ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNIVERSE of LOVE :: ชุลมุนกางเกงน้ำเงิน... เต็มคราบ!! [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #2 : [ปุณณ์ x โน่] SP.chaos - Shade of Fireworks ♥ ส่งท้ายวันลอยกระทง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 45.26K
      171
      25 พ.ย. 53

     

    UNIVERSE of LOVE : ชุลมุนกางเกงน้ำเงิน...เต็มคราบ!!

    Pairing : ปุณณ์ x โน่

     

     

    Special Chaos.

    Shade of Fireworks

     

                "เบสท์ จะเอาไง เขาอยู่คนเดียวแล้วนะ!" เสียงแหลม ๆ ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังแหวขึ้น โดยมีเด็กผู้หญิงอีกคนยืนทำหน้าปั้นยาก ทั้งที่ในมือถือกระทงเล็ก ๆ ไว้ด้วยกระทงหนึ่ง

     

                "แกจะบ้าเหรอเกด! เค้ายังอยู่ในโรงเรียนเค้าอยู่เลยนะ!" เด็กผู้หญิงคนนั้นแหวกลับไป พลางตั้งท่าจะเดินหนีเข้าโรงเรียนตัวเอง แต่ถูกเพื่อนเจ้าของชื่อเกดลากให้กลับมาที่เดิมก่อน

     

                "แล้วไง! แกจะรอจนเขาออกมากับเพื่อนเหรอ! เดี๋ยวก็ปอดแหกอีกอะ ไปเดี๋ยวนี้~~~!!"

     

                "ไม่เอาาา ฉันกลัวววว"

     

                "กลัวอะไร! นี่ปุณณ์เขาอุตส่าห์โสดวันลอยกระทงครั้งแรกในรอบ 2 ปีเลยนะ!! ไม่มียัยเอมมาคอยเดินชูคออยู่ข้าง ๆ แล้วด้วย ดังนั้นแกรีบเลย ก่อนที่ปีหน้าเขาจะไม่โสด!!! ถ้าทำให้เขาคบแกได้ภายในคืนนี้ก็ยิ่งดี!" คนมาด้วยกันได้ทีสอนแกมสั่งเพื่อนยาวเป็นชุดจนผู้ฟังหน้าบู้ ตอนนี้กระทงในมือเด็กหญิงถูกเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ช่วยปิดใบหน้าอันแดงเถือกของผู้ถือมันไว้เรียบร้อย

     

                "ไม่เอาาา แก ฉันเขิน!!!"

     

                "ปุณณ์ ทำไรวะ!!!" แต่ยังไม่ทันที่สองเด็กสาวจะยื้อยุดฉุดกระชากกันสำเร็จดี เสียงของเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งก็ดังขึ้นจนทั้งคู่นิ่งไป

     

                "เห็นมั้ย มีคนมาเลย มัวแต่กลัวอยู่ได้!" เด็กหญิงที่ตัวสูงกว่าได้ทีเอ็ดเพื่อนตัวเล็กเสียงเขียว ก่อนจะพากันไปยืนแอบบริเวณริมรั้วโรงเรียนชายซึ่งตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนหญิงของพวกเธอ

     

                มองจากตรงนี้เห็นได้ลาง ๆ ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งโบกมือทักผู้ชายที่พวกเธอยกให้เป็น topic ประจำวันมาแต่ไกล ท่าทางคุ้น ๆ แบบนั้นเหมือนเคยเห็นวาดลวดลายบนเวทีคอนเสิร์ตในงาน open house ของโรงเรียนพวกเธอมาก่อน

     

                "อ้าวโอม เฝ้ากระทงมิสรัตนาอยู่! แล้วนี่ไปไหนกันหมดวะ" ปุณณ์... เด็กผู้ชายโรงเรียนข้าง ๆ ที่ถูกบรรดาผู้หญิงโรงเรียนต่าง ๆ ยกให้เป็น 'สุดยอดหนุ่มในฝัน' ประจำแถบนี้ กำลังตะโกนตอบเพื่อนเสียงดังจนเด็กผู้หญิงสองคนที่แอบฟังอยู่ถึงกับกรี๊ดออกมาเบา ๆ

     

                "กรี๊ดดด แก ฉันได้ยินเสียงเค้าชัด ๆ แล้ววว"

     

                "พูดคำว่า มึง แต่ยังฟังดูดีอยู่เลยเนอะะะ" ว่าแล้วก็หลับหูหลับตากรี๊ดกันแบบไม่มีเสียงอย่างลืมตาย ก่อนจะตั้งใจฟังต่อ

     

                "แหม... ไอ้ นี่ ของมึงเนี่ย หมายถึง ไอ้โน่ ก็พูดมาตรง ๆ เหอะ" เด็กชายคนนั้นตะโกนตอบ เรียกให้ปุณณ์หัวเราะร่วนโดยไม่เถียงอะไร ดังนั้นอีกฝ่ายจึงว่าต่อ

     

                "พวกกูอะทำกระทงกันอยู่ข้างตึกฟ. แต่เชี่ยโน่น่ะ อยู่ชั้น 2 ตึก ก."

     

                "อ้าว แล้วมันทำอะไร"

     

                "เล่นไพ่!!"

     

                "โห ฮ่าฮ่าฮ่า"

     

                "เออ ดังนั้นมึงช่วยขึ้นไปหามัน โบกเกรียนแม่งซัก 3 ที พระบิดา พระบุตร พระจิต แล้วลากคอแม่งลงมาช่วยงานพวกกูที"

     

                "ฮะฮะ เออได้ แต่เดี๋ยวกูเฝ้ากระทงมิสก่อน"

     

                "เออ ๆ เจอกัน"

     

                บทสนทนาระหว่างเด็กชายสองคนเป็นไปอย่างโวยวายล้งเล้งจนฝ่ายที่แอบฟังอยู่นิ่งไป เด็กผู้หญิงตัวเล็กที่ยังถือกระทงไว้ในมือเหลือบตามองเพื่อนสาวอย่างงง ๆ

     

                "โน่นี่ใช่คนที่เคยมาเล่นคอนเสิร์ตโรงเรียนเราเหมือนกันปะ"

     

                "ใช่ เห็นว่าสองคนนี้สนิทกันนี่ ตอนวงโน่มาเล่นปีที่แล้วปุณณ์ยังตามมาด้วยเลย" อีกฝ่ายเสริมจนคนถามต้องพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะส่งยิ้มเขิน

     

                "ดีเนอะ โน่ก็หล่อ ฉันชอบบ หล่อแบบน่ารักดี เค้าเลิกกับยูริแล้วใช่ปะ"

     

                คราวนี้คนถูกถามส่ายหัวอย่างจนปัญญา "ไม่รู้อะ... ได้ยินมาแบบนั้น แต่วันก่อนยังเห็นเดินควงกันที่สยามอยู่เลย พวกเด็กม.4 จ้องยูริตาเขียวยังกะอะไร คงนึกว่าเลิกแล้วเหมือนกันมั้ง"

     

                "อ้าวเหรอ สรุปเลิกหรือไม่เลิกเนี่ย... แล้วปุณณ์ล่ะ ตกลงเลิกรึเปล่า" เป็นเพราะคำบอกเล่าเมื่อกี้แท้ ๆ ที่ทำเอาคนฟังเสียความมั่นใจไปกว่าครึ่ง ด้วยเพราะเดาใจเด็กผู้ชายโรงเรียนนี้ไม่ถูก ก่อนจะถูกเพื่อนซี้ตัวเองถอนหายใจแรง ๆ ใส่

     

                "ปุณณ์น่ะเลิกชัวร์! ไม่เห็นไง ยัยเอมมีแฟนใหม่เรียบร้อยแล้ว แล้วตอนนี้ปุณณ์เขาก็ไม่ควงผู้หญิงซักคนด้วย ดังนั้นแกช่วยรีบเถอะ ยุงกัดฉันใหญ่แล้ว!!!" เด็กหญิงตัวสูงพูดพลางผลักหลังเพื่อนสาวแรง ๆ ให้กระเด็นเข้าไปหน้าประตูโรงเรียนชายล้วนข้าง ๆ จนผู้ถูกกระทำร้องเสียงหลง

     

                "ว๊ายยยยยยย!!"

     

                "???" แถมยังได้สบตากับคนที่แอบชอบแบบจัง ๆ อย่างนี้อีก เล่นเอาใจเต้นระรัวเป็นจังหวะสามช่า

     

                เด็กสาวกับกระทงในมือยิ้มแหยให้ผู้ชายที่ยืนมองเธออย่างงง ๆ มาจากในรั้วโรงเรียน ริมฝีปากบางสีอมส้มของอีกฝ่ายตั้งท่าจะขยับถาม แต่...

     

                "เชี่ยปุณณ์ มึงโดนมิสหลอกเฝ้ากระทงแล้ว!!" เสียงล้งเล้งจากเด็กผู้ชายหน้าตี๋หัวเหม่ง ๆ ร้องขัดมาทางด้านหลังแต่ไกล

     

                ปุณณ์หันกลับไปมองเจ้าของเสียงที่เค้ารู้จักดีแทบจะทันที "อะไรวะโน่"

     

                "มิสไปรำวงตรงท่าน้ำสบายใจแล้วมึง เมื่อกี้มาสเซอร์สุชายเม้ามา"

     

                "อ้าวว ไรวะ แล้วบอกให้กูเฝ้ากระทงไว้ เดี๋ยวแกมา"

     

                "ฮ่าฮ่า เออ! มึงเอาไปที่ท่าเรือเลยเหอะ ไม่ต้องรอแกหรอก"

     

                "แล้วมึงอะ"

     

                "เดี๋ยวกูตามไป"

     

                "อืม" ปุณณ์ขานรับคำนั้นก่อนจะนึกได้ว่าเมื่อกี้มีเด็กผู้หญิงท่าทางแปลก ๆ มายืนอยู่หน้ารั้วโรงเรียนเขา แต่เมื่อใบหน้าคมหันกลับไปมองอีกครั้งก็หายไปเสียแล้ว

     

                "ผีหลอกปะวะ" เด็กชายเกาหัวตัวเองงง ๆ ก่อนจะยกกระทงสองสามกระทงตามไปสมทบคนอื่น ๆ ที่ท่าเรือ

     

     

                "เป็นไงล่ะยะ บอกแล้วให้รีบไป แล้วไงล่ะ เค้าไปท่าเรือแล้วเนี้ย! ตรงนั้นคนเยอะทั้งเด็กโรงเรียนเรา โรงเรียนเค้าเลยนะ! แกแย่แน่" แน่นอนว่าเมื่อผู้ซุ่มรออยู่เห็นเพื่อนวิ่งกลับมาทั้งที่มือยังถือกระทงไว้ก็ถึงกับแหวเสียงแหลม

     

                คนถูกเอ็ดทำหน้ามุ่ยก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังของเด็กผู้ชายร่างโปร่ง ที่ประคองกระทงทั้งสามไว้ในมืออย่างทุลักทุเล กำลังมุ่งหน้าไปยังท่าเรือที่จัดงานลอยกระทงทุกปี

     

                "ก็ฉันตื่นเต้นนี่นา! แต่... คงมีจังหวะดี ๆ บ้างแหละน่า"

     

     

    ***

     

     

                ที่ท่าเรืออันถูกเนรมิตเป็นสถานที่จัดงานลอยกระทงประจำปี คลาคล่ำด้วยบุคคลทั่วไป และนักเรียนจากโรงเรียนบริเวณใกล้เคียงที่ต่างต้องมาทำกิจกรรมในวันประเพณี

     

                เด็กชายเจ้าของร่างโปร่งเดินถือกระทงที่ถูกไหว้วานให้ดูแล นำไปให้มิสที่กำลังรำวงกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ อย่างสนุกสนาน

     

                "มิสครับ ให้เอากระทงไว้ไหนครับ"

     

                "อ้าวปุณณ์! แหม มิสรอตั้งนานกว่าจะมา! ไว้ตรงนู้นเลยจ้า" คำตอบนั้นทำเอาคนฟังนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะเดินส่ายหัวเซ็ง ๆ ไปวางกระทงสภานักเรียนสมทบกับขององค์กรและชมรมอื่น ๆ

     

                "มาแล้วววว มาแล้ววว มาแล้ววววววววววว อลังการกระทงชมรมดนตรีมาแล้วววววววว" แต่เสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ตะโกนโหวกเหวกแหวกทางมาแต่ไกลเรียกให้เขาหันไปมองได้ไม่ยาก เจ้าของร่างโปร่งที่มายืนอยู่ก่อนฉีกยิ้มกว้างปนขำ เมื่อกระทงชมรมดนตรีที่ว่านี่มันช่างมั่วสิ้นดี

     

                มีทั้งใบตอง กล้วยไม้ ดอกดาวเรือง ทานตะวัน ส้ม สาลี่ ป๊อกกี้ ปาปริก้า โคอะล่ามาร์ช....

     

                "นี่ตั้งใจขอขมาเจ้าแม่คงคา หรือแค่เอาฮาเนี่ย... น้ำจะเน่าเอานะ" ปุณณ์ทักกลั้วหัวเราะ หากแต่ไม่มีใครในชมรมดนตรีสนใจคำทักท้วงนั้นซักคน

     

                "ก็ขอขมาเจ้าแม่คงคา แล้วก็ให้อาหารปลาไปในตัวไง ได้บุญจะตายยย เฮ้ยไอ้โน่ ไปซื้อกระทงหนมปังกัน"

     

                "อะไรโอม มึงจะลอยกะกูเหรอ ไม่เอาอะ กูไม่อยากเกิดมาชาติหน้าต้องเจอมึงอีก" เด็กชายหน้าตี๋เจ้าของผมทรงสกินเฮดปฏิเสธแทบจะทันที แต่ก็ถูกลากไปจนได้

     

                "คิดเหรอว่ากูอยากลอยกะมึง กูจะซื้อมากินต่างหาก อยากรู้มานานแล้วว่าอร่อยยังไง ทำไมปลาแย่งกันจัง!!" ทำเอาคนฟังอย่างปุณณ์หลุดขำ

     

                "@(!)$^#*_*!#)+_&#*@%#^!(*)" เด็กชายสองคนทุ่มเถียงกันอีกพักใหญ่ ก่อนเสียงโวยวายล้งเล้งจะดังไกลออกไป...

     

     

    ***

     

     

                "เอาไงล่ะแก เพื่อนเค้าเต็มเลยทีนี้ กล้ามั้ย" เสียงเด็กหญิงคนเดิมดังขึ้นหน่าย ๆ หลังจากแอบมองสถานการณ์อย่างเงียบเชียบมาพักใหญ่ จนตระหนักได้ว่าต่อให้รอนานแค่ไหน ผู้ชายที่เพื่อนเธอคลั่งไคล้นักหนา ถึงขั้นหมายมาดว่าจะต้องลอยกระทงด้วยให้ได้นั้น ก็คงยังถูกเพื่อนตอมหน้าตอมหลังแบบนี้อีกนาน

     

                เด็กหญิงเจ้าของกระทงสูดลมหายใจลึก "กล้า!"

     

                ทำเอาคนฟังตาโต "หาาา ยัยบ้า! ตอนเค้าอยู่คนเดียวล่ะก็ป๊อด! พอเขามีเพื่อนเป็นฝูงล้อมหน้าล้อมหลัง ทำเป็นกล้า! จะคอยดูละกัน!"

     

                คำพูดกึ่งบ่นกึ่งด่านั่นทำให้คนฟังยิ่งต้องสูดลมหายใจอีกเฮือกใหญ่ ก่อนจะกลั้นใจเดินถือกระทงออกไป แต่...

     

                "ว๊ายยยย!" ดันไปสะดุดกับเท้าคนที่เดินผ่านมาซะได้

     

                "เฮ้ย เป็นไรป่าวเธอ" เสียงทุ้มแตก ๆ ร้องถามพลางช่วยประคองไว้ไม่ให้อีกฝ่ายล้มหัวคะมำ เด็กหญิงถอนหายใจยาวที่กระทงในมือยังไม่เป็นไร ก่อนจะเงยหน้าหมายกล่าวขอบคุณคนที่ช่วยเอาไว้

     

                "ข... ขอบ... เฮ้ยยย!" แต่สิ่งที่เห็นทำเอาเจ้าของร่างเล็กต้องอุทานเสียงหลง เมื่อพบว่าคนตรงหน้าคือเพื่อนสนิทของปุณณ์... ในความคิดเธอ

     

                "เป็นไรอะ เจ็บตรงไหนเปล่า" เด็กชายใบหน้าตี๋ผมทรงสกินเฮดที่เมื่อกี้ยังส่งเสียงล้งเล้งอยู่ตรงท่าน้ำยังคงถามต่อไป แต่เมื่อไม่ได้คำตอบใดนอกจากดวงตาโตของเด็กหญิงคู่กรณีที่จ้องเขาไม่หยุด จึงต้องตบมือเรียกกันบ้าง

     

                "เฮ้ย! ไหวป่าวครับ" ครั้งนี้ในน้ำเสียงมีเสียงหัวเราะเจืออยู่ด้วย จนคนถูกถามแทบแทรกแผ่นดินหนี ที่เผลอมองใบหน้าขาวของผู้ชายตรงหน้านานเกินไป

     

                "หว... ไหวค่ะ" เสียงเล็กกระซิบตอบเบา ๆ ก่อนจะปัดชายกระโปรงนักเรียนสีน้ำเงินของตัวเอง หากแต่อีกฝ่ายส่งเสียงโวยวายขึ้นมาอีก

     

                "อ้าว มีแผลด้วย! ไปทำแผลก่อนดิ่ ตรงนั้นมีกล่องปฐมพยาบาลอยู่" แถมไม่ว่าเปล่ายังลากให้ไปด้วยกันอีก ทำเอาคนถูกลากถึงกับตกใจ แต่ด้วยความตกใจนั่นเองที่ทำให้เธอไม่มีสติที่จะปฏิเสธอะไร... สุดท้ายจึงได้แต่เลยตามเลย

     

     

                ที่มุมหนึ่งของท่าเรือ เด็กชายเจ้าของใบหน้าตี๋คว้าเอาอุปกรณ์ทำแผลออกมาอย่างลวก ๆ "ต้องใช้อันไหนบ้างหว่า..."

     

                "ม... ไม่เป็นไร เราทำเองได้"

               

                "ทำเป็นเหรอ"

     

                "ไม่เป็น.... แหะ ๆ" ว่าแล้วก็นึกอยากตบปากตัวเองที่พูดอะไรโง่ ๆ เหลือเกิน

     

                เด็กชายที่มาด้วยกันหัวเราะร่วน "เออดี งั้นอยู่เฉย ๆ ไป เดี๋ยวจัดให้ เอาเข่ามา"

     

                แต่แน่นอนว่าทันทีที่ยาแดงถูกแผล เด็กผู้หญิงตัวเล็กก็ถึงกับร้องอูย "โอ๊ยย"

     

                "อ้าว เจ็บเหรอ ขอโทษ ๆ ปกติทำให้น้องที่ชมรม มีแต่ถึก ๆ ทั้งนั้น ฮ่า ๆ"

     

                แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรกลับไปดี สิ่งที่เหนือความคาดหมายสุด ๆ ก็เกิดขึ้น!

     

                "โน่ ทำไรวะ?"

     

                ปุณณ์ ภูมิพัฒน์ มายืนตรงหน้าเธอแล้ว!!!

     

                เด็กหญิงในชุดนักเรียนคอนแวนต์ซึ่งยังถือกระทงไว้ในมือข้างหนึ่งมองผู้มาเยือนตาค้างอย่างคาดไม่ถึงมาก่อน หัวใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัวว่ามันจะระเบิดออกมานอกอก

     

                หากแต่เด็กผู้ชายตรงหน้ากลับยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ "ทำไร่ไถนามั้ง..." เสียงทุ้มแตกจากเด็กชายหัวเกรียนนั่นเรียกให้คนมาใหม่ต้องล้มตัวนั่งยอง ๆ ด้วยคน

     

                "กวนตีนตลอดนะ มือมึงหนักไปป่าวเนี่ย"

     

                "ไม่เลย มือกูเบาเป็นปุยนุ่น จริงมั้ยครับ" แถมไม่เถียงกันแค่สองคน ยังเงยหน้ามาขอความเห็นจากเธออีก เด็กหญิงที่อยู่ในสภาพตกใจเต็มที่สะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบพยักหน้าตอบ

     

                "ค... ค่ะ!"

     

                "เห็นมะ ฝีมือกู"

     

                "ถุย เขาพูดเพราะเกรงใจมึงหรอก จริงมั้ยครับ" อีกครั้งที่เธอถูกเด็กผู้ชายพวกนี้ใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกด่ากันเองอีกแล้ว แต่ถึงจะรู้อย่างนั้นก็ยังไม่วายบ้าจี้ตอบกลับไปอยู่ดี

     

                "ค... ค่ะ!!"

     

                ทำเอาเด็กชายสองคนหัวเราะร่วน ก่อนเจ้าของใบหน้าคมจะผลักมือไอ้หน้าตี๋ออก "มานี่ กูแปะผ้าก็อตเอง มึงอะแปะเบี้ยวประจำ ไปตัดแว่นได้แล้วนะ"

     

                "เหอะ ไอ้สายตาดี" คนถูกว่าส่งเสียงประชดเข้าให้ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าที่ตอนนี้แผลบนหัวเข่าของเด็กสาวถูกจัดการปฐมพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

     

                "เสร็จแล้วครับ" เด็กชายร่างโปร่งที่มีศักดิ์เป็นถึงอดีตเลขาสภานักเรียนโรงเรียนชายล้วนข้าง ๆ บอกเธอทั้งรอยยิ้ม ทำเอาคนฟังหน้าแดงวูบ บางทีนี่อาจเป็นโอกาสดีของเธอ

     

                "ข... ขอบใจค่ะ... เอ่อ ปุณณ์.."

     

                "เฮ้ยไอ้โน่!! ปุณณ์!! มิสขอแรงแบกกระทง! มาทางนี้หน่อย!!"

     

                "เออ ๆ!! ไปก่อนนะ เดินระวัง ๆ ล่ะ" โน่หันไปตอบรับเพื่อนร่วมชมรมที่ตะโกนเรียกมาแต่ไกล แล้วหันมาพูดกับเด็กหญิงตรงหน้า ก่อนทั้งคู่จะพากันวิ่งไปช่วยงานโรงเรียนตัวเอง

     

     

    ***

     

                "นี่ยัยเบสท์ ช่วงนี้แกต้องระวังนะ อย่าเผลอตกบันได หรือเดินสะดุดอะไรอีกล่ะ ฉันว่าคราวหน้าแกถึงตายแน่" ทันทีที่เด็กสาวเดินกลับมาหาเพื่อนตัวเองพร้อมกระทงในมืออันเดิม ก็ได้ฟังคำพูดประหลาด ๆ จนต้องทำหน้าเหรอหราออกมา

     

                "ทำไมอะ"

     

                "ก็เพราะแกใช้บุญในชีวิตหมดไปแล้วน่ะสิ ดูดิ๊ ถูกโน่กับปุณณ์รุมขนาดนั้น นี่รับรองได้ถ้าคนอื่นในโรงเรียนเห็น แกโดนหมั่นไส้ไปจนลูกบวช"

     

                "บ้า เวอร์! แต่โอ๊ยยย เสียดายเป็นบ้า อีกนิดเดียวฉันจะได้ชวนเขาแล้วแท้ ๆ"

     

                "งั้นแกก็ไปตามติดเลย พอคนน้อยเมื่อไหร่ก็จัดการซะ!" และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่คำพูดเปล่า ๆ เพราะนี่คืออีกครั้งที่เด็กสาวถูกเพื่อนสนิททั้งผลักทั้งดันหลังให้ไปทำภารกิจประจำคืนนี้ให้สำเร็จซักที

     

     

                ที่ท่าเรืออันแสนคึกครื้น กระทงใบมโหฬารของโรงเรียนชายล้วนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าน้ำนัก กำลังเกณฑ์นักเรียนมาช่วยกันหามกระทงขนาดใหญ่เพื่อนำไปลอย โดยที่หัวขบวนปรากฏใบหน้าหล่อเหลาคมคายของอดีตเลขานุการสภานักเรียน กำลังยิ้มแย้มหัวเราะสนุกสนานกับเพื่อนคนอื่น ๆ อยู่

     

                เสียงเพลงบรรเลงดังแข่งกับเสียงจ้อกแจ้กเจี๊ยวจ๊าว เมื่อกระทงยักษ์ค่อย ๆ ถูกปล่อยลงแม่น้ำเจ้าพระยา นำให้ใบหน้าของเด็กชายที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบดูแช่มชื่นเบิกบานเป็นพิเศษ ก่อนจะค่อย ๆ เดินหลบไปอีกทางที่ไม่ค่อยชุกชุมด้วยผู้คน

     

                ได้โอกาสแล้ว!

     

                เด็กสาวคิดพลางค่อย ๆ เดินตามไปอย่างเงียบ ๆ เพราะถึงแม้คนที่เธอชอบจะไม่ได้อยู่ลำพัง แต่อย่างน้อยการที่คนข้าง ๆ เป็นโน่ ก็ยังทำให้เธอใจชื้นขึ้นได้มากกว่าเด็กผู้ชายคนอื่น เพราะจากที่สัมผัสเมื่อกี้ โน่เป็นคนดีใช้ได้ทีเดียว

     

                เด็กหญิงร่างเล็กค่อย ๆ ตามมาจนถึงมุมหนึ่งที่ร้างคน จึงได้สังเกตเห็นว่าในมือปุณณ์ถือกระทงจิ๋วไว้ด้วยกระทงหนึ่ง ก่อนเด็กชายทั้งคู่จะค่อย ๆ ล้มตัวนั่งยอง ๆ ที่ริมโป๊ะ

     

                "โรแมนติกมั้ย ตรงนี้กูเซอร์เวย์มาแล้ว เงียบสุด ๆ" เสียงทุ้มของเด็กหนุ่มร่างโปร่งดังขึ้น ทำเอาเด็กสาวที่แอบตามมาต้องรีบเบี่ยงตัวหลบหลังกำแพงของตึกเก่า ๆ บริเวณนั้นทันที แม้ว่าเธอจะยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมต้องหลบก็ตาม...

     

                "โรแมนติกพ่อมึงสิ มืดจะตายชัก รีบ ๆ ลอยเลย ยุงแทบหามกูไปบูชายันต์อยู่แล้ว"

     

                "มึงก็มาดิ่ ลอยด้วยกัน"

     

                "อะไรวะ ไหนมึงบอกให้กูมาเป็นเพื่อนลอยกระทง ก็ลอยไปดิ่วะ กูรออยู่เนี่ย!" เสียงล้งเล้งของเด็กชายหน้าตี๋กึ่งโวยวายกึ่งบ่นคนที่มาด้วยกัน ก่อนฝ่ายที่ถูกบ่นจะขยับตัวเข้าไปใกล้คนขี้โวยวายมากขึ้น แล้วจับมือขาว ๆ ข้างหนึ่งมาให้ช่วยถือกระทงไว้

     

                "ลอยด้วยกัน! จะได้... รักกันตลอดไป"

     

                "ปีที่แล้วเป๊กกับธัญญ่าก็ลอยด้วยกัน"

     

                "มึงอย่าไร้สาระ อธิษฐานเร็ว!" ดูคล้ายจะเป็นคำสั่งกึ่งดุ แต่เจ้าหน้าขาวก็ยอมทำตามแต่โดยดี โน่ส่ายหัวให้ความงมงายผิดวิสัยของคนข้าง ๆ แต่ก็ยอมเออออห่อหมกไปตามเรื่อง

     

                เป็นเวลาพักใหญ่กว่าทั้งคู่จะอธิษฐานเสร็จ

     

                ใบหน้าคมคายของอดีตเลขาสภาฯหันมายิ้มเผล่ให้อดีตประธานชมรมดนตรี "อธิษฐานว่าไร"

     

                "ขอให้เอนท์ติด"

     

                "แล้วไรอีก"

     

                "อาร์เซนอลได้ทริปเปิ้ลแชมป์"

     

                "แล้วไรอีก"

     

                "ขอให้สตีฟจ็อบออกไอโฟน 9 เร็ว ๆ กูชอบเลขสวย"

     

                "... แล้วไรอีก" ตอนนี้ดูเหมือนเลขาสภาผู้ที่อารมณ์ดีเมื่อ 5 นาทีก่อนจะลอยหายไปกับกระทงแล้ว ทำเอาคนที่มาด้วยกันขำอุบ

     

                "แล้วก็ขอให้มึงโดนคอนเน่กัด ถ้านอกใจกู" อ้างอิงไปถึงลูกหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน สมาชิกใหม่ของบ้านภูมิพัฒน์ที่น้องแป้งหิ้วกลับมาเมื่ออาทิตย์ก่อน หลังจากทั้งอ้อนทั้งขอร้องให้พี่ชายที่แสนดีอย่างปุณณ์ซื้อให้มานานแรมเดือน

     

                คำขู่นั้นทำเอาคนฟังหัวเราะร่า "กูจะกลัวดีมั้ยเนี่ย ตัวแค่นั้น สะบัดทีเดียวก็ปลิวไปถึงปากซอยแล้ว"

     

                "ไม่กลัวก็เรื่องของเมิ้งง กูไปละ เพื่อนกูรอเล่นพลุอยู่" แถมไม่พูดเปล่ายังทำท่าจะลุกหนีจริง ๆ อีก เดือดร้อนปุณณ์ต้องรีบคว้าข้อมือขาวนั้นให้กลับมานั่งข้างโป๊ะด้วยกันใหม่

     

                "ไม่กลัว เพราะไม่มีทางโดนกัด... รักนะครับ รู้มั้ย" ริมฝีปากบางจูบลงเบา ๆ บนปลายจมูกรั้นของอีกฝ่าย จนใบหน้าตี๋ของผู้ถูกกระทำแดงเถือก ก่อนจะพรวดพราดลุกขึ้นจริง ๆ

     

                "ห่า เดี๋ยวมีคนเห็น มึงนี่นะ! ฮึ่ยย กูไปละ อยู่กะโอมนะ มีไรโทรมา"

     

                "เออ ๆ ฮะฮะฮะ"

     

     

                เด็กชายในชุดนักเรียนโรงเรียนข้าง ๆ ทั้งสองคนเดินลับไปแล้ว เหลือก็แต่เด็กสาวในชุดคอนแวนต์ที่เคยถือกระทงไว้ในมือเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ผิดกับเวลานี้ที่กระทงใบน้อยลงไปกลิ้งโคโร่บนพื้นแฉะ ๆ ของซอกตึกริมท่าน้ำเรียบร้อย

     

                ฝ่ามือขาวยกขึ้นปิดปากตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ เพราะถึงแม้เธอจะไม่ได้ยินบทสนทนาของเด็กชายสองคนนั้นชัดเจนเท่าไรนัก แต่การกระทำสุดท้ายนั่นมัน.................

     

                ทำให้เธอต้องหยิกตัวเองเบา ๆ

     

                "อูยยยยย" นี่มันไม่ใช่ความฝันจริง ๆ ด้วย

     

     

     

    ***

     

     

                "ไอ้เบสท์ หายไปนานมากกกกกกก ทำไรของแกเนี่ย เฮ้ย! กระทงหายไปไหนแล้ว อย่าบอกนะว่า!!!!" แน่นอว่าทันทีที่เพื่อนสาวกลับมา คนรอก็ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายอย่างตื่นเต้นยกใหญ่

     

                เจ้าของร่างเล็กในชุดนักเรียนคอนแวนต์ยิ้มแหย ๆ ตอบ "อือ... กลับกันเถอะ"

     

                "เฮ้ย!! เล่าก่อนสิ เล่าก่อน ๆๆ แกเข้าไปชวนเขายังไง แล้วเขาตกลงจริงเหรอ เฮ้ย!! ข่าวใหญ่เลยนะเนี่ย!!"

     

                "ฉันไม่ได้...."

     

                'ปึก!' ยังไม่ทันที่ริมฝีปากเล็กจะได้แก้ตัวอะไรกับเพื่อนสนิท ศีรษะอันปกคลุมด้วยเส้นผมยาวของเธอก็ชนเข้ากับไหล่คนหนึ่งเสียก่อน

     

                "อ้าว เข่าหายยัง" ที่แน่ ๆ เด็กสาวยังไม่พร้อมเลยสำหรับการเผชิญหน้าคน ๆ นี้ในเวลาแบบนี้

     

                "น... น.... น..... โน่!"

     

                "เอ... ตกลงรู้จักกันด้วยเหรอ เธอชื่อไรอะ"

     

                "เบสท์! เพื่อนฉันชื่อเบสท์ เมื่อกี้ไปลอยกระทงกับเพื่อนนา.... อุ๊บบ อ่อยยย!" และไม่ต้องรอให้เพื่อนจอมจุ้นอย่างเกดได้พูดจนจบคำแต่อย่างใด เมื่อเด็กหญิงเจ้าของชื่อเบสท์รีบปิดปากเพื่อนตัวดีทันที

     

                "อ๋อ เราชื่อเบสท์ ไม่มีไรหรอก รู้จักโน่เพราะเคยดูโน่เล่นคอนเสิร์ตที่โรงเรียนอะ เข่าก็หายดีแล้ว ขอบคุณมากนะ ข... ขอตัวกลับบ้านก่อนล่ะ บ้ายบาย"

     

                "เอ่อ.. บาย..." เด็กชายเจ้าของใบหน้าตี๋และผมทรงสกินเฮดโบกมือตอบอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก แต่ท่าทางลนลานแบบนั้นทำเอาเขาขำออกมาเบา ๆ

     

                "มึงโดนคอนเน่กัดแน่ ไอ้นภัทร" แต่แล้วเสียงเย็น ๆ ที่ดังขึ้นจากด้านหลังในระยะประชิดก็ทำเอาเจ้าตัวใจกระตุกวูบ

     

                "เชี่ย! โผล่มาให้สุ้มให้เสียงหน่อยดิ่วะ กูตกใจหมด!"

     

                "ให้สุ้มให้เสียงแล้วจะเห็นมึงม่อผู้หญิงต่อหน้าต่อตากูแบบนี้เหรอ"

     

                "ม่อเหี้ยไรครับ! กูแค่ทักเค้าเฉย ๆ ว่าเข่าหายยัง"

     

                "มึงม่อ"

     

                "กูเปล่า!"

     

                "มึงม่อ"

     

                "กูเปล่า!"

     

                "มึงม่อ"

     

                "กูเปล่า!"

     

                "มึงม่อ"

     

                "กู @)$#&*_)@"

     

                ")#$&*_#*@()"

     

                "...."

     

                "....."

     

     

     

                เสียงพลุดังลั่นในคืนที่ฟ้าสว่างด้วยแสงจันทร์เพ็ญ กลบเสียงทุ่มเถียงกันของเด็กชายสองคนจนหมดสิ้น  ประกายไฟหลากสีกระจายตัวบนน่านฟ้าดำสนิท แต่งแต้มค่ำคืนที่เคยเงียบเหงาให้สว่างสดใส ราวกับจะช่วยเป็นพลังให้ใครต่อใครก้าวเดินต่อไป

     

     

                "เฮ้ย เชี่ยโน่เชี่ยปุณณ์ กัดไรกันวะ! มานี่ ๆๆ พลุ ๆๆๆ เล่นพลุกัน!!"

     

                "เล่น ๆๆ เอามา ฮ่า ๆ เออนี่ เชี่ยปุณณ์ กูไม่ได้ม่อนะ กูแค่ชอบดูแลสาวน่ารัก จบ! ไม่ต้องเถียงกูแล้ว!"

     

     

                ...And the story goes

     

     

     

    - FIN –

     

    Postscript : เย้ ๆๆ สวัสดีย้อนหลังวันลอยกระทงค่า พอดีนั่งว่าง ๆ (ไม่มีใครให้ไปลอยด้วย กระซิก ๆ Y__Y) เลยแต่งขึ้นมาเล่น ๆ อิอิ ไม่รู้จะถูกใจกันมากน้อยแค่ไหน เพราะคราวนี้ไม่ได้ใช้น้องโน่บรรยาย แบบว่าอยากลองแต่งดูหลาย ๆ แบบมั่งอะนะ 555

    ชอบไม่ชอบยังไงฝากข้อความทิ้งคอมเมนท์ไว้ได้นะจ๊ะ หลังจากนี้ก็จะพยายามแต่งนู่นนี่นั่นมาแปะเพจนี้บ่อย ๆ (เท่าที่ทำได้) โอย ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ง่วงมาก พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน ขอตัวนอนก่อนเด้อ Zzzz

     

    ปล. จะมีใครหลงมาที่นี่บ้างอ๊ะป่าวน้อ~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×