คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #55 : ตอน เด็กเลี้ยงแกะ
อ้อมแขนที่กอดรัด เสียงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู ท่าทางที่เหมือนกำลังหวั่นไหวและไม่แน่ใจกับคำขอโทษของตัวเองว่าจะทำให้อีกฝ่ายพอใจหรือไม่ ทำให้อ้อนต้องถอนหายใจ และเกลี่ยปลายนิ้วเล่นที่อ้อมแขนของคนกอด
ไม่รู้สิ
ตอบอะไรไม่ได้ แล้วก็ไม่อยากจะพูด ไม่รู้ว่าทานตะวันจะยังคิดเรื่องนี้ไปอีกนานแค่ไหน แค่สิ่งที่ยอมให้ไป
มันไม่สามารถเป็นหลักประกันหรือพิสูจน์อะไรได้เลยเหรอ
แค่นี้...............
ก็ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอ อยากจะโกรธ อยากจะโมโห แต่กลับรู้สึกว่าภายในจิตใจมันอ่อนล้าและเบาโหวงเหวง อธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน
มันเป็นความรู้สึกแย่ ๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่เป็นที่ไว้วางใจ
แย่
แล้วก็เศร้า
เศร้ากับเรื่องแย่ ๆ
"ทานขอโทษ นะครับ....อ้อน..อย่าเงียบสิ เงียบทีไรใจคอไม่ดีเลยนะ อ่ะ อยากต่อยก็ได้ยอม หรือว่าจะอาละวาดกับทานก็ได้นะ จริง ๆ นะ จริง ๆ "
ทานตะวันคลายอ้อมแขนและกอดรัดร่างในอ้อมแขนไม่ได้แน่นเท่าก่อนหน้านี้ และซุกใบหน้าลงที่ซอกคอของคนที่ยืนนิ่ง เอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
กลัวจริง ๆ
กลัวจริง ๆ นะ
กลัวสิ่งที่อ้อนคิด อ้อนคิดอะไรไม่เคยบอก ไม่เคยให้รับรู้ นาน เป็นนาน กว่าจะรู้ อ้อนเป็นพวกชอบเก็บความลับ แล้วก็เก็บความลับเก่งมากซะด้วย จนทุกวันนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าคนในอ้อมแขนคิดอะไรอยู่กันแน่
"เรา....ไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยเหรอ.....มันน่าขำนะทาน...ถ้าไม่เชื่อกันขนาดนั้น...ห่างกันซักพักไม่ดีเหรอ....นะ"
อย่าขู่แบบนี้น๊าาาาาาาาาาาาาา ม่ายอาว อย่าพูดแบบนี้นะ ขอร้องล่ะ อย่าพูดเลย อย่าพูด อย่าพูด ไม่เอา ไม่เอา ไม่อยากฟัง ไม่ฟัง ไม่อยากฟัง
"ก็ถ้าอ้อนจะไป.....ทานจะไปทำอะไรได้ล่ะ"
แล้วอ้อมแขนที่เคยกอดรัดก็คลายออก คนตัวโตผละออกห่างจากร่างที่อยู่ตรงหน้า และถอยห่างออกมาหนึ่งก้าว
ยืนนิ่งเงียบ
เงียบ
และเงียบ
น้อยใจ เสียใจ ทำไมอ้อนต้องทำแบบนี้ด้วย
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีคนรักมากขนาดนี้ แต่ก็ใจร้าย อ้อนใจร้าย ....ใจร้ายที่สุด จะทิ้งไปให้เหมือนคนอื่นๆ อีกหรือไง ก็เอาเลยสิ ก็เอาเลย ปล่อยไว้แบบนี้เลยก็ได้ ไม่เป็นอะไรนี่ ไม่เป็นอะไรเลย ไม่เป็นจริง ๆ ไม่เป็น
ทานตะวันยืนก้มหน้านิ่ง ๆ และตัดสินใจเตรียมหันหลังเดินก้าวเท้าหนีเข้าห้องพัก
ไม่อยากเจอกันก็ได้ อ้อนใจร้าย ใจร้ายให้ถึงที่สุดไปเลย เอาหัวใจทานไปแล้วนี่ ก็เอาเลยสิ เอาไปเหยียบย่ำให้สะใจเลย ยังไงมันก็มีอยู่แค่นั้นแหละ อยากจะทำลายก็ทำไปซะให้พอใจเลย
"แล้วรู้สึกยังไงล่ะ.......คราวหลังพูดอะไรจะหัดคิดถึงใจคนฟังอีกมั้ย.....เด็กชะมัด"
เด็กชะมัด
หือ
ใครเด็ก หันซ้ายหันขวาไม่มีใครเลย ก็ว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ไม่ใช่มั้ง อ้อนพูดถึงใครเหรอ
"ก็เด็กไง......อ่อนหัดด้วย....พูดอะไรไปก็ไม่เคยคิด...เอาความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเป็นที่ตั้ง...รักก็บอกว่ารัก...แต่คนบางคนมีอะไรก็ไม่เคยบอกเลย ชอบให้รู้เองทีหลัง.....แล้วก็ทำให้เราเสียใจ....ก็เอาเลยแล้วกัน...อยากจะทำอะไรก็ทำไปเลย....ทานรักอ้อนไปแล้วนี่...จะไปทำอะไรได้ล่ะ"
ตกลงใครต้องง้อเนี่ย
ใครผิดกันแน่เนี่ย ตกลงใครผิด
ทานตะวันเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดเข้าห้องไปแล้ว และมานั่งหันหลังชันเข่าอยู่บนเตียง
น้อยใจ
เสียใจ
และ.............งอน
แล้วใครสมควรจะง้อกันแน่
อ้อนยืนหัวเราะอยู่นอกระเบียง เรื่องที่ควรจะกลายเป็นเรื่องเครียด กลับกลายเป็นเรื่องตลก ตัวก็โต๊ โตนะ ทำเป็นสะบัดหน้า ทำเป็นหน้าบูดหน้าบึ้ง ทำเสียงเล็กเสียงน้อยงอแง
น่ารักตรงไหนเหรอ
ไม่ได้น่ารักหรอก แต่มันตลก
ไอ้ที่กำลังโกรธ ๆ อยู่ ก็เลยหายหมด กลายเป็นเรื่องที่ทำให้อมยิ้ม
เอ้า เล่นกะเด็กชายทานตะวันเขาซะหน่อย งอนก็........ต้องง้อใช่มั้ย..........ก็ได้วะ ง้อก็ง้อ ....แล้วจะง้อยังไงเนี่ย
คนที่ยืนอยู่นอกระเบียง ก้าวขาเข้ามาภายในห้อง และค่อยๆ เดินไปนั่งอยู่บนพื้น จ้องหน้าทานตะวันที่ก้มมองพื้นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนที่มานั่งจ้อง
"นี่.........."
เรียกแล้ว แต่คนตัวโตทำเป็นนิ่งเฉย
อยากให้พวกที่ชมรมฟุตบอลมาเห็นประธานชมรมสุดโหดจริง ๆ เล้ย ทำเป็นหน้างอ ทำเป็นนิ่ง ทำเป็นงอน โธ่ ไม่เห็นจะดูดีตรงไหนเลย
"นี่....ให้เวลา 30 วินาทีนะ...ถ้าไม่เลิกทำหน้าบึ้ง...จะไปแล้วจริง ๆ นะ"
คนที่นั่งนิ่งหน้าบึ้ง ก็ยังคงทำหน้าบึ้ง ส่วนคนที่นั่งจ้องหน้าก็เริ่มหันไปมองนาฬิกา
"1........2...........3.................4............ฯลฯ............30...ไปแล้วนะ"
นับแบบรัวเร็ว แล้วอ้อนก็ลุกขึ้นยืนแกล้งตั้งท่าเตรียมจะเดินหันหลังหนี แต่กลับถูกรั้งร่างเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของคนหน้าบึ้ง ถูกดึงให้ล้มลงบนเตียง ตามมาด้วยร่างกายถูกกดแนบลงกับฟูกนอน โดยมีคนที่ทำเหมือนกำลังงอนคร่อมทับอยู่เหนือร่าง
"ของอนต่ออีก สองชั่วโมง นะอ้อนนะ.........อ้อนง้อทานต่ออีกสักสองสามชั่วโมงนะ...นะ...นะ...นะ คร้าบบบบบบบบบบ"
คนงอนลากเสียงยาว และทำตาใสซื่อเหมือนเด็ก ๆ ออดอ้อนอยากได้ของ แต่นัยน์ตาคมกลับพราวระยับ และมีรอยยิ้มสดใสจุดอยู่ที่มุมปาก เมื่อเห็นร่างของคนที่ถูกทาบทับ ทำตาโต และเริ่มดิ้นรนหนี
หน้า...........แดง...........แล้วจ่ะ......หนูน้อยแก้มแดงของทาน แถมซ้ำยัง.......ยัง.....ยัง.......
ก็อ้อนของทานน่ะ....น่าร้ากกกกกกกกกกนี่นา ก็เลยต้องเป็นแบบนี้ยังไงล่ะ
"อึก อ่ะ....อ้อนจ๋า......เมื่อคืนยังไม่เต็มอิ่มเลย....นะ....ขอนะ....แล้วทานตะวันจะไม่ดื้อไม่งี่เง่าไม่งอแงกับอ้อนเลย สัญญาครับพ้ม....ทานสัญญา"
ไอ้.......ไอ้ทาน
ไอ้....
ไอ้เด็กเลี้ยงแกะ
ไอ้.............
ไอ้........
"อึก...อื้อ......ทานปล่อยก่อน...เจ็บ...อื้อ....ทาน....ฮื่อ"
ไม่มีเวลาให้ร้องโวยวาย ไม่มีเวลาให้ต้องคิดมากหรือหงุดหงิดโมโห อยากจะเอาคืนให้หายโมโห แต่กลับดิ้นรนหลบหนีปลายจมูกโด่งที่ซุกไซร้ลงมาไม่ได้
อาย........ก็คงไม่ต้องอายกันแล้ว............เมื่อริมฝีปากของเด็กเลี้ยงแกะจูบประทับลงมาอีกครั้ง อีกครั้ง และหลาย ๆ ครั้ง
"ไอ้ทานนนนนนนนนนนนนนโว้ยยยยยยยยยยยย"
ร้องโวยวายออกไปได้เพียงครั้งสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้โวยวายอีก เมื่อเสื้อที่สวมอยู่ถูกปลดออกอย่างรวดเร็วและเหวี่ยงทิ้งลงข้างเตียง
"อ้อน........อย่าเสียงดังสิ....เอาไว้เสียงดังตอนร้องว่า...ทาน...ทาน...ทาน..ทานช่วยอ้อนด้วยน่าจะดีกว่านะ....."
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่อ้อนได้ยินและจำได้ หลังจากนั้น ทั้งร่างกายทั้งจิตใจก็ถูกชักนำให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
กว่าอ้อนจะซาบซึ้งกับประโยคที่ทานตะวันกระซิบบอกก็ปาเข้าไปรุ่งเช้าของอีกวัน
เกลียดเว็บนี้จริงๆให้ตาย ชอบทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ถ้าไม่จำเป็นต้องอัพนิยาย แทบจะไม่ได้เข้า เพราะอาศัยอ่านนิยายที่เว็บอื่นอยู่แล้ว พูดแล้วเซงทั้งกดคนแบน คนแจ้งแบน
ความคิดเห็น