ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยังไม่สาย...ถ้าหากเราจะรักกัน

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่...1 จุดเริ่มต้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 500
      6
      9 พ.ค. 56




    1

                   
                 ‘ เดอะไนท์ คือสถานบันเทิงชื่อดังใจกลางเมืองซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่วัยรุ่นและวัยทำงานกันเป็นอย่างดี  ยามค่ำคืนที่มีผู้คนหลากหลายต้องการจะพักผ่อนในที่แบบนี้ เดอะไนท์ จึงเป็นตัวเลือกแรกๆที่ผู้คนมักจะเข้ามาใช้บริการอยู่เสมอ 

                    ธนวรรธน์เดินนำเข้ามาในตัวสถานบังเทิงพร้อมกับจิรายุเพื่อนคนสนิทที่เดินตามเข้ามาติดๆ  บรรยากาศภายในที่มืดแต่มีแสงไฟหลากสีถูกตกแต่งและเปิดให้เข้ากับบรรยากาศ  ยามนี้มีเพลงสนุกเปิดดังอยู่  ตรงกลางฟอล์วมีหนุ่มสาวพากันออกสเต็พการเต้นดูสนุกสนาน  ธนวรรธ์ยืนมองสาวร่างสูงหุ่นดี ผมสั้นแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดที่เต้นอย่างเซ็กซี่อยู่กลางฟอล์วแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างหมายมั่นปั้นมือเตรียมจะเดินออกไป  แต่จิรายุก็รีบรั้งคว้าหมับที่ข้อมือของเพื่อนเอาไว้เสียก่อน

                    เฮ้ย ! ไม่ต้องรีบรุกเหยื่อของแกเร็วขนาดนั้นก็ได้ไอโป๊ป  นี่แกจะปล่อยให้ฉันนั่งดื่มคนเดียวตั้งแต่มาถึงเลยรึไง ? ”

                    ธนวรรธน์ไม่ตอบแต่ก็ยอมเดินนำเข้าไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนที่โซฟาตรงมุมร้านแต่โดยดี  นั่งไปได้ไม่นานอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งไปตั้งแต่แรกก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ  จิรายุรินเครื่องดื่มลงในแก้วส่งให้เพื่อนหนุ่มที่ตอนนี้ตายังเป็นประกายมองไปที่สาวคนเดิมไม่เลิก

                    มากับแกนี่ฉันเซ็งจริงๆ ”  จิรายุพูดขึ้นมา  ธนวรรธน์หันกลับมามองอย่างสงสัยก่อนเอ่ยถาม

                    เซ็งอะไร

                    “ เซ็งที่แกเอาแต่มองสาวๆอยู่นี่ไง  ฉันกับแกมาเป็นเพื่อนกันนะเว้ย  แทนที่จะหันมาถามไถ่เพื่อนบ้างว่า...เออ...เป็นยังไงบ้าง  แต่นี่แกเอาแต่นั่งจ้องเหยื่อของแกตลอด

                    จิรายุแกล้งพูดเหมือนน้อยใจ  จนทำเอาธนวรรธน์อดหัวเราะออกมากับคำพูดเชิงประชดไม่ได้

                    โถๆ ไอเรียกร้องความสนใจ...โอเค  ฉันถามแกก็ได้ ”  ธนวรรธน์หยุดพูดวางแก้วเครื่องดื่มในมือลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างตั้งใจที่จิรายุดูก็รู้ว่าแกล้งทำ   แกเป็นไงบ้างล่ะ ? ”

                    จิรายุฟังแล้วคว้ากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะปาใส่พร้อมกับชี้หน้าอย่างคาดโทษ  ธนวรรธน์เบี่ยงตัวหลบพลางหัวเราะชอบใจ

                    เอาน่า... แกอย่าเพิ่งมาอยากคุยกับฉันตอนนี้  แกก็เห็นว่าฉันกำลังมีงานสำคัญอยู่

                    “ เออ ! ทำไป ไองานสำคัญแกน่ะ ”  จิรายุบอกพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆอย่างเหลืออด  ธนวรรธน์อมยิ้มพลางจะเลื่อนสายตากลับไปมองที่หญิงสาวคนเดิม  แต่สายตาก็ดันไปหยุดที่ใครบางคนเข้าเสียก่อน

                    ใครบางคนคือหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเดินเข้ามาจากประตูทางเข้าของร้าน ร่างผอมแต่ไม่สูงมากดูสง่าไปด้วยชุดสีเดรสแขนยาวสีขาวที่ยาวเลยหัวเข่าขึ้นมาเล็กน้อย  ผมสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำยาวถูกปล่อยยาวลงไปถึงกลางหลัง  ใบหน้าสวยหวานที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อยยังคงทำให้ใบหน้าเรียวดูสวยน่ามอง  แม้ใบหน้าที่นิ่งเฉยราวกับไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ในตัวหญิงสาวลดหายไปแม้แต่น้อย

                    จิรายุที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองปฏิกิริยาของเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ จึงมองตามสายตาเพื่อนไป  พอเมื่อเห็นหญิงสาวสวยสง่าในชุดเดรสสีขาวที่เดินคู่มากับผู้หญิงอีกคนก็ร้องอ๋อในใจ  หัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนหนุ่มคนสนิทยังคงมองตามร่างของหญิงสาวที่เดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเคาเตอร์ราวกับกลัวหญิงสาวจะกลืนหายไปกับผู้คน

                    โอย ! ไอโป๊ป  ตาน่ะกระพริบบ้างก็ได้

                     จิรายุหันไปบอกล้อๆ  ธนวรรธน์ยกเครื่องดื่มในแก้วมาดื่มรวดเดียวหมดพร้อมกับพูดสายตาเจ้าเล่ห์  ตาคมยังคงจ้องมองไปที่ร่างของหญิงสาว

                    ที่รู้ๆ คนนี้ฉันจองเว้ย...   คำพูดสุดท้ายถูกทิ้งไว้พร้อมกับร่างสูงที่เดินจากไปยังเป้าหมายที่อยู่ไม่ไกล...

     

                    ธนวรรธน์เดินออกมาจากโต๊ะที่นั่งอยู่เพื่อตรงไปยังเคาเตอร์  แต่อยู่ๆร่างที่กำลังมุ่งหน้าจะไปก็ไปชนกับใครบางคนที่เดินออกมาจากโต๊ะใกล้ๆพอดีเสียก่อน  ธนวรรธน์ชะงักไปก่อนจะเอ่ยบอก

                    ขอโทษพี่ คำพูดหลุดออกมาจากปากชายหนุ่มจากนั้นทำท่าจะเดินจากไป  ชายร่างสูงกำยำดูแก่วัยกว่าแต่ดูทะมัดทะแมงชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ  จึงรีบคว้าแขนของธนวรรธน์เอาไว้

                    เฮ้ย ! จะไปง่ายๆอย่างนี้เหรอว่ะไอน้องชาย

                    ธนวรรธน์หันกลับมามองอย่างเริ่มไม่ค่อยพอใจเหมือนกัน 

                    ผมก็ขอโทษไปแล้วไงพี่... ร่างสูงหยุดพูดทำท่าเหมือนคิด  แล้วจะเอาไงอีก ? ”

                    คู่กรณีมองมาอย่างหงุดหงิดบ่งบอกว่าไม่พอใจกว่าเดิม  ธนวรรธน์ที่เห็นได้แต่อมยิ้มมุมปากอย่างชอบใจที่ยั่วโมโหสำเร็จก่อนจะพูดขัดขึ้นมาก่อน

                    เรื่องแค่นี้อย่าคิดมากเลยน่าพี่...จะหาเรื่องไปทำไมกับแค่เดินชนกัน   ธนวรรธน์บอกด้วยสีหน้ายิ้มๆราวกับไม่ใส่ใจก่อนจะเดินจากไป  ปล่อยให้คู่กรณีได้แต่มองตามอย่างไม่พอใจอย่างมาก...

     

                    นิษฐาที่นั่งอยู่ตรงหน้าเคาเตอร์กำลังยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่ม  สายตาทอดมองไปยังร่างของราณีเพื่อนสนิทที่กำลังเต้นและพูดคุยอย่างสนุกสนานอยู่กับเพื่อนเก่าที่กลางฟอล์วอย่างเพลิดเพลิน  ใบหน้าที่นิ่งเฉยไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆต่างพากันทำให้ชายหนุ่มหลายคนที่เฝ้ามองอยู่ตั้งแต่เข้ามาไม่กล้าเข้ามาทัก ยกเว้นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินอมยิ้มตรงมาแต่ไกล  ร่างสูงสั่งเครื่องดื่มตรงหน้าเคาเตอร์ขึ้นมาถือไว้ในมือก่อนจะเดินไปหยุดยืนที่ข้างเก้าอี้ของนิษฐาซึ่งยังไม่ได้สังเกตเห็น

                    มานั่งดื่มอยู่คนเดียวอย่างนี้ไม่เบื่อแย่เหรอครับ

                    ธนวรรธน์พูดขึ้นพร้อมกับเอียงศีรษะเพื่อมองไปยังใบหน้าหญิงสาวให้ชัดๆ  นิษฐาที่นั่งนิ่งชะงักไป  หันไปส่ายหน้าเบาๆอย่างไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆราวกับไม่ได้สนใจในคำพูดของเขา  ธนวรรธน์แปลกใจแต่ก็ยังไม่ละความพยายาม  เขยิบเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิดพลางพูดต่อ

                    ผมอยากรู้จักคุณ... ชายหนุ่มพูดเสียงเบาบ่งบองจุดประสงค์ชัดเจน  แล้วเอ่ยต่อ ส่วนผมชื่อธนวรรธน์  เรียกโป๊ปเฉยๆก็ได้ครับ

                    นิษฐาหันกลับมามองตามเสียงที่ธนวรรธ์พูดก็เจอกับสายตาของชายหนุ่มที่หวานเชื่อมทอดมองมาอย่างบ่งบอกความรู้สึก  นิษฐามองตอบด้วยสายตาที่ยังคงไม่แสดงความรู้สึกใดๆเช่นเดิม  แต่ด้วยท่าทีนิ่งๆดูสง่าและใบหน้าสวยหวานยามเมื่อมองใกล้ๆก็ทำเอาใจของชายหนุ่มแทบจะหล่นไปกองอยู่กับพื้นให้ได้

                    แต่ฉันคิดว่าฉันยังไม่อยากรู้จักใครในตอนนี้...

                    บทสนทนาประโยคแรกหลุดออกมาจากปากของนิษฐาพร้อมกับขาเรียวที่ก้าวลงมาจากเก้าอี้ตัวสูงตั้งใจจะเดินออกไป  แต่มือของชายหนุ่มก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเสียก่อน

                    เดี๋ยวก่อนสิครับ  แต่ผมอยากรู้จักคุณจริงๆนะ  ทำแบบนี้คุณจะไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ...

                    นิษฐาเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพยายามบิดข้อมือออกจากมือของชายหนุ่มและจะหันมาต่อว่าแต่สายตาก็มองผ่านเลยไปเห็นร่างของผู้ชายสูงกำยำคนหนึ่งขว้างขวดแก้วอะไรสักอย่างลอยมาแต่ไกล  สัญชาตญาณบ่งบอกให้หญิงสาวต้องหลบพร้อมกับไม่ลืมบอกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าที่จะโดนขวดแก้วนั่นตกใส่หัวก่อนใคร

                    หลบ ! ”

                    นิษฐาบอกพร้อมกับกดหัวชายหนุ่มให้ย่อตัวต่ำลง  ธนวรรธน์ได้แต่ย่อตัวลงตามอย่างแปลกใจและปรับอารมณ์ไม่ทัน  ก่อนจะร้องอ๋อทันทีเมื่อได้ยินเสียงขวดแก้วกระทบกับเคาเตอร์เฉียดศีรษะหญิงสาวที่เขากำลังจับมืออยู่ไปหวุดหวิด

                    อ้าว...ผู้หญิงช่วยไว้  พลาดซะงั้น  ขอพี่โยนใหม่ได้ไหมน้อง

                    เสียงหนึ่งดังลอยเข้ามากระทบโสตประสาทของชายหนุ่ม  ธนวรรธน์ปล่อยมือหญิงสาวทันทีก่อนจะหันหลังกลับไปมองอย่างไม่พอใจ

                    ทำไมเล่นอย่างนี้ล่ะพี่  ถ้าโดนหัวคนอื่นขึ้นมาจะว่าไง! ”

                    ธนวรรธน์บอกน้ำเสียงแข็งอย่างโกรธๆ  ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆพากันเขยิบออกห่างอย่างรู้ว่าไม่ค่อยปลอดภัย  จิรายุที่เห็นเหตุการณ์มองมาอย่างใจไม่ดี  เดินตามมาสมทบ  ส่วนคู่กรณีของชายหนุ่มได้แต่อมยิ้มแล้วเดินใกล้เข้ามาหยุดยืนตรงหน้า

                    ก็พี่ตั้งใจให้โดนหัวนี่น้อง...ทำไมต้องกลัวด้วย

                    “ อย่างนี้มันปากหมานี่หว่า ! ไม่พอใจก็ใช้แต่กำลังรึไง ธนวรรธน์ตะคอกใส่หน้าอย่างไม่เกรงกลัว  ชายคู่กรณีตรงหน้าแสะยิ้มราวกับไม่สนใจก่อนเอ่ยต่อ

                    ใช้กำลังแล้วน้องกลัวไหมล่ะ ? ”  ชายคู่กรณีตรงหน้าถามขึ้นอย่างทีเล่นทีจริง

                    หึ...คิดว่ากลัวเหรอ ธนวรรธน์บอกด้วยสีหน้าระรื่นเต็มที่อย่างไม่เกรงกลัว  คู่กรณีตรงหน้าเริ่มโกรธชักหมัดเตรียมจะต่อยเต็มที่  แต่อยู่ดีๆเสียงของหญิงสาวข้างตัวธนวรรธน์ก็เอ่ยดังขัดขึ้นมาเสียก่อน

                    คุณกำลังจะใช้กำลังในทางที่ผิด  ทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนา...  ตามหลักตอนนี้คุณกำลังโมโหโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น  ทางที่ดีคุณควรจะระงับอารมณ์ให้ได้เสียก่อน  ตั้งสติและไม่วู่วาม

                    คำพูดเฉียบคมหลุดออกมากจากปากของหญิงสาวราวกับต้องการจะเตือนสติพร้อมกับใบหน้าที่ยังคงนิ่งเฉยเช่นเดิมแต่เพิ่มตรงที่คิ้วนั้นเริ่มขมวดอย่างไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย  ธนวรรธน์หันกลับไปมองใบหน้าเรียวที่เชิดมองคู่กรณีอย่างไม่ค่อยเข้าใจ  แต่ก็ตั้งใจฟังต่อเมื่อหญิงสาวเอ่ยประโยคต่อมา

                    ฉันกำลังเตือนสติคุณอยู่ !  และขอบอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น

                    ธนวรรธน์มองใบหน้าที่นิ่งเฉยพูดหลักการของตัวเองอย่างตั้งใจแล้วอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว  ต่างกับคู่กรณีของเขาที่มองไปที่หญิงสาวอย่างไม่พอใจเพราะราวกับถูกหญิงสาวที่เป็นใครไม่รู้มาสั่งสอน

                    ปากเก่งนักนะสาวน้อย  อย่างนี้มันน่า... ชายร่างสูงกำยำยื่นมือหมายไปจะคว้าที่ข้อมือของหญิงสาวแต่ธนวรรธน์ก็เลื่อนมาข้างหน้าหญิงสาวพร้อมกับจับมือหนาของคู่กรณีไว้เสียก่อน

                    หืม...ไม่เอาน่าพี่  เป็นผู้ชายแมนๆ  อย่าทำร้ายผู้หญิงสิ...

                    ชายหนุ่มคู่กรณีตรงหน้าสะบัดมือออกทันทีอย่างไม่พอใจ  ใบหน้าที่สูงกว่ากว่าแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากความโกรธ

                    งั้นเดี๋ยวมึงเจอกูไอน้อง ! ” คู่กรณียกมือขึ้นมาชี้หน้าธนวรรธน์ราวกับสุดจะทนก่อนจะเดินกระแทกเท้าไปตามตามทางและออกจากร้านไป  ธนวรรธน์มองตามแล้วแสะยิ้มอย่างยืนยันว่าไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย

                    เฮ้ย ! ไอโป๊ป ฉันว่ากลับเหอะว่ะ  ดูท่าทางแล้วไม่ค่อยดี  เดี๋ยวมันย้อนกลับมาจะทำร้ายแกอีกทำไง ” 

                    จิรายุพูดขัดขึ้น ธนวรรธน์หันกลับไปหาเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านหลังแล้วยักไหล่ราวกับไม่ใส่ใจ  ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองที่หญิงสาวข้างกายที่กำลังถูกถามไถ่จาดเพื่อนอยู่

                    ขอบคุณนะคุณ  ที่อุตส่าห์ช่วยผมไว้ ”  ธนวรรธน์บอกพลางอมยิ้มชอบใจ  จนทำให้เพื่อนของนิษฐางงไปตามๆกัน  หญิงสาวหันกลับมาตอบกลับอย่างจะแก้ต่าง

                    ฉันไม่ได้จะ... ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบ ก็มีเสียงจากอุปกรณ์ต่อสู้ชนิดหนึ่งดังขึ้นมาจากหลังคาตรงประตูทางเข้าร้านเสียก่อน

                    ปัง !!!

                    เวรเอ้ย ! ”

                    ..................................................................
     

    นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการ
    ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปินหรือนักแสดงเสียหาย
    หากมีตรงไหนผิดพลาด ขออภัยด้วยค่ะ ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×