Petals of Memories กลีบดอกไม้ร้อยถ้อยคำรัก - นิยาย Petals of Memories กลีบดอกไม้ร้อยถ้อยคำรัก : Dek-D.com - Writer
×

    Petals of Memories กลีบดอกไม้ร้อยถ้อยคำรัก

    ใครหลายๆคนไม่กล้าคุยกับฉัน...เพราะฉันไม่เคยหัวเราะ...ไม่เคยยิ้ม... สวนดอกไม้จึงเป็นที่พักพิงของฉันผู้จมอยู่ในความทรงจำผู้นี้... แล้วนายเป็นใครกัน? คิดดีแล้วเหรอที่อยากให้ฉันเปิดใจน่ะ?

    ผู้เข้าชมรวม

    8,659

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    50

    ผู้เข้าชมรวม


    8.65K

    ความคิดเห็น


    204

    คนติดตาม


    39
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  26 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  23 มิ.ย. 64 / 23:52 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ในชีวิตของคนเราแต่ละคนนั้น...ได้รู้จักพบปะกับผู้คนมากมาย...
    ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะ... คุณเองก็คงสามารถสัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้จากคนรอบตัวโดยง่าย...


    แต่คงไม่ใช่จากเธอผู้นี้... 

     

    ใครจะไปเชื่อว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งเธอใช้ชีวิตราวกับว่าเวลาแห่งความสุขของเธอถูกปิดตายมานานแสนนาน เธอลืมการหัวเราะและการยิ้มไปตั้งแต่โศกนาฏกรรมนั้นเกิดขึ้นเวลาแห่งความสุขของเธอหยุดเดินอย่างกระทันหันตั้งแต่วันนั้น
     

    มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถปลอบโยนเธอจากความโดดเดี่ยว
    ดอกไม้คือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
     


    แต่แล้ววันหนึ่ง...

    ...ใครคนหนึ่งเดินทางเข้ามาในชีวิตของเธอ…ยุ่งวุ่นวายกับทุกๆวันเรียบง่ายที่เธอแสนจะพอใจ และนั่นทำให้เธอเริ่มเกลียดขี้หน้าเขาอย่างรุนแรงขึ้นทุกวันๆ


    แต่นั่นก็คงไม่เท่ากับที่…
    ...เขาพยายามจะทลายกำแพงหัวใจ...ที่เธอสร้างขึ้นเอาไว้เพื่อปกปิดความโดดเดี่ยวซึ่งเกาะกุมหัวใจของเธอตลอดมา...

     


       

    Name : Yimwhan
    เหตุการณ์บางอย่างในอดีตทำให้เธอผู้นี้ไม่เคยยิ้มและหัวเราะอีกเลย
    หัวใจของเธอจึงถูกเกาะกุมด้วยความเศร้าเสมอมา...

    ...จะเป็นไปได้หรือ...ที่สักวันเธอจะรู้จักคำว่า 'รัก'
    (Credit : Seohyun SNSD)


    Name : Ta-wan
    หนุ่มหล่อผู้มาพร้อมกับรอยยิ้มและความสดใสเสมอ
    ความร่าเริงที่เขามีในตัวทำเอาเธออยากจะเบือนหน้าหนีทุกครั้งที่ได้เจอ
    และ...อะไรจะเิิกิดขึ้นเมื่อเขา...ต้องการจะเปิดใจเธอ?
    (Credit : Lee Min Ho)


    Name : Ma-ma
    หญิงสาวผู้พกความน่ารักสดใสมาเต็มร้อย
    ลึกๆแล้วเธอนั้นแสนจะกังวลเกี่ยวกับเพื่อนสาว
    ที่เอาแต่ทำหน้านิ่งตลอดเวลา เธอก็ได้แต่หวังว่า...
    ....สักวันหนึ่ง..รอยยิ้มของเพื่อนเธอจะกลับคืนมา...

    (Credit : Tiffany SNSD)

     

       

     

     

     

     


     
     

    ชื่อเกรซค่ะ! ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^^

    ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะค้าาาาา!! >____<!




     



    Bannerมี 2 แบบค่ะ :
     
     
     





    นิยายเรื่องอื่นของเรา :D
     


     


     
     
    © Tenpoints !

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "อั้ยยะ!!"

    (แจ้งลบ)

    โอ้ววววววววจอจจจจจจ ตะเองเกริ่นบทอินโทรได้น่าสนใจมักๆ> ... อ่านเพิ่มเติม

    โอ้ววววววววจอจจจจจจ ตะเองเกริ่นบทอินโทรได้น่าสนใจมักๆ>   อ่านน้อยลง

    พoIพียง | 30 พ.ย. 54

    • 23

    • 2

    "วิจารณ์ จาก MrPoseidonSon"

    (แจ้งลบ)

    อันดับแรก ผมต้องขอบอกก่อนว่า ผมไม่มีเจตนาที่จะทำให้นิยายของคุณเสื่อมเสีย คำวิจารณ์ทั้งหมด มาจากความคิดของผู้วิจารณ์ นั่นก็คือ MrPoseidonSon แต่เพียงผู้เดียว ถ้าคำวิจารณ์นี้ ทำให้ผู้เขียนนิยายรู้สึกแย่ ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ แม้ว่าประโยคแรกที่เปิดตัวมาจะทำให้ผมรู้สึกขัดเคืองกับการสะกดคำว่า มั้ย ก็ตาม แต่ในเมื่อผู้เขียนจงใจที่จะใช้คำนี้ ผมก ... อ่านเพิ่มเติม

    อันดับแรก ผมต้องขอบอกก่อนว่า ผมไม่มีเจตนาที่จะทำให้นิยายของคุณเสื่อมเสีย คำวิจารณ์ทั้งหมด มาจากความคิดของผู้วิจารณ์ นั่นก็คือ MrPoseidonSon แต่เพียงผู้เดียว ถ้าคำวิจารณ์นี้ ทำให้ผู้เขียนนิยายรู้สึกแย่ ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ แม้ว่าประโยคแรกที่เปิดตัวมาจะทำให้ผมรู้สึกขัดเคืองกับการสะกดคำว่า มั้ย ก็ตาม แต่ในเมื่อผู้เขียนจงใจที่จะใช้คำนี้ ผมก็จะมองข้ามคำผิดตรงนี้ไปครับ จริงๆ แล้ว ผมจะไม่นิยมให้เราผันรูปคำไปตามเสียงที่พูด เพราะงานเขียน เราควรใช้คำที่ถูกต้องที่มีบัญญัติลงในพจนานุกรมจริงๆ แม้สำนักพิมพ์บางแห่งที่ผมเห็น จะตีพิมพ์หนังสือด้วยคำนี้ แต่ผมว่า มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี ‘นายช่วยเลิกยุ่งกับฉันสักทีได้มั้ย!? ‘นายช่วยเลิกยุ่งกับฉันสักทีได้ไหม!? ผมว่าความรู้สึกของผู้อ่าน มันไม่ได้แตกต่างระหว่างสองคำนี้กันมากนะครับ ในบทที่หนึ่งมีความขัดแย้งกันเองในเรื่องของการบรรยายนะครับ ระหว่าง มะมาคือใครเหรอคะ…เธอเป็นเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของฉัน… ใช่แล้ว…เธอคนนี้เป็นเพียงคนๆเดียวที่หัวใจของฉันเปิดรับให้เธอมายุ่งวุ่นวายในชีวิตประจำวันของฉันได้… มะมาเป็นคนที่มีรอยยิ้มสดใสร่าเริง เป็นคนที่น่าตาจัดว่าน่ารักเข้าขั้นคนหนึ่ง กับ ฉันเป็นคนเงียบๆ… พอมีคนถามอะไรก็ตอบสั้นๆ… ฉันรู้ดีว่านั่นทำให้ผู้คนรอบข้างหรือพวกคนในโรงเรียนคิดว่าฉันน่ะหยิ่งแสนหยิ่ง… พวกเขาเลยพากันตัดสินใจหลีกเลี่ยงการสนทนากับฉัน… แน่นอนว่านอกจากจะไม่สนทนาด้วยแล้ว…พวกเขายังจงใจหลบสายตาของฉันด้วยอีกต่างหาก… และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมฉันจึงอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด… ผมว่า เราควรจะกลับไปเปลี่ยนเนื้อหาก่อนหน้านี้นะครับ เมื่อเราจงใจที่จะบอกว่า ฉันอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด ควรจะไม่มีใครเลยสักคน แต่ถ้าเราเลือกที่จะดำเนินเรื่องโดยที่มีเพื่อน สักคน สองคน เราอาจจะใช้ประโยคกำกวม เช่น และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมฉันแทบจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด… จริงๆ แล้วเรื่องการเครื่องหมายวรรคตอน ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้มากเท่าไหร่นะครับ แต่ถ้าเราจะใช้เพื่อบอกว่า นี่เป็นประโยคสนทนา เราจะใช้ อัญประกาศคู่ “…” เท่านั้น ส่วนอัญญประกาศเดี่ยว ‘…’ จะใช้เมื่อเราจะเน้นคำพูดหรือสิ่งสำคัญเข้าไป มันใช้เพื่อเน้นสิ่งสำคัญในอัญประกาศคู่ อาจจะเป็นความคิดที่มาจากจิตใต้สำนึกของตัวละครที่เราต้องการจะเน้น ยกตัวอย่างครับ น้อยหันหน้ามา "ฉันไม่อยากจะพูดว่า 'เธอใช้ไม่ได้' เลยรู้ไหม" เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ ทำให้ผมสับสนอยู่พอตัว เมื่อตอนที่ เอ่อ (นางเอก) คุยกับชายหนุ่มในร้านๆ หนึ่ง ผมไม่รู้ว่า นั่นเป็นความคิดของนางเอกหรือเป็นคำพูด เพราะ บทสนทนาของชายหนุ่มคนนั้น มันใช้ ‘…’ ทั้งหมด ‘โหววว เธอไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเลยเหรอ =3=’ แล้วฉันจำเป็นต้องสนทนากับนายเหรอ? ‘เฮ้! เธอก็สวยดีนะ แต่ทำไมหน้าตายชะมัดยาดเลย!!’ อยากรู้ก็ไปถามพ่อแม่ฉันสิ…แต่เสียใจนะ พ่อแม่ฉันจากไปนานแล้ว… ‘เฮ้!! ยัยหน้าตาย!! หน้าตายไม่พอยังตาขวางอีกนะเนี่ย!!! ^O^’ ฉันหน้าตาย…แล้วมายุ่งกับฉันทำไม ใครใช้ให้มายุ่งมิทราบ…ดูจากการแต่งตัวก็รวยดีนะ ก็อย่ามายุ่งกับฉันสิ ไปซื้อของของนายไป! อย่ามายุ่งกับฉันเลยนะ ไอ้คุณชายยิ้มบานปัญญาอ่อน! ‘ว้าววว เธอไม่ขยับตัวแม้แต่มิลเดียวเลยอ่ะ!! เธอยืนนิ่งๆแบบนี้ได้ไง!! เธอเป็นญาติกับรูปปั้นหน้าตายแน่ๆเลย ^O^’ เท่าที่ผมอ่านนิยายมา ผมยังไม่เคยเห็นใครเปิดเรื่องมาเป็นปัจจุบัน แล้วย้อนเวลาไปอดีต แล้วดำเนินมาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่ปัจจุบันตรงที่เดียวกับการเปิดเรื่อง โดยที่ไม่ได้รู้สึก สังหรณ์ใจพิกล แต่เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกประหลาดเมื่ออ่านประโยคที่ว่า ‘นายช่วยเลิกยุ่งกับฉันสักทีได้มั้ย!? ถามจริงเถอะ…นายต้องการอะไรกันแน่? นายจะมาวุ่นวายกับฉันทำไม นายถามฉันสักคำมั้ยว่าฉันต้องการนายหรือเปล่า?’ ผมอึ้งไปเลย มันเนียนมากจริงๆ - - ผมชอบบุคลิกนางเอกนะครับ ดูเยือกเย็นและตรง เหมือนผม แค่จะบอกว่าลักษณะนิสัยบางอย่างคล้ายๆ กัน มันเลยทำให้เข้าใจตัวละครได้ค่อนข้างดี ยังมีบางตอนนะครับ ที่ถูกกลืนหายไป เช่น ตอนที่ชายหนุ่มแนะนำตัวว่าเป็นเด็กใหม่ และเข้ามานั่งข้างๆ หญิงสาว เรื่องก็ห้วนไป มารู้อีกทีก็ตอนที่นางเอกเดินไปแล้ว ผมเลยงงว่า มาถึงฉากนี้เมื่อไหร่ ผมมีความรู้สึกว่า เรื่องมันสะดุดไปเล็กน้อยเมื่อการดำเนินเรื่องเปลี่ยนจาก หญิง มาเป็น ชาย - - ผมชอบการบรรยายในบทของ หญิง มากกว่าเพราะมันเข้าถึงมุกขำๆ ได้ดีกว่า อาจจะเพราะเป็นที่จริตของเพศ หญิง ด้วยล่ะ แต่พอมาเป็น ผู้ชาย จริตตรงนี้ไม่ค่อยมี เลยทำให้โทนการบรรยายเรื่องเปลี่ยนแปลงอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็ดีที่ทำให้เราได้รู้อีกมุมของเรื่องครับ โดยสรุป ผมรู้สึกประทับใจนิยายเรื่องนี้พอตัวนะครับ อ่านไปยิ้มไป ในเรื่องของคำผิด ผมเห็นมีประปรายนะ ส่วนมากจะเป็นพิมพ์ตกมากกว่าที่จะเขียนผิด ปล ผมอ่านนิยายเรื่องนี้ในห้องทำงาน หัวเราะและยิ้มตลอดเวลา จนทำลูกน้องที่เดินเข้ามาหา รู้สึกแปลกใจ เพราะนานๆ ครั้ง เขาจะเห็นผมยิ้ม แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าเขารู้อีกมุมของผมนอกเวลาทำงาน มันจะทำให้เขาเข้าใจว่า ผมไม่ได้โหดอะไรเลย อ่านเรื่องนี้ สะท้อนตัวเองเล็กน้อย (หมายเหตุ นี่เป็นเรื่องที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก เวลาทำงาน เราควรจะตั้งใจทำงาน ต้องแยกแยะให้ออก แต่ผมต้องขอแก้ตัวว่า วันเสาร์ มันไม่ใช่วันทำงาน แต่เนื่องด้วยทุกคนอยากได้โอที ผมก็เลยต้องจัดให้ไป)   อ่านน้อยลง

    MrPoseidonSon | 10 ธ.ค. 54

    • 15

    • 0

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    "วิจารณ์ จาก MrPoseidonSon"

    (แจ้งลบ)

    อันดับแรก ผมต้องขอบอกก่อนว่า ผมไม่มีเจตนาที่จะทำให้นิยายของคุณเสื่อมเสีย คำวิจารณ์ทั้งหมด มาจากความคิดของผู้วิจารณ์ นั่นก็คือ MrPoseidonSon แต่เพียงผู้เดียว ถ้าคำวิจารณ์นี้ ทำให้ผู้เขียนนิยายรู้สึกแย่ ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ แม้ว่าประโยคแรกที่เปิดตัวมาจะทำให้ผมรู้สึกขัดเคืองกับการสะกดคำว่า มั้ย ก็ตาม แต่ในเมื่อผู้เขียนจงใจที่จะใช้คำนี้ ผมก ... อ่านเพิ่มเติม

    อันดับแรก ผมต้องขอบอกก่อนว่า ผมไม่มีเจตนาที่จะทำให้นิยายของคุณเสื่อมเสีย คำวิจารณ์ทั้งหมด มาจากความคิดของผู้วิจารณ์ นั่นก็คือ MrPoseidonSon แต่เพียงผู้เดียว ถ้าคำวิจารณ์นี้ ทำให้ผู้เขียนนิยายรู้สึกแย่ ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ แม้ว่าประโยคแรกที่เปิดตัวมาจะทำให้ผมรู้สึกขัดเคืองกับการสะกดคำว่า มั้ย ก็ตาม แต่ในเมื่อผู้เขียนจงใจที่จะใช้คำนี้ ผมก็จะมองข้ามคำผิดตรงนี้ไปครับ จริงๆ แล้ว ผมจะไม่นิยมให้เราผันรูปคำไปตามเสียงที่พูด เพราะงานเขียน เราควรใช้คำที่ถูกต้องที่มีบัญญัติลงในพจนานุกรมจริงๆ แม้สำนักพิมพ์บางแห่งที่ผมเห็น จะตีพิมพ์หนังสือด้วยคำนี้ แต่ผมว่า มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี ‘นายช่วยเลิกยุ่งกับฉันสักทีได้มั้ย!? ‘นายช่วยเลิกยุ่งกับฉันสักทีได้ไหม!? ผมว่าความรู้สึกของผู้อ่าน มันไม่ได้แตกต่างระหว่างสองคำนี้กันมากนะครับ ในบทที่หนึ่งมีความขัดแย้งกันเองในเรื่องของการบรรยายนะครับ ระหว่าง มะมาคือใครเหรอคะ…เธอเป็นเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของฉัน… ใช่แล้ว…เธอคนนี้เป็นเพียงคนๆเดียวที่หัวใจของฉันเปิดรับให้เธอมายุ่งวุ่นวายในชีวิตประจำวันของฉันได้… มะมาเป็นคนที่มีรอยยิ้มสดใสร่าเริง เป็นคนที่น่าตาจัดว่าน่ารักเข้าขั้นคนหนึ่ง กับ ฉันเป็นคนเงียบๆ… พอมีคนถามอะไรก็ตอบสั้นๆ… ฉันรู้ดีว่านั่นทำให้ผู้คนรอบข้างหรือพวกคนในโรงเรียนคิดว่าฉันน่ะหยิ่งแสนหยิ่ง… พวกเขาเลยพากันตัดสินใจหลีกเลี่ยงการสนทนากับฉัน… แน่นอนว่านอกจากจะไม่สนทนาด้วยแล้ว…พวกเขายังจงใจหลบสายตาของฉันด้วยอีกต่างหาก… และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมฉันจึงอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด… ผมว่า เราควรจะกลับไปเปลี่ยนเนื้อหาก่อนหน้านี้นะครับ เมื่อเราจงใจที่จะบอกว่า ฉันอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด ควรจะไม่มีใครเลยสักคน แต่ถ้าเราเลือกที่จะดำเนินเรื่องโดยที่มีเพื่อน สักคน สองคน เราอาจจะใช้ประโยคกำกวม เช่น และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมฉันแทบจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด… จริงๆ แล้วเรื่องการเครื่องหมายวรรคตอน ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้มากเท่าไหร่นะครับ แต่ถ้าเราจะใช้เพื่อบอกว่า นี่เป็นประโยคสนทนา เราจะใช้ อัญประกาศคู่ “…” เท่านั้น ส่วนอัญญประกาศเดี่ยว ‘…’ จะใช้เมื่อเราจะเน้นคำพูดหรือสิ่งสำคัญเข้าไป มันใช้เพื่อเน้นสิ่งสำคัญในอัญประกาศคู่ อาจจะเป็นความคิดที่มาจากจิตใต้สำนึกของตัวละครที่เราต้องการจะเน้น ยกตัวอย่างครับ น้อยหันหน้ามา "ฉันไม่อยากจะพูดว่า 'เธอใช้ไม่ได้' เลยรู้ไหม" เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ ทำให้ผมสับสนอยู่พอตัว เมื่อตอนที่ เอ่อ (นางเอก) คุยกับชายหนุ่มในร้านๆ หนึ่ง ผมไม่รู้ว่า นั่นเป็นความคิดของนางเอกหรือเป็นคำพูด เพราะ บทสนทนาของชายหนุ่มคนนั้น มันใช้ ‘…’ ทั้งหมด ‘โหววว เธอไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเลยเหรอ =3=’ แล้วฉันจำเป็นต้องสนทนากับนายเหรอ? ‘เฮ้! เธอก็สวยดีนะ แต่ทำไมหน้าตายชะมัดยาดเลย!!’ อยากรู้ก็ไปถามพ่อแม่ฉันสิ…แต่เสียใจนะ พ่อแม่ฉันจากไปนานแล้ว… ‘เฮ้!! ยัยหน้าตาย!! หน้าตายไม่พอยังตาขวางอีกนะเนี่ย!!! ^O^’ ฉันหน้าตาย…แล้วมายุ่งกับฉันทำไม ใครใช้ให้มายุ่งมิทราบ…ดูจากการแต่งตัวก็รวยดีนะ ก็อย่ามายุ่งกับฉันสิ ไปซื้อของของนายไป! อย่ามายุ่งกับฉันเลยนะ ไอ้คุณชายยิ้มบานปัญญาอ่อน! ‘ว้าววว เธอไม่ขยับตัวแม้แต่มิลเดียวเลยอ่ะ!! เธอยืนนิ่งๆแบบนี้ได้ไง!! เธอเป็นญาติกับรูปปั้นหน้าตายแน่ๆเลย ^O^’ เท่าที่ผมอ่านนิยายมา ผมยังไม่เคยเห็นใครเปิดเรื่องมาเป็นปัจจุบัน แล้วย้อนเวลาไปอดีต แล้วดำเนินมาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่ปัจจุบันตรงที่เดียวกับการเปิดเรื่อง โดยที่ไม่ได้รู้สึก สังหรณ์ใจพิกล แต่เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกประหลาดเมื่ออ่านประโยคที่ว่า ‘นายช่วยเลิกยุ่งกับฉันสักทีได้มั้ย!? ถามจริงเถอะ…นายต้องการอะไรกันแน่? นายจะมาวุ่นวายกับฉันทำไม นายถามฉันสักคำมั้ยว่าฉันต้องการนายหรือเปล่า?’ ผมอึ้งไปเลย มันเนียนมากจริงๆ - - ผมชอบบุคลิกนางเอกนะครับ ดูเยือกเย็นและตรง เหมือนผม แค่จะบอกว่าลักษณะนิสัยบางอย่างคล้ายๆ กัน มันเลยทำให้เข้าใจตัวละครได้ค่อนข้างดี ยังมีบางตอนนะครับ ที่ถูกกลืนหายไป เช่น ตอนที่ชายหนุ่มแนะนำตัวว่าเป็นเด็กใหม่ และเข้ามานั่งข้างๆ หญิงสาว เรื่องก็ห้วนไป มารู้อีกทีก็ตอนที่นางเอกเดินไปแล้ว ผมเลยงงว่า มาถึงฉากนี้เมื่อไหร่ ผมมีความรู้สึกว่า เรื่องมันสะดุดไปเล็กน้อยเมื่อการดำเนินเรื่องเปลี่ยนจาก หญิง มาเป็น ชาย - - ผมชอบการบรรยายในบทของ หญิง มากกว่าเพราะมันเข้าถึงมุกขำๆ ได้ดีกว่า อาจจะเพราะเป็นที่จริตของเพศ หญิง ด้วยล่ะ แต่พอมาเป็น ผู้ชาย จริตตรงนี้ไม่ค่อยมี เลยทำให้โทนการบรรยายเรื่องเปลี่ยนแปลงอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็ดีที่ทำให้เราได้รู้อีกมุมของเรื่องครับ โดยสรุป ผมรู้สึกประทับใจนิยายเรื่องนี้พอตัวนะครับ อ่านไปยิ้มไป ในเรื่องของคำผิด ผมเห็นมีประปรายนะ ส่วนมากจะเป็นพิมพ์ตกมากกว่าที่จะเขียนผิด ปล ผมอ่านนิยายเรื่องนี้ในห้องทำงาน หัวเราะและยิ้มตลอดเวลา จนทำลูกน้องที่เดินเข้ามาหา รู้สึกแปลกใจ เพราะนานๆ ครั้ง เขาจะเห็นผมยิ้ม แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าเขารู้อีกมุมของผมนอกเวลาทำงาน มันจะทำให้เขาเข้าใจว่า ผมไม่ได้โหดอะไรเลย อ่านเรื่องนี้ สะท้อนตัวเองเล็กน้อย (หมายเหตุ นี่เป็นเรื่องที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก เวลาทำงาน เราควรจะตั้งใจทำงาน ต้องแยกแยะให้ออก แต่ผมต้องขอแก้ตัวว่า วันเสาร์ มันไม่ใช่วันทำงาน แต่เนื่องด้วยทุกคนอยากได้โอที ผมก็เลยต้องจัดให้ไป)   อ่านน้อยลง

    MrPoseidonSon | 10 ธ.ค. 54

    • 15

    • 0

    "อั้ยยะ!!"

    (แจ้งลบ)

    โอ้ววววววววจอจจจจจจ ตะเองเกริ่นบทอินโทรได้น่าสนใจมักๆ> ... อ่านเพิ่มเติม

    โอ้ววววววววจอจจจจจจ ตะเองเกริ่นบทอินโทรได้น่าสนใจมักๆ>   อ่านน้อยลง

    พoIพียง | 30 พ.ย. 54

    • 23

    • 2

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น