ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ::Distorted DayTime ::KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.8K
      52
      22 ต.ค. 55





    Distorted dayTime
     










    ตกลงเลือกได้หรือยังจ๊ะ ว่าจะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไหน?”



    เอ่อ คือ….”



    คนถูกถามได้แต่อ้ำอึ้ง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตาเจ้าของคำถาม ซอนยอลเงยหน้าขึ้นมาจากแฟ้มงานเล่มโตที่หล่อนใช้เวลากับมันมานานหลายชั่วโมง จ้องมองใบหน้าขาวใสของลูกชายคนเล็ก คิ้วบางขมวดเข้าหากัน ไม่เข้าใจกับกิริยาท่าทางแบบนั้นของบุตรชาย หรือว่ายังเลือกไม่ได้



    ว่าไงจ๊ะ ตกลงชานยอลจะต่อที่ไหน หรือว่ายังเลือกไม่ได้ นี่มันก็ใกล้จะครบกำหนดการสมัครเข้าเรียนต่อ

    แล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่าลูกจะเรียนมหาฯลัยเดียวกันกับพี่ซูโฮเลย พี่เขาจะได้ดูแลหนูด้วย แม่จะได้เบาใจ

    เมื่อเห็นว่าลูกชายคนเล็กไม่ยอมเอ่ยอะไรเธอจึงแนะนำวิธีที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับเขา การที่ลูกทั้งสองเรียนมหาฯลัยเดียวกันเป็นสิ่งที่เธอหวังว่ามันจะเกิดขึ้น จะได้ง่ายต่อการดูแลความปลอดภัย เพราะอย่างน้อยชานยอลจะมีพี่ชายของเขาดูแลในยามขับขัน



    ชานยอลเรียนมหาฯลัยเดียวกันกับพี่ซูโฮก็ได้ฮะ แต่ว่า…”



    แต่ว่าอะไรจ๊ะ …”



    เอ่อ ชานยอลขอเรียนคณะนิเทศได้มั้ยฮะ?”



    ใบหน้าอ่อนใสของเด็กหนุ่มเงยขึ้นสบตากับผู้เป็นแม่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องนี้ ดวงตากลมโตมีน้ำสีใสเอ่อคลอเต็มเบ้าตาพร้อมจะไหลลงมาได้ทุกเมื่อ



    ทำไมจ๊ะชานยอล หนูนึกยังไงถึงอยากจะเรียนคณะนิเทศ ?”



    หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ หล่อนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอนาคตเมื่อลูกชายทั้งสองเรียนจบ จะเข้ามาช่วยทำงานในบริษัท แต่ชานยอลจะเรียนคณะนิเทศ แล้วมันจะช่วยบริษัทได้ยังไงกัน



    ชานยอลอยากเรียนฮะแม่ ชานยอลไม่ชอบเรียนบริหาร แม่ฮะ แม่ให้ชานยอลเรียนเถอะฮะ



    พูดจบน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ไหลกลิ้งลงมากระทบแก้มใสอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ชานยอลก้มหน้าหลบสายตาผิดหวังที่ถูกส่งตรงมาจากมารดาผู้เป็นที่รัก



    เด็กหนุ่มไม่ได้ต้องการจะขัดใจแม่ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยขัดความประสงค์ของผู้เป็นแม่เลย ด้วยคำนึงเสมอว่าแม่ต้องทำงานหนักเพื่อเขาและพี่ชายมาโดยตลอด เขาไม่อยากทำตัวให้เป็นปัญหาทำให้แม่ต้องคิดมาก เหมือนที่พี่ชายเคยบอกเขาเสมอมา แต่จะให้เขาเรียนคณะบริหารที่เขาไม่ถนัดก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ



    “………..”



    หญิงสาวได้แต่นั่งอึ้งเมื่อได้รับฟังเหตุผลของผู้เป็นลูก น้ำตาของลูกชายสุดที่รักทำให้หัวใจของผู้เป็นแม่ปวดร้าวยิ่งนัก



    ชานยอลที่เคยเป็นเด็กดีเชื่อฟังหล่อนเสมอมากำลังจะขัดความต้องการของหล่อนเป็นครั้งแรก หญิงสาวยกมือขึ้นกุมขมับเอนกายลงกับโต๊ะผ้านวมตัวใหญ่ ถอนหายใจออกมาเสียงดัง



    อากัปกิริยาของผู้เป็นมารดาทำให้ชานยอลที่เช็ดน้ำตาจนแห้งหายไปจากใบหน้าต้องรีบลุกขึ้นมา เดินตรงไปหามารดาก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นข้างๆเก้าอี้ที่หญิงอันเป็นที่รักนั่งอยู่ ซบหน้าลงกับเข่าเล็กนั้น



    แม่ฮะ แม่อย่าโกธรชานยอลเลยนะฮะ ถ้าแม่ไม่อยากให้ชานยอลเรียน ชานยอลไม่เรียนก็ได้ ชานยอลจะเรียนกับพี่ซูโฮนะฮะแม่ ฮื่ออ แม่ฮะ



    ซอนยอลก้มหน้าลง จ้องมองร่างของคนที่นั่งอยู่กับพื้น ร่างของบุตรชายกำลังสั่นไหวเพราะแรงสะอื้นเห็นอย่างนั้นแล้วหญิงสาวก็อดใจอ่อนไม่ได้ ได้แต่ถอดถอนใจคิดไม่ตกว่าอนาคตต่อไปของบริษัทจะเป็นอย่างไร



    ถ้าชานยอลไม่เรียนบริหาร แล้วใครจะมาทำงานช่วยแม่ล่ะจ๊ะลูก

    มือบางพยุงร่างของลูกชายให้ลุกขึ้นกอดร่างที่กำลังเจริญเติบโตสมวัยไว้แนบอก สูงขึ้นอีกแล้วนะชานยอล



    พี่ซูโฮไงฮะ พี่ซูโฮเก่งจะตาย



    เจ้าของร่างในอ้อมกอดตอบออกไปอย่างใจคิด พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น



    พี่ซูโฮคนเดียวจะดูแลยังไงไหว บริษัทเราออกจะใหญ่โต ไม่กลัวพี่ชายของลูกจะเหนื่อยหรือไงจ๊ะ



    “………………..กลัวฮะ ชานยอลไม่อยากให้พี่ซูโฮเหนื่อย



    ริมฝีปากบางที่เคลือบด้วยลิปสติกสีสวยคลี่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนใจ ชานยอลเป็นเด็กจิตใจดี ขี้สงสาร แถมรักเธอกับพี่ชายของตัวเองมากกว่าอะไรทั้งหมด หญิงสาวมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างพลางใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง



    ตลอดมาชานยอลไม่เคยดื้อกับเธอเลย ไม่ว่าซอนยอลต้องการอะไร หรืออยากให้ชานยอลเป็นแบบไหน ลูกชายก็ไม่เคยขัดถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ตนเองไม่ชอบเลยก็ตาม ลูกชายของเธออยู่ในกรอบที่เธอสร้างขึ้นเสมอมา แต่ตอนนี้ชานยอลกำลังจะเลือกอนาคตของตัวเอง เป็นอนาคตที่เธอไม่เห็นด้วย



    ชานยอลไม่ระ…”



    ตามใจ ถ้าหนูอยากเรียนนิเทศก็ตามใจ



    จะ..จริงนะครับแม่ แม่ไม่โกธรชานยอลนะฮะ



    จ๊ะ



    หญิงสาวดันร่างของลูกชายให้ออกห่าง พยักหน้าเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดของตน ใบหน้าสวยหวานอมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าแสดงออกถึงความดีใจของบุตรชาย ตามใจสักครั้งจะเป็นไรไปเชียว



    ขอบคุณนะฮะแม่ ชานยอลรักแม่ที่สุดในโลก ชานยอลสัญญาว่าต่อจากนี้ชานยอลจะเป็นลูกที่ดีของแม่ ชานยอลจะไม่ขัดใจแม่อีกแล้วจะเชื่อฟังแม่กับพี่ซูโฮ แม่ต้องการอะไรชานยอลจะหามาให้จะทำทุกอย่างให้แม่กับพี่มีความสุข ชานยอลสัญญาฮะ



    เอ่ยคำสัญญาด้วยรอยยิ้มก่อนจะกอดร่างของผู้เป็นมารดาไว้แน่นอย่างแสนรัก ซบหน้าลงกับไหล่บางอย่างที่ตนชอบทำเวลาอ้อนขอความรักจากแม่



    ซอนยอลหัวเราะออกมาเมื่อฟังคำสัญญาของลูกชายจบ กระซิบแผ่วเบาข้างๆใบหูเรียวยาวของผู้เป็นดวงใจ



    พูดแล้วห้ามคืนคำล่ะ อย่าลืมสัญญานะจ๊ะ ชานยอล

     

     














    อู๋ฟาน ตกลงว่าลูกจะเรียนบริหารมหาฯลัย….ใช่มั้ย?”



    ครับแม่ ผมยื่นคะแนนไปแล้ว คาดว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร



    อื้มมม ดีแล้ว



    เหม่ยหลิงพยักหน้าแสดงความพึงพอใจกับคำตอบของบุตรชายคนเดียวของตน ใบหน้าสวยหวานตามแบบฉบับหญิงจีนยังคงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากแฟ้มแสดงผลกำไรล่าสุดของบริษัทสาขาย่อยที่เลขาเพิ่งนำเข้ามาให้เมื่อครู่นี้



    แม่ครับ ผมคิดว่าว่างๆผมจะเข้ามาดูงานในบริษัทบ้างจะดีมั้ยครับ



    เมื่อจบประโยคของลูกชาย หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมาจากแฟ้มงานเล่มโตทันที ใบหน้ามีแววพึงพอใจประดับอยู่



    ดีสิ ลูกจะได้เก่งๆ แม่จะให้เลขาของแม่คอยดูแลแล้วกัน ว่าแต่ลูกจะเข้ามาดูตอนไหนล่ะ แม่จะได้บอกเพ่ยฟางเขาเตรียมเอกสารไว้ให้



    เอาเป็นพรุ่งนี้เลยก็ได้ครับ



    พูดจบก็ลุกขึ้นยืนหันหลังเดินออกไปจากห้องทันที ไม่รอฟังคำตอบ ในเมื่อเจ้าตัวก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว คนอย่างอู๋ฟานไม่เคยถูกปฏิเสธ



    จ๊ะ



    หญิงสาวตอบรับคำพูดนั้นดวงตาเรียวจ้องมองแผ่นหลังที่เดินออกไปจากห้องจนลับตา

    อู๋ อี้ ฟาน ลูกชายคนเดียวของเธอช่างเป็นเด็กหนุ่มที่เต้มไปด้วยพรสวรรค์ อู๋ฟานช่างเหมือนบิดาของเขาหรือเกิน ทั้งใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างร้ายกาจ มันสมองที่ขึ้นชื่อถึงความฉลาดดังไปทั่วแผ่นดินใหญ่ เมื่อเด็กชายสอบได้ที่1ในการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนมีชื่อระดับประเทศ  แม้กระทั้งนิสัยใจคอที่อู๋ฟานได้รับมาจากพ่อ  แม้จะไม่เคยได้เห็นหน้า และความเด็ดขาดที่ได้รับจากหล่อนผู้เป็นแม่เต็มๆ



    หญิงสาวเบือนหน้าไปมองภาพถ่ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ อู๋ เหวินหลง สามีที่ลาจากโลกใบนี้ไปแล้วส่งยิ้มบางมาจากในรูป เหม่ยหลิงใช้หลังมือลูบไล้รูปถ่ายใบนั้นอย่างทะนุถนอม รำพึงเพียงเสียงแผ่ว



    เหวินหลง อู๋ฟาน ช่างเหมือนคุณเหลือเกิน

     

     









    4ปีผ่านไป






    เรียนจบแล้วนายจะทำอะไรต่ออ่ะชานยอล



    แบคฮยอนเอ่ยถามเพื่อนรักที่กำลังก้มหน้าก้มตาสนใจอยุ่กับหนังสือเล่มหนาที่เพิ่งยืมมาจากห้องสมุด เดือนหน้าพวกเขาก็จะเรียนจบแล้ว ชีวิตวัยเรียนกำลังจะหมดไป ชีวิตใหม่ที่เขาไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรกำลังจะเดินเข้ามา



    อื้มม ไม่รู้สิ คงจะหางานทำอ่ะ ระหว่างที่รอคงจะช่วยงานพี่ซูโฮไปก่อน



    ดีจังเลยนะ เฮ้อออ



    เป็นอะไรอีกล่ะ ถอนหายใจทำไม



    ชายหนุ่มเอ่ยถามเพื่อนรักอย่างสงสัย คนอย่างพยอน แบคฮยอนมีอะไรต้องกลุ้มขนาดนั้น



    ใจหายอ่ะ จะเรียนจบแล้ว



    อ้าว ไหนแต่ก่อนนายชอบบ่นว่าตอนไหนจะเรียนจบ ขี้เกียจมาเรียนแล้ว ขี้เกียจทำรายงานอยากนอนอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ นี้ไงเดือนหน้านายก็จะได้นอนทั้งวันแล้ว



    ก็มันใจหายหนิชานยอล คิดดูอีกทีนอนอยู่บ้านเฉยๆมันก็เซ็ง เฮ้อออ ว่าแต่เย็นนี้นายจะกลับบ้านเลยเหรอ เตะบอลกันก่อนป่าว



    ชายหนุ่มร่างเล็กเอ่ยถามเป็นการชักชวน เขาไม่อยากกลับบ้านในตอนนี้เลย กลับไปก็ไม่มีอะไรทำ มีเพียงหนังสือการ์ตูนกับเกมส์คอมพิวเตอร์เป็นเพื่อนคลายเหงาเท่านั้น ชีวิตของลูกที่มีพ่อแม่เป็นเจ้าของบริษัทมีเงินทองใช้ ไม่อดอยากนี้มันสบายเสียจนหน้าเบื่อจริงๆ



    เอาไว้วันหน้าดีกว่านะ วันนี้เรารีบกลับพี่ซูโฮจะมารับไปทานข้าวน่ะ



    ชานยอลเอ่ยปฏิเสธพลางอธิบายเหตุผลใบหน้าน่ารักส่งยิ้มขอโทษจากใจให้เพื่อนสนิท มือเรียวหยิบหนังสือยัดใส่กระเป๋าเมื่อรถAUDI สีดำปรากฏสู่สายตา



    จริงอ่ะ  โอเคๆ ว่าแต่ทำไมคนงานยุ่งแบบพี่ซูโฮ วันนี้ถึงว่างมารับชานยอลได้ล่ะ



    แบคฮยอนเอ่ยถามอย่างสงสัย จะไม่ให้สงสัยได้ไงนานทีปีหนพี่ซูโฮถึงจะโผล่หน้ามารับน้องชายสุดที่รักที่คณะสักที สงสัยวันนี้คงมีอะไรพิเศษ ไม่ต้องรอให้เพื่อนรักสงสัยนานชานยอลก็พูดเฉลยออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม



     “วันนี้วันเกิดคุณแม่น่ะ เลยว่าจะไปฉลองวันเกิดที่ร้านอาหารเราไปก่อนนะแบคฮยอน พี่ซูโฮมาแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน



    พูดจบร่างของชานยอลก็ลุกขึ้นจากม้านั่งเดินตรงไปหารถที่เพิ่งจอดเทียบกับฟุตบาตทันที ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างดีใจ นานๆทีครอบครัวของเขาจะได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมกันตาแบบนี้สักที



    สวัสดีครับพี่ซูโฮ ทำงานเหนื่อนมั้ยฮะ?”



    ส่งเสียงถามขึ้นทันทีที่ปิดประตูรถลง ส่งยิ้มที่ใครๆก็มักจะชมเวลาที่เขาส่งยิ้มไปให้ว่ามันช่างสวยและสดใสเหลือเกิน



    เหนื่อยสิ ทำงานหาเลี้ยงชานยอลเนี้ยมันเหนื่อยมากรู้มั้ย หืออ



    ใบหน้าใจดีของพี่ชายส่งยิ้มตอบกลับมา พร้อมกับมือที่ดึงร่างเขาเข้าสู่อ้อมกอด ซึ่งเจ้าของร่างก็ยินดีให้กอดอย่างไม่เกี่ยงงอน



    พี่ซูโฮอ่ะ อย่าพูดอย่างนี้สิ ชานยอลรู้สึกไม่ดี



    ใบหน้าหวานซบลงกับอกที่คอยให้ความอบอุ่นแทนบิดาที่ลาจากโลกนี้ไป พี่ชายที่คอยดูแลเขายามที่แม่ต้องทำงานหนักไม่มีเวลามาดูแลพวกเขาสองคน



    ฮ่าๆๆ พี่ล้อเล่น ไปกันเถอะเดี๋ยวคุณแม่จะรอนาน



    ซูโฮหัวเราะกับท่าทางและคำพูดของน้องชาย จมูกโด่งสวยจรดลงกับกลุ่มผมสีน้ำตาลของเด็กตัวโต ก่อนจะหันกลับมาสนใจกับรถที่จะพาให้พวกเขาไปสู่เป้าหมายข้างหน้า

     





    ภายในห้องอาหารที่ถูกจัดอย่างสวยงามบ่งบอกถึงรสนิยมของคนที่เข้ามาใช้บริการได้เป็นอย่างดี เสียงน้ำตกจำลองที่ทางร้านจัดตกแต่งอย่างเป็นธรรมชาติทำให้เด็กหนุ่มไม่สามารถจะละสายตาออกมาจากภาพนั้นได้



    มองอะไรเหรอชานยอล



    อ่ะ ขอโทษครับพี่ซูโฮ น้ำตกของร้านนี้สวยดี ชานยอลเลยเผลอมองนานไปหน่อย



    อิ้มม นี้ทำไมคุณแม่ยังไม่มาเสียที พี่นึกว่าจะมารอที่ร้านแล้วนะเนี้ย



    ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางยกนาฬิกาเรือนหรูขึ้นมา มันกำลังฟ้องว่าพวกเขามารอที่ร้านได้เกือบชั่วโมงแล้วแต่หญิงสาวเจ้าของวันเกิดก็ยังไม่มาเสียที



    สงสัยรถติดมั้งฮะ อ่ะ นั้นไงแม่มาแล้วครับพี่ซูโฮ



    ชานยอลส่งเสียงร้องอย่างดีใจเมื่อเห็นร่างบางของมารดาก้าวเข้ามาในร้านอาหารที่พวกเขานั่งรออยู่ จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงก็อาทิตย์นี้เขายังไม่ได้เห็นหน้าคุณแม่สักครั้งเลย



    โอ้ ขอโทษนะจ๊ะซูโฮ ชานยอล ที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยน่ะเลยมาช้า นี้สั่งอะไรกันหรือยัง



    ซอนยอลเอ่ยขอโทษลูกชายทั้งสองทันทีเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ที่ลูกชายคนโตเลื่อนให้นั่งข้างกับลูกชายคนเล็กที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษา



    ยังเลยครับพวกเรารอแม่



    เป็นชานยอลที่ชิงตอบออกไปพลางหยิบรายการอาหารส่งให้เจ้าของวันเกิดและพี่ชายที่นั่งอยู่ตรงข้าม

    ไม่นานอาหารที่สั่งก็ถูกทยอยออกมาจนครบ



    ซูโฮ แม่คิดว่าเดือนหน้าเราคงต้องหาบริษัทจัดการทางด้านเงินบริษัทใหม่เข้ามาดูแลบริษัทเราแล้วล่ะ



    ทำไมหรือครับแม่



    แม่คิดว่าบริษัทเรา……..”



    ใบหน้าสวยที่เริ่มมีริ้วรอยแห่งวัยปรากฏความกังวลขึ้นอย่างเห้นได้ชัด บริษัทตอนนี้กำลังมีปัญหาทั้งภายนอกภายในรุมเร้าจนต้องหาทางออกอย่างเร่งด่วน ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร สร้างความไม่พอใจให้แก่คนที่นั่งอยู่ข้างๆตน



    แม่ครับ พี่ซูโฮครับ วันนี้วันเกิดคุณแม่นะครับ เลิกคุยเรื่องงานสักวันได้มั้ย นานๆทีเราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ ชานยอลขอนะครับ



    ชานยอลพูดขัดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ วันสำคัญของคุณแม่แท้ๆยังเอางานขึ้นมาคุยบนโต๊ะอาหารอีก แบบนี้มันจะอร่อยได้ยังไง



    เฮ้ออ จ๊ะ แม่ขอโทษนะลูก ชานยอลเรียนเป็นยังไงบ้างล่ะ ใกล้จะจบแล้วไม่ใช่เหรอเรา



    ครับ เดือนหน้าก็จะจบแล้ว แม่รอรับปริญญาของชานยอลได้เลย



    เมื่อมีโอกาสพูดเรื่องของตนเองชานยอลก้อดจะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจไม่ได้ เขาเรียนจบตามกำหนดของมหาวิทยาลัยมีชื่อที่ไม่ใช่ว่าใครจะจบกันได้ง่ายๆ



    ดีมากจ๊ะ งั้นเดือนหน้าก็มาช่วยพี่ซูโฮทำงานได้แล้วสิ



    ได้ฮะ ชานยอลจะทำ



    แม้จะเป็นงานที่เขาไม่ถนัดแต่เมื่อพูดเป็นแม่ร้องขอ มีหรือปาร์ค ชานยอลจะปฏิเสธ

     

     








    เมืองปักกิ่งประเทศจีน



    อู๋ฟาน ลูกคิดว่าธุระกิจส่งออกอาหารเป็นยังไงบ้าง



    “…..ก็ดี น่าสนใจดีครับ



    เจ้าของชื่อนิ่งคิดอยู่สักครู่ก่อนจะตอบคำถามออกไป ดวงตาสีดำเข้มติดแววเย็นชาจ้องมองพนังห้องสีขาวที่มีกรอบรูปสีดำแขวนโชว์ไว้กลางห้อง ภายในมีแผ่นกระดาษขนาดเท่าA4สอดอยู่ ข้อความในกระดาษสีขาวนั้นทำให้เจ้าตัวต้องเหยียดยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ

     




     





    อู๋ อี้ ฟาน


    เกียรตินิยมอันดับ 1

     

     

     

     

     






    TBC........






    tallk::  ผลาง~~~ เปิดฟิกใหม่ รู้สึกว่าเรื่องเก่ายังคงอยู่ในโหล เงิงงง
    ดราม่าแน่ๆ มันดราม่าแน่ๆ เรื่องนี้คิดพล็อตไว้นานแล้วในที่สุดก็ได้ลงเสียที
    ยังไงก็ช่วยติดตามด้วยนะคะ ฟิกน้ำเน่า เคล้าน้ำตา ชานยอลล่าา น่าสงสารจริงๆ
    นักแสดงคนแรกสังกัดค่าย ดีบ้า วิดิโอ ><
    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×