ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Deceive ลวงเธอมาล้วงรัก~ | KiHae , WonHyuk , KyuMin

    ลำดับตอนที่ #5 : ★ Chapter - 04

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 627
      3
      20 ม.ค. 55

     








    -:- Deceive 4 -:-









    บรรยากาศภายในรถคันใหญ่เงียบสงบ นัยน์ตาของคนตัวสูงทอดมองไปยังถนนเบื้องหน้าพร้อมกับบังคับรถให้เคลื่อนไปตามถนนที่มีรถขวักไขว่นั้น ต่างจากร่างเล็กบอบบางข้างๆที่นั่งหันซ้ายมองขวา มองถนนตรงหน้าสลับกับใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่เห็นสนใจจะหันกลับมามองเขาเลย




    "อะ โอ้ย~"




    กลีบปากอิ่มสีสดเผยอขึ้นเล็กน้อยปล่อยให้เสียงครางเบาๆหลุดรอดออกมา เรียวตาคมสวยมองไปยังคนขับรถในขณะที่มือบางเคลื่อนลงจับข้อเท้าตัวเองและต้องรีบหันใบหน้าหวานกลับมาเมื่อคนตัวสูงหันกลับมามองที่ตนแล้ว




    "เธอเจ็บมากเหรอ.." เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าคนที่ชนเข้ากับเขานั้นแสดงอาการเจ็บแปลบขึ้นมาอีกแล้วหลังจากที่เงียบเสียงโวยวายไปนาน




    "เจ็บสิ! ชนเบาๆซะที่ไหนเล่า!" กระแทกเสียงตอบคำถาม แต่ในใจกลับรู้สึกยินดีที่อีกคนแสดงอาการเป็นห่วงเป็นใยขึ้นมาบ้าง




    "งั้นอีกเดี๋ยวคงหายเจ็บ.. คุณหมอน่าจะฉีด.."




    "มะ.. ไม่นะ! เอ่อ.. รู้สึกดีขึ้นมานิดแล้วล่ะ ไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาลหรอก" คนตัวเล็กอ้อมแอ้มออกมาหลังจากโพล่งเสียงคัดค้านออกมาเสียดังลั่นเมื่อตอนที่ร่างสูงเอ่ยพาดพิงถึงวิธีการรักษา




    "ฮ่าๆ เธอนี่มันแสบจริงๆ" คนโตกว่าหัวเราะอย่างอารมณ์ดีพลางส่ายหัวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา






    คนตัวเล็กคงคิดว่าเขาไม่เห็นมั้งไอ้ตอนที่รีบวิ่งมาดักหน้าเขาน่ะ..








    "ไม่เห็นมีอะไรน่าขำเลย" ใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อก่อนจะเบนไปอีกทาง คิ้วเรียวเลิกขึ้นเมื่อเห็นว่าตัวรถเคลื่อนเข้าจอดยังห้างสรรพสินค้าใหญ่ใกล้มหาวิทยาลัยของเขา






    อย่างน้อยก็ดีกว่าโรงพยาบาล..







    "จะต้องให้ฉันอุ้มเธอลงมาหรือเปล่า" ซีวอนเดินอ้อมกลับมาเปิดประตูให้คนตัวเล็กก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆ ส่วนคนที่ยังลำดับเหตุการณ์ไม่ได้ได้แต่นิ่งค้างไปกับรอยยิ้มอบอุ่นนั้นก่อนจะสะบัดหัวแล้วรีบก้าวลงจากรถโดยไม่มีทีท่าของคนที่เคยบาดเจ็บแม้แต่น้อย




    "ไม่เจ็บแล้วเหรอ"




    "อ.. อ้อ นิดหน่อย~" ฮยอกแจก้มลงลูบข้อเท้าของตัวเองพลางยิ้มแหยๆก่อนจะทรงตัวขึ้นให้เป็นปกติเมื่ออีกคนก้าวนำเข้าไปในห้างใหญ่




    "นายพาฉันมาที่นี่ทำไม!" ก้าวตามคนตัวใหญ่พร้อมกับเปล่งเสียงถาม ร่างสูงหันกลับมามองคนที่ก้าวเท้าได้คล่องปรื๋อด้วยรอยยิ้มอบอุ่นอีกครั้งก่อนจะตอบคำถามเบาๆ




    "ทานข้าว... ถือว่าไถ่โทษที่ฉันทำให้เธอเจ็บ" คำตอบของคนตัวสูงทำเอาร่างบางยิ้มปริ ฮยอกแจก้าวตามคนตัวสูงจนกระทั่งทั้งคู่เข้าไปในภัตตาคารอาหารจีนที่มีระดับพอสมควร




    เวลาผ่านไปสักครู่อาหารจีนหน้าตาน่าทานก็ถูกนำมาจัดเรียงเอาไว้บนโต๊ะกลมตัวเล็ก ฮยอกแจที่เอาแต่มองไปรอบๆหันหน้ากลับมาให้ความสนใจกับอาหารทันที รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนใบหน้าขาวโดยไม่ได้ตั้งใจส่งผ่านไปให้ใคร หากแต่คนที่มองอยู่ก็พลอยยิ้มไปด้วยเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กดูท่าจะมีความสุขกับอาหารตรงหน้า




    "สั่งมายังกับจะกินกันสิบคน" มือบางเอื้อมคีบชิ้นปลาขาวนวลเข้าปากหลังจากบ่นให้คนตรงหน้าเบาๆ ซีวอนเพียงแค่ส่ายหัวกลับไปก่อนจะเริ่มลงมือทานอาหารบ้าง ฮยอกแจเองก็ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะความสุขของคนตัวเล็กคือการได้ลิ้มลองอาหารอร่อยตรงหน้า






    "เสน่ห์แรงจริงๆ" ฮยอกแจเคี้ยวอาหารพร้อมกับตวัดตามองผ่านไปยังด้านหลังของคนตรงหน้า เสียงพึมพำเบาๆนั้นเรียกให้คนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยแสดงอาการสงสัยขึ้นมาทันที คิ้วหนาเลิกขึ้นก่อนจะเอ่ยถามออกมา




    "เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ.." คำตอบที่คนตัวสูงได้รับกลับมามีเพียงแค่การเม้มเรียวปากเเน่นและสะบัดผมซะจนกลุ่มผมสีสว่างยุ่งไม่เป็นทรง ฮยอกแจไม่ต่อบทสนทนานั้นอีกมือเล็กกลับไปคีบอาหารเข้าปากต่อ แต่จู่ๆมือไม้ก็อ่อนขึ้นมาทันที




    "อ่าา~" ตะเกียบคู่สีน้ำตาลเข้มร่วงหล่นลงพื้น กลีบปากอิ่มผุดรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นเรียกเด็กเสิร์ฟสาวสวยในชุดกี่เพ้าสีแดงสดเข้ารูปที่ยืนมองโต๊ะของพวกเขาอยู่ห่างๆมานานแล้ว




    "ขอตะเกียบคู่ใหม่ด้วยนะครับ" ฮยอกแจคลี่ริมฝีปากสีระเรื่อเป็นประโยคนั้น ก่อนจะยกมือปัดผมหน้าที่เลื่อนลงมาปรกใบหน้าหวานของตัวเอง และด้วยความตั้งใจหรือไม่ทันระวังก็ไม่อาจคาดเดาได้จึงทำให้นิ้วเรียวที่เปื้อนคราบอาหารสัมผัสเข้าที่นัยน์ตาเรียวสวยความแสบร้อนทำให้หยาดน้ำตาค่อยๆไหลผ่านแก้มเนียน




    "เป็นอะไรมากหรือเปล่า" คนที่กำลังคีบอาหารเข้าปากจำต้องวางมือลงก่อนจะเอ่ยถามคนตัวเล็กตรงน้าที่ในตอนนี้น้ำตาอาบแก้มไปเรียบร้อยแล้ว




    "แสบมากเลย" มือเล็กยังจะยกขึ้นขยี้เรียวตาสวยร้อนถึงคนตัวสูงต้องรีบก้าวเข้ามาฉุดรั้งมือเล็กเอาไว้ ซีวอนประคองร่างบางขึ้นในขณะที่คนตาบอดชั่วคราวก็ขยับกายลุกขึ้นเช่นกัน มือบางเกาะแขนคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าแน่นก่อนจะหันกลับมาหาร่างของหญิงสาวที่ยังไม่ทันได้ขยับกายไปไหน กลีบปากอิ่มระบายยิ้มน้อยๆ นัยน์ตาเรียวเปิดขึ้นทั้งที่ยังมีคราบน้ำตาอยู่ ก่อนจะตวัดมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเยาะหยันเล็กน้อย





    "ไม่เอาตะเกียบแล้วนะครับ เช็คบิลเลยดีกว่า... กลับบ้านกันนะ.. ฉันแสบตาจะแย่อยู่แล้ว"






    ว่าแล้วก็ซบใบหน้าเข้ากับหัวใหล่ของคนที่หันหลังให้ ซีวอนที่รู้สึกได้ถึงน้ำตาที่ยังไหลอาบแก้มเนียนก็รู้สึกใจเสียเล็กน้อยก่อนจะหยิบการ์ดในกระเป๋าให้เด็กเสิร์ฟที่เขาคงไม่สังเกตหรอกว่าทำหน้าละห้อยไปแล้ว











    ฮยอกแจเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนนั้น
    แต่พอเห็นอีกคนโดนคนอื่นหมายปองต่อหน้าต่อตาแล้ว...










    มันทนไม่ได้ซะอย่างงั้น!!~ 























    -:- Deceive -:-
















    "ที่นี่แหละ.. กลับไปสิ" 




    เสียงหวานดังขึ้นทันทีที่รถยนต์คันงานเคลื่อนเข้าจอดหน้าประตูรั้วใหญ่โตที่คงพอคาดคะเนได้ว่าหลังกำแพงสูงชันนั้นสิ่งที่อยู่ข้างในคงใหญ่โตและสวยงาม คิบอมดับเครื่องยนต์ก่อนจะละสายตาจากกำแพงบ้านหลังใหญ่ไม่แพ้เขามาที่คนตัวเล็กหน้าหวานข้างกายที่ดูหน้าตามีสีสันขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อคืนตอนที่ละเมอเพ้อพกด้วยพิษไข้




    "อันที่จริงนายต้องพูดว่า 'ขอบคุณที่มาส่ง' ไม่ใช่เหรอ ทำไมนายถึงไม่มีมารยาทแบบนี้"


    "นั่นมันก็เรื่องของฉัน"


    ดูเหมือนว่าพออยู่ใกล้ถิ่นฐานของตัวเองคนตัวเล็กจะกล้าต่อปากต่อคำกับอีกคนมากขึ้น คิบอมหันกลับมาหาคนข้างกายทั้งตัว ก่อนจะกระชากเสียงเข้มอย่างข่มขู่




    "แต่ฉันเป็นเจ้านายนะ"


    "ตอนนี้ยังไม่ใช่สักหน่อย!"


    "นายนี่มันน่า.."








    ปัง!!!~








    ประตูรถคันสวยแล่นกลับมาปิดสนิทเต็มแรงเมื่อคนตัวเล็กผลุบออกจากรถคันใหญ่ในขณะที่ใบหน้าคมนั้นโน้มเข้ามาใกล้ ทงเฮไม่รอให้อีกคนได้โวยวายใส่ ถ้าหากยังเป็นเด็กเจ้าตัวก็คงแลบลิ้นสีสดนั่นออกมาเย้ยคนตัวสูงแล้ว ร่างเล็กหันหลังกลับเข้าบ้านตัวเองทันทีที่ทิ้งใบหน้าเยาะเย้ยให้กับอีกคนจนสมใจตัวเองแล้ว






    "ฮึ~ นายนี่มันน่า... รัก" พ่นลมออกมาพร้อมกับพึมพำประโยคที่คำสุดท้ายดังขึ้นอยู่ในใจ คิบอมมองตามแผ่นหลังบางของคนที่อยู่ในเสื้อผ้าตัวเก่าของเขาจนลับตาไป ก่อนจะนิ่งคิดอะไรบางอย่างแล้วจึงทำการลงจากรถพร้อมกับก้าวตามคนตัวเล็กเข้าไปในบริเวณบ้านที่ยังไม่ทันได้ปิดประตูรั้ว










    "คุณ!! นี่มันบ้านฉันนะ"








    ทงเฮเพิ่งจะเดินพ้นสวนก็ต้องหันกลับมาตวาดใส่คนที่กำลังเดินเอื่อยๆเข้ามาตามทางเท้าที่ทอดยาวไปถึงตัวบ้านหลังใหญ่ คิบอมเองก็ไม่ได้สนใจว่าอีกคนกำลังตีหน้ายุ่งแค่ไหน ร่างสูงเดินเข้ามาหยุดใกล้ๆร่างเล็กก่อนจะรั้งอีกคนเข้าหาตัวแล้วแจ้งจุดประสงค์ของตัวเองบ้าง






    "นี่ก็เสื้อฉันเหมือนกัน.. กางเกงด้วย จะถอดคืนตรงนี้เลยมั้ย" คิบอมจับปลายเสื้อเชิ้ตที่ดูจะใหญ่เกินไปสำหรับคนตัวเล็กเอาไว้พร้อมกับทำท่าจะเลิกมันขึ้น ทงเฮเบิกตาค้างพร้อมกับรวบรวมกำลังผลักคนที่โอบกระชับรอบเอวเขาเอาไว้ให้ออกห่างไปในทันที




    "คุณนี่มันโรคจิตชัดๆ ฉันก็ไม่ได้อยากจะใส่ของคุณนักหรอก!" ว่าแล้วก็หันหลังวิ่งเข้าบ้าน คิบอมหัวเราะก่อนจะก้าวตามเข้าไปในตัวบ้าน ทันได้เห็นแผ่นหลังบางวิ่งขึ้นบันไดไป










    "คุณเป็นเพื่อนคุณหนูใหญ่เหรอคะ ป้าไม่เคยเห็นเลย" 






    นั่งลงไปบนโซฟานุ่มได้ไม่นานเสียงของหญิงวัยชราก็ดังขึ้น คิบอมเบนสายตากลับมายังคนที่กำลังวางน้ำลงบนโต๊ะรับแขกก่อนจะก้มหัวเป็นเชิงตอบรับและขอบคุณคนที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นแม่บ้านของทงเฮ




    "เมื่อคืนป้าเป็นห่วงแทบแย่ หายไปทั้งสามคนพี่น้องกว่าคุณหนูกลางกับคุณหนูเล็กจะกลับก็เกือบสว่าง"




    "อ้อ.. ทงเฮเขานอนบ้านผมเองครับ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้โทรบอกที่บ้านเพราะเมื่อคืนเขาไม่สบายครับ" รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยที่ได้เห็นท่าทีห่วงใยในแววตาของคนสูงวัยในยามที่เจ้าตัวเอ่ยถึงคนทั้งสาม คิบอมละสายตาจากคนตรงหน้าไปยังกรอบรูปใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงสมาชิกทั้งหมดในบ้านและเขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจเนื่องจากประวัติที่ให้คนสืบค้นให้








    พี่น้องตระกูลอีต้องอยู่กันเพียงลำพัง...
    เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้คร่าชีวิตผู้ให้กำเนิดไป








    "คุณหนูของป้าไม่สบายหรือคะ เพื่อนคุณหนูบอกป้าหมดแล้ว"




    ทันทีที่ร่างบางก้าวลงบันไดมา หญิงสูงวัยก็เดินเข้าไปหาคนตัวเล็กนั้นก่อนจะสวมกอดคนที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังแบเบาะ ทงเฮตอบรับสัมผัสนั้นก่อนจะตอบคำถามเบาๆด้วยรอยยิ้มละมุนที่ใครบางคนไม่เคยได้เห็น




    "ทงเฮไม่เป็นอะไรแล้วครับป้าอึนจี"




    "ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะค่ะ ทำงานดึกๆดื่นๆแบบนั้นต้องดูแลตัวเองให้มากๆ เดี่ยวเย็นนี้คุณหนูต้องพักผ่อนเยอะๆนะคะ ไม่ต้องไปทำงานแล้ว คุณอยู่ทานข้าวด้วยกันนะคะ นานๆจะมีเพื่อนมาหาคุณหนูของป้าที" ทงเฮอ้าปากค้างเมื่อคนที่เพิ่งมอบสัมผัสอบอุ่นให้กับเขาหันกลับไปหาคนตัวสูงที่เพียงแค่ยิ้มและพยักหน้าตอบรับ ก่อนที่ร่างสูงวัยนั้นจะเดินหายลับไปทางหลังบ้าน




    "ของคุณ.. เอาคืนไปสิ แล้วก็.. ฉันส่งแค่นี้นะ~" ยัดเยียดเสื้อและกางเกงที่พับใส่ถุงเป็นอย่างดีให้กับเจ้าของก่อนจะผายมือไปทางประตูส่วนตัวเองนั้นเตรียมจะกลับขึ้นไปบนห้องอีกรอบ




    "เป็นถึงคุณหนูแต่กิริยามารยาทของนายนี่ใช้ไม่ได้เลยนะ" 




    "ฉันเลือกปฏิบัติกับคนที่ฉันอยากปฏิบัติด้วยเท่านั้นแหละ" กลีบปากอิ่มเจื้อยเเจ๊วออกมาเป็นประโยคที่ทำให้คนตัวสูงนึกขุ่นเคืองเล็กน้อย 




    "อย่างนั้นเหรอ.. ถ้างั้นฉันก็ต้องอบรมนายใหม่เพราะงานของนายคืองานบริการที่คงจะเลือกปฏิบัติไม่ได้" 




    "นี่ปล่อยฉันนะ ในบ้านฉันเองคุณยังกล้าทำแบบนี้อีก!" คนตัวเล็กโวยวายลั่นเมื่อถูกอีกคนฉุดรั้งให้ร่างนั้นร่วงหล่นลงบนหน้าตักกว้างของคนที่นั่งอยู่บนโซฟา




    "บางทีร้องดังๆเลยก็ได้นะ.. ป้าอึนจีของนายจะได้ออกมาเห็นว่าเรากำลังทำอะไรกัน" กลีบปากอิ่มเม้มแน่นหากแต่ยังไม่หยุดรั้งตัวเองให้หลุดออกจากลำแขนยาวที่โอบรัดรอบเอวบางเอาไว้อย่างแน่นหนา






    "ทำไมคุณต้องแกล้งฉันด้วย ฉันไม่เคยทำอะไรให้คุณนะ!!" 




    คนตัวเล็กหยุดดิ้นพลางทอดนัยน์ตาสวยบริสุทธิ์ไปยังใบหน้าคมหล่อเหลาของคนที่กำลังกักกันร่างกายของเขาเอาไว้ และไม่รู้สึกตัวเลยว่าลูกแก้วสีนิลที่ทอดมองมายังตนนั้นกำลังดูดกลืนนัยน์ตาสีสว่างเข้าไปทีละนิด หัวใจเร่งจังหวะขึ้นอย่างแปลกประหลาด ความรู้สึกวูบนึงที่วิ่งผ่านไปในขณะที่สายตาสอดประสานกันทำเอาคนตัวเล็กรู้สึกสั่นไหวไปทั้งร่าง




    "ฉันทำเพราะฉันอยากทำ.." เสียงทุ้มที่หลุดรอดออกมาจากลีบปากได้รูปที่ห่างกันเพียงคืบบางเบาราวกับเสียงลมที่วูบผ่านไป ทงเฮไม่เข้าใจตัวเองว่าเหตุใดเขาจึงไม่สามารถถอนสายตาออกจากลูกแก้วรัตติกาลคู่นั้นได้ ทั้งที่อยากจะเบือนหน้าให้พ้นจากคนตรงหน้าไปเสียเดี๋ยวนี้แต่ก็ดูเหมือนเรี่ยวแรงทั้งหมดจะสูญสิ้นไป



    ทั้งที่รู้สึกว่าร่างกายของตนกับอีกคนแทบจะแนบสนิทกันอยุ่แล้วแต่ร่างน้อยก็มิอาจพาตัวเองให้หนีจากสัมผัสอบอุ่นและแววตาชวนให้ลุ่มหลงนี้ได้ ก้อนเนื้อในอกบางเร่งจังหวะถี่กระชั้นขึ้นมาจนเจ้าตัวเกรงกลัวว่ามันจะหลุดพ้นร่างกายออกมา เปลือกตาหนาปิดลงเมื่อใบหน้าคมนั้นค่อยๆโน้มเข้าหา














    เอี๊ยดดดดดดดดด~!













    กลีบปากอิ่มที่กำลังจะแนบแตะกันจำต้องสะดุ้งถอยห่างเพราะเสียงที่ดังขึ้นที่หน้าบ้านนั้นทำให้เจ้าของริมฝีปากทั้งสองคนได้สติจากภวังค์หวานที่ถูกสร้างขึ้นโอบล้อมคนทั้งคู่ให้หลุดจากโลกภายนอก ทงเฮดันตัวเองขึ้นจากตักกว้างก่อนจะวิ่งไปที่ต้นกำเนิดของเสียงโดยมีคนตัวสูงวิ่งตามติดไป






    "คยูฮยอน!" 






    เห็นน้องชายคนเล็กล้มอยู่บนพื้นถนนหน้าบ้านร่างเล็กก็ถลาเข้าไปหาทันที ร่างสูงโปร่งของน้องชายส่ายหน้าให้เห็นว่าไม่เป็นไร ก่อนนัยน์ตาคมนั้นจะรีบเบนสายตาไปยังเจ้าของร่างขาวบอบบางที่เดินมาพร้อมกับตน ซองมินเองก็ไม่ได้เป็นอะไรเช่นกัน มีเพียงแค่รอยถลอกที่แขนเล็กๆน้อยๆ






    "คยูฮยอน!" ประตูด้านคนนั่งเปิดกว้างออกพร้อมกับร่างเล็กที่พุ่งทะยานมาหาน้องชายเฉกเช่นเดียวกับที่ทงเฮทำในตอนแรก ฮยอกแจตกใจตั้งแต่ที่คนขับข้างกายเขาเหยียบเบรกดังลั่นเพราะเจ้าลูกแมวที่กระโจนตัดหน้ารถทำให้คนตัวสูงเบนรถไปอีกทางและโชคร้ายที่เป็นทางที่น้องชายของเขากำลังเดินมากับเพื่อนอีกคน








    "ซองมิน!" 






    เสียงทุ้มดังขึ้นด้วยชื่อที่แตกต่างไปจากสองคนแรก ร่างสูงถลาเข้าหาร่างอวบที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้นถนนอย่างห่วงใยและใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวราวกับจะขาดใจเมื่อเอื้อมคว้าแขนขาวขึ้นมาแล้วพบเข้ากับรอยถลอกที่มีสาเหตุมาจากเขา ใบหน้าน่ารักเบนขึ้นมองเจ้าของสัมผัสที่คุ้ยเคย นัยน์ตากลมโตฉายแววตกใจ กลีบปากอิ่มเม้มแน่นก่อนจะเผยอขึ้นปล่อยเสียงที่มีเพียงคนตรงหน้าที่ได้ยิน

















    "ซีวอนฮยอง..."
























    TBC. ~*





















    Kibummi Talk ::


    โอ้วววววว เป็นครั้งแรกที่ทั้งหกคนได้อยู่ในฉากเดียวกัน -.-
    เป็นยังไงก็บอกๆกันบ้างนะคะ ไม่ได้หายไปไหน
    ขอให้มีความสุขกับล้วงงง ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเมนต์ค่าาาาา~
    ปล. โทษแมว โทษวอน หรือโทษอะไรดีที่ทำให้ปากอิ่มนั้นไม่แตะกัน อึ๋ยย~
    (แน่นอนว่าต้องมีคนบอกโทษคิบอมมิ .. ใช่ซี้ ~~~~~~)




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×