ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Deceive ลวงเธอมาล้วงรัก~ | KiHae , WonHyuk , KyuMin

    ลำดับตอนที่ #7 : ★ Chapter - 06

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 566
      3
      2 ก.พ. 55

     



    Deceive ,,, 06 ~*





    ร่างเล็กถอนสายตาออกจากบานประตูเชื่อมก่อนจะพรูลมหายใจออกมาเมื่อเห็นว่ามันนิ่งสนิท ทงเฮนั่งอยู่บนเตียงสีขาวกว้างที่มีเสาพร้อมกับผ้าระบายบางเบาอยู่ทั้งสี่มุม กลุ่มผมนิ่มปลิวไสวด้วยแรงลมที่เล็ดลอดเข้ามาจากบานหน้าต่างเล็กที่แง้มเอาไว้เพียงนิดเดียว ร่างบางลุกขึ้นเต็มเท้าอีกครั้งก่อนจะก้าวต่อไปยังหน้าต่างนั้นพร้อมกับออกแรงผลักให้มันกว้างขึ้น แต้มรอยยิ้มหวานบนใบหน้างดงามเมื่อนัยน์ตาสีชาจับภาพคลื่นทะเลสีครามที่กำลังสาดซัดเข้าหาชายฝั่ง




    "คุ้มครองทงเฮด้วยนะครับ"




    กลับมานั่งบนเตียงกว้างอีกครั้งก่อนจะก้มลงระบายยิ้มหวานกับภาพถ่ายรวมของครอบครัว คนตัวเล็กวางรูปไว้ข้างๆโคมไฟสีนวลก่อนจะหยิบจับข้าวของที่เอาติดมาให้เข้าที่เข้าทาง กว่าจะจัดเสื้อผ้าในตู้เรียบร้อยใบหน้าหวานก็กลื่อนไปด้วยหยาดเหงื่อเม็ดเล็กๆ




    "เสร็จสักที~" แผ่นหลังบางเอนราบไปกับเตียงนุ่มนิ่มหอมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มอ่อนๆ กลิ่นที่ไม่ฉุนจนเกินไปทำให้ทงเฮยิ้มพรายพร้อมกับปิดเปลือกตาลงให้โสตประสาทได้ทำงานอย่างเต็มที่ เสียงคลื่นซัดและลมทะเลเอื่อยๆยามสายทำให้จิตใจของเขาผ่อนคลายจากความกังวลได้เป็นอย่างดี






    ก่อนเสียงดนตรีจากธรรมชาติจะดังก้องในความฝัน ~






    บานประตูที่ปิดสนิทในช่วงเช้าเปิดออกอีกครั้งโดยผู้ควบคุมมันได้เพียงคนเดียว ริมฝีปากคู่สวยที่กำลังจะเอื้อนเอ่ยประโยคที่มักจะทำให้คนฟังไม่พอใจแต่หน้าแดงระเรื่อจำต้องปิดลงเมื่อนัยน์ตาคมจับภาพร่างเล็กนอนขดตัวกอดหมอนใบใหญ่อยู่บนเตียงกว้าง




    คนที่เข้ามาใหม่จึงขยับเข้าใกล้ด้วยเสียงที่เบาที่สุด...








    "ทงเฮ~"








    มือหนาแตะลงไปบนเรียวแขนขาวส่งผลให้คนขี้เซาพลิกกายหนีทันที คิบอมมองภาพที่แลดูคล้ายเด็กน้อยนั้นด้วยรอยยิ้มเต็มแก้ม ก่อนจะเบียดกายนั่งลงบนที่ว่างที่ทงเฮพึ่งจะสละให้โดยไม่รู้ตัว กลีบปากอิ่มพึมพำเป็นชื่อของคนตัวเล็กอีกครั้งแต่เจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าจะขยับกายขึ้นมาแม้แต่น้อย




    คนตัวสูงชะงักตัวที่โน้มลงไปหมายเรียกให้อีกคนตื่นเมื่อร่างบางพลิกกายกลับมานอนหงาย ฝ่ามือทั้งสองที่วางทาบลงไปบนพื้นเตียงจึงเปรียบเสมือนกำแพงกักกันให้ร่างน้อยนอนหลับพริ้มอยู่ในลำแขนยาวทั้งสองข้าง




    นัยน์ตาคมมองภาพใบหน้าหวานของคนที่ยังนอนผ่อนลมหายใจเอาออกอย่างสม่ำเสมอไม่วางตา ภาพความงดงามของดวงหน้าขาวใส จมูกเชิดรั้นรับกับกลีบปากอิ่มแดงที่เผยอออกน้อยๆทำให้คนตัวสูงไม่สามารถบังคับก้อนเนื้อในอกให้กลับไปเต้นเป็นจังหวะเดิมได้






    "..."


    "..."




    ความเงียบโอบล้อมห้องนอนน้อยเมื่อลูกแก้วใสวาบวับเปิดขึ้นแล้วสอดประสานเข้ากับนัยน์ตาสีนิลลึกลับที่ทอดมองมาไม่ได้ห่าง เม้มกลีบปากอิ่มที่เผยอขึ้นน้อยๆเมื่อไม่รู้ว่าตนควรจะทำอย่างไรกับภาพตรงหน้า สุดท้ายใบหน้าหวานก็จำต้องเบือนไปอีกทาง เพื่อถอนนัยน์ตาสีชาออกจากดวงตาที่กำลังดูดกลืนเขาให้ตกหลุมพรางลึกเกินกว่าจะหยั่งถึง




    "โอ้ยยย~"  




    คิบอมสะดุ้งตัวพร้อมกับเสียงร้องโอดครวญเมื่อถูกเข่าแหลมๆของคนด้านใต้กระทุ้งเข้าที่หน้าท้องแกร่ง ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะมองทงเฮให้นานกว่านี้






    นานพอให้เขามั่นใจ...








    "คุณนี่มันไว้ใจไม่ได้เลยจริงๆ!" คนตัวเล็กระเบิดเสียงใส่ทันทีทั้งที่ใบหน้าหวานยังเจือด้วยสีแดงจางๆ ทงเฮว่าแล้วก็หันหลังหมายจะเดินออกจากห้องนอนแต่มือหนาก็คว้าข้อมือเล็กเอาไว้




    "ก็นายอยาก.."


    "ฉันไม่ได้ยั่วคุณนะ!"




    คิบอมระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีที่คนตัวเล็กสวนประโยคนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดแถมยังทำตาดุในแบบที่เขาคิดว่ามันเหมือนลูกแมวน้อยยามพองขนขู่เสียมากกว่า




    "ฉันก็แค่คิดงานให้นายออกเลยจะมาชี้แจงสักหน่อย แต่พอเข้ามาก็เห็นนายหลับ แถมปลุกยังไงก็ไม่ตื่น แล้วฉันไม่ได้ทำอะไรนายสักหน่อยถึงจะคิดอยู่ในใจบ้างก็เถอะ"




    "คุณ!"






    "เอ้า~ มัวแต่ต่อล้อต่อเถียงอยู่ได้เดี๋ยววันนี้ฉันไม่ได้ทดสอบงานนายพอดี อยากจะรู้เหมือนกันว่าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งทางด้านโรงแรมของนายน่ะมันแค่ไหนกันเชียว"


    "ขอบคุณที่คุณยอมเข้าเรื่องงานสักที... ตกลงคุณจะให้ฉันทำอะไร~" นัยน์ตาหวานทอดมองใบหน้าคม รู้สึกตื่นเต้นกับงานที่จะได้รับ คนตัวเล็กยื่นนิ่งฟังอีกคนชี้แจงงานอย่างตั้งใจ
















    "งานแรกฉันคิดว่า... นายลองล้างห้องน้ำให้ฉันก่อนแล้วกัน~"




















    -:- Deceive -:-


















    ร่างสูงโปร่งเดินต่อเท้าไปตามถนนสะอาดในซอยกว้างที่เคยผ่านเข้ามาเพียงครั้งเดียว คยูฮยอนมองเท้าตัวเองสลับกับกระเป๋าสีชมพูหวานที่อยู่ในมืออีกข้าง ก่อนจะพาดมันขึ้นหลังพร้อมกับถอนหายใจหนักๆหนึ่งครั้ง






    ยุ่งยากวุ่นวาย น่าเบื่อน่ารำคาญ!






    สุดท้ายแล้วเป้าหมายเดียวที่เลือกแล้วตั้งแต่ตัดสินใจขึ้นรถเมล์ที่ไม่ใช่สายที่จะพาตนกลับบานก็ตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า คฤหาสน์สีมุกหลังใหญ่ที่เขาไม่ได้ใคร่สังเกตในคราแรกที่มาตั้งตระหง่านอวดความงามและความมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของ ร่างสูงก้าวเข้าไปชิดรั้วใหญ่พลางมองลอดเข้าไปเพื่อมองหาตัวปัญหาของเขา




    คยูฮยอนเดินผ่านหน้าบ้านหลังใหญ่ไปทางรั้วต้นไม้สีเขียวด้านข้าง ไม่ออกปากเรียกยามหรือกดกริ่งให้คนในบ้านรับรู้ เขาก็แค่อยากเอากระเป๋ามาคืนคนที่กำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งไม้ตัวยาวติดกับริมรั้วด้านซ้ายของตัวบ้าน






    "นาย... ซองมิน! เฮ้~ อีซองมิน!!"






    คนตัวสูงค่อยๆเพิ่มระดับเสียงพร้อมกับโบกไม้โบกมือให้คนที่นั่งเหม่อมองมาทางตนแล้วก็ประสบผลสำเร็จเมื่ออีซองมินหันกลับมาทำตาโตใส่ก่อนจะค่อยๆพาตัวเองมายืนชิดริมรั้วที่คยูฮยอนยืนรออยู่




    "คยูฮยอน.." ดวงตาหวานเบิกขึ้นอย่างตกใจก่อนจะแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นดวงตาสุกสว่างอย่างปกติพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ผุดขึ้นบนใบหน้าขาวอมชมพูเมื่อมองเห็นกระเป๋านักเรียนของตนในมือของอีกคน




    "อื้อ~ ฉันเอง..." ตอบรับไม่เต็มเสียงนักก่อนจะยกกระเป๋านักเรียนให้คนที่อยู่ในรั้วเห็น บ่งบอกจุดประสงค์ที่มาในคราวนี้




    "คิดถึงเหรอ..."






    เฮ้ยยยยยยยยยย!! ไอ้ขี้ตู่!!!!!!!!!~








    "อย่ากวนประสาทฉันได้มั้ยอีซองมิน... ฉันแค่เอากระเป๋ามาให้เพราะมันหล่นอยู่ที่หน้าบ้านฉัน อีกอย่างเห็นว่านายไม่มาโรงเรียน.."




    "เป็นห่วงล่ะสิ..."




    "ฉันก็เลยเอามาให้ที่บ้านต่างหากเล่า!"




    คยูฮยอนโยนกระเป๋าที่ทำให้เขาอับอายคนทั้งโรงเรียนเข้าไปในรั้วบ้านซึ่งคนข้างในก็รับเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที ซองมินยังคงยิ้มมองอาการหงุดหงิดเกินพอดีของคยูฮยอนโดยไม่พูดอะไรอีกนอกจากคำว่าขอบใจเบาๆ 




    "หมดธุระแล้ว ฉันกลับล่ะ" ว่าพลางหันหลังให้กับรั้วสูงแต่ที่ยังยืนหยุดนิ่งอยู่กับที่แบบนี้เพราะเสียงร้องเรียกของเจ้าของน้ำเสียงหวาน




    "เดี๋ยวสิ! นายรอตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวฉันมา แล้วถ้านายไม่รอนะเย็นนี้ฉันไปหาที่บ้านจริงๆด้วย!" ไม่รอให้คนตัวสูงตอบรับ ร่างเล็กที่คนตัวสูงแอบพิจารณาว่ายังมีแผลถลอกอยู่ตามผิวขาวละเอียดนั้นก็หายเข้าไปในตัวบ้าน




    อะไรของเขา... เจ็บขนาดนั้นยังจะวิ่งอีก ~




    คิดในใจพร้อมกับเอนหลังพิงรั้วบ้านเพื่อหยุดรออย่างที่ใครอีกคนบอก เขารู้ว่าอีซองมินพูดจริงทำจริง คยูฮยอนก็แค่ไม่อยากมีปัญหากับฮยอกแจฮยอง ขืนฮยองคนดีเข้าใจผิดขึ้นมา เก็บมาล้อให้เขาได้หงุดหงิดทุกวันแน่ๆ






    "มาแล้ว~"






    เสียงสดใสไม่เหมือนคนป่วยดังสภาพร่างกายดังขึ้นข้างหลัง คยูฮยอนจึงหันตัวกลับมา แล้วมือขาวๆก็ยื่นถุงพาสติกใสใส่กล่องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากให้กับคนตัวสูง คยูฮยอนมองหน้าคนให้อย่างมึนงงแต่ก็ต้องยอมเอื้อมมือไปรับเอาไว้เพราะอีกคนคะยั้นคะยอ










    "พายฟักทอง... ซองมินทำเองนะ วันนี้กะว่าจะเอาไปให้คยูฮยอนที่โรงเรียนแต่ซีวอนฮยองไมให้ไปเพราะเมื่อเช้าซองมินไข้ขึ้น... ทานให้อร่อยนะ!"












    ซองมินทำเองนะ... ซองมินทำเองนะ... 














    แล้วไงล่ะโจคยูฮยอน! มึงกลั้นยิ้มจนจะปวดแก้มตายอยู่แล้ว!!~




















    -:- Deceive -:-






















    "คุณซีวอน... นาย..."














    บรรยากาศหน้าห้องของเจ้าของบริษัทโฆษณานิ่งเงียบไปพักหนึ่งเมื่อคนตัวเล็กได้แต่พึมพำพร้อมกับตัวแข็งค้างไปเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่นั่งเด่นอยู๋ในห้องแต่เพียงคนเดียวได้อย่างชัดเจน





    หมอนั่นคือชเวซีวอนอย่างนั้นเหรอ... ซวยแล้วมั้ยล่ะอีฮยอกแจ!!~






    "ขอโทษนะคะบอส ดิฉันเตือนแล้วว่าบอสยังไม่ว่างแต่เขาก็ดึงดันจะเข้ามา" เป็นคุณเลขาหน้าสวยปากแดงที่เป็นคนทำลายความเงียบ ซีวอนมองร่างบางที่นิ่งแข็งไปด้วยรอยยิ้มบางๆ ฮยอกแจรู้สึกว่าเรียวแขนเล็กถูกมือของแม่เลขาหน้าห้องกระชับอีกรอบก็ได้แต่ฝืนตัวเบาๆและรู้สึกเป็นต่อมากขึ้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงทุ้มๆของคนในห้อง




    "ไม่เป็นไรครับมิยอง~ คุณกลับไปทำงานต่อเถอะ ผมจัดการเอกสารเสร็จพอดี" ว่าแล้วก็ก้มลงจัดเก็บกองเอกสารจึงไม่ทันได้เห็นคนตัวแสบหันกลับไปยิ้มหวานหยดแถมยังเชิดหน้าใส่เลาขาสุดสวยของตน ฮยอกแจทิ้งสายตาเหนือกว่าครั้งสุดท้ายก่อนจะกระแทกประตูใส่หน้าคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม




    "เอ่อคือ.. คุณคือคุณ.."


    "ชเวซีวอน~"




    ฮยอกแจก้มหน้านิ่งเมื่อเดินเข้าไปถึงโต๊ะทำงานของคนตัวสูงและได้รับคำตอบยืนยันว่าคนที่เมื่อแรกพบกันในที่อโคจรแถมยังก่อเรื่องต่างๆให้เป็นถึงเจ้านายในบริษัทใหญ่โตแถมยังเป็นบริษัทที่เขาวาดฝันจะได้บรรจุเข้าทำงาน




    แล้วอนาคตอีฮยอกแจจะวางเอาไว้ที่ไหนดี...




    "งั้นผมขอตัวครับ เพราะถ้าผมเป็นคุณ... คงไม่อนุญาตให้เด็กไม่ดีอย่างผมเข้ามายุ่มย่ามกับบริษัทใหญ่โตแบบนี้"




    "คุณสมบัติแรกของคนที่จะเข้ามาทำงานที่นี่คือ... ต้องมั่นใจในความสามารถของตัวเอง" 




    "หมายความว่า..."




    "ฉันเป็นผู้ใหญ่พอที่จะแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน อีกอย่างประวัติการศึกษาของเธอก็ไม่ได้เสียหายอะไร" ว่าพลางกดยิ้มให้กับคนตัวเล็กซึ่งเจ้าตัวรู้สึกว่ามันอ่อนโยนเหลือเกิน เพราะเพียงแค่คิดว่าร่างสูงมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้กับเขาหัวใจมันก็พองโตจนคับอก




    "ขอบคุณครับ! ผมจะตั้งใจทำงานให้สมกับที่คุณ.. เอ่อ.. บอสไว้ใจ~" เก็บอาการลิงโลดเอาไว้ไม่อยู่เมื่อได้ยินน้ำเสียงอ่อนนุ่มและท่าทีสุขุมของคนตัวสูง ฮยอกแจยิ้มกว้าง นัยน์ตาเรียวทอประกายระยับเสียจนคนมองอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้




    "แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ..."




    "ฉันจะให้เธอเป็นผู้ช่วยคุณมิยองเลขาของฉัน"




    "อะ.. อะไรนะครับ!" โพล่งออกมาอย่างลืมตัว ก็เพราะฮยอกแจรู้ดีว่าเขากับยัยป้าหน้าห้องนั่นคงไม่สามารถทำงานร่วมกันได้เพราะแค่วันแรกก็แทบจะลงไม้ลงมือกันแล้ว




    "เธอได้ยินไม่ผิด... ผู้ช่วยเลขา~" ซีวอนเองก็เหมือนจะรู้ทันเมื่อเห็นใบหน้าตื่นตระหนกของคนตัวเล็ก ร่างสูงจึงช่วยย้ำอีกครั้งและมันก็ชัดเจนมากพอที่จะทำให้คนฟังพยักหน้าตอบรับช้าๆ




    "ผมจะตั้งใจทำมันให้ดีที่สุดครับ" ตอบรับออกไปด้วยท่าทีมั่นใจ อย่างน้อยเขาก็ได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆในที่ที่เขามีใจอยากจะร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้เกิดขึ้น และเขาก็ยอมรับได้เลยว่าการได้ทำงานใกล้ชิดคนตัวสูงตรงหน้าคือความปรารถนาในเบื้องลึก




    "แล้วน้องชายของเธอเป็นยังไงบ้าง" ซีวอนเอ่ยถามหลังจากทำสัญญาณมือให้คนตัวเล็กนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้า ฮยอกแจนั่งลงอย่างว่าง่ายก่อนจะตอบคำถาม


    "ไม่เป็นไรมากครับแค่ถลอกนิดหน่อย แล้วน้องชายของบอสล่ะครับ"


    "ถลอกหลายที่เหมือนกัน แต่เมื่อเช้าซองมินไข้ขึ้นฉันก็เลยไม่ให้ไปโรงเรียน" นัยน์ตาเรียวทอดมองดวงตาคมของคนตอบคำถาม ใบหน้าและแววตาที่แสดงให้เห็นถึงความกังวลทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วย


    "ผมขอโทษแทนคยูฮยอนด้วยนะครับที่พาน้องชาย..."


    "ช่างเถอะ~ ฉันเองก็ผิดที่ทำให้น้องเธอเจ็บ อีกอย่างเมื่อวานเธอคงตกใจมากสินะ" ฮยอกแจไม่ตอบได้แต่ยิ้มรับบางๆ เปิดทางให้คนที่ลุกขึ้นยืนเต็มเท้าได้เป็นฝ่ายพูดก่อน




    "เที่ยงแล้ว~ ฉันว่าเราควรไปหาอะไรทานกันสักหน่อย ไถ่โทษที่ทำให้ครอบครัวเธอตกใจ" 






    ฮยอกแจพยักหน้ารับคำชวนพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มเท้าเช่นกัน แต่ก่อนที่จะได้ก้าวเดินกัน ฮยอกแจก็ทรุดตัวลงไปวุ่นวายอยู่กับรองเท้าคู่สวยของตน คนตัวเล็กทำหน้าตายุ่งยากก่อนจะช้อนใบหน้าขึ้นหาร่างสูง




    "บอสออกไปก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมขอจัดการรองเท้าสักครู่ เพิ่งใส่วันแรกน่ะครับเหมือนจะมีปัญหานิดหน่อย"


    "อ่า... งั้นเจอกันที่หน้าบริษัท"


    "ครับ~"




    เมื่อคนตัวสูงเดินพ้นกรอบประตูฮยอกแจก็ยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงอีกครั้ง ไม่ได้สนใจรองเท้าอย่างที่บอกไป ในตอนนี้คนตัวเล็กกลับใช้มือขยำปกเสื้อด้านบนของตนให้เป็นรอยยับ และทำมันไปพร้อมๆกับการขบเม้มกลีบปากอิ่มแดงของตนให้บวมเจ่อก่อนจะก้าวเดินไปที่ประตู มองสภาพตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเปิดประตูออกไป






    "ซีวอน~~ คนบ้า... ไม่รอกันเลยนะ!"






    พึมพัมเบาๆอยู่ที่หน้าประตูและแน่นอนว่าคงมีเพียงแค่คนคนเดียวที่ได้ยิน นัยน์ตาวาวโรจน์ของหญิงสาวละจากการจัดเก็บเอกสารขึ้นมาสบตาสายตาเรียว หญิงสาวผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพคนตรงหน้าแต่ก็ยังเก็บอาการได้เป็นอย่างดี มองกวาดใบหน้าขาวอีกครั้งก่อนจะก้มลงทำงานตามเดิม คนตัวเล็กหัวเราะคิกก่อนจะเดินเร็วๆตามร่างสูงไป












    เหอะ! มองเจ้านายยังกับจะกลืนกินคิดว่าอีฮยอกแจโง่ดูไม่ออกหรือไง!!




















    -:- Deceive -:-




















    ทงเฮกระแทกถังน้ำและไม้ถูพื้นลงบนกระเบื้องขาวสะอาดของห้องน้ำกว้างก่อนจะตวัดสายตาขุ่นเคืองไปยังบานประตูห้องน้ำที่เบื้องหลังประตูนั้นร่างสูงคงกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนเตียงที่หาเรื่องมาแกล้งเขาได้




    ค้อนให้กับสิ่งไม่มีชีวิตแล้วคนตัวเล็กจึงเริ่มทำงานเพราะถึงอย่างไรเสียทงเฮก็ไม่มีสิทธิที่จะประท้วงหรือต่อรองอะไรอีกแล้ว ในเมื่อท่านเจ้านายเขาต้องการทงเฮก็ต้องจัดการให้ นัยน์ตากลมกวาดมองห้องน้ำกว้างของคนตัวสูงแล้วก็จำต้องคลี่ยิ้มเพราะมันสวยงามและสุดแสนโรแมนติก




    ห้องน้ำกว้างถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนด้านในแบ่งเป็นส่วนชาวเวอร์และสุขาแต่ด้านนอกนั่นต่างหากที่ทำให้ทงเฮรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งก่อสร้างที่คงทำให้ผู้ใช้ผ่อนคลาย พื้นที่ไม่กว้างมากนักที่ถูกกั้นเอาไว้ด้วยมู่ลี่บางๆถูกวางพื้นด้วยทรายจากทะเลและก้อนกรวดเปลือกหอยหลากหลายสีสัน ด้านบนเป็นท้องฟ้าสีครามไม่ใช่พื้นเพดานสีขาวอย่างที่ควรจะเป็น อ่างอาบน้ำทรงกลมวางเด่นอยู่บนพื้นทราย ถัดออกไปมีฝักบัวเล็กๆสำหรับอาบน้ำ ที่กำบังของห้องอาบน้ำภายนอกก็มิดชิดมากพอ ทงเฮหลบตาคิดว่าถ้าหากค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวงแล้วเขาได้ลงไปแช่น้ำอุ่นในอ่างน้ำวนเพื่อมองดูพระจันทร์สีนวลคงเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข






    "ทงเฮ~ นายอยู่ข้างนอกหรือเปล่า... อยู่นี่เอง"




    มือบางจำต้องละจากอ่างอาบน้ำสีน้ำนมเมื่อเสียงเข้มและการมาถึงของคิมคิบอมตัดจินตนาการของเขาให้ดับวูบลงก่อนที่ร่างเล็กจะหันกลับมาหาคนที่ก้าวเข้ามาใหม่




    "คุณ!"




    ทงเฮตาโตมองคิบอมก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าตัวสูงมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวพันรอบเอวเอาไว้ อวดสรีระท่อนบนสีน้ำผึ้งอย่างไม่คิดกริ่งเกรงสายตาจากคนอื่นอย่างเขาเลย




    "ทำอะไรของคุณ!"


    "ฉันจะอาบน้ำ" คนตอบยิ้มกริ่มและแน่นอนว่าร่างเล็กต้องสวนขึ้นทันควัน


    "แต่คุณบอกเองว่าให้ฉันมาล้างห้องน้ำ!"

    "นายก็ล้างไปสิ ฉันจะอาบน้ำ~"  ว่าแล้วก็เดินกวัดแกว่งผ้าขนหนูผืนเล็กกลับเข้าไปยังตัวห้องน้ำกว้างที่มีมู่ลี่คั่น ทงเฮได้แต่ยืนตาค้างแล้วรีบหันหลังกลับทันทีที่ได้ยินเสียงหยดน้ำกระทบพื้นกระเบื้อง






    ตั้งใจใช่มั้ย... ไอ้บ้าคิบอม!!~






    คนตัวเล็กเลือกที่จะทำความสะอาดห้องน้ำบริเวณภายนอกก่อนเพราะจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับอีกคน เสียงน้ำจากฝักบัวละเอียดคลอไปกับเสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดีของคนตัวสูงแต่นั่นมันกลับทำให้ทงเฮยิ่งหน้าง้ำเข้าไปอีกหลายเท่าตัว




    "แบบนี้เนี่ยนะจะให้ฉันไว้ใจ... คนบ้าเอ้ย" ร่างเล็กพึมพำไปพร้อมๆกับการทำความสะอาดห้องน้ำอินตามธรรมชาติ ดีที่ในส่วนนี้มีอุปกรณ์ทำความสะอาดเล็กๆน้อยๆวางอยู่ด้วยทงเฮจึงไม่ต้องเดินย้อนกลับไปเอาไม้ถูและถังที่ทิ้งไว้ข้างใน




    "โอ้ย!!~"




    เสียงน้ำจากฝักบัวยังคงดังอย่างต่อเนื่องหากแต่เสียงผิวปากเป็นเพลงอย่างเบิกบานนั้นกลับถูกแทนที่ด้วยเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด คิ้วเรียวขมวดเข้าห้ากันก่อนจะตัดสินใจไม่สนใจเสียงร้องนั้นเพราะเกรงว่าจะเป็นอุบายที่คนตัวสูงงัดขึ้นมาแกล้งกันเหมือนทุกที




    แต่ความเงียบภายใต้เสียงน้ำที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกลับทำให้ยิ่งว้าวุ่น






    "คุณ~"




    ไร้เสียงตอบรับ..




    "คิบอม!!... คุณอย่าเล่นแบบนี้นะ..."




    ไม่มีการโต้ตอบใดๆ




    ทงเฮเม้มกลีบปากอิ่มแน่น นัยน์ตาหวานสั่นไหวเพราะความกังวลที่กำลังไหลเวียนไปมาในใจ ทงเฮถอนหายใจยาวก่อนจะกลั้นใจเดินกลับไปยังที่มาของเสียงน้ำไหล มือบางแหวกมู่ลี่ที่ขวางทางออกก่อนจะรีบรุดเข้าไปหาร่างสูงในผ้าขนหนูที่นั่งพิงผนังเย็นอยู่อย่างไร้สติ




    "คุณ! คิบอม! คิบอม!!"




    ร่างเล็กนั่งลงใกล้ๆร่างกายเปียกโชก ก้อนสบู่ใหญ่ที่แบนเละไม่เป็นทรงกลิ้งอยู่ไม่ไกลนัก ทงเฮเปียกชุ่มไปทั้งตัวเพราะไม่ได้สนใจสายน้ำจากฝักบัวที่ไหลรดลงใส่ เลือดสีแดงสดจากศีรษะทางด้านซ้ายของคนตัวสูงต่างหากที่เป็นสิ่งน่ากังวลสำหรับคนตัวเล็ก




    "คุณ..." นิ้วเรียวแตะลงบนปากแผลที่ไม่กว้างนัก เลือดสีแดงสดติดตรึงอยู่บนปลายนิ้วบ่งบอกว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ทงเฮตบแก้มอูมเบาๆเพื่อเรียกให้อีกคนฟื้นคืนสติพร้อมกับสอดแขนออกแรงพยุงให้ร่างสูงลุกขึ้น




    "คุณลุกไหวหรือเปล่า..." ไม่สามารถสกัดกั้นความดีใจได้เมื่อเปลือกตาหนาเปิดขึ้น นัยน์ตาสีดำขลับกำลังจับจ้องกลับมา พลันให้ทงเฮรู้สึกถึงความแนบชิดของผิวกาย แก้มขาวร้อนผ่าวหากแต่เจ้าของใบหน้าหวานไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันแดงระเรื่อเพียงใด




    "อืม... นึกว่าจะปล่อยให้ฉันตายตรงนี้ซะแล้ว"




    "คณแกล้งเหรอ!!" มือเล็กฟาดลงไปบนอกกว้างเกลื่อนหยดน้ำฉับพลันทันทีที่ร่างสูงเอ่ยจบ คิบอมหัวเราะน้อยๆพลางส่ายหน้าปฏิเสธ




    "ลื่นจริง เจ็บจริง... แต่ลุกไม่ไหวเพราะรอคนมาประคอง" ลำแขนยาวสอดเข้าที่เอวบางที่เปียกชุ่มหยาดน้ำ พลางมองสบนัยน์ตาสีชาบนใบหน้าหวานที่มีหยดน้ำเล็กประดับเอาไว้ กลุ่มผมนุ่มเปียกชื้นลู่ลงตามโครงหน้าส่งผลให้คนตัวเล็กงดงามจับใจ




    "ฉันไม่น่าเป็นห่วงคุณเลย!!" ตัดพ้อคนเจ้าเล่ห์ด้วยนัยน์ตาหวานที่แสดงความรู้สึกได้ซื่อตรงกับความรู้สึกในใจ ทงเฮดึงดันจะออกจากอ้อมกอดที่ยังอบอุ่นแม้เขาทั้งคู่จะเปียกชุ่มไปด้วยกันแต่ไม่สามารถทำตามอย่างที่ใจคิดได้ อีกทั้งยังโดนคนเอาแต่ใจรั้งกายให้แนบชิด พร้อมกับกระซิบถ้อยคำแผ่วเบาแต่ดังสะท้อนไปทั่วทั้งอกบาง




















    "แต่ฉันดีใจนะ... ดีใจที่รู้ว่านายเองก็ห่วงฉันเหมือนกัน"



















    TBC. ~*














    Kibummi Talk ::


    หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกก~
    มัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำรูปเล่มฟิคที่จะวางในงานฟิควันที่ 4 กุมภานี้
    ใครไปานตลาดฟิคก็เจอกันได้นะคะที่บูธคิเฮโซน :))
    ขอให้มีความสุขกับล้วงทั้งสามคู่ชู้ชื่นค่าาาาาาา~
    ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ กำลังใจใหญ่หลวงของคิบอมมิ :)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×