คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ภาคีต้นสน ( ตอน แล้วเราก็รักกัน)
ปรัชญาช่างกล ยามศึกเรารบ ยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ตอน แล้วเราก็รักกัน 1 (ภาคี ต้นสน)
ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะวะ
ว่าไอ้หน้ากะเทยแผนกสารพัดช่างมันจะไม่เคย
เห็นทั้งสถาบันเขาก็ลือกันไปทั่วแล้ว ว่าถ้าเบื่อผู้หญิงให้ไปหาไอ้ สน แผนก สารพัดช่าง ข่าวเขาก็ว่าไอ้หมอนั่นอ่ะ
เด็ดกว่าผู้หญิง คนที่ได้ลองแล้วต้องติดใจเพราะว่ามันยินดีเซอวิสทุกขั้นตอน
ไอ้ตัวเขาเอง ก็ชักจะเบื่อ ๆ กับผู้หญิงที่เข้าหาเต็มทน ทั้งให้ท่าทั้งอะไรสารพัดก็เจอมาหมดแล้ว เสือกจะมาตายน้ำตื้นเพราะไอ้สนซะได้ นี่ก็เดินหาจนจะทั่วโรงเรียนแล้ว ไอ้บ้านั่นก็เอาแต่หนี หนี มาตลอดอาทิตย์นี้ ดักหน้าแผนกก็แล้ว ตามหามันตามตารางเรียนก็แล้ว จนป่านนี้ยังไม่เจอตัวเลย
คิดแล้วอยากจะปล้ำให้หายดื้ออีกสักรอบ นึกถึงหน้าหวาน ๆ ที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาแล้วร่างกายก็เหมือนจะตื่นตัวได้ตลอดเวลา
ไอ้บ้าเอ้ย ไม่เคยมีใครทำให้แทบคลั่งได้ขนาดนี้เลยนะ
แล้วหนีไปไหนเนี่ย
หนีไปไหน
อยากเห็นหน้าจะแย่แล้วนะ
*****************************
“ไอ้สน....กูโคตรเจ็บใจแทนมึงเลยว่ะ......กูไม่นึกเลยว่าไอ้หมาแผนกเครื่องกลมันจะไปปล่อยข่าวแบบนี้”
ร่างเล็กบางหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างหมองเศร้า เมื่อสองสามเดือนก่อนถูกเด็กแผนกเครื่องกลเรียกไปคุยด้วย แต่ไป ๆ มา ๆ ไอ้หมานั่นกลับลากเข้าโรงฝึกตอนไม่มีใครอยู่ แถมยังทำท่าหื่นจะปล้ำเขาให้ได้ โชคดีที่เอาไม้ตีหัวมัน แล้วหนีออกมาได้ แต่พอเช้าของอีกวันกลับปรากฏข่าวลือแปลก ๆ ว่า เขาไปมีสัมพันธ์สวาทกับคนทั้งแผนกเครื่องกล ลือกันไปปากต่อปากจนกลายเป็นว่าเขาจะยอมนอนกับผู้ชายทุกคนที่เข้าหา
ถึงเจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยิ่งแก้ตัวเรื่องมันก็ยิ่งไปกันใหญ่
“กูก็ทำอะไรไม่ได้หรอก...ทนจนกว่าจะเรียนจบนั่นแหละ...”
ร่างบางเครียดหนักขึ้นทุกวัน บางครั้งเดินไปทางไหน ไอ้พวกต่างแผนกก็เข้ามาลวนลามบ้าง บางคนผิวปากล้อเลียนขอร่วมหลับนอนด้วยอีก กลายเป็นตัวอะไรสักอย่างไปแล้ว เพราะหน้าตาท่าทางบอบบางอ้อนแอ้นที่เขาแสนจะเกลียดตัวเองแบบนี้ทำให้ไอ้พวกหื่นกระหายแผนกอื่นมันอยากจะลิ้มลองเป็นที่สุด
“แม่ง...อยากจะไปเอาเลือดไอ้หมานั่นออกจริง ๆ ถ้ามึงไม่ห้ามกูไปแล้ว” ร่างแกร่งหนาของชายหนุ่มอีกคน
กำหมัดอย่างแค้นใจ ไอ้สนมันเป็นคนดี ยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้ยิ่งสงสารมัน ความรู้สึกของเขานอกจากเพื่อนแล้วก็ไม่เคยคิดเป็นอื่น
“ถ้ามึงไปอัดกับมัน...พรุ่งนี้กูก็ไม่รู้จะถูกลือว่าอะไรอีก” ร่างบางถอนหายใจ ไม่อยากจะให้เพื่อนต้องไปหาเรื่องเจ็บตัว เพราะตอนนี้ข่าวลือนั่นมันกลายเป็นเรื่องจริงเสียแล้วโดยที่เขาไม่มีทางปฏิเสธมันได้ ได้แต่เก็บความทุกข์ระทมใจไว้คนเดียวเงียบ ๆ
ความทุกข์ของอัษฎาตอนนี้ไม่ใช่เรื่องถูกปล่อยข่าวลือ แต่เป็นเพราะเขาไปพลาดท่าเสียทีให้กับหนุ่มแผนกโยธา คนนั้น คนที่เขาจะไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิต
ร่างบางหมองเศร้าลงทุกวัน สิ่งที่ทำได้ก็คือต้องหนีให้ห่างจากคนๆ นั้นที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ ที่คอยตามราวีเขา
เหตุการณ์เย็นวันนั้นเขาไม่มีทางลืมได้เลย มันกลายเป็นฝันร้ายคอยตามหลอกหลอนทุกครั้งที่หลับตาลง
*********************
“เฮ้ย....นายอ่ะ....ใช่สน..แผนกสารพัดช่างป่าว” ฝ่ามืออุ่นร้อน กระชากแขนบอบบางของคนที่เดินอยู่ให้หันมามองหน้าเขา
เพราะขี้เกียจกลับบ้านเลยนั่งสูบบุหรี่ข้างโรงฝึก เย็นป่านนี้แล้วคิดว่าไม่น่ามีใครแล้ว แต่เหลือบไปเห็น ร่างเล็ก ๆ บาง ๆ ของใครสักคนเดินลิ่วอยู่
นั่นใช่ไอ้สน คนดังแห่งแผนก สารพัดช่าง แน่ ๆ
เบื่อเหมือนกัน ชวนมันมาทำอย่างว่าแก้เบื่อดีกว่า ท่าจะไม่ปฏิเสธหรอก มันอาจอยากได้บรรยากาศตื่นเต้นบ้างแหละวะ อยากลองกับผู้ชายดูเหมือนกัน ที่ว่าลีลาเด็ดเนี่ยมันจะสักแค่ไหนกัน
มีคนบอกว่า ไอ้สนเนี่ย มันชอบแบบรุนแรง ถ้าอยากได้ให้ทำตัวหื่น ๆ หน่อย ทักดี ๆ มันไม่ค่อยชอบ ก็เลยอยากเอาใจมันหน่อยตามข่าวที่เขาว่าไว้ และที่สำคัญถ้ามันแกล้งทำเป็นดิ้นรน ก็ให้ลากได้เลย มันจะชอบเป็นพิเศษ
เขาก็เลยต้องทำตามซะหน่อย
“ใช่แล้วจะทำไม....” ร่างบางสะบัดออกตั้งท่าจะเดินหนี ตัวแม่งใหญ่ยังกะตึก ชกกับมันตัวต่อตัวสงสัยไม่รอด
โดนซ้อมแพ้หลุดลุ่ยแน่แบบนี้ เสือกลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะอีก ซวยจริง ๆ เย็นป่านนี้แล้ว นึกว่าจะไม่มีใครเหลืออยู่ ดันมาเจอไอ้หน้าหื่นนี่ได้
“อยากนอนด้วยอ่ะ....ไปด้วยกันหน่อยสิ....โรงฝึกไม่มีใครมาใช้หรอกป่านนี้แล้ว..ไปเหอะ”
คำพูดตรง ๆ แบบไร้เหตุผล เป็นคำพูดของชายหนุ่มร่างสูงที่ยังคาบบุหรี่ไว้ในปากคนนี้ เล่นเอา ร่างบางเลือดขึ้นหน้า
ไม่ใช่ไอ้ตัวนะเว้ย
ถึงจะมาพูดแบบนี้ด้วยได้
“ไปบอกพ่อมึงเหอะแบบนี้อ่ะ” มือเล็ก ๆ ปล่อยหมัดขวาตรงเข้าหาร่างสูงกว่านั้นทันที
“เฮ้ยอะไรวะ...ชวนแค่นี้เล่นถึงพ่อเลยเหรอ” ร่างสูงไม่ระบุชื่อ หลบได้ทัน และชักมีดพกเล็ก ๆ ออกมา ก่อนจะจ่อที่คอของอีกคน
“ไม่อยากเล่นแรง ๆ นะ .... ไม่นึกว่าจะชอบแบบรุนแรงขนาดนี้” ชายหนุ่มที่ปกเสื้อชอร์ปปักสีเขียนอันเป็นสัญลักษณ์ของแผนกโยธาเอ่ยขึ้น แค่เอาไว้ขู่เท่านั้น ไม่ได้กะจะเล่นบทโหดหรอก แต่ขี้เกียจจะต้องชกกับไอ้หมอนี่ สงสัยจะโดนแบบแรง ๆ มาเยอะ วันนี้คงต้องทำแบบเบา ๆ เผื่อมันจะได้ติดใจ
ร่างบางชะงักนิ่ง ไม่กล้าขัดขืน ดวงตากลมโตแข็งกร้าวต้องจำใจเดินตามที่ ๆ ร่างสูงพาไป แม้จะฮึดฮัดพยายามจะสู้หลายครั้ง แต่คมมีดที่กดเข้ามา ทำให้ไม่กล้าขยับ
“ห้องนี้ดีกว่า....ปัด ๆ หน่อยคงใช้ได้...ไม่มีใครเข้ามาใช้แล้วแหละ..ชอบมั้ย” ร่างสูงหันไปขอความเห็นของอีกคน ที่จ้องมองเขานิ่ง
โหย...ทำไมต้องทำเหมือนแค้นขนาดนั้นด้วย
เอาน่ะ
ไหน ๆ ก็จะมาบริการเขาแล้ว
ผูกสัมพันธ์หน่อยก็ดี ถึงจะอยากสนุก แบบครั้งเดียวจบก็เถอะ
ชายหนุ่มใบหน้าคม ผู้ที่อยู่แผนกโยธา พาร่างบางมาห้องเก็บอุปกรณ์ ห้องนี้มีเบาะสำหรับใช้รองรับขนาดใหญ่
เมื่อถึงคราวที่มีกีฬาประจำโรงเรียนและชั่วโมงพละศึกษา เขาทรุดกายลงและบังคับให้ร่างบางนั่งลงตามด้วย
“ทำหน่อยสิ.....เก่งไม่ใช่เหรอ...” คำถามที่เป็นการเหยียดหยามร่างบางนั้น ทำให้อัษฎาต้องกัดฟันแน่น
โดนดูถูกจากคนอื่นมาก็เยอะ แต่ไม่ได้แย่ขนาดนี้
“ไม่..” ร่างบางสะบัดหน้าหนี
โหย .... มีแง่งอนด้วยเว้ย สงสัยมีแต่คนมาง้อ อยากได้แบบโหด ๆ ละมั้งนี่
อ๊ะ... เชือกไว้ใช้เวลากระโดดเชือกนี่หว่า เอาแบบว่ามัดเชือกดีกว่าตื่นเต้นดี ไอ้หน้าหวานนี่ท่าจะชอบ
“เอามือมาสิ....เร็ว ๆ จะมัดเชือกให้...ตื่นเต้นดี”
ได้ฟังอย่างนั้นแล้วอัษฎาแทบบ้า มองหาทางหนีทีไล่ รอดมาได้ตลอด ไม่มีทางจะมาเสียท่าตอนนี้หรอก
“กูไม่ใช่แบบที่มึงคิดนะ.....ไปหาผู้หญิงดีกว่ามั้ย...ดูสิผอมก็ผอม..แห้งอย่างกับไม้เสียบผีแบบนี้อ่ะ...ไม่สนุกตื่นเต้นหรอกนะ...ไปล่ะ”
อัษฏาลุกหนีดื้อ ๆ คิดว่าจะรอดออกมาได้ แต่ร่างสูงนั้นชักอารมณ์เสีย ลีลาเหลือเกินจริง ๆ นั่นแหละ แต่ลีลาช้ามาก รีบ ๆ มาทำให้มันจบ ๆ เลยดีกว่า
“ขี้เกียจเล่นด้วยแล้ว....เร็ว..มา..ทำให้หน่อย..ถ้าไม่ทำจะทำเองแล้วนะ” ความอดทนสิ้นสุดลงแล้ว สำหรับชายหนุ่มแผนกโยธา มันจะอะไรนักหนาวะ ชอบเล่นบทโหดมากเหรอ เล่นก็ได้ เผื่อจะสนุกขึ้น
“มานี่เลย” ฝ่ามือแกร่งกระชากเอวบางเข้าหา ไม่ทันที่ร่างบางได้ทันดิ้นรน ข้อมือเล็กก็ถูกสายเชือกพันไว้จนแน่น โดยฝีมือของร่างสูง หมดหนทางจะดิ้น เมื่อทำท่าจะวิ่งหนีก็ถูกผลักให้นอนลง ยิ่งดิ้นคนตรงหน้าก็ยิ่งรัด ฝ่ามืออุ่นร้อนเปะป่ายไปเรื่อยและรูดซิบปลดกางเกงของเขาออก ไล้ฝ่ามือเข้าหา ก่อนจะเงยหน้าสบตาหวาดกลัวของอีกฝ่าย
ใช้ได้นี่นา ทำเหมือนคนไม่เคยโดน ดิ้นกระแด่ว กระแด่ว แบบนี้ ลีลาใช้ได้เลย แต่เขาก็ขี้เกียจจะเล่นด้วย มันเสียเวลา ทำให้จบ ๆ แล้วกลับบ้านนอน แบบเบาสบายตัวดีกว่า
“ไอ้บ้า...ไอ้โยธา...ไอ้บ้าปล่อยนะโว้ยยยยยย” เสียงหวานตะโกนก้อง แล้วก็ถูกปิดปากด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนของอีกฝ่ายที่กดลงมาอย่างรุนแรงจนแทบจะเป็นการกระแทก ทำให้เจ็บร้าวไปทั้งปากและร้องไม่ออก
“อื้อออออออ...” หลังจากพยายามหนีอยู่หลายตลบ แต่สุดท้ายก็ได้แต่นอนนิ่งให้คนตัวโตอย่างกับตึกรุกรานได้ง่ายดาย
เพราะความอ่อนประสบการณ์ของตัวเองแท้ ๆ ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันป่านนี้มีผู้หญิงเป็นร้อยแล้ว แต่เจ้าของร่างบางดันเก็บรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองไว้อีก โดยเพื่อน ๆ สัญญาไว้ว่าจะพาไปขึ้นครูกับรุ่นพี่สาวสวยในภาควิชา การเลขานุการ ซึ่งหล่อนบอกว่าจะสอนให้ ไอ้ตัวเขาเองก็รอแล้วรอเล่า หล่อนก็ไม่ยอมสอนซะที นี่จะต้องมาเสร็จไอ้แผนกโยธาที่เพิ่งเห็นหน้าไม่กี่ชั่วโมงงั้นเหรอ ไม่เอาหรอกนะ
ความพยายามครั้งสุดท้ายของร่างบางไม่เป็นผลเมื่อถูกปลดสิ่งห้อหุ้มร่างกายเบื้องล่างออกในขณะไม่ทันตั้งตัว
“นี่...ไอ้ตรงนั้นน่ะ...เอาไว้ทำเองได้มั้ย...ขอก่อนแล้วกัน...ทนไม่ไหวแล้วเนี่ย”
นั่นคงเป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัวที่สุดเท่าที่อัษฎาเคยได้ยินมา อยากจะลุกขึ้นชกหน้าไอ้เด็กโยธาตัวอย่างกับตึกแต่ก็ทำไม่ได้ แค้นแสนแค้น แต่ก็ทำได้แค่กัดปากตัวเองแน่น และพยายามรวบรวมพละกำลังเฮือกสุดท้าย
***************************
เค้าปลื้มภาคนี้อ่ะ ภาคี ต้นสน
ความคิดเห็น