฉันทำไมฮะ-O- ไอ้แซมบอกมาเร็วๆเลยก่อนที่ฉันจะดูทุเรศไปมากกว่านี้(กำลังทำหน้าหื่นยืดคอยาวอยู่=_=)
“ก็นั่นไงล่ะ เจ้าชาย!” ไอ้สองชี้ไปข้างล่างของตึกฝั่งตรงข้าม
“ไหนฟระ? มองยังไงก็ไม่เห็นมีเลย”
ฉันตะโกนบอกไอ้สองแข่งกับเสียงกรี๊ดของนักเรียนหญิงที่ดังกระหึ่ม บอกได้เลยว่ามันไม่ได้มาจากห้องฉันห้องเดียว โน่นแหนะ=_=ห้องข้างๆคอจะยาวถึงพื้นอยู่แล้ว ชิ!ฉันไม่ยอมแพ้หรอก ยืดคอแข่งกันเลยมา>^<(เป็นงั้นไป)
“ก็นั่นไง! เห็นไหม? ผมสีทองๆนั่นอ่ะ”
“นั่นมันอีตาพริ้นซ์ไม่ใช่หรอ-_-^”
“ก็ใช่นะเซ้!!!”
“เจ้าชายที่แกว่าหมายถึงไอ้หัวสีขี้เนี่ยนะ=_=^”
“นี่แกว่าพี่พริ้นซ์อย่างนี้ได้ยังไงย้า>_<” ไอ้แซมยกมือตีไหล่ฉันด้วย
ท่าทางน่าหมันไส้ เดี๋ยวแม่ต่อยฟันร่วงเลย-_-ไอ้นี่
“ก็เนี่ยแหละ เจ้าชายของไอ้แซมมันอ่ะ พี่พริ้นซ์อ่ะนะ ถึงจะไม่ใช่เจ้าชายจริงๆแต่ก็คล้ายๆกันนั่นแหละย่ะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งเรียนเก่ง เพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง แบบเนี้ยมันจะไม่ให้เรียกว่าเจ้าชายได้ยังไงกันย่ะ>///<กรี๊ด!พี่พริ้นซ์”
ไอ้สองหันมาสาธยายก่อนจะหันกลับไปกรี๊ดอีตาพริ้นซ์หรือพี่พริ้นซ์ของมันต่อ-_-
“หึ ถ้าอีตาพริ้นซ์เป็นเจ้าชาย ฉันก็เป็นเจ้าหญิงแล้วล่ะย่ะ>U<แบล่~ “
ฉันพูดก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะเรียนและหยิบงานขึ้นมาทำโดยไม่สนใจคนรอบข้างที่พากันกรี๊ดกร๊าดอีตาพริ้นซ์ ชิ!คนอะไรก็ไม่รู้ เหม็นขี้หน้าชะมัด มาเรียนก็สาย ทำเป็นเท่อยู่ได้ เชอะ! เห็นหน้าแล้วอารมณ์เสียจริงๆเลยง่ะ
อ่อ! พริ้นซ์ ที่ว่านี้ก็คือ นักเรียนชายผู้เป็นรุ่นพี่ของฉันเองล่ะ หมอนั่นอ่ะเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียน เป็นนักกีฬาของโรงเรียน เป็นประธานนักเรียน เป็นเทพบุตรในใจของสาวๆทั้งโรงเรียน เป็น บลาๆๆฯลฯ อะไรอีกเยอะแยะเต็มไปหมด น่าหมันไส้ใช่ไหมล่ะ หึ! กระแดะตั้งชื่อซะสูงส่งเชียว>^<น่าโมโหที่สุดอ่ะ
“นี่ไอ้แซน แกจะอคติอะไรกะพี่เขานักหนาฮะ”
แล้วมันหนักไข่สองใบอะไรของแกฮะ-O- ไอ้แซมเดินมานั่งข้างๆฉันและส่งเสียงกระแนะกระแหน นี่สงสัยอีตาบ้าพริ้นซ์เข้าห้องเรียนไปแล้วแน่ๆ ถึงได้กลับมาเนี่ย=_=
“ว่าไงล่ะ แกจะอคติอะไรกะพี่เขานักหนา”
“นั่นสิ!พี่เขาก็บอกแล้วว่าขอโทษ” ไอ้สองเดินมาสมทบ
“แต่ฉันไม่ยกโทษ!!คนที่บังอาจหักอกน้องสาวของฉัน ฉันไม่ยกโทษให้ง่ายๆแน่ จำไว้!!>O<อย่าพูดถึงไอ้บ้านั่นให้ฉันได้ยินอีก...”
“ตะโกนอะไร?!ติมาพร!”
อ้าวo_o ซวย อาจารย์มาพอดี เฮ้ย!การบ้านฉันยังไม่เสร็จเลยอ่า แง้~TOTเป็นเพราะไอ้บ้าพริ้นซ์คนเดียวเลย ฉันหุบปากนิ่ง ในขณะที่คนอื่นๆรีบวิ่งมานั่งที่ และในที่สุดอาจารย์กิ่งแก้วก็เข้าสอน
ส่วนฉัน....TT_TT
ถูกทำโทษให้ออกมายืนคาบรองเท้านักเรียนทำหน้าลิงอยู่หน้าห้อง(คาบไม้บรรทัดยืนขาเดียวมันเชยไปแล้ว-_=) ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็พากันหัวเราะคิกคัก เชอะ!หัวเราะกันเข้าไป ฉันด้านแล้ว ว่าแต่...ที่หัวเราะกันนี่ยังไม่ชินอีกหรอ ขนาดฉันยืนทำท่าทุเรศแบบนี้ทุกวันยังชินแล้วเลย-_-;
“ไอ้แซนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!>O<”
เสียงแหลมเล็กทะลวงแก้วหูซ้ายทลายแก้วหูขวาแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน-_-ไอ้แซมนี่เอง ตกลงว่ามันเป็นผู้ชายที่มีไข่สองใบแน่หรอฟะ เสียงนี่แหลมเล็กเสียเหลือเกิน ขนาดฉันที่เป็นผู้หญิงแท้ๆเสียงยังต่ำกว่ามันซักสิบเท่าได้อ่ะ
“อะไร?” ฉันหันไปถามมันที่วิ่งตามหลังมาพร้อมกะไอ้สอง
“รอพวกเราด้วยสิ จะรีบไปไหนเนี่ย ว่าแต่ว่า...แกไม่เมื่อยปากบ้างหรอ เห็นคาบรองเท้าทุกวันเลย^^” ไอ้สอง=O=พูดแบบนี้แกไปตบกะไอ้แซมที่กลางสนามเลยไป
“ไม่ต้องพูดเลย-_-; เพราะแกสองตัวนั่นแหละที่ทำให้ฉันทำการบ้านไม่ทัน แล้วก็ไอ้บ้าพริ้นซ์นั่นด้วย ทำให้ฉันถูกทำโทษเมื่อเช้าอ่ะ เชอะ!>O<คนบ้าอะไรไม่รู้ สงสัยจะนึกว่าตัวเองดีเลิศไปซะทุกอย่าง ถึงมาโรงเรียนสายได้ทุกวั้นทุกวัน เป็นประธานนักเรียนแล้วไงล่ะ หล่อก็ไม่เห็นจะหล่อเลย ไอ้หัวสีขี้เอ้ย!”
ฉันหันมาพูดใส่ไอ้แซมกะไอ้สองอย่างหมันไส้
“เอ่อ...ซะ แซน=O=”
“ทำไม?-_-^ทำหน้าหยั่งกะอีตาพริ้นซ์มายืนอยู่ข้างหลังฉันงั้นแหละ”
ปึก!
“เฮ้ย! OoO”
ฉันหันหลังกลับมาชนกับอะไรบางอย่าง และอะไรบางอย่างนั่นก็คือ...ผู้ชายที่ฉันเพิ่งด่าเขาไปสดๆร้อนๆเมื่อกี้ แถมยังต่อหน้าต่อตาเขาอีก
พริ้นซ์!!!
ฉันกระโดดมาหลบอยู่หลังไอ้แซมและไอ้สองทันที ส่วนหมอนั่นยืนมอง
ฉันด้วยสายตาเย็นชา ใบหน้าไม่แสดงความรู้สึก แต่น่ากลัวชิบเป๋ง>_<
“เอ่อ...แกว่าเมื่อกี้เขาคงไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรอกใช่ป่ะ-_-;”
“นี่! พี่พริ้นซ์เขาไม่ได้หูหนวกนะยะ=[]=” แกตอบให้ฉันชื่นใจหน่อยไม่ได้หรอ แซมT^T
“ฉันว่านะ=_=เขาคงได้ยินคำพูดของแกหมดแล้วล่ะ” หรอฟะ สองT_T
“เอ่อ...ขอโทษ-o-ที่ฉันชนนาย”
แต่ที่ฉันว่านาย ไม่ขอโทษโว้ย!เพราะมันคือความจริง-_-* อีตาพริ้นซ์มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาเรียวคมของเขาทำให้ฉันขนแขน Stan up อย่างไม่รู้ตัว ผมสีทองของเขาดูเหมือนขี้ไม่มีผิด-_-; ฉันถึงได้เรียกเขาว่า ไอ้หัวสีขี้ไงล่ะ
“หลบ-_-”
=O= หา เอ่อ...หลบหรอ? ฉันมองหน้าเขาอย่างงงๆ ตอนแรกก็นึกว่าเขาจะว่าอะไรฉันซะอีก หมอนี่ทำหน้าได้นิ่งมากอ่ะ นิ่ง นิ่งมากเกินไปจนกลายเป็นกวนบาทา=_= ฉัน ไอ้แซม และไอ้สอง ขยับหนีอีตาพริ้นซ์อย่างงงๆ คนหนึ่งไม่พอใจ คนหนึ่งโคตรเต็มใจ กะอีกคนที่แทบจะกระชากฉันหลุดออกไปนอกโลก แกจะฆ่าฉันหรอฮะ =[]=^ไอ้แซม แค่ฉันยืนขวางทางเจ้าชายของแกนี่นะ ไอ้เพื่อนเลว!
“ทีหลังจะนินทาใคร....ก็ดูให้ดีๆซะก่อนนะ”
อีตาพริ้นซ์พูดนิ่งๆ ก่อนจะเดินหายไปอย่างรวดเร็วโดยไม่เหลือบสายตามามองพวกฉันแม้แต่น้อย หนอยแหนะ!ไอ้บ้านี่ นึกว่าตัวเองเป็นใครกันฮะ เป็นเจ้าชายรึก็ไม่ใช่ เชอะ! ทำเป็นพูดดี ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา ระวังไว้เถอะ...ฉันคนนี้แหละที่จะทำให้หมอนี่ก้มหัวให้ฉันให้ได้
“ไอ้แซน!”
“อะไรของแกวะ-_-ไอ้สอง”
“(-_-)>>>”
ฉันหันไปมองตามมือของไอ้สอง เฮ้ย!o_O
“*O*”
“รุ่นพี่คะ...คะ...คือ...ฉันชอบพี่รุ่นพี่ค่ะ><///”
ในขณะที่ฉันกำลังรีบเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างเร่งด่วนนั้น เสียงที่ชวนให้เกิดอาการพะอืดพะอมก็ดังขึ้นภายในซอกหลืบของตึกที่ค่อนข้างลับตาคน และมันก็ทำให้ประสาทสัมผัสที่ 6(เสือก=o=) ของฉันทำงานในทันที ฉันค่อยๆเดินไปหลบอยู่ข้างๆกำแพงและชะโงกหน้าเข้าไปดูพบนักเรียนหญิง-ชายคู่หนึ่งยืนคุยกันภายในซอกหลืบนั้นสองต่อสอง
กรี๊ด!>O<บัดสีบัดเสียที่สู๊ดดดดดด! มาทำอะไรกันตรงนี้ฮะ ไม่อายชาว(เสือก) อย่างฉันบ้างเลยหรือไงยะ น่าเกลียดที่สุดเลยอ่ะ (เขายังไม่ได้ทำอะไรกันเลย-_+) นักเรียนหญิงคนนั้นหน้าตาน่ารักชะมัดยาท แต่มาบอกชอบผู้ชายแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย ไม่มีความเป็นกุลสตรีศรีสยามเอาซะเล้ย-_-*วัยรุ่นสมัยนี้ช่างน่าเป็นห่วงจริงๆ(รวมถึงเธอด้วยนั่นแหละ-_-<คนเขียน)
“ฉะ...ฉันชอบพี่จริงๆนะคะพี่พริ้นซ์”
หา!O_oพริ๊นซ์ อีตาพริ๊นซ์หรอ? กรี๊ด!>O<จริงๆด้วยอะ หัวสีขี้แบบนี้มีมันคนเดียว ฉันมองนักเรียนชายผมสีทองที่ยืนหันหลังให้อย่างหมันไส้
“...ฉันไม่ได้ชอบเธอ”
คำพูดคำนี้ฉันได้ยินจนชิน เพราะอีตานี่จะใช้พูดกับผู้หญิงแทบทุกคนที่มาบอกชอบเขาแบบนี้ รวมถึง...น้องสาวฉันด้วย-_- ยึ่ย! มันหน้าหมันไส้ใช่ไหมล่ะ ทำไมพวกผู้หญิงถึงได้หลงใหลคลั่งไคล้ไอ้หมอนี่กันนักหนานะ ฉันล่ะเกลียดจริงๆ นึกแล้วก็ยิ่งแค้น>[]<แค้นๆๆ โว้ย!ทนไม่ไหวแล้ว
เมื่อเห็นน้ำตาของนักเรียนหญิงคนนั้นฉันก็สติแตกในบันดล ก่อนจะค่อยๆถอดรองเท้านักเรียนข้างหนึ่งออกมา และ...
ปึก!!!
ปาใส่หัวอีตาพริ้นซ์
“โอ๊ย!!!!”
เขาร้องก่อนจะเอามือกุมหัว และมองหาต้นเหตุนั่นคือรองเท้านักเรียนของฉันด้วยความงุ่นงง ก๊ากๆๆๆ^O^สะใจชะมัด หึ! เก็กดีนัก
“นั่นใครน่ะ!!!?”
อ้าว! O_Oเฮ้ย! ซวยล่ะสิ ไม่น่าหาเรื่องเลยฉัน ฉันรีบใส่เกียร์หมาและรีบวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตออกมาจากที่ตรงนั้นทันที โดยมีร่างสูงของอีตาพริ้นซ์วิ่งตาม
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!เธอเอารองเท้าปาหัวฉันใช่ไหม?”
เสียงตะโกนทำให้ฉันวิ่งเร็วขึ้น ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องเก็บของหลังอาคารเรียนเก่า อาคารเรียนที่เก่าแก่และวิเวกวังเวงโหวงเหวงที่สุดในโรงเรียนของฉัน>_<แต่ไม่ว่าฉันจะกลัวยังไงตอนนี้ต้องหาที่ซ่อนก่อนล่ะเหวย รู้งั้ไม่น่าไปยุ่งกะอีตานั่นเล้ย ขืนโดนจับได้นะT_Tชีวิตน้อยๆของฉันคงไม่เหลือแน่ๆ
“ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่นี่!”
อึ๋ย!>*<ตามเข้ามาด้วยหรอเนี่ย ฉันที่หลบอยู่ข้างตู้เก่าๆตู้หนึ่งชะโงกหน้าออกไปดูอีตาพริ้นซ์ที่ค่อยๆเดินเข้ามาภายในห้อง มือหนึ่งของเขาถือรองเท้านักเรียนของฉันที่เอาปาหัวเขาเมื่อกี้ไว้ แง้ๆT^Tทำไงดีหลักฐาน หลักฐานเห็นๆ
ปึก!ตุบ!
แว๊ก!!!>()<อะ...อะไรหล่นลงมาเนี่ย? ฉันก้มลงมองที่พื้นข้างๆตัวและพบ...รองเท้าเน่าๆข้างหนึ่ง=_=นี่มันอะไรเนี่ยฮะ อยู่ๆก็หล่นลงมาตกใจหมดเลยอ่ะ ถ้าฉันหัวใจวายตายใครจะรับผิดชอบดีนะเนี่ยที่ไม่โดนหัว><
“นี่! จะออกมาดีๆหรือจะให้ฉันเข้าไปลากออกมา!!!”
กะ...กรี๊ด!>o<ทำไงดี อีตานั่นมันเห็นฉันแล้วง่า ตายแน่ๆเลยช้านนนนนน!TOT เป็นเพราะไอ้รองเท้าเน่าๆแท้ๆที่ทำให้ไอ้หมอนั่นมันรู้ว่าฉันซ่อนอยู่ตรงนี้อ่ะ
“นับ 1-3 ถ้าไม่ออกมา ฉันจะเข้าไปจริงๆด้วย”
กรี๊ด!>o<อย่ามาขู่นะเฟ้ย ไอ้หัวสีขี้!
“1”
เอาไงดีฟระ TOT ออกหรือไม่ออกก็คือค่าเท่ากัน...ฉันโดนหมอนี่ฆ่าแน่ๆ
“2”
อ๊าก!ไอ้บ้า โฮ่ๆTOTเอาไงเอากันฟะ ตายเป็นตาย!
“3”
พรวด!!!!
ฉันกระโดดออกมายืนเท้าเอวมองอีตาพริ้นซ์จากข้างๆตู้ในขณะที่หมอนั่นกำลังเดินตรงมายังตู้เก่าๆที่ฉันซ่อนตัวอยู่ เขาชะงักเมื่อเห็นฉันที่โผล่พรวดออกมาหยั่งกะผีจูออน-_-sนี่ถ้าหน้าขาวหน่อยนะ ใช่เลย! ขนาดฉันไม่เห็นหน้าตัวเองตอนนี้ฉันยังกลัวเลยง่ะT-T
“นี่O_o...เธอเองหรอ?”
ถ้าใช่แล้วจะทำไมฮะ>O<ไอ้หัวสีขี้เอ้ย! ฉันเชิดหน้ามองเขาที่ยังคง
มองฉันด้วยความอึ้งอยู่ ไม่รู้จะอึ้งอะไรกันนักกันหนา-*-ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีหรอ (รู้สึกหล่อนจะเป็นคนบอกเองนะว่าตัวเองเหมือนผีจูออน=_=)
“เธอเอารองเท้านี่ปาหัวฉันใช่ไหม?-_-^”
เขาชูรองเท้านักเรียนข้างที่ถืออยู่ให้ฉันดูด้วยสายตาอำมหิตนิดหน่อย-O-; โฮะๆ ฉันปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ เพราะอีกข้างที่มันคู่กันนั้นอยู่ที่เท้าฉันนี่เอง ฉันไม่ตอบคำถามของเขาและก้มลงหยิบรองเท้าเน่าๆที่พื้นซึ่งหล่นลงมาเมื่อกี้ขึ้นมา
“?”
เขามองฉันด้วยสายตางุ่นงง ในขณะที่ฉันลอบแสยะยิ้ม อื้อหือ!-.,-กลิ่นแรงเหมือนกันนะเนี่ย แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ทำหยั่งใจนึก...
ฟู่!!!!!!!!!!
เฮ้ย!OoOอ๊ากกกกกกกก!นี่มันอะไรกันเนี่ย? ระ...รองเท้า...O[]o
“เฮ้ย!OoOเธอเป็นอะไรไปน่ะ!!?”
ระ...รองเท้ามันดูดช้านนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!! กรี๊ด!!!!O[]Oรองเท้าดูดช้านนนนนนนนน~ ใครก็ได้ ช่วยด้วยยยยยยยยย!TTOTT
“เฮ้ย!เธอ...OoO!”
อีตาพริ๊นซ์รีบวิ่งเข้ามาหาฉัน ในขณะที่ฉันรู้สึกว่ากำลังโดนรองเท้าดูด แว๊ก!>O<ไม่ไหวแล้ว ในที่สุดฉันและอีตาพริ๊นซ์ก็ถูกดูดเข้าไปในรองเท้าเน่าๆนี้จนได้
โอ๊ย!+O+วิงเวียน คลื่นไส้ จะเป็นลม ยาดมยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ้ว เฮ้ย!OoOนี่มันที่ไหนกันเนี่ย? ฉันลืมตาขึ้นมาก็ต้องพบกับ...หลังคาบ้าน!!! ใช่!มันคือหลังคาบ้าน แถมเป็นกระเบื้องอย่างดีอีกต่างหากOoO เดี๋ยว! ไม่ใช่บ้าน มองดีๆแล้วมันคือ...ปราสาท! เอ่อ...คล้ายๆกับปราสาทของผู้ดีในอังกฤษสมัยก่อนน่ะ ดูไปดูมาเหมือนปราสาทในการ์ตูนดิสนีย์เลยนะเนี่ย-_-^
แว๊กกกกกกกกกก!>()<แล้วฉันมาอยุ่ที่นี่ได้ไงเนี่ย แถมอยู่บนหลังคาอีก
ต่างหาก โอ๊ย!TOTสูงก็สูง น่ากลัวชะมัดเลยอ่า ใครก็ได้เอาฉันลงไปที้~>^<แง้ๆ เริ่มจะวิงเวียน คลื่นไส้ คล้ายจะเป็นลม ยาดมยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ้วอีกแล้วสิ (2 รอบแล้วนะ-*-ขอค่าโฆษณาหน่อยสิ)
“นี่!>O<นังซินเดอเรล่า แกทำความสะอาดหลังคาเสร็จรึยังฮะ รีบทำเร็วๆแล้วลงมาขัดส้วมต่อเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงแว๊ดๆดังขึ้นมาจากด้านล่าง-_-โชคดีที่ฉันฟังเสียงแบบนี้ของไอ้แซมมี่จนชินไม่งั้นแก้วหูฉันคงแตกไปแล้วแน่ๆเลย
“เธอเรียกใครว่าซินเดอเรล่าฮะ-O-ยัยหน้าปลาดูด!” ฉันรวมรวบเสียงที่มีทั้งหมดแล้วตะโกนลงไปข้างล่าง และไม่นานก็ได้เสียงตอบรับกลับมาเป็นอย่างนี้
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!>O<แกว่าใครฮะ? ลงมาเดี๋ยวนี้นะ”
แล้วฉันจะลงยังไงฟะเนี่ยTOTฮื้อ~ โชคดีนะที่มีกางเกงลิง เอ้ย! บันไดลิงพาดอยู่ข้างๆพอให้ฉันปีนลงไปได้ ฉันจึงค่อยๆไต่บันไดลิงลงไปช้าๆ แต่พอลงมาถึงพื้นปุ๊บยัยหน้าปลาดูดก็แหกปากใช้ฉันทันที
“ไปขัดส้วมต่อเลยนะ นังซินเดอเรล่า!>O<” อะโห~ตอนแรกดูจากข้างบนก็เห็นแค่ปากเหมือนปลาดูด แต่พอมาดูใกล้ๆ นี่มัน...ปลาดูดชัดๆ-_-
“เมื่อกี้เรียกฉันว่าไงนะ?” ฟังไม่ถนัดตั้งแต่ข้างบนแล้ว-_-^
“ทำไม? ฉันจะเรียกเธอว่าซินเดอเรล่าแล้วมันจะทำไมฮะ>O<” ยัยปลาดูดแหกปากตะคอกใส่ฉัน ใช่เลย! ยิ่งมองยิ่งใช่><;...ปลาดูด!(เอ่อ...ช่วยสนใจเรื่องราวเขาหน่อยได้ไหม=_=^ทำเป็นไม่เคยเห็นคนหน้าปลาดูดไปได้>คนเขียน)ก็ไม่เคยเห็นน่ะเซ้!=o=แต่...เอ่อ...เข้าเรื่องก็ได้>*<
“ฉันเนี่ยนะ-_-ซินเดอเรล่า”
“ก็ใช่น่ะสิยะ ยัยบ้า! แค่ชื่อตัวเองแค่นี้ก็จำไม่ได้หรือไง อ๋อ! หรือว่าโดนใช้งานมากไปหน่อยก็เลยความจำเสื่อมล่ะฮะ เชอะ! สำออยที่สุด-o-“
พูดได้น่าเอาฝ่าเท้าตีมากๆเลยนะตัวเอง-_-*ฉันมองชุดของตัวเองและยัยปลาดูดที่ดูแล้วเหมือนกับเพิ่งหลุดออกมาจากการ์ตูนดิสนีย์หรือไม่ก็หลุดออกมาจากศรีธันยา-_+
ซินเดอเรล่าเนี่ยนะ?....ไม่มั้ง=[]=
“ไปขัดส้วมต่อเดี๋ยวนี้นะยะ!” หล่อนมีสิทธิอะไรมาใช้ฉันขัดส้วมเนี่ยฮะ-O-*ไม่สบอารมณ์ตั้งแต่ใช้ให้ไปเช็ดหลังคาแล้วนะ มันชักจะมากไปแล้ว ยัยหน้าปลาดูดเอ้ย!
“ไม่ขัด!”
“กรี๊ด!>O<แกกล้าขัดคำสั่งฉันหรอฮะ พี่ซูซี่!พี่ซูซี่ขา” เอ้า!-_-ก็บอกว่าไม่ขัดๆฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง
นังปลาดูดตะโกนเรียกใครก็ไม่รู้แต่ฉันขอเดาว่าเป็นพี่สาวของหล่อนแน่ๆ แล้วไม่นานนัก...กระซู่ในชุดสีแดงเพลิงก็โผล่ออกมาจากในบ้าน=[]=^^
“มีอะไรหรอ?รูซี่”
“พี่คะ>O< ก็นังซินน่ะสิคะ มันไม่ยอมทำตามคำสั่งรูน่ะคะ”
รีบฟ้องทันทีเลยนะนังปลาดูดส้วม-_- เดี๋ยวตบหน้าหงายทั้งพี่ทั้งน้องเลย รู้จักยัยแซน (เซ่อ) ซ่าร์คนนี้น้อยไปซะแล้ว เดี๋ยวได้เห็นดีกัน!
“นี่!นังซินเดอเรล่า แกกล้าดียังไงถึงขัดคำสั่งน้องสาวฉันฮะ ไม่เจียมกะลาหัวมั่งเลยนะ” ว่าแล้วกระซู่ก็ฟาดขาหน้ามาที่ฉัน แต่ฉันเอามือรับไว้ก่อนที่มันจะมาถูกใบหน้าอันงดงามของฉันจนเสียโฉม>_< เหอะ!นึกว่าฉันกลัวหล่อนรึไงยะ ฉันออกจะชอบ...พวกสัตว์สงวน อิอิ^^
“โทษทีนะ^_^ ฉันไม่ได้ชื่อซินเดอเรล่าบ้าบออย่างที่เธอสองตัวว่า แล้วฉันก็จะไม่ทำอะไรตามที่พวกเธอสั่งทั้งนั้น!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!>O<~”
เสียงประสานกันของปลาดูดและกระซู่ ><หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
“น้องรู!ตบมัน>O<”
“ได้ค่ะ!พี่ซู>()<”
ยัยสองพี่น้องรู-ซูเดินเข้ามาเพื่อจะตบฉัน ...
“หึๆๆๆๆๆๆๆ”
“หะ...หัวเราะอะไรยะ?=()=” >ซู
“เหอะๆๆๆๆๆๆ”
“ยะ...หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ=[]=” >รู
“...” >> สีหน้าชั่วร้ายจนไม่อาจหาตัวอีโมชั่นใดมาบรรยายได้=.,=
“=O=!!!”
“...เข้ามาตบสิ”
ดูเหมือนพวกหล่อนจะรู้สึกตัวแล้วว่า...คิดผิดอย่างแรง!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!TOT”
เสียงร้องโหยหวนของกระซู่และปลาดูดดังลั่นหลังจากถูกฉันถีบตกน้ำพุหน้าบ้าน โฮะๆๆๆๆ^O^สมน้ำหน้าเป็นไงล่ะ อยากก่อกวนฉันดีนัก ให้มันรู้ซะมั้งว่าใครเป็นใคร>O<
“ตายแล้ว! OoOรูซี่ ซูซี่ ใครทำกับลูกทั้งสองของแม่อย่างนี้”
ป้าแก่ๆคนหนึ่งที่แต่งหน้าปานว่ากำลังจะไปเล่นงิ้วที่ไหนซักที่เดินออกมาจากบ้านและตรงไปหายัยสองพี่น้องที่กำลังดิ้นแด่วๆอยู่กลางลานน้ำพุ
“ก็นังซินน่ะสิคะTOTคุณแม่ต้องจัดการให้เราสองคนนะคะ”
“หนอย! นังซินเดอเรล่า แกกล้าทำแบบนี้กับลูกสาวฉันได้ยังไงฮะ?>O<”
“ทำไม?-_-มีปัญหาอะไรหรอป้า หรือป้าอยากโดนด้วยอีกคน”
อุ้ย!อย่าหาว่าฉันมารยาททรามเลยนะ>*<แต่ถ้าหากว่าตอนนี้ฉันเป็นซินเด
อเรล่าจริงล่ะก็... ยัยป้านี่คงจะเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายส่วนยัยสัตว์สงวนสอง
ตัวนั่นคงเป็นลูกสาวที่ชอบกลั่นแกล้งซินเดอเรล่าแบบในการ์ตูน (หรือเทพนิยาย)แน่ๆเลยอ่ะ เอ่อ..แบบ ฉันหมันไส้ยัยพวกนี้ตั้งแต่ตอนแม่เล่านิทานให้ฟังตอนเด็กๆแล้ว เพราะงั้น...-^-เลยตามเลยก็แล้วกัน!
“นะ...นี่แก! ฉันเป็นแม่เลี้ยงแกนะ แกกล้าขัดคำสั่งฉันแล้วก็ทำกับลูกสาวของฉันแบบนั้นได้ยังไงยะ ลูกสาวฉันบอกให้ทำอะไรแกก็ต้องทำ เข้าใจไหม?>O<”
“ไม่เข้าใจ=_=”
“นังโง่!!!”
หนอย~ยังไม่เข็ดใช่ไหม ยัยปลาดูด!ยัยกระซู่!- -*
“เอาล่ะ รูซี่ ซูซี่รีบไปแต่งตัวกันดีกว่านะจ๊ะ อย่าไปสนใจนังนี่เลย^^คืนนี้ลูกต้องไปงานเลี้ยงเจ้าชายที่ปราสาทนะ”
งานเลี้ยงที่ปราสาทเจ้าชาย?O_o...ทันทีที่ได้ยินหูของฉันก็ผึ่งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ อืม...เจ้าชายงั้นหรอ-.,-อยากเห็นแฮะ จะว่าไป...ในเรื่องมันก็...
“ยัยแซนเดอเรล่า>O<แกรีบไปทำงานของแกให้เสร็จเลยนะ ไม่งั้นฉันเฉดหัวแกออกจากบ้านหลังนี้แน่”
โอ๊ย!-_-รำคาญจริงวุ้ย ยัยบ้านิ! เรียกแต่ซินเดอเรล่าๆอยู่ได้
“อ๋อเหรอ~^^โทษทีนะ ฉันน่ะไม่ได้ชื่อ...ซินเดอเรล่า แต่ว่า...ชื่อของฉัน
คือ...”
ฉันลากเสียงยาวพร้อมกับค่อยๆเดินเข้าไปหาสามแม่ลูกที่เขยิบหนีฉันไปเรื่อยๆ ท่าทางจะกลัวฉันน่าดู๊(T_T)
“อะไรของแก?”
“หึหึ^^+ ชื่อของฉันคือ...แซนเดอเรล่า ต่างหากล่ะ”
อาโฮะๆ^O^ตอนนี้ฉันกำลังนอนอยู่บนโซฟาสุดหรูในห้องรับแขกอันโอ่อ่า โดยมีสามแม่ลูกกำลังช่วยกันทำงานอย่างขะมักเขม้น หลังจากถูกฉันจัดการจับหน้ายัดโถส้วมไป 3-4 ครั้ง และในที่สุดฉัน เอ้ย! ซินเดอ...เฮ้ย!แซนเดอเรล่า^^ก็จัดการยึดบ้านหลังนี้กลับคืนมาได้สำเร็จ
ฉันนี่แหละ! ซินเดอเรล่ายุค 2000 ลืมซินเดอเรล่าคนเก่าไปได้เล้ย>V<
“เอ่อ...คุณซินเดอ เอ้ย! คุณแซนเดอเรล่าจะรับอะไรดีคะ?^^+” ยัยกระซู่เดินมาถามฉันอย่างนอบน้อม ฮี่ๆๆๆ-V-ให้มันได้อย่างนี้สิ
“เอาเป็น...ไก่อบซอสราสเบอรี่ สเต็กเนื้อชั้นดีกับสลัด หรือว่าจะเป็นซุปเนื้อใส่มันฝรั่งบดกับสปาเก็ทตี้ซอสมะเขือเทศดีคะ?”
อาหารบ้าอะไรฟะ=o=ไม่เห็นจะรู้จักเลย ฉันทำหน้าย่นราวกับสุนัขพันธุ์บลูดอกซ์หลังจากฟังรายการอาหารพิสดารจากยัยกระซู่จบ
“อืม-_-;ขอเป็น...ส้มตำปลาร้ากับไก่ย่าง แล้วก็ซุปหน่อไม้กับลาบก้อยดีกว่านะ”
“=[]=;;;;;;;”
“ทำไมยะ-^-; ไม่รู้จักอาหารไฮโซหรือไงฮะ ไม่ต้องมาทำหน้างงเลย รีบๆไปเอามาให้ฉันเดี๋ยวนี้>O<ฉันหิวจนจะแทะฝาบ้านเธอได้แล้วเนี่ย!”
ฉันทำหน้าเหมือนตัวเขมือบไก่(?) ยัยนั่นจึงรีบกุลีกุจอไปยังห้องครัวในทันที สงสัยหล่อนจะกลัวฉันเขมือบหล่อนล่ะมั้ง-_-“ เชอะ! เสียใจด้วยนะ ฉันไม่นิยมกินกระซู่ย่ะ
เอ่อ...เดี๋ยวๆๆจะว่าไป=O=ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้เนี่ย จำได้ว่าฉันโดนรองเท้าเน่าๆนั่นดูดมาไม่ใช่เรอะ ที่นี่มันคือที่ไหน แล้วที่...พวกนี้เรียกฉันว่าซินเดอเรล่าอีกด้วยล่ะหรือว่า...ชาติที่แล้วฉันจะเกิดมาเป็นซินเดอเรล่าจริงๆ=[]=^^ แต่ว่าฉันยังไม่ตายซักหน่อยนะ แล้วนี่ก็ไม่ใช่การระลึกชาติด้วยT^T
เอ๊ะ!หรือว่าไอ้รองเท้าเน่าๆนั่นจะเป็นรองเท้าของซินเดอเรล่าจริงๆO_o
แล้วมันก็ดูดฉันเข้ามาทำให้ฉันกลายเป็นซินเดอเรล่า!!!!
หรือว่า...ฉันกำลังฝันไปเองกันแน่T_T
...แต่ไม่น่าจะใช่นะ
นี่ตกลงว่าฉันเข้ามาที่นี่เพราะไอ้รองเท้าเน่าๆนั่นจริงๆ อ่ะหรอ ไม่น่าเชื่อเลยอ่ะ!>_<แล้วฉันจะออกไปจากที่นี่ได้ยังกันT^T อ๊ะ!O_oจริงสิ อีตาพริ๊นซ์!อีตาพริ๊นซ์เองก็ถูกดูดเข้ามาด้วยนี่นา แล้วอีตานั่นไปอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย? แล้วทำไมฉันถึงได้กลายมาเป็นซินเดอเรล่าได้ล่ะฟระ โอ๊ย!+O+งงไปหมดแล้วนะ
ยังไงซะฉันก็ต้องออกไปให้ได้แหละน่าYOY แต่ตอนเนี้ยฉันคงต้องสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อนดีกว่า เผลอๆอาจจะได้เจออีตาพริ๊นซ์แล้วก็จะได้หาทางออกไปด้วยกันไงคงไม่ต้องหลงอยู่ในนี้ทั้งชาติหรอกมั้ง? แต่ถ้าเป็นอย่างนั้งล่ะก็...>_<อีตาพริ๊นซ์ตายแน่! เพราะว่าเขาเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องนี้
“นี่^_^ช่วยเลือกหน่อยสิ ฉันจะใส่ชุดไหนไปงานเลี้ยงคืนนี้ดี?”
ฉันชูกระโปรงบานฟูฟ่องสองตัวให้ยัยกระซู่และยัยปลาดูดดู หลังจากใช้เวลาเลือกไม่ถึงสองนาที เนื่องมาจากการที่ฉันใช้น้ำร้อนลวกปากยัยคุณป้าใจร้ายของซินเดอเรล่าเค้นถามจนได้ความว่า....งานนี้มีงานเลี้ยงเปิดตัวเจ้าชาย!!! ซึ่งได้เชิญให้สาวงามทุกคนไปร่วมงานด้วย และแน่นอน
ว่า...^O^สาวงามอย่างฉันต้องไม่พลาดงานนี้แน่นอน โฮะๆๆๆๆๆ
“น่ะ....นั่นมันO_Oชุดของรูนี่คะ เอาคืนมานะ!ยัยบ้า!!!>O<” นังปลาดูดรีบวิ่งมาแย่งชุดในมือฉัน
“ใครยัยบ้าฮะ นังปลาดูด! นี่เธอยังไม่เข็ดใช่ไหมฮะ อยากกินน้ำในชักโครกอีกทีมะ-_-^”
“(. .)!” ก๊ากๆสะใจชะมัด>.,<
“ออกไปได้แล้วไป-O-คืนนี้พวกเธอสองคนเฝ้าบ้านให้ดีๆล่ะ เพราะฉัน...จะไปงานเลี้ยงที่ปราสาทเจ้าชายแทนพวกเธอเอง^^+”
ฉันแย้มรอยยิ้มอย่างชั่วร้ายสุดๆไปให้ยัยสองพี่น้องนั่น(แต่ว่าฉันเป็นนางเอกไม่ใช่หรอ-_-^) ทำให้ยัยสองคนนั้นรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็วด้วยน้ำตา อิ ฮุๆๆๆๆๆเอาล่ะ! มาเลือกชุดกันต่อดีกว่า จะใส่ตัวไหนดีนะ อิอิ><สวยทั้งสองตัวเลยอ่ะ เอาฟะๆตัวไหนก็ได้ คนมันสวยใส่อะไรก็สวยอยู่แล้ว-.,-
หา...อะไรนะ? ลืมอะไรไปบางอย่างหรอ?>_< อืม...อ๋อ! ในเรื่องซินเดอเรล่ามันต้องมีนางฟ้ากะรถฟังทองใช่ป่ะ แต่ว่านี่มันเรื่องแซนเดอเรล่านี่นา นางฟ้าคงไม่ต้องไปหาที่ไหนหรอกมั้ง...ก็ฉันนี่ไง^^นางฟ้าโฮะๆ
ส่วนรถฟังทองก็...
___________________________________
ในที่สุด...ฉันก็ควบม้ามายังปราสาทเจ้าชายได้สำเร็จ=[]=;
โอ๊ย!เหนื่อยชะมัด จะบ้าตาย! ไอ้คนขับรถม้าก็จริงๆเล้ย=O=จะมาลาอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ พระเจ้าไม่เข้าข้างฉันสุดๆเพราะคนขับรถม้าขอลาไปแต่งงาน และยัยสามแม่ลูกนั่นก็ไม่มีใครบังคับม้าเป็นเลยนั่นจึงทำให้ฉันต้องตะบึงรถมาเองอย่างทุเรศทุรัง=_= โชคดีนะที่ตอนเด็กๆฉันเคยขี่ควายมาก่อน(เกี่ยว?-_-;) ก็เลยพอจะถูๆไถๆไปได้ และเพื่อให้ได้มาซึ่งเจ้าชายแล้ว ฉันจึงตั้งหน้าตั้งตาซิ่งมาอย่างสุดความสามารถ>< สภาพตอนนี้ของฉันคงดูอุบาทจิตเอามากๆแน่ๆ เพราะทันทีที่ฉันกระโดดลงมาจากหลังม้า แม้แต่ม้าของคนข้างๆยังเหลียวมามองฉันเลยอ่ะ ทำไมยะ!-O-;ไม่เคยเห็นคนขับรถม้าคนไหนหน้าตาดีอย่างนี้ล่ะซี่~(ยังไม่รู้ตัว)
ว้ายๆๆๆ>O<ประตูปราสาทกำลังจะปิดแล้วอ่ะ ตายๆๆเดี๋ยวไม่ทัน ฉันรีบวิ่งขึ้นบันไดเข้าไปในงานทันที อ๊าก!!!อย่าเพิ่ง=O=รอฉันก่อนเซ้~ โอ๊ย! ทำไมบันไดมันหลายขั้นนักล่ะเนี่ย ขาฉันจะพันกันอยู่แล้วนะ
ปัง!!!
เฮ้ย! OoOปิดแล้ว
เดี๋ยวๆๆๆๆๆ>O<เปิดก่อนเด้ ทิ้งสาวงามไว้ของนอกงานคนเดียวได้ไงย้า!
เปิดเดี๋ยวนี้นะเฟ้ย ฉันพยายามทุบประตูแล้วทุบประตูอีก แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล เพราะไอ้ประตูบ้านี่มันช่างใหญ่โตมโหราฬซะเหลือเกิน-_-
‘ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะเนี่ย
ปึง!!!!
OoOอยู่ๆประตูก็ล้มลงไปทั้งบาน ฉันอ้าปากเหวอขณะที่มือยังลอยอยู่กลางอากาศในท่าประทุร้ายประตูโดยไม่ได้เจตนา สายตาทุกคู่ในงานต่างหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียว เอ่อ...=o=จะถือว่าฟ้าเข้าข้างฉันละกันนะ ขอบคุณที่เปิดประตูบ้าๆนี่ให้ฉันได้เข้าไปในงานซะที
เจ้าชาย!ใช่ เขาคือ....เป้าหมายหลักของฉันในคืนนี้(พูดเหมือนตัวเองเป็นตัวอะไรซักอย่าง=_=) แล้วเขาอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย กรี๊ดๆๆๆๆๆ><เจ้าชายของฉัน ฉันหลุดจากอาการเหวอและเชิดหน้าเดินอย่างมีมาดเข้าไปในงานโดยไม่แคร์สายตาใคร ถามว่าอายไหม?...อายจิ==* แต่เพื่อผู้ชาย เอ้ย!เจ้าชาย>.,<ก็ยอมได้โฮะๆๆๆๆ
ฉันสอดส่ายสายตามองหาเจ้าชายไปจนทั่วงาน โดยไม่สนใจคนอื่นๆที่หยุดมองฉันนิ่งราวกับโดนสต๊าฟไว้ และในที่สุดฉันก็พบเจ้าชายรูปงามที่กำลังยืนมองฉันอยู่ด้วยความอึ้ง ว้าย!เขากำลังจะหาคู่เต้นรำใช่ไหมน่ะ>_<///เอ้ยๆๆๆ ฉันยังว่างนะๆ ทางนี้เลยจ้า ทางนี้>.,<อูววววววววว~
ว่าแต่...เจ้าชายหน้าคุ้นๆแฮะ-_-^เหมือนเคยเห็นที่ไหน? ตัวสูงๆ ผิวขาวๆใบหน้าหล่อสลักด้วยก้อนน้ำแข็ง ดวงตานิ่งๆกวนติ่ง แล้วก็...ผมสีทอง
เฮ้ย! OoOนั่นมัน...
อีตาพริ๊นซ์!!!!!!!!!!!!!!!
อีตาพริ๊นซ์มองฉันอึ้งๆนิดหน่อย ก่อนที่เขาจะจับใจความทั้งหมดได้และแสยะยิ้มส่งมาให้ฉัน แล้วหันไปกระซิบกระซาบบกระเซาะกระแซะ=_=กับทหารที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่นานทหารคนนั้นก็เดินมาจูงจมูกฉันไปหาเขา (ฉันเป็นคนนะ ไม่ใช่ควาย=[]=เขาต้องเรียกว่ามาเชิญไปไม่ใช่หรอ?)
“ไง~ยัยรองเท้า” วะ...ว่าไงนะ?
ทามกลางสายตาตื่นตะลึงของผู้คนรอบๆด้านอีตาพริ๊นซ์ก็โค้งตัวขอฉันเต้นรำตามแบบฉบับเจ้าชาย วันนี้เขาแต่งตัวมาเต็มยศแบบเจ้าชายในเทพนิยายเลย มันเอ่อ...-.,-ดูน่ากินดีนะ เอ้ย!ไม่ใช่ เขาดูเหมือนเจ้าชายจริงๆอ่ะ ความจริงแล้วหมอนี่ก็....
“นี่!-_-อย่าจ้องนาน ฉันขนลุก”
“แหวะ! ใครจ้องนายกันยะ>U<” ฉันแลบลิ้นใส่คนหลงตัวเอง (แต่ฉันอ่ะกำลังหลงเขา-///-)
“ก็ทุกคนรวมถึงเธอด้วยนั่นแหละ-_-รีบๆตอบรับเข้าสิ เธออยากเห็นฉันหน้าแตกรึไง ยัยเบอะ!”ฉันมองไปรอบๆ เออ-o-จริงด้วยแฮะ แต่ความจริงฉันอยากเห็นเขาหน้าแตกเหมือนกันนะ
“เร็วดิ”
“แต่ว่า...”
ไม่ทันให้พูดจบเขาก็จับมือฉันจูงไปกลางฟรอร์ทันที และในที่สุดฉันก็ต้องเต้นรำกับเขาไปโดยปริยาย เมื่อเสียงเพลงบรรเลงขึ้นทุกคนก็เต้นรำกันตามปกติ แต่คู่ของฉันดูเหมือนว่าได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากคนรอบข้างบ้าชัดๆT_Tทำไมฉันต้องมาเต้นรำคู่กับอีตาพริ๊นซ์ด้วยเล่า!
“นี่เธอ! เธอเป็นคนทำให้ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่ในที่แบบนี้ เธอรับผิดชอบมาซะดีๆ”
“อะ...อะไร!? นายต่างหากล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะนายตามฉันเข้ามาในห้องเก็บของนั่น ฉันก็คงไม่ต้องกลายเป็นแบบนี้หรอก”
“เหอะ! เธอต่างหากล่ะที่เอารองเท้ามาปาใส่หัวฉันก่อน เธอเอารองเท้ามาปาใส่หัวฉันทำไมฮะ?!”
“เรื่องของฉัน!”
“อ๋อ~-_-ที่แท้เธอก็แอบชอบฉันนี่เอง”
“บ้า!!!ใครแอบชอบนายกันย่ะ ไอ้หัวสีขี้>O<///”
“เธอว่าไงนะ!-_- แล้วถ้าเธอไม่ชอบฉันแล้วเธอจะเอารองเท้ามาปาหัวฉันทำไมฮะ ยัยเน่า~”
“หนอย~ฉันหมั้นไส้นายต่างหากเล่า ไอ้ขี้เก๊ก>^<”
“อ่อหรอ~แต่ยังไงเธอก็ต้องรับผิดชอบที่ทำให้ฉันต้องเป็นอย่างนี้”
“เรื่องอะไรเล่า>O<นายไม่เห็นจะเดือดร้อนตรงไหนเลย ได้เป็นเจ้าชายสบายจะตายไม่ใช่หรอ แล้วดูฉันนี่สิ...=_=;เหอะๆ”
“ทำไม...-O-เธอเป็นอะไรฮะ”
“ก็อยู่ๆฉันต้องกลายเป็นแซนเดอเรล่าน่ะสิT^T”
“แซนเดอเรล่า?-_-^ซินเดอเรล่าอ่ะนะ?”
“เออนั่นแหละ” เขามองฉันอย่างไม่คอยเชื่อ
“อ่อ...เป็นสาวใช้-_- ก็เหมาะกับเธอดีนี่” ก่อนจะพูดจาบาทาฟาดปาก นาย
ควรปรึกษาหน้านายก่อนนะ ว่าจะรับได้กี่ทีน-_-
“เหมาะบ้านนายน่ะสิ!-_-*”
“...แล้วซินเดอเรล่าหนีจากสามแม่เลี้ยงใจร้ายมาได้ยังไงกันเนี่ย?” เขาทำหน้าล้อเลียน
“เหอะ!-_-อย่าให้ฉันต้องเล่าเลย เรามาหาทางออกจากที่นี่กันดีกว่า”
เราสองคนเงียบ...ไม่มีใครยอมพูดอะไรก่อน แต่อย่าให้พูดเลยนะ ฉันว่าเขาเองก็คงเจอมาแบบเดียวกับฉันเพราะงั้นคงไม่ยอมไม่เชื่อ แต่การจะหาทางออกจากที่นี่คงไม่ง่ายแน่ๆ แต่ที่แน่ๆคือมันต้องมีทางออก=O=
อีตาพรินซ์ขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด ในขณะที่ฉันวุ่นวายอยู่กับการเหยียบเท้าตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า=_=ทำไมไอ้หมอนี่มันเต้นเก่งจังวะ ขนาดกำลังใช้ความคิดนะเนี่ย ส่วนฉันนี่ก้าวเท้าผิดแทบจะเหยียบตาตุ่มคนข้างๆได้อยู่แล้ว
“โอ๊ย!ยัยบ้า>o<เธอเต้นให้มันดีๆหน่อยได้ไหม อย่ามาเหยียบเท้าฉันสิ” เขาบ่นออกมาอย่างเซ็งอารมณ์
“ก็ฉันเต้นรำไม่เป็นนี่นา ใครจะไปเก่งเหมือนนายเล่า!”ฉันโวยใส่บ้าง
“ยัยรองเท้าเอ้ย!”
“หยุดเต้นไม่ได้หรอ?T^T” แล้วก็เลิกเรียกฉันว่ายัยรองเท้าซักที
“เต้นต่อไป” ง่ะ! T_Tไม่ได้ดั่งใจเลยซักนิด
“...แล้วนี่ตกลงว่าเราถูกรองเท้าเน่าๆนั่นดูดมาจริงๆใช่ไหม?”
อีตาพริ๊นซ์เริ่มเปิดประเด็น และหันหน้ามาคุยกับฉันแบบจริงๆจังๆ ตอนนี้เราสองคนอยู่ใกล้กันมาก-///-แทบจะรวมเป็นร่างเดียวกันอยู่แล้วเนี่ย ฉันไม่กล้าสบตาเขาเลยอ่ะ ไม่ใช่ว่าฉันหวั่นไหวนะ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันอยู่ใกล้ผู้ชายมากขนาดนี้ (ยกเว้นไอ้แซมนะ==”เพราะมันไม่ใช่ผู้ชาย)
“เฮ้ย! มองหน้าฉันสิ-_-ไม่ใช่มองตูดคนข้างๆ”
“บ้าหรอ! ฉันเปล่ามองตูดคนข้างๆซะหน่อย-////-”
“แล้วที่จ้องไปหน้าแดงไปนั่นอะไรเล่า” ฉันแค่หลบสายตานายเพราะไม่กล้ามองหน้านายต่างหากล่ะ><////
“ช่างฉันเถอะน่า เมื่อกี้นายว่าไงนะ?”
“ฉันถามว่า...รองเท้าเน่าที่ดูดเรามาเป็นของใคร?”
“เอ่อ...= =^ฉันไม่รู้หรอก ฉันเจอมันในห้องเก็บของตอนที่เข้าไปหลบนายนั่นล่ะ”
“-_-“
“มองฉันอย่างนั้นทำไมยะ?”
“ช่างเหอะ แล้วตกลงว่านี่มันคือที่ไหนเนี่ย?”
“เท่าที่ฉันเดาๆนะ ที่นี่คงเป็นอะไรซักอย่างที่ทำเลียนแบบเรื่องซินเดอเรล่าอ่ะ><”
“เธอ...คิดว่ามันไม่ตลกไปหน่อยหรอ ของแบบนี้จะมีได้ไง ฉันว่า
บางทีพวกเราอาจจะกำลังฝันไปก็ได้ โอ๊ย!...เธอเหยียบเท้าฉันอีกแล้วนะ”
“เจ็บไหมล่ะ? =o=”
“เจ็บดิ! เธอลองโดนเหยียบดูไหมล่ะ”
“...นั่นก็แปลว่าเราไม่ได้ฝันอยู่”พูดจบฉันก็หมุนตัวไปตามจังหวะเพลง เอ๊ะๆๆๆ=O=มันหลายรอบเกินไปแล้วนะ หยุดซักทีสิ!
“หลังจากถูกดูดมา...เธอก็กลายมาเป็นซินเดอเรล่าหรอ?” อีตาพริ๊นซ์กระชากฉันเข้ามาในอ้อมกอด หยุดการหมุนตัวมรณะ แล้วกระซิบถามฉันเบาๆที่ข้างหู
“ไม่ใช่! แซนเดอเรล่าต่างหาก” ฉันแย้งตอบเบาๆเช่นกัน โอ๊ะโอ~ฉันเริ่มคล่องขึ้นมาซะแล้วสิ
“แซนเดอเรล่า...” อีตาพริ๊นซ์พึมพำเบาๆ
“แล้วนี่เราจะออกจากที่นี่ยังไงดีละ?”ฉันถามเขา
“ฉันจะไปรู้หรอ”
ขอบคุณ-_-
“ไม่เห็นจะยาก เรามายังไงก็ออกไปหยั่งงั้นแหละ”
“อย่าบอกนะว่า...OoO”
“ใช่! เราจะออกไปด้วยรองเท้าเน่าๆข้างนั้น”
เออO_Oจริงสิ แล้วร้องเท้านั่นอยู่ที่ไหนละเนี่ย ตั้งแต่เข้ามาที่นี่ฉันยังไม่เห็นไอ้รองเท้านั่นเลย
“เอ่อ...T_Tฉันไม่รู้ว่ารองเท้านั่นอยู่ที่ไหนอ่ะ ตั้งแต่ถูกดูดเข้ามาฉันยังไม่เห็นไอ้รองเท้านั่นเลยนะ”ฉันบอกเสียงอ่อย
“ไม่ต้องห่วง...มันอยู่กับฉัน”
“หาOoOอยู่กับนายหรอ แล้วอยู่ที่ไหนอ่ะ”
อีตาพริ๊นซ์ไม่ตอบได้แต่ทำหน้าปูเลียนประมาณว่ารับไม่ได้ เขาหยุดเต้นลงกลางฟรอร์ ก่อนจะขยับออกห่างฉันครึ่งก้าว และหันมามองหน้าฉันประมาณว่าให้มองตามเขา ฉันจึงมองตามสายตาของเขาไปอย่างงงๆ
โอ้ว~OoO!!!แม่เจ้า
ฉันมองสำรวจอีตาพริ๊นซ์ใหม่ตั้งแต่ปลายผมหงอกจรดปลายส้นเท้า และพบว่า... เขาดูดีมาก>///<เอิ๊ย~ น่ากินที่สุดอ่ะ (อย่านอกเรื่องสิยะ=o=) เอ่อ...แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาดูแย่ลงไปถนัดตาก็คือ...
รองเท้าผ้าใบเน่าๆที่สวมอยู่บนเท้าซ้ายของเขานั่นไง!!!
ให้ตายสิ!ฉันนับถือเขาแล้ว ฉันนับถือเขาเลยจริงๆ
“ไม่อยากจะเชื่อT_Tนายกล้าใส่มันมาอ่ะ”
“คนที่ใส่มันคือฉันนะ-_-เธอจะร้องไห้หาแป๊ะเธอหรอ”
หาแป๊ะนายน่ะสิ-_-
“ฉันคิดว่ามันต้องมีความสำคัญมากแน่ๆ ก็เลยต้องพกมันมาด้วยแบบนี้”
ฉันหยุดมองหน้าเขานิ่งทามกลางเสียงเพลงที่บรรเลงเอื่อยๆ เขาเองก็หยุดมองหน้าฉันตอบเช่นกัน เราสองคนมองตากันทามกลางผู้คนมากมายที่เต้นรำกันอย่างสวยงามรอบๆตัวเรา ฉันอยู่ในชุดแสนสวย ส่วนเขาก็อยู่ในชุดเจ้าชายรูปงาม มันเหมือนกับ...ฉากสวีทหวานแหววของเจ้าชายกับเจ้าหญิงในนิทานเลยแฮะ>///<
ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะมายืนอยู่ ณ ที่ตรงนี้ กับ....คนที่ฉันเคยเกลียดที่สุด
แต่ฉันว่าในตอนนี้ ฉัน...
ติ๊ง!
หืม!O_O เวลา...ใกล้จะหมดลงแล้วงั้นหรอ?
ฉันกับอีตาพริ๊นซ์หันไปมองนาฬิกาที่ดังขึ้นเตือนเวลาเกือบเที่ยงคืนพร้อมกันด้วยความตื่นเต้น ทุกอย่างรอบข้างดูอึดอัดราวกับจะบีบรัดเราสองคนให้กลายเป็นเพียงแผ่นกระดาษ เสียงเตือนของนาฬิการาวกับเวลาของชีวิตที่ใกล้จะหมดลง บรรยากาศที่เคยสวยงามเปลี่ยนไปหมด เหลือแต่...ความตึงเครียดที่วิ่งเข้ามาจู่โจมเราทั้งสอง ทำยังไงดีล่ะ? เรายังหาทางออกไปจากที่นี่ไม่ได้เลยนะนี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว...ถ้าหากเลยเที่ยงคืนไปแล้ว....จะเป็นยังไงนะ?
“ทำยังไงดีล่ะ? เรายังหาทางกลับบ้านไม่ได้เลยอ่ะ”
ฉันหันไปถามเจ้าชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่ยอมตอบ อีตาพริ๊นซ์มองฉันนิ่งด้วยสายตาที่อ่อนโยน ก่อนจะส่งรอยยิ้มนุ่มนวลมาให้ รอยยิ้ม...ที่ฉันไม่เคยเห็นเลยซักครั้งตอนอยู่ที่โรงเรียน รอยยิ้ม...ที่ฉันกลัวว่าจะไม่ได้เห็นมันอีก...หากเราสามารถกลับไปได้ และ...
เป็นรอยยิ้ม...ที่ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงมันเต้นแรงมากจริงๆ....
ติ๊ง!ติ๊ง!ติ๊ง!
“นาย...”
“ไม่รีบไปล่ะ แซนเดอเรล่า...ทำไมไม่รีบวิ่งออกไปก่อนจะถึงเที่ยงคืนล่ะ เดี๋ยวเวลาก็หมดไปซะก่อนหรอก^^”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่จริงจัง จริงจังมากซะจน...ฉันเริ่มกลัว และอยากร้องไห้....
ติ๊ง!
เขาต้องการให้ฉันวิ่งหนีไปจริงๆหรอ...? เขาต้องการให้มันเป็นไปอย่างนั้นจริงๆงั้นหรอ...?
ไม่...ฉันไม่ใช่ซินเดอเรล่าซะหน่อย!!!
ฉันน่ะ......
ติ๊ง ...เวลาเดินไปอย่างช้าๆ
....ฉันเดินถอยหลังช้าๆ
ติ๊ง!...
....ถ้าเรากลับไปไม่ได้...ถ้าเราต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป?
เขาจะ...ตามเอารองเท้าไปคืนฉันรึเปล่านะ....?
ฉันน่ะ.....
เขายังคงยิ้มอยู่เช่นเดิม....
ติ๊ง!
....แล้วในที่สุดฉันก็ยิ้ม
ติ๊ง!...
จนวินาทีสุดท้าย....
....เขาก็ยังไม่หยุดยิ้มซะที
ติ๊ง!!!!!!!
“ฉันน่ะ!!!......O_O.”
ฟึบ!!!!!!!!!!!!!
ทันทีที่เข็มยาวชี้เลข12 ทุกคนในงานต่างหยุดนิ่งอยู่กับที่ทุกสิ่งทุกอย่างคล้ายกับถูกสาปแม้แต่เวลา...ก็ถูกสาปให้หยุดเดิน!!!
ก่อนที่ฉันจะเปล่งเสียงกล่าวประโยคสุดท้ายที่อยากจะพูดออกมาให้เขาได้ยินเจ้าชายกลับดึงตัวฉันเข้าไปในอ้อมแขนที่แข็งแรงและอบอุ่นของเขาเพียงเสี้ยววินาทีที่เราสัมผัสกันฉันก็เพิ่งได้รู้ว่า...อ้อมกอดของเจ้าชายเต็มไปด้วยความอบอุ่นแบบที่ฉันไม่เคยได้รับมาก่อนสายตาของเราสองคนประสานกันเป็นหนึ่งเดียวสายตาที่เคยเย็นชาเฉยเมยต่อทุกสิ่งสายตาที่ฉันเคยรังเกียจเป็นนักหนาสายตาที่ฉันไม่เคยหยุดและมองลึกเข้าไปภายในนั้น.
..กลับกลายเป็นสายตาที่อ่อนโยนที่สุดในโลกนี้
...สายตาของเขาทำให้ฉันแทบจะหลอมละลายไปในอากาศและไม่อาจละหนีไปไหนได้
เพียงชั่วเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาทีก่อนที่ริมฝีปากนุ่มจะทาบทับลงมาที่ริมฝีปากของฉัน ถ่ายทอดความร้อนบวกกับความอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของเขามาสู่ริมฝีปากที่สั่นระริกของฉันช่วงเวลาที่เราสบตากันฉันกลับรู้สึกว่ามันช่างเนินนานนักเป็นช่วงเวลาที่อ่อนหวานจนไม่อยากให้หมดไปและอยากให้หยุดมันอยู่แค่ที่ตรงนั้น...
...แค่ที่ดวงตาของเราสื่อถึงกัน
รสสัมผัสที่ปลายลิ้นทำให้ฉันไม่ได้รู้สึกถึงเลยว่ามีแสงสีเหลืองนวลอ่อนๆประกายสีชมพูสว่างไสวลอยวนอยู่รอบๆตัวของเราสองคนพร้อมกับเสียงเพลงอันแสนไพเราะที่เคล้าคลอเบาๆพาให้เคลิบเคลิ้มราวกับ...ตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน
...ฉันลืมตาขึ้นมา
สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกคือ...ดวงตาสีน้ำเงินเข้มราวมหาสมุทรและใบหน้าอันหล่อเหลาของเจ้าชาย
...คนที่ฉันเพิ่งสำนึกได้ว่าเขาคือคนที่ฉันเคยเกลียดที่สุด
เราสองคนผละออกจากกันช้าๆคล้ายกับเพิ่งตื่นขึ้นมาจากนิทรา ฉันมองไปรอบๆตัวพบว่ามันกลับมาเป็นห้องเก็บของเก่าตามเดิมแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิมรวมถึงใบหน้าที่เย็นชาของเขาก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมเช่นกันจะเปลี่ยนไปหน่อยก็ตรงที่มันมีสีระเรื่อนิดๆแต่ฉันว่า...ของฉันคงไม่นิดแน่ๆ>///<
เราสองคนต่างไม่กล้าที่จะเหลือบมองหน้ากันแม้แต่นิดเดียวทุกสัมผัสก่อนหน้านี้มัน...ชัดเจนชัดเจนเกินกว่าที่จะเป็นเพียงแค่ความฝันแม้ในความเป็นจริง....
...ทุกอย่างได้จบลงไปแล้ว
ไม่มีหลักฐานไม่มีข้อยืนยัน....ว่าทุกอย่างเป็นความจริงมีแค่หัวใจสองดวงที่สัมผัสได้แต่...ฉันไม่รู่ว่าเขาจะรู้สึกแบบเดียวกับฉันหรือเปล่า...?
ฉันวิ่งหนีออกมาและละทิ้งทุกอย่างไว้ในห้องเก็บของนั่นรวมทั้งเขาคนนั้น ...มีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันนำมันกลับมาด้วยนั่นคือ...
...ความทรงจำอันแสนหวาน....
วันสุดท้ายของการสอบ
ให้ตายเหอะTOTทำไมการบ้านมันเยอะท่วมหัวอย่างงี้ล่ะนี่ถ้าไม่ได้ไอ้สองกะไอ้แซมช่วยนะฉันคงตายแหงแก๋ทั้งๆที่อุส่าสอบไฟนอลเสร็จแล้วด้วยแต่ฉันก็ยังไม่ได้พักผ่อนซะทีขืนไม่ทำงานส่งให้ครบมีหวังโดนอาจารย์กระซวกไส้แน่ๆแถมไม่จบม.6ด้วยเซ็งชะมัด!
“แซน!!!” เสียงเรียกของไอ้แซมและไอ้สองทำให้ฉันที่กำลังจะหลับคา
จานข้าวสะดุ้งสุดตัวสะบัดช้อนซ้อมกระเด็นไปโต๊ะข้างๆดังเคร้ง
“=[]=”
น้องๆโต๊ะนั้นมองมาที่ฉันอย่างเอาเรื่องแต่โชคดีที่เป็นน้องนักเรียนชายคุยกันง่ายหน่อยนี่ถ้าเป็นผู้หญิงฉันอาจโดนตบติดจานข้าวไปแล้วก็ได้
“อะไรของพวกแกอีก?” ทันทีที่ตัวต้นเหตุซึ่งทำให้ฉันเกือบโดนสหบาทา
มาถึงโต๊ะฉันก็หงุดหงิดใส่พวกมันทันที
“เจ้าชาย!!เจ้าชายอ่ะแก>O<”
เจ้าชาย....เหรอ?
ตั้งแต่วันนั้น....
“ใช่ๆ>O<เจ้าชายพี่พริ๊นซ์อ่ะแกเอ้ย~ ฉันหัวใจจะวายอยู่แล้วนะแกแกๆๆๆ
ไอ้แซนๆๆๆๆ”
“เฮ้ย!=_=มากไปๆมากไปแล้วไอ้สองนี่ถ้าเป็นไอ้แซนฉันจะไม่ว่าเลยนะเว้ยแต่แกเป็นผู้หญิงนะสะดีดสะดิ้งเป็นกระเทยความเชียว” ฉันส่ายหัวเอือมระอาในตัวเพื่อนสุดๆ
“>W<ฮี่” เหมือนมันจะไม่รู้สึกอะไรเลย
“แล้วตกลงพวกแกมีอะไร?”
“อ๋อ~ก็....”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!
เสียงกรี๊ดของนักเรียนหญิงทำให้ฉันสะดุ้งอีกรอบโอ๊ย!อะไรมันจะขนาดนั้นฮะกรี๊ดกันอยู่ได้กะให้โรงอาหารแตกเลยรึไงยะเอ๊ะ!-_-หรือว่าจุดประสงค์จริงๆคืออยากได้โรงอาหารใหม่จะว่าไปอาหารโรงเรียนเรานี่ก็โทรมแล้วเหมือนกันนะ
“กะ...แกO_O”
“อะ...อะไร?” ฉันมองตาที่โตเท่าไข่หานของไอ้สองอย่างสังเวช
“แกเห็นนั่นไหม?...”
“นั่นไหนอ่ะ-*-“ฉันงงนะว่าแต่ไปแซมไปไหนแล้ว?
“นั่นอ่ะแก...ดูดิ! มาทางนี้แล้ว>O<”
“ตัวอะไรของแก....”
O_O!!!
ฉันมองไปยังทางเข้าโรงอาหารผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับกุหลาบขาวในมือช่อใหญ่เขาดูโดดเด่นมากมากเกินกวาใครๆทั้งหมดแม้ว่าเขาจะใส่เสื้อนักเรียนธรรมดาแต่ฉันกลับมองเห็นเป็นชุดเต็มยศ...ในวันนั้น
เขาก็คือ...เจ้าชาย!!!!
พริ๊นซ์!!!!!
....ฉันไม่ได้เห็นเขามานานแค่ไหนนะ? ตั้งแต่วันนั้น
เพียงเสี้ยววินาที...ตาของเราสบกันเรื่องราวทุกอย่างในวันนั้นก็ผุดเข้ามาในความทรงจำของฉันอีกครั้งทั้งๆที่ฉันอุส่าเลี่ยงมันมาตลอดแล้วแท้ๆเมื่อรู้สึกว่าเขามองมาที่ฉันในสายตาเขามีแต่ฉัน...ฉันจึงรีบหลุบตาลงทันที
“กรี๊ด!!!!พี่พริ้นซ์”
“แกๆพี่พริ้นซ์จะทำอะไรของเขากันแน่นะ>///<”
“เขาจะมาบอกชอบสาวหรอ?”
“โอ้~TOTม่ายน้า”
“อยากรู้จังว่าคนๆนั้นคือใคร?”
“นั่นสิ! คงต้องเป็นเจ้าของรองเท้านักเรียนข้างนั้นแน่ๆ”
หืมO_O
ฉันเงยหน้าขึ้นมาทันทีชะ...ใช่รึป่าวนะนั่นมัน...รองเท้านักเรียนของฉันที่
เอาปาหัวเขาวันนั้นหรอ? ฉันมองพริ๊นซ์ที่ถือดอกกุลาบสีขาวและรองเท้านักเรียนหญิงข้างหนึ่งเข้ามาในโรงอาหารนักเรียนหญิงทั่วสารทิศต่างมารุมออกันอยู่ที่โรงอาหารแห่งนี้ยิ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสอบแล้ว...แทบจะรวมนักเรียนทั้งโรงเรียนเลยก็ว่าได้แถมในแบล็คการ์วที่รุมล้อมอยู่รอบๆกายเขาฉันแอบเหลือบเห็นเพื่อนรักของฉันยืนโหยหวนอยู่ในนั้นด้วย= =”
“สอง...ฉันไปก่อนนะ”
ทามกลางความรุนระทึกฉันคิดว่าฉันควรออกไปจากที่นี่ได้แล้วฉันบอกลาสองก่อนจะพยายามเบียดนักเรียนอื่นๆที่ล้อมวงตีกรอบแคบลงมาเรื่อยๆตั้งแต่ที่ที่...เขายืนอยู่ฉันไม่ได้มองเจ้าชายของโรงเรียนที่เดินมาหยุดห่างจากฉันไปสองโต๊ะและพยายามแทรกตัวออกไปให้ได้แต่ยิ่งแทรกเหมือนจะยิ่งยุ่งเมื่อฉันถูกผลักกระเด็นเข้ามาอยู่กลางวง
ตะ..ตายล่ะ
ทุกคนมองฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นตัวประหลาดฉันงุนงงตื่นเต้นสับสนและดูวุ่นวายไปทุกอย่างไม่รู้ว่าตัวเองควรรับมือกับสถานการณ์พวกนี่ยังไงฉันอายจนแทบอยากจะร้องไห้
“แซนเดอเรล่า”
สี่พยางค์ที่เปล่งออกมาสะกดให้ทุกสรรพสิ่งหยุดนิ่งเงียบ... สงบ...ไม่มีใครกล้าพูดไม่มีใครกล้าขยับตัวแม้แต่เท้าของฉันก็ก้าวไม่ออกเช่นเดียวกันเมื่อไหร่ที่ฉันรู้สึกกลัวเขามากขนาดนี้นะ
“แซนเดอเรล่า...”
O_O
ฉันสะดุ้งเมื่อเสียงนุ่มเปลี่ยนมากระซิบที่ข้างๆหูฉันหันหลังขับไปเผชิญหน้ากับเขา
ทุกอย่างมันเป็นแค่ความฝัน....
“นาย....”
ฉันกำลังจะว่าเขา...แต่จู่ๆเจ้าชายก็ทรุดนั่งลงตรงพื้นเบื้องหน้าเขาวางรองเท้านักเรียนข้างนั้นลงอย่างแผ่วเบาที่ปลายเท้าของฉัน เสียงฮือฮาดังไปทั่วทั้งโรงอาหารนักเรียนทุกคนต่างจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตากดดัน นะ...นี่ฉันจะโดนกระทืบไหมเนี่ย=_=^
“ในที่สุดก็หาเจอซักที...”
“.....” ฉันมองใบหน้าจริงจังที่เงยขึ้นมาสบตากับฉัน
....สายตาที่อ่อนโยนแบบในวันนั้น
“ความจริงฉันตามหาเธอมาตั้งนานแล้วล่ะ...เพราะตั้งแต่วันนั้นเธอก็เป็นเจ้าของหัวใจดวงนี้ฉันไม่รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดมันเกิดขึ้นได้ยังไงแต่ว่า...ฉันไม่อยากให้มันจบแค่นั้น และฉันก็ตามหาเจ้าของรองเท้าคู่นี้มาตลอด”
“......!” ฉันย้อนนึกไปถึงตอนที่เอารองเท้านักเรียนปาหัวเขา และเขาก็ตามฉันเข้าไปในห้องเก็บของจนไปเจอกับรองเท้าเน่าๆข้างนั้นเข้า และเราก็....
“อย่าหลบหน้าฉันอีกเลยนะ?”
ความเงียบเข้าปกคลุมพร้อมกับ...เวลาที่เดินไปช้าๆ
ครั้งนี้...เจ้าชายตามหาหญิงสาวเจ้าของรองเท้าข้างนั้นจริงๆ
“สวมมันสิ....”
ฉันก้มมองรองเท้านักเรียนตรงหน้าอย่างลังเล สายตาของคนรอบข้างทำให้ฉันกดดันจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น ความเงียบเข้าปกคลุมโรงอาหาร สีหน้าของนกเรียนทุกคนต่างลุ้นระทึก ในขณะที่ใบหน้าของเจ้าชายเริ่มหมดหวังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฉันยังคงยืนนิ่ง
“......ขอโทษที่ทำให้เธอเสียเวลา รองเท้านี่...คืนเธอละกัน แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการมันแล้วก็ตาม” อีตาพริ๊นซ์ลุกขึ้นยืนช้าๆ ก่อนจะค่อยๆหันหลังเดินจากไป ใบหน้าของเขาดูเจ็บปวดจนฉันไม่คิดว่ามันเป็นแค่ความฝันอีกแล้ว เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับสายตาอาฆาตที่มองมาที่ฉัน(ฉันขอเล่นตัวหน่อยไม่ได้หรือไงฮะ=O=)
ปึ่ก!!!!!!!!
OoO
สีหน้าตกใจของทุกคนรวมถึงเจ้าของศีรษะที่ฉันหยิบรองเท้านักเรียนข้างนั้นปาใส่ อีตาพริ๊นซ์หันมามองฉันอย่างงงๆ หน้าของเขาเหวอจนหมดคราบเจ้าชายสุดหล่อ ฉันอดขำแทบไม่ได้แต่ต้องกลั้นไว้
“ฉัน...”
“....?”
“ฉันไม่ใช่ซินเดอเรล่า...!”ฉันตีสีหน้าหงุดหงิดมองเขาพร้อมกับตะโกนลั่นโรงอาหาร
“........!”
“แต่...”
“.....?”
“ฉันคือแซนเดอเรล่าต่างหากล่ะ!! แล้วใครบอกว่าฉันไม่อยากได้รองเท้า
ข้างนั้นกันเล่า...ถ้าไม่มีมันแล้วฉันจะเอาอะไรใส่กันฮึ?”
อีตาพริ๊นซ์รวมถึงคนอื่นๆเบิกตากว้างด้วยความอึ้ง เขามองฉันที่กำลังกลั้นหัวเราะอย่างตกตะลึง ก่อนจะตั้งสติได้และวิ่งเข้ามากระชากฉันเข้าไปกอด และฉันก็กอดตอบอ้อมอกอุ่นๆของเขา
“....^^หึๆไม่ต้องบอกก็รู้ เธอคือแซนเดอเรล่าของฉัน”
โฮ่ฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ~
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~
....แล้วแซนเดอเรล่ากับเจ้าชายก็ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป(ทามกลางเสียงโฮร้องอย่างดีใจและกรีดร้องอย่างเสียใจที่ดังสนั่น)
คิก คิก ตอนนี้ฉันมีความสุขที่สุดเลยล่ะ^^แม้ว่านี่อาจจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นและอาจไม่จบอย่างสวยหรูแบบในนิยายแต่ไม่ว่ายังไงฉันก็คงต้องขอบคุณรองเท้าเน่าๆข้างนั้นที่ทำให้ฉันได้พบเจอเรื่องราวมหัศจรรย์และความรักที่สุดแสนจะอัศจรรย์ทำให้ฉันได้ใกล้ชิดกับเขาแปรเปลี่ยนคำว่าเกลียดขี้หน้าไปเป็นคำว่า...รักที่สุด
ที่สำคัญ...ฉันคงต้องขอบคุณตัวเองที่ตีบทซินเดอเรล่าซะแตกกระจุยเลยยังไงล่ะ^O^โฮะๆๆๆๆๆ
THE END
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น