ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อสงไขยเวลา

    ลำดับตอนที่ #33 : น้ำตาและโลหิต

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.03K
      32
      29 ก.ย. 55

     

                 สนมเอกหลินที่ถูกพิษเช่นเดียวกับฮองเฮา พอกลับมาถึงตำหนักก็รีบสั่งให้นางกำนัลคนสนิทไปเอาห่อยาถอนพิษที่สนมเอกกงให้ไว้แก่นาง ตามแผนการของนางและสนมเอกกง คือรอบวางยาพิษสังหารฮองเฮา โดยใส่ความว่าเป็นฝีมือของเจ้าขันทีชั่วนั่น หลังจากนั้นพวกนางก็ร่วมกับปกครองตำหนักในด้วยกัน แต่ฝันไปเถอะที่นางจะยอมแบ่งอำนาจให้สนมเอกกง รอให้นางได้อำนาจมาครองเสียก่อน นางจะกำจัดสนมเอกกงออกไป สนมเอกหลินแอบวางแผนการ แต่ทว่าสิ่งที่นางคิดใช่ว่าสนมเอกกงจะไม่คิด และนางได้เดินนำไปหนึ่งก้าว  เพราะยาที่นางกินหาใช่ยาถอนพิษไม่ มันคือยาพิษอย่างแรงที่ทันทีที่ผ่านลงคอไป สนมเอกหลินสิ้นชีพไปโดยพลัน ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของนางกำนัลคนสนิท

                    ที่ตำหนักของสนมเอกกง นางนั่งจิบน้ำชาชั้นดีอย่างใจเย็น บนริมฝีปากของนางปรากฏรอยยิ้มจางๆ ป่านี้สนมเอกหลินคงกินยาที่นางให้แล้ว พอคิดถึงตรงนี้นางอดที่จะหัวเราะเบาๆมิได้  สตรีที่โง่มักจะคิดว่าตนเองฉลาด ยาถอนพิษที่นางให้มันเป็นยาพิเศษ ถ้ากินยาถอนตัวนี้กับพิษทั่วไปมันก็คือยาถอนชั้นยอด แต่ถ้ากินมันกับพิษของแคว้นซีเซียงนั้นคือยาพิษที่รุนแรง ถึงขั้นสิ้นชีพเพียงชั่วอึดใจ นางใช้คุณสมบัตินี้ของยา ในตอนที่นางดื่มยาพิษต่อหน้าสนมเอกหลินในที่ทำข้อตกลง และกินยาตัวนั้นเพื่อแสดงให้นางเห็นว่ายาถอนนี้คือของจริง

                    สนมเอกกงหัวเราอย่างชื่นบาน อีกไม่นานตำหนักและอำนาจแห่งวังหลังแห่งนี้ก็จะอยู่ในกำมือของนาง

                “รู้สึกว่าท่านพี่จะอารมณ์ดีเหลือเกินนะขอรับ” เสียงเคร่งขรึมของกงจู ดังขึ้นที่หน้าประตู สนมเอกกงปลายตามองน้องชายอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

                “เจ้ามาทำไม...”

                “ข้าแค่มาอยู่เป็นเพื่อนท่านพี่ ในช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตำหนักในเท่านั้น”

                สนมเอกกงเหยียดยิ้มกับคำกล่าวของกงจู นางหยิบพัดประจำกายขึ้นมาโปกเบาๆ “ เจ้าคิดว่าพวกสกุลจางจะทำอะไรได้อีก...ในเมื่อฝ่าบาทจะทรงกวาดล้าง”

                กงจูตวัดสายตามองพี่สาวของตน  “ มันก็ไม่แน่...ยามเมื่อสุนัขจนตรอกอะไรๆ ก็เกิดขึ้น”

                “หึๆๆๆ เจ้ากังวลเกินไปแล้วน้องพี่..”

                กงจูไม่ได้พูดอะไร เขาได้แต่ทอดสายตาแลไปยังพี่สาวของตน สตรีผู้ทำได้ทุกอย่างเพื่ออำนาจ เขารู้ดีว่า ผู้ที่วางยาพิษฮองเฮาตัวจริงนั่นคือผู้ที่อยู่ตรงหน้าของเขานี่แหละ หาใช่พวกสกุลจางที่คิดกบฏไม่ แต่ทุกอย่างคือแผนการของฝ่าบาทที่จะกำจัดสกุลจางที่คิดไม่ซื่อทั้งหมด แทนที่จะรอให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหว ฝ่าบาทกลับชิงลงมือก่อน โดยการสละชีวิตฮองเฮา และป้ายความผิดทั้งหมดให้สนมเอกจางและตระกูลจางทั้งหมด รวมทั้งเปิดเผยแผนกบฏ ซึ่งทำให้ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่ราชสำนัก และเมืองหลวงจะตลบไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

                ในขณะนั้นเขาก็อดนึกถึงสตรีอีกคนหนึ่งไม่ได้...ไม่รู้ว่าป่านี้นางจะเป็นอย่างไรบาง...นางจะปลอดภัยหรือไม่...เขาก็ได้แต่กังวล

    ยามรุ่งอรุณ ทางราชสำนัก ได้ประกาศถึงการสิ้นชีวิตของฮองเฮา และประกาศถึงความผิดของสกุลจาง ที่คิดว่าแผนกบฏ คิดรอบฆ่าฮ่องเต้ แต่ทว่าฮองเฮาล่วงรู้แผนการจึงยอมสละตนเอง ช่วยเหลือบ้านเมือง เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย  ฮ่องเต้จึงโองการจับหัวหน้าตระกูลจาง สนมเอกจาง และผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมด ประหารชีวิต ส่วนคนตระกูลจางที่ไม่เกี่ยวข้องก็เนรเทศไปใช้แรงงานที่ชายแดนชั่วชีวิต

    อู๋หยางตี้ ยืนอยู่หน้าห้องของฮูหยิน เสียงร้องไห้ปานใจจะขาดของนาง ทำให้เขาเศร้ายิ่งนัก ทว่าเขาไม่สามารถช่วยเหลือญาติพี่น้องของนางได้ แม้ว่าก่อนน่านี้จะเข้ามาแกะขาเขาอ้อนวอนให้เขาหาทางช่วยเหลือบรรดาญาติพี่น้องของนาง โดยกล่าวว่าตระกูลของนางโดนใส่ร้าย แต่เขาก็ได้แต่นิ่งเฉย จนทำให้นางต้องหลบหนีมาร้องไห้เพียงคนเดียวภายในห้อง

    “ฮูหยิน..” ไม่มีเสียงตอบกลับจากภายใน  ชายหนุ่มจงได้แต่กัดฟันข่มกลั่นอารมณ์ แล้วหันหลังกลับและเดินจากไปเขายังมีหน้าที่อีกมากมายต้องกระทำ

    ตวนมู่หญงที่นอนรักษาตัวที่บ้านพักลับของอู๋หยางตี้ที่จะใช้เฉพาะในยามฉุกเฉิน  เริ่มได้สติ หลังจากเสียเลือดไปพอสมควร และบุคคลแรกที่เธอได้เห็นคือ จูเอ๋อ สาวใช้คนสนิทของเธอ นั่นเอง

    ใบหน้าน่ารักของจูเอ๋อเต็มไปด้วยน้ำตา และความเศร้าแต่พอเห็นตวนมู่หญงลืมตาขึ้นมา ความเศร้าต่างๆก็จางหายไปโดยทัน มีแต่ความยินดีเข้ามาแทนที่

    นายท่าน...นายท่านได้สติแล้วนางรีบเข้าไปประคองเมื่อเห็นว่านายของตนทำท่าจะลุกขึ้น นายท่านเจ้าค่ะระวังเจ้าค่ะ

    ที่นี้ที่ไหนเสียงแหบแห้งของตวนมู่หญงถาม ขณะที่สายตาพร่าเลือนก็พยายามเพ่งมองสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว

    เรือนพักลับของใต้เท้าอู๋หยางตี้เจ้าค่ะ

    ทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี้ได้ละ...เธอถามอย่างมึนงง แล้วเธอก็เริ่มจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง มือของเธอ เลื่อนไปสัมผัสที่ท้องของตนเองก็พบกับผ้าพันแผลหนาเตอะ และความเจ็บแปลบของแผลที่ถูกกระบี่ของอู๋หยางตี้แทงตามคำสั่งของฮ่องเต้ นี่ข้า...ยังไม่ตายใช่ไหม

    ทำไมนายนท่านถึงเอ่ยเช่นนี้เจ้าค่ะ....นายท่านของข้าน้อยจะตายง่ายๆได้เช่นไรจูเอ๋อพูดเสียงเครือ น้ำตาปริ่มจะไหล่ เพราะนางนึกไปถึงครั้งแรกที่ได้เจอกับนายของเธอ ที่มาทั้งในชุดขันทีเลือดไหลนอง ในตอนแรกเธอตกใจแทบทำอะไรไม่ถูก โชคดีที่ใต้เท้าอู๋หยางตี้ให้สาวใช้และหมอมารออยู่แล้ว ทำให้นายของเธอไม่เสียเลือดจนตาย และโชคดีที่สุดที่กระบี่ที่แทงนายท่านของเธอไม่ถูกจุดสำคัญ

    จริงสินะ...เราจะตายง่ายๆได้เช่นไร...ภารกิจยังไม่สำเร็จเลยตวนมู่หญงพูดอย่ามึนชา ภาพที่อู๋หยางตี้แทงกระบี่มาที่ตัวเธอ และสายตาของฮ่องเต้ที่มองเธอยามเมื่อกำลังล้มไปกองกับพื้นยังคงติดตาเธออยู่  มันเป็นความรู้สึกที่อยากจะบรรยายกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่เธอก็ได้เตรียมใจเอาไว้แล้วส่วนหนึ่ง แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะถึงขนาดที่เธอต้องถูกกระบี่เสียบทะลุเช่นนี้ เธอนึกว่าอย่างมากอาจจะถูกลากไปขังคุกหลวง รอการสอบสวน แล้วฮ่องเต้หรือไม่ก็อู๋หยางตี้คงช่วยเธอออกมาเอง แต่นี่ฝ่าบาทกลับสั่งประหารเธออย่างเลือดเย็นที่สุด ทำให้เธออดที่ปวดใจไม่ได้ 

    แล้วนี่ข้าหมดสติไปนานเท่าไหร่แล้วละจูเอ๋อ

    นายท่านหมดสติไปสามชั่วยามแล้วเจ้าค่ะ

    อย่างงั้นรึ

    นายท่านนอนพักก่อนเถอะเจ้าค่ะ บ่าวจะไปอุ่นยามาให้เจ้าค่ะพูดจบจูเอ๋อก็รีบประคองให้  ตวนมู่หญงนอนลง และรีบไปออกไปอุ่นยา

    ตวนมู่หญงมองตามสาวใช้ไป แล้วเธอก็ค่อยๆหลับตาลง และได้แต่หวังว่าแผนการึครั้งนี้ของฮ่องเต้ จะสูญเสียชีวิตให้น้อยที่สุด  

    เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์

    เหตุการณ์วุ่นวายเกี่ยวกับกบฏสกุลจาง ก็สงบลง แม้ว่าตัวการใหญ่ของ จางเหยา หัวหน้าตระกูลจาง จะหลบหนีไปได้ ทว่าชายผู้นั้นก็ยากที่ฟื้นกำลังคืนกลับมาได้ง่ายๆ เพราะทางด้านแคว้นซีเซียง ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันของแคว้นซีเซียงก็เป็นเพียงหุ่นเชิดของอ๋องเหอซี จิ้งจอกร้ายที่วางแผนการร่วมกับฮ่องเต้แห่งแคว้นเทียนเฉา เพื่อผลประโยชน์ต่างตอบแทน โดยทางเขาจะได้รับข่าวสารเกี่ยวกับกบฏที่รอบสมคบคิดกับองค์รัชทายาทแห่งซีเซียง และถ้ามีพวกบฏหลบหนี้ไปขอความช่วยเหลือทางซีเซียง อ๋องเหอซีก็จะกำจัดให้  โดยที่อีกฝ่ายต้องตอบแทนโดยการสนับสนุนชายผู้นั้นยาม ชิงราชบัลลังก์แห่งซีเซียง

    ภายในห้องทรงอักษร

    ฮ่องเต้ทอดตามอง ราชโอการเบื้องหน้า ราชโอการกล่าวโทษอดีตสนมกง ที่ปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮากง ว่าเป็นผู้อยู่เกี่ยวข้องกับการวางยาพิษสนมเอกหลิน และอดีตฮองเฮา  แล้วพระองค์เลื่อนสายตามองมองบุรุษที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า บุตรชายของเขา ที่ดูซูบผอมและสีหน้าเต็มไปด้วยความตรอมตรมหลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย แม้ว่าเขาจะไม่ได้อธิบายแผนการ และเหตุผลทั้งหมด แต่เขารู้ดีว่าในใจของลูกชายเขา เข้าใจทุกอย่าง  และเขาก็ผ่านพ้นมาได้  แล้วราชโอการที่อยู่เบื้อหน้าพระองค์นี้ คือสิ่งที่จะทำให้บุตรชายของเขาในอนาคตมีอำนาจต่อรองกับฮองเฮากง ผู้คุมอำนาจในฝ่ายใน

     “ องค์รัชทายาท...ราชโอการที่เราจะมอบให้เจ้า ฉบับนี้ เราหวังว่าเจ้าจะใช้มันอย่างฉลาด

    องค์รัชทายาทเงยหน้าที่เคร่งขรึมผิดจากวันวาล มองพระองค์  แล้วก็คำนับรับราชโอการ ที่จะช่วยให้เขายามเป็นฮ่องเต้ควบคุมอำนาจของฮองเฮากงได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ยามนี้เขาอยากจะแล่นไปประกาศราชโอการ และสังหารนางให้ตายดับตามเสด็จแม่ของเขาไป ทว่าในตอนนี้ฮองเฮากงมีความสำคัญต่อราชสำนักและราชบัลลังก์ ดังนั้นเขาต้องพยายามกดความแค้นเอาไว้ในอก และความแค้นของเขาไม่มีแค่ฮองเฮากงเพียงอย่างเดียว มันยังรวมไปถึงเสด็จพ่อของเขาด้วย เสด็จพ่อผู้เหี้ยมโหด ที่ยอมสละมารดาของเขา เพื่อรักษาราชบัลลังก์ แม้มันคือสิ่งที่ฮ่องเต้ควรกระทำ แต่เขาไม่อาจที่จะรับได้

    ฮ่องเต้มองบุตรชายของตน แล้วพระองค์ก็ได้แต่ยิ้มจางๆ พระองค์เข้าใจถึงความเจ็บแค้นของบุตรชายได้ดี แต่ถ้าต้องเลือกอีกครั้ง พระองค์ก็ยังคงเลือกทางนี้อยู่ดี

    “เอาละ เจ้าออกไปได้แล้ว”

    “พะยะค่ะ..เสด็จพ่อ”

    องค์รัชทายาทคำนับ และออกไปจากห้องทรงอักษร ฮ่องเต้ก็ลุกขึ้นที่หน้าต่างและมองไปยังทิวทัศน์ด้านนอก อย่างเดียวดาย

                ตวนมู่หญงที่ในเวลานี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักลับของอู๋หยางตี้ ก็อาการดีขึ้นตามลำดับ โดยการดูแลอย่างเอาใจใส่ของจูเอ๋อ สาวใช้ประจำตัวของเธอ ซึ่งในระหว่างที่เธอนอนพักรักษาตัวนั้น อู๋หยางตี้ไม่เคยปรากฏกายหรือมาเยี่ยมเธอเลยซักครั้ง แต่เธอก็เข้าใจดีว่า อีกฝ่ายของจะไม่กล้ามา  ทว่าเธอก็อยากจะเจอหน้าและถามเรื่องราวในวัง โดยเฉพาะเรื่องของฝ่าบาทจากอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก  และเมื่ออีกฝ่ายไม่มา เธอก็คงจำเป็นต้องไปหาเอง

                “จะดีหรือเจ้าค่ะ นายท่าน...ที่จะแอบออกไปหาใต้เท้าอู๋หยางตี้เช่นนี้..” จูเอ๋อถามเสียงกังวล

                ตวนมู่หญงที่อยู่ในชุดคุณชายแห่งจวนเสนาบดีตวน พร้อมกับหน้ากากที่ปิดบังโฉมหน้า เหลียวมองสาวใช้ของตนเองที่อยู่ด้านหลังด้วยท่าทีที่มั่นใจ

                “ถ้ามัวแต่รอให้อู๋หยางตี้ไปหาที่บ้าน แล้วอีกกี่ชาติกันที่ข้าได้รู้เรื่องที่ข้าต้องการ” พูดจบ เธอก็เดินไปเคาะประตูเรียก ไม่นานบ่าวผู้หนึ่งก็วิ่งมาเปิดประตู

                “ไม่ทราบว่าคุณชายท่านนี้เป็นใคร และต้องการสิ่งใด”

                “ข้าตวนมู่หญง แห่งจวนเสนาบดีตวน ต้องการเข้าพบใต้เท้าอู๋หยางตี้”

                “ข้าน้อยต้องขออภัย วันนี้นายท่านไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท จึงขอให้คุณชายมาพบนายท่านใหม่พรุ่งนี้” พูดจบบ่าวผู้นั้นก็ปิดประตู ทิ้งให้ตวนมู่หญงขยี้เท้าด้วยความขัดใจ ว่าเธอนั้นฝืนสังขารที่บาดเจ็บมาเสียเที่ยวแท้ๆ

                “ไปจูเอ๋อ เรากลับกันเถอะ” พูดจบเธอก็เดินนำสาวใช้กลับไปยังบ้านพักลับ ขณะที่เดินไปได้ครึ่งทาง ก็มีเสียงร้องโวยวายของหญิงชรานางหนึ่งดังขึ้น

                “ใครก็ได้จับไอ้โจรนั่นที...ใครก็ได้”

                ตวนมู่หญงหันกลับไปมอง ก็เห็นโจรวิ่งราววิ่งมุ่งตรงมาทางเธอ ซึ่งจะหลบก็สายไปเสียแล้ว เจ้าโจรนั่นกระแทกเธอล้ม โดนตรงบาดแผลพอดี ความเจ็บแผลนั้นมากพอที่จะทำให้เธอเห็นดาวกันเลยเลยทีเดียว

                “ไอ้โจรชั่วหนีข้าไม่พ้นหรอก” เสียงของชายหนุ่มที่หยิ่งทะนงดังขึ้น พร้อมกับลูกธนูที่วิ่งผ่านเธอที่นอนตัวงอด้วยความเจ็บปวดไปโดยตัวโจรที่วิ่งหนี ที่ไหล่อย่างแม่นยำ เจ้าโจรถึงกับร้องโหยหวน และล้มลงไปกองกับพื้น ไม่นานพวกเจ้าหน้าที่ก็วิ่งไปควบคุมตัวโจรชั่วผู้นั่น

                ตวนมู่หญงที่กำลังถูกจูเอ๋อช่วยประคองให้ลุกขึ้น เธอก็มองไปยังชายผู้ยิงธนู ชายผู้นี้นั่งอยู่บนหลังม้า ในมือถือธนูสีดำเป็นเงา อย่างองอาจ ด้วยทีท่ายิ่งทระนง ใบหน้าที่จัดได้ว่ารูปงามนั้นเหลืบมองมายังเธอที่ลุกขึ้นมายืน สายตาที่หรี่มองอย่างสงสัยของชายผู้นั้นก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อหน้ากากที่ปิดบังโฉมหน้าของตวนมู่หญง ค่อยหลุดล่วงลงจากผลที่โจรนั้นกระแทกเธอจนล้ม ทำให้ชายผู้นี้ได้ยลโฉมหน้าของเธอ

              “ตายแล้ว...นายท่านหน้ากากท่านหลุด” จูเอ๋อร้องอย่างตกใจ รีบหยิบหน้ากากปิดบังใบหน้าของ ตวนมู่หญง ซึ่งตอนนี้หาได้สนใจเรื่องหน้ากากไม่ เพราะความเจ็บบาดแผลนั้นสำคัญกว่าเยอะ

                “ช่างเรื่องหน้ากากนั่นก่อน...จูเอ๋อเจ้าช่วยประคองข้าไปหาที่นั่งพัก หรือโรงเตี้ยมเร็วเข้าเถอะ ข้าเจ็บแผลมากเหลือเกิน...บาดแผลข้าอาจจะฉีก” ตวนมู่หญงกัดฟันพูด จูเอ๋อจึงรีบพยุงนายของตนไปหาโรงเตี้ยมที่ใกล้ที่สุด ทว่าก็ถูกขวางโดยบุรุษผู้ยิงธนูปราบโจร

                “นายของเจ้าบาดเจ็บงั้นรึ” ชายผู้นั้นถาม สายตาไม่ได้ละไปจากใบของตวนมู่หญงเลย 

                ตวนมู่หญงไม่อยากจะเสวนาด้วย จึงได้พยักหน้า และพยายามอดกลั้นความเจ็บเดินเลี่ยงไปทางอื่นทว่า ชายผู้นี้ก็ยังชักม้ามาขวาง ทำให้เธอถึงกับเดือด และจะเงยหน้าขึ้นไปต่อว่า แต่ชายผู้นั้นกลับลงจากหลังม้าเข้ามาอุ้มเธอ ท่ามกลางสายตาของชาวเมือง

                “มาเถิด... จะช่วยพาเจ้าไปหาท่านหมอ” ชายหนุ่มพูดจบก็จี้สกัดจุดด้วยวิชายุทธที่เหนือกว่าและอุ้มเธอขึ้น แล้วใช้วิชาตัวเบาวิ่งฉิวไปหายไปท่ามกลางผู้คน ทิ้งให้จูเอ๋อที่วิ่งร้องโวยวายอย่างตกอกตกใจ ตามหลัง

                ชายหนุ่มผู้นี้แทนที่จะพาเธอไปยังร้านหมอ แต่เขากลับพามาเธอยังจวนแห่งหนึ่ง ที่หน้าจวนมีป้ายไม้ขนาดใหญ่ มีอักษรเพียงตัวเดียวคือคำว่าเฮย ชายหนุ่มไม่พูดพล่ามอะไร ก็เดินไปถีบประตูจวนให้เปิดออก บ่าวไพร่ที่อยู่บริเวณนั้นต่างรีบมาตั้งแถวและโค้งคำนับชายผู้นี้เป็นการใหญ่

                “ยินดีต้องรับนายท่าน”

                “พวกเจ้าไปบอกพ่อบ้านที ให้ไปเชิญหมอมาด่วน” ชายหนุ่มตะโกนสั่งการ บ่าวไพร่ก็รีบร้อนทำตามคำสั่ง ส่วนตัวเขาก็อุ้มพาเธอไปยังห้องพักแขกด้านในของจวน พอวางเธอลงบนเตียง แล้วจึงจะคลายจุด

                พอคลายจุด ตวนมู่หญง พยายามจะลุกขึ้น แต่อีกฝ่ายก็กดมือลงบนบ่าของเธอให้นั่งลง

                “เจ้าอย่าขยับตัว...มิเช่นนั้นแผลของเจ้าจะฉีกมากกว่านี่” แล้วชายหนุ่มก็ถอนหายใจ “นี่เจ้า           อู๋หยางตี้มันคิดอย่างไร ถึงปล่อยให้เจ้าออกมาเดินข้างนอกคนเดียวในตอนนี้”

                “เจ้ารู้จักกับอู๋หยางตี้งั้นรึ” ตวนมู่หญงถามอย่างคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะรู้จักกับอู๋หยางตี้ และพูดทำนองเหมือนรู้จักเธอด้วย

                “ใช่ข้ารู้จักอู๋หยางตี้...แล้วรู้จักและรู้เรื่องที่มาของบาดแผลของเจ้าด้วย...คุณชายตวนมู่หญง”

                “ท่านคือ...”

                “ข้าคือ เฮยจื่อ แม่ทัพรักษาการหัวเมืองฝ่ายใต้ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณชายหยกขาว” ชายหนุ่มกล่าวแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม ขณะที่ดวงตาของเขากวาดมองใบหน้าของเธอ                     

     ********************************************************************************
    เปิดแล้ว หนุ่มหล่อ คนสุดท้าย เหอๆๆๆ หายหน้าไปนานต้องขออภัยเน้อ ... ดังนั้นเลยขอนำเสนอ รูปของพ่อเฮยจื่อ ให้มิตรรักแฟนเพลงได้ยลโฉมกัน ชอบรูปไหนก็บอก มีรูปในแบบของมาทจอมยุทธ กะคุณชาย ให้เลือกเน้อ





                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×