ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮฮาประสาสามก๊ก

    ลำดับตอนที่ #31 : เล่าเสี้ยนกับข่งเบ้ง-อะไรเป็นอะไรกันแน่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.24K
      15
      27 ก.พ. 55

    พระเจ้าเล่าเสี้ยน-บุคคลที่ถูกหาว่าปัญญาอ่อน
     

    ในวันที่ปี่ของพระเจ้าเล่าปี่เริ่มผุจนจวนเจียนจะเป็นผุยผงเต็มทนนั้น ก็ได้เรียกหาคนผู้หนึ่งที่นับแต่พระองค์ได้วิ่งลิ้นห้อยหนีอดีตคู่ขาจากเกงจิ๋วถึงกังตั๋ง(เพราะดันไปฟันแล้วทิ้ง)จนยอมลงทุนโยนลูกสาวลงจากรถม้าสองคน พระองค์ท่านก็ไม่เชื่อสติปัญญามันอีกเลยและหันไปคบกับหวดเจ้งแทน... เวลาผ่านไป อดีตคู่ขาที่ว่าก็ได้ทิ้งพระองค์ไปก่อนแล้ว ส่วนพระองค์เองก็กำลังจะตายตามไปเพื่อไปง้อขอคืนดีกันในปรโลกหลังจากปราชัยแม่ทัพเด็กเมื่อวานซืนอย่างลกซุน เอาล่ะ เจ้ามังกรขี้เซานั่นคงตื่นแล้ว สติปัญญาคงเต็มล้นจนอาจจะครองก๊กชู่ได้ เพราะงั้นต้องปฏิบัติการทางจิตวิทยาซะ ว่าแล้วก็เรียกเอาจูล่ง-ยอดบอดี้การ์ดเข้ามา ไม่นานมังกรหลับก็มาบ้าง พระเจ้าเล่าปี่สำแดงความเป็นอัจฉริยะหลั่งพระอัสสุชนตรัสว่า "เจ้ามีสติปัญญาเหนือเจ้าซื่อบื้อ(ผี)มากนัก จงเอ็นดูบุตรชายข้า ถ้ามันไม่เอาไหน ก็จงตั้งตนเป็นกษัตริย์ซะ" งานนี้ข่งเบ้งถึงกับเหงื่อแตกซิกๆ เพราะไม่นึกว่าผู้ชายคนนี้จะเหนือชั้นจนกระทั่งวาระสุดท้าย มองไปเห็นจูล่งนั่งเช็ดกระบี่ก็รีบทูลตอบว่า "หม่อมฉันไม่คิดขบถเด็ดขาด ขอจงรักภักดีจนชีวิตจะหาไม่" เท่านั้นเอง เล่าปี่ก็ยิ้มอย่างเป็นสุข และจากโลกนี้ไปเพื่อพบกับน้องทั้งสองคือกวนอูและเตียวหุย แต่แอบส่งยิ้มกระหยิ่มไปยังโจโฉที่กำลังงอนแก้มป่อง
     
    โจโฉเคยปล่อยให้จูล่งพาอาเต๊าหนี ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเห็นแก่อาเต๊าที่เป็นทารกด้วย น่าเสียดายที่อาเต๊าไม่มีโอกาสได้ขอบคุณโจโฉบ้าง

    ที่พูดมานี่หาได้มั่วอย่างไร้สาระเพราะเมื่อพุธที่ผ่านมาผมเจอวีดีโอคลิปที่บรรยายความรักที่มีต่อโจโฉผ่านความทรงจำของเล่าปี่โดยบังเอิญ โดยตัดต่อภาพโจโฉจาก red cliff(โจโฉแตกทัพเรือของจอหน์ วู)มาแสดงคู่กับเล่าปี่จากซี่รี่ย์สามก๊ก 2010 เพลงประกอบวีดีโอเพราะมากและภาพก็สวยมากด้วยครับ แทรกฉากสวนดอกท้อกับฉากฝนตกได้เหมาะเจาะ  แต่ที่ต้องยอมรับความสามารถของตนตัดต่อว่าสุโค่ยจริงๆ คือฉากโจโฉในชุดขาวที่นั่งอยู่แล้วหันไปมองเล่าปี่ที่กำลังถอดเสื้อ(!?) เล่าปี่เขามาจูบโจโฉแล้วก็วืบๆ (-"-) ซึ่งผมถึงกับอ้าปากค้างว่า "คู่นี่ได้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมกูไม่รู้เรื่อง!?" คือ... มันตัดต่อดีมากจนผมเชื่อไปวูบหนึ่งว่าสองคนนี้ได้เสียกันจริงๆ แม้จะไม่แน่ใจว่ามันเป็นปี่/โฉหรือโฉ/ปี่ก็ตาม อีกฉากที่ยอดที่สุดๆ ก็คือไคลแม็กซ์ที่เล่าปี่ฆ่าโจโฉ โดยตัดต่อภาพเล่าปี่แทงกระบี่กับภาพที่เลื่อนไปตามความยาวของกระบี่เข้ากับฉากที่กระบี่แทงไปที่โจโฉในred cliff ทำให้เกิดอารมณ์ร่วมว่าโจโฉถูกแทงอย่างสมจริง ฉากนี้ได้อารมณ์ดราม่ามากเมื่อรวมเข้ากับภาพเล่าปี่หลั่งน้ำตากับภาพแอ่งเลือดซึ่งเหมือนจะเป็นของโจโฉแล้วเพลงก็เริ่มโหยหวน จากนั้นเล่าปี่ก็ขึ้นเป็นฮ่องเต้โดยมีภาพงานศพโจโฉเป็นเงาๆ ลางๆ ทว่า เวลาที่ซื้อไว้หมดก่อน ผมจึงไม่รู้ตอนจบที่ยังเหลืออีกนิดหน่อยและไม่สามารถเซฟเวปมาลิ้งค์ให้เข้าไปดูได้  ที่เด็ดสุดๆ คือคลิปนี้คนจีนทำ(คนจีนเค้าวายคู่นี้กันรึ!?)
     
    โจโฉกับเล่าปี่..(-"-) ตัวใครตัวมันครับงานนี้

    อ้าว... แล้วผมมาเล่าเรื่องวายๆ ของเล่าปี่กับโจโฉทำไมเนี่ย ปะ เรากลับไปคุยเรื่องอาเต๊ากับข่งเบ้งกันต่อ...

    ตลอดเวลาที่พระเจ้าเล่าเสี้ยนครองราชย์นั้นไม่ได้ทำอะไรนอกเสพสุขไปวันๆ ว่ากันว่าเพราะเล่าปี่นั่นแหละที่โยนลูกลงพื้นแล้วจูล่งรับไม่ทันจึงเอ๋อมาจนถึงตอนโต แม้จะมีอายุยี่สิบแล้วแต่สติปัญญาเท่ากับเลขสองเพียงตัวเดียวทำไมไม่มีใครสอนอาเต๊าให้เป็นคนดีได้ เจ้าขันทีอุยโฮมันเป็นชายงามล่มเมืองรึไงอาเต๊าเป็นไปได้ขนาดนั้น เล่าชวนหัวกล่าวว่าอาเต๊าเป็นฮ่องเต้สุดมหัศจรรย์ที่เป็นทั้งคิงและควีนในคนเดียวกันและยังตั้งข้อสงสัยว่าข่งเบ้งเคยเป็นคิงหรือควีนให้อาเต๊าบ้างรึไม่(ทำให้ผมขนลุกเหมือนกันว่าโจโฉเคยเป็นคิงหรือควีนให้เหี้ยนเต้หรือไม่ ทำไมพูดอะไรเหี้ยนเต้จึงจ๋าจ้าไปหมด อายุของทั้งคู่ห่างกันเท่ากับที่ข่งเบ้งห่างจากเอาเต๊า)  เล่าปี่ไม่มีตัวเลือกอื่นสำหรับต่ำแหน่งผู้สืบทอดรึไงเมื่อตามประวัติศาสตร์จริงอาเต๊าไม่ใช่ลูกชายคนเดียวและไม่ใช่ลูกคนโตด้วย ไม่ใช่แม้แต่ลูกของมเหสีที่ต่อมาเป็นฮองเฮา เล่าปี่เอาสมองส่วนไหนคิดถึงเอาเด็กปัญญาอ่อนมาเป็นฮ่องเต้ต่อจากตน และเล่าปี่ตัวจริงในประวัติศาสตร์ก็ฉลาดยิ่งนักไม่ใช่ไอ้งั่งพอที่จะให้เล่าชวนหัวแหวะ นั่นเป็นเหตุที่ทำให้ผมกังขาเกี่ยวกับสติปัญญาที่แท้จริงของอาเต๊า  เรามาดูหลักความจริงกัน, อาเต๊าเป็นลูกเล่าปี่คนที่หนึ่งในแผ่นดินพออุแว๊ออกมาปับก็มีข่งเบ้งมาอยู่ด้วย รอบตัวมีคนดีๆ อย่างจูล่ง กวนอู เตียวหุย เกียงอุย ฯลฯ เต็มไปหมด ทำไมถึงได้ผ่าเหล่าอย่างมากมายขนาดนั้น ความไม่เข้ากันของสามก๊กเวอร์ชั่นนิยายกับประวัติศาสตร์จริงทำให้เรื่องของอาเต๊าเป็นอะไรที่น่าศึกษามากเพราะถ้าเล่าปี่-ข่งเบ้งดีเลิศสมกับที่ได้เป็นเทพเจ้าอาเต๊าก็คือคนฉลาดเจ้าเล่ห์เห็นแก่ตัวที่หลอกคนทั้งแผ่นดิน เพราะข้อแก้ตัวที่ดีที่สุดคือพระองค์ทรงปัญญาอ่อนจึงไม่สามารถเป็นคนดีได้ ผมจึงอยากให้ทุกท่านพิจารณาร่วมกัน

    ประการแรก  เมื่อข่งเบ้งถวายฎีกาออกศึก ฉบับเจ้าพระยาแปลออกมาอย่างจืดชืดเมื่อเทียบกับต้นฉบับที่เต็มไปด้วยถ้อยคำลึกซึ้งบีบอารมณ์ขนาดว่าถ้าอ่านอย่างถ่องแท้แล้ว(ขอเน้นว่าต้องถ่องแท้)ไม่ร้องไห้ก็ใจแข็งยิ่งนัก แต่ถามหน่อยว่าถ้าอาเต๊าปัญญาอ่อนจริงไอ้ฎีกาเล่มนี้จะมีประโยชน์อะไร? แทนที่ข่งเบ้งจะเอาเวลามานั่งคิดถ้อยคำอันลึกซึ้งสู้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า แล้วเวลาพูดกับอาเต๊าก็พูดเหมือนพูดกับเด็กอาเต๊าย่อมฟังรู้เรื่องและปฏิบัติตามได้ สรุปแล้วฎีกาเล่มนี้มีค่าเท่ากับกระดาษเช็ดก้นเท่านั้นเอง แต่เนื่องจากผมไม่คิดว่าข่งเบ้งโง่ขนาดนั้น ผมจึงสงสัยว่าอาเต๊าอาจจะไม่ได้โง่จริงข่งเบ้งจึงกล้าถวายฎีกา หรือถ้าเราจะแก้ต่างให้พฤติกรรมโง่ๆ ของข่งเบ้งว่าอาจจะเขียนให้คนอื่นสำนึกตัวไม่ใช่ให้อาเต๊าอ่าน นั่นก็ยิ่งโง่ไปใหญ่เพราะถ้าเค้าสวนกลับมาว่า "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" ข่งเบ้งจะรักษาหัวกับตัวยังไงไหว เพราะเนื้อความนั้นประจานเล่าปี่แบบสุดๆ ด้วยว่าล้มเหลวไม่ได้เรื่องไม่ได้ความมาตลอดจนมาเจอข่งเบ้ง(ทั้งที่หลังติดตีนหมาหนีโจโฉไปหาซุนกวนแล้วเล่าปี่ไม่ให้ข่งเบ้งมีส่วนในกิจการสงครามเลย) ไหนจะบอกว่าเล่าปี่ฝากอาเต๊าไว้กับตนแล้วต้องเชื่อฟังตน ตนรับใช้แผ่นดินเพราะเห็นแก่เล่าปี่ไม่ใช่เพราะอาเต๊า รวมทั้งจัดการให้รายชื่อบุคคลที่ควรคบหา เพราะนอกนั้นไว้ใจไม่ได้ ฯลฯ ซึ่งถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่อาเต๊าอ่านเท่ากับประกาศสงครามทางการเมืองทันที ข้าราชการกว่าเจ็ดในสิบของชู่จะต้องเป็นศัตรูกับท่านเพราะท่านได้บอกว่าพวกเขาไว้ใจไม่ได้
     
    จุดมุ่งหมายของข่งเบ้งดูจะเป็นการพิชิตวุ่ยมากกว่าจะเป็นการปกป้องประเทศให้ร่มเย็น ซึ่งปณิธานนี้มีที่มาจากความเจ็บแค้นต่อโจโฉมากกว่าจะเพราะเคารพเล่าปี่

    ประการที่สอง  ผมตั้งข้อสังเกตว่าบางครั้งอาเต๊าไม่เหมือนคนปัญญาอ่อน ช่วงที่จะมีศึกกับรัฐหวู่พระองค์พยายามเรียกข่งเบ้งเข้ามาปรึกษาหารือ เมื่อข่งเบ้งจะออกศึกอีกครั้งพระองค์ก็ทรงพอพระทัยในอาณาเขตของตนและเห็นว่านโยบายทางการเมืองที่ดีคือการเป็นพันธมิตรกับทั้งสองรัฐ ส่วนข่งเบ้งก็ควรพักผ่อนแล้วเอาเวลาที่เหลือมาพัฒนาบ้านเมืองดีกว่า เมื่อข่งเบ้งถวายฎีกาเพื่อขอออกศึกอีก อาเต๊าก็บอกว่า "ขณะนี้สถานการณ์อยู่ในสภาพถ่วงดุลกันอย่างสมบูรณ์แล้วทั้งสามรัฐ ทั้งรัฐเว่ยและหวู่ก็ไม่รุกรานเราแล้ว ไฉนเราไม่เร่งฟื้นฟูบ้านเมืองเล่า" นี่ไม่เรียกว่าปัญญาอ่อนแล้วครับแต่เรียกว่าเฉลียวฉลาด! เมื่อจูล่งตายอาเต๊าอาลัยอาวรณ์มากก็โปรดให้จูล่งได้เป็นพระยา(เหา) แต่จนแล้วจนรอดข่งเบ้งที่สำเร็จราชการแผ่นดินก็ไม่ยอม จนสมัยที่อำนาจไปอยู่ในรุ่นศิษย์สำนักมังกรหลับแล้วอาเต๊าก็เดินเรื่องนี้อีกครั้ง พอไม่ได้รับการตอบรับอาเต๊าจึงฟาดเข้าให้ว่า "อีแค่แต่งตั้งคนตายให้เป็นพระยานี่มันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดทำให้ราชการแผ่นดินเดินต่อไม่ได้รึไง" เกียงอุยจึงหมดทางเลี่ยงแล้วทำตามพระบัญชา คำพูดนี้คนปัญญาอ่อนพูดเหรอ
     
    อาเต๊ามีความผูกพันธ์กับจูล่งมาก

    แล้วข่งเบ้งเล่า ฮีบอกเองว่าไม่ต้องการสนับสนุนคนไม่มีความสามารถ ไฉนจึงเขียนด้วยมือลบด้วยเท้าไปเสีย เพราะความภักดีต่อเล่าปี่เหรอ? เล่าเปียวมีบุญคุณกว่าเล่าปี่ขนาดว่าถ้าไม่ได้เล่าเปียวข่งเบ้งตายไปแล้วข่งเบ้งยังกล้าสนับสนุนเล่าปี่ให้ชิงเมืองจากเล่าเปียว แต่คราวนี้กลับรับใช้อาเต๊าแบบหัวปักหัวปำโดยอ้างความภักดี  ถ้าอาเต๊าเป็นคนมีความสามารถทำไมไม่ยอมมอบอำนาจตัดสินใจในเรื่องสำคัญบางเรื่องแก่อาเต๊าบ้างล่ะ ถ้าอาเต๊าปัญญาอ่อนจริงข่งเบ้งทำไมยังเชิดชูอาเต๊าทั้งๆ ที่ประชาชนมากมายกำลังเดือดร้อนเพราะความไม่เอาไหนของพระองค์ ใครกันแน่ที่กุมจักรพรรดิเพื่อบัญชาปวงขุน? เพราะในประวัติศาสตร์จริงโจโฉให้สิทธิเต็มแก่เหี้ยนเต้และพระองค์ก็ฉลาดโยนการตัดสินใจทั้งหมดให้โจโฉเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดหลังโจโฉตาย ถ้าท่านลำบากใจที่จะหาฉบับประวัติศาสตร์มาอ่านลองพิจารณาฉบับเจ้าพระยาในมือก็ได้ครับ ท่านจะพบว่าข่งเบ้งควบคุมอาเต๊าทุกอย่างและไม่ให้เกียรติพระองค์ในฐานะฮ่องเต้เลย แม้จะเป็นสามก๊กฉบับเชียร์ข่งเบ้งก็ยังปกปิดเรื่องนี้ไม่ได้ จนผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าการเขียนเรื่องโกหกให้โจโฉคุกคามเหี้ยนเต้ทั้งที่ไม่เป็นความจริงในประวัติศาสตร์นั้นอาจจะเพื่อให้ภาพลักษณ์ของข่งเบ้งดูดีขึ้นด้วย  แต่ถ้าข่งเบ้งไม่ใช่คนเลวแบบนั้น อาเต๊าก็ร้ายกาจเหลือเกินที่หลอกใช้ความภักดีของข่งเบ้งโดยการทำตัวปัญญาอ่อนเพื่อจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แล้วยังพูดกับสุมาเอี๋ยนว่าเราอยู่ที่นี่เรามีความสุขที่สุดในชีวิต ถ้าเห็นตำแหน่งฮ่องเต้เป็นเหมือนนกในกรงทำไมไม่สละราชสมบัติให้พระเชษฐาหรืออนุชาล่ะ

    แต่แน่นอนว่าความสัมพันธ์ในเบื้องลึกของพระเจ้าเล่าเสี้ยนและข่งเบ้งนั้นความจริงเป็นเช่นไรไม่มีใครกล้าฟันธง เพราะเราไม่ได้เห็นกับตา เพียงแต่ผมตั้งข้อสงสัยว่าอาเต๊าปัญญาอ่อนจริงหรือไม่ ถ้าไม่ปัญญาอ่อนข่งเบ้งอาจจะมีสภาพเป็นผู้ร้ายอย่างยิ่งยวดทันที แต่ถ้าปัญญาอ่อน การรวบอำนาจของข่งเบ้งย่อมสมเหตุสมผล แต่ถ้าอาเต๊าปัญญาอ่อนจริงเล่าปี่เป็นบ้าอะไรถึงตั้งอาเต๊าเป็นรัชทายาททั้งๆ ที่เล่าปี่ไม่ได้มีลูกชายแค่คนเดียว และลูกชายทุกคนล้วนมีความสามารถทั้งสิ้น
     

    สามก๊กไม่ควรอ่านเกินสามจบเว้นแต่จะอ่านเอามัน แต่ถ้าอ่านอย่างพินิจไม่ควรอ่านให้จบเลย เพราะจบแรกท่านอาจจะแค่ตะลึงพรึงเพลิดกับความดีเลิศของภายพระเอกไม่ว่าคุณธรรม ความกล้าหาญ หรือ สติปัญญา  พอจบที่สอง ท่านจะเริ่มมีไอดอลในดวงใจ หรืออย่างน้อยที่สุด ท่านเริ่มสนใจในกลยุทธที่ปรากฏในสามก๊ก  แต่พออ่านจบที่สามท่านจะเริ่มคลางแคลงใจว่าผู้ร้ายของเรื่องร้ายจริงหรือไม่ และพระเอกของเรื่องดีพอหรือไม่ พอจบที่สี่เป็นต้นไป ความรักที่ท่านมีต่อพวกพระเอกอันได้แก่เล่าปี่ ข่งเบ้ง กวนอู ฯลฯ จะเริ่มย้ายไปอยู่ที่ฝั่งโจโฉ และถ้าท่านอ่านแบบพิจารณาตั้งแต่ห้าจบขึ้นไปท่านไม่ควรอ่านประวัติศาสตร์ เพราะหากท่านอ่านประวัติศาสตร์ ท่านอาจจจะฉีกสามก๊กฉบับเจ้าพระยาเนื่องจากทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ล้วนเหลวไหล... แต่ในทางกลับกัน ถ้าท่านอ่านเอามันส์ท่านจะรักฝ่ายพระเอกมากขึ้นทุกวันจนถึงขั้นรับประวัติศาสตร์ไม่ได้และเชื่อว่าบันทึกเหล่านั้นยกย่องโจโฉเกินจริงไป ซึ่งบางคนอาจจะถึงขั้นฉีกประวัติศาสตร์ทิ้งไปเลยก็มี

    ตอนหน้า ผมจะขออนุญาตพักเบรกด้วยการคุยเรื่องการ์ตูนและโดจินสามก๊ก ก่อนจะนำท่านไปพบกับนักรบท่านหนึ่งของลิโป้ที่ต่อมาได้สวามิภักต่อโจโฉ และแน่นอนว่าเขาเป็นนักรบในดวงใจของผมคนหนึ่งทีเดียว และตอนถัดไปอีกก็พลาดไม่ได้กับศึกใหญ่ครั้งที่สามและเส้นทางอำนาจของพระเจ้าเล่าปี่ แล้วท่านจะรู้ว่าเล่าปี่ตัวจริงเท่กว่าในสามก๊กของหลอกว้านจนหลายขุมนัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×