คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 คนมาทีหลัง
Chapter 1
“ฮันกยองยิ้มหน่อยลูก” หานถิงตบบ่าลูกชายพร้อมกับพูดปลอบประโลม ฮันกยองยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก
“หลบทางให้คู่หมั้นคนสวยหน่อย” เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นพร้อมกับทางเดินที่ปูพรมแดงจะถูกแหวกออก เผยให้เห็นคนตัวเล็กใส่สูทสีชมพูอ่อนขับผิวขาวราวหิมะขึ้นมาให้เด่นยิ่งขึ้น แก้มใสอมสีชมพูระเรื่อรับกับริมฝีปากอิ่มสีแดงสด สะกดคนมองอย่างฮันกยองให้นิ่งงัน ฮยอกแจเดินเข้ามาอย่างสง่างามมือเล็กข้างหนึ่งวางอยู่บนแขนของคยูฮยอน ตาหวานหันไปมองร่างสูงข้างกายมือเล็กบีบแน่นอย่างหวาดหวั่น มือแกร่งของคยูฮยอนวางทับลงไปพร้อมแรงบีบน้อยๆ
“ฉันอยู่ข้างนายเสมอ” ใบหน้าหล่อก้มลงกระซิบริมใบหูเล็ก พร้อมกับจับมือของฮยอกแจออกจากแขนของตัวเองอย่างปวดร้าว
แค่แอบรักก็เจ็บปวดแล้ว
แต่นี่ต้องส่งคนที่รักไปให้กับคนอื่นด้วยมือของตัวเอง
จะมีใครเจ็บไปกว่าโจวคยูฮยอนคนนี้อีกไหม
“มานี่เถอะฮยอก” ฮาจินออกปากเรียกเมื่อเห็นท่าทางลังเลนั้น ฮันกยองนั่งนิ่งอยู่ตรงหน้าไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย ตาคมสบเข้ากับดวงตากลมสวยของคู่หมั้นตัวเองและเมินหนีไปอีกทาง
หากมองนานกว่านี้หัวใจคงสั่นคลอน
“สวมแหวนเลยลูก” หานถิงแตะบ่ากว้างของลูกชายฮันกยองเอื้อมหยิบแหวนเพชรในกล่องกำมะหยี่สีแดงตรงหน้า พร้อมกับใช้มืออีกข้างจับมือนิ่มขึ้นมาสวมแหวนให้อย่างแผ่วเบาสบตากับคนตรงข้ามเล็กน้อย มองเห็นแก้มสีแดงเรื่อก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ
“ฮยอก สวมแหวนให้พี่เขาได้แล้วลูก” ซูมานบอกกับลูกชายคนเดียวของตัวเอง ฮยอกแจหยิบแหวนมาสวมให้กับฮันกยองพร้อมกับสายตาปวดร้าวของคยูฮยอนที่มองมา ฮยอกแจเหลือบมองคนด้านข้างเล็กน้อย แต่ฮันกยองกลับมองตรงไปที่ฮีชอลไม่วางตาจนคู่หมั้นตัวจริงไม่พอใจ
ไอ้จีนเอ๊ย ฉันจะจีบแกแล้วหักอกให้ได้เลยคอยดู
“พาน้องไปทานข้าวเถอะลูก” หานถิงบอกกับลูกชายของตัวเองแขกเหรื่อทยอยกลับไปหมดแล้วเหลือแต่คนในครอบครัวเท่านั้น
“ครับพ่อ” รับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะจับมือเล็กของคนที่ได้ชื่อว่าคู่หมั้นของตัวเองออกไป เปิดประตูรถให้และก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ
“ฉันมีคนรักอยู่แล้ว หวังว่านายคงเข้าใจ” คนขับรถเปิดประเด็นขึ้นมาหลังจากลับสายตาจากพวกผู้ใหญ่แล้ว
“แล้วไงฮะ” ฮยอกแจหันไปถามพร้อมกับยักคิ้วขึ้นอย่างท้าทาย
“ถ้านายคิดว่าจะได้รับความรักจากฉัน ก็อย่าฝันไปเลยเราหมั้นกันแค่ในนามเท่านั้น” เสียงทุ้มตอบกลับพร้อมกับเหล่มองคนด้านข้าง
“ไม่เป็นไรฮะ ผมชอบอะไรที่ท้าทาย” เสียงหวานตอบกลับอย่างไม่รู้สึกรู้สาและคิดว่าการทำให้ฮันกยองรักเป็นส่วนหนึ่งในเกมส์ของตัวเอง
ก็ดีกว่าหมั้นไปวันๆไม่ใช่เหรอ
“นายชื่ออะไร” ฮันกยองเลือกที่จะไม่ตอบโต้กับคู่หมั้นของตัวเองที่ได้ข้อมูลมาว่า ดื้อและเอาแต่ใจที่สุด
“แล้วนายไม่รู้จักชื่อฉันเหรอไง” เสียงหวานย้อนถามแล้วเบะปากออกน้อยๆ
“หึหึ” ฮันกยองทำเพียงแค่หัวเราะในลำคอเท่านั้น ฮยอกแจก็ไม่ได้พูดอะไรมือเล็กเอื้อมไปกดเปิดเพลงคลอไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจจะถามความสมัครใจของคนขับรถซักนิด ตาคมเหล่มองเล็กน้อยแต่ก็เงียบปากเอาไว้
“จอดๆๆๆ” อยู่ดีๆฮยอกแจก็ร้องลั่นพร้อมกับเขย่าแขนของคนด้านข้างจนฮันกยองต้องเหยียบเบรกอย่างแรง
“มีอะไรรึเปล่า” หนุ่มจีนหันมาถามอย่างตกใจแต่คนตัวเล็กด้านข้างชี้ร้านอาหารตามสั่งริมถนนข้างทาง ปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองเสร็จก็เอี้ยวตัวไปปลดเข็มขัดของคนข้างกายให้ ร่างบางก้าวลงจากรถและเปิดประตูด้านคนขับออก มือเล็กจับมือแกร่งลากให้อีกคนเดินลงมาอย่างง่ายดาย ฮันกยองมองดูร้านอาหารซอมซ่อนั้นอย่างรังเกียจ
“จะกินที่นี่” เสียงหวานของคนข้างกายดึงความสนใจออกจากบรรยากาศร้านตรงหน้าได้เป็นอย่างดี
“ที่นี่น่ะเหรอ” ฮันกยองย้อนถาม
“ใช่ที่นี่” คนตัวเล็กกระแทกเสียงตอบและเดินลงไปนั่งก่อนเป็นคนแรก ฮันกยองมองตามไปแล้วส่ายหน้าอย่างระอาแต่ก็จำใจต้องก้าวตามไปนั่งเช่นกัน
“นี่ลองกินดูสิ อร่อยนะเดี๋ยวจะสั่งให้” ฮยอกแจหันมามองแล้วพูดอย่างร่าเริง ร่างบางเดินไปคุยกับป้าเจ้าของร้านอาหารอย่างสนิทสนม ไม่นานนักอาหารหอมฉุยสองสามอย่างก็มาวางตรงหน้า คนตัวเล็กกินอย่างเอร็ดอร่อยผิดกับอีกคนที่ได้แต่นั่งมอง
“อร่อยจริงๆนะคุณคู่หมั้น” ฮยอกแจบอกเสียงใสแถมท้ายด้วยการเอื้อมมือไปป้อนให้อีกคนด้วย ตาแป๋วๆที่มองมาทำให้ฮันกยองปฏิเสธไม่ลงปากเรียวอ้ารับแล้วก็ต้องอมยิ้มเล็กน้อยกับรสชาติถูกปากนั้น
“ก็ดีนะ” ร่างสูงตอบรับและลงมือกินอีกคน ฮยอกแจมองท่าทางเก้ๆกังๆของคนตรงข้ามและตัดสินใจย้ายตัวเองไปนั่งเคียงข้าง มือเล็กพับแขนเสื้อเชิ้ตของฮันกยองให้ขึ้นถึงข้อศอกทั้งสองข้างก่อนจะย้ายกลับมา
“มันน่าจะถนัดขึ้นนะ” ฮยอกแจพูดขึ้นแล้วก้มหน้าก้มตากินของตัวเองต่อ ฮันกยองอมยิ้มเล็กน้อยกับการใส่ใจนั้น แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อมือถือของตัวเองสั่นอย่างรุนแรงอยู่ในกระเป๋ากางเกง
“ว่าไงครับยาหยี” เสียงทุ้มกรอกลงไป ทำให้คนตรงข้ามชะงักมือที่กำลังกินอาหารไปเสียดื้อๆ
“ฮันอ่ะ ไหนบอกว่าจะมาหาซินไง” เสียงหวานๆที่ลอดออกมาจากโทรศัพท์ทำให้ฮยอกแจต้องวางช้อนส้อมลงอย่างไม่พอใจ
ต่อให้ไม่รัก แต่ถ้าเป็นของของเขา
มันก็จะต้องเป็นของของเขา คนเดียวเท่านั้น…
“ครับ ผมติดธุระนิดหน่อยซินรอหน่อยนะครับ” ฮันกยองตอบคนรักไปอย่างลำบากใจ ร่างบางลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะเดินไปจ่ายเงินค่าอาหารและเดินเลยไปรอที่รถ ร่างสูงรีบลุกขึ้นยืนตามก่อนจะเดินออกมามองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ
“จะรอนะฮัน” ตอบรับและวางสายไป
“อิ่มแล้วเหรอ” ฮันกยองออกปากถาม มองดูร่างบางตรงหน้าอย่างสงสัย
“ก็นายรีบไม่ใช่เหรอไง” เสียงหวานย้อนถามกลับมาและเปิดประตูเข้าไปด้านในก่อน ฮันกยองยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเดินเลยไปยังตำแหน่งคนขับของตัวเอง
“ปล่อยน๊า” เสียงของฮยอกแจร้องดังลั่นเมื่อถูกจิ๊กโก๋แถวนั้นลากออกมาจากในรถ ฮันกยองที่ยังเดินอ้อมไปไม่ถึงตำแหน่งคนขับก็รีบหันกลับมาแทบไม่ทัน ชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนกำลังล้อมคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นตัวเองเอาไว้ตรงกลาง มือหยาบของใครบางคนในนั้นจับข้อมือเล็กเอาไว้แน่น
“น้องสาว อย่าเพิ่งรีบกลับเลยอยู่กับพี่ก่อนดีกว่า” เสียงเหี้ยมพูดขึ้นพยายามโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ฮยอกแจเอนหน้าตัวเองหนีอย่างขยะแขยง
“ปล่อยมือของพวกแกออกจากตัวของคู่หมั้นฉันซะ” ฮันกยองพูดเสียงเย็น ปืนกระบอกดำขลับจ่อมาที่หน้าผากของคนที่จับมืออยู่จนผวาปล่อยข้อมือเล็กออกทันที
“มากับแฟนทำไมไม่บอกล่ะจ้ะ” อีกคนถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ดูแสนจะน่าขยะแขยง ฮยอกแจพยายามจะเดินออกมาจากวงล้อมแต่ยังถูกขวางเอาไว้
“ฉันจะนับแค่สาม ถ้ายังไม่ถอยไปไกลๆอย่าหาว่าไม่เตือน” ฮันกยองตวาดดังลั่น
“เออๆ ไม่เห็นต้องขู่เลย” สองคนตรงนั้นกระจอกไปในทันทีพร้อมกับปลีกตัวหลบออกมา ฮยอกแจยืนมองอย่างใจหาย
“ฮึก” อยู่ดีๆคนตัวเล็กบ่อน้ำตาแตก มือเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกอย่างขวัญเสีย แค่ไม่มีคยูฮยอนอยู่ข้างๆทุกอย่างมันก็น่ากลัวไปหมด
“ร้องไห้ทำไม” ฮันกยองถามอย่างทำอะไรไม่ถูก เกิดมาก็ไม่เคยเจอคนน่ารักมายืนร้องไห้ตรงหน้าซะด้วย
“ก็กลัว” เสียงหวานตอบกลับ ตาหวานช้ำช้อนขึ้นมามอง อาการไหววูบในดวงตาสวยทำให้ฮันกยองรับรู้ว่าฮยอกแจบอบบางเกินไปที่จะเผชิญหน้าคนเดียวบนโลกใบกว้างนี้ มือแกร่งรั้งร่างบางเข้ามาโอบกอดเอาไว้ จับหัวกลมๆแนบมากับอกกว้างจนสัมผัสได้ถึงความชื้นที่แผ่นอกของตัวเอง ฮยอกแจตัวสั่นเทาอย่างน่าสงสาร นี่ขนาดพวกนั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่น้อยยังร้องไห้ขนาดนี้ ถ้าหากมันทำมากกว่านี้ฮยอกแจจะเป็นยังไง
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมอยู่ตรงนี้นะ” ฮันกยองปลอบเสียงนุ่ม ลูบแผ่นหลังเล็กไปมาอย่างปลอบโยน
“มันกล้าดียังไงมาลากฉันลงจากรถ” เสียงใสว่าขึ้นอย่างขุ่นเคืองใจแต่แรงสะอื้นน้อยๆทำให้ฮันกยองระบายยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
“ขอโทษครับ ต่อจากนี้ไปผมจะมาช่วยให้เร็วกว่าเดิม” คำปลอบประโลมที่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นรัวและนับตั้งแต่วินาทีนั้นหัวใจทั้งดวงของฮยอกแจก็ยกให้คนตรงหน้าไปหมดใจ
“กลับบ้าน ฉันจะกลับบ้าน” ร่างบางผละออกมาพร้อมใบหน้าแดงเรื่อที่ฮันกยองไม่เอะใจ
“อืม” ฮันกยองรับคำแล้วรีบเปิดประตูให้ฮยอกแจขึ้นไปก่อน ก่อนจะวิ่งกลับมาประจำที่คนขับอย่างรวดเร็ว ฮยอกแจนั่งเงียบมาตลอดทางจนถึงบ้านได้แต่ทอดสายตามองตามรถของฮันกยองไป
“ทำไมฉันต้องมาทีหลังเขาคนนั้นของนายด้วยฮันกยอง”
--------------------------------------
Katomnam Talk:
หลังจากนั่งชั่งใจอยู่นานว่าจะอัพดีไหม
หนสุดท้ายตัดสินใจได้
อัพดีกว่า กร๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาอ่านรึยังทุกคน
เจอกันใหม่เมื่อถึงเวลาอันสมควร
ความคิดเห็น