ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Planing love วางแผนรักให้เธอเปลี่ยนใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 17
      1
      24 พ.ค. 57

     

                 ในวันที่หิมะเริ่มโปรยปรายส่งผลให้ถนนเริ่มกลายเป็นสีขาวจางๆ   ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างพากันสวมใส่เสื้อโค๊ดตัวหนา  รองเท้าบูท และ ถุงมือคนสัตว์   ภาพเหล่านั้นแสดงให้เห็นว่าช่วงปิดเทอมนั้นใกล้เข้ามาแล้ว







                    พล๊ววววววววว!!!





                 "
     โอ๊ยยยย!!! "    ฉันละสายตาจากหน้าต่างหันมามองมือที่พึ่งจะตบหัวเธอเมื่อกี๊ เมื่อเห็นว่าเป็นใครฉันก็อ้าปากกำลังจะพ่นคำด่าออกไป ถ้าไม่ติดที่ว่าเขาพูดขึ้นมาก่อน



                 " เหม่ออะไรของแกว่ะไอ่พราว เรียกตั้งหลายรอบไม่ยอมหัน "   ธามพูดพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามฉัน ตอนนี้เรานั่งอยู่ที่ร้านกาแฟหน้ามหาลัย



                " สะกิดอ่ะ สะกิด นายทำเป็นไม๊ ไอ่นี่หนิ "   ฉันรู้สึกเคืองๆจึงเอื้อมมือไปข้างหน้าหวังจะตบหัวมันคืนแต่มันดันรู้ทันเอี้ยวตัวไปข้างหลังซ่ะก่อน



                " จุ๊ๆ ตัวสั้นยังไม่พอ แขนยังสั้นอีก 5555 " มันพูดพร้อมกับยกมือขึ้นแล้วใช้นิ้วชี้โยกไปมา แต่อะไรคือรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์นั้น แต่มีหรือที่คนอย่างพราวแสงคล้อยตาม ฝันไปเถอะ-0-


      
                " ตัวสั้นอะไรกันย่ะ พูดอย่างนี้อยากตายใช่ไม๊ "   ฉันยืนขึ้นแล้วเดินไปฝั่งที่ธามมันนั่งอยู่กะว่ามันหนีไม่พ้นฝ่ามือฉันแน่ๆ หึหึ



                " ฮ่าๆๆๆๆๆๆ "   เสียงหัวเราะที่ดังลั่นกับท่าทางตอนนี้ทำให้คนเริ่มหันมามองที่เราสองคน ก็ไอ่ธามมันลุกขึ้นยืนแล้วเอามือยันหัวฉันไว้ ส่วนมือฉันที่กำลังจะตีมันก็กำลังแกว่งไกว่กับอากาศไปมา



                " พอได้แล้วน่าธาม เลิกแกล้งแพรวได้แล้ว "  เสียงที่อบอุ่นแบบนี้แค่ฟังฉันก็รู้ทันทีว่าเป็นใครโดยไม่ต้องหันมอง



                " ก็มันสนุกดีนี่  ฮ่าๆๆๆ ^0^ "   ไอ่ธามแม่งพูดเสร็จแล้วก็หันไปยิ้มและขยิบตาให้กับสาวโต๊ะข้างๆที่กำลังมองมา ฉันเห็นสาวคนนั้นหน้าแดงด้วย ฉันเลยอาศัยจังหวะนั้นเตะมันเข้าที่ข้อพับ  จนขามันพับล้มลงคุกเข่ากับพื้น



                " ฮ่าๆๆๆๆๆ สะใจหว่ะ >0< "   ฉันหัวเราะลั่นเพราะตอนที่มันล้มนั่งลงนั้นคางมันกระแทกเข้ากับโต๊ะจนฟันกัดกับลิ้นจนเลือดไหลออกมา  หมดกันภาพพจน์คนหล่อ คึคึ


                "
     เห้ยย! เป็นไรมากหรือป่าว "  ตะวันพูดด้วยถ้อยคำที่เป็นห่วง  ในขณะที่มือเขากำลังโอบไหลฉันแล้วออกแรงพาไปนั่งที่เก้าอี้อีกฝั่งกัน พลางใช้มือลูบผมยุ่งๆของฉัน



                " ถ้าไม่ห่วงกันจริงก็ไม่ต้องแกล้งพูดหรอก " ธามพูดพร้อมดันตัวขึ้นมานั่ง  ฉันหันมาสบตากับตะวันที่หันมามองฉันอยู่แล้ว เขาส่งยิ้มอ่อนๆมาให้ฉัน สำหรับฉันมันเป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นที่สุด  เราสบตากันอยู่แบบนั้นเนินนานเหมือนว่าจะสบตากันไปจนกว่าฝ่ายหนึ่งจะละลายหายไป




                 มันจะเป็นแบบนี้แทบทุกครั้งที่เราสามคนได้เจอกัน  ธามจะแกล้งฉันโดยมีตะวันเป็นคนคอยห้าม หลังจากนั้นฉันกับตะวันจะอยู่ในโลกส่วนตัวของเราสอคน   ส่วนธามก็จะกลายเป็นเหมือนอากาศรอบตัวเราเท่านั้น   แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก   รายนั้นเขาไม่รู้สึกแย่อะไรเพราะอีกสักพักสาวที่เขาโทรตามก็จะมาถึงแล้วก็คุยมุ้งมิ้งกันสองคน   ธามเขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉัน   ส่วนตะวันเราคบกันตั้งแต่ขึ้นเรียนมัธยมปลาย เขาสองคนไม่ได้สนิทกัน   พวกเขาพึ่งรู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย   ถึงจะได้เจอกันบ้าง  แต่ก็ไม่ค่อยได้คุยกันมาก  เพราะฉันกับตะวันก็มักจะมีโลกส่วนตัวของเราเสมอ   ก็ตะวันเขาเป็นนักเรียนทุนนี่ไม่คอยจะมีเวลามาก   แต่เห็นยุ่งๆแบบนี้สาวตรึมนะค่ะ   ตะวันเป็นคนที่หล่อแบบเข้มๆ  ผิวของเขาเป็นสีแทน  คิ้วหนา  ตาคม  และดูอบอุ่น  แต่ฉันก็มั่นใจนะว่าเขาจะไม่นอกใจฉันเพราะเราก็คบกันมานานมากแล้ว   เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าฉันไว้ใจเขาได้   ทุกครั้งฉันกังวลเรื่องนี้เขาจะไม่พูดอะไร   แล้วยกมือข้างหนึ่งมาจับที่บ่าของฉัน ส่วนมืออีกข้างยกขึ้นมาประคองแก้มฉันไว้ แล้วใช้สายตาของเขาจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉัน  ราวกับจะบอกว่าฉันไว้ใจเขาได้   หลายต่อหลายครั้งที่ธามจะถามฉันว่า   ฉันไปหาคนแบบตะวันมาจากไหน  ฉันมีอะไรให้ตะวันมาชอบฉัน   ก็ฉันมันก็แค่ผู้หญิงรูปร่างหน้าตาธรรมดาๆคนนึง ติดจะเตี้ยไปด้วยซํ้า  ปากเก่ง  ไม่ยอมคน  พูดไม่คิด  ขี้โวยวาย  หัวรั้น  และก็บลาๆๆๆๆ  ( นี่เป็นคำวิจารณ์ของนายธามมัน -0- )   ถ้าจะพูดถึงความป๊อปธามนี่ก็ใช่เล่นนะ   เขามีรูปร่างที่สูงโปร่ง  ผิวขาว  ตากลมโต  แต่ที่มัดใจสาวๆนั้นคือรอยยิ้มของเขา   เวลาเขายิ้มทีนึงฟันแทบจะเรียงกันออกมาครบทุกซี่และยิ่งธามเป็นคนขี้เล่นด้วยแล้วยิ่งทำให้เขามีเสน่ห์ขึ้นแบบทวีคูน







             

                     ครืดดดดดดด.....






                 ฉันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาดูก็พบว่าเป็นข้อความจากตะวัน
     


                       ' เลิกเรียนแล้ว เจอกันที่เดิมนะ  ^_^ '


                  ฉันยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะใส่โทรศัพท์กลับไปที่เดิมก่อนจะยกข้อมือขวาขึ้นมาดูพบว่าอีกชั่วโมงกว่าๆถึงจะเลิกคลาส  แต่ก่อนที่มุมปากของฉันจะยกตํ่าลงด้วยความเสียใจก็มีเสียงดังขึ้น


         
                         ตึ่งตึ้งตึง  ตึ่งตึ้งตึงตึงตึ่ง....

                         ตึ่งตึ้งตึง  ตึ่งตึ้งตึงตึงตึ่ง....


                " ใครไม่ได้ปิดเสียงโทรศัพท์ว่ะ "   ธามพูดขึ้นฉันหันไปมองหน้าเขาเล็กน้อยก่อนจะหันมองรอบๆห้องที่ตอนนี้เริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก


                เสียงคนในห้องเริ่มพูดกันว่า ' ใครไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ ' บ้างก็บอกว่า ' โทรศัพท์ของใครรีบปิดเสียงเถอะ '  บ้างก็บอกว่า ' เสียมารยาท ' เสียงในห้องตอนนี้จากที่เงียบๆก็กลายเป็นดึงหึมๆของคนพูดกัน


                     และเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น....


                 " อะแฮ่มๆ  แค่กๆ "  เสียงไอของอาจารย์หน้าชั้นทำให้ทั้งห้องเงียบลง  พร้อมกับอาจารย์ที่กำลังก้าวไปที่โต๊ะ  มึงหนึ่งก็เอื้อมไปคว้ากระเป๋ามาถือไว้  อีกมือหนึ่งก็หยิบโทรศัพท์ออกมา  พร้อมกับพูดที่แปลเป็นไทยว่า


                 " พักสิบนาที "  จากนั้นอาจารย์ก็เดินก้มหน้าถือโทรศัพท์แล้วเปิดประตูออกไป พร้อมกับเสียงในห้องที่ดังขึ้นอีกครั้ง


                 " นี่ ปิดเทอมนี้แกมีแผนจะไปไหนว่ะ"  ธามพูดขึ้น ฉันหันไปมองหน้าเขา


                 " ก็ไม่รู้สิ ตะวันไปที่ไหนฉันก็ไปที่นั้นแหละ " หลังฉับพูดจบ ธามทำหน้าตาแบบที่ฉันแปลได้ว่า แกนี่ไม่ค่อยบ้าผู้ชายเลยนะ

     

                 แหมก็คนเขาคบกันมานาน รักกันมานานยิ่งช่วงนี้ตะวันไม่ค่อยว่างด้วย ก็อยากจะสวีทกันบ้าง ถึงแม้ว่าฉันจะพูดกับตัวเองจบแล้ว แต่มันก็ยังไม่เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที ชักจะเริ่มเขินแล้วสิถูกคนหล่อจ้องนานๆ -///-

     

                 “เอ่อแล้วครั้งนี้นายจะพาสาวๆในสต๊อกไปเที่ยวไหนหล่ะ ”  ฉันถามธามเงยหน้ามองเพดานก่อนจะเอนหลังลงกับเก้าอี้แล้วถอนหายใจ

     

                  “ เห้อออ  ไม่รู้สิ ”   ฉันเริ่มรู้สึกเป็นห่วงที่เห็นเขาทำท่าทางเหมือนเบื่อโลก  มันผิดปกติสำหรับลูกเสืออย่างมัน   แต่ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรออกไปเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นก่อน


                  " วันนี้เลิกคลาสแค่นี้  เจอกันชั่วโมงหน้า "  อาจารย์พูดขึ้นแล้วก็เปิดประตูออกไปทันทีเสียงในห้องดังขึ้นอีกครั้ง ด้วยความงงกับอาจารย์  แต่ก่อนที่ฉันจะรู้สึกงงหรือสงสัยอะไร เรื่องหนึ่งก็แว๊บเข้ามาในหัวซ่ะก่อน


                  " ฉันไปละนะ บายยย "  ฉันพูดพร้อมกับลุกพรวดเดียว แล้วจํ้าเท้าทันที


                   " เห้ย!!! เดี๋ยวดิจะรีบไปไหนว่ะ  "   ธามพูดออกไปทั้งทีเห็นแผ่นหลังของแพรวห่างออกไปไกลแล้ว   

     

     

     

                   ฉันเดินออกมาจากคลาสพร้อมกับยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาพบว่าฉันเลิกก่อนเวลาตั้งหนึ่งชั่วโมงแหน่ะ   แล้วฉันก็เดินไปที่ร้านค้าก่อนจะซื้อคุกกี้ ขนมปัง แล้วก็นมอีกสองกล่อง  ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังห้องสโมสรทันที เป็นห้องสำหรับนักศึกษาชาวไทยสามารถใช้ได้ทุกคน เพื่อไว้ทำกิจกรรมหรือทำงานต่างๆ แต่ไม่ค่อยมีใครมาใช่เท่าไหร่ มีแค่ฉันกับตะวันเท่านั้นที่ใช่ห้องนี้  ที่มั่นใจก็เพราะว่าตลอดเวลาสามปีที่ใช้ห้องห้องนี้มา ไม่เคยเจอสิ่งมีชีวิตตนใดในห้องนี้แม้แต่ครั้งเดียว

     

     

                   ภายในห้องประกอบไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย แต่ที่ฉันชอบมากคือ โซฟาชุดใหญ่ที่หันหน้าเข้าหาชุดโฮมเธียเตอร์และทีวีจอยักษ์  เมื่อก่อนในวันหยุดฉันกับตะวันจะไปเช่าหนังแล้วซื้อขนมมานอนดูหนังกันที่นี่เป็นประจำเพราะมันดูแล้วอินฟินแตกมากๆ ทั้งภาพและเสียง แถมมีตู้เย็นแล้วชั้นเก็บของให้อีกต่างหาก บางครั้งฉันก็มานั่งมองวิวห้องนี้เพราะผนังฝั่งตรงข้ามกับทีวีเป็นกระจกใสทั้งหมดมองออกไปจะสามารถเห็นได้ทุกอย่าง วิวด้านนอกนั้นเป็นสวนดอกไม้ มีนํ้าพุอยู่ตรงกลางมองดูแล้วสบายตามาก แต่ในทางกลับกันด้านนอกนั้นก็สามารถมองเห็นข้างในได้ทุกอย่างเช่นกัน เอ่อออ ฉันก็แอบคิดเหมือนกันว่าวันนี้ฉันจะหาฟิลม์รถยนต์มาเเปะด้านนอกจะได้มองเข้ามาด้านในไม่เห็น 5555

     

     

                   ตอนนี้ฉันเดินมาเรื่อยๆจนถึงสวนข้างห้อง ฉันมองขนมในมือแล้วยกยิ้มมุมปากรู้สึกร้อนที่แก้มนิดๆเมื่อนึกถึงตอนที่ฉันเอาขนมของโปรดให้ตะวัน เขาจะยิ้มออกมาอบอุ่นขนาดไหน คิดเองฟินเอง -///-  จนตอนนี้ก็เดินมาถึงหน้าฉันพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุดเพราะเท่าที่ฉันจำได้ตอนนี้เขาน่าจะเลิกเรียนแล้วมานอนหลับรอฉันเหมือนทุกครั้ง ฉันค่อยๆแง้มประตูทีละนิดก่อนที่จะได้ยินเสียงอะไรดังออกมา 






                    สะ..เสียงเหมือน...เหมือนคนกำลัง...จะ จะ จูบกัน O[]O!!!  





                    เอิ่มคือร้อยวันพันปีไม่เห็นมีใครมาใช้ห้องนี้วันนี้นึกยังไงถึงโผล่กันมา ก่อนที่จะจะค่อยๆปิดประตูลง





                     ฉันหันหลังพิงประตูไว้แล้ว   ใจเต้นตึกๆ...ตึกๆ...  ฉันยกมือขึ้นกำเสื้อที่อกด้วยความตกใจที่เกือบไปเห็นฉากรักของคนอื่นเข้าให้แล้ว   ก่อนจะถอนหายใจพรวดใหญ่   และก้าวเท้าซ้ายออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อนึกถึงใครอีกคน   คนที่ตอนนี้น่าจะมาถึงที่นี่แล้ว?





                   ตึกๆ....ตึกๆ....ตึกๆ  ใจของฉันกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง  




                   ฉันใช้มือข้างที่ถือถุงขนมบิดลูกบิด  ก่อนจะแง้มประตูอีกครั้ง




                   แอ๊ดดดดดดด อะ แอ๊ดดด อะ เเอ๊ดด....  >>>>( ก็มือมั่นสั่นอ่ะ 55555 )

     

                  ฉันค่อยๆโผล่หัวเข้าไป  ก่อนที่ดวงตาของฉันจะเบิกกว้างด้วยความตกใจกับมืออีกข้างที่ว่างอยู่ยกขึ้นมาปิดปากตัวเองไม่ให้ส่งเสียง ก่อนจะดึงตัวกลับมาแล้วค่อยๆปิดประตูลง ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวก่อนที่นํ้าตาจะไหลลงมาอาบแก้ม

     

                 ภาพที่ฉันเห็นคือผู้ชายผิวสิแทนกำลังนอนอยู่บนโซฟาตัวใหญ่และมีผู้หญิงใส่ชุดเดรสเข้ารูปสีดำคนหนึ่งกำลังจูบผู้ชายผิวสีแทนคนนั้น   ผู้ชายคนนั้นนจูบตอบเธอ  พร้อมกับมือของเธอที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขา   ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะมีผ้าขาวปิดอยู่บริเวณดวงตาและหน้าผาก   แต่ฉันก็มั่นใจว่าฉันจำเขาได้  เขาคือ  ตะวัน  ผู้ชายที่ฉันรักและคบกันมานานกว่า 6 ปี






    ตอนนี้เขาทำให้ความเชื่อของฉันเริ่มสั่นคลอน

      เวลาไม่ได้ช่วยให้รักของฉันนั้นมั่นคงเลยหรอ....

       










                                                                     -  100% -
                                                    












    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×