ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    wented (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #56 : ตอนพิเศษ (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.86K
      7
      3 มี.ค. 54

    ผลสอบออกมาแล้วครับ ...ผ่าน (เพราะเป็นสอบแล็ปผลมันเลยออกเร็วน่ะครับ)
     
    ได้ 51 เต็ม 100 เกือบสุดๆ5555....อืม ถ้าพูดถึงการอ่านสุดตรีนของผม ผลที่ออกมาผมก็พอใจอ่ะครับ ผ่านก็คือผ่านล่ะนะ แต่ดูท่าว่าเพื่อนๆผมจะไม่โอกันเท่าไหร่(สาวหยิกผมเนื้อเกือบหลุดแน่ะครับโทษฐานเกรดตก) 

    เง้อ... ทำไงดีล่ะเนี่ย


    0000000000000000000000000000000000000


    "ช้าย ทางซ้ายอีกนิด"

    "อืม...ตรงนั้นเจ็บ"

    "แรงอีกหน่อย"

    "เจ็บ... อืม เก่งจังครับเจ "


    ...

    เอ่อ...คุณเจครับ

    ---ครับเจ

    นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันครับ

    ---เอ้อ...คือผมกำลังเครียดอยู่น่ะครับ ไว้ค่อยคุยกันนะครับ

    ไม่ครับ ตอบผมก่อนครับ คุณทำเหี้ยอะไรอยู่ครับเนี่ย!

    ---ผมก็ยังอยากรู้เหมือนกันครับ ...คือ ผมกำลังนวดอยู่น่ะครับ....


    โว้ยยยยยยย........................


    อยากจะกรีดร้องออกมาถึงสภาพที่เป็นอยู่!!!!!


    กูเครียดดดดด!!!!!!!



    ......เฮ้อออ.....มาย้อนความให้ผมหายบ้าก่อนแล้วกันครับ


    คุณจำตอนที่แล้วได้มะ ไอ้"เพล้ง!" น่ะครับ  มันเป็นเสียงทำตกของแม่บ้านที่ยกจานผลไม้ตามมาน่ะครับ


    "อรรถ...อะ-อรรถยิ้ม" คุณแม่พลพรรตเหล่าตัวออเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ


    .....

    ....เงียบ

    ....บรรยากาศอยู่ในสภาวะช๊อคที่ไอ้เจไม่ได้เกตอันเด้อแสตนด์ไปกับเขาด้วย

    ในรูปถ่ายอรรถก็ยิ้มนี่หว่า  หรือไม่ใช่คนที่ยิ้มบ่อยๆกันวะ....อืม สังเกตไอ้นี่ก็หน้าตายตลอดเลยน่ีหว่า แถมดูไม่สนใจกับบรรยากาศนี่ซะด้วย .....มองกูอยู่ได้ ....งงว่ะ

    ดังน้นเมื่อไม่รู้จะไปอึ้งอะไรกับพวกเขาดีผมเลยช่างแม่งมันไปแล้วทำตัวให้สมกับชื่อว่าเป็นสุภาพชนนามเจออกไปช่วยเก็บจานที่ตกพื้นครับ

    การลุกออกมาจากโต๊ะของผมเลยกลายเป็นตัวปลุกให้ทุกคนตื่นจากภาวะช๊อคครับ

    "เอ้อ...ขอบคุณค่ะ" แม่บ้านรีบรับจานที่ผมยื่นให้แล้วจ้ำอ้าวกลับเข้าตัวบ้านอย่างรวดเร็วเลยครับ ....หนีอะไรกัน

    งงวุ้ย!

    "สวัสดีครับแม่ ผมเจครับ" ผมหันไปไหว้แม่อิฐเป็นอันดับแรกผ่อนคลายบรรยากาศนี่ครับ ....มารยาทที่ดีของคนไทยมาแต่ช้านานครับ เคารพผู้ใหญ่ ^ ^


    "จะ-จ๊ะ! เอ้อ- ไหว้พระเถอะเจ ไหว้พระ" แม่มองผมแปลกๆแวบนึงแล้วก็เปลี่ยนมายิ้มอ่อนโยนรับไหว้ผมครับ

    "คนนี้ไงคะคุณแม่พี่เจที่มาสอนพิเศษให้หญิงเล็กเข้าสายวิทย์ได้นะค่ะ พี่เจไงคะคุณแม่" เสียงแจ้วๆพร้อมกับการเดินเข้ามาอ้อนคุณแม่ของหญิงเล็กเป็นอะไรที่โคตรจะน่ารักเลยครับ เจ้าอาจตาเหลืองลุกขึ้นมารับเหยือกเครื่องดื่มสีเหลืองส้มไปจากแม่แล้วจัดการเทแบ่งทุกคนทิ้งให้ผมรับหน้าแม่ไปครับ

    "โอ้!! เจคนนี้นี่เอง ชื่อก็เหมือนกันแม่ลืมไปได้ยังไงนี่ นึกว่าอายุเยอะกว่านี้ซะอีกเนี่ย  ขอบใจมากนะลูกเจที่ช่วยลูกหญิง เจเก่งมากเลย" ....ดูยังไงก็อุ้มภาคแก่แฮะ ถึงจะอายุพอสมควรแล้วแต่ก็น่ารักมากเลยครับ

    "ไม่หรอกครับแม่ แม่ไปที่โต๊ะก่อนเถอะครับ นั่งคุยกันสบายๆดีมั้ยครับ ผมอยากชิมฝีมือแม่แล้ว" ผมส่งยิ้มหวานให้แล้วพาสองสาวไปนั่งโต๊ะครับ ตรงนี้ถึงไม่ร้อนแต่ไอแดดก็มีพอควร ยืนคุยตรงนี้เดี๋ยวจะไม่สบายกันได้ครับ  ยิ่งตัวเล็กๆกันอยู่ด้วย


    พรืดดดด!!!!

    หมับ!

    ตุบ!

    "อูย..."

    ....เวร....


    เสียงแรกคือผมเหยียบเศษผักที่เก็บไม่หมดลื่นน่ะครับ

    ....แต่ไม่ล้ม


    เสียงที่สองคือไอ้คนที่ใกล้ผมที่สุดเอื้อมตัวออกจากโต๊ะมารับผมน่ะครับ

    ....แต่เก้อว่ะ กูทรงตัวได้  ยังยืนอยู่ที่เดิม


    เสียงที่สามคือเพราะมันคว้าลมวืดเลยกะจังหวะผิดเลยเคลื่อนที่ตามแรงโน้มถ่วงของโลกดิ่งสู่พื้นแบบเอาหน้าลง

    ....เป็นสุภาพบุรุษนามเจที่กระโจนไปคว้าแขนไว้ได้ทัน


    และเสียงสุดท้ายนี้ไม่ใช่เพราะผมรับพลาดหรอกนะครับ

    .... ตัวน่ะช่วยได้แต่ขามันยังไม่ได้ออกจากโต๊ะน่ะครับ

    ....เจ็บตามระเบียบ


    แล้วถามว่าผมจะร้อง"เวร"ในใจทำไมนั้น....

    ถูกแล้วครับ....ไอ้คนที่ไม่ยอมปล่อยแขนคอผมที่พยุงตัวมันไปนั่งโต๊ะดีๆแล้วนี่...


    คือ "อรรถ" นั่นแหละครับ

    ...

    ...บรรยากาศอึ้งอีกแล้วแฮะ

    ...

    ...ให้ตาย....  เจ้าอรรถนี่มันต้องมีนิสัยเพี๊ยนๆเหมือนพี่ใหญ่มันแน่เลยแฮะทุกคนถึงเป็นเอามากขนาดนี้เนี่ย....


    "ปล่อยได้แล้ว" 
    เสียงติดจะเริ่มหงุดหงิดจากท่านอสุรกายทำให้อรรถผละจากผมที่ยืนเครียดๆไปครับ

    คุณแม่เขาก็เดินเข้าไปดูอาการพร้อมกับการสนใจอาการอรรถของทุกคน ผมก็ผละออกมาหาอิฐครับ

    "อะไรวะ" ผมกระซิบถามถึงเหตุการณ์แปลกๆ ภาวะอึ้งของทุกคนเกี่ยวกับตัวอรรถน่ะครับ

    "อยู่ห่างๆอรรถไว้" มันสั่งผมเสียงแข็ง ....อะไรวะ

    "ไม" มันรู้ดีครับว่าต้องมีเหตุผลผมถึงจะทำ

    "พี่เจ"เสียงกระซิบจากอ้นที่นั่งตรงข้ามผมทำให้ผมหันหน้าไปครับ เจ้าอาจดูต้นทางเห็นทางฝั่งอรรถไม่ได้สนใจมาทางเราก็พยักหน้าให้แล้วอ้นก็โน้มตัวมาหาผมครับ ....ลับๆล่อๆทำไมล่ะเนี่ย แต่ผมก็โน้มตัวไปหาให้มันกระซิบบอกครับ

    "พี่อรรถชอบหมา ....นั่นเป็นสาเหตุที่บ้านเราไม่เลี้ยงหมาครับพี่เจ"  อ้นกระซิบบอก

    ....อื๋ม

    แล้วมันหมายความว่าไงวะ


                    ก่อนที่ผมจะได้ขอคำอธิบายที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้อยู่ๆบรรยากาศอึ้งที่ผมชักจะชินเสียแล้วก็กลับมาอีกครั้งครับ  เงยหน้าออกจากบทสนทนาของอ้นไปมองฝั่งพวกอรรถก็เห็นคุณแม่กับน้องๆผู้หญิงมองมาทางผมครับ

                    “ผมอยากให้เจมานวดให้ครับแม่” อรรถพูดเสียงเรียบๆเหมือนจะย้ำคำพูดอีกทีหน้าตายเสียงดังพอให้ฝั่งผมที่นั่งอยู่ไม่ไกลกันนักได้ยินด้วยครับ ....อะไรของมัน  น้องสาวมึงก็ถือยานวดอยู่นี่

                    “ทำไมไม่ให้อุ้มนวดล่ะ” อิฐถามเสียงเรียบตามสไตล์มันแต่ผมสังเกตว่ามันออกจะเหมือนคุยกับคนทั่วไปไม่มีอบอุ่นนิดๆเหมือนทุกทีที่คุยกับพี่น้องมันนะ

                    “ตอนงานพลเจอยู่ซุ้มพยาบาล ” อรรถตอบ เฮ้ย!! มางานพลด้วยเรอะเนี่ยย  ไอ้หย่ะ!! คอเดียวกันนี่หว่า!! (ใครรู้จักงานพลเม้นไว้แล้วมาผ้อกันนะครับ555)

    “คิดมากน่า” ผมตบบ่าอิฐเบาๆพร้อมลุกขึ้นไปหาทางนั้นครับ ...ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธครับ ผมปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นจริงๆนี่หว่า แล้วคนมางานพลก็ไม่มีคนไหนคบไม่ได้สักรายด้วย

    อยากรู้อะไรก็ต้องพิสูจน์เองนี่แหละวะ!

    อืม

    ...นอกจากช้ำแล้วเสือกเป็นตะคริวด้วยนี่หว่า ...ทำไมไม่บอกแม่วะ ปล่อยให้นวดอยู่ได้

    ....อ้อ .....ลูกแม่สินะ

    ....เจ๋งนี่หว่า

    “แม่กับน้องๆไปนั่งทานข้าวกันก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมต่อเอง ผมเรียนการนวดการปฐมพยาบาลมาด้วยตอนฝึกงานน่ะครับ เดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อนอรรถเองครับแม่” ผมยิ้มให้พลางเดินไปเอายาจากน้องอุ้มมาบีบใส่มือถูๆแบบมืออาชีพแล้วพยักเพยิบหน้าให้แม่น่ะครับ

    “แม่ไปเถอะครับ ผมจะคุยเล่นกับเจ” อรรถพูดด้วยใบหน้าอ่อนโยนเหมือนในรูปถ่ายครอบครัว ...ผมสังเกตไปเองรึเปล่าวะว่านี่เหมือนการสั่งมากกว่า

    “เอาเถอะ งั้นหนุ่มๆก็คุยๆกันอยู่นี่แล้วกันนะ ตรงนี้มีขนมอยู่แล้วแต่ถ้าจะเอาอะไรเพิ่มก็เรียกแล้วกัน” แม่พูดเหมือนปลงๆกับลูกชายพลางหันมายิ้มขอโทษให้ผมก่อนพากันเดินกลับไปครับ ....งงว่ะ

    ก็ไม่อะไรครับ

    ผมก็เงียบไปคิดมากกับคำเตือนของอ้นตั้งหน้าตั้งตานวดให้หายตะคริว อาจเป็นเพราะผมเป็นผู้ชายด้วยกันแถมก็น่าจะอายุพอๆกันเลยไม่ต้องไว้ตัวกันมากครับ อรรถเลยร้องเจ็บออกมาได้โดยไม่อายกันเท่าไหร่

    มันระแวงกับคำเตือนเลยพาเอาเครียดไปเลยน่ะครับ

    แต่ว่านะ

    ไอ้เจเคยเครียดกับเขาได้นานเมื่อไหร่ล่ะ

    “ทำไมตอนที่คุณทักผมทุกคนถึงเงียบไปล่ะ” ผมถามอรรถขึ้นมาซะดื้อๆเมื่อเห็นขาอรรถเริ่มหายเกร็งแล้ว

    “....” อรรถเงยหน้าขึ้นมามองผมนิ่ง ....ถึงหน้าตายเหมือนผมไปด่าแม่มันเข้าแต่ผมว่ามันน่าจะอึ้งมากว่านะถ้าให้เดา

    “ก็เมื่อตอนคุณระดมถามว่าผมจำคุณได้ไง” ผมขยายความอีกพลางทำหน้าว่ากูถามจริงๆ

    “........หึ...หึหึ” มันมองหน้าผมนานก่อนหัวเราะออกมาทางจมูกนิดๆ  ...ถ้าเป็นคนอื่นมันก็คือเย้ยหยันล่ะนะ แต่ผมมองว่าไอ้นี่น่าจะขำมากกว่าน่ะครับ

    ยิ่งผมทำหน้างงหมอนั่นยิ่งหัวเราะครับ จากหึๆธรรมดากลายเป็นตัวสั่นหงึกๆเลยครับ แต่ไม่ได้55ออกมานะครับ   มันหัวเราะไม่มีเสียงตัวสั่นตัวโยนออกมาน่ะครับ อะไรของมัน งงวุ้ย!

    “เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆนะ.... ขอโทษว่ะ....มึงเป็นเหี้ยอะไรกันครับ”  ผมถามเซ็งๆ  การถูกหัวเราะใส่หน้าโดยที่เราไม่เข้าจเป็นอะไรที่เซ็.ประสาทได้สุดๆจริงๆนะครับ

    “หึ หึ....โอย....น่าสนใจจริงๆด้วย.....หึ หึ....” หมอนั่นพูดขำๆพลางกุมท้องแล้วก้มหน้าลงไปหัวเราะต่อ

    อืม....

    ...สั้นๆ

    ...ง่ายๆ

     

    แต่ให้ตายเหอะ!!

     

    ผมเสือกเข้าใจ!!

     

    ไอ้หมอนี่น่ะ....

     

    อิฐภาครูปปั้นชัดๆ!!!

     

    เข้าใจกันมั้ยครับ ถ้าอิฐของผมคืออิฐภาคปิศาจหน้าดุล่ะก็  ไอ้หมอนี่มันคืออิฐเด็กน้อยเทวดาภาครูปปั้นชัดๆ !!

     

    ทำไมผมเพิ่งสังเกตวะเนี่ยว่าแม่งเหมือนกันซะขนาดนี้!!!

     

    จะพูดน้อยก็ดี... 

    จะมีออร่าแปลกๆที่คนต้องสนใจและทำตามก็ดี...

    จะแสดงอะไรออกมาให้คนอื่นรู้สึกแปลกๆไม่เข้าใจแต่เป็นผมที่เสือกเข้าใจก็ดี....

     

    ….

     

    ไอ้หย่ะ!!

     

    แล้วก็มีความคิดหนึ่งที่สมองของผมประมวลออกมาอย่างรวดเร็ว ต่อจิ๊กซอร์เพี๊ยนๆนี่ได้ในเวลลาชั่ววินาทีถึงเหตุการณ์ต่างๆที่แปลกพิศดารของครอบครัวนี้ได้ทันทีครับ

    ....ถ้าเป็นอิฐภาคเด็กแบบนี้

    ...เรื่อองคงยุ่งยากแน่!!

    อิฐภาคโต(ตัวจริง)เมื่อรู้จักคนอย่างผมคงคิดในใจไม่พูดออกมาโต้งๆตรงๆว่าผมน่าสนใจแบบอิฐภาคเด็ก(ไอ้อรรถ)นี่แน่!

    ถ้าอิฐคนพี่ที่เก็บซ่อนความรู้สึกได้เก่งและเลือกที่จะเสียสละให้น้องมากกว่า แล้วอิฐที่เป็นคนน้องล่ะ...จะต้องเสียสละให้ใคร...

    ถ้าอิฐภาคโตโคตรหึงแต่มีขอบมีเขตและก็แสดงออกไม่เก่งล่ะ ...แล้วอิฐภาคที่ไม่มีมีการปิดบังคนนี้ล่ะ...

    ถ้าอิฐของผมเป็นอัจฉริยะในภาคปีศาจฮาเดสหน้าโหดที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงโดนจองจำอยู่แต่ในนรกแต่ อิฐน้อยคนนี้เป็นซุสสีหน้าหน้าอ่อนโยนที่โดนตามใจจนมีอิสระแบบข้าเป็นเทพเจ้าที่จะทำอะไรก็ได้ล่ะ...

    (...เปรียบเทียบอันสุดท้ายเวอร์ไปแฮะ กร๊ากก)

    แบบคุณเข้าใจมั้ยครับ....เหี้ยเอ้ย....แบบผมยิ่งแพ้ทางคนประเภทนี้เสียด้วย....

     

    จะเกิดศึกชิงนางเรอะ!!

     

    แย่แน่....

     

    อย่าคิดเอากูเป็นเมียอีกคนนะโว้ยยยย!!!!!

     

    “คิดอะไรอยู่...” เสียงติดจะขำถามผมให้หลุดจากภวังค์ฝันร้ายอันแสนน่าผวาครับ ....แล้วเอ่อ...โน้มหน้าเข้ามาใกล้ไปมั้ยวะนั่น แล้วที่ยื่นยามานี่กะให้นวดใช่มะ ได้ข่าวว่าเจ็บขานะ... ยื่นมือมาทำไมวะ

     

    “นี่...ถามจริง ทำไมชอบหมาแล้วไม่เลี้ยงวะ” ผมถามมันพลางรับยามานวดให้มันครับ ...ก็นวดมืออย่างที่มันเอามาเกยตักผมนั่นแหละครับ  ไงดีล่ะครับ...แผนอย่างเดียวตอนนี้ของผมคือต้องศึกษาคู่ต่อสู้ให้มากที่สุดแล้วล้างหัวสมองศัตรูให้มันเป็นเพื่อนผมให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะคิดเพี๊ยนๆเช่นการอยากแอ้บเกย์จับผมทำเมียแบบพี่มันเข้าน่ะครับ

    “ใครบอก” ....หน้าตายแบบนี้แต่ผมเสือกรู้อีกแน่ะว่ามันงง

    “อิฐ” ผมแหล ก็นะ...รู้สึกว่าอิฐเป็นไม้กันหมาชั้นดีน่ะครับ โยนอะไรไปให้ก็ไม่ซวย

    “...ไม่อาจก็อ้นสินะ...ช่างเถอะ....ไงดีล่ะ รักมันจนตายน่ะ” อรรถพูดหน้าตายติดจะเศร้าๆ ....รู้ทันเสียด้วยแฮะ ....และผมก็เลือกที่จะรอเงียบๆให้เจ้าตัวเล่าออกมาเองครับ

    “....ไม่อดทนพอน่ะ ....รักมากแต่อดทนไม่พอ ...ถ้าพี่ใหญ่สามารถสร้างบริษัทจากโดยเริ่มเป็นพนักงานทำความสะอาดจนรุ่งเรืองได้ กูก็ทำให้รุ่งเรืองได้โดยที่เริ่มมาก็เป็นผู้นำบริษัทเลยน่ะ  ....เริ่มจากลูกหมาแต่ไม่สามารถอดทนเลี้ยงมันจนโตได้ เริ่มจากโต แต่ไม่สามารถอดทนเลี้ยงจนมันแก่ตายได้  ให้มันวิ่ง ให้มันกินมากเกินไป ...มากเกินไปจนมันตาย ...หยุดไม่ได้น่ะ...”  เริ่มมีกูมีมึงตามระดับที่มันคงคิดว่าเราสนิทกันแล้วชัวร์เลย....ไอ้นี่....อิฐภาคเด็กจริงๆด้วย

    “ไม่ได้เปรียบเทียบสินะ ได้ข่าวว่าน้องคนรองของบ้านเก่งเรื่องหุ้นมาก” ผมเย้า

    “หึหึ เพราะหุ้นมันตายแล้วมันก็ฟื้นได้น่ะสิ พี่ใหญ่เลยจัดให้น่ะ ....สนุกดีด้วย” มันพูดยิ้มๆ ...ตรงที่ดีใจที่ถูกชมนี่ก็เหมือนพี่มันแฮะ

    “...ไม่รู้สิ เพราะเป็นน้องคนแรกมั้ง....พี่ใหญ่ตามใจจนเคยตัวน่ะ ...ไม่สิ...เพราะเป็นน้องคนแรกเลยได้อ้อนมากกว่าใครๆน่ะ... ” มันพูดเสร็จก็ยิ้มแบบรู้ทันให้ผม....รู้แล้วเรอะว่าเราเป็นมากกว่าเพื่อนน่ะ...แต่ก็เข้าใจว่ะ  อ้อนปีศาจได้นี่มันน่าภูมิใจจริงๆด้วย ...และถ้าคุณรู้ว่าจะทำอะไรก็ตามถ้าพลาดขึ้นมาก็มีคนมาช่วยได้เสมอ มีปีศาจคุ้มกะลาหัวตลอดนี่มันก็เป็นข้อเสียให้เราเคยตัวได้จริงๆนั่นแหละครับ

    “ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องปฏิกิริยาตอบรับจากทางบ้านมึงอยู่ดี” ผมถามแบบตอบให้กระจ่างซิพลางรับมืออีกข้างมานวดครับ

    “ต้องเอาให้ได้ศินะ ไม่ไงหรอก มันน่าแปลกใจมั้งที่กูจะสนใจใคร ...มันไม่บ่อยเท่าไหร่ แล้วถ้าสนใจก็มักมีปัญหาทุกครั้งน่ะ...โดนกูทำเจ๊งทุกที ก็นะ...ลูกบ้านนี้ระดับความปรกติจะลดลงมาเรื่อยๆตามอายุน่ะ พ่อว่าพี่ใหญ่เหมือนสิงโตเอาไว้คุมป่า กูก็ก๊อตซิล่าที่บทจะนอนแช่อยู่ในน้ำก็ดีไปแต่อย่าให้คิดอยากมาเดินเล่นที่เจเจ...ไม่ได้ตั้งใจแต่เละเป็นแถบ  อาจอ้นเป็นแฝดเมียร์แคต อยู่ไม่สุขทั้งคู่ คนนึงชอบใช้กำลัง อีกคนชอบใช้สมอง อุ้มก็นกยูงเอาไว้ประดับบ้านสวยๆ ออยก็แมวเลี้ยงไว้น่ารักดี เอกก็หมายักษ์น้ำลายเยิ้ม” .............เอ่อ.......ท่านพ่อเปรียบเทียบได้โคตรเหมือนเลยแฮะ.....เห็นภาพเลย

    อืม

    “งั้นมึงก็อิฐภาคไฮเปอร์สินะ”  ผมสรุป  มันมองหน้าผมแบบอึ้งๆไป....

    แล้วก็....

    ตามเสต็ปที่ผมรู้ว่ามันจะทำแต่ไม่เข้าใจว่าทำไม...

    “กร๊ากกกกกกกกกกก555555555555555555555555” ....คราวนี้แม่งหัวเราะแบบเต็มสตีนเลยครับ เสียงโคตรจะดังอย่างที่ไม่ต้องบอกกูรู้เลยว่าฝั่งนั้นต้องมองมาทางเราแบบอึ้งๆแบบที่ไม่ต้องบอกผมก็รู้อีกนั่นแหละว่าเจ้าอรรถหน้าอ่อนนี่คงไม่ได้หัวเราะก๊ากแบบนี้บ่อยๆแน่

    ไม่รู้กูไปกระตุ้นต่อมถูกใจอะไรของมันอีก

    แต่ก็เอ้อ...เอาเถอะ  เสยงหัวเราะฮาแตกก็ดีกว่าเสียงบอกรักแหละนะ...ช่างแม่ง!

    “ทำอะไรกันอยู่น่ะ” ....อื๋ม....มาเมื่อไหร่วะ ....ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นปีศาจยืนหน้าบึ้งพร้อมเหยือกว่างเหล่าใบนึงครับ  คงจะไปเติมเครื่องดื่ม(อันนี้น่าจะข้ออ้าง)แล้วแวะมาหาผมอ่ะดิ(อันนี้น่าจะจุดประสงค์หลัก)

    ....เฮ้ย!! 

    กูมาอยู่บนอรรถได้ไงล่ะเนี่ย!!!!

    ตกใจทำตัวไม่ถูกเลยครับเมื่อผมพบว่าตอนนี้ตัวเองกำลังนั่งคร่อมหลังนวดไหล่มันอยู่!!!

    “ไปเติมน้ำผลไม้กับอิฐ” เสียงปิศาจเอ่ยขึ้นพลางจูงเชือกวิญญาณกระตุกจากคอผมให้ลอยตามไปครับ เจ้าอรรถก็ไม่ได้ว่าอะไรพร้อมลุกขึ้นเดินไปนั่งกินข้าวสบายใจเฉิบโดยไม่สนใจสถานการณ์เชือดคอตอนนี้เลยซะด้วย...

    ว่าแต่อึ้งว่ะ!!

    ตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย!!

     

                    อิฐที่เงียบๆในบรรยากาศกดดันธาตุไปเข้าแทรกห้ามผมสะกิดเดินนำเข้าบ้านไปครับ เข้าไปถึงก็เจอสาวใช้ยืนคอยอยู่พอดีครับ น่าจะยืนคอยสำสั่งเผื่อคนในบ้านต้องการอะไรอยู่แล้ว อิฐยื่นโถให้หล่อนไม่พูดไม่จาแล้วพาผมเดินไปอีกทางครับ

                    ...มันพาเข้าห้องน้ำ(ทีใหญ่พอๆกับห้องนอนผมเลย)

                    ดึงผมเข้าผนังและเอาแขนคร่อมตัวผมไว้ปิดทางหนี

     

                    อืม

                    คุณนึกถึงอะไรกันล่ะในสถานการณ์แบบนี้

    ตามปรกติที่แฟนขี้หึงเขาควรจะทำอะไรกันล่ะครับ...

     

    ตบ! ดึงมาจูบ! ตะคอกใส่!

    โหดๆแบบนี้!

    หึงๆแบบนี้!

    ปล้ำซะเลย! 5555

     

    ….

    แต่ก็นั่นแหละครับ

    เพียงแต่คนที่ผมพูดถึงนี่เป็นอะไรที่เจ็บแสบได้มากกว่านั้นครับ

    เขาคนนั้นคือแฟนของผมน่ะครับ

    เขาคนนั้นเพียงแค่มองผมน่ะครับ

    ไม่ได้มองแบบโกรธ

    เสียใจ

    เศร้าใจ

    หรือจะหึงจะหวงก็ไม่มีเลยครับ

    เขาเพียงแค่มองผมในอารมณ์ที่ในอารมณ์ที่ผมเกือบร้องไห้ออกมาเลยครับ

    ...เขาขอร้อง...

    มองด้วยสายตาที่แทบจะเหมือนคนที่สิ้นหวัง

     

    ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้อรองอะไรครับ ไม่เคยคิดจะถามหรือคิดให้มากไปกว่านั้นด้วย   ....ไม่รู้ว่าขอร้องตัวผมหรือความคิดของผมเอง...

    คุณอาจเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเหตุการณ์นั่น แต่กับผมและมันนี่เป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียวครับ

    เราอาจแย่เอาได้จริงๆ

    เพราะผมไม่รู้ตัวจริงๆว่าได้เดินไปตามเกมของอรรถแล้ว

    แผนเอาเพื่อนถูกเปลี่ยนเป็นแผนของอรรถไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    ถ้าอิฐเหมือนอัฐมากขนาดนั้นก็ไม่แปลกแต่อิฐมักให้โอกาสผมเลือกซึ่งอรรถไม่...

    อย่างที่อรรถว่า... เขาอดทนไม่พอ...

    เมื่อเขาสนใจแล้ว....

     เขาต้องได้....

    แต่สิ่งที่ผมและอิฐกลัวคือประเด็นที่สองครับ

    คือถ้าไม่ได้ก็ให้อย่ามีซะตั้งแต่แรก....

     

    ทำอะไรไปไม่ได้ไปกว่าเอื้อมมือออกไปดึงตัวมันที่ซุกตัวเข้ามาหาผมทันทีเข้ามากอดให้แนบชิดกันมากที่สุดเพื่อที่จะย้ำให้มันแน่ใจว่าผมอยู่ตรงนี้และเป็นของมันครับ

    “เจขอโทษ” ผมพูดเบาๆ แบบเหนื่อยล้าและยังไม่หายตกใจในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

     

    เวร

     

     

    ....ถึงตายจริงๆ

     

     

     

    000000000000000000000000000000000000

    มุมเมาส์น้ำประปา : ตอนพิเศษนี้มันยาวจริงๆแฮะ ไปๆมาๆก็ยาวจริงๆทั้งๆที่มันก็แค่วันเดียวเองนะโว้ยยยยย  โม้มากจริงไอ้เจ 555

    เปลี่ยนจากตอนพิเศษเป็นตอนธรรมดามันซะเลยแล้วกัน5555

    ส่วนตอนก่อนๆหน้านี้คุณๆก็เปลี่ยนให้มันเป็นตอนพิเศษกันในใจเราก็แล้วกันครับ 55 ยิ่งเล่ายิ่งยาวยิ่งคิดถึงนะครับไอ้ความทรงจำเนี่ย คิดแล้วก็อาร์ตแตกจริงกู555  เอาไว้ใครอยากอ่านผมก็จะเล่าเรื่อง ณ ปัจจุบันที่มุมเมาส์นี่แล้วกันนะครับ ซึ่งช่วงนี้ก็ไม่อะไรครับ ผมเริ่มอีเวนรับงานให้แฟนบ่นอีกแล้ว เดือนมีนานี้ตารางเหลือวันว่างแค่ เสาอาทิตย์ที่1314แล้วนอกนั้นมีงานกับเรียนหมดเลยจนแฟนเริ่มออกอาการน้อยใจแล้วครับ5555

     แต่มันก็ยังไม่ว่าอะไรมากหรอกครับตราบใดที่ผมสัญญาว่าจะมากินข้าวเย็นด้วยกันอาทิตย์ละไม่ต่ำกว่าสองครั้งและกลับไปอยู่กับสาวๆที่บ้านได้แต่ต้องมานอนกับมัน ...ง่ายๆแต่ทำยากเพราะผมง่วงแล้วมักจะนอนเลยเสียด้วย (ก็นอนที่พื้นห้องสาวนั่นแหละครับ เวลาที่อยู่บ้านมักเป็นช่วงกลางคืนและผมมักจะลอกการบ้านอยู่ห้องสาวตลอดน่ะครับ ....ลอกเสร็จสมองดับสัญญานปิดทุกที) ......อืม...แค่นี้แหละที่อยากจะบ่น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×