คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 10th CHAOS - All I can do.
10th CHAOS - All I can do.
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองฉายหนังซ้ำ เพราะกลับมาที่นี่อีกแล้ว แม้ว่าเมื่อวานจะเพิ่งมาไปก็เถอะ
รอบตัวผมตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยนักเรียนนักศึกษาและคนทำงานหลากหลายรูปแบบ กำลังเดินกันยั้วเยี้ยอยู่ในสยามสแควร์ แหล่งที่มีวัยรุ่นขวักไขว่เป็นอันดับหนึ่งของกรุงเทพฯ อันที่จริงแล้วสิ่งที่ผมชอบน้อยที่สุดรองจากงูก็การมาสยามหลังเลิกเรียนนี่แหละ เพราะแม่งวุ่นวายสิ้นดี
ถ้าไม่ติดว่ามีเหตุการณ์ที่น้ำหนักมากพอจะให้ ผม ผู้ซึ่งโบกมือลากับไอ้ปุณณ์ไปแล้วเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน จะต้องแอบดอดตามมาจนถึงนี่ ผมก็ไม่มาหรอก
ผมคิดบ่นกับตัวเองพลางชะโงกดูร่างสูงโปร่งของปุณณ์ที่นำอยู่ไม่ไกลไปด้วย ก่อนจะลอบตามมันต่อไม่ให้ใครผิดสังเกต และเพราะเดินอยู่ข้างหลังแบบนี้เอง เลยได้แอบเห็นสาว ๆ ที่เดินผ่านมันเหลียวหลังมองเพื่อนผมกันเกรียว ก็ขำดีเหมือนกันว่ะ นี่ถ้าเดินมาพร้อมกันคงไม่ได้รู้ว่าเพื่อนผมมันมีดี
ผมสะกดรอยตามไอ้ปุณณ์ไปเรื่อย ๆ จนถึงที่นัดหมายระหว่างมันกับเอม
แต่ดูเหมือนว่าเอมจะยังไม่มาแฮะ เห็นปุณณ์เปิดประตูเข้าไปในสตาร์บัคส์ตึกใหม่ตรงข้าง ๆ พาคิโน่ แล้วก็นั่งบนเก้าอี้ริมกระจกให้เห็นได้ชัดโคตรสะใจ (จริง ๆ มันเป็นกระจกทั้งร้านอยู่แล้วครับ) ดังนั้นผมจึงแสร้งเดินไปเดินมาแถว ๆ ซอยร้าน Jousse เพื่อจะเห็นปุณณ์ได้ถนัด แต่มันมองไม่เห็นผมหรอกครับ เพราะกำลังหันหลังให้ผมอยู่
ยิ่งเห็นปุณณ์นั่งอ่านหนังสือรอเอมอยู่ในร้านอย่างใจเย็นแล้วผมก็ยิ่งโมโหเดือด นี่ผู้หญิงคนนั้นบังคับเพื่อนผม (ที่ป่วยอยู่) ให้ออกมาหา แล้วยังจะมาช้าอีกเหรอวะเนี่ย เดี๊ยะบั๊ดกัดหูขาด น่าหงุดหงิดจริง ๆ
ผมเดินวนไปวนมาแถวนั้นเสียหลายรอบ จนพนักงานในร้านค้าเริ่มสงสัย อยู่ตรงนั้นนานถึงขนาดเดินเลยไปซื้อน้ำดื่มที่บู๊ทส์ กลับมาก็ยังเห็นปุณณ์แช่อยู่ที่เดิม นี่มึงนัดกับแฟนหรือแค่เปลี่ยนที่อ่านหนังสือเนี่ยยย
จนมากกว่าครึ่งชั่วโมงผ่านไปนั่นแหละครับ ผมถึงได้เห็นเอมในชุดนักเรียนเดินสวยมาแต่ไกล โชคดีจริง ๆ ที่เอมขาวผ่องซะโอโม่ ผมเลยได้อานิสงส์หนีทันเวลาไปด้วย ว่าแล้วผมก็แปลงร่างเป็นลูกค้าเข้าไปในร้าน Jousse เป็นการด่วน (แม่ค้าคงตกใจว่าเดินไปเดินมาหน้าร้านตั้งนานเพิ่งจะเข้า) เพราะชุดนักเรียนกางเกงน้ำเงินของผมนี่มันเด่นน้อยอยู่ซะที่ไหน สาวคอนแวนต์ตาไวกับสีกางเกงของพวกผมนักแหละ
ผมทำเป็นเลือกดูเสื้อผ้าไป (ของผู้หญิงทั้งนั้น) เหลือบมองทั้งคู่ที่นั่งคุยกันอยู่ในร้านไป ดูเผิน ๆ ก็ท่าทางร่าเริงเป็นธรรมชาติดีหรอก แต่ผมจำได้ว่าตอนที่ปุณณ์ออกมาจากบ้าน มันเริ่มมีอาการไข้กลับนิดหน่อย
นั่นละที่เป็นห่วง
ผมรอทั้งสองคนดื่มกาแฟ กินขนมเค้กกันอย่างใจเย็น กว่าพวกเขาจะออกมากัน อืม...นานเป็นบ้า แต่เดินตามนี่ง่ายกว่าซุ่มดูเยอะเลยครับ อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ต้องหน้าด้านให้พนักงานร้านขายเสื้อผ้าผู้หญิงมองผมแปลก ๆ นั่นแหละ ผมเดินตามทั้งคู่ที่มุ่งหน้าไปทางบายพาส ก็พอจะเข้าใจว่า เอมเขาอยากได้รองเท้านี่นะ
แต่พอโผล่หัวเข้ามาในบายพาสก็ต้องตกใจกับปริมาณคนที่เยอะฉิบหาย! เยอะจนน่ากลัวว่าไอ้ปุณณ์จะเดินไม่ไหวครับ เพราะสาว ๆ มาจับจ่ายซื้อของก่อนเวลากลับบ้านกันเยอะมากในขณะที่ทางเดินมันก็แคบ ผมมองไอ้ปุณณ์อย่างเหนื่อยหน่ายใจ ไอ้พ่อพระนั่นก็ไม่สบายแล้วยังเสือกกระแดะถือกระเป๋านักเรียนกับถุงแฮร์รอดส์ให้เอมอีก มันน่าบ้องกะโหลกนัก ทำตัวพระเอกไม่เข้าเรื่องนะมึง
ผมเห็นเอมเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น แต่ไม่มีทีท่าจะได้รองเท้าหรืออะไรสักอย่าง ทำไมวะ มันหาซื้อยากขนาดนั้นเชียว? เอมตามหารองเท้าพระนเรศวรอยู่รึไง แล้วก่อนมาทำไมไม่คิดก่อนว่าอยากได้ของแบบไหน ร้านอะไร มาดึงเพื่อนผมเดินตามอยู่ได้
ผมยอมรับว่าหงุดหงิดมาก ขณะกัดหลอดน้ำเดินตามทั้งคู่มาได้พักใหญ่ จนตอนนี้ชักจะเมื่อยเหมือนกัน บวกกับท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มแล้วด้วย
ในที่สุดเราสามคนก็ย้ายสถานที่จากบายพาสมาเป็นโบนันซ่าเรียบร้อย ซึ่งแน่นอนว่าคนเยอะกว่าเก่า -_-" ไม่รู้จะแห่กันมาทำไม ร้านไหนแจกของฟรี จะได้เอากลับไปฝากม้า -_-" แต่ผมว่าอย่างเอมน่ะ ไม่ซื้อของจากบนนี้หรอก
แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามคาด ไอ้สองคนนั้นสับขาหลอกผมเดินวนไปวนมาในโบนันซ่า (เกือบหลงกันก็ตั้งหลายรอบ) วนแม่งตั้งแต่ชั้น 1 ยันชั้น 3 ทะลุออก 29 พลาซ่าอีกต่างหาก แต่เสือกเดินกลับออกมาแบบไม่มีอะไรติดมือเลยยย นอกจากกระเป๋านักเรียนและถุงแฮร์รอดส์ในมือปุณณ์ (แม่งทำไปได้ไง)
หน้าปุณณ์มันจะตายห่าอยู่แล้วไม่เห็นรึไงวะเอม!
ยิ่งตามสองคนนั้นไปเรื่อย ๆ ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น เรากลับมาลัดเลาะอยู่ในซอยสยามสแควร์เป็นนานสองนาน จนในที่สุดก็มาหยุดหน้าร้านเสื้อผ้าผู้หญิงร้านหนึ่งที่เอมพาปุณณ์ให้แวะเข้าไป
ผมเงยหน้ามองป้ายร้านแบรนด์อินดี้ร้านหนึ่งที่ยูริก็ชอบอุดหนุนประจำ แล้วต้องส่ายหัวหน่าย ร้านเล็กขนาดนั้นผมไม่เข้าไปหรอก ผมคิดก่อนจะตัดสินใจไปอ่านหนังสือรอหน้าดอกหญ้าแทน
นานพักใหญ่มาก ๆ จนผมจะอ่านขายหัวเราะจบ 3 เล่มอยู่แล้วกว่าทั้งคู่จะออกมา (แน่นอนว่าผมหลบเข้าไปในร้านหนังสือเรียบร้อย) จนแอบคิดว่าเอมจะเหมาร้านนั้นทั้งร้านเลยหรือเปล่า ภาพที่ผมเห็นหลังจากทั้งคู่เดินออกมาคือถุงใหญ่ในมือปุณณ์ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นรองเท้าหรือเสื้อผ้า แค่หวังว่าเธอจะปล่อยให้เพื่อนผมกลับบ้านไปนอนพักเสียที
ว่าแต่...แล้วนั่นจะเดินไปพารากอนต่อทำไม! -_-"
ผมลากสังขารตามไอ้คู่รักสองคนนั้นต่อไปยังพารากอนอย่างไม่ลดละ แม่ง ขนาดผมยังเหนื่อยเลยอะ แล้วไอ้ปุณณ์มันไม่เหนื่อยมั่งรึไงวะ ป่วยก็ป่วยยังถูกใช้ให้มาเดินมาราธอนอยู่ได้ ผมละอยากจะโผล่ไปกระชากลากให้มันกลับบ้านเสียจริง ๆ แต่ขืนทำแบบนั้นปุณณ์คงไม่ปลื้มแน่
จริงอยู่ที่ทางเดินในพารากอนคนไม่ขวักไขว่เท่าฝั่งสยามสแควร์ แต่ก็กว้างงงเสียจนแค่คิดก็เหนื่อย นี่อย่าบอกนะว่าจะพาเพื่อนผมเดินขาขวิดรอบห้างนี่น่ะ ตายแน่ ๆ (ไม่มันก็ผม)
ผมสะกดรอยตามทั้งคู่ไปเรื่อย ๆ จนพวกเขาหายเข้าไปใน shop หรูแบรนด์หนึ่ง (อี๊ผมก็เป็นลูกค้าประจำแบรนด์นี้ครับ) โอเคจบ ไอ้เรื่องจะให้ผมตามเข้าไปนี่ไม่มีวันเห็น ๆ
เพราะเหตุนั้น ผมจึงได้แต่วนไปวนมาเป็นหนูติดจั่นอยู่แถวนั้นด้วยความเป็นห่วงไอ้ปุณณ์จนแทบบ้า.. นี่ผมเป็นห่วงมันมาก ๆ จริง ๆ นะ เพราะตอนก่อนหน้าจะเข้าไปในร้าน หน้ามันซีดเกือบจะเท่าตอนบ่ายแล้วเห็น ๆ
'ใครจะไปดีได้ทุกชั่วโมง ก็เรามันคนไม่ใช่ละครทีวี~'
ฉิบหายแล้ว! โทรศัพท์มือถือผมทั้งร้องทั้งสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงจนต้องรีบลนลานรับสายทั้งที่ยังไม่ทันมองชื่อ
"ฮัลโหล"
"โน่ทำอะไรอยู่คะ"
ยูรินี่หว่า!?
ผมอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะระลึกชาติได้ว่าผมจะอึกอักทำไม ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย เออ... "ธุระนิดหน่อยน่ะ ยูริมีอะไรรึเปล่า"
"เปล่าหรอกค่ะ ได้ข่าวว่าโน่ไม่ไปเรียน เลยโทรมาหาเฉย ๆ เป็นห่วงว่าไม่สบายรึเปล่า" คำพูดเหล่านั้นเรียกให้ผมยิ้มออก
"ใครวิ่งไปรายงานล่ะ"
"ยูมีสายสืบหรอกน่า อิอิ ถ้าไม่ได้ไม่สบายก็ดีแล้วละค่ะ แล้วโน่อยู่ไหนเนี่ย เสียงดังเชียว" แต่ขืนบอกว่าอยู่พารากอนรับรองว่ายูริได้แจ้นมาหาผมแน่ เพราะเธอมักใช้ชีวิตหลังเลิกเรียนอยู่แถว ๆ นี้เสมอ คิดได้ดังนั้นสมองอันน้อยนิดของผมก็เริ่มประมวลผลทันที
"ผมทำธุระอยู่น่ะ แค่นี้ก่อนแล้วกันครับ หวัดดีครับ" เอาเลยครับ! ใครจะว่าใจร้ายยังไงผมไม่สน ตอนนี้ขอรอดตัวก่อนก็พอแล้วครับ ^^"
หลังจากกดวางสายไม่นานเลย ทั้งปุณณ์และเอมก็โผล่ออกมาจาก shop พร้อมด้วยถุงสีแดงจัด สกรีนอักษรโลโก้ร้านใบหนึ่ง ผมเห็นทั้งคู่ยืนตกลงอะไรกันต่อนิดหน่อย ก่อนจะตัดสินใจเดินต่อไปยังบริเวณหน้าห้าง
กลับแล้วใช่มั้ย! ต้องอย่างนี้สิโว้ยยย ผมเผลอยกกำปั้นขึ้นอย่างลืมตัวจนเกือบวิ่งตามสองคนนั้นไม่ทันแน่ะ!
ที่หน้าห้าง ปุณณ์ยืนถือของทั้งหมด (กระเป๋านักเรียน ถุงแฮร์รอดส์ และช็อปปิงแบ็กอีก 2 ถุง) รอแท็กซี่อยู่กับเอมซึ่งมีแก้วน้ำปั่นที่แวะซื้อจากแถว ๆ food hall ในพารากอนไว้ในมือ แต่แถวรอแท็กซี่หน้าพารากอนก็ยาวเหยียดพอ ๆ กับแถวจองตั๋วพี่เบิร์ด จนผมเริ่มสังเกตได้ว่าปุณณ์ดูโอนเอนกว่าปกติ
ผมหรี่ตามองร่างสูงของเพื่อนที่ดูโงนเงนราวกับกำลังจะตั้งหลักไม่อยู่ ขนาดมองจากไกล ๆ อย่างนี้ยังเห็นชัดว่าหน้ามันซีดเหมือนกระดาษจนผมกลัว แล้วสิ่งที่ผมกลัวก็เป็นจริง
ภาพปุณณ์ที่มือไม้อ่อนปล่อยของทุกอย่างในมือลงพื้นพร้อม ๆ กับที่ร่างกายทรุดตามลงไปด้วยนั้น ผมไม่มีทางปล่อยให้ฉายได้นานจนถึงช็อตสุดท้ายแน่นอน ทั้งตัวของผมกระโจนไปรับมันไว้ทันที ก่อนที่แรงดึงดูดของโลกจะดึงมันลงไปให้หัวฟาดพื้น
ปุณณ์ตัวร้อนเหมือนกับผมกำลังจับไฟ "ปุณณ์! มึงไหวป่าว!" ผมถามทั้งที่ไม่ต้องการคำตอบ นอกจากส่งสายตาให้พี่ยามที่ตะลึงอยู่ช่วยลัดคิวโบกแท็กซี่ให้พวกผมด่วน
"โน่?" เสียงเอมเรียกชื่อผมด้วยความฉงน แต่ผมไม่สนใจอะไรแล้ว ผมลากไอ้ปุณณ์ที่ตัวร้อนจัดออกมาจากแถวรอขึ้นแท็กซี่เพื่อพามันไปนั่งพักตรงหน้าน้ำตก ก่อนจัดแจงคลายเข็มขัดให้ และเอาของเอมทั้งหมดที่ตกอยู่บนพื้นมาถือไว้เสียเอง
เอมเดินตามมายืนข้าง ๆ ผม แต่ผมไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าผู้หญิงคนนี้เลย ผมรู้ว่าผมไม่ควรพาล จริง ๆ แล้วผมควรเกลียดตัวเองมากกว่าที่ปล่อยให้ปุณณ์มันออกมาจนเป็นอย่างนี้
"ปุณณ์มันไม่สบายน่ะวันนี้" ผมบอกเอมเรียบ ๆ แต่ไม่ได้มองหน้าเธอสักนิด จึงไม่รู้ว่าเธอกำลังมีสีหน้าแบบไหน ผมยังห้ามความไม่พอใจของตัวเองไม่ได้
"โน่!!!" ฉิบหายแล้ววว ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงแหลม ๆ ร้องเรียกชื่อผมมาจากที่ไกล ๆ โดยไม่ต้องมองก็รู้ดีว่านั่นเสียงใคร แห่กันมาทำอะไรตอนนี้อีกวะเนี่ยยย!
"โน่อยู่แถวนี้ทำไมไม่บอกยูล่ะคะ อ้าว...เอม? ปุณณ์?" ยูริที่ร้องเรียกชื่อผมเมื่อครู่วิ่งมาปรู๊ดดดเดียวถึงตัวผม แต่ก็นับว่ายังฉลาดที่เมื่อเห็นปุณณ์นั่งไม่ได้สติอยู่ข้าง ๆ แล้วยังเงียบเสียงลงไป
"ผมบอกแล้วว่าทำธุระน่ะ อืม...ยูริกับเอมกลับเองได้ใช่รึเปล่า ผมเอาปุณณ์มันกลับก่อนนะ" ไม่ต้องรอฟังคำตอบ ผมผลักข้าวของทั้งหมดคืนให้เอมทันที ก่อนจะพยุงร่างอันไม่ได้สติของปุณณ์เพื่อไปขึ้นแท็กซี่ที่พี่ยามอำนวยความสะดวกให้พวกเราเอาไว้แล้ว ถึงแม้มันจะค่อนข้างลำบากก็ตาม
พามันกลับบ้านตัวเองทั้งอย่างนี้ต้องแย่แน่ ๆ...เอาไปบ้านผมก่อนแล้วกัน
TBC.
Postscript (Since 2008) : อยากจะกรี๊ดดดดดดดด เสียงดัง ๆ เพราะเมื่อกี้พิมพ์ข้อความ + ตอบคอมเม้นไปจะเสร็จแล้ว IE ดันเออเร่อ... (กรี๊ดดด) หึ.. เดี๋ยวก็เปลี่ยนไปใช้จิ้งจอกไฟอีกซักคนซะเลย หึ ๆๆๆๆๆๆๆๆ T___T
เอาเป็นว่าถึงน้องโน่จะปล่อยปุณณ์ไป แต่เขาก็รับผิดชอบนะตะเอง... อย่าโกรธน้องโน่เลย Y__Y จริง ๆ แล้วแอบเห็นด้วยกับหลาย ๆ คอมเม้นเหมือนกันที่บอกให้น้องโน่มัดน้องปุณณ์ไว้กับหัวเตียง ด้วยกุญแจมือ แล้วเอาน้ำตาเทียนหยด แส้ฟาด ตามด้วยโซ่... (เดี๋ยวนะ? มีคนคอมเม้นขนาดนั้นด้วยเหรอเห็ด??) อิอิ... แต่เกรงว่าจะต้องเปลี่ยนชื่อจาก Love Sick เป็น SM Boys น่ะสิ~ แฮะ~ xD
ตอนนี้สองคนเขาอาจจะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเนอะ เอาไว้แก้ตัวตอนหน้า xD แต่เห็ดมีข่าวร้ายจะแจ้งให้ทราบล่ะค่ะ Y__Y
เนื่องจากวัน จันทร์-อังคาร-พุธ เห็ดไม่อยู่นะคะ ต้องไปทำฉากละครที่บ้านเพื่อนล่ะ ไม่มีเวลาอัพนิยายแน่นอน (ถ้าอู้เพื่อนคงให้กินสี) กลับมาวันพุธ ไม่แน่ใจว่าต้องไปกินหมูกะทะรึเปล่า ถ้าต้องไปก็คงไม่มีแรงกลับมาอัพอีก Y__Y (พุงโตนอนกลิ้ง ๆ) แต่ยังไงจะพยายามมาให้ได้ในอาทิตย์นี้แน่นอนค่ะ จะไม่ปล่อยให้คอยนานมากนะ Y__Y เค้ารู้สึกผิด Y___Y ยังไงก็ฝากคอมเม้นทิ้งไว้ได้ค่า จะกลับมาอ่านทุกคอมเม้นเลย ___,,
ฝากให้คะแนนเหมือนเดิมด้วยนะคะ ชอบมากให้มาก ชอบน้อยให้น้อย ไม่ว่ากันเนอะ
ตอบคอมเม้น(อีกแล้ว)ดีกว่า T____T IE ไม่น่าดับเลย ไอ้บร๊า...
ถึงคุณ โ P โ $ ติสต์!~ ) วันแดงเดืoด~
เห็ดอ่านผิดหรือยังไงเนี่ย เห็นบอกว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่เรียนโรงเรียนชายล้วน?? O.o
อะยังไงก็ตาม.. ฟังดูเป็นสวรรค์ของสาว Y xDD อย่าลืมสังเกตการณ์มาฝากนะจ๊ะ ๆๆ
ถึงคุณ LaLaLa
ฮั่นแน่... โน่ทำให้นึกถึงใครล่ะเนี่ยยย มีความลับกันเหรอ xD
ถึงคุณ hotcomer
NC จะมีเมื่อไหร่... บอกไม่ได้ค่า~ เพราะคนแต่งก็ยังไม่รู้เหมือนกัน xDD (จะมีเร้ออ) 555+
ส่วนวันเวลาที่จะอัพอีกก็คงบอกแน่นอนไม่ได้อะค่ะ รบกวนต้องกลับมาเช็คบ่อย ๆ ละกันเนอะ
ถึงคุณ เด็กกางเกงดำ (ฮิ้ววว)
ก่อนอื่น.. ขอถามก่อนว่า เป็นนิยายที่สะบรึล่ะฮึ่ม มาก ๆ เนี่ย หมายความว่าอะไร 555+ สงสัยเห็ดจะแก่แล้ว ต้องแปลภาษาวัยสะรุ่นกันหน่อย Y__Y
แล้วอ่านตอนละสองรอบนี่คนแต่งกลัวนะคะ เดี๋ยวเขียนอะไรผิดไว้จับผิดได้ล่ะอายแย่เลย 5555+ แต่มอบรางวัลเพื่อนใจดีให้ __,, มีการอ่านแล้วเอาไปเล่าให้เพื่อนฟังด้วยย
ว่าแต่ "ปุณณ์" นี่เป็นนามสกุลใครอีกล่ะนั่น (หุหุ)
เอ๊ะยังไง... คนอ่านเรื่องนี้ ขยันมีความลับกันจริง xD
ถึงคุณ Ciin
โอ่ว... เคสนี้เป็นรักสามเศร้าเคล้าน้ำตาหรือนี่
บอกเพื่อนไม่เป็นไรเนอะ ผู้ชาย(เป็นเกย์)เยอะ เดี๋ยวก็หาคนดี ๆ ได้
ผู้หญิงเรายังเศร้ากว่าอีก ผู้ชายไม่เหลือแล้ว Y____Y
ถึงคุณ Mania Y
เอาล่ะ... ตั้งป้อมเชียร์น้องหน้าหวานกับนักกีฬาเทนนิสกันซะหน่อย ___,,
อย่าลืมอัพเดทนะจ๊า~
ถึงคุณ สาวY
แล้วจะบอกน้องโน่ให้ค่า 5555+
ถึงคุณ ไม่อยากบอก
จริงรึเปล่า! 55555+
ถึงคุณ tamjae
ผู้เขียนก็กำลังคิดว่าจะผลิตยาระงับความหื่นออกจำหน่ายผู้อ่านเหมือนกันค่ะ 555+
ถึงคุณ soul of writer
ขอโทษด้วยนะคะที่เรื่องนี้มีคำหยาบเยอะ ไอ้น้องโน่มันคงพูดเพราะกว่านี้ไม่เป็นแล้วล่ะค่ะ *เขกหัวมัน* ก็ตามประสาเด็กผู้ชายวัยรุ่นล่ะเนอะ ^___^
ถึงคุณ _ChompU JaE~JaE_
คู่ใหม่มาอีกแร๊ววววว __,,
วันหลังเค้าสวีทกันก็อย่าหันไปมองเค้าซี่.. เขินหมด แนะนำให้ติดกล้องไว้หลังห้อง แล้วตอนเย็นมากรอดูวันต่อวัน ว่าเขาปล้ำกัน เอ๊ย! เล่นกัน ไปถึงไหนแล้ว อิอิ..
ชอบน้องเคะที่พูดภาษาเหนือ น่าร๊ากกกกกกกกกกก~
ถึงคุณ คุณแม่เด็กกางเกงน้ำเงิน (มาแร๊ววว)
___,, พี่คนนั้นเค้ารู้งานถูกใจสาว Y อย่างเรา ๆ ดีจริง ๆ __,,
หนูว่าน้องเขาไม่รังเกียจนี่เป็นนิมิตหมายอันดีนะคะคุณแม่ (ดีเหรอครับ -- เสียงจาก คุณพ่อ)
จะตั้งหน้าตั้งตารอสายสืบพลพรรคกางเกงน้ำเงินมารายงานคุณแม่ แล้วให้คุณแม่มารายงานต่อนะคะ __ *ตั้งป้ายเชียร์*
ถึงคุณ Raincoat
ตายแระ... รู้กันใหญ่ว่าโรงเรียนอะไร เหยียบไว้ ๆๆ 555+
เฮ้อ... กว่าจะตอบเสร็จ T__T ขอโทษนะคะที่ตอบสั้น ๆ (ก็พอพิมพ์แล้วหายมันเซ็งง้ะ)
สำหรับคนที่ไมได้ตอบไม่ต้องน้อยใจน๊า ๆๆ อ่านทุกคอมเม้นจ้า รักคนอ่านเนอะ จุ๊บ ๆ
ความคิดเห็น