ลำดับตอนที่ #28
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : แอบหึง
"ว่าไงจ๊ะคุณเพื่อนแป้งหายไปนานเลยนะไม่โทรมาส่งข่าวคราวกับเพื่อนบ้างเลย ชีวิตหลังแต่งงานเป็นยังไงบ้างน๊า เขาหล่อลากไส้อย่างที่ฉันเคยบอกแกหรือเปล่าจ๊ะ"
กรรัมภาแฝดผู้น้องส่งเสียงมาตามสายเมื่อเพื่อนสาวอย่างเปรมมิกาหายหน้าหายตาไปเสียนานตั้งแต่งานแต่งคราวนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยแต่วันนี้เพื่อนรักคงมีปัญหาอีกตามเคยและก็คงจะไม่พ้นเรื่องความรัก
"แหมถามเป็นชุดอย่างนี้จะตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะเนี่ย" เปรมมิกาตอบเพื่อนไปตามประสาคนขี้เล่นที่พยายามเข้มแข็งต่อหน้าคนอื่น
"คำถามไหนก็ได้ล่ะจ่ะที่เพื่อนสามารถตอบตามความจริง" กรรัมภาพูดอย่างรู้ทัน
"แกนี่รู้ทันฉันทุกเรื่องเลยนะ แล้วอย่างนี้ฉันมีความลับกับแกคงไม่ได้สิเนี่ยแกเล่นดักฉันทุกทางเลย เอาเป็นว่าจะตอบทีเดียวเลยนะว่าชีวิตหลังแต่งงานของฉันมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากมายจากตอนเป็นโสดตอนนี้ก็มีความสุขตามสมควรอย่างคนที่ไม่มีทางเลือกจะเป็น ส่วนเรื่องหน้าตาของสามีแค่ในนามของฉันก็ไม่เถียงหรอกนะว่าหล่อเสียตรงที่ปากเนี่ยแหละ ปากจัดชะมัดผู้ชายอะไรก็ไม่รู้"
เปรมมิกาได้ทีใส่ไฟชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธออย่างเมามันส์ จนเพื่อนสาวอย่างกรรัมภาส่ายหัวยิ้ม ๆ มีหรือเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอรักชายหนุ่มคนนั้นเข้าไปเต็ม ๆ เจ้าตัวเสียอีกที่ไม่รู้ตัวเอาซะเลย
"แกแน่ใจนะว่าสามีแค่ในนาม"กรรัมภาทำเสียงแบบคนรู้ทันแต่เธอก็รู้จริง ๆ นั่นแหละ
"นี่ยัยกรแกเป็นเพื่อนฉันอยู่หรือเปล่าเนี่ยจะเข้าข้างคนอื่นอยู่ได้" เปรมมิกาแหวใส่เพื่อนรักทันทีที่ถูกขัดใจที่ไม่ได้คำตอบอย่างที่ต้องการ
"เอาน่าแป้งเธอใจเย็น ๆ อย่ามัวแต่โมโหใส่ฉันเลยความจริงเป็นยังไงแกคนเดียวเท่านั้นที่รู้ดีจะปากแข็งกันไปถึงไหน รักก็บอกว่ารักไม่เห็นจะยากเลย รักเขาก็พูดไปบางทีอะไร ๆ มันอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้ในความรู้สึกแก เขาก็คิดไม่ต่างจากแกหรอกแป้ง"
ด้วยความที่ไม่เคยยอมแพ้ใครของเปรมมิกาและภควัตรที่มีไม่ได้น้อยไปกว่ากันคงยอมกันยากโดยเฉพาะหญิงสาว
"ไม่มีทาง คนอย่างฉันเนี่ยนะจะรักนายนั่นฝันไปเถอะ ทำตัวเป็นตาแก่ขี้บ่นขี้หงุดหงิดอยู่ทุกวี่ทุกวัน เบื่อจะแย่" เปรมมิกาเล่าความอัดอั้นให้เพื่อนรักอย่างกรรัมภาฟัง
"เย็นพรุ่งนี้เธอว่างมั้ยล่ะแป้งออกมาทานข้าวด้วยกันสิเราไม่ได้ทานข้าวด้วยกันนานแล้วนะ ฉันจะได้ชวนยัยกันไปด้วย" เปรมมิกาเห็นดีด้วยเพราะเธอก็ไม่ได้ออกไปเจอเพื่อน ๆ นานแล้วนี่คงเป็นโอกาสที่ดีเธอจะได้ออกไปข้างนอกเจอเพื่อนบ้าง
"งั้นก็ได้เจอกันร้านเดิมเลยนะห้าโมงเย็น โอเคตามนั้นจ้า"
เปรมมิกาตบปากรับคำถึงแม้ว่าเท้าของเธอจะยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ตอนนี้มันรู้สึกดีขึ้นมากเพราะได้ยานวดที่ภควัตรทาให้และนวดให้เป็นเวลานานเธอจึงดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อต่างคนต่างคุยโทรศัพท์กันเสร็จภควัตรเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยที่ไม่ได้เคาะประตูเปรมมิกาที่อยู่ในความคิดของตัวเองถึงกับสะดุ้งโหยง
"เป็นอะไรไปแค่นี้ต้องตกอกตกใจขวัญอ่อนจริงเลยนะแม่คุณ แล้วเดท้าเป็นยังไงบ้างล่ะ" ถึงแม้ว่าปากจะอยู่ไม่ค่อยสุขแต่ก็ยังแอบห่วงเรื่องอาการเจ็บเท้าของเธอ
"ฉันยังไม่ตายง่าย ๆ หรอกจะอยู่เป็นก้างขวางทางคุณกับแม่วีวี่จอมวีนนั่นไปอีกนาน" หญิงสาวประชด
"ปากดี ไหนบอกว่าอยากจะหย่ากับฉันทุกลมหายใจเข้าออกยังไงล่ะแล้วทีอย่างนี้จะมาอยู่เป็นก้างขวางทางฉันกับวีวี่ทำไม เอหรือว่าเธอจะหึงฉัน" เปรมมิกาหน้าแดงเพราะคำพูดของคนตัวโตที่ย้อนคำพูดของเธอก่อนหน้านั้น
"นั่นมันก็ใช่ แต่ที่ฉันอยากจะทำมากกว่านั้นคือเขี่ยแม่วีวี่จอมวีนจอมเหวี่ยงออกไปจากชีวิตฉันในขณะที่เรายังไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการมากกว่า อ่ออย่าเข้าใจผิดคิดว่าฉันชอบคุณล่ะคุณคิดผิดแล้วล่ะ"
หญิงสาวทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนสิ่งในใจตัวเองกำลังจะแสดงออกมา หรือว่าเธอจะชอบเขาอย่างที่เพื่อนสาวบอกไว้กันนะเธอคิดในใจ
"ฉันจะบอกเธอว่าวันนี้ไอ้เทพหวานใจเธอจะมาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยนะเตรียมกับข้าวไว้ด้วยล่ะมันคงอยากจะทานฝีมือเธอ" ภควัตรพูดเสียงประชดประชันพร้อมกับเหน็บแนมฝ่ายเพื่อนรักโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
"ได้ค่ะฉันจะไปเตรียมตัวทำกับข้าวให้หวานใจฉันที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมง" เปรมมิกากระแทกเสียงพร้อมกับก้าวเท้าลงจากเตียงโดยลืมไปว่าเท้าตัวเองยังไม่หายดีเมื่อเท้าแตะสัมผัสกับพื้นก็รู้สึกแปลบขึ้นมาทันทีจนต้องนิ่วหน้า ภควัตรเดินเข้ามาคว้าแขนเธอไว้เป็นการช่วยพยุง
"ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ ลืมตัวไปหรือเปล่าว่าเธอน่ะเจ็บเท้าอยู่กลัวจะไม่ได้ทำกับข้าวให้ไอ้เทพมันเหรอ" ชายหนุ่มไม่ยอมน้อยหน้ากระแทกเสียงกึ่งประชดไปอย่างลืมตัว
"นี่คุณเมื่อไหร่จะเลิกประชดฉันเสียทีนะไม่เบื่อหรือไงฉันเหนื่อยแล้วนะที่ต้องมาเถียงเรื่องบ้าบอกับคุณเนี่ยโตเป็นผู้ใหญ่เสียเปล่าต้องให้เด็กอย่างฉันสอนอยู่ได้"
เปรมมิกาพูดอย่างไม่จริงจังนักเพราะเธอรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถึงแม้ว่าอยากจะหย่าทุกลมหายใจเข้าออกอย่างปากว่าแต่ถ้าหากวันนึงไม่ชายหนุ่มคอยต่อล้อต่อเถียงเธอคงจะเหงาปากพิลึกเลย
"จะลงไปข้างล่างใช่ไหม" ภควัตรเอ่ยถามหญิงสาวพยักหน้าตอบอ้อมแอ้ม
"อือ" เธอตอบเสียงเบา
"อะไรนะไม่ได้ยินพูดเสียงดัง ๆ หน่อย"
ด้วยความที่อยากจะแกล้งเธอชายหนุ่มจึงถามย้ำอีกครั้งทั้งที่เมื่อสักครู่เขาได้ยินทุกคำพูดไม่รู้เป็นอะไรทำไมเขาถึงชอบต่อปากต่อคำกับเธอนักเมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นคนแบบนี้พูดครั้งเดียวทีเดียวรู้เรื่องแต่สำหรับเธอคนนี้มันช่างมีความแตกต่างจากคนอื่นที่เคยพบเจอ เวลาที่เขาอยู่กับเธอมันรู้สึกเหมือนเธอมีอะไรหลาย ๆ อย่างให้ค้นหาอยู่ตลอดเวลาเลยทำให้เขาไม่รู้สึกเบื่อแล้วถ้าหากวันนึงไม่มีเธอให้คอยตอแยต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้วอย่างนี้เขาจะเหงาแค่ ไหนกันนะชายหนุ่มคิดในใจ
"ฉันบอกว่าฉันจะลงไปข้างล่าง" เปรมมิกาพูดย้ำอีกครั้ง
"ไม่ใช่เธอต้องพูดว่าพี่วัตรขา พาแป้งลงไปข้างล่างหน่อยสิคะ แบบนี้มันถึงจะถูกพูดใหม่" ชายหนุ่มแอบมองเธอยิ้ม ๆ ส่วนหญิงสาวหน้าแดงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะถูกขัดใจแต่จะทำอย่างไรได้สภาพร่างกายของเธอตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะสู้รบปรบมือกับใครนอกจากยอมทำตามอย่างว่าง่าย เธอสูดหายใจลึก ๆ เพื่อทำใจก่อนจะพูดออกไปตามที่เขาบอก
"พี่วัตรขา พาแป้งลงไปข้างล่างหน่อยสิคะ" เปรมมิกาหน้าตาบูดเบี้ยวเมื่อพูดจบ
"ก็แค่เนี๊ยะ พูดจาดี ๆ เพราะ ๆแบบนี้น่ารักกว่าเดิมตั้งเยอะทำไมเธอไม่เคยพูดดี ๆ กับฉันบ้างนะเปรมมิกา" ชายหนุ่มมองสบตามาที่หญิงสาวด้วยสายตาที่แตกต่างไปจากเดิมจนเปรมมิกาเองรู้สึกแปลก ๆ กับสายตาแบบนั้น
"ก็คุณไม่เคยให้เกียรติฉัน คุณไม่เคยไว้ใจฉันทั้ง ๆ ที่ฉันยังไม่เคยออกไปไหนเลยด้วยซ้ำหลังจากเราแต่งงานกัน"
เปรมมิกาพูดด้วยน้อยใจที่เขาไม่เคยเชื่อในสิ่งที่เธอพูดหรือสิ่งที่เธอทำ
"ฉันขอโทษแล้วกันถ้าฉันทำอะไรที่เธอมองว่ามันเป็นการไม่ให้เกียรติ ต่อไปนี้ฉันจะเชื่อเธอให้มากกว่านี้ ฉันจะให้เกียรติเธอหวังว่าเธอคงจะพอใจนะ"
ความที่ไม่เคยพูดเอาใจใคร ไม่เคยอ่อนให้ใครทำให้ชายหนุ่มประหม่าที่จะเอ่ยแต่ละคำเปรมมิกาไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่เขาพูดจบเท่านั้นแล้วชายหนุ่มก็อุ้มเธอลงไปชั้นล่างเพื่อช่วยกันเตรียมกับข้าวเนื่องจากวันนี้จะมีแขกที่ไม่อยากจะรับเชิญเท่าไหร่มาที่บ้านอย่างอัครเทพ
"ฮัลโหลลลลลลล ไม่ใครอยู่ตรงไหนของบ้านไหม" อัครเทพส่งเสียงมาก่อนตัวเดินดุ่ม ๆ เข้ามาในห้องครัวอย่างกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเองยังไงอย่างงั้น
"เอ้าไอ้เทพมาเร็วจังวะ ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้บ้านฉันไม่ได้มีขาหนีแกไม่ได้หรอก" ภควัตรพูดแซวเพื่อนด้วยอีกคน
"อ้าวคุณเทพ สวัสดีค่ะมานานแล้วเหรอคะ" อัครเทพยิ้มอาย ๆ เพราะในห้องนี้ไม่ได้มีแค่เขากับเพื่อนรักเท่านั้นยังมีหญิงสาวที่เขาหมายปองอยู่ ก่อนจะตอบเพื่อนรักแก้เก้อ
"ฉันก็ไม่ได้กลัวว่านายหรือบ้านนายจะหายไปไหนหรอกไอ้วัตรเพียงแต่ว่าฉันใจร้อนอยากเจอคุณแป้งไว ๆ ก็แค่นั้น" เปรมมิกาอึ้งที่ได้ยินคำพูดจากปากของชายอีกคนที่เพิ่งมาใหม่เธอไปเกี่ยวอะไรด้วย
"มีธุระอะไรกับแป้งหรือเปล่าคะคุณเทพ" เปรมมิกาแบ่งรับแบ่งสู้เกรงสายตาของอีกคนจะมองเธอในแง่ลบอีกเธอจึงต้องพยายามกันตัวเอง
"ไม่มีอะไรหรอกครับคุณแป้งก็แค่ธุระคิดถึงน่ะครับ"
อัครเทพหยอดคำหวานใส่ทันทีเมื่อมีโอกาสไหน ๆ ภควัตรก็ไม่ได้ชอบไม่ได้รักเธอตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เพื่อนรักของเขาก็ไม่ได้รักหญิงสาวตรงหน้านี้ดังนั้นเขาย่อมมีสิทธิที่จะชอบเธอเหมือนกัน เปรมมิกายิ้มไม่ออกกับคำพูดของแซวของเพื่อนสามีแต่ก็พยายามยิ้มกลบเกลื่อนไว้เพราะกลัวจะเสียมารยาท
"คิดถึงคุณวัตรเหรอคะ" เธอพูดแก้เก้อภควัตรหัวเราะกับการเอาตัวรอดของเธอ
"ไงล่ะไอ้เทพแกจะจีบเมียฉันต่อหน้าฉันเลยเหรอวะมากไปมั้งเพื่อน" ภควัตรพูดบ้าง
"แหมไอ้วัตรแกก็หวงเมียไปได้ออกมาคุยกับฉันข้างนอกเลยนะ" อัครเทพยิ้มให้เปรมมิกาก่อนจะลากเพื่อนตัวดีออกมาข้างนอกเพื่อตกลงอะไรบางอย่าง
"นี่ไอ้วัตรไหนแกบอกจะช่วยฉันไงวะ แกไม่รักคุณแป้งแล้วแกจะเก็บเขาไว้ทำไมอย่าทำเป็นหวงก้างหน่อยเลย" อัครเทพพูดประชด
"ฉันไม่ได้หวงก้างถ้านายจีบสำเร็จด้วยความสามารถของตัวเองฉันก็จะถือว่านายพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่านายพร้อมที่จะดูแลคุณแป้งของนาย อย่าลืมนะว่าฉันน่ะรู้จักนายดีกว่าใคร" ภควัตรที่รู้ทันความคิดของอัครเทพพูด
"เฮ้ยยยย แต่คนนี้ฉันรักจริงหวังแต่งเลยนะเว้ย น่านะแกช่วยฉันหน่อย" อัครเทพทำท่าออดอ้อนให้อีกฝ่ายเห็นใจ
"เอ๊ะ หรือว่าแกหวงคุณแป้งจะเก็บไว้คนเดียวล่ะสิ" อัครเทพทำท่ารู้ทันแต่ภควัตรไวกว่าที่กลบเกลื่อนได้ทัน
"ไม่ใช่นะโวย นายคิดมากไป ๆ ๆไปเตรียมกับข้าวดีกว่าป่านนี้คุณแป้งของนายเหนื่อยอยู่คนเดียวจะไม่ไปช่วยหน่อยเหรอ" อัครเทพทำหน้าเห็นด้วยก่อนจะเดินเร็วปรื้อเข้าไปในครัวโดยไม่รออีกคน
"ไอ้เทพ แกกับฉันเราต้องมาลองกันซักตั้งว่ะ งานนี้ใครได้เปรียบชนะฉันลืมบอกแกไป" ภควัตรหัวเราะคนเดียวอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินตามไปข้างในสั่งเด็กรับใช้ให้จัดสถานที่ในการทานอาหารค่ำอย่างอารมณ์ดีเพราะความที่ตัวเองเป็นต่อกว่าเพื่อนรักอย่างอัครเทพ
กรรัมภาแฝดผู้น้องส่งเสียงมาตามสายเมื่อเพื่อนสาวอย่างเปรมมิกาหายหน้าหายตาไปเสียนานตั้งแต่งานแต่งคราวนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยแต่วันนี้เพื่อนรักคงมีปัญหาอีกตามเคยและก็คงจะไม่พ้นเรื่องความรัก
"แหมถามเป็นชุดอย่างนี้จะตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะเนี่ย" เปรมมิกาตอบเพื่อนไปตามประสาคนขี้เล่นที่พยายามเข้มแข็งต่อหน้าคนอื่น
"คำถามไหนก็ได้ล่ะจ่ะที่เพื่อนสามารถตอบตามความจริง" กรรัมภาพูดอย่างรู้ทัน
"แกนี่รู้ทันฉันทุกเรื่องเลยนะ แล้วอย่างนี้ฉันมีความลับกับแกคงไม่ได้สิเนี่ยแกเล่นดักฉันทุกทางเลย เอาเป็นว่าจะตอบทีเดียวเลยนะว่าชีวิตหลังแต่งงานของฉันมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากมายจากตอนเป็นโสดตอนนี้ก็มีความสุขตามสมควรอย่างคนที่ไม่มีทางเลือกจะเป็น ส่วนเรื่องหน้าตาของสามีแค่ในนามของฉันก็ไม่เถียงหรอกนะว่าหล่อเสียตรงที่ปากเนี่ยแหละ ปากจัดชะมัดผู้ชายอะไรก็ไม่รู้"
เปรมมิกาได้ทีใส่ไฟชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธออย่างเมามันส์ จนเพื่อนสาวอย่างกรรัมภาส่ายหัวยิ้ม ๆ มีหรือเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอรักชายหนุ่มคนนั้นเข้าไปเต็ม ๆ เจ้าตัวเสียอีกที่ไม่รู้ตัวเอาซะเลย
"แกแน่ใจนะว่าสามีแค่ในนาม"กรรัมภาทำเสียงแบบคนรู้ทันแต่เธอก็รู้จริง ๆ นั่นแหละ
"นี่ยัยกรแกเป็นเพื่อนฉันอยู่หรือเปล่าเนี่ยจะเข้าข้างคนอื่นอยู่ได้" เปรมมิกาแหวใส่เพื่อนรักทันทีที่ถูกขัดใจที่ไม่ได้คำตอบอย่างที่ต้องการ
"เอาน่าแป้งเธอใจเย็น ๆ อย่ามัวแต่โมโหใส่ฉันเลยความจริงเป็นยังไงแกคนเดียวเท่านั้นที่รู้ดีจะปากแข็งกันไปถึงไหน รักก็บอกว่ารักไม่เห็นจะยากเลย รักเขาก็พูดไปบางทีอะไร ๆ มันอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้ในความรู้สึกแก เขาก็คิดไม่ต่างจากแกหรอกแป้ง"
ด้วยความที่ไม่เคยยอมแพ้ใครของเปรมมิกาและภควัตรที่มีไม่ได้น้อยไปกว่ากันคงยอมกันยากโดยเฉพาะหญิงสาว
"ไม่มีทาง คนอย่างฉันเนี่ยนะจะรักนายนั่นฝันไปเถอะ ทำตัวเป็นตาแก่ขี้บ่นขี้หงุดหงิดอยู่ทุกวี่ทุกวัน เบื่อจะแย่" เปรมมิกาเล่าความอัดอั้นให้เพื่อนรักอย่างกรรัมภาฟัง
"เย็นพรุ่งนี้เธอว่างมั้ยล่ะแป้งออกมาทานข้าวด้วยกันสิเราไม่ได้ทานข้าวด้วยกันนานแล้วนะ ฉันจะได้ชวนยัยกันไปด้วย" เปรมมิกาเห็นดีด้วยเพราะเธอก็ไม่ได้ออกไปเจอเพื่อน ๆ นานแล้วนี่คงเป็นโอกาสที่ดีเธอจะได้ออกไปข้างนอกเจอเพื่อนบ้าง
"งั้นก็ได้เจอกันร้านเดิมเลยนะห้าโมงเย็น โอเคตามนั้นจ้า"
เปรมมิกาตบปากรับคำถึงแม้ว่าเท้าของเธอจะยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ตอนนี้มันรู้สึกดีขึ้นมากเพราะได้ยานวดที่ภควัตรทาให้และนวดให้เป็นเวลานานเธอจึงดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อต่างคนต่างคุยโทรศัพท์กันเสร็จภควัตรเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยที่ไม่ได้เคาะประตูเปรมมิกาที่อยู่ในความคิดของตัวเองถึงกับสะดุ้งโหยง
"เป็นอะไรไปแค่นี้ต้องตกอกตกใจขวัญอ่อนจริงเลยนะแม่คุณ แล้วเดท้าเป็นยังไงบ้างล่ะ" ถึงแม้ว่าปากจะอยู่ไม่ค่อยสุขแต่ก็ยังแอบห่วงเรื่องอาการเจ็บเท้าของเธอ
"ฉันยังไม่ตายง่าย ๆ หรอกจะอยู่เป็นก้างขวางทางคุณกับแม่วีวี่จอมวีนนั่นไปอีกนาน" หญิงสาวประชด
"ปากดี ไหนบอกว่าอยากจะหย่ากับฉันทุกลมหายใจเข้าออกยังไงล่ะแล้วทีอย่างนี้จะมาอยู่เป็นก้างขวางทางฉันกับวีวี่ทำไม เอหรือว่าเธอจะหึงฉัน" เปรมมิกาหน้าแดงเพราะคำพูดของคนตัวโตที่ย้อนคำพูดของเธอก่อนหน้านั้น
"นั่นมันก็ใช่ แต่ที่ฉันอยากจะทำมากกว่านั้นคือเขี่ยแม่วีวี่จอมวีนจอมเหวี่ยงออกไปจากชีวิตฉันในขณะที่เรายังไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการมากกว่า อ่ออย่าเข้าใจผิดคิดว่าฉันชอบคุณล่ะคุณคิดผิดแล้วล่ะ"
หญิงสาวทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนสิ่งในใจตัวเองกำลังจะแสดงออกมา หรือว่าเธอจะชอบเขาอย่างที่เพื่อนสาวบอกไว้กันนะเธอคิดในใจ
"ฉันจะบอกเธอว่าวันนี้ไอ้เทพหวานใจเธอจะมาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยนะเตรียมกับข้าวไว้ด้วยล่ะมันคงอยากจะทานฝีมือเธอ" ภควัตรพูดเสียงประชดประชันพร้อมกับเหน็บแนมฝ่ายเพื่อนรักโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
"ได้ค่ะฉันจะไปเตรียมตัวทำกับข้าวให้หวานใจฉันที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมง" เปรมมิกากระแทกเสียงพร้อมกับก้าวเท้าลงจากเตียงโดยลืมไปว่าเท้าตัวเองยังไม่หายดีเมื่อเท้าแตะสัมผัสกับพื้นก็รู้สึกแปลบขึ้นมาทันทีจนต้องนิ่วหน้า ภควัตรเดินเข้ามาคว้าแขนเธอไว้เป็นการช่วยพยุง
"ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ ลืมตัวไปหรือเปล่าว่าเธอน่ะเจ็บเท้าอยู่กลัวจะไม่ได้ทำกับข้าวให้ไอ้เทพมันเหรอ" ชายหนุ่มไม่ยอมน้อยหน้ากระแทกเสียงกึ่งประชดไปอย่างลืมตัว
"นี่คุณเมื่อไหร่จะเลิกประชดฉันเสียทีนะไม่เบื่อหรือไงฉันเหนื่อยแล้วนะที่ต้องมาเถียงเรื่องบ้าบอกับคุณเนี่ยโตเป็นผู้ใหญ่เสียเปล่าต้องให้เด็กอย่างฉันสอนอยู่ได้"
เปรมมิกาพูดอย่างไม่จริงจังนักเพราะเธอรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถึงแม้ว่าอยากจะหย่าทุกลมหายใจเข้าออกอย่างปากว่าแต่ถ้าหากวันนึงไม่ชายหนุ่มคอยต่อล้อต่อเถียงเธอคงจะเหงาปากพิลึกเลย
"จะลงไปข้างล่างใช่ไหม" ภควัตรเอ่ยถามหญิงสาวพยักหน้าตอบอ้อมแอ้ม
"อือ" เธอตอบเสียงเบา
"อะไรนะไม่ได้ยินพูดเสียงดัง ๆ หน่อย"
ด้วยความที่อยากจะแกล้งเธอชายหนุ่มจึงถามย้ำอีกครั้งทั้งที่เมื่อสักครู่เขาได้ยินทุกคำพูดไม่รู้เป็นอะไรทำไมเขาถึงชอบต่อปากต่อคำกับเธอนักเมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นคนแบบนี้พูดครั้งเดียวทีเดียวรู้เรื่องแต่สำหรับเธอคนนี้มันช่างมีความแตกต่างจากคนอื่นที่เคยพบเจอ เวลาที่เขาอยู่กับเธอมันรู้สึกเหมือนเธอมีอะไรหลาย ๆ อย่างให้ค้นหาอยู่ตลอดเวลาเลยทำให้เขาไม่รู้สึกเบื่อแล้วถ้าหากวันนึงไม่มีเธอให้คอยตอแยต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้วอย่างนี้เขาจะเหงาแค่ ไหนกันนะชายหนุ่มคิดในใจ
"ฉันบอกว่าฉันจะลงไปข้างล่าง" เปรมมิกาพูดย้ำอีกครั้ง
"ไม่ใช่เธอต้องพูดว่าพี่วัตรขา พาแป้งลงไปข้างล่างหน่อยสิคะ แบบนี้มันถึงจะถูกพูดใหม่" ชายหนุ่มแอบมองเธอยิ้ม ๆ ส่วนหญิงสาวหน้าแดงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะถูกขัดใจแต่จะทำอย่างไรได้สภาพร่างกายของเธอตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะสู้รบปรบมือกับใครนอกจากยอมทำตามอย่างว่าง่าย เธอสูดหายใจลึก ๆ เพื่อทำใจก่อนจะพูดออกไปตามที่เขาบอก
"พี่วัตรขา พาแป้งลงไปข้างล่างหน่อยสิคะ" เปรมมิกาหน้าตาบูดเบี้ยวเมื่อพูดจบ
"ก็แค่เนี๊ยะ พูดจาดี ๆ เพราะ ๆแบบนี้น่ารักกว่าเดิมตั้งเยอะทำไมเธอไม่เคยพูดดี ๆ กับฉันบ้างนะเปรมมิกา" ชายหนุ่มมองสบตามาที่หญิงสาวด้วยสายตาที่แตกต่างไปจากเดิมจนเปรมมิกาเองรู้สึกแปลก ๆ กับสายตาแบบนั้น
"ก็คุณไม่เคยให้เกียรติฉัน คุณไม่เคยไว้ใจฉันทั้ง ๆ ที่ฉันยังไม่เคยออกไปไหนเลยด้วยซ้ำหลังจากเราแต่งงานกัน"
เปรมมิกาพูดด้วยน้อยใจที่เขาไม่เคยเชื่อในสิ่งที่เธอพูดหรือสิ่งที่เธอทำ
"ฉันขอโทษแล้วกันถ้าฉันทำอะไรที่เธอมองว่ามันเป็นการไม่ให้เกียรติ ต่อไปนี้ฉันจะเชื่อเธอให้มากกว่านี้ ฉันจะให้เกียรติเธอหวังว่าเธอคงจะพอใจนะ"
ความที่ไม่เคยพูดเอาใจใคร ไม่เคยอ่อนให้ใครทำให้ชายหนุ่มประหม่าที่จะเอ่ยแต่ละคำเปรมมิกาไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่เขาพูดจบเท่านั้นแล้วชายหนุ่มก็อุ้มเธอลงไปชั้นล่างเพื่อช่วยกันเตรียมกับข้าวเนื่องจากวันนี้จะมีแขกที่ไม่อยากจะรับเชิญเท่าไหร่มาที่บ้านอย่างอัครเทพ
"ฮัลโหลลลลลลล ไม่ใครอยู่ตรงไหนของบ้านไหม" อัครเทพส่งเสียงมาก่อนตัวเดินดุ่ม ๆ เข้ามาในห้องครัวอย่างกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเองยังไงอย่างงั้น
"เอ้าไอ้เทพมาเร็วจังวะ ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้บ้านฉันไม่ได้มีขาหนีแกไม่ได้หรอก" ภควัตรพูดแซวเพื่อนด้วยอีกคน
"อ้าวคุณเทพ สวัสดีค่ะมานานแล้วเหรอคะ" อัครเทพยิ้มอาย ๆ เพราะในห้องนี้ไม่ได้มีแค่เขากับเพื่อนรักเท่านั้นยังมีหญิงสาวที่เขาหมายปองอยู่ ก่อนจะตอบเพื่อนรักแก้เก้อ
"ฉันก็ไม่ได้กลัวว่านายหรือบ้านนายจะหายไปไหนหรอกไอ้วัตรเพียงแต่ว่าฉันใจร้อนอยากเจอคุณแป้งไว ๆ ก็แค่นั้น" เปรมมิกาอึ้งที่ได้ยินคำพูดจากปากของชายอีกคนที่เพิ่งมาใหม่เธอไปเกี่ยวอะไรด้วย
"มีธุระอะไรกับแป้งหรือเปล่าคะคุณเทพ" เปรมมิกาแบ่งรับแบ่งสู้เกรงสายตาของอีกคนจะมองเธอในแง่ลบอีกเธอจึงต้องพยายามกันตัวเอง
"ไม่มีอะไรหรอกครับคุณแป้งก็แค่ธุระคิดถึงน่ะครับ"
อัครเทพหยอดคำหวานใส่ทันทีเมื่อมีโอกาสไหน ๆ ภควัตรก็ไม่ได้ชอบไม่ได้รักเธอตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เพื่อนรักของเขาก็ไม่ได้รักหญิงสาวตรงหน้านี้ดังนั้นเขาย่อมมีสิทธิที่จะชอบเธอเหมือนกัน เปรมมิกายิ้มไม่ออกกับคำพูดของแซวของเพื่อนสามีแต่ก็พยายามยิ้มกลบเกลื่อนไว้เพราะกลัวจะเสียมารยาท
"คิดถึงคุณวัตรเหรอคะ" เธอพูดแก้เก้อภควัตรหัวเราะกับการเอาตัวรอดของเธอ
"ไงล่ะไอ้เทพแกจะจีบเมียฉันต่อหน้าฉันเลยเหรอวะมากไปมั้งเพื่อน" ภควัตรพูดบ้าง
"แหมไอ้วัตรแกก็หวงเมียไปได้ออกมาคุยกับฉันข้างนอกเลยนะ" อัครเทพยิ้มให้เปรมมิกาก่อนจะลากเพื่อนตัวดีออกมาข้างนอกเพื่อตกลงอะไรบางอย่าง
"นี่ไอ้วัตรไหนแกบอกจะช่วยฉันไงวะ แกไม่รักคุณแป้งแล้วแกจะเก็บเขาไว้ทำไมอย่าทำเป็นหวงก้างหน่อยเลย" อัครเทพพูดประชด
"ฉันไม่ได้หวงก้างถ้านายจีบสำเร็จด้วยความสามารถของตัวเองฉันก็จะถือว่านายพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่านายพร้อมที่จะดูแลคุณแป้งของนาย อย่าลืมนะว่าฉันน่ะรู้จักนายดีกว่าใคร" ภควัตรที่รู้ทันความคิดของอัครเทพพูด
"เฮ้ยยยย แต่คนนี้ฉันรักจริงหวังแต่งเลยนะเว้ย น่านะแกช่วยฉันหน่อย" อัครเทพทำท่าออดอ้อนให้อีกฝ่ายเห็นใจ
"เอ๊ะ หรือว่าแกหวงคุณแป้งจะเก็บไว้คนเดียวล่ะสิ" อัครเทพทำท่ารู้ทันแต่ภควัตรไวกว่าที่กลบเกลื่อนได้ทัน
"ไม่ใช่นะโวย นายคิดมากไป ๆ ๆไปเตรียมกับข้าวดีกว่าป่านนี้คุณแป้งของนายเหนื่อยอยู่คนเดียวจะไม่ไปช่วยหน่อยเหรอ" อัครเทพทำหน้าเห็นด้วยก่อนจะเดินเร็วปรื้อเข้าไปในครัวโดยไม่รออีกคน
"ไอ้เทพ แกกับฉันเราต้องมาลองกันซักตั้งว่ะ งานนี้ใครได้เปรียบชนะฉันลืมบอกแกไป" ภควัตรหัวเราะคนเดียวอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินตามไปข้างในสั่งเด็กรับใช้ให้จัดสถานที่ในการทานอาหารค่ำอย่างอารมณ์ดีเพราะความที่ตัวเองเป็นต่อกว่าเพื่อนรักอย่างอัครเทพ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น