ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ความแค้นที่ไม่ได้ก่อ
เปลวเพลิงโหมกระหน่ำไปทุกทิศทุกทาง เสียงเอ็ดอึงอลหม่านไปทั่วคฤหาสน์หลังงาม เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนขยับเข้ามาใกล้ทุกขณะ สรรพสิ่งมอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านปลิวว่อน ร่างเล็กๆซุกกับอกผู้เป็นมารดา นางพยายามรั้งร่างบุตรีนั้นออกห่างผลักไสให้ชายชรารีบพานางหนี
"หนีไปซะ หลันเออร์ หนีไป!" นางพยายามพลักไสอีกครั้งทั้งน้ำตา
"จำไว้ พ่อกับแม่รักเจ้าเสมอ" แล้วนางก็หันไปกุมมือบุรุษรูปร่างองอาจชุดสีขาวปักลายหงส์สีทองที่ชายผ้าในมือเขาถือกระบี่ยาวท่าทางน่ากลัว แต่ก็ส่งรอยยิ้มอ่อนหวานให้นาง ทั้งคู่กระชับมือกันแน่นก่อนที่มารดาของนางจะหยิบกระบี่แล้ววิ่งผ่ากองไฟไป
"ท่านแม่!"
เฮือก! พลันนางก็สะดุ้งจนสุดตัว นางฝันอีกแล้วร่างน้อยๆเจ็บปวดจวนใจแทบขาดทุกครั้งที่ฝันเช่นนี้ นางจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในวันนั้น แม้แต่หน้าท่านพ่อท่านแม่ของนางก็เลือนลางดูเต็มทน พลันเสียงร้องบางอย่างก็ดังขึ้นไม่ไกลจาก ศาลาที่นางมักมานอนเล่นเช่นนี้เสมอ เสียงบางอย่างไม่ดังนักแทรกเสียงนำ้ตกที่แตกกระเซ็น คราแรกนางคิดว่าตนหูฝาดไป จนเมื่อเอียงคอฟังรบสองก็ยังคงได้ยินเสียงนั้นเช่นเดิม จึงเริ่มเดินลัดเลาะน้ำตกไปอีกด้านที่เป็นชายป่า ก็พลันเห็นร่างบางอย่างถูกเชือกบ่วงรัดตรึงอยู่กับที่ ร่างสีขาวนั่นขยับอย่างข่มขู่เมื่อนางเข้ามาใกล้ จนเมื่อเห็นนางแก้เชือกปมออกอย่างไม่หวังมุ่งร้าย ร่างนั้นก็นอนนิ่งๆให้นางอุ้มแนบอก
"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวข้าจะรักษาเจ้าเอง"
โรงเตี้ยมหูเป่ยคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา บ้างก็มาดื่มเหล้าหาอาหารเลิศรส บ้างก็หาห้องพักเพื่อค้างคืน แต่โดยส่วนมากพวกเขาล้วนมานั่งฟังดนตรีที่ไพเราะเกินกว่าที่จะมาอยู่ที่ชายแดนแห่งนี้ ถึงแม้ชายแดนแคว้นอู่จะเต็มไปด้วยการค้าแลกเปลี่ยนระหว่างแคว้นอู่และแคว้นเว่ย มีผู้คนมากมายของทั้งสองแคว้นเข้าออกทำการค้าต่างส่งเสียงเพื่อเรียกลูกค้าแย่งกันอย่างโหวกเหวกอยู่ด้านล่าง แต่ชายหนุ่มที่อยู่ชั้นสองของก็หาได้สนใจไม่ เขานั่งจิบสุราเพียงลำพัง เขากำลังหวนระลึกถึงสิ่งที่ผ่านมาเสียงดนตรีที่พริ้วแผ่วคล้ายบอกต่อคำปลอบประโลมใจอยู่เงียบๆ องคาพยพเครียดเกรงดูผ่อนคลายอยู่หลายส่วน หากแต่ไม่ทันไรก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น
"ท่านตา ท่านตา!" เด็กสาวท่าทางมอมแมมคนหนึ่ง ตะโกนเรียกใครบางคน เสียงดนตรีที่ขับกล่อมเขาอยู่เมื่อครู่ก็มีอันหยุดชะงักไป คนบนโรงเตี้ยมต่างให้ความสนใจเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่มาใหม่คนนั้น
"ท่านตา...ท่านดูสิข้าได้อะไรมาด้วย"ในอ้อมกอดของนางมีสิ่งชีวิตดิ้นขลุกขลักอยู่ในนั้น ก่อนที่จะชะงักทักทายผู้หญิงที่เล่นดนตรีอีกคนที่อยู่ข้างๆ
"เอ่อ พี่อี้เหนียง สวัสดีเจ้าค่ะ" แต่ถึงกระนั้นนางก็ยิ้มเพล่ พร้อมกับยื่นสิ่งมีชีวิตน้อยๆนั่นออกไปข้างหน้า
"ไหนตาดูสิว่าเจ้าพาอะไรมา...อินทรีตัวนี้"
"ข้าเห็นมันติดบ่วงอยู่ ขามันเจ็บข้าเลยอยากให้ท่านช่วยรักษามัน"
เจิ้งอิงให้ความสนใจคนกลุ่มนั้นเพียงชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเลิกสนใจว่าเขาจะพูดอะไรกันอีก สักครู่ก็ได้ยินเสียงเถ้าแก่ของร้านประกาศ
"วันนี้...พวกเราโชคดีมากๆ แม่นางไป่หลันจะมาบรรเลงดนตรีให้เราได้ฟังกัน" เสียงไชโยโห่ร้องดังขึ้นเหมือนพวกเขาดีใจอะไรสักอย่าง ทำให้เฟิงเซี่ยอี้ที่เพิ่งมาถึงชะงักงัน
"อาเจิ้งพวกเขายินดีอะไรกัน"
"เห็นว่ามีการแสดงอะไรสักอย่าง" เฟิงเซี่ยอี้ไม่ได้รับความกระจ่างจึงหันไปถามแขกอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ
"พี่ชายไม่ทราบว่ามีอะไรกันหรือ"
"อ้อ...แม่นางไป่หลันจะบรรเลงเพลงให้เราฟัง นับว่าโชคดีจริงๆ นางไม่ค่อยบรรเลงให้ใครฟังง่ายๆ เสียงเพลงของนางอย่างกับเสียงสวรรค์แม้แต่ในวังยังเทียบนางไม่ได้"
"ข้าชักอยากเห็นนางซะแล้วสิ" เฟิงเซี่ยอี้พึมพำก่อนจะหันกลับมาสนใจเพื่อนร่วมโต๊ะ
"อาเจิ้ง...อะไรทำให้เจ้าถ่อสังขารมาหาข้าถึงที่นี่ได้" เจิ้งอิงไม่ตอบกลับถามอีกฝ่ายแทน
"เรื่องที่ข้าไหว้วานเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"
"ข้าก็จัดการให้เจ้าเรียบร้อยดีๆไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก นานๆเจ้าจะมาหาข้าทั้งที มา..เรามาดื่มกันให้เต็มที่"
ขณะที่เฟิงเซี่ยอี้และเจิ้งอิงกำลังร่ำสุราอยู่นั้น เสียงเพลงประดุจเสียงสวรรค์ก็ลอยพริ้วแผ่วมา ผู้คนต่างเงียบงันและซึมซาบความไพเราะของเสียงดนตรีนั้น เจิ้งอิงมองไปตามเสียงเพลงที่บรรเลงอยู่หลังม่านบางๆ จนกระทั่งเสียงเพลงจบลง สตรีนางหนึ่งก็เดินออกมาจากหลังม่าน นางงดงามประดุจนางสวรรค์ใบหน้าที่เรียวเล็กกับดวงตาที่กลมโตราวกับดูดกลืนทุกสิ่งไม่เว้นแม้แต่ลมหายใจของเขา ตัวเขาเองก็คุ้นเคยและก็พบสตรีมามากมาย แต่เขาก็เพิ่งเคยเห็นสตรีที่ยิ้มสวยเหมือนดอกไม้แรกแย้มก็วันนี้ นางรับของบางอย่างจากมือผู้อาวุโสกว่าแล้วก็เดินจากไป
"นางสวยนะ เจ้าว่ามั้ย"เฟิงเซี่ยอี้เพื่อนของเขาพูดเช่นนั้นและเขาก็เห็นด้วย เพียงแต่เขาทำเมินและมองตามนางไปในทิศที่นางรีบออกไปเมื่อครู่
"เซี่ยอี้...ข้าเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ ข้าขอตัวก่อนนะ" เจิ้งอิงพูดจบก็รีบจากไป ทิ้งเพื่อนเขาไว้อย่างงงงวย เฟิงเซี่ยอี้ยิ้มขัน ร่างในอาภรณ์สีขาวโบกพัดสะบัดไปมาก่อนจะจากที่แห่งนั้นไปอีกคน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น