ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -- ประวัติ & เรื่องราวของ SJ --

    ลำดับตอนที่ #5 : [4] -- Ye Sung --

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.27K
      2
      16 ธ.ค. 53

    "เยซอง... จอมป่วน"



    ชื่อจริงKim Jongwoon (คิมจงอุน = ผู้มีโชคชะตาดีงาม , มีชื่อเสียงโด่งดัง)
    ชื่อในวงการYesung (เยซอง แปลว่า ผู้มีลักษณะเฉพาะ , ผู้ที่มีความแตกต่างอย่างโดดเด่น)   
    ฉายาอะลาดิน
    วันเกิด24 สิงหาคม ค.ศ.1984
    สถานที่เกิดชุงชองนัมโด ชอนอัน
    ส่วนสูง178 ซม.
    น้ำหนัก64 ก.ก. 
    กรุ๊ปเลือดAB
    สีที่ชอบแดง
    กีฬาที่ชอบชอบการออกกำลังกาย ฟุตบอล
    งานอดิเรกฟังเพลง ร้องเพลง เล่นเกมส์และอินเทอร์เน็ต อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ เก็บสะสม CD และ DVD
    ความสามารถพิเศษเปียโน
    ครอบครัวคุณพ่อ คุณแม่ และน้องชาย (คิมจงจิน)
    การศึกษา- Boochunduksan Elementary School
    - Chunanchungsoo Elementary School
    - Boosung Middle School
    - Byungchun High School
    - Sunmoon University
    เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง ปี 2001 โดย Starlight Casting System     
    ปรากฏตัวครั้งแรกNovember 1999, Chunan Gayoje Gold Statue
    ผลงานภาพยนตร์Flower Boy (Attack on the Pin-Up Boys) 2007
    ผลงานโฆษณา- NII (2006-2007) ร่วมกับสมาชิกในวง
    - IVY (2006 - 2008) ร่วมกับสมาชิกในวง
    ผลงานด้านอื่นๆ- ชนะเลิศ "ChunAn Music Competiton" (พ.ย. 1999)



                คิมจงอุน  หรือที่สาวๆ รู้จักกันในชื่อ เยซอง  เป็นพี่คนโตซึ่งมีน้องชายชื่อว่า ‘จงจิน’  ตั้งแต่เล็กมาแล้วเยซองใฝ่ฝันว่า  เค้าจะเติบโตขึ้นเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยตนเอง  หนุ่มน้อยของเราชื่นชอบการร้องเพลงเป็นอย่างมาก  เค้ามีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์  และเป็นเด็กที่มีความคิดความอ่าน  แถมยังเป็นคริสต์ศาสนิกชนที่เคร่งในศาสนาเป็นอย่างมากอีกด้วย  เรื่องของนิสัยนั้นเยซองเป็นคนที่อ่อนโยน  และไม่ค่อยพูดมากกับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน  เค้าเป็นเด็กหนุ่มที่ถือว่าเรียบร้อยเอามากๆ  ถ้าเปรียบกับเด็กหนุ่มในวัยเดียวกัน  อย่างที่เราทราบๆกันดีอยู่ว่าในประเทศเกาหลีนั้นวัฒนธรรมการดื่มเป็นเรื่องปกติ  แต่เยซองเป็นหนุ่มที่คออ่อนเอามั่กมาก  อันนี้การันตีมาจากเพื่อน ร่วมวงว่าไม่ถึงขวดเยเย่ก็เซมากูเตะ น็อคไปซะแล้ว   หนุ่มคนนี้เค้าก็รู้ตัวอยู่ว่าคออ่อน  เลยพยายามหลีกเลี่ยงไม่แตะต้องของมึนเมาถ้าไม่จำเป็น 

                ด้วยความที่เป็นคนหน้าตาน่ารักมาตั้งแต่เด็กๆ  เพื่อนจึงเรียกเค้าว่า “เจ้าชายก้อนเมฆ”   ซึ่งฮีซอลแอบเม้าท์ว่าที่ได้ฉายานั้นจากเพื่อนสมัยเรียน  หลังจากนั้นไม่นานเพื่อนก็เปลี่ยนมาเรียกเค้าว่า  “คุณศิลปิน”  เมื่อเยซองปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกในปี  1999 กับการชนะเลิศกับการแข่งขัน  ChunAn  Music  Competition  จากนั้นก็ได้ร่วมแคสติ้งในโครงการ  Starlight  Casting  System  2001  จนได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดในค่าย SM  Entertainment  หลังจากที่ได้รับคัดเลือกเข้ามาแล้ว  เยซองต้องเผชิญกับการฝึกแบบหฤโหด  เรียกว่าเหนื่อยจนเลือดตาแทบกระเด็น  เพราะแต่ละคนที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาล้วนแล้วแต่เป็นอันดับ 1 มาจากหลากหลายที่  ทุกคนจึงต้องพยายามอย่างมาก  เพื่อที่จะเปล่งประกายและกลายเป็นดาวที่โดดเด่นในอนาคต

                หลังจากการฝึกฝนอย่างหนัก   ในที่สุดเยเย่ก็ได้รับการคัดเลือก  ให้มาเป็นหนึ่งในสมาชิก  วงบอยแบนด์เลือดใหม่ของเกาหลีอย่าง  Super  Junior   ซึ่งเป็นวงที่คัดเอาแต่หัวกระทิล้วนๆมารวมกัน  ในตอนแรกการทำงานร่วมกันเป็นวงใหญ่   ที่มีสมาชิกถึง 12 คน (ก่อนที่น้องหนูฮยอนจะมาร่วมแจม เป็น 13 หน่วยอย่างปัจจุบัน)   โดยที่สมาชิกทุกคนต้องกระเด้งๆ ไปไหนมาไหนพร้อมกันทั้งหมด  ก็ออกจะทุลักทุเลมิใช่น้อย

                แม้ว่าแต่ละคนจะเคยเห็นหน้าคาดตากันมาก่อน   ตั้งแต่สมัยยังเป็นศิลปินฝึกหัด   และหลายคนก็สนิทสนมกันมาตั้งแต่ตอนนั้น   แต่การที่ใช้ชีวิตร่วมกัน   ทำงานร่วมกันหลายคน  ขนาดนั้นก็ย่อมเกิดความวุ่นวายอยู่บ้า  บางคนชอบกินนั่น   ไม่ชอบกินนี่  บางคนก็กินเก่ง  บางคนติดนิสัยเข้าห้องน้ำนาน  ทั้งวงมีกันอยู่ 12 ชีวิต  ไม่รวมทีมงาน   คิดดูสิว่าก็จะยกขบวนไปไหนมาไหน  จะต้องใช้เวลาและความสามารถเท่าไหร่  ถึงจะคุมบรรดาลิงทั้ง 12 อยู่

                แต่หลังจากที่ทำงานร่วมกันมาสักพักสิ่งต่างๆ   ก็กลายเป็นความเคยชิน   และพัฒนามาเป็นความสนิทสนม  แน่นอนว่าเยซองยืนยันว่าทุกคนในวง  สนิทกันแบบสุดๆ เดี๋ยวนี้ถ้าไปทัวร์โดยขาดสมาชิกคนใดคนหนึ่งไป  หรือเวลาแยกไปทำงาน 3 คน  เป็นซูปอร์จูเนียร์เคย์.อาร์.วาย.  นี่ถึงกับเกิดอาการเหงาหงอยกันเลยทีเดียว   เยเย่ให้เหตุผลที่น่ารักน่าเอ็นดู  ว่าที่ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันทั้ง 13 หน่วย   เพราะถึงแม้คนจะเยอะมาก  บางทีคุยกันได้ไม่ทั่วถึง  แต่เวลาทุกคนมาอยู่รวมกัน   ล้อมวงกินข้าวด้วยกัน   เล่นบอลกัน  ว่ายน้ำด้วยกันนี่มันแสนมีความสุข   ถึงบางคนจะนั่งหัวโต๊ะ   บางคนจะนั่งท้าย  ไม่ค่อยได้คุยกัน   แต่แค่เห็นว่าทุกคนมาด้วยก็สบายใจแล้วละ   ในวงนั้นเยเย่สนิทสนมกับรยออุคและน้องฮยอนเป็นพิเศษ  อาจจะเป็นเพราะมีโปรเจคต์พิเศษร่วมกัน  และมักจะได้นั่งใกล้ๆ  กันเสมอก็เป็นได้  3 หน่วยนี่เลยมักจะเกาะติดกันเป็นตังเม  ไปไหนไปด้วยช่วย 3 บาทกันตลอด

    >>เส้นทางชีวิต...กว่าจะมาเป็น Super junior

           เยซอง ... เคยพูดเอาไว้ว่า "เขาคือสมาชิกที่มีแฟนคลับน้อยที่สุด!!"

                เด็กชาย คิมจงอุน เกิดและเติบโตที่ชองอัน ในตอนเด็กๆ เขาค่อนข้างที่จะเฮี้ยวพอสมควร เพราะเคยตั้งแก๊งกับเพื่อนๆแถวบ้าน และเขาก็เป็นหัวหน้าก๊วน เพื่อที่จะต่อสู้กับเด็กกลุ่มอื่นที่ไม่ค่อยจะถูกชะตากัน สร้างความปวดหัวให้กับทางครอบครัวของเขาเป็นอย่างมาก

                ในตอนเด็กนั้น เขาอยากที่จะได้หุ่นยนต์สักตัว แต่ด้วยความที่พ่อบอกเขาเสมอๆ ่ว่าเด็กผู้ชายควรจะออกกำลังกายมากกว่าจะไปนั่งเล่นของเล่นไร้สาระ จึงทำให้จงอุนออกกำลังกายเป็นประจำ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และด้วยความที่เขาแข็งแรง ไม่ชอบเวลาที่เห็นผู้ชายคนไหนด่าทอผู้หญิงนั่นเอง จึงทำให้ในวัยเด็กของจงอุน มีเด็กผู้หญิงมาปลื้มเขาเป็นจำนวนไม่น้อย

                จงอุนค่อนข้างจะเป็นเด็กหัวดี แต่ไม่ค่อยจะตั้งใจเรียนสักเท่าไหร่ เขาไม่ชอบเวลาที่หันไปมองแล้วเห็นว่ามีอุปกรณ์การเรียนอยู่ใกล้ๆตัว เพราะมันทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกดี และอยากให้มีอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา ก็คือ CD เพลง และเครื่องเล่น

                ด้วยความที่เขาชื่นชอบเสียงเพลงมาก อีกทั้งยังร้องเพลงใช้ได้ แม่ของเขาจึงได้ถามขึ้นในวันหนึ่ง ว่าถ้าหากเขาชอบเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ลองไปออดิชั่นกับทางค่ายเพลงดู และก็ได้ไปติดต่อสอบถามถึงรายละเอียดการประกวดมาให้ลูกชายคนโตเสียเสร็จสรรพ

                แม่ของจงอุนผลักดันเขาทุกวิถีทาง เพื่อจะสานความฝันของลูกชายให้เป็นจริง เมื่อมีการจัดการประกวดขึ้นที่โซล จงอุนและแม่ก็เดินทางมาเพื่อทำการแข่งขัน แต่ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยกับสถานที่แปลกใหม่อย่างโซล จึงทำให้สองแม่ลูกต้องหลงทางกันอยู่นานสองนาน แต่ก็ยังโชคดีที่เดินทางไปทันการประกวด

                ในการประกวด จงอุนร้องเพลงออกมาค่อนข้างดี แต่สำหรับการเต้นแล้ว เขาไม่ค่อยมั่นใจกับมันสักเท่าใด หรืออาจจะไม่มั่นใจเลยก็ว่าได้ เพราะเขาไม่เคยเต้นมาก่อน จงอุนบอกกับตัวเองในใจ ว่าเขาคงจะได้ที่สุดท้ายเป็นแน่ ... แต่ผิดคาด ผลออกมาคือ เขาได้รับรางวัลชนะเลิศมาแบบไม่ได้คาดคิดมาก่อน ซึ่งเขาก็ได้ผ่านการออดิชั่นเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดพร้อมๆกับ แจจุง (TVXQ)

                แต่การเป็นศิลปินฝึกหัดนั้นช่างทรมานและยากเย็นกว่าที่คิด หลังเลิกเรียน จงอุนจะต้องนั่งรถไฟจากชอนอันมาฝึกซ้อมกับทางบริษัททุกวันจนดึก และเดินทางกลับด้วยรถไฟขบวนสุดท้าย ตอนเวลา 23.20 น. เสมอ และเพื่อนร่วมเดินทางของเขาก็คือ ยุนโฮ (TVXQ) (ก่อนยุนโฮจะมาเช่าบ้านอยู่กับดงแฮและฮีชอล) ที่เดินทางกลับด้วยรถไฟเพื่อไปควางจู เช่นกัน

                ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้จงอุนเริ่มสนิทกับยุนโฮ เพราะระหว่างทาง พวกเขาได้มีอะไรมาพูดคุยกันมากมาย และก็ยังร่วมสร้างวีรกรรมที่ไม่ค่อยจะเหมาะสมกับการเป็นเยาวชนอีกด้วย นั่นคือการดื่มเบียร์บนรถไฟ จนทำให้นั่งเลยสถานีชอนอันไปถึงดูจอง ด้วยความที่ไม่มีรถกลับ ทำให้จงอุนต้องโทรศัพท์ไปบอกแม่ ว่าเขาจำเป็นต้องนอนค้างที่บ้านเพื่อน และใช้เวลาอยู่ที่สถานนีดูจองนั้นทั้งคืน

                เขายังคงฝึกซ้อมเป็นอย่างหนัก แม้ว่าจะยังไม่รู้ชะตาของตัวเอง ว่าจะได้เดบิวต์หรือไม่ เพราะแต่ละคนที่เป็นศิลปินฝึกหัดนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นที่ 1 มาจากแต่ละเวทีแน่นอนว่าทุกคนมีความสามารถไม่น้อยไปกว่ากัน แต่สิ่งที่จะทำให้พวกเขาได้เดบิวต์นั้นก็คือ หลังจากที่ฝึกซ้อมเป็นระยะเวลานานแล้ว ผลงานของใครจะออกมาดีกว่ากัน ...และนั่นอาจจะรวมไปถึง ใครที่ดวงดีกว่าใคร

                จงอุนมีเพื่อนสนิทในสมัยเป็นศิลปินฝึกหัดคือ ยุนโฮและแจจุง เนื่องจากผ่านการออดิชั่นมาพร้อมๆกัน นอกจากนั้น เขากับยองอุน (คังอิน) ก็ยังสนิทสนมกันมาก แต่ด้วยนิสัยบางอย่างของทั้งคู่ ที่ดูจะคล้ายกันในบางส่วนจนเกือบๆจะเป็นคู่แข่งกัน ไม่ว่าจะเป็น ชอบการต่อสู้ ชกต่อย และอีกมากมาย ทำให้ยองอุนมักจะแกล้งทำท่าราวกับว่ารังเกียจจงอุนเสมอ เนื่องจากยองอุนรู้จักนิสัยของเพื่อนคนนี้ดี ว่ามักจะชอบทำอะไรให้ 'มาก' กว่าชาวบ้าน ทั้งๆที่ไม่มีความจำเป็น แต่ความจริงแล้ว พวกเขาทั้งคู่ก็ต่างผูกพัน และมีกันและกันอยู่ในสายตาเสมอ เพราะแม้ว่าปากของยองอุนจะด่าทอ ผลักไสจงอุน มือจะใช้กำลังกับเขา หรือแม้แต่เท้าที่ก็ยังไม่ละเว้น แต่ทุกครั้งที่มีอะไรเกิดขึ้นกับจงอุน ยองอุนคนนี้ก็มักจะเป็นคนแรกที่มองเห็นเสมอ ด้วยเหตุนี้เอง จงอุนจึงไม่เคยสักครั้งที่จะโกรธเคืองยองอุน แม้จะโดนโขกสับ หรือถูกตบจนหัวแทบหลุดก็ตาม

                และกับฮีชอลก็เช่นกัน จงอุนค่อนข้างที่จะติดฮีชอลอยู่มาก เขามักจะทำตัวเด็กเวลาที่อยู่กับฮีชอล แต่ด้วยนิสัยที่ชอบโชว์พาวของจงอุน (ถ้าไม่ชอบโชว์พาว คงไม่เป็นหัวหน้าแก๊ง) และอาจจะด้วยความพูดมากส่วนตัว จนออกแนวไร้สาระ ที่ทำให้อีชอลมักจะหาเรื่องว่าจงอุนเสมอๆ แต่นั่นก็เกิดจากความสนิทสนมและเอ็นดูในตัวน้องชายคนนี้ เพียงแค่การแสดงออกนั้นดูจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่อยู่ในใจเท่านั้นเอง และด้วยความที่เขาเป็นคนติดจะสำอางหน่อยๆ เวลาว่าง หรือทุกครั้งที่เห็นกระจก จงอุนก็มักจะหยุดส่องและจัดเสื้อผ้า หน้า ผม ให้เข้าที่เข้าทาง และก็เป็นแบบนี้เสมอๆ จนติดเป็นนิสัย หลายครั้งที่เขาเผลอทำมันโดยไม่รู้ตัว จนฮีชอลต้องหันมากัดเอาบ่อยๆ

                จงอุนมีความภาคภูมิใจในความเป็นพวกเลือดกรุ๊ป AB และมักจะพูดถึงตัวเขาและฮีชอลในเรื่องนี้ และท้ายที่สุด ก็มักจะโดนฮีชอลว่ากลับมาทุกครั้ง "ถึงเราจะเลือดกรุ๊ปเดียวกัน แต่อย่าเอาชั้นไปรวมเป็นพวกเดียวกับนาย" เพราะเขาพูดถึงมันมากจนทำให้มันกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปเสียแล้ว

                แม้ว่าจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างเกเรอยู่บ้าง แต่จงอุนก็ไม่เคยที่จะทำตัวไม่ดี หรือออกนอกลู่นอกทางเลย เพราะเพียงแค่ดื่มเบียร์กระป๋องเล็กๆ มันก็ทำให้เขาเมาจนแทบลุกไม่ขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง จงอุนจึงมักจะถูกเพื่อนๆลากไปร่วมวงด้วย แต่ไม่ใช่เพื่อให้เขาไปร่วมดื่ม เพราะเพื่อให้เขาเป็นคนหอบหิ้วเพื่อนๆกลับแทนนั่นเอง ส่วนเรื่องบุหรี่ จงอุนไม่แตะต้องมัน เนื่องจากเขาคิดว่ามันจะทำให้เส้นเสียงเสีย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ครั้งแรกที่เขาลองสูบ มันทำให้เขาสำลักควันแทบตายต่างหาก

                จงอุนได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย Sunmoon และได้รับอนุปริญญาไปในช่วงก่อนเดบิวต์เพียงไม่กี่เดือน ในช่วงนั้นเอง ที่อาการป่วยเพราะนิ่วของเขาได้กำเริบขึ้น ทำให้ใบหน้าของเขาเริ่มบวมอย่างเห็นได้ชัด แต่ด้วยความที่เกรงว่าจะเป็นตัวถ่วง และทำให้คนรอบข้างเป็นห่วง เขาจึงเก็บงำเรื่องนี้เอาไว้เพียงคนเดียว

                ช่วงที่ฟอร์มวงซูเปอร์จูเนียร์ จงอุนได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ เยซอง เพื่อใช้ในวงการบันเทิง เพราะเขารักในเสียงเพลง และอยากมีชื่อที่แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่เขามี และก็เริ่มที่จะสนิทสนมกับรยออุค ศิลปินฝึกหัดน้องใหม่ที่เพิ่งผ่านเวทีการประกวดมาได้ไม่นาน

                เขามักจะใช้ชื่อเรียกตัวเองว่า Cloud ซึ่งแปลว่า ก้อนเฆฆ มันมาจากความหมายของนามสกุลของเขาเมื่อเขียนเป็นภาษาจีน ด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้เขาชื่นชอบก้อนเมฆเป็นพิเศษ

                ในเวลาที่มีปัญหา หรือไม่สบายใจ จงอุนมักจะระบาย หรือเล่าเรื่องราวต่างๆของเขาให้กับรยออุคฟังเสมอๆ ทั้งๆที่รู้ว่าน้องชายตัวดีคนนี้นั้นแสบสักเพียงใด เขาก็ยังเต็มใจที่จะเล่า แม้ว่าเรื่องที่เขาเล่า จะถูกนำมาแฉผ่านทางรายการต่างๆอยู่เสมอ

                เขากับรยออุค มักจะทะเลาะกันด้วยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง และเ ถียงกันในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ เนื่องจากแต่ละคนก็อยากจะเอาชนะ แต่สุดท้าย ก็ดูเหมือนว่า จงอุนจะเป็นฝ่ายแพ้แทบทุกครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยที่จะโกรธเพื่อนรุ่นน้องคนนี้จริงๆจังๆสักที เพราะเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือใด รยออุคก็มักจะยื่นมือมาให้เป็นคนแรกเสมอ (และก็เป็นคนแรกที่พร้อมจะซ้ำเติมเช่นกัน)

                หลายๆคน อาจจะคิดว่าจงอุนเป็นคนพูดน้อย ค่อนข้างนิ่ง และเก็บตัว แต่อันที่จริงแล้ว เขาเป็นคนที่บ้า ถึงขั้นที่ฮีชอลเรียกว่า หมาบ้า และก็ค่อนข้างที่จะพูดมากถึงมากที่สุด แต่เป็นการพูดออกแนวหาสาระไม่ได้ อีกทั้งยังกล้า และบ้าบิ่น เสียจนยองอุนไม่กล้าเดาว่าถ้าหากต้องมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นนั้นจะเกิดอะไรขึ้น เพราะจงอุนคงไม่มีทางยอมแพ้ และคงเล่นงานอีกฝ่ายสุดชีวิต จนเขาไม่อยากที่จะคิดสภาพที่จะออกมา

                จงอุนเคยรู้สึกน้อยใจ เพราะเขาคิดว่าเขาเป็นคนที่มีแฟนคลับน้อยที่สุดในวง นั่นจึงทำให้เขาพยายามที่จะแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านๆมา ด้วยอาการป่วย และเนื่องด้วยเป็นคนอายกล้อง เขาจึงมักจะทำตัวเงียบๆ และหลบอยู่ตามมุมเสมอๆ แต่ในทุกวันนี้ จะเห็นได้ชัดว่า เขากล้าที่จะทำอะไรต่อมิอะไรเวลาอยู่หน้ากล้องมากขึ้น และเริ่มฉายแววโดดเด่นขึ้นมาอย่างมากมาย ทั้งนี้ ในช่วงก่อนที่จะออกอัลบัมชุดที่ 2 จงอุนได้ตั้งปณิธานเอาไว้ ว่าจะพัฒนาตัวเองในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออก รูปร่าง การร้องเพลง การเต้น หรือแม้แต่การปฏิบัติตัว ... และเขาก็สามารถทำได้ แม้ว่าจะไม่ครบตามที่หวังก็ตามที

                และด้วยความบ้าส่วนตัวที่เขามี จงอุนมักจะชอบอะไรที่แปลกๆ หรือสิ่งที่เขาคิดว่าสะดุดตา ในเมื่อครั้งที่มาเมืองไทยในนาม KRY เขาได้มีโอกาสชมมิวสิควิดีโอเพลงลูกทุ่งของไทย และใครจะเชื่อว่า "อาภาพร นครสวรรค์" จะกลายเป็นไอดอลประจำใจของเขาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา (ร้องเพลงเชฟบ๊ะได้ด้วย เอากะมันสิ -*- )

                เส้นทางชีวิตขอ เจ้าชายแห่งเมฆา ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าท้องฟ้าจะมีพายุ หรือฝนที่ตกกระหน่ำ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังมีเอลฟ์คอยเคียงข้าง และคอยปกป้องให้ก้อนเมฆก้อนนี้อยู่รอดปลอดภัย และได้พบเจอกับแสงแดดดันสดใสในทุกๆวัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×