คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่...1 จุดเริ่มต้น
1
‘ เดอะไนท์ ’ คือสถานบันเทิงชื่อดังใจกลางเมืองซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่วัยรุ่นและวัยทำงานกันเป็นอย่างดี ยามค่ำคืนที่มีผู้คนหลากหลายต้องการจะพักผ่อนในที่แบบนี้ ‘ เดอะไนท์ ’ จึงเป็นตัวเลือกแรกๆที่ผู้คนมักจะเข้ามาใช้บริการอยู่เสมอ
ธนวรรธน์เดินนำเข้ามาในตัวสถานบังเทิงพร้อมกับจิรายุเพื่อนคนสนิทที่เดินตามเข้ามาติดๆ บรรยากาศภายในที่มืดแต่มีแสงไฟหลากสีถูกตกแต่งและเปิดให้เข้ากับบรรยากาศ ยามนี้มีเพลงสนุกเปิดดังอยู่ ตรงกลางฟอล์วมีหนุ่มสาวพากันออกสเต็พการเต้นดูสนุกสนาน ธนวรรธ์ยืนมองสาวร่างสูงหุ่นดี ผมสั้นแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดที่เต้นอย่างเซ็กซี่อยู่กลางฟอล์วแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างหมายมั่นปั้นมือเตรียมจะเดินออกไป แต่จิรายุก็รีบรั้งคว้าหมับที่ข้อมือของเพื่อนเอาไว้เสียก่อน
“ เฮ้ย ! ไม่ต้องรีบรุกเหยื่อของแกเร็วขนาดนั้นก็ได้ไอโป๊ป นี่แกจะปล่อยให้ฉันนั่งดื่มคนเดียวตั้งแต่มาถึงเลยรึไง ? ”
ธนวรรธน์ไม่ตอบแต่ก็ยอมเดินนำเข้าไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนที่โซฟาตรงมุมร้านแต่โดยดี นั่งไปได้ไม่นานอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งไปตั้งแต่แรกก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ จิรายุรินเครื่องดื่มลงในแก้วส่งให้เพื่อนหนุ่มที่ตอนนี้ตายังเป็นประกายมองไปที่สาวคนเดิมไม่เลิก
“ มากับแกนี่ฉันเซ็งจริงๆ ” จิรายุพูดขึ้นมา ธนวรรธน์หันกลับมามองอย่างสงสัยก่อนเอ่ยถาม
“ เซ็งอะไร ”
“ เซ็งที่แกเอาแต่มองสาวๆอยู่นี่ไง ฉันกับแกมาเป็นเพื่อนกันนะเว้ย แทนที่จะหันมาถามไถ่เพื่อนบ้างว่า...เออ...เป็นยังไงบ้าง แต่นี่แกเอาแต่นั่งจ้องเหยื่อของแกตลอด ”
จิรายุแกล้งพูดเหมือนน้อยใจ จนทำเอาธนวรรธน์อดหัวเราะออกมากับคำพูดเชิงประชดไม่ได้
“ โถๆ ไอเรียกร้องความสนใจ...โอเค ฉันถามแกก็ได้ ” ธนวรรธน์หยุดพูดวางแก้วเครื่องดื่มในมือลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างตั้งใจที่จิรายุดูก็รู้ว่าแกล้งทำ “ แกเป็นไงบ้างล่ะ ? ”
จิรายุฟังแล้วคว้ากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะปาใส่พร้อมกับชี้หน้าอย่างคาดโทษ ธนวรรธน์เบี่ยงตัวหลบพลางหัวเราะชอบใจ
“ เอาน่า... แกอย่าเพิ่งมาอยากคุยกับฉันตอนนี้ แกก็เห็นว่าฉันกำลังมีงานสำคัญอยู่ ”
“ เออ ! ทำไป ไองานสำคัญแกน่ะ ” จิรายุบอกพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆอย่างเหลืออด ธนวรรธน์อมยิ้มพลางจะเลื่อนสายตากลับไปมองที่หญิงสาวคนเดิม แต่สายตาก็ดันไปหยุดที่ใครบางคนเข้าเสียก่อน
ใครบางคนคือหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเดินเข้ามาจากประตูทางเข้าของร้าน ร่างผอมแต่ไม่สูงมากดูสง่าไปด้วยชุดสีเดรสแขนยาวสีขาวที่ยาวเลยหัวเข่าขึ้นมาเล็กน้อย ผมสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำยาวถูกปล่อยยาวลงไปถึงกลางหลัง ใบหน้าสวยหวานที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อยยังคงทำให้ใบหน้าเรียวดูสวยน่ามอง แม้ใบหน้าที่นิ่งเฉยราวกับไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ในตัวหญิงสาวลดหายไปแม้แต่น้อย
จิรายุที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองปฏิกิริยาของเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ จึงมองตามสายตาเพื่อนไป พอเมื่อเห็นหญิงสาวสวยสง่าในชุดเดรสสีขาวที่เดินคู่มากับผู้หญิงอีกคนก็ร้องอ๋อในใจ หัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนหนุ่มคนสนิทยังคงมองตามร่างของหญิงสาวที่เดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเคาเตอร์ราวกับกลัวหญิงสาวจะกลืนหายไปกับผู้คน
“ โอย ! ไอโป๊ป ตาน่ะกระพริบบ้างก็ได้ ”
จิรายุหันไปบอกล้อๆ ธนวรรธน์ยกเครื่องดื่มในแก้วมาดื่มรวดเดียวหมดพร้อมกับพูดสายตาเจ้าเล่ห์ ตาคมยังคงจ้องมองไปที่ร่างของหญิงสาว
“ ที่รู้ๆ คนนี้ฉันจองเว้ย... ” คำพูดสุดท้ายถูกทิ้งไว้พร้อมกับร่างสูงที่เดินจากไปยังเป้าหมายที่อยู่ไม่ไกล...
ธนวรรธน์เดินออกมาจากโต๊ะที่นั่งอยู่เพื่อตรงไปยังเคาเตอร์ แต่อยู่ๆร่างที่กำลังมุ่งหน้าจะไปก็ไปชนกับใครบางคนที่เดินออกมาจากโต๊ะใกล้ๆพอดีเสียก่อน ธนวรรธน์ชะงักไปก่อนจะเอ่ยบอก
“ ขอโทษพี่ ” คำพูดหลุดออกมาจากปากชายหนุ่มจากนั้นทำท่าจะเดินจากไป ชายร่างสูงกำยำดูแก่วัยกว่าแต่ดูทะมัดทะแมงชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ จึงรีบคว้าแขนของธนวรรธน์เอาไว้
“ เฮ้ย ! จะไปง่ายๆอย่างนี้เหรอว่ะไอน้องชาย ”
ธนวรรธน์หันกลับมามองอย่างเริ่มไม่ค่อยพอใจเหมือนกัน
“ ผมก็ขอโทษไปแล้วไงพี่... ” ร่างสูงหยุดพูดทำท่าเหมือนคิด “ แล้วจะเอาไงอีก ? ”
คู่กรณีมองมาอย่างหงุดหงิดบ่งบอกว่าไม่พอใจกว่าเดิม ธนวรรธน์ที่เห็นได้แต่อมยิ้มมุมปากอย่างชอบใจที่ยั่วโมโหสำเร็จก่อนจะพูดขัดขึ้นมาก่อน
“ เรื่องแค่นี้อย่าคิดมากเลยน่าพี่...จะหาเรื่องไปทำไมกับแค่เดินชนกัน ” ธนวรรธน์บอกด้วยสีหน้ายิ้มๆราวกับไม่ใส่ใจก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้คู่กรณีได้แต่มองตามอย่างไม่พอใจอย่างมาก...
นิษฐาที่นั่งอยู่ตรงหน้าเคาเตอร์กำลังยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่ม สายตาทอดมองไปยังร่างของราณีเพื่อนสนิทที่กำลังเต้นและพูดคุยอย่างสนุกสนานอยู่กับเพื่อนเก่าที่กลางฟอล์วอย่างเพลิดเพลิน ใบหน้าที่นิ่งเฉยไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆต่างพากันทำให้ชายหนุ่มหลายคนที่เฝ้ามองอยู่ตั้งแต่เข้ามาไม่กล้าเข้ามาทัก ยกเว้นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินอมยิ้มตรงมาแต่ไกล ร่างสูงสั่งเครื่องดื่มตรงหน้าเคาเตอร์ขึ้นมาถือไว้ในมือก่อนจะเดินไปหยุดยืนที่ข้างเก้าอี้ของนิษฐาซึ่งยังไม่ได้สังเกตเห็น
“ มานั่งดื่มอยู่คนเดียวอย่างนี้ไม่เบื่อแย่เหรอครับ ”
ธนวรรธน์พูดขึ้นพร้อมกับเอียงศีรษะเพื่อมองไปยังใบหน้าหญิงสาวให้ชัดๆ นิษฐาที่นั่งนิ่งชะงักไป หันไปส่ายหน้าเบาๆอย่างไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆราวกับไม่ได้สนใจในคำพูดของเขา ธนวรรธน์แปลกใจแต่ก็ยังไม่ละความพยายาม เขยิบเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิดพลางพูดต่อ
“ ผมอยากรู้จักคุณ... ” ชายหนุ่มพูดเสียงเบาบ่งบองจุดประสงค์ชัดเจน แล้วเอ่ยต่อ “ ส่วนผมชื่อธนวรรธน์ เรียกโป๊ปเฉยๆก็ได้ครับ ”
นิษฐาหันกลับมามองตามเสียงที่ธนวรรธ์พูดก็เจอกับสายตาของชายหนุ่มที่หวานเชื่อมทอดมองมาอย่างบ่งบอกความรู้สึก นิษฐามองตอบด้วยสายตาที่ยังคงไม่แสดงความรู้สึกใดๆเช่นเดิม แต่ด้วยท่าทีนิ่งๆดูสง่าและใบหน้าสวยหวานยามเมื่อมองใกล้ๆก็ทำเอาใจของชายหนุ่มแทบจะหล่นไปกองอยู่กับพื้นให้ได้
“ แต่ฉันคิดว่าฉันยังไม่อยากรู้จักใครในตอนนี้... ”
บทสนทนาประโยคแรกหลุดออกมาจากปากของนิษฐาพร้อมกับขาเรียวที่ก้าวลงมาจากเก้าอี้ตัวสูงตั้งใจจะเดินออกไป แต่มือของชายหนุ่มก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเสียก่อน
“ เดี๋ยวก่อนสิครับ แต่ผมอยากรู้จักคุณจริงๆนะ ทำแบบนี้คุณจะไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ... ”
นิษฐาเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพยายามบิดข้อมือออกจากมือของชายหนุ่มและจะหันมาต่อว่าแต่สายตาก็มองผ่านเลยไปเห็นร่างของผู้ชายสูงกำยำคนหนึ่งขว้างขวดแก้วอะไรสักอย่างลอยมาแต่ไกล สัญชาตญาณบ่งบอกให้หญิงสาวต้องหลบพร้อมกับไม่ลืมบอกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าที่จะโดนขวดแก้วนั่นตกใส่หัวก่อนใคร
“ หลบ ! ”
นิษฐาบอกพร้อมกับกดหัวชายหนุ่มให้ย่อตัวต่ำลง ธนวรรธน์ได้แต่ย่อตัวลงตามอย่างแปลกใจและปรับอารมณ์ไม่ทัน ก่อนจะร้องอ๋อทันทีเมื่อได้ยินเสียงขวดแก้วกระทบกับเคาเตอร์เฉียดศีรษะหญิงสาวที่เขากำลังจับมืออยู่ไปหวุดหวิด
“ อ้าว...ผู้หญิงช่วยไว้ พลาดซะงั้น ขอพี่โยนใหม่ได้ไหมน้อง ”
เสียงหนึ่งดังลอยเข้ามากระทบโสตประสาทของชายหนุ่ม ธนวรรธน์ปล่อยมือหญิงสาวทันทีก่อนจะหันหลังกลับไปมองอย่างไม่พอใจ
“ ทำไมเล่นอย่างนี้ล่ะพี่ ถ้าโดนหัวคนอื่นขึ้นมาจะว่าไง! ”
ธนวรรธน์บอกน้ำเสียงแข็งอย่างโกรธๆ ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆพากันเขยิบออกห่างอย่างรู้ว่าไม่ค่อยปลอดภัย จิรายุที่เห็นเหตุการณ์มองมาอย่างใจไม่ดี เดินตามมาสมทบ ส่วนคู่กรณีของชายหนุ่มได้แต่อมยิ้มแล้วเดินใกล้เข้ามาหยุดยืนตรงหน้า
“ ก็พี่ตั้งใจให้โดนหัวนี่น้อง...ทำไมต้องกลัวด้วย ”
“ อย่างนี้มันปากหมานี่หว่า ! ไม่พอใจก็ใช้แต่กำลังรึไง ” ธนวรรธน์ตะคอกใส่หน้าอย่างไม่เกรงกลัว ชายคู่กรณีตรงหน้าแสะยิ้มราวกับไม่สนใจก่อนเอ่ยต่อ
“ ใช้กำลังแล้วน้องกลัวไหมล่ะ ? ” ชายคู่กรณีตรงหน้าถามขึ้นอย่างทีเล่นทีจริง
“ หึ...คิดว่ากลัวเหรอ ” ธนวรรธน์บอกด้วยสีหน้าระรื่นเต็มที่อย่างไม่เกรงกลัว คู่กรณีตรงหน้าเริ่มโกรธชักหมัดเตรียมจะต่อยเต็มที่ แต่อยู่ดีๆเสียงของหญิงสาวข้างตัวธนวรรธน์ก็เอ่ยดังขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ คุณกำลังจะใช้กำลังในทางที่ผิด ทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนา... ตามหลักตอนนี้คุณกำลังโมโหโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ทางที่ดีคุณควรจะระงับอารมณ์ให้ได้เสียก่อน ตั้งสติและไม่วู่วาม ”
คำพูดเฉียบคมหลุดออกมากจากปากของหญิงสาวราวกับต้องการจะเตือนสติพร้อมกับใบหน้าที่ยังคงนิ่งเฉยเช่นเดิมแต่เพิ่มตรงที่คิ้วนั้นเริ่มขมวดอย่างไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย ธนวรรธน์หันกลับไปมองใบหน้าเรียวที่เชิดมองคู่กรณีอย่างไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ตั้งใจฟังต่อเมื่อหญิงสาวเอ่ยประโยคต่อมา
“ ฉันกำลังเตือนสติคุณอยู่ ! และขอบอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น ”
ธนวรรธน์มองใบหน้าที่นิ่งเฉยพูดหลักการของตัวเองอย่างตั้งใจแล้วอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว ต่างกับคู่กรณีของเขาที่มองไปที่หญิงสาวอย่างไม่พอใจเพราะราวกับถูกหญิงสาวที่เป็นใครไม่รู้มาสั่งสอน
“ ปากเก่งนักนะสาวน้อย อย่างนี้มันน่า... ” ชายร่างสูงกำยำยื่นมือหมายไปจะคว้าที่ข้อมือของหญิงสาวแต่ธนวรรธน์ก็เลื่อนมาข้างหน้าหญิงสาวพร้อมกับจับมือหนาของคู่กรณีไว้เสียก่อน
“ หืม...ไม่เอาน่าพี่ เป็นผู้ชายแมนๆ อย่าทำร้ายผู้หญิงสิ... ”
ชายหนุ่มคู่กรณีตรงหน้าสะบัดมือออกทันทีอย่างไม่พอใจ ใบหน้าที่สูงกว่ากว่าแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากความโกรธ
“ งั้นเดี๋ยวมึงเจอกูไอน้อง ! ” คู่กรณียกมือขึ้นมาชี้หน้าธนวรรธน์ราวกับสุดจะทนก่อนจะเดินกระแทกเท้าไปตามตามทางและออกจากร้านไป ธนวรรธน์มองตามแล้วแสะยิ้มอย่างยืนยันว่าไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย
“ เฮ้ย ! ไอโป๊ป ฉันว่ากลับเหอะว่ะ ดูท่าทางแล้วไม่ค่อยดี เดี๋ยวมันย้อนกลับมาจะทำร้ายแกอีกทำไง ”
จิรายุพูดขัดขึ้น ธนวรรธน์หันกลับไปหาเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านหลังแล้วยักไหล่ราวกับไม่ใส่ใจ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองที่หญิงสาวข้างกายที่กำลังถูกถามไถ่จาดเพื่อนอยู่
“ ขอบคุณนะคุณ ที่อุตส่าห์ช่วยผมไว้ ” ธนวรรธน์บอกพลางอมยิ้มชอบใจ จนทำให้เพื่อนของนิษฐางงไปตามๆกัน หญิงสาวหันกลับมาตอบกลับอย่างจะแก้ต่าง
“ ฉันไม่ได้จะ... ” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบ ก็มีเสียงจากอุปกรณ์ต่อสู้ชนิดหนึ่งดังขึ้นมาจากหลังคาตรงประตูทางเข้าร้านเสียก่อน
ปัง !!!
“ เวรเอ้ย ! ”
..................................................................
นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการ
ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปินหรือนักแสดงเสียหาย
หากมีตรงไหนผิดพลาด ขออภัยด้วยค่ะ ^^
ความคิดเห็น