ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิศวาส เสน่หา KrisHun ver. [END]

    ลำดับตอนที่ #20 : บทที่ 20

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.38K
      3
      12 มี.ค. 56

    บทที่ 20: สวย เผ็ด จิก

     

     

     

     

     

         “กรี๊ดดดดดดดดดดด!!

         เสียงกรีดร้องแหลมกระแทกปรอทของซูยอนดังขึ้น เมื่ออ่านจดหมายยกเลิกสัญญาจบ มือบางยกขึ้นแตะมุมปากที่โดนฮยอกแจตบซะจนเกือบเสียโฉม ก่อนจะฉีกมันทิ้งอย่างรุนแรงจนไม่เหลือชิ้นดี

         ทำไมคริสถึงได้กล้าทำอย่างนี้กับเธอ ฝ่าเท้าบดขยี้เศษกระดาษนั้นอีกที นัยน์ตาจิกร้านแค้นเคืองที่เขากล้าทำกับเธอถึงขนาดนี้ ต้องไปคุยให้รู้เรื่อง

         ว่าแล้วร่างบางก็ออกจากที่พักขึ้นรถแล้วตรงไปยังบริษัทของคริส จะถามให้ชัดๆ ว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับเธอ ในเมื่อแผนที่จะมอมเหล้าพลาด ดังนั้นเธอจะต้องเป็นเสี้ยนหนามนังเด็กนั่นต่อไป

         ร่างสูงเพรียวบางเดินเข้ามาในบริษัทของคริส แม้จะต้องเอามือปิดปากที่บวมเป้งไปบ้างก็ตาม และพอถึงหน้าห้องของคริสก็เจอกับเลขาสาวคนใหม่ของซีวอนที่ชื่อ เฟยหยง ที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดไม่แพ้กันยืนขวางทางไว้

         “เดี๋ยวก่อนค่ะ!

         “เอ๊ะ...เธอ ฉันจะเข้าไปหาคริส หลีกทางหน่อยสิ”ซูยอนขึ้นเสียงพร้อมจิกตาร้ายใส่

         “ไม่ได้ค่ะ บอสสั่งไว้ว่าห้ามให้คุณเข้าพบ”เฟยหยงว่าพร้อมกันท่าอย่างเต็มที่ ซูยอนจึงเข้าไปกะจะกระชากตัวขวางทางออก แต่ก็โดนเลขาสาวที่แม้จะผอมแห้งไปบ้างแต่แรงช้างสารเหวี่ยงออกมา

         “นังนี่! แกคิดว่าแกเป็นใครฮะ! จะขวางทางฉันรึไง”ซูยอนขึ้นเสียง เป็นเหตุให้ผู้คนที่ผ่านไปมาหันมามอง

         “ฉันก็เป็นเลขาน่ะสิคะ ดูไม่ออกหรือว่าสมองมันกลวงจนคิดไม่เป็นคะ”เฟยหยงตอกกลับอย่างเจ็บแสบ ทำเอาซูยอนถึงกับโกรธจนเนื้อเต้น

         “แกด่าฉัน!”ซูยอนชี้หน้าอย่างเกี้ยวกราด

         “อ้าว ฉลาดนี่ งั้นก็ฟังให้ดีๆ นะคะ บอสบอกฉันว่า ห้ามไม่ให้คุณเข้าไป แล้วคุณยังจะหน้าด้านเข้าไปอีกเหรอคะ”เฟยหยงพูดพร้อมตีสีหน้าบ้องแบ๊ว

         “กรี๊ดดด แกด่าฉันว่าหน้าด้าน! แกอย่าอยู่เลย ขอตบสักทีเถอะ!”ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็เงื้อมือขึ้นหมายจะฟาดลงที่แก้มขาวๆ ของเฟยหยง แต่ทว่าได้ฟาดลมแทนเมื่อเฟยหยงหลบไปอีกทาง ทำให้คนที่จะตบกลายเป็นจับกบแทน

         “ฮะๆๆๆ ลงไปจับกบหรือคะคุณซูยอน ฮ่าๆๆ”เฟยหยงหัวเราะรวนอย่างสะใจ

         ซูยอนเงยหน้าขึ้นมามองจิกตาใส่ ก่อนจะลุกขึ้น พอดีกับที่คริสเปิดประตูออกมา ซูยอนจึงเข้ากอดแขนอย่างอ้อนๆ

         “คริสขา นังเลขาคนนี้มันรังแกเจสค่ะ”ซูยอนฟ้องทันที พร้อมกับจิกตาใส่อย่างเป็นต่อ โดยที่เฟยหยงหาได้สนใจ แถมยังลอยหน้าลอยตาได้อีกจนน่าหมั่นไส้ แต่แล้วซูยอนก็ต้องอึ้งเมื่อคริสกระชากแขนตนออก

         “คริส!”ซูยอนครวญเสียงเบา

         “ขอโทษนะเจส ก่อนที่คุณจะไปว่าเขาหัดดูตัวเองก่อนเถอะ แล้วก็จะมาหาผมเรื่องสัญญาใช่ไหม ไม่ต้องห่วงเพราะผมจะชดเชยค่าเสียหายให้ แต่ว่าคุณควรจะไปจัดการเรื่องฉาวโฉ่ของตัวเองก่อนดีกว่า เพราะผมคงไม่ยอมให้บริษัทเสียหายเพราะปลาเน่าเพียงตัวเดียว!”คริสร่ายยาวอย่างเจ็บแสบ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับเฟยหยงแล้วเดินเข้าห้องไป

         “คริสคะ คริส!”ซูยอนร้องเรียกหลังจากที่หายตะลึง เฟยหยงจึงหันไปพูดด้วยอย่างกวนเส้นอารมณ์

         “ว่าไงคะ เขาไล่ขนาดนี้แล้วยังไม่ไปอีกเหรอ ด้านกว่าที่คิดไว้อีกนะคะเนี่ย ด้านขนาดนี้น่าจะใช้กระดาษทรายขัดให้บางบ้างนะคะ สงสัยหน้าคุณคงจะเสริมใยเหล็กมาแน่ๆ เลยถึงได้ด้านแล้วก็ทนขนาดนี้”เฟยหยงด่าอย่างสะใจพร้อมหัวเราะเยาะอีกที เล่นเอาซูยอนถึงกับโกรธจนจะปรี่เข้าไปตบอีกครั้ง แต่คราวนี้เฟยหยงไม่หลบ แต่แกล้งเอาขาไปสะดุด จนซูยอนล้มลงอย่างแรง

         “อุ๊ย! ขอโทษทีนะคะ เผอิญว่ามองไม่เห็น”แล้วทำท่าเหมือนจะนึกได้ก่อนจะก้มลงไปที่ใต้โต๊ะ และหยิบเอาห่อกระดาษขึ้นมาก่อนโยนไปใส่หญิงสาวที่นั่งแค้นอยู่

         “เผอิญว่าที่นี่ไม่มีปี๊ปให้คลุมหัว ใช้ถุงกระดาษนี่ไปก่อนก็แล้วกันนะคะ”

         เลขาสาวเยาะเย้ยหนึ่งที ก่อนจะเดินถือเอกสารเข้าไปในห้องทำงานของคริส ทิ้งให้ซูยอนร้องกรีดอย่างอับอายและเจ็บใจอยู่คนเดียว

         “กรี๊ดดดดดด!!”เสียงกรี๊ดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ จนผู้คนที่เดินผ่านไปมาหันมามอง ซูยอนมองไปรอบตัวก่อนจะกรี๊ดขึ้นมาอีกครั้งอย่างเจ็บใจ แล้วลุกเดินออกไปอย่างแค้นสุดๆ

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         คริสที่ขับรถมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านพ่อของตัวเอง ชายหนุ่มลังเลที่จะเข้าไปจนคนที่เปิดประตูแทบจะเข้าไปด่าว่าจะเข้าหรือไม่เข้า ไม่เข้าก็จะได้ปิด แต่มีหรือที่คริสจะให้เป็นอย่างนั้น ชายหนุ่มขับรถเข้ามาในตัวบ้านหลังจากที่คิดอยู่นาน และจอดตรงหน้าประตูโดยมีอี้เหว่ยยืนรออยู่แล้ว

         “สวัสดีครับนายน้อย ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”อี้เหว่ยคนขับรถมายืนรับกุญแจ

         “เออ แล้วพ่ออยู่ไหน”คริสถามหาพ่อทันที

         “พอดีเลยครับ ท่านเพิ่งกลับมาจากสมาคมกอล์ฟ”อี้เหวยรายงาน

         คริสพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน ร่างสูงตรงไปยังห้องนั่งเล่นซึ่งมีคุณผู้ชายของบ้านนั่งจิบกาแฟและดูโทรทัศน์อยู่

         “พ่อ เซฮุนล่ะ”คริสถามหาเซฮุนทันทีที่เห็นพ่อของตัวเอง เรียกความหมั่นไส้จากเฉินไม่น้อย ที่เห็นพ่อตัวเองแทนที่จะทักทายพูดคุยกันบ้างแต่กลับถามหาเมีย

         “ไม่มาบ้านซะนานนะ”เฉินถามเปลี่ยเรื่องขึ้นเฉยๆ

         “นั่งสิ”คริสนั่งลง ก่อนมองไปรอบๆ บ้าน

         “เซฮุนล่ะพ่อ”เขาถามย้ำอย่างร้อนรนเหมือนจิตใจที่กำลังร้อนระอุ

         “อุวะ แล้วแกเห็นไหมล่ะ ฉันนั่งหัวโด่อยู่นี่ยังจะถามหาคนอื่นอีก”เฉินพูดอย่างฉุนๆ

         “เซฮุนไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นเมียผม”คริสแก้คำพูดของบิดา

         “เขาไม่อยู่หรอก”เฉินตอบ ก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาจิบอีก

         “ไปไหน”คริสยิงคำถามต่อทันที

         “เห็นว่า...มีผู้ชายมารับไป”เฉินแกล้งตอบเลไปทางอื่น ด้วยความอยากแกล้งลูกชาย

         “ผู้ชาย ใช่คนที่ชื่อแบคฮยอนรึเปล่าพ่อ”ชายหนุ่มถามอย่างฉุน เมื่อคิดว่าเมียเขาออกไปกับคนอื่นที่เขาแสนจะเหม็นหน้า

         “มั้ง เห็นหนูเซฮุนเรียก แบคๆ อะไรเนี่ยแหละ”เฉินตอบ ก่อนจะยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาปิดปากที่กลั้นหัวเราะไว้ นานๆ จะเห็นมันบ้าสักที

         “บ้าเอ๊ย!”คริสสบถเสียงดัง ก่อนจะเดินปึงปังออกไปอย่างหงุดหงิดที่มาเสียเที่ยว

         “อ้าว แล้วแกไม่อยู่กินข้าวเย็นเหรอวะไอ้คริส!”เฉินตะโกนตามหลัง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีที่สามารถแกล้งลูกชายได้

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         ด้านเซฮุนที่ออกมากับซิ่วหมินนั้น ก็กำลังเลือกชุดอย่างสนุกสนาน ความจริงแล้วเซฮุนไม่ได้เลือก แต่ซิ่วหมินกับแทมินคอยจับเด็กหนุ่มเป็นตุ๊กตาแต่งตัวอยู่ต่างหาก นี่ก็ลองมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบชุดแล้ว ทั้งชุดออกงานเอย ชุดใส่เล่นเอย ชุดไปเที่ยวเอย เหลือตอนนี้คงเป็นชุดว่ายน้ำแน่ๆ ซึ่งเด็กหนุ่มไม่ยอมลองเด็ดขาด

         “คุณแม่ฮะ ผมว่ามันเยอะมากแล้วนะฮะ”เซฮุนบอกอย่างเกรงใจ เมื่อเห็นชุดที่ซิ่วหมินเลือกให้มีพนักงานในร้านถือให้อยู่เกือบสิบคนแล้ว แถมแต่ละชุดก็แพงจนขนลุก

         “ได้ยังไง หนูเซฮุนต้องแต่งตัวให้สมกับเป็นสะใภ้ตระกูลอู๋สิจ๊ะ”ซิ่วหมินว่า ก่อนจะเอาชุดเสื้อเชิ้ตแขนกุดสีหวานมาทาบตัวของเซฮุนอีกหนึ่งตัว

         “แต่ว่า...ทั้งหมดนี่ผมจะใส่หมดรึเปล่าก็ไม่รู้นะฮะ”ร่างบางว่าพลางหันไปมองพนักงานสาวในร้านที่ยืนหน้าเหยเกเพราะความหนักของชุดที่ถือคนล่ะไม่ต่ำกว่าสิบตัว ก่อนพยักเพยิดให้ซิ่วหมินหันไปมอง พอซิ่วหมินหันไปมองก็ตกใจนิดหน่อย

         “อุ๊ย สงสัยแม่จะเลือกเพลินไปหน่อย งั้นพอแค่นี้ก่อนละกัน”ซิ่วหมินหันไปพูดกับแทมิน ก่อนจะยื่นบัตรเครดิตให้ คีย์กลับไปเช็กเงิน พักเดียวก็เดินออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

         “ครั้งนี้ถูกกว่าครั้งที่แล้วนะฮะคุณซิ่วหมิน”

         “ครั้งหน้าจะมาอุดหนุนใหม่นะจ๊ะหนูแทมิน”

         “ยินดีฮะคุณซิ่วหมิน”แทมินยี้มแก้มปริ แม้ว่าครั้งนี้จะซื้อน้อยไปหน่อย แต่ว่าราคาก็สูงไม่ใช่เล่น

         เพ่ยหลงเอาชุดที่พนักงานในร้านเอามาให้ไปวางไว้ในรถ ก่อนจะรีบมาเปิดประตูให้ทั้งสองขึ้นไปนั่ง ก่อนตัวเองจะไปขับรถกลับ

         “หนูเซฮุนนี่ดีนะ ใส่ชุดอะไรก็สวยไปหมด”ซิ่วหมินชม เพราะชุดที่เลือกให้นั้นมักจะใส่ได้พอดีตัวของเซฮุนได้หมด

         “ไม่ขนาดนั้นหรอกฮะคุณแม่”เซฮุนตอบอย่างอ่อนน้อม ซิ่วหมินยิ้มอย่างเอ็นดู

         และก่อนจะขับรถกลับถึงบ้านเผอิญผ่านร้านขายผลไม้ต่างประเทศ เซฮุนเห็นผลกีวี่ผลใหญ่วางเรียงกันก็เกิดอาการอยากทานขึ้นมาซะอย่างนั้น จึงบอกเพ่ยหลงให้จอดก่อน

         “จอดทำไมเหรอจ๊ะหนูเซฮุน”ซิ่วหมินถามอย่างงงๆ เมื่อจู่ๆ เซฮุนก็บอกให้จอดรถกะทันหัน

         เซฮุนหันมาตอบซิ่วหมินตาเป็นประกาย

         “อยู่ๆ ผมก็อยากทานกี่วี่ขึ้นมานะฮะคุณแม่ มันโลนึงไป”ซิ่วหมินหันไปสั่งคนขับรถ

         “ครับ”เพ่ยหลงรับคำ แต่ต้องชะงักเมื่อเซฮุนเรียกไว้ก่อน

         “เดี๋ยวฮะ โลนึงคงไม่อิ่ม ขอสักสามโลเลยแล้วกัน นี่เงิน”เซฮุนบอก

         “ได้ครับ”เพ่ยหลงรับคำ งงในคำสั่งว่าจะเอาไปทำไมตั้งสามโล

         “หนูเซฮุน...ทำไมถึงได้ทานเยอะขนาดนั้นล่ะ”ซิ่วหมินถามอย่างตกใจ

         “ไม่รู้สิฮะคุณแม่ รู้สึกอยากขึ้นมาเฉยๆ”เซฮุนตอบตามความเป็นจริง ก่อนจะมองเพ่ยหลงที่วิ่งกลับมาพร้อมกี่วี่ลูกโตๆ สามกิโล ตามที่เจ้านายสั่ง

         “ได้แล้วครับ”

         “ขอบใจมากจ้ะ”เซฮุนยิ้มให้ พลางกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อยเมื่อคิดถึงรสชาติของมัน

         เมื่อขับรถกลับมาถึงบ้าน ซิ่วหมินก็ตรงไปยังห้องนั่งเล่นที่สามีนั่งรออยู่

         “คุณเฉิน กลับมานานแล้วหรือครับ”ซิ่วหมินถามและนั่งลงข้างๆ ซิ่วหมินนั่งลงที่โซฟาอีกตัว โดยมีหลงหยกยกน้ำเย็นมาเสิร์ฟ

         “ขอบใจจ้ะ หลงหยกเอากีวี่จากเพ่ยหลงไปจัดใส่จานด้วยนะจ้ะ”เซฮุนพูด หลงหยกเดินไปรับถุงใส่กีวี่จากเพ่ยหลง ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นว่ามีตั้งสามถุง

         “ทั้งหมดนี่เลยหรือคะ”เธอถามอย่างสงสัย เซฮุนพยักหน้า

         “เร็วหน่อยนะจ๊ะ”

         “ได้ค่ะ”แล้วหลงหยกก็เดินตรงไปยังครัวแทบจะในทันที

         เฉินมองกีวี่ที่เซฮุนบอกให้หลงหยกไปจัดใส่จานอย่างอึ้งๆ เยอะขนาดนั้นใครจะกินหมด ก่อนจะหันไปตอบคำถามของภรรยา

         “ผมกลับมาได้ซักพักแล้วล่ะซิ่วหมิน อ้อหนูเซฮุน เจ้าคริสมันมาหาหนูด้วยนะ”เฉินหันไปบอกเด็กหนุ่ม ซึ่งเมื่อรู้ก็ทำหน้าไม่ถูก ใจหนึ่งก็ดีใจ แต่ใจหนึ่งยังโกรธอยู่

         “หน้ามันเหมือนคนกำลังจะตายเพราะหาเมียไม่เจอ”เฉินหัวเราะ

         “เหรอฮะ”เซฮุนตอบเศร้า แต่ไม่ถึงสิบนาทีก็ตาใสเมื่อเห็นจานใส่กีวี่จานใหญ่มาวางไว้ตรงหน้า

         “ว้าว น่าทานจัง ขอบใจมากจ้ะหลงหยก”เซฮุนเอ่ยขอบคุณก่อนจะจิ้มส้อมลงที่เนื้อแดงๆ ของกีวี่ ก่อนจะเอาเข้าปาก

         “อร่อยไหมจ๊ะ”ซิ่วหมินถามยิ้มๆ

         “อร่อยมากฮะคุณแม่ คุณแม่ทานด้วยกันสิฮะ”

         “จ้ะ”ซิ่วหมินตอบ ก่อนจะจิ้มส้อมแล้วเอาเข้าปาก

         “หวานจัง”ซิ่วหมินว่าพร้อมหลับตาปี๋ เป็นเพราะว่าไม่ชอบกินรสหวาน

         “คุณแม่ไม่ชอบเหรอฮะ”เซฮุนถาม พลางจิ้มไปอีกชิ้น

         “ชอบจ๊ะ แต่แม่ไม่ทานหวานขนาดนี้”ซิ่วหมินตอบเลี่ยงๆ ก่อนจะวางส้อมลง

         “งั้นผมขอเอาไปทานบนห้องนะฮะ”เซฮุนขออนุญาต ซิ่วหมินพยักหน้าให้อย่างใจดี ก่อนจะเรียกหลงหยกให้มาเอาจานกีวี่ไปไว้บนห้องของเซฮุน

         เซฮุนเดินตามหลงหยกเข้าไปในห้อง วางจานลงที่โต๊ะเล็กๆ บนพรมสีขาว เซฮุนจัดท่านั่งให้เรียบร้อยก่อนจะลงมือทานอย่างเอร็ดอร่อย

         “งั้นตอนใกล้บ่าย ดิฉันจะขึ้นมาเก็บนะคะ”

         “จ้ะ”เซฮุนตอบ ก่อนจะจิ้มส้อมลงอีกชิ้น และไม่ถึงสิบห้านาทีกีวี่ลูกโตกิโลกรัมก็หมดลงไปอยู่ในท้องของเซฮุน

         “ฟู่...อิ่มจัง”เซฮุนพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะลุกจึ้นไปนอนบนเตียงแล้วหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         วันนี้จะเป็นวันที่เตรียมทั้งตัวและใจในการง้อภรรยาครั้งแรกในชีวิต หลังจากที่ต้องทนทรมานอยู่ตัวคนเดียวถึงสามวันเต็มๆ มันทำให้ร่างกายของเขาถึงกับซูบลงไปที่เดียว เพราะอาการกินข้าวไม่ค่อยลงและต้องมาหาสูตรวิธีง้อสาวให้กลับมาคืนดี

         และขณะนี้เองเขาก็กำลังเดินเป็นหนูติดจั่นอยู่หน้าประตูบ้านของเขาเอง ในมือมีผลไม้อย่างกี่วี่ หลังจากที่ทราบข่าวจากคยองซูว่าเซฮุนกำลังเกิดอาการชอบทานกีวี่ขนาดหนัก แต่เพื่อเป็นการเอาใจตามกฎข้อแรกของสูตรลัดมัดใจสาว เขาก็ต้องทำ แถมกีวี่ทั้งสามถุงนั้นเขาก็คัดมาแต่ลูกโตๆ หวานๆ โดยเฉพาะ

         ในขณะที่ร่างสูงของคริสกำลังเดินวนไปวนมาอยู่นั้น เหว่ยเหอที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่นั้นก็สังเกตุเห็นเข้า ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าเป็นคุณหนูของตัวเอง แต่พอเพ่งมองดูดีๆ ก็พบว่าเป็นคุณหนูของตัวเองจริงๆ ด้วย

         “คุณหนู!”เหว่ยเหอตะโกนเรียก เรียกให้ร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าบ้านถึงกับสะดุ้งตกใจ และหันมาตามเสียงเรียกนั้นทันที คริสยิ้มแห้งๆ เมื่อเห็นเหว่ยเหอเดินยิ้มแป้นเข้ามาเปิดประตูให้

        “คุณหนูมาทำไมไม่เรียกผมล่ะครับ”ว่าแล้วก็เปิดประตูออกให้เจ้านายของตนเดินเข้ามาหลบแดดข้างใน

         คริสพยักหน้าขอบใจนิดๆ ก่อนจะยื่นถุงใส่กีวี่ให้

         “โอ้ นี่คุณหนูซื้อมาฝากผมเหรอครับ ใจดีจัง”เหว่ยเหอพูดอย่างดีใจเมื่อเห็นกีวี่ถึงสามถุง แถมผลมันใหญ่อีกต่างหาก

         “ไอ้บ้า ฉันซื้อมาให้เมียฉัน”คริสค้อน

         เหว่ยเหอหน้าเจื่อนลงนิดๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเจ้านายตัวเองอีกครั้ง

         “งั้นผมจะให้หลงหยกไปจัดใส่จานให้นะครับ”เหว่ยเหอพูด ก่อนจะเดินไป แต่ก็ต้องหยุดเมื่อคริสทักขึ้น

         “เดี๋ยว!”

         “ครับ”

         “เซฮุนล่ะ อยู่ไหน”คริสถามถึงเซฮุนทันที พร้อมชะเง้อมองไปรอบๆ

         “ผมเห็นเดินไปตรงสวนดอกกุหลาบน่ะครับ”เหว่ยเหอตอบ

         คริสพยักหน้า ก่อนจะรีบเดินไปยังสวนดอกกุหลาบ ที่เคยเป็นสวนของแม่เขามาก่อน

         ร่างสูงสาวเท้าก้าวยาวๆ ก่อนจะหยุดลงอย่างช้าๆ เมื่อสายตาสบกับร่างเล็กที่นั่งอยู่บนชิงช้าที่ทำด้วยเชือกเถาวัลย์ ชิงช้าเล็กๆ นั้นแกว่งไกวเบาๆ รอบตัวนั้นก็คือสวนดอกกุหลาบที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ รับแสงแห่งอรุณ คริสเดินเข้าใกล้ด้วยหัวใจที่เต้นระทึก ร่างเล็กบางในอาภรณ์สีขาวบางเบา ตัดกับเส้นผมละเอียดเป็นลอนน้อยๆ สีน้ำตาลเข้มที่ปลิวไสวเบาๆ ในยามที่ต้องลม แม้จะมองจากด้านหลังแต่เขาก็รู้ว่านั้นคือใคร นั่นก็คือคนที่เขารักที่สุด รักจนหมดหัวใจ...

         คริสเดินเข้าไปใกล้ เมื่อถึงตัวก็ใช้มือหนาไกวชิงช้าเบาๆ ใบหน้าคมระบายไปด้วยรอยยิ้ม แต่การกระทำนั้นแม้จะแค่บางเบาแต่ก็ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกตัวได้ทันที เซฮุนหันขวับไปมองและเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็เตรียมจะลุกขึ้นเดินหนีออกไปจากตรงนั้น แต่ว่าคริสไวกว่าคว้าเอวบางเข้ามาจนแผ่นหลังเล็กปะทะกับอกกว้างของเขา เซฮุนดิ้นขลุกขลักไม่ยอมให้เขากอด
         “ปล่อยผมนะ”เสียงหวานแหว พร้อมกับดิ้นไปดิ้นมา แต่ทว่ายิ่งดิ้นเจ้ามือปลาหมึกนั่นก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นไปอีก

         “ไม่...”มีเพียงเสียงตอบอย่างแผ่วเบาของเขา คริสกอดรัดเอวบางแน่นเพื่อซึมซับความอบอุ่นจากร่างนุ่มนิ่มนั้น จมูกโด่งสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนผม ก่อนจะเปลี่ยนหมุนให้ร่างบางหันมาเผชิญหน้า ซีวอนใช้นิ้วเรียวของตนสัมผัสลากไปยังใบหน้าที่เขาไม่เจอตั้งหลายวัน มันทำให้เขาแทบจะขาดใจเมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่พบกับร่างที่เขาเคยกอดอยู่ทุกวันทุกคืน แม้จะรู้ว่าความผิดที่เขาได้ก่อนั้นไม่อาจลบล้างได้ แต่เขาก็มาให้เด็กหนุ่มลงโทษแล้ว

        “มาทำไม...ผมไม่อยากเจอหน้า”เสียงหวานสั่นนิดๆ เมื่อต้องจ้องตากับคนตรงหน้า สายตาที่สามารถสะกดเด็กหนุ่มได้ทุกนาที สายตาที่ต้องยอมแพ้แม้เพียงเสี้ยววินาทีที่มองมา...

         “มาง้อ...”คริสพูดพร้อมคลี่ยิ้มกว้าง

         “ทำไมต้องง้อ”เสียงหวานกล่าวงอนๆ

         “เพราะแม่งอน พ่อถึงต้องมาง้อไง”นี่คือสูตรข้อที่สองที่เขาจำได้ขึ้นใจ และมันก็ได้ผลเมื่อใบหน้าหวานใสเริ่มขึ้นสีเรื่ออย่างน่ารัก เซฮุนขวยเขินแล้วเริ่มบิดตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่ว่าก็ไม่เป็นผลเมื่อแขนของคริสยังคงรัดแน่นเหมือนเดิม

         “ใครงอนกัน”เซฮุนพูดพร้อมเชิดหน้าขึ้น ความจริงก่อนหน้าที่คริสจะมานั้น หลายวันมานี้ก็มีทั้งจื่อเถาที่มาเล่าเรื่องแผนการของซูยอนให้ฟัง มีซูโฮที่มาเล่าสารทุกข์สุขดิบของคริสให้ฟัง แล้วก็มีคนมากล่อมให้หายโกรธถึงสองคนด้วยกัน ก็คือคยองซูและจงอิน แถมหัวใจของเด็กหนุ่มก็ไม่ได้ทำด้วยหินผาเสียหน่อยที่ฟังแล้วจะไม่หวั่นไหวเลย ซึ่งตอนนี้ความโกรธที่เคยมีนั้นก็หายไปเกือบหมดแล้ว เหลือแต่เพียงอาการงอนเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เห็นเขามาง้อเท่านั้นเอง

         พอเห็นหน้าของคริสแล้ว หัวใจก็พองโตอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งสีหน้าของเขาดูจะสำนึกผิดอยู่ไม่น้อยเลยก็ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกอยากจะแกล้งขึ้นมาในทันที เห็นจื่อเถาบอกว่าคริสไม่ค่อยอยากจเหยียบบ้านนี้สักเท่าไหร่ แต่ว่าวันนี้กลับปรากฏตัวให้เด็กหนุ่มเห็น ก็แสดงว่าตั้งใจมาง้อจริงๆ เซฮุนคิดในใจอย่างเจ้าเล่ห์

         คริสเห็นท่าทางเชิดๆ ของเซฮุนแล้วก็ถอนหายใจ สงสัยต้องใช้ความพยายามมากกว่านี้อีก เขาจึงงัดเอาลูกอ้อนที่เคยใช้ได้ผลมาแล้วกับร่างบางตรงหน้ามาใช้อีกครั้ง

         “แต่ว่าคราวนี้ฉันซื่อกีวี่ที่นายชอบมาด้วยนะ เอามาตั้งสามถุงแน่ะ ไม่ทานด้วยกันเหรอ”คริสพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

         เซฮุนกลืนน้ำลายลงคอเมื่อได้ยินคำว่ากีวี่ ที่เด็กหนุ่มกำลังชอบอย่างแรง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันถึงได้อยากกินนัก เมื่อวานก็ทานแทนข้าวเย็นไปแล้วถึงสองกิโลกรัม ตอนเช้าก็ด้วย แต่ว่าเดี๋ยวนี้นอกจากกีวี่ที่ชอบแล้วยังมีพวกของดองเข้ามาอีก อยู่ๆ มันก็รู้สึกเปรี้ยวปากยังไงก็ไม่รู้

         “งั้นผมจะรับไว้แล้วกันนะฮะ ตอนนี้พี่คริสกลับไปก่อนเถอะฮะ”เซฮุนพูดก่อนจะเดินเข้าบ้านไป

         คริสที่โดนไล่กลับยืมยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม เนื่องมาจากเซฮุนยอมกลับมาเรียกเขาว่าพี่คริสเหมือนเดิมแล้ว แค่นี้ก็เดินหน้าได้อีกก้าว แม้ว่าวันนี้จะโดนไล่ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ยังได้

     

    +++++++++++++

     

    มุมเม้าท์มอย

    จบไปอีกตอนค่ะ ตอนหน้าเอาวสานแล้วนะ

    พอตอนจบลงปุ๊บ เดี๋ยวไรท์จะเอาตัวอย่างสเปที่จะมีเฉพาะในเล่ม(ถ้าได้รวม)

    เอามาลงเป็นน้ำจิ้มค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×