ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOVE SICK : ชุลมุนหนุ่มกางเกงน้ำเงิน [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #8 : 8th CHAOS - Trust

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 47.82K
      258
      22 มี.ค. 63


    8th CHAOS - Trust

    ผมตื่นมาตอนเช้าพร้อมกับรอยแดงที่แขนเล็กน้อย

    สงสัยจะเป็นเพราะแชมพูล้างรถเมื่อวานว่ะครับ แม่ง เอามาราดกูอยู่ได้ไอ้เวรปุณณ์ กวนตีนนัก แขนขาว ๆ ของผมตอนนี้เลยมีรอยแดงเป็นปื้น ๆ หมดหล่อพอดีครับ

    ล้อเล่นน่ะ! เป็นแค่รอยนิดเดียวเองต่างหาก =p ของแค่นี้จิ๊บจ๊อยสบายมาก ไม่สะเทือนความหล่อของผมหรอก ฮ่า ๆ เดี๋ยวนะ...แว่ว ๆ ใครตะโกนมาว่าผมหนังหนา เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยครับ!

    พูดถึงไอ้ปุณณ์แล้วนึกออกเลยว่าเมื่อวานผมลืมนาฬิกาทิ้งไว้บ้านมัน (ถอดตอนล้างรถน่ะครับ กลัวน้องดีเซลจะจมน้ำตาย) เดี๋ยวต้องโทรไปเตือนมันอย่าลืมเอามาให้สักหน่อย ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายตายเอง เพราะตั่วแปะผมเป็นคนซื้อมาฝากจากออสเตรเลีย

    คิดได้ดังนั้นผมก็กดมือถือโทรออกหามันทันที

    กดอยู่ประมาณสองครั้งครับกว่ามันจะรับ อดคิดไม่ได้ว่าหรือมันจะไปถึงโรงเรียนเรียบร้อยแล้วเลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ แต่...เออ! มันรับสายแล้ว!

    "อืม ว่าไงโน่"  เวรกรรม ผมได้ยินปลายสายเสียงงัวเงียขนาดนี้แล้วเซ็งแดกว่ะ อย่าบอกว่ายังไม่ตื่นนะโว้ย เจ็ดโมงกว่าแล้วมึง!

    "ไม่ไปเรียนรึไง นอนอยู่ได้"  มันโดนผมประชดใส่ทางสายโทรศัพท์ แต่ยังมีหน้ามาหาวให้ฟังอีกแน่ะ!

    "เออ ไม่ไปว่ะ โน่มีไรปะ"  เฮ้ย!

    "มีสิวะ นาฬิกาข้อมือกูอยู่กะมึง"

    "อ๋อ อืม...ผมเก็บไว้ให้แล้ว แต่เอาไว้พรุ่งนี้แล้วกันนะ วันนี้คงไม่ไปเรียนอะ"

    "เออ ไม่เป็นไร...แล้วทำไมไม่ไปเรียนวะ"  ดูเหมือนเสือก ๆ แต่ผมอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ เลขานุการสภานักเรียนดีเด่นอย่างนายปุณณ์ หยุดเรียนเป็นกับเขาด้วยเหรอวะ? ยิ่งช่วงใกล้ ๆ งานบอลที่โคตรวุ่นวายแบบนี้อีก ฟังดูไม่น่าเชื่อแฮะ

    เสียงปลายสายเหมือนจะอึกอักนิดหน่อยจนผมผิดสังเกต (หรือคิดไปเองหว่า) แต่มันก็สรรหาคำตอบมาบอกผมได้ในที่สุด  "ไม่ค่อยสบายตัวน่ะ อื้อ...เอาไว้ค่อยคุยกันนะ ตอนนี้ผมง่วงมากเลย"

    "เออ ๆ"  ผมตอบกลับไปอย่างนั้นแล้วกดวางสาย ทั้งที่ยังรู้สึกข้องใจไม่หาย

    ไม่สบายตัวงั้นเหรอ


    ***
     

    ไอโฟนในมือผมบอกเวลาแปดโมงกว่า ขณะที่มาหยุดยืนหน้าบ้านหลังใหญ่  นี่ผมเสนอหน้ามาบ้านหลังนี้เป็นวันที่ 3 ติด ๆ กันแล้วนะ อะไรจะเป็นแฟนพันธุ์แท้บ้านภูมิพัฒน์ขนาดนั้นวะ -_-"

    ตกลงเอาไงดี กดออดดีไหม...ผมคิดพลางเดินวนกลับไปกลับมาหน้ารั้วอัลลอยสีเงินตระหง่านที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ทำไงดีวะ แปดโมงกว่าแล้วด้วย ผมแค่อยากรู้ว่ามันป่วยเป็นอะไรกันแน่ถึงไม่ไปเรียน แล้วถ้าเห็นว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ผมก็จะกลับไปเข้าเรียน...แต่ถ้ามันเป็นอย่างที่ผมคิดล่ะ

    เฮ้ย! ดูให้แน่ใจก่อนดีกว่า

    "อ้าว คุณโน่ มาเยี่ยมคุณปุณณ์เหรอคะ"  โชคเข้าข้างโคตร ๆ ที่ป้าน้อยเดินผ่านมาเห็นพอดี ผมถึงกับรีบปรี่เข้าไปเกาะรั้วอย่างดีใจ  "ครับ ปุณณ์มันเป็นไรอะป้า"

    "ก็ไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ คุณโน่เข้ามาข้างในดีกว่า"  หญิงสูงอายุตรงหน้าผมว่าพลางเปิดประตูเล็กให้ ผมยกมือสวัสดีป้าน้อยอย่างนอบน้อมก่อนจะก้าวผ่านเข้าไปในบริเวณบ้าน

    "ปุณณ์ป่วยเป็นอะไรอะป้า"  อย่าคิดว่าผมจะเลิกล้มความพยายามในการยิงคำถาม หึหึ แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนของป้าน้อยแทนซะอย่างนั้น

    นี่...อย่าบอกนะว่าคิดแบบเดียวกันกับน้องแป้งน่ะป้า -_-"

    "คุณโน่ขึ้นไปดูก็ได้ค่ะ คุณปุณณ์นอนอยู่บนห้องแน่ะ"  เอาวะ อยากคิดอะไรก็เชิญ (ชินแล้ว) ผมผงกหัวให้ป้าน้อยก่อนจะเดินผ่านเข้าไปในตัวบ้านที่เริ่มจะคุ้นเคยดี

     

    ตามทางเดินชั้นสองที่มันวับ ประตูไม้เนื้อสวยไม่ไกลจากผมนั้นคือห้องนอนไอ้ปุณณ์  ผมเดินตรงลิ่ว ๆ ไปหยุดหน้าประตูและเริ่มใช้ความคิดนิดหน่อย

    บุกเข้าไปเลยแล้วกัน! ไหน ๆ ก็ถ่อมาถึงนี่แล้ว! ผมคิดพลางหมุนลูกบิดประตูเข้าไปอย่างไร้มารยาท ไอ้เรื่องจะให้เคาะบอกน่ะ ฝันไปก่อน

    "ไอ้ปุณณ์!"  ผมส่งเสียงดังแบบไม่มีความเกรงใจ (และสมบัติผู้ดี) แต่แล้วก็ต้องหุบปากสนิท เมื่อเห็นเจ้าของชื่อนั้นกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงเหมือนกับคนไม่มีเรี่ยวแรง

    เฮ้ย...ตัวแม่งแดงเกือบทั้งตัวเป็นปูนึ่งเลยว่ะ (หิว) นี่สรุปว่าสิ่งที่ผมคิดมันเป็นจริง จริง ๆ ด้วย

    ผมปล่อยกระเป๋านักเรียนทิ้งไว้ข้างประตูแล้วปรี่เข้าไปดูมันที่หลับอยู่บนเตียงทันที

    ผิวของปุณณ์ที่ปกติแล้วเป็นผิวขาวออกเหลือง ตอนนี้กลายเป็นสีแดงจาง ๆ เหมือนคนมีอาการผื่นขึ้นทั่วไป (แบบเดียวกับแขนของผมที่เห็นเมื่อเช้านั่นแหละ) เพียงแค่ของปุณณ์มันไม่ได้หยุดแค่แขน แต่กลับแดงทั้งตัวจนน่ากลัวจะทรมาน

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครผิด ผมคิดถูกจริง ๆ ที่แวะมาหามันก่อนไปโรงเรียนอย่างนี้

    เพราะถ้าเก็บมารู้ทีหลัง ผมคงเกลียดตัวเองฉิบหาย

    "ผิวแพ้ก็เสือกเล่นอยู่ได้นะมึง"  เสียงผมบ่นอุบอิบระหว่างล้มตัวลงนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างเตียงมัน หางตาเหลือบเห็นแผงยาเม็ดแก้แพ้ที่ถูกแกะไปแล้วกับน้ำขวดหนึ่งตั้งอยู่ นี่คงจะกินยาไปแล้วสิ ก็ยังดีวะ

    "มึงแหละเอาสบู่ราดกู"  อ้าว! ตกลงไม่ได้หลับซะฉิบ ไอ้ห่านี่กวนตีนตลอด

    "ไม่หลับแล้วเสือกแกล้งตายทำไม"  ผมโวยมันกลับพลางเงื้อมือจะโบกกบาล แต่นึกสงสารคนเจ็บเลยสงวนท่าทีไว้ก่อนดีกว่า ไอ้คนป่วยตัวแดงตรงหน้าผมนี้ยังมีแรงยักยิ้มให้ผมอยู่

    "เป็นคนดีนี่ มีการมาเยี่ยมด้วย"  ตลก!

    "เปล่า กูมาเอานาฬิกา"  แน่นอนว่ามันหัวเราะให้คำตอบงี่เง่า ๆ ของผมว่ะ เออ! ทีใครทีมัน  "แล้ว...กินยายัง"  ผมเลียบ ๆ เคียง ๆ ถาม

    "นาฬิกาตั้งอยู่นั่น เอาเสร็จแล้วก็ไปเรียนดิ"  เปื่อยแล้วยังเสือกกวนประสาทอีกนะ ไอ้เวรปุณณ์!

    ผมหรี่ตามองมันอย่างอดทนที่จะไม่ทำร้ายร่างกายคนเจ็บ แล้วเดินไปหยิบนาฬิกาข้อมือตรงโต๊ะกระจกมันมาใส่ ก่อนจะนั่งแหมะลงบนโซฟาตัวยาวในห้องนอนมัน  "ไม่ไป กูขี้เกียจ นอนเล่นอยู่บ้านมึงดีกว่า"

    แว่วเสียงไอ้ห่านี่หัวเราะแล้วก็พาลเจ็บใจ ไม่ติดว่ามึงป่วยเพราะกู กูก็ไม่มาหรอกโว้ย

    "แล้วเป็นไง เจ็บปะวะ"  สุดท้ายก็ต้องถามถึงอาการมันจนได้ เจ้าคนป่วยที่นอนหลับตาอยู่งึมงำตอบผมในลำคอ

    "คัน ๆ ว่ะ แล้วแขนมึงล่ะเป็นไง"  เออ สังเกตด้วยแฮะว่าแขนผมแดง ผมก้มมองรอยปื้น ๆ ที่แขนตัวเองแล้วก็ยักไหล่

    "ไม่เท่าไหร่ คันหน่อย ๆ"

    "ไปคันหน่อยระวังพี่เคนเขาก้านคอเอานะเว้ย ยิ่งหวง ๆ แฟนอยู่"  ไอ้สัดนี่

    "ไอ้สัด"  ปากผมตรงกับใจเสมอเรื่องด่า ๆ ครับ

    "หึหึ เอายานี่ไปทาสิ ช่วยได้เยอะนะ"  มันว่าพลางชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปทางหัวเตียงทั้งที่ยังไม่ลืมตา ผมมองตามปลายนิ้วมันเห็นหลอดยาทาแก้แพ้อยู่แล้วก็เดินไปคว้ามาลูบลงกับแขนตัวเองบ้าง

    "มึงทายัง"

    "ยัง ขี้เกียจ"

    "เอ้า! จะหายไหมล่ะวะ ทาเด่ะ"  บอกแต่คนอื่น ตัวเองเสือกไม่ยอมทำซะงั้น ผมยืนมองหน้ามันที่ขมวดคิ้วแน่นอย่างเกียจคร้าน

    ไอ้ปุณณ์บิดขี้เกียจทีสองทีก่อนจะยอมลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยดูสบาย ๆ กับทุกสถานการณ์กลับอิดโรยอย่างไม่น่าเชื่อ  "ทาให้หน่อยได้ปะ ขี้เกียจว่ะ"  กูว่าแล้วไงไอ้ปุณณ์...ไหนใครบอกว่ามันเป็นนักเรียนดีเด่น ขยันโง้นงี้ ท้าให้มาดูนี่เลย โกหกทั้งเพ

    "เออ ถอดเสื้อ ๆๆๆ"  ผมว่าพลางนั่งปุลงบนเตียงข้าง ๆ มันแล้วกำหลอดยาไว้ในมือ รอจนมันถอดเสื้อเสร็จ เผยให้เห็นผิวขาวที่มีรอยแดงฉาบอยู่แทบทั่วทุกบริเวณ  "เป็นเยอะว่ะ"

    "เออ ตอนบ่ายไข้จะขึ้น"  ทำนายได้อีกนะมึง ท่าทางเป็นขาประจำ

    ผมบีบเนื้อยาสีขาวจากตัวหลอดมาพักไว้บนฝ่ามือ ก่อนตัดสินใจชโลมไปให้ทั่วแผ่นหลังของมันก่อน จนฝ่ามือรู้สึกได้ถึงเม็ดเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้เมื่อลองทาบลงไป  "จะหมดหลอดก็เพราะหลังมึงใหญ่นี่แหละ"  ผมบ่นเพราะเห็นว่าทายังไงก็ไม่ทั่วซักที ไอ้บ้านี่เห็นผอม ๆ แต่โครงสร้างกระดูกไหล่กว้างสมเป็นผู้ชายจริง ๆ

    เสียงปุณณ์หัวเราะรับคำบ่นผม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหันหน้ามาให้เมื่อทายาทั่วทั้งหลังแล้ว  "เหนื่อยปะ"  ยังมีหน้ามาถามอีกนะ ไอ้ขี้เกียจจจ

    "เออ เหนื่อย! ข้างหน้าทาเองสิวะ กูไม่อยากทำให้มึงสยิว"  ผมพูดทีเล่นทีจริง แต่กลับได้รับเป็นสายตามีเลศนัยของไอ้ปุณณ์แทน

    "แค่เมื่อกี้กูก็เสียวแล้ว"

    "ไอ้ห่า งั้นทาเองเลยสัด"  ขนลุก! ผมโยนหลอดยาใส่มันทันที ได้ยินเสียงมันหัวเราะร่า

    "ล้อเล่น! ทาก็ทาให้เสร็จสิวะ หนาว"

    "แล้วเสือกปรับแอร์ซะเย็นทำไม บ้าหรือโง่วะ"  ผมบ่นกลับแต่ก็บีบยาก๊อกที่สองลงบนฝ่ามือตามบัญชา

    เสียงแอร์ดังหึ่ง ๆ เป็นสิ่งเดียวที่ทำลายความเงียบในขณะนี้...

    ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับมันต่อดีว่ะ เพราะมันก็ไม่ได้ชวนผมคุยเหมือนกัน แบบนี้เลยยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเกร็งแปลก ๆ  ผมยอมรับว่ามือสั่นนิดหน่อยตอนเผลอสบตากับมัน ก่อนปลายนิ้วจะแตะลงบนแผ่นอกของคนตรงหน้า

    ปัดโธ่เว้ย! ตื่นเต้นทำไมวะ ผู้ชายด้วยกันแท้ ๆ ไม่ได้อวบอึ๋มเหมือนใน DVD ที่ไอ้โอมบิทมาฝากผมสักหน่อย

    ผมพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจตัวเองช้า ๆ พลางเกลี่ยยาให้ทั่วแผงอกกว้างนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าปุณณ์มีรูปร่างที่ดูดีเลยทีเดียวว่ะ ผอม...แต่ไม่เก้งก้าง กล้ามเนื้อก็ไม่มีมากหรือน้อยจนเกินไป นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นผื่นแดงทั่วตัวอยู่ละก็ สาว ๆ ที่ไหนมาเจอก็คงอยากแอบอิง

    ผมคิดอะไรเพลิน ๆ พลางละเลงยาไปจนทั่ว ด้วยกลัวว่าถ้าทาน้อยเกินไปจะไม่สำเร็จผล ฝ่ามือของผมวนไปเรื่อยตั้งแต่หัวไหล่ หน้าท้อง แผ่นอก จนตอนนี้มาถึงแผ่นอกด้านซ้าย...

    ผมเกลี่ยยาไปทางนั้นพร้อม ๆ กับที่รู้สึกว่า สิ่งที่อยู่ภายใต้ผิวหนัง กำลังเคลื่อนไหวรุนแรงอยู่อย่างประหลาด

    หัวใจเต้นแรง เร็ว ราวกับว่าเจ้าของมันกำลังตื่นเต้นกับอะไรสักอย่าง

    ปรากฏการณ์นั้นดึงให้ผมขมวดคิ้วมุ่น พลางหยุดทาบมือตรงบริเวณหัวใจดวงนั้น ก่อนจะเงยหน้ามองเจ้าของมันที่เสตาไปทางอื่นเรียบร้อยแล้ว  "อะไร แค่นี้ทำเป็นหัวใจเต้น"  หึหึหึ

    "ไม่เต้นก็ตายสิวะ"  ดูมัน มันยังมีหน้ามาเถียงผมอีกครับ ไอ้ขี้อายนี่ก็ตลกดีเหมือนกัน

    ผมยิ้มเผล่ก่อนจะละเลงยาให้จนทั่วต่อไป แล้วบิดหัวนมมันซะหนึ่งทีอย่างมันเขี้ยว  "โอ๊ย!!! เล่นไรวะ!"

    "มันเขี้ยว เออ เสร็จแล้ว นอน ๆๆ ใส่เสื้อด้วย เดี๋ยวเป็นหวัดอีกจะไม่มีคนไปจัดการเรื่องเงินชมรมกูที่โรงเรียน"  ผมว่าพลางช่วยใส่เสื้อให้มัน แอบเห็นมันหันมาชูมะเหงกใส่ผมหนึ่งทีแล้วก็อดขำไม่ได้

    "นอนก่อนนะ มึงเล่นเกมไปก็ได้ ข้าวกลางวันลงไปหากินเลย ไม่ต้องเกรงใจ"  มันสั่งเสียไว้อย่างนั้นก่อนจะมุดผ้านวมนอนเหมือนเด็ก ๆ ผมผละออกมาจากเตียงมันพลางพยักหน้ารับ

    "แล้วตอนบ่าย...ไข้กูจะขึ้น ฝากด้วย"  แว่วเสียงมันอู้อี้พูดต่อจากใต้ผ้านวมหนา

    "อืม"  เวลาที่มีใครสักคนไว้ใจเรา หัวใจมันอดจะพองโตไม่ได้จริง ๆ นะ


    TBC.


    Postscript (Since 2008) : ขอโทษ(อีกแล้ว)ค่า ที่เว้นไปวันนึง แบบว่าช่วงนี้เรียนหนัก อาจารย์ทั้งสั่งงาน เรียกฟังสัมมนา ไม่เห็นใจนิสิตตัวดำ ๆ เล๊ยย TT___TT ขอบคุณสำหรับคอมเม้นในตอนที่ผ่านมามาก ๆ เลยนะคะ รู้สึกคะแนนเสียงปุณณ์จะเริ่มเพิ่มมากขึ้น (หลังจากที่ปล่อยโน่ให้นำโด่งมานาน) เดี๋ยววันไหนจะต้องเปิดโหวตซักทีแระว่าระหว่างสองคนนี้ ใครฮอทกว่ากัน (แต่ที่แน่ ๆ แพ้น้องแป้งราบคาบ ฮา..)

    ตอนนี้อ่านแล้วคิดเห็นกันยังไงก็ฝากข้อความไว้ได้เหมือนเดิมค่ะ~ เพราะมัวแต่เล่นกันเลยป่วยซะแล้วเนอะปุณณ์ โน่จะดูแลคนป่วยอย่างดีหรือทรมานคนป่วยวะเนี่ย... รอดูต่อไป อิอิ
    ขอบคุณสำหรับเพื่อน ๆ ที่ช่วยกดคะแนนโหวตด้วยนะคะ ^^ ตอนนี้ก็ขอฝากด้วยเนอะ ชอบมากโหวตมาก ชอบน้อยโหวตน้อย ไม่ว่ากันค่า ขอบคุณค่า~

    ปล. คุณแม่น้องกางเกงน้ำเงินคะ.. หนูว่าคุณแม่ต้องหาน้องสาวมาช่วยยุค่ะ ปลอดภัย คุณพ่อไม่เหวี่ยงใส่ แถมอาจจะได้ผลเบา ๆ 5555555+
    ปปล. เรียกคนเขียนว่า เห็ด ก็ได้ค่า [HED] ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×