ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [1D : one direction] Caffeine

    ลำดับตอนที่ #1 : PROLOGUE

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 94
      0
      13 พ.ค. 56

    PROLOGUE


    การที่เธอไปจากผมโดยไม่บอกกล่าวกัน..

    มันทรมานยิ่งกว่ามีดคมๆปักลงที่หัวใจของผมเป็นล้านๆรอบ

    - ไนออล ฮอแรน -

     

     

    ปัจจุบัน : ลอนดอน , อังกฤษ  

     

     

         แสงไฟรอบๆลอนดอนอายส์ตอนเที่ยงคืนนี่ช่างสวยงามจริงๆนะ ถึงบรรยากาศจะเงียบงันเพราะไม่ค่อยมีผู้คนที่เดินขวักไขว่เหมือนในตอนกลางวันแล้ว...แต่มันก็เป็นความโรแมนติกในอีกแบบหนึ่ง..  ที่นี่ช่างเงียบสงบซะเหลือเกิน..คงมีแต่เขาเท่านั้นแหละที่ยืนอยู่ตรงกลางของสวนสาธารณะแห่งนี้..แม้อากาศข้างนอกจะหนาวเพียงใดเขาก็จะยอมทนเพื่อให้ได้มาเจอหน้าของ เธอคนนั้น  อีกครั้งหนึ่ง พอคิดถึงเธอคนนั้นทีไร..น้ำตาของเขาที่กักเก็บเอาไว้ก็ไหลออกมาทุกๆที มันคงเป็นความทรมานที่บอกความรู้สึกไม่ถูกเลยจริงๆ...

     

     

     

         พูดถึงเขา..เขาก็ทนรอที่นี่มาถึง 5 ชั่วโมงแล้วสินะ เขาคงไม่รู้วันรู้คืนเลยว่าเขานั่งอยู่ที่ม้านั่งนั่นมากว่า 5 ชั่วโมงแล้ว เขาค่อยๆยกนิ้วขึ้นมาอย่างช้าๆ ที่เขาเป็นอย่างนั้นนิ้วของเขาคงจะชาสินะ..น่าสงสารเสียจริง เขาค่อยๆนับนิ้วแต่ละนิ้ว แสดงว่าเขาคงคำนวณหรือไม่ก็นับอะไรสักอย่างนี่แหละ พอเขานับเสร็จเขาก็ยิ้มทั้งน้ำตาออกมาทันที..

     

     

     

    “10 ปีแล้วสินะ”   เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งต่างกับใบหน้าอันแสนอมทุกข์ของเขา งั้นก็แสดงว่าเขากำลังรอ คนคนนึง อยู่จริงๆสินะ

     

     

     

         อา...มาถึงจุดนี้ทุกๆคนก็คงยังไม่รู้สินะว่าเขาเป็นใคร งั้นเราขอแนะนำเขาหน่อยดีกว่า.. เขาก็คือหนึ่งในบอยแบนด์ชื่อดังในประเทศอังกฤษนี่เอง ที่ใครๆก็คงรู้จักหมดนั่นแหละในฉายาผู้ชายที่น่ารักที่สุดในวง และใช่! นั่นก็คือ ไนออล ฮอแรนนั่นเอง 10 ปีที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ภายนอกเขาดูแจ่มใส..และร่าเริง แต่ภายในนั้นคงไม่มีใครเข้าใจเขาเลยล่ะมั้ง..และวันนี้เขาก็คงมาตามสัญญาที่คนรักของเขาให้ไว้ ถ้าเดาไม่ผิดจริงๆ ตอนนี้เขาอยู่ในเสื้อแขนยาวไหมพรมสีแดงและกางเกงยีนส์มีเพียงเสื้อหนาวแค่ตัวเดียวคลุมเท่านั้น..คุณอาจจะคิดว่าแค่นั้นก็คงพอแล้ว มันคงไม่หนาวอะไรมาก แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่าคุณคิดผิดค่ะ! อากาศหนาวที่ประเทศอังกฤษนั้นก็ไม่ต่างอะไรมากจากการที่คุณเข้าไปอยู่ในตู้ไอศกรีมทั้งวันหรือมากกว่านั้นเลยล่ะค่ะ..

     


     

     

         เขากวาดมองไปรอบๆที่สวนนั่นแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะมาเลย..ไม่มีจริงๆ นี่ก็ใกล้จะตีหนึ่งแล้วสินะ บางทีเขาก็ควรจะหยุดกับคำสัญญาบ้าบอนั่นเสียที แต่ไหนๆเขาก็ทนรอเธอคนนั้นมาสิบปีแล้วนี่ รอแค่ไม่ถึงครึ่งวันจะเป็นอะไรไปเล่า..นานไป อากาศเริ่มหนาวขึ้น  เหอะ! เธอคงลืมเขาไปแล้วสินะ..แต่เขาก็ยังหวัง..หวังแค่ให้ได้เจอเธออีกสักหนึ่งครั้ง แค่หนึ่งนาทีก็ยังดี และเช่นเดิมก็ไม่มีเสียงปลายเท้าของใครเข้ามาในหูของเขาเลย มีแต่ความเงียบงันเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนของเขาได้...

     

     


     

    ค่ครั้งเดียว..หากพระเจ้ามีจริงผมขอ..ผมขอให้ได้เจอเธออีกครั้งหนึ่ง แค่ครั้งเดียวก็ยังดี โปรดช่วยผมด้วยเถอะครับ”  เขาพูดอยู่คนเดียวและนั่นก็คือการวิงวอนพระเจ้า ที่เขาทำอย่างนั้นเพราะอีกสักพักร่างกายเขาก็คงทนความหนาวเหน็บไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เขาลุกขึ้นจากม้านั่งที่เขานั่งมันมาเกือบห้าชั่วโมงแล้วกำลังจะเดินออกไป แต่ทว่า..

     



     

     

    ไนล์! นั่นนายใช่ไหม”  เสียงของฝีเท้าผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขาและตะโกนตามหลังมาด้วย อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น .. เกือบสายไปแล้ว เขารีบหันหลังมาเพื่อที่จะหันมาเจอกับคนที่เขารอมา 10 ปี และใช่! นั่นคือเธอนั่นเอง..ตอนนี้เขาอยากขอบคุณพระเจ้ามากที่สุด แสดงว่าคำขอของเขาคงเป็นจริงแล้วสินะ ใบหน้าของเธอยังคงเหมือนเดิมทุกๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ใครมองแล้วก็ต้องหลงใหลกับตาคู่นั้น..จมูกโด่งเป็นสันของเธอ หรือไม่ว่าจะเป็นปากอวบอิ่มสีแดงธรรมชาติที่เขาเคยได้ครอบครองมันมาแล้ว..



         เธอไม่เปลื่ยนไปเลยในสายตาของเขา วันนี้เธออยู่ในชุดกันหนาวสีน้ำเงินอ่อนๆสีโปรดของเธอ ไม่น่าเชื่อ!นี่เขาก็ยังคงจำเรื่องราวของเธอได้อีกหรือนี่..  “นายจริงๆด้วยเธอพูดอีกครั้ง แล้วมองใบหน้าที่มีคราบน้ำตาของเขาเกาะอยู่แล้วยิ้มบางๆให้เขา

     

     

     

    แจสมิน..เธอมาตามคำสัญญาจริงๆ”  เขาพูดแล้วก้มมองใบหน้าเรียวเล็กของเธอ เธอเป็นคนที่ตัวเล็กกว่าเขาหลายสิบเซนอยู่ แจสมิน ไวท์ หรือ ฮันแจมินเธอเป็นคนเกาหลีที่มีเชื้อสายอังกฤษอยู่ในสายเลือด ใบหน้าของเธอจึงดูน่ารักจิ้มลิ้มเหมาะสมกับวัยของเธอ รูปร่างก็ไม่ได้เล็กเกินไป จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่รูปร่างดีทีเดียวเลยล่ะ และ ใบหน้าหวานก็ตัดกับนิสัยออกจะห้าวๆและความใจกล้าของเธอ อย่างนี้นี่เองเธอคนนี้จึงเป็นผู้กุมหัวใจของเขาได้นานมาถึง 10 ปี    พอไนออลพูดจบเธอก็เผยยิ้มที่แสนจะสดใสขึ้นมาทันทีก็เหมือนเขานั่นแหละที่ใช้รอยยิ้มกลบเกลื่อนความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใน

     


     

     

    นายก็เหมือนกันนั่นแหละ แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ ฉันเห็นนายออกทีวีทุกๆวันเลยนะ

    เธอบอกเขาแล้วเดินนำหน้าเขาไปนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่งแล้วเขาก็เดินมานั่งตาม..นั่งข้างๆเธอ แจมินเธอเป็นคนเกาหลีที่อยู่อเมริกามาตั้งแต่เล็กๆ พออายุ 17  เธอจึงมาอยู่ที่อังกฤษตามคำสั่งของคุณพ่อของเธอและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ..และก็ไม่แปลกเลยที่เธอจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าภาษาเกาหลี

     

     

     

    ฉันสบายดีแล้วเธอ?”  เขาถามเธอกลับบ้าง แค่ได้เจอหน้าของเธอแค่นี้ก็ดีใจมากพอแล้ว เหมือนความฝันจริงๆสำหรับเขา..เขาอยากจะเข้าไปกอดเธออยากเข้าไปสัมผัสริมฝีปากของเธอเหมือนแต่ก่อนแต่ก็ทำไม่ได้..เพราะระหว่างเขากับเธอตอนนี้คงไม่มากไปกว่าเพื่อนแล้วล่ะ

     

     

     

    “ฉันหรอ..ก็ดี นายน่ะ..29 แล้วหนิ”  เธอพูดพร้อมเอานิ้วจิ้มไปที่แผ่นอกของเขาเหมือนที่เคยทำ..เธอยังรู้สึกสนิทกับเขาเหมือนเดิม กาลเวลาก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อกันแย่ลงเลยสักนิด เธอพูดแล้วคิดคำนวณอีกที  ใช่! 29 จริงๆ ฉันนับแล้ว”  เธอทำหน้าอย่างมั่นใจว่าคำตอบที่เธอพูดมาต้องถูกอย่างแน่นอน

     

     

     

    อืมใช่แล้วล่ะ เธอน่ะ 27 แน่ๆ แก่จัง ฮ่าๆ”   พอเขาพูดก็ทำให้ใบหน้าของเธอทำปากจู๋แบบที่เธอชอบทำขึ้นมาทันที

     

     

     

    “แหวะ! นายมันเด็กตาย แก่กว่าฉันอีก!แก๊แก่ ฮ่าๆๆ”  เธอพูดจบแล้วก็ขำ รู้ไหมว่าเสียงหัวเราะอันสดใสของเธอเนี่ย สามารถทำให้เขาคลั่งตายได้เลยนะ เมื่อเขาได้ยินมันแล้วก็ต้องการได้ยินมันไปเรื่อยๆ

     

     


     

    “10 ปีแล้วเนอะที่ไม่ได้ติดต่อกัน”  อยู่ๆเขาก็พูดเรื่องกาลเวลาให้เธอฟังซะงั้น..ทำให้รอยยิ้มของเธอค่อยๆหุบลงทีละนิด แล้วหันไปมองหน้าของเขา

     

     


     

    “ใช่ เอ้ย! ไม่สิ 9 เดือนกับอีก 10 สัปดาห์ตะหาก”  เธอพูดพร้อมทำหน้าคิดอีกรอบ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอยังคงนับวันเวลาอยู่ตลอด ก็ไม่ต่างอะไรกับเขาเลย “และก็มาถึงวันนี้จนได้นะ กับคำสัญญาบ้าๆที่ฉันนัดให้นายมาเจอกันตรงนี้อีก 10 ปี”  เธอยังคงหัวเราะแห้งๆเหมือนเดิมพอพูดจบ

     

     


     

    “เธอนับด้วยหรอ”  ไนออลถามแล้วทำหน้าสงสัย ทำให้เธอไปไม่ถูกเพราะกลัว..กลัวเขารู้ว่า 10 ปีที่ผ่านมาเธอก็แทบบ้าเหมือนกัน

     

     


     

    “อ้อ! นับสินับก่อนมาน่ะ ฮ่าๆ”  เธอตอบไป ต่เธอโกหก! เธอนับมันมาทุกวันเลยตะหาก นั่งมองปฏิทินทุกวันและเวลา 10 ปีจะว่านานก็นานเร็วก็เร็ว..แต่ความเจ็บปวดยังคงเหมือนเดิม..

     

     

     

    “อืม เธอมีความสุขไหม?”  คำถามไนล์หรือไนออลทำให้จัสมินเลิกคิ้วมองหน้าเขาทันทีที่ถาม นี่เขาคงเข้าใจว่าเธอคงมีความสุขมากสินะ..

     

     

     

    “ก็ไม่แย่นักหรอก นายก็คงมีความสุขเนอะเห็นตอนอยู่ในทีวีร่าเริงเชียว”  เธอบอกเขาไป แต่อีกครั้งที่เธอโกหก บางที..เธออาจจะยิ่งกว่าเขาเลยก็ได้ สภาพเมื่อตอนแรกของเธอที่จากกับเขาก็ไม่ต่างอะไรกับคนบ้าเลยสักนิด

     

     

     

    “เธอโกหก..ไม่จริงหรอกที่เธอจะรู้สึกดี”  เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นมากกว่าเดิม

     

     

     

    “นายมีอะไรมาพูดว่าฉันรู้สึกแย่!”  เธอก็ขึ้นเสียงตามเขาเช่นกัน แจสมินเธอก้ไม่ได้เป็นคนที่พูดจาอ่อนหวานอะไรนักการที่เธอขึ้นเสียงกับเขาก็เป็นเรื่องธรรมดา

     

     

     

    “น้ำตาของเธอไง”  ไนออลพูด เธอจึงหน้าเสียทันทีนี่เธอเป็นอีกแล้วหรอเนี่ย..น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มันเป็นอะไรที่รักษาไม่ได้เลยสินะ พอเขาพูดจบเธอก็มือขึ้นมาเช็ดน้ำตาหรือความเจ็บปวดของเธอทันที   “ให้ตายสิ!นี่เธอก็คงแทบบ้าเหมือนฉันใช่ไหม” เขาพูดต่อ

     

     

     

    “ใครแทบบ้า..ฉันร้องไห้ออกมาก็ดีใจที่นายมาตามคำสัญญาเท่านั้น เธอกลบเกลื่อนความรู้สึกก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอีกครั้งโดยการไม่มองใบหน้าของเขาแล้วหันไปมองแสงไฟรอบๆลอนดอนอายส์ทันที




     

    “แจสมินเธอรู้ไหมว่า 10 ปีที่ผ่านมาฉันแทบบ้า..”  เขาเอ่ยขึ้นมาลอยๆ ทำให้เธอหันมามองใบหน้าของเขาด้วยคราบน้ำตาอีกครั้ง

     

     

     

    “อะไร นายยังรอ..??”  เธอเอ่ยถามเขาตามด้วยสีหน้าที่งุนงง

     

     

     

    “ก็คงงั้นมั้ง การที่ไม่ได้อยู่กับเธอ ไม่ได้คุยกับเธอฉันแทบบ้า ฮึๆ” เขาหัวเราะในคอราวกับสมเพชตัวเอง  “ฉัน..ฉันอยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันไม่อยากทนแบบนี้แล้ว

     


     

     

    ....”  แจสมินเงียบแล้วหันไปด้านอื่นแทน เพราะเธอไม่อยากรับรู้ความรู้สึกที่เจ็บปวดเเบบนี้อีก เธอก็เเค่ลังเลที่จะตอบไปเท่านั้น

     

     

     

    “ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปอีกแล้ว ไม่มีวัน..เธอเหมือนคาเฟอีนรู้ตัวไหม..เธอทำให้ฉันเสพติดเธอเข้าไปทีละนิดๆ จนติดพอเมื่อไหร่ขาดมันไปวันนั้นก็แทบจะเป็นบ้าตาย..เขากระซิบข้างหูของเธอ..  “ฉันรักเธอฮันแจมิน ฉันจะไปปล่อยเธอไป..ฉันรู้ว่ามันอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ฉันจะทำให้มันเป็นไปได้..ให้โอกาสฉันนะ

     



     

     

    หลายๆคนอาจจะงงเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาไม่มากก็น้อยแหละเนอะ

    งั้นเรามาลองนั่งไทม์แมชชีน  กลับไปดูเหตุการณ์ทุกอย่างกันเถอะ!

    .....

     

     

     

    สวัสดีงับๆทุกคนน วันนี้ได้ฤกษ์มาอัพบทนำเรื่องนี้กันแล้ว

    ดีใจสุดๆเลย ฮ่าๆ ช่วยติ+ชมให้ด้วยน่ะ แต่งแนวแบบนี้ครั้งแรกเน้อ

    อยากให้ติอ่ะ เค้าจะได้รู้ว่าต้องแก้ไขอะไรบ้างเน้อ ^^

    แล้วเรามาลุ้นกันมาตอนสุดท้ายจะลงเอยยังไง

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×