[Cast Gamer] แค่เพื่อนใจน้อย [Heart Rocker x Grayman XIII]
ฟิคนี้ได้ทำการแปลงมาจากวิดีโอๆ หนึ่งนะค่ะ หากใช้ภาษาไม่ดียังไงก็ต้องขออภัยด้วย T^T [เอก x เบส or Heart Rocker x Grayman XIII]
ผู้เข้าชมรวม
1,975
ผู้เข้าชมเดือนนี้
9
ผู้เข้าชมรวม
สวัสดีค่า!! วันนี้...สาวแว่นได้นำฟิคที่แสนจะฟินมาให้ทุกคนได้อ่าน!!!!
ถึงแม้ว่าภาษาที่ใช้ในการบรรยายของสาวแว่นจะโคตรของโคตรห่วยก็ตาม = =
แต่เพื่อความฟินแล้ว...ช่วยทนอ่านไปด้วยเถอะค่ะ แหะๆ ^^;
โอเคค่ะโอเค...สาวแว่นไม่พูดมากแล้วดีกว่า
ยังไงก็ขอฝากฟิค [เอก x เบส] ไว้ในอ้อมกอดของทุกคนด้วยนะค่ะ!
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะค้า~!!! ^O^
v
v
v
v
ลงภาพเอกเบสซักนิดเพื่อความฟิน =w=
ต้องขอขอบคุณภาพสวยๆ จากพี่เรวี่ –
ต้องขอขอบคุณภาพฟินๆ จากพี่ไมตี้ –
และต้องขอขอบคุณพี่สาวของสาวแว่นเองที่ทำให้สาวแว่นได้เจอกับคู่จิ้นแสนฟินอย่างเอกเบสและได้ฟิคนี้มาหลังจากนั่งหาวิดีโอเพื่อมาเสพความฟิน หุหุ =w=
My Banner ของสาวแว่น!
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หากมองตัวหนังสือไม่ชัดหรือไม่เห็นให้กด Ctrl+A พร้อมๆ กันนะค่ะ แล้วมันจะอ่านง่ายขึ้น ^^
____________________________________________________________________________________________________________
[Cast Gamer] แค่เพื่อนใจน้อย [Heart Rocker ♥ Grayman XIII]
[Best : Say’s]
สวัสดีครับ! ผมชื่อ ‘เบส’ หรือก็คือ ‘Grayman XIII’ ในชื่อของนักแคสเกมนั่นเอง~! ความจริงผมก็ไม่ได้แคสเองหรือแคสเดี่ยวไรงี้หรอกนะครับ แต่ว่าออกแนวช่วยเพื่อนสนิทผมมันแคสมากกว่า ซึ่งเพื่อนสนิทของผมทุกคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้วล่ะครับ
ใช่ครับ...เพื่อนคนนั้นก็คือ ‘เอก’ หรือ ‘HEART ROCKER’ นักแคสเกมที่แสนจะโด่งดัง (ตรงไหน -^- // หมันไส้ส่วนตัว : เบส) คนนั้นแหละคร้าบบบบบ~ แล้วก็มีอีกความลับที่ผมจะบอกพวกคุณ แต่! พวกคุณต้องสัญญานะครับว่าจะไม่เอาไปบอกไอ้เอกมัน - -+
ความลับนั้นก็คือ...มันกินขนมเยอะมากกกกกกก!!
เอิ่ม...ถุ้ย!
ไม่ใช่ครับไม่ใช่ โอเค...ผมยอมรับว่าผมนอกเรื่อง เพราะงั้นมาเข้าเรื่องกันดีกว่านะครับ แหะๆ ^^; ความลับเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องเดียวที่ผมจะยอมให้มันรู้ไม่ได้เด็ดขาด! และเป็นเพียงเรื่องเดียวที่ผมไม่เคยคิดที่จะบอกมันเลยด้วยซ้ำ
ผมรู้ว่ามันไม่สมควร ผมรู้ว่ามันไม่ดีที่จะคิด แต่...
ผมชอบไม่สิ...ผมรักมันครับ
ไงๆๆๆ อึ้งกันเลยอ่ะดี๊~ ฮะๆๆ เรื่องจริงครับเรื่องจริง ผมเป็นคนดีพอที่จะไม่พูดปดแต่โกหกทุกครั้งหลังอาหาร J อะๆๆ ไม่ใช่ครับม่ายช่ายยยยยยย เอาเป็นว่าพวกคุณอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกไอ้เอกมันนะครับ ผมอาย -/////- แล้วก็กลัวว่ามันจะ...
เลิกคบผมเป็นเพื่อนด้วย...
แหม ก็มันช่วยไม่ได้นี่ครับ คนแอบรักยังไงก็ขอแค่ให้ได้อยู่ใกล้ก็สุขใจแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นให้สมหวังหรอกครับ อย่างน้อยถ้าได้เป็นเพื่อนมันผมก็ยังได้อยู่ข้างมัน ได้หัวเราะ ได้ยิ้ม ได้เป็นที่ปรึกษาเวลามันเศร้าหรือเสียใจ แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ
พอแล้วสำหรับคนอย่างผม...
“...ส! เบส! ไอ้เบสสสสสสสสสสส~!!!!”เสียงทุ้มๆ ที่โคตรคุ้นหูดังขึ้นข้างๆ หูของผมแบบไม่มีความเกรงใจ แน่นอนครับ...คนที่กล้าทำแบบนี้มีแค่คนเดียว
“ไอ้เอกกกก คุณมึงจะตะโกนทำไมคร้าบบบบบบ!?!?”ผมหันกลับไปถามด้วยคำพูดที่สุภาพ (?)
“เอ๊า! ก็ผมเรียกคุณตั้งนานคุณก็ไม่ตอบกลับซักที เหม่อคิดถึงสาวเหรอครับคุณเบส?”มันก็ตอบกลับด้วยคำที่สุภาพเช่นกัน แหม...ยักคิ้วกวนบาทาเหลือเกิน - -^
“No! มีแต่สาวๆ สิที่จะเหม่อคิดถึงผมจนทนไม่ไหว”มันกวนมาผมก็กวนกลับครับ
“โหย โม้ว่ะมึง”มันบอก ก่อนจะยื่นมือใหญ่ๆ นั่นมาขยี้หัวผมอย่างมันส์มือ
“พอเลยๆ หัวกูยุ่งหมด”ผมบอกพลางทำหน้ามุ่ย ส่วนมันก็ปล่อยก๊ากเลยครับ สงสัยหัวผมในตอนนี้จะจี้มันจนมันทนไม่ได้ = =
“เงียบเลยมึง แมร่ง ทำซะกูหมดหล่อเลย”ว่าแล้วก็จัดทรงให้เข้าที่เข้าทาง
“เออๆ ขอโทษคร้าบขอโทษนะครับคุณเบส”มันบอกพลางยิ้มหล่อ แมร่ง อย่ายิ้มนักดิ กูเขินนะสาสสสสสส -///^///-
“เออๆๆ กูเคยโกรธมึงนานที่ไหนล่ะครับไอ้คุณเอก -3-”
“ยะฮู้! เพื่อนใครวะน่ารักจริง ><”มันร้องอย่างดีใจก่อนจะเอาแขนมากอดคอผมแรงๆ แถมยังไม่ยอมปล่อยอีกต่างหาก อ้อ ผมยังไม่ได้บอกใช่มั้ยครับว่าผมกับมันกำลังจะไปไหน บอกได้คำเดียวครับว่ากำลังจะไปเรียน แต่ไอ้คนที่กอดคอผมเนี่ยมันดันแวะเข้าเซเว่นซื้อขนมเฉยเลย! อยากจะด่ามันจริงจริ๊ง~! = =**
แต่แบบนี้ก็ดีนะครับ อย่างน้อยมันก็ยังยิ้มยังหัวเราะให้ผม
“ป่ะเบส กูซื้อของเสร็จแล้ว ^^”มันบอกยิ้มๆ หลังจากได้ของที่ต้องการแล้ว
“ของหรือขนมกันแน่”ผมถามพลางยักคิ้วกวนๆ
“โหย อย่างไหนก็เหมือนกันแหละ เพราะยังไงสุดท้ายแล้วมึงก็แย่งกูกินอยู่ดี”มันบอก อุ๊ย ใครแย๊งงงงง! ผมไม่ได้แย่งมันกินนะครับ =w=;
ผมหันไปทำหน้าใสซื่อแบบไม่รู้เรื่อง มันคงจะหมันไส้ผมมั้งครับ ขยี้หัวผมใหญ่เลย ก่อนจะเดินไปพร้อมกัน ซึ่งระหว่างทางผมกับมันก็คุยกันเรื่องแคสเกมไปเรื่อยครับ
จนกระทั่ง...
ผมกับมันเดินสวนกับผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่สวยมากเลยครับโดยเฉพาะผมยาวสลวยสีชมพูสมกับที่เป็นผู้หญิงนั่น สวยซะจนผมอยากจะแอบนอกใจไอ้เอกมันซักวิฯ 2 วิฯ เลยล่ะครับ แหะๆ -w-
“เห้ยๆ ไอ้เบสๆ ผู้หญิงคนนั้นไงที่กูบอกอ่ะ นั่นล่ะๆ”ไอ้เอกที่สะกิดไหล่ผมบอก
“บอก? ตอนไหนวะ?”ผมหันไปถามมันงงๆ
“เอ๊า! ก็เรวี่ไง ผู้หญิงที่กูบอกว่ากูชอบอ่ะ”มันบอกด้วยหน้าที่ดูแดงๆ เหมือนกำลังอาย ผู้หญิงคนเมื่อกี้ที่ชื่อ ‘เรวี่’ สามารถทำให้ไอ้เอกถึงกับเขินได้นี่...
แสดงว่าต้องมีอิทธิพลกับไอ้เอกมากชัวร์ๆ
“อ๋อ กูนึกออกล่ะ งั้นมึงรอกูแป๊บ”ผมบอกมัน ก่อนจะลงมือทำอะไรบางอย่าง ซึ่งมันก็ได้แต่ทำหน้างงๆ แล้วก็ยืนรอเฉยๆ ตามที่ผมบอก
“เรวี่ๆ!”ผมเรียกร่างเล็กที่เดินนำหน้าพวกผมไปได้อยู่หน่อยนึง
“หือ?”เรวี่หันมาตามเสียงเรียกอย่างงงๆ
“เอ้าไปดิเอก โอกาสมันมากองอยู่ตรงหน้าแล้วนะเว้ย จะปล่อยให้หายไปเฉยๆ รึไง”ผมบอกพลางดันให้มันที่ยืนเอ๋อไปหาเรวี่ที่เดินมาทางพวกผมอย่างงงๆ
“ห๊ะ อ่ะ...อ๋อ อืมๆ”มันตอบรับ ผมจึงค่อยๆ ปล่อยมือจากมัน
เหมือนกับหัวใจของผม...ที่ตอนนี้ค่อยๆ เจ็บทีละนิด
“ไปกัน 2 คนเถอะ”ผมบอกพลางยิ้มและขยิบตาให้ไอ้เอก ก่อนจะชู 2 นิ้วให้กำลังมันนิดหน่อย เผื่อมันป๊อดขึ้นมากะทันหันครับ
ถ้าถามว่าเจ็บมั้ย? บอกได้คำเดียวครับว่าเจ็บ...เจ็บมากๆ ด้วย
จากนั้นทั้ง 2 คนก็ยิ้มให้กันและพูดคุยไถ่ถามกันอย่างสนุกสนานตามประสาคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ทำให้ทั้งไอ้เอกและเรวี่ดูเหมาะสมกันมาก
เหมาะสมกันมากจนผมเจ็บใจยิ่งกว่าเก่า...
“เอก...”ผมตัดสินใจเอ่ยขัดบทสนทนาของมันกับเรวี่ ซึ่งก็ยังดีที่มันไม่ได้ทำหน้าไม่พอใจ แต่ทำหน้างงๆ แทนเหมือนจะถามว่ามีอะไร
“กูไปมหา’ลัยก่อนนะเว้ย แล้วเจอกัน”ผมบอกมันแค่นั้นแล้วก็โบกมือลาทั้ง 2 คน ก่อนจะเดินออกมาทันทีโดยไม่รอให้ไอ้เอกมันตอบหรืออะไรทั้งนั้น
เพราะผมกลัว...กลัวว่าถ้าอยู่ตรงนั้นนานกว่านี้อีกนิด...
ผมจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้...
.
.
.
ซ่าๆๆๆๆ~
ฝนตก...
ผมเคยคิดนะครับว่าคนสร้างหนังสร้างละครมันคิดได้ยังไงกัน? ที่เวลาพระเอกหรือนางเอกเสียใจฝนจะต้องตกลงมาทุกครั้ง แถมตกได้จังหวะเหมาะเลยด้วย
‘ปัญญาอ่อน’...นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมคิด
แต่ตอนนี้ผมชักจะไม่มั่นใจซะแล้วสิครับ ว่าฝนมันรู้ใจคนเราหรือเปล่าถึงได้ชอบตกลงมาตอนที่คนอื่นเขากำลังเสียใจ เพราะตอนนี้ผมทั้งเจ็บใจและเสียใจ อยากจะยิ้มให้ไอ้เอกมันเหมือนเดิมแต่ก็ไม่อยากที่จะฝืนเช่นกัน
ตอนนี้ผมได้แต่เหม่อมองฝนที่กำลังตกอยู่ข้างนอก นั่งท้าวคางเหมือนคนกำลังเซ็งอย่างไม่มีอะไรจะทำ ใช่ครับ...เพราะถ้าไม่มีไอ้เอก...ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะทำอะไรดี
ผมยอมรับว่าผมเหงา ผมยอมรับว่าผมมันขี้น้อยใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง และผมก็ยอมรับ...ว่าผมรู้สึกเหมือนหัวใจถูกมีดกรีดเวลาเห็นมันเดินสนิทสนมกับคนอื่น...ที่ไม่ใช่ผม...
เฮ้อ แต่จะคิดมากไปก็เปล่าประโยชน์ครับ ไอ้เอกน่ะมันเคยเห็นผมเป็นมากกว่าเพื่อนซะที่ไหนกันล่ะครับ
พอคิดถึงจุดๆ นี้ทีไรก็เจ็บหัวใจทุกทีเลย ให้ตายสิ...
ผมที่เซ็งจัดและไม่มีอะไรทำก็เลยฟุบหัวลงกับโต๊ะอย่างคนหมดแรง อ่าใช่ครับ...ผมมาถึงห้องเรียนนานพอสมควรแล้วล่ะครับ เพียงแต่พอไม่มีไอ้เอกแล้วบรรยากาศมันก็น่าเบื่อยังไงไม่รู้ แต่คงมีแค่ผมคนเดียวนี่แหละครับที่รู้สึกเบื่อน่ะ
.
.
.
[Aek : Say’s]
“ไปก่อนนะเรวี่ เจอปืนครับ J”ผมที่เดินมาส่งเรวี่ที่ห้องบอกพลางส่งยิ้มหล่อให้ผู้หญิงที่เดินมามหา’ลัยด้วยกันอย่างหล่อๆ แหม...ก็อุตส่าห์ได้เดินมากับคนที่แอบชอบทั้งทีนี่คร้าบบบบ มันก็ต้องนิดนึงงงงงง >3<
“คิกๆ เอกไม่ได้แคสเกมอยู่ซะหน่อย อีกอย่าง...เราไม่ได้อยากเจอปืนนะ”เสียงหวานๆ นั่นตอบกลับมาอย่างรับมุข แหะๆ ก็ทำไงได้ล่ะครับ มันชินนี่นา =w=;
“ฮ่าๆๆๆ โทษทีๆ เราชินน่ะ”ผมบอกพลางเกาหัวอย่างอายๆ
“ไม่เป็นไรๆ งั้นเอกไปเถอะ เบสรออยู่ไม่ใช่หรอ?”เรวี่บอก เออใช่! ผมลืมเบสไปซะสนิทเลยครับ ตายๆๆๆ มันจะโกรธผมมั้ยเนี่ยยยยยยย =[ ]=!?!?
“จริงด้วย! งั้นเราไปก่อนนะเรวี่ บาย ^__^”ผมบอกพลางโบกมือลาร่างบาง ก่อนจะรีบวิ่งไปหาไอ้เบสทันที และเมื่อมาถึงผมก็ชะงักทันทีเลยครับเมื่อเห็นใครบางคนฟุบอยู่กับโต๊ะของเจ้าตัวมันเอง
อืม...หรือว่ามันจะโกรธผมจริงๆ?
“เบสๆ เป็นไรวะมึง?”ผมเรียกพลางสะกิดไหล่มันอย่างเคยชิน
“หือ? อ้าวเอก! กูไม่เป็นไรๆ สบายดีเว้ย”มันบอกพลางโบกไม้โบกมือว่าสบายดี ก่อนจะยิ้มมาให้ผมอย่างปกติ แต่ทำไมครั้งนี้...
ผมถึงรู้สึกว่ารอยยิ้มของมันดูไม่มีความสุขเลยล่ะ?
“งั้นก็ดีแล้ว เดี๋ยวกูไม่มีเพื่อนแคสเกม”ผมบอกมันพลางขำนิดหน่อย
“อื้ม”มันรับปากแค่นั้นแล้วก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน อืม...หนังสือประวัติศาตร์ซะด้วย เอาเถอะๆ ถ้ามันอยากจะตั้งใจเรียนผมก็ขอไม่กวนมันดีกว่าครับ ยังไม่อยากโดนพระบาทมันมาประทับที่หน้า เหอๆๆ
.
.
.
[Best : Say’s]
ซ่าๆๆๆๆๆ~!!!
อืม...ตอนนี้ฝนยังไม่หยุดตกเลยครับ ไม่รู้จะตกอะไรทั้งวัน = =!! แถมยังมีเค้าว่าจะตกหนักขึ้นอีกต่างหาก เอาเล๊ย! เอาให้สนุก แน่จริงเอาพายุเทอร์นาโดมาเด้! =O=^^ ให้ตายเถอะครับ ไอ้เอกมันยิ่งเป็นพวกไม่ชอบพกร่มอยู่ด้วย แล้วนี่มันอยู่ไหนเนี่ย? ผมจะได้ให้มันกลับพร้อมกับผมไปเลยทีเดียว
แต่แหม...ยืนใต้ร่มคันเดียวกันท่ามกลางสายฝนก็โรแมนติคดีนะครับ ฮ่าๆๆๆ เฮ้ย! นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้เซ่! ต้องหาไอ้เอกก่อน ไอ้เอกๆๆๆๆๆๆ เมื่อคิดได้ก็หันซ้ายหันขวาหามันทันทีครับ
อ๊ะ! นั่นไงไอ้เอก!
ผมคิดอย่างดีใจที่เจอมันแล้ว และกำลังจะยกมือเรียกมันก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใครอีกคนยืนอยู่ข้างๆ มัน...ยืนอยู่ตรงตำแหน่งที่ผมเคยยืน
มันอยู่กับเรวี่...
ดูเหมือน 2 คนนั้นจะไม่มีร่มกันทั้งคู่เลยครับ
“เห้ยเอก เอาร่มกูไปดิ”ผมบอกพลางยื่นร่มให้ไอ้เอกมัน ส่วนมันก็หันมามองงงๆ
“อ้าว แล้วมึงอ่ะ? มึงจะกลับยังไง?”มันถาม โดยมีเรวี่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ไม่เป็นไรๆ กูมีร่ม 2 อันเว้ย สบายมาก ^^”ผมบอกพลางชี้ไปที่กระเป๋านักเรียนของตัวเอง ก่อนจะยื่นร่มและยิ้มให้มันอีกครั้งหนึ่ง
“เออๆ เอางั้นก็ได้”มันพยักหน้ารับ ก่อนจะรับร่มไปจากมือของผมแล้วกางให้คลุมเรวี่และตัวมันเอง และเดินออกไปทันที แถมยังไม่วายหันมากำชับผมอีกต่างหาก
“มึงก็กลับบ้านดีๆ นะเว้ยเบส!”มันบอก ส่วนผมก็พยักหน้ารับยิ้มๆ ในความน่ารักของมันพลางโบกมือให้ เพราะมันนิสัยแบบนี้แหละครับ...
ผมถึงเลิกรักมันไม่ได้ซักที...
จ๋อม จ๋อม จ๋อม จ๋อม
เสียงเดินย่ำน้ำที่ขังอยู่บนพื้นดินดังขึ้นช้าๆ ผมไม่รีบครับ แค่เดินตากฝนกลับบ้านแค่นั้นเอง ผมไม่ใช่พระเอก MV ที่จะได้มายืนท่ามกลางสายฝนแบบเท่ห์ๆ แต่ที่ผมเดินตากฝนเพราะผมไม่มีร่มครับ
ใช่...ผมมีร่มแค่คันเดียว ก็คือร่มที่ให้ไอ้เอกกับเรวี่ยืมไปนั่นแหละครับ ถ้าถามว่าทำไมผมถึงให้ยืมทั้งๆ ที่ผมมีคันเดียว ผมบอกได้อย่างมั่นใจเลยว่า...
เพราะไอ้เอกมันมีความสุข...ขอแค่มันมีความสุขผมก็ยอมทุกอย่างแหละครับ
ยอม...จนผมต้องมานั่งเจ็บเองอยู่คนเดียว...
พอคิดได้แบบนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมาเองเสียดื้อๆ ผมไม่ได้อ่อนแอนะครับ แต่ผมแค่อ่อนไหวง่าย...อ่อนไหวง่ายกับเรื่องของไอ้เอกมัน เพราะมันเหมาะสมกับเรวี่มากจนผมอิจฉา แต่ไม่อยากทำให้มันลำบากใจ ถ้าผมเจ็บแต่มันมีความสุขผมก็โอเคนะครับ ขอแค่มันยังยิ้ม ยังหัวเราะให้ผมเหมือนเดิมผมก็พอใจแล้วล่ะครับ
พอใจแล้ว...
.
.
.
“แฮ่ก...แค่กๆ”ผมหอบน้อยๆ พลางไอนิดหน่อยแถมยังรู้สึกปวดหัวหนึบๆ อีกด้วย
ใช่ครับ...เพราะเมื่อวานผมตากฝนนานไปหน่อยก็เลยเป็นหวัดอย่างที่เห็นนี่แหละครับ จึงต้องหยุดเรียนไปวันหนึ่งเต็มๆ ไม่ต้องห่วงครับ ผมโทร.บอกครูเรียบร้อยแล้วทั้งๆ ที่เมื่อก่อนผมจะฝากไอ้เอกบอกครูก็จริง แต่ตอนนี้...หัวใจผมไม่พร้อมที่จะเจอมันครับ
ไม่พร้อมจริงๆ...
กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง
ใครมากดออดตอนนี้วะ!? แมร่ง! คนกำลังไม่สบายยังต้องแบกสังขารไปเปิดให้อีก -*-
กริ๊ก แอ๊ด...
“คร้าบใครคร้าบ”ผมเปิดประตูออก ก่อนจะเงยหน้ามองผู้มาขัดจังหวะการนอนของผมอย่างสะลึมสะลือ แน่นอนครับ...ต่อให้ความคิดเจ๋งแค่ไหนแต่ตอนนี้ร่างกายไม่มีแรงพอจะด่าครับ เหอๆๆ สมเพศตัวเองชะมัดเลย = =*
“เฮ้ยเบส! มึงเป็นไงมั่ง!? กูไปที่ร้านประจำแล้วไม่เจอมึงก็เลยรีบมาหาเนี่ย ว่าไง? ตายยังมึง??”ไอ้เอกนี่เองที่มากดออดห้องผม ให้ตายเถอะครับ...ผมเพิ่งจะบอกไปแหมบๆ ว่าไม่พร้อมที่จะเจอมัน = =**
“@_@”ผมไม่ได้ตอบ แต่ทำหน้ามึนๆ เหมือนคนยังไม่สร่างไข้ดี
“ไหนๆ กูขอดูหน่อยดิว่าตัวร้อนมามั้ย”มันบอก ก่อนจะเอามือมันมาอังหน้าผากผมเพื่อวัดไข้ แค่นี้ก็ทำเอาผมใจเต้นตึกตักได้แล้วล่ะครับ
เพราะความอ่อนโยนของมันนี่แหละ...ผมถึงตัดใจจากมันไม่ได้ซักที
แต่ไม่ได้...มันมีเรวี่อยู่แล้ว ผมไม่ควรที่จะรั้งมันไว้เพื่อให้มันทำอะไรแบบนี้ ตอนนี้เรวี่ต้องกำลังรอมันอยู่แน่ๆ
“กูไม่เป็นไร”ผมบอกพลางดันมันออกด้วยกำลังเท่ามด แต่ดีหน่อยครับที่มันไม่ได้ขืนตัวเอาไว้ ผมก็เลยดันมันออกไปได้ง่าย
“แต่ตัวมึงร้อนมากเลยนะ”มันแย้ง
“กูโอเค สบายมาก! เชื่อกูดิเอก ^^”ผมบอกมันยิ้มๆ รู้สึกปวดหัวหนักกว่าเอาอีก
“แต่...”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้กูก็ไปมหา’ลัยได้แล้ว มึงกับเรวี่ไปรอกูได้เลย”ผมบอกมันยิ้มๆ อีกครั้งนึง ก่อนจะดันหลังให้มันออกไปจากห้อง
“ตอนนี้สายแล้วด้วย รีบไปเหอะ”ผมบอกมันแค่นั้น ก่อนจะปิดประตูลงทันที
ผมยันแขนกับประตูแน่นเหมือนจะรอดูว่าไอ้เอกมันไม่อยู่แล้ว ผมจึงค่อยๆ เปลี่ยนจากแบมือมาเป็นกำมือแน่นอย่างไม่กลัวเจ็บ ใช่...ไม่กลัวเจ็บอะไรอีกแล้ว...เพราะตอนนี้...
ใจผมมันเจ็บยิ่งกว่าโดนมีดกรีด...
ใจผมเจ็บเหมือนโดนบีบให้แหลกคามือ...
ใจผมเจ็บเหมือนตายทั้งเป็น ทั้งๆ ที่ผมก็ยังหายใจอยู่...
เจ็บ...เจ็บมาก...เจ็บมากๆ...มากเกินจนทนไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกนี้อัดแน่นอยู่ในสมองของผมยิ่งกว่าความรู้ตอนก่อนสอบซะอีก หัวใจผมมันก็แค่ก้อนเนื้อก่อนหนึ่งที่เจ็บเป็น มีความรู้สึก มีจิตใจ และ...มีไว้รักคนๆ เดียว
คือเอก...
“ฮึก...ฮือๆๆๆ ฮึก...ฮึก...ฮือออออออ”ผมร้องไห้ออกมาอย่างทนไม่ไหว เพราะตอนนี้ผมเจ็บ...เจ็บมาก ถึงผมจะเป็นผู้ชาย ถึงผมจะดูเข้มแข็งในสายตาใครๆ แต่ผมก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์ธรรมดาๆ ที่มีหัวใจที่อ่อนไหวง่ายกับความรักก็แค่นั้น
ผมค่อยๆ หันหลังให้ประตูแล้วทรุดลงไปกับพื้นโดยให้หลังพิงประตู น้ำตาของผมยังไม่หยุดไหลง่ายๆ มันไม่ได้ไหลออกมามากเหมือนความรู้สึกของผมตอนแรก แต่มันค่อยๆ ไหลลงมาเหมือนหัวใจของผมที่ค่อยๆ เจ็บจนชา...และเมื่อมันชาผมก็จะชินไปเอง
ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมร้องไห้ให้มัน...และในวันพรุ่งนี้หรือในวันต่อๆ ไป ผมจะยิ้มให้มันแบบที่เพื่อนเขายิ้มให้กันได้...อย่างไม่เจ็บปวด...
แม้ว่ามันจะทำได้ยากเหลือเกินก็ตาม...
ผมก้มหน้าลงแล้วหลับตาทบทวนอะไรบางอย่างเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินที่เตียงก่อนจะล้มนอนลงเหมือนตอนแรก ก่อนจะหลับตาลงเหมือนคนเป็นไข้ที่ปกติก็จะนอนพัก แต่ในกรณีของผม...หลับตาทีไรภาพของไอ้เอกมันเข้ามาในหัวทุกที
ภาพแรก...คือภาพที่มันเดินมากอดคอผมเหมือนเมื่อตอนเช้า
ภาพที่สอง...คือภาพที่มันบอกด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจมากว่า ‘สอบผ่านแน่!’ โดยไม่รู้ว่าไปเอาแว่นใครที่ไหนมาใส่ ส่วนผมก็ด่ามันว่า ‘เจ้าบ้า’ อย่างเอือมระอา
ภาพที่สาม...คือภาพที่ผมกับมันช่วยกันแคสเกม...น่าจะเป็น Resident Evil 6 ตอนของคริสกับเพลียส์ ฮะๆๆ ผมจำได้เลยว่าเกมนี้คนจิ้นผมกับมันเยอะมาก
ภาพที่สี่...คือภาพที่มันให้ผมช่วยแคสด้วยตามเคย แต่ดันเป็นเกมผีแนวหลอนๆ ที่ผมเกลียดมาก แต่ผมก็ยอมเล่นทั้งๆ ที่กลัวมากเป็นเพราะมันขอร้องผมก็เลยใจอ่อนยอมเล่นด้วย
ภาพที่ห้า...คือภาพที่มันบอกว่ามีหมาป่าอยู่หลังห้อง ตอนนั้นผมอารมณ์เสียมากเลย คนจะหลับจะนอนมันก็มากวนอยู่ได้ แถมยังบอกอีกว่าก้อนเมฆคือหมาป่าที่ปลอมตัวเป็นกระต่ายมา ปัญญาอ่อนจริงๆ เลย
ภาพที่หก...คือภาพที่ผมกับมันก็นอนกันตามปกติ แต่ทุกครั้งที่ได้นอนข้างมันผมก็มีความสุขสุดๆ เลยครับ มีความสุขมากแต่พูดออกไปไม่ได้...
มันทรมานใจจริงๆ
และภาพสุดท้าย...คือภาพที่ผมและมันได้เจอกับเรวี่ ผมก็ดีใจนะครับที่มันได้เจอได้สมหวังกับคนที่มันชอบ แต่ความเสียใจที่ผมมีมันดันมีมากกว่าความยินดีที่ควรจะมีให้กับไอ้เอกมัน ผมเสียใจครับ...ถ้าเป็นไปได้ ถ้าผมรู้ตัวและห้ามใจตัวเองได้เร็วกว่านี้...ผมคงไม่ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้หรอกครับ
ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งทำให้ภาพเหล่านั้นหายไป
ผมไม่ได้หวังให้ความรู้สึกของผมส่งไปถึงมัน แต่ผมหวังแค่ว่ามันจะไม่ทิ้งผมไป ไม่ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว และผมกับมันจะยังอยู่กันแบบนี้ตลอดไป
ตลอดไปในฐานะของคำว่า ‘เพื่อนสนิท’
.
.
.
ขวับๆ แกร๊ก ตุ่บ
ผมหยิบของออกจากกระเป๋าและกดปิดพร้อมกับล็อกสรรพเสร็จเรียบร้อย จึงวางกระเป๋าลงบนโต๊ะและหันออกไปนอกหน้าต่างตามความเคยชินในช่วง 4-5 วันมานี้ เพราะตั้งแต่เอกมันตกลงคบกับเรวี่ ส่วนใหญ่มันจะไปคุยกับเรวี่ตามประสาคนเป็นแฟนกัน
ส่วนผมน่ะเหรอ? ฮะๆ ก็ออกมาตามประสาคนไม่อยากเป็นก้างน่ะสิครับ
ผมที่หันออกไปมองนอกหน้าต่างดันหันไปเจอไอ้เอกกับเรวี่กำลังเดินคุยกันอยู่พอดีเลยครับ ความจริงผมก็อยากหันหน้าหนีไปซะเลย ถ้าไม่ติดว่าไอ้เอกมันดันแหงนหน้ามองขึ้นมาทางผมพอดีล่ะก็นะ
“ไงเบส! ^O^”มันโบกมือเรียกผมเสียงดัง
“สวัสดีเบส ^-^”เรวี่ที่หันตามไอ้เอกก็ทักผมด้วยน้ำเสียงหวานๆ นั่นเช่นกัน
“..........”ส่วนผมก็ทำได้แค่ส่งยิ้มเล็กน้อยและโบกมือให้พอเห็น ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้วครับ เพราะถ้าเป็นตอนแรกๆ ที่ 2 คนนั้นคบกันผมแทบจะหลบหน้าหนีเลยก็ว่าได้ ทำไงได้ล่ะครับ...ก็พอเห็นคนที่เราแอบรักไปคบกับคนอื่นมันก็ทั้งดีใจทั้งเจ็บใจผสมกันจนมั่วไปหมด
ดีใจ...ที่มันหาคนรักได้ซักที
เจ็บใจ...ที่ผมไม่ใช่คนๆ นั้นที่มันเลือก
ซักพักไอ้เอกมันก็หันไปชวนอะไรซักอย่างกับเรวี่ ซึ่งเรวี่ก็พยักหน้าตอบตกลง ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะจับมือกันแล้วเดินออกไป
ส่วนผมก็ได้แต่มองตามครับ ไม่อยากจะเข้าไปขัดความสุขไอ้เอกมัน ถ้ามันมีความสุขผมก็ดีใจ แต่บางที...ถ้าผมทนเจ็บไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว...ผมคงต้องออกไปจากชีวิตมันซักทีแล้วล่ะครับ ออกไปให้ไกล...ไกลในชนิดที่ว่าผมกับมันไม่สามารถมาเจอกันอีกได้เลย
แต่ถึงอย่างนั้นกูก็รักมึงนะไอ้เอก...
และกูก็จะขอแอบรักมึงอย่างนี้ตลอดไป...
END
____________________________________________________________________________
Talk with me J
สวัสดีค่า! จำสาวแว่นกันได้มั้ยเอ่ย? เนื่องจากช่วงนี้กำลังคลั่งพี่เอก [HEART ROCKER] และคู่ ‘เอกเบส [HRK ♥ GMXIII]’ ม๊ากกกกกกกกมาก! ♥_♥ แล้วก็ไปเจอวิดีโอนึงเข้าก็เลยเกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมากะทันหันเลยล่ะค่ะ! แบบว่านำวิดีโอนั้นมาแปลงเป็นฟิคน่ะค่ะ
ฟิคนี้สาวแว่นแปลงมาจากวิดีโอของคุณ ‘beebeebombam’ ในยูทูปนะค่ะ แบบว่าสาวแว่นว่างจัด (แล้วนิยายที่หล่อนค้างไว้ล่ะยะ!?) เลยไปนั่งหาเอกเบสมาเสพแล้วไปเจ๊อะพอดีอ่ะค่ะ ตอนดูนี่แบบฮืออออออ มันซึ๊งงงงงงงงงง~!! เศร้าแบบครบเซ็ตเลยค่ะ ทั้งๆ ที่เป็นวิดีโอภาพอย่างเดียวแท้ๆ แถมเพลงนี่ยังแบบอื้อหือ! หามาได้แบบโคตรตรงอ่ะ ดูไปสงสารพี่เบสไปอย่างสุดหัวใจกันเลยทีเดียว TT^TT // กัดผ้าเช็ดหน้า
ถ้าคุณ ‘beebeebombam’ ที่เป็นเจ้าของมาเห็นก็อย่าโกรธกันนะค่ะ สาวแว่นไม่ได้คิดที่จะแอบอ้างว่าสาวแว่นคิดพล๊อตนี้เองหรือแต่งพล๊อตนี้มานานแล้วเพิ่งจะเอาลง T^T เดี๋ยวสาวแว่นจะวางเครดิตให้ค่ะไม่ต้องห่วง สาวแว่นขอรับรองเลยว่าสาวแว่นไม่ได้คิดแบบที่เขียนไปจริงๆ แน่นอน!!
ถ้าพี่เอกกับพี่เบสมาเจอนี่สาวแว่นขอกัดลิ้นตัวเองตายนะค่ะ อายค่ะ ไม่ไหวๆ อายจริงๆ เพราแต่งนิยายก็ไม่เก่ง บรรยายก็ไม่ได้เรื่อง และที่สำคัญที่สุดคืออายพวกพี่ๆ เขาด้วยอ่ะค่ะ (อายเรื่อง?) T///^///T
ฟิคนี้แปลงมาจากวิดีโอ ‘[เอกเบส] แค่เพื่อนใจน้อย – Waii’ นะค่ะ ไม่ได้แต่งขึ้นเองแต่อย่างใด ถ้าการบรรยายไม่ได้อรรถรสเท่ากับวิดีโอสาวแว่นก็ขอโทษในความสามารถอันต่ำต้อยนี้ด้วยค่ะ TT__TT
-นี่ค่ะเว็บของวิดีโอนี้ (จิ้มที่ภาพได้เลยค่ะ♥)
-เจ้าของวิดีโอนี้คือคุณ beebeebombam ต้องขอขอบคุณนะค่ะที่สร้างโดจิน MV ดีๆ น่ารักๆ ซึ้งๆ แบบนี้มาให้สาวกเอกเบสได้ดูชมกัน ><V
Ps.ไม่แน่นะค่ะ...สาวแว่นวางโครงไว้ว่าจะแต่งภาคต่อ แต่จะเป็นแบบไหนอันนี้ยังไม่ได้คิดค่ะ ยังไงถ้าสาวแว่นนึกออกก็อาจจะแต่งภาคต่อก็ได้นะค่ะ J
Ps2.ตอนพิมพ์ในกูเกิลว่า ‘แค่เพื่อนใจน้อย เอกเบส’ ทำให้สาวแว่นรู้ว่าก็มีคนคิดแบบสาวแว่นเช่นเดียวกัน ดีใจค่ะที่มีคนคิดแบบเดียวกัน คึคึ แต่ความสามารถนี่สิ...แพ้ตั้งแต่อ่านบรรทัดแรกแล้ว TT^TT
____________________________________________________________________
:) Shalunlaผลงานอื่นๆ ของ สาวแว่นจอมเอ๋อ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สาวแว่นจอมเอ๋อ
"วิจารณ์กากๆ ของไอ่กากเพิ่มเติม รบกวนด้วยนะฮะ"
(แจ้งลบ)ส่งงานท่านลูกค้า : คะแนนที่ได้ : 94/100 ชื่อบทความ (5/5) โอเคฮะ ดี น่าสนใจแล้วจ้องจิ้มเข้ามา คำอธิบาย 200 ตัวอักษร (5/10)อย่างน้อยก็บอกที่มานะฮะ เอาเถอะ...แต่ว่าไม่ได้บอกพล็อตสำคัญๆหรือวลีที่น่าสนใจเลยไม่น่าสนใจเน้อ หน้าบทความ(10/10) อกหักช้ำรักเป็นแน่แท้... เนื้อเรื่อง(49/50) ประกอบด้วย พล็อต(20/20)เฟี้ยวฟ้าว -กา ... อ่านเพิ่มเติม
ส่งงานท่านลูกค้า : คะแนนที่ได้ : 94/100 ชื่อบทความ (5/5) โอเคฮะ ดี น่าสนใจแล้วจ้องจิ้มเข้ามา คำอธิบาย 200 ตัวอักษร (5/10)อย่างน้อยก็บอกที่มานะฮะ เอาเถอะ...แต่ว่าไม่ได้บอกพล็อตสำคัญๆหรือวลีที่น่าสนใจเลยไม่น่าสนใจเน้อ หน้าบทความ(10/10) อกหักช้ำรักเป็นแน่แท้... เนื้อเรื่อง(49/50) ประกอบด้วย พล็อต(20/20)เฟี้ยวฟ้าว -การบรรยาย(9/10)ติดเรื่องการใช้คำซ้ำนิดหน่อยนะ -การใส่ใจคนอ่าน(5/5)ออกแนวทำร้ายเพราะทรมาณพี่เบามากไปป่าว 555 -คำผิด(5/5) หรือว่าแป้งไม่ค่อยเจอ? แต่อ่านแล้วลื่นดีนะเออ -การเว้นบรรทัด(10/10) อ่านแล้วไม่ค่อย งง ค่อนข้างดีฮะ ความคิดเห็นส่วนตัวของแป้ง(25/25) ดีมาก! การอธิบายความรู้สึกเริ่ด! เวอร์ชั่นคำวิจารณ์---จัดเต็มบอกข้อดีข้อด้อยจุดแก้และแนวทาง ฟหกด่าสว #ตามไปอ่านได้ตอนเซ็นต์รับนะฮะ อ่านน้อยลง
ไอ่กากเพิ่มเติม | 10 มี.ค. 57
1
0
"วิจารณ์กากๆ ของไอ่กากเพิ่มเติม รบกวนด้วยนะฮะ"
(แจ้งลบ)ส่งงานท่านลูกค้า : คะแนนที่ได้ : 94/100 ชื่อบทความ (5/5) โอเคฮะ ดี น่าสนใจแล้วจ้องจิ้มเข้ามา คำอธิบาย 200 ตัวอักษร (5/10)อย่างน้อยก็บอกที่มานะฮะ เอาเถอะ...แต่ว่าไม่ได้บอกพล็อตสำคัญๆหรือวลีที่น่าสนใจเลยไม่น่าสนใจเน้อ หน้าบทความ(10/10) อกหักช้ำรักเป็นแน่แท้... เนื้อเรื่อง(49/50) ประกอบด้วย พล็อต(20/20)เฟี้ยวฟ้าว -กา ... อ่านเพิ่มเติม
ส่งงานท่านลูกค้า : คะแนนที่ได้ : 94/100 ชื่อบทความ (5/5) โอเคฮะ ดี น่าสนใจแล้วจ้องจิ้มเข้ามา คำอธิบาย 200 ตัวอักษร (5/10)อย่างน้อยก็บอกที่มานะฮะ เอาเถอะ...แต่ว่าไม่ได้บอกพล็อตสำคัญๆหรือวลีที่น่าสนใจเลยไม่น่าสนใจเน้อ หน้าบทความ(10/10) อกหักช้ำรักเป็นแน่แท้... เนื้อเรื่อง(49/50) ประกอบด้วย พล็อต(20/20)เฟี้ยวฟ้าว -การบรรยาย(9/10)ติดเรื่องการใช้คำซ้ำนิดหน่อยนะ -การใส่ใจคนอ่าน(5/5)ออกแนวทำร้ายเพราะทรมาณพี่เบามากไปป่าว 555 -คำผิด(5/5) หรือว่าแป้งไม่ค่อยเจอ? แต่อ่านแล้วลื่นดีนะเออ -การเว้นบรรทัด(10/10) อ่านแล้วไม่ค่อย งง ค่อนข้างดีฮะ ความคิดเห็นส่วนตัวของแป้ง(25/25) ดีมาก! การอธิบายความรู้สึกเริ่ด! เวอร์ชั่นคำวิจารณ์---จัดเต็มบอกข้อดีข้อด้อยจุดแก้และแนวทาง ฟหกด่าสว #ตามไปอ่านได้ตอนเซ็นต์รับนะฮะ อ่านน้อยลง
ไอ่กากเพิ่มเติม | 10 มี.ค. 57
1
0
ความคิดเห็น