ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนสยองขวัญ

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดโรงเรียน [Rewrite]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 177
      0
      26 ต.ค. 48

          วันนี้ก็เหมือนทุกวัน ปอนลงจากรถแล้วเดินเข้าโรงเรียนในเวลา 7.30เหมือนทุกวัน เดินขึ้นตึกเรียนที่เรียนอยู่ทุกวัน แต่ทำไมวันนี้เพื่อนของเธอจึงแปลกกว่าทุกวัน



         ห้องเรียนของปอน เวลา 7.35น.



         “หวัดดีจ้า ปอน” เมย์ เพื่อนสนิทของปอนกล่าวทักทายเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในห้อง



         “หวัดดีจ้า เมย์” ปอนทักกลับ แล้วเธอก็เริ่มหยิบการบ้านที่จะต้องส่งขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ



        “วันนี้มีประชุมรวมนะ รีบๆไปส่งการบ้านหน่อยก็ดี” เมย์บอก ปอนเงยหน้าขึ้นมามองรอบๆห้อง เธอก็เห็นเพื่อนๆหลายคนเปิดโรงงานกอปปี้การบ้านเพื่อให้ทันการประชุมรวม หญิงสาวส่ายหน้า เป็นอย่างนี้ทุกทีเลย



        “อืม งั้นส่งการบ้านแล้วไปเข้าแถวเลยละกัน” แล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากห้องเพื่อไปส่งการบ้านด้วยกัน



       “ปอน เมื่อวานที่ไม่สบายเป็นไงมั่ง” เมย์เริ่มถามหลังจากเดินออกมาจากห้องได้สักพัก เพื่อนๆ ตอนนี้เพื่อนๆในระดับม.4ต่างก็เดินกันขวักไขว่เนื่องจากใกล้เวลาประชุมรวมแล้ว



       “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เป็นไข้น่ะ” ปอนตอบ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเมย์มองด้วยสายตาแปลกๆ ปอนพยายามไม่คิดอะไรมากแล้วก็ชวนกันคุยต่อไปเรื่อยๆตามประสาเพื่อนสนิท ก่อนที่จะเดินไปที่ประชุมรวมด้วยกัน



         เนื้อหาสาระของการประชุมวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก มีเรื่องกฏระเบียบและการชมเชยเพื่อนบางคนเท่านั้นเอง ปอนนั่งหาวด้วยความเบื่อหน่าย สภาพของเมย์ก็ดูไม่ต่างจากเธอสักเท่าไหร่นัก



       “ปอน ก่อนเข้าห้องอ่ะ ไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะ” เมย์กระซิบบอกเพื่อนสนิทก่อนเลิกการประชุมเล็กน้อย



       “ ได้ๆ แต่ต้องรีบๆหน่อยนะ เพราะคาบแรกของเรานี่เจอเจ๊โหดอ่ะ เดี๋ยวโดน” ปอนตอบรับพลางชี้แจงถึงความโหดของอาจารย์ที่สอนคาบแรกเสร็จสรรพ พร้อมทำหน้าสยองเล็กน้อย เมย์พยักหน้าอย่างเข้าใจ



        เมื่อประชุมเสร็จแล้วทั้งสองก็แยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนที่ต่างคนต่างรีบกลับห้องเพื่อไปเตรียมตัวเรียนในคาบแรก เมื่อทั้งสองแยกตัวห่างออกมาได้เล็กน้อย ปอนก็เริ่มบ่น



       “เฮ้อออ ไม่อยากเรียนเลขคาบแรกเลยจริงๆนะนี่” วิชาเลขเป็นวิชาสุดเกลียดของเด็กสาย ศิลป์-ญี่ปุ่น อย่างเธอ



       “เราก็ไม่ชอบเหมือนกันแหละน่า แล้วเราก็เรียนคาบ2ด้วย” เมย์บ่นบ้าง



       “เมย์ยังดี เราสิ ประเดิมคาบแรกเลย” ปอนพูดจบก็พอดีกับที่ทั้งคู่เดินมาถึงห้องน้ำ เมย์ปล่อยให้ปอนเดินเข้าไปก่อน แล้วเธอจึงเดินตามเข้าไป พร้อมกับจัดการปิดประตูห้องน้ำและล็อกกุญแจเสีย



       “อ้าว เมย์ไม่เข้าห้องน้ำหรอ” ปอนแปลกใจ ก็ในเมื่อเมย์เป็นคนชวนเธอมาเข้าห้องน้ำเองนี่นา แต่เมย์ก็ยังเงียบ แล้วเธอก็ค่อยๆพูดออกมาด้วยเสียงที่แฝงความเหี้ยมไว้ ซึ่งไม่ใช่เสียงปกติของเธอเลย



       “ปอน ทำไมเมื่อวานเธอถึงไม่มาโรงเรียนล่ะ” เมย์ถาม



       “ก็เราบอกแล้วไงว่าเราเป็นไข้น่ะ” ปอนตอบด้วยรอยยิ้ม “เมื่อกี้เราก็บอกเมย์ไปแล้วนี่”



       “ปอน เธอแน่ใจหรอว่าเธอเป็นไข้จริงๆน่ะ อย่ามาโกหกกันดีกว่าน่า” เมย์พูดด้วยเสียงเชิงข่มขู่เล็กน้อย



       “อะไรกันเมย์ เธอพูดอะไรของเธอน่ะ” ปอนถามเมย์อย่างงงๆ หญิงสาวไม่เข้าใจกับกิริยาที่เปลี่ยนไปของเพื่อนสนิท



       “เมื่อวานเธอแกล้งป่วยใช่มั้ย” เมย์ถาม พลางค่อยๆล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรง



       “เปล่านะ เมื่อวานเราป่วยจริงๆ” ตอนนี้ปอนไม่เข้าใจจริงๆว่าเพื่อนสนิทของเธอกำลังจะทำอะไรกันแน่ เธอรู้สึกว่าจะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลสักอย่าง



       “เราบอกแล้วว่า อย่า-โก-หก” เมย์เน้นเสียง พร้อมๆกับที่เธอหยิบเอาขวานอันเล็กๆที่พับได้ของเธอออกมา ปอนมองขวานคมกริบที่ส่องประกายล้อแสงไฟในมือเพื่อนรักด้วยสายตาหวาดหวั่น ก่อนจะค่อยๆถอยหลังเข้าไปจนถึงด้านในสุดของห้องน้ำ



       “เธอบ้าไปแล้วหรอเมย์ เธอกำลังจะทำอะไรน่ะ” เสียงของปอนสั่นด้วยความกลัว



       “เฮอะ ปอน เธอลืมแล้วหรอ ว่าเธอเคยสัญญากับฉันไว้ว่ายังไง” เมย์ถาม พร้อมกับเดินตามปอนเข้าไป สีหน้าของเธอเย็นชาแต่เสียงสั่นด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านข้างใน ปอนไม่ตอบอะไรพลางเบือนหน้าหนีเพื่อนสนิทไปทางกระจก



       “ทำไม ต้องแกล้งป่วยเฉพาะวันที่มี ไอ้นั่น ด้วย” เมย์ยังคงถามต่อ ประกายตาและประกายคมขวานทำให้ปอนเกิดความรู้สึกกลัว เหงื่อของเธอค่อยๆซึมออกมาตามไรผมและหน้าผาก หญิงสาวเลือกที่จะไม่ตอบอะไร เมย์ค่อยๆย่างสุมเข้ามาพลางมองเพื่อนสาวด้วยสายตาที่แสดงถึงความน้อยใจและโกรธจัด



       “แรกๆเราก็เห็นว่าเธอคงไม่สบายจริงๆ ถึงไม่ได้ว่าอะไร แต่วันนี้เราสุดทนแล้วนะ เธอต้องรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เราได้เจอบ้าง” เมื่อพูดจบ ขวานในมือของเมย์ก็ตวัดฉับลงบนแขนข้างขวาของปอนอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกันกับเลือดสีแดงฉานที่สาดกระเซ็นออกมาราวกับน้ำพุ ปอนกรีดร้องออกมาสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับใช้แขนข้างซ้ายที่ยังเหลืออยู่กุมแขนขวาที่เลือดกำลังพุ่งตามจังหวะการเต้นของหัวใจ หญิงสาวเริ่มหายใจหอบ และน้ำตาก็ค่อยๆไหลรินลงมา เมย์มองเพื่อนสาวด้วยสายตาเย็นชาและสะใจ



       “ปอน เราเป็นเพื่อนกันจริงๆหรอ ทำไมเธอถึงต้องปล่อยให้เราทำอย่างนั้นอยู่คนเดียวล่ะ ดูสิ คนอื่นเค้าก็มีเพื่อนที่เข้าไปด้วยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่เธอกลับ...เธอกลับปล่อยให้เราทำแบบนั้นคนเดียวมาตลอด” แล้วเมย์ก็ใช้ขวานฟันที่ขาซ้ายบริเวณเหนือหัวเข่าของปอนอีกครั้ง เลือดสาดกระจายเละเทะไปทั่วห้องน้ำและชุดนักเรียนของทั้งสอง กลิ่นความเลือดน่าสะอิดสะเอียนคละคลุ้งไปทั่วห้องน้ำ ร่างบางค่อยๆทรุดตัวลงกับพื้น เลือดจากขาซ้ายไหลออกมาราวกับสายน้ำ น้ำตาของเธอไหลรินด้วยความเจ็บปวดพลางมองเพื่อนรักอย่างขอความเห็นใจ ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้มีใครสักคนผ่านมาเห็นเธอในสภาพนี้และช่วยให้เธอพ้นจากนรกนี้ไปเสียที



       “ไม่ต้องมาบีบน้ำตานะ เธอยังเหลือแขนและขาอีกสองข้าง เตรียมตัวให้ดีเถอะ” เมย์ตะคอก พลางมองร่างที่สั่นอยู่บนพื้นอย่างสะใจที่สุด

        ในขณะที่เมย์กำลังจะลงขวานอีกครั้ง ประตูห้องน้ำก็เปิดออก เมย์ตกใจ แต่ในมือยังกำขวานแน่น ส่วนปอนนั้นก็คลายยิ้มออกมาเล็กน้อยพลางหายใจหอบถี่ขึ้น โอ๋ เพื่อนสาวร่างกลมกำลังเดินเข้ามาในห้องน้ำ กลิ่นคาวเลือดและสภาพที่เธอเห็นทำให้หญิงสาวถึงกับผงะ



       “โอ๋” เมย์ร้อง ในขณะที่ปอนก็สลบลงไปทันทีเนื่องจากในตอนนี้ได้เสียเลือดไปมากแล้ว



       “เมย์......ปอน” โอ๋ดูตกตะลึงกับสภาพของเพื่อนทั้งสองคน เกิดความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องน้ำ สักพัก โอ๋ก็ค่อยๆเอ่ยปาก



       “เมย์ เธอรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่ นี่มันได้เวลาเรียนแล้วนะ”



       “ก็ช่างสิ ตอนนี้เรามีเรื่องที่ต้องสะสางกับปอน” เมย์ตอบสะบัดๆ



       “นี่ ตอนนี้ปอนสลบไปแล้วนะ เธอจะเอาอะไรกับเขาอีกล่ะ”



       “ก็.. ปอนปล่อยให้เราไปเจอกับไอ้นั่นคนเดียวนี่นา เราทนไม่ไหวแล้วนะ” เมย์บอก



       “แล้วการที่เธอมาทำอย่างนี้น่ะ คิดว่าดีแล้วหรอ สะใจแล้วหรอ มันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยนะ อีกอย่าง ถ้าทำผิดวิธ๊ปอนอาจตายได้ เธอก็รู้ไม่ใช่หรอไง” โอ๋พยายามเกลี้ยกล่อม



       “รู้ แต่โอ๋คิดดูนะ ปอนแกล้งป่วยในวันที่เราจะต้องเจอกับไอ้นั่น ทุกครั้ง เราทนไม่ไหวแล้วล่ะ เราอยากให้ปอนได้รับรู้ความเจ็บปวดของเราบ้าง” เมย์พูดด้วยเสียงราบเรียบ สายตาเป็นประกายกล้า โอ๋ถอนหายใจ



       “ตอนนี้ปอนรู้แล้วล่ะ พวกเธอจะไปเรียนกันได้หรือยัง คาบแรกเจ๊โหดไม่ใช่หรอไง”

    เมย์มองหน้าเพื่อนทั้งสองคนสลับไปมา และมองสภาพของปอน ในตอนนนี้ อารมณ์ของเธออ่อนลงแล้ว เธอตัดสินใจว่า เอาไว้แค่นี้ก่อนจะดีกว่า เพราะอาจารย์ของเธอก็โหดไม่ใช่เล่นเหมือนกัน



       “ไปก็ได้” เมย์ตอบด้วยเสียงสะบัด ก่อนที่จะเดินไปล้างขวานของตนที่อ่างน้ำ เลือดของปอนค่อยๆไหลตามน้ำลงไปในท่อ



       “ดี แล้วอย่าลืมปลุกเมย์กับล้างรอยเลือดด้วย” โอ๋เตือน

    เมย์เอาทิชชู่ในห้องน้ำไปชุบน้ำแล้วเอามาบีบใส่หน้าของปอน ปอนค่อยๆลืมตาขึ้นและมองเห็นโอ๋และเมย์ที่กำลังพยายามทำความสะอาดคราบเลือดของเธอที่เลอะไปทั่วห้องน้ำ เมื่อโอ๋เห็นปอนตื่นแล้ว เธอจึงสั่งทันที



       “ปอน เธอรีบๆงอกแขนกับขาใหม่ดีกว่านะจะได้ไปเรียนกันสักที” ปอนพยักหน้าพลางพยายามงอกแขนและขาด้วยความเร็วสูงสุด แขนและขาของเธอค่อยๆงอกออกมาจากรอยตัดที่เรียบกริบ จนกระทั่งทั้งแขนและขากลับมาเป็นปกติ เหลือแต่รอยเลือดเป็นวงรอบๆต้นแขนและขาซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกตัดเมื่อกี้เท่านั้น หญิงสาวเดินไปล้างคราบเลือดที่แห้งกรังและลองขยับแขนที่งอกใหม่ไปมาจนกระทั่งใช้งานได้เป็นปกติ



        เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย โอ๋ก็หยิบเอาแขนและขาของปอนที่ถูกตัดและทิ้งไว้บนพื้นห้องน้ำราวกับขยะที่น่ารังเกียจชิ้นหนึ่งขึ้นมา นำไปล้างน้ำและถือเอาไว้



       “เราขอนะ จะเอาไปเรียนคาบต่อไปน่ะ” โอ๋บอก ปอนพยักหน้า โอ๋ยิ้มพลางขอบใจและเดินออกจากห้องน้ำไป



       “คุยกันให้รู้เรื่องนะ อย่าเที่ยวตัดแขนตัดขาเล่นกันอีกเลย แค่ไอ้นั่นก็แย่พอแล้ว” โอ๋พูดทิ้งท้าย ส่วนปอนกับเมย์หันมามองหน้ากัน



       “เรา...เราขอโทษนะ เราไม่เคยรู้เลย”ปอนพูดอย่างสำนึกผิด



       “อืมม ช่างเหอะ เราก็ผิดด้วยแหละ ไว้ค่อยคุยกันทีหลังดีกว่า แต่ตอนนี้....” เมย์พูดพร้อมกับดูนาฬิกาแล้วทำหน้าเหยเก ทั้งสองมองหน้ากันอีกครั้ง



       “ซวยแล้ว ไปเรียนก่อนดีกว่า “ แล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งไปเรียนอย่างรวดเร็ว



         เวลา 12.15น. โรงอาหาร



       “ โอยย เมื่อเช้าเกือบซวย ดีนะที่บอกอาจารย์ว่าช่วงที่เข้าห้องน้ำเราสะบัดแขนแรงไปเลยแขนหัก ต้องมานั่งงอกใหม่เลยเข้าสาย รอดตัวไป” ปอนเล่าให้เมย์ฟัง



       “ของเราบอกว่า เราไปห้องพยาบาลมา ดูเจ๊แกเหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ทำโทษอะไร” เมย์เล่าบ้าง



       “นี่ แต่เราขอร้องเถอะนะ คราวหลังใช้วิธีที่นุ่มนวลกว่านี้ก็ได้นะ แบบนี้มันสุดๆเลยอ่ะ” ปอนบ่น



       “แหม ก็เราฟิวส์ขาดนี่ เรื่องอะไรถึงต้องปล่อยให้เราไปเข้าห้องนั้นคนเดียวทุกที” เมย์พูดอย่างน้อยใจ



       “คราวหลังอย่าลืมสัญญาล่ะ เข้าห้องประกอบอาหารด้วยกันซะดีๆ แค่ถูกตักแขนตัดขาไปทำอาหารกลางวันแค่นี้มันเป็นหน้าที่ของนักเรียนอยู่แล้ว ทีคนอื่นนะ เค้ามีเพื่อนมาด้วย ก็เลยสบายๆ แต่เราสิ ต้องงอกแขนคนเดียว ทำอะไรคนเดียว คราวหลังจะทำอะไรก็คิดหน่อยว่าสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเค้ามากแค่ไหน” เมย์บ่นยาวยืด ปอนยิ้มแหยๆ



       “เจ้าค่าๆ คราวหลังดิชั้นจะไม่ทำอีกแล้วค่า” หญิงสาวพูดด้วยเสียงล้อๆ



       “อืมม ว่าแต่ วันนี้คิวของระดับไหนล่ะ” ปอนถาม



       “อืมม รู้สึกจะเป็นพี่ม.6นะ” เมย์บอก



       “หึหึ ดีสิ เผื่อความรู้ของพวกพี่ๆมันจะกระเด็นมาเข้าหัวมั่ง รีบไปทานกันดีกว่า เดี๋ยวหมดแล้วจะอดกิน” ปอนแลบลิ้นเลียริมฝีปาก



             แล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในโรงอาหารด้วยกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×