ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Curse War ภาค เสียงเพรียกต้องสาป

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 นักรบไร้เงา(แก้ไขเนื้อหาบางส่วน)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 139
      0
      28 พ.ค. 53

    คฤหาสน์หลังเก่าคร่ำครึตั้งอยู่ริมผาสูงชัน ข้างใต้นั้นมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล เทือกเขาตั้งเรียงรายอยู่ไม่ไกลนัก มองดูเหมือนงูตัวยาวนอนคดเคี้ยวไปมา คฤหาสน์หลังนี้ตั้งอยู่นอกหมู่บ้านพีช เป็นคฤหาสน์ของตระกูลผู้วิเศษตระกูลใหญ่ ชื่อเสียงระบือไกลไปทั่วแดนดินนาม ตระกูลบรูทัล

    คฤหาสน์หลังงามในวันนี้ ไม่เหมือนคฤหาสน์หลังที่เคยทอแสงสีทองระยิบระยับไปทั่วบริเวณ ในยามค่ำคืน หากแต่ดูเก่าคร่ำครึ และกลายเป็นสีดำสนิทด้วยอำนาจเวทมนตร์ของเจ้าของผู้สร้างที่ลงคำสาปไว้ เมื่อวันตายครบรอบหกร้อยปีของเขามาถึง มันจะกลายเป็นสีดำทะมึน เมื่อราตรีมาเยือน จะเห็นแต่เพียงเงา และให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกและความอาลัยทุกครั้งที่เข้าใกล้ จะไม่มีใครเห็นแสงสีทองส่องประกายในยามค่ำคืนอีก

    ถึงแม้ภายนอกจะกลายเป็นสีดำทะมึน แต่ภายในยังคงทองคำที่ประเมินค่าไม่ได้ เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของผู้วิเศษตระกูลบรูทัลผู้สร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง กำแพงหินอ่อนก่อตัวเป็นรั้วบ้านสูงหนา ประตูใหญ่สีน้ำตาลหนาและหยาบ มีรูปปั้นการ์กอลย์ตั้งอยู่หน้าประตูรั้วสองข้างทาง

    ชายชราสูงวัยนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขา ที่ก่อด้วยทองคำส่องประกายระยิบระยับ ชั้นวางหนังสือตั้งอยู่ทางขวาของโต๊ะทำงานที่ระเกะระกะไปด้วยกองเอกสารต่างๆที่ประทับตราครั่งสีแดงแกะลายมังกรหน้าตาดุร้าย ปากกาขนนกสีแดงเพลิงตั้งอยู่ในกระปุกหมึกที่มุมโต๊ะด้านขวา โต๊ะทำงานทำมาจากไม้โอ๊คสีเข้ม หน้าต่างบานใหญ่ตั้งอยู่หลังชายชราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน แสงสว่างส่องเข้ามาทำให้ห้องงดงามยิ่งขึ้นไปอีก

    ชายชรามีใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ ที่หายจนเป็นแผลเป็นมานานแล้ว ดูราวกับว่า เขาเคยเป็นชายหนุ่มที่เคยหล่อเหลาเอาการมาก่อน แผลเป็นสองรอยกรีดผ่านแก้มสองข้างเป็นริ้วๆ และอีกสองรอยกรีดผ่านขอบตาสองข้าง อีกหนึ่งรอยกรีดกลางหน้าผาก

    แต่ด้วยหลายสิบปีที่ผ่านเรื่องราวมามากมายจนแทบตลอดชีวิต ทำให้จากชายหนุ่มรูปงาม กลายเป็นชายชราที่มีหน้าตาน่ากลัวคล้ายครึ่งคนครึ่งปิศาจ ผมและหนวดเครายาวสีขาวโพลน ผิวสีขาวซีดคล้ายคนที่ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันมานาน จนดูเหมือนคนใกล้ตาย ดวงตาสีเทาคล้ายตางู ฉายแววน่ากลัวและน่าเกรงขาม สวมชุดสีดำยาว ร่างสูงสง่างาม แต่แฝงไปด้วยความอิดโรยตามกาลเวลา แสงตะวันยามเช้าสาดส่องต้องใบหน้าของเขา ทำให้เห็นริ้วรอยแห่งประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างโชกโชน เมฆสีดำลอยอยู่บนฟ้าเบื้องนอก บอกให้รู้ถึงการมาเยือนของฝนในอีกไม่ช้า

    ประตูเปิดผางออก ชายวัยกลางคนเดินเข้ามา เขามีใบหน้าเสี้ยมแหลม ผมสีแดงยาวถึงกลางหลัง หนวดเครายาวขึ้นครึ้มรอบคาง ดวงตาสีดำเป็นประกาย รูปร่างสันทัด สวมเสื้อคลุมสีฟ้ายาว รองเท้าบู๊ทหนังจระเข้ เขาเดินมาถึงโต๊ะทำงาน มือสองข้างแผ่ราลงบนโต๊ะ แหวนฝังหินสีอำพันส่องประกาย

    เคยมีผู้สอนเรื่องมารยาทอันดีงามในสังคมหรือไม่ วอลนัท ครอสชายชรากล่าวถามเสียงเย็น ว่าก่อนจะเข้าห้องของใครก็ตาม ต้องเคาะประตูก่อนเสมอ

    วอลนัทมีสีหน้าเหมือนถูกตบเข้าอย่างจัง เขากลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่อย่างฝืดคอเต็มที

    ชายชราหันมาทางวอลนัทด้วยท่าทีเคร่งขรึม และยิ้มให้เขาอย่างเย็นชาที่สุด จนวอลนัทรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว

    ว่าอย่างไร ลมอันใดหอบเจ้ามาถึงที่นี่ วอลนัทชายชราถามด้วยเสียงที่เย็นชา

    ข้าเพียงแต่เห็นว่า...เมื่อมันเป็นมารยาทอันดีงาม ที่ผู้น้อยต้องมาเยี่ยมเยียนผู้อาวุโส...เอ่อ...ผู้เคย...” วอลนัทมีทีท่ากระอักกระอ่วน เขานึกถึงสาเหตุที่เขามาที่นี่ และมีสีหน้าลำบากใจอย่างที่สุด

    นั่งลงก่อน ผู้น้อยยืนค้ำหัวผู้อาวุโส มันไม่ดีนะชายชราเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ พลางยิ้มอย่างเย้ยหยัน เขารู้ถึงสาเหตุการมาของวอลนัทแล้ว

    เก้าอี้ไม้เก่าผุพังปรากฎขึ้นมาในอากาศ วอลนัทหันไปเบื้องหลัง มองดูมันเลื่อนตัวเข้ามากระแทกกับต้นขา ดันให้เขานั่งลง

    ท่านต้อนรับแขกทุกคนเยี่ยงนี้หรือวอลนัทถามอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก พลางสำรวจดูเก้าอี้ไม้ผุพังอย่างหวาดๆ กลัวว่ามันจะพังลงไปใต้บั้นท้ายเขา แต่หางตาก็ลอบไปเหลือบมองชายชราว่า จะมีอากัปกิริยาอย่างไรกับคำพูดเขาเมื่อครู่ แต่เมื่อเห็นท่าทีนิ่งเฉยของเขา ก็อดสะดุ้งขึ้นมาไม่ได้

    ไม่ทุกคนหรอก...แต่สำหรับคนเยี่ยงเจ้า ข้าเห็นควรว่า จะต้องต้อนรับเช่นนี้ชายชราว่าด้วยท่าทีนิ่งเฉย

    เช่นนั้นหรือ...ท่านเดเตสตับ ข้าว่า เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าวอลนัทว่า พลางเหลือบไปเห็นกองเอกสารที่ประทับตรารูปมังกรอยู่ ก็จ้องนิ่งอย่างพิจารณา ก่อนจะเบิกตากว้างราวกับไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน ท่านเคาน์บรูทัลที่เคารพ เห็นได้ชัดว่า ท่านเกษียณจากงานราชการนานแล้ว แต่ยังคงยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อำนาจไม่เข้าใครออกใครจริงๆนะ

    เดเตสตับเหยียดยิ้ม ก่อนกล่าวด้วยเสียงลุ่มลึกว่า มีขุนนางรุ่นใหม่ไฟแรงหลายคน สมาชิกสภาสูงหลายท่าน ต้องการคำปรึกษา ข้อแนะนำจากข้า อย่างรายนี้มือที่หยาบกร้าน เอื้อมไปหยิบกระดาษแผ่นหนึ่ง ออกมาวางตรงหน้าวอลนัท ต้องการคำแนะนำว่า ทำอย่างไร ถึงจะอยู่ในอำนาจได้นานที่สุด

    วอลนัทขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตามองดูกระดาษแผ่นนั้นอย่างถี่ถ้วน เขารู้สึกว่าผู้เขียนจะแสดงความนับถือในตัวเดเตสตับผู้นี้อยู่มาก สังเกตได้จากคำสรรเสริญเยินยอ เช่น ท่านพ่อมดผู้ไร้พ่าย’ ‘ท่านพ่อมดผู้ทรงเกียรติ์’ ‘ท่านเคาน์ที่เคารพและยำเกรงของมวลหมู่พ่อมดลงชื่อ โฮโรตัส สตีเฟ่น ถึงตรงนี้ เขาเหยียดยิ้มอย่างเหยียดหยามให้กับชื่อนั้น

    ตระกูลสตีเฟ่น...หึ...ไม่สงสัยเลยว่า ทำไม เขาถึงได้เทิดทูนบูชาท่านนักวอลนัทว่า เลือดโสโครกของมัน แปดเปื้อนบนหน้าประวัติศาสตร์ผู้วิเศษมาหลายร้อยปี...ตระกูลครอสของข้ายิ่งใหญ่กว่ามันหลายร้อยเท่านัก

    เดเตสตับมองแขกของเขาด้วยสายตาพิจารณา ก่อนจะเผยยิ้มออกมาอย่างรังเกียจ พลางเก็บกระดาษเข้าที่เดิม วอลนัทมองตามไปด้วยท่าทีดูถูก

    ท่านตอบไอ้โสโครกนี่ไปว่าอย่างไรกันเล่าวอลนัทถาม

    ข้าเพียงแต่ตอบเขาไปว่า อย่าแหย่จมูกเสือก็เท่านั้นเดเตสตับตอบด้วยเสียงเย็น วอลนัทเม้มปากอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก เรามาพูดธุระของเราเลยดีกว่า...บอกหน่อยสิว่า ใครกัน ส่งเจ้ามาที่นี่พูดจบ ก็ลอบยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น เขารู้อยู่แก่ใจแล้วว่าคือใคร

                                 

    เอ่อ...คือ...เอ่อ...วอลนัทอึกอัก เหงื่อไหลโซมกาย เดเตสตับรออย่างใจเย็น เขาชอบให้เหยื่อพูดความลับออกมาเอง โดยที่เขาใช้สงครามทางจิตวิทยา ไม่มีการบังคับขู่เข็ญใดๆทั้งสิ้น

    ว่าอย่างไร...อะไรเป็นสาเหตุให้สุนัขรับใช้ประจำตระกูลครูเอลอย่างเจ้า ต้องดั้นด้นมาพบข้า ในยามที่แผ่นดินร้อนเป็นไฟเยี่ยงนี้เดเตสตับรบเร้าด้วยเสียงอ่อนโยน จนวอลนัทสะดุ้ง เดเตสตับนึกขำในใจที่เห็นแขกของเขามีท่าทีกระสับกระส่าย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้

    วอลนัทนึกไปถึงคำพูดของเจ้านาย ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ว่า เดเตสตับ เคาน์บรูทัล เป็นเสือที่ชอบเล่นกับเหยื่อก่อนสวาปาม ดังนั้น การเจรจาครั้งนี้ เจ้าจงระวังตัวเอาไว้ให้ดี มาบัดนี้ เขาได้เห็นจริงแล้ว

    เอ่อ...ท่านก็รู้คำตอบแล้วนี่ขอรับเขาพูดขึ้นด้วยเสียงตะกุกตะกัก

    ข้าไม่ได้อยากรู้ว่า เขาส่งเจ้ามาด้วยเหตุผลใด แต่ข้าอยากรู้ว่า ทำไม...ศัตรูประจำตระกูลเรา อย่างตระกูลครูเอล ถึงอยากจะมาขอความช่วยเหลือจากข้าเดเตสตับบอกด้วยเสียงราบเรียบ

    เพราะ...เพราะว่า...วอลนัทละล่ำละลัก ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พลางใช้หลังมือปาดเหงื่อใต้คาง

    เพราะว่า เขาคิดว่า ชื่อเสียงนักรบไร้เงาแห่งข้า จะสามารถขู่ขวัญพระเจ้าเวอร์ริแตให้ออกจากบัลลังก์ และเขาจะได้ครองราชย์อย่างชอบธรรม โดยไม่มีใครโต้แย้งได้ เพราะมีข้าหนุนหลังอยู่ ใช่หรือไม่เดเตสตับกล่าวอย่างรู้ทัน มีท่าทีเดือดดาลขึ้น พลางลุกขึ้นมองดูวอลนัทอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ

    วอลนัทจ้องตาสีเทาเย็นเยียบของเดเตสตับ ด้วยอาการตัวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เขาดูตัวเล็กลงไปถนัดตา เมื่อเดเตสตับยืนอยู่เหนือหัวเขา

    ทะ-ท่านรู้...วอลนัทคราง

    ตระกูลเรา ตั้งแต่เริ่มพูดได้ ก็ถูกสอนให้รู้จักมิตรและศัตรู สอนให้รู้จักจุดแข็งและจุดอ่อน และอุปนิสัยใจคอของตระกูลคู่แค้นคู่อาฆาตของเรา ที่มีชื่อว่า ตระกูลครูเอล เราถูกสอนให้แข็งแกร่ง ตั้งแต่อายุห้าขวบ ลูกหลานตระกูลบรูทัลรุ่นหลังมา พอลืมตาดูโลก ก็ไม่เคยร้องไห้แม้แต่ครั้งเดียวเดเตสตับกล่าวด้วยน้ำเสียงภูมิใจอย่างที่สุด ใช่ ข้าเองก็เช่นกัน

    ในเมื่อท่านเคาน์ รู้เรื่องหมดแล้ว...ตกลงว่า ท่านจะเข้าร่วมกับกองทัพกบฏของเราหรือไม่วอลนัทถาม

    เดเตสตับมีท่าทีอ่อนลง ในที่สุดเจ้าหมอนี่ก็พูดออกมาจนได้ เขาทิ้งตัวลงนั่งและแกล้งลอบถอนหายใจ

    เฮนริออน ครูเอล ยังเป็นสมาชิกสภาชนชั้นสูงอยู่อีกหรือเขาถามทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

    ขะ-ขอรับวอลนัทตอบอย่างหวาดๆ

    หึ...น่าขำ ข้านึกว่า การเป็นกบฏ จะทำให้ถูกถอดจากการเป็นสมาชิกชนชั้นสูงเสียอีก แสดงว่า นับแต่ข้าออกจากราชการมา ทำให้เขามีพรรคพวกเยอะขึ้น จากการติดสินบนซื้อตัวพวกนั้น ใช่หรือไม่เดเตสตับถาม

    ทะ-ท่าน...วอลนัทตกตะลึง เคาน์บรูทัลผู้นี้รู้ได้อย่างไร

    แสดงว่าที่ข้าสันนิษฐานและกังวลมานาน มันเกิดขึ้นแล้วสินะเดเตสตับพึมพำ จงจำคำข้าเอาไว้น้ำเสียงเริ่มดังขึ้นอย่างเย็นชาข้าจะไม่มีวันเป็นพวกถ่อยสถุลไร้ยางอายเยี่ยงครูเอล ข้าจะไม่มีวันทรยศหักหลังองค์ราชา หันคมดาบเข้าหาจักรวรรดิหรอก

    ท่านเคาน์ ท่านน่าจะรู้ว่า ขุนนางหลายท่าน เริ่มจะเอาใจออกห่างจากองค์ราชาและราชสำนักแล้ววอลนัทว่า

    แล้วอย่างไร...ข้าไม่ใช่พวกคนถ่อย...ข้าไม่มีวันเป็นอ้ายกบฎทรยศต่อแผ่นดินเดเตสตับตะคอกจนหนังสือในชั้นเริ่มสั่นไหว วอลนัทตัวสั่นเทิ้ม ตามความเห็นข้า ตระกูลครอส ก็แค่พวกพ่อมดที่เลียแข้งเลียข้า คอยประจบประแจงเจ้านายไปวันๆ เป็นพวกสุนัขขี้เรื้อนโสโครก ยิ่งกว่าตระกูลสตีเฟ่น

    ท่านเคาน์!...วอลนัทลุกพรวดขึ้นอย่างโกรธจัด หน้าแดงก่ำจนเกือบจะกลายเป็นเขียวคล้ำ ท่านก็รู้ เวลานี้ ราชสำนักเป็นฝ่ายเสียเปรียบ...ท่านอย่าเอาข้าไปเปรียบเทียบกับพวกโสโครกพวกนั้น!” พูดจบ มืออันสั่นเทาก็เลื่อนมาชี้ที่ใบหน้าของเดเตสตับ

    เดเตสตับยิ้มอย่างเยาะเย้ย ผู้ที่รู้จักเขาดี จะไม่กล้าทำเช่นนี้แน่ เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าเกิดหลังยุคที่ข้ากำลังรุ่งโรจน์หลายสิบปี เจ้าจะมาวางก้ามใหญ่โตกับข้าหรือ

    เห็นนี่ไหม...วอลนัทพูดด้วยเสียงอันดังก้อง เลื่อนนิ้วชี้ที่ชี้หน้าเจ้าของห้อง ให้ดูสิ่งที่เขาสวมอยู่ใกล้ใบหน้าเขา แหวนอำพันวงนี้...แหวนวงนี้...เป็นแหวนประจำตระกูลข้า ต้นตระกูลข้าเป็นเจ้าของบาร์ แต่บุตรชายเขาเป็นถึงลอร์ด ตรองดูเถิดว่า ตระกูลข้ายิ่งใหญ่กว่าพวกโสโครกเป็นไหนๆ

    ต้นตระกูลเจ้า มีชื่อว่าอะไรนะเดเตสตับถาม

    ไนเจอร์รา ครอสวอลนัทคำรามตอบ

    ไนเจอร์รารึ!...เดเตสตับพึมพำ ก่อนจะลุกขึ้นยืนบ้าง

    ท่านตกลงจะเข้าร่วมกับเราหรือไม่วอลนัทถามอย่างหมดความอดทนเต็มที          กลับไปบอกเจ้านายของเจ้าด้วยว่า หากอยากผูกมิตรกับข้า ก็ต้องฉีกสนธิสัญญาระหว่างตระกูลทิ้งเสีย...เดเตสตับตอบอย่างเคร่งขรึม พลางจับดาบที่เหน็บเอาข้างซ้ายเอาไว้ วอลนัทเลื่อนสายตามองดูหัวด้ามจับที่สลักเป็นรูปหัวมังกร ที่โผล่พ้นขอบโต๊ะออกมาด้วยตัวสั่นเทา

    ท่านเคาน์...นั่นท่านคิดจะทำอะไรของท่านเขาถามอย่างหวาดผวา

    ข้าอยากให้เจ้าช่วยไปบอกเขาว่า หลังจากที่เขาฉีกสนธิสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เขาตัดศรีษะหลานชายมามอบให้กับข้า และข้า...จะเข้าร่วมเดเตสตับตอบ ทั้งที่รู้ว่าปู่ไม่มีทางฆ่าหลานชายคนสุดท้ายของตนและของตระกูลแน่

    ทะ-ท่านไม่น่าข่มขู่กันเยี่ยงนี้วอลนัทตัดพ้อ ดวงตาเบิกกว้าง

    ข้าไม่ได้ข่มขู่ หากคนเขลาเยี่ยงเจ้าจะคิดเช่นนั้นก็เชิญ กลับไปได้แล้วเดเตสตับเอ่ย

    วอลนัทมองดูเดเตสตับเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะสะบัดผ้าคลุมเดินออกไปจากห้อง แต่ยังไม่ทันจะไปถึงประตู ดาบเล่มยาวสีเงินก็พุ่งเฉียดแก้มเขามา เข้าไปปักที่บานประตู เขารับรู้ถึงเลือดอุ่นๆที่ไหลออกมาจากแก้ม

    ทะ-ท่านต้องการอันใดอีกเขาถามด้วยอาการตัวสั่นระริก

    ข้ามีข้อข้องใจบางอย่าง เดเตสตับตอบด้วยน้ำเสียงครุ่นคิดรบกวนผู้ยิ่งใหญ่อย่างเจ้า ช่วยตอบคำถามข้าได้หรือไม่

    อันใดหรือขอรับ

    เดเตสตับเดินอ้อมโต๊ะมายังแผ่นหลังของวอลนัท เผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินมาประชิดตัวเขา

    ข้าอยากรู้นักว่า สภามีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับรัชทายาทเขาถามเสียงเย็น

    สภากำลังไตร่ตรองอยู่ว่า จะถวายฎีกาปลดรัชทายาทออกจากตำแหน่งดีหรือไม่ขอรับวอลนัทตอบ รู้สึกเสียวสันหลังวาบ

    หึ...เจ้ามีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้

    ข้าน้อยมิทราบ ข้าน้อยทราบเพียงแต่ว่า รัชทายาทองค์นี้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมยิ่ง

    เฮนริออนพูดว่าอย่างไรบ้างเกี่ยวกับรัชทายาท

    นายท่านครูเอล เสนอให้รัชทายาทดำรงตำแหน่งต่อไปขอรับจนกว่าจะมีผู้เหมาะสมกับราชบัลลังก์มากกว่า

    เดเตสตับเลิกคิ้วขึ้นสูง เขารู้จักกับเฮนริออนมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น เขารู้จักคนผู้นี้ดีกว่าพวกข้ารับใช้ของเขาทั้งมวล ในใจหวนคิดคำนึงว่า เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลซะแล้ว เขาเอื้อมมือไปดึงดาบออกจากบานประตู เผยให้เห็นรอยของมีคมแทงเป็นทางยาว

    เจ้าไปได้แล้วเดเตสตับบอก

    วอลนัทกลับหลังหันมา พร้อมโค้งคำนับขอบคุณด้วยหัวใจลิงโลด เดเตสตับยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม ก่อนจะยกดาบแทงเข้าที่ช่วงท้องของวอลนัทอย่างรวดเร็ว วอลนัทเบิ่งตาค้าง มองดูเดเตสตับอย่างไม่เชื่อสายตา

    ท่านทำอย่างนี้ได้อย่างไรเขาถามพร้อมกระอักเลือดออกมาเป็นสาย มือสองข้ากุมบาดแผลที่ยังมีดาบปักอยู่

    ข้าย่อมทำได้เดเตสตับกล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน พลางถอนดาบออก มองดูวอลนัทคุกเข่าลงตรงหน้า และล้มลงแทบเท้าของเขา หึ...ข้าย่อมฆ่าเจ้าได้

    เดเตสตับเดินมายังรูปวาดรูปหนึ่ง เป็นรูปของชายชราไว้หนวดเคราสีขาวยาวถึงหน้าท้อง ดวงตาสีน้ำตาลอำมหิตนั้นเป็นประกาย สวมเสื้อสีม่วงยาว เขามีรูปร่างสันทัด ใบหน้าของเขาคล้ายเหยี่ยว เขานั่งอยู่บนเก้าอี้มีพนักพิงสูงแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตร

    เขามองดูรูปภาพนั้นด้วยสายตาคิดคำนึง มือข้างซ้ายที่มีแผลเป็นกำแน่นและสั่นเทา ราวกับกำลังคิดถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้เจ็บปวดรวดร้าว แต่ก็คลายออกโดยทันที

    เลือดสีแดงฉานไหลหยดลงมาบนพื้น ปลายดาบที่ชุ่มเลือดส่องแสงเป็นประกายดูเด่นสง่าอย่างน่ากลัว

     

     

    เสียงฟ้าร้องครืนๆดังขึ้นเบื้องนอก เขาหันไปมองนอกหน้าต่างที่เมฆฝนเริ่มก่อตัว และหันกลับมามองรูปวาดอีกรูปหนึ่ง ที่อยู่ทางขวาของรูปพ่อมดบงแต เป็นรูปของหญิงชรานางหนึ่ง

    นางมีหน้าตาดูโหดร้าย ริมฝีปากเม้มตลอดเวลา คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากัน มองดูเหมือนกำลังโกรธอะไรบางอย่าง ดวงตาสีเทาดูว่างเปล่าไร้ชีวิต แต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว ผิวสีขาวซีดเผือด ผมสีทองบลอนด์ยาวรวบเป็นมวยอยู่ข้างหลัง สวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีน้ำตาล

    บานประตูแง้มเปิดออก เดเตสตับหันขวับไปมองผู้มาเยือน พบชายชราผู้หนึ่งเลื่อนตัวเข้ามาและโค้งคำนับต่อผู้สูงกว่า เขามีรูปร่างสูงแค่หัวเข่าของเดเตสตับ หมวกทรงแหลมสีน้ำเงินเก่าปอน สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน ดวงตาเล็กยิบหยี เขามองดูร่างไร้ชีวิตของวอลนัทด้วยท่าทีตกตะลึง

    นะ-นายท่าน...คนแคระครางอย่างไม่อยากเชื่อ

    สลาฟ เอาศพเขาไปฝังไว้ให้ไกลจากที่นี่ อย่าให้ใครเห็นศพนี่เป็นอันขาดเดเตสตับบอกเสียงกร้าว หากมีใครเห็น จงฆ่าทิ้งเสีย

    ขะ-ขอรับ นายท่าน สลาฟรับคำและโค้งคำนับศีรษะแตะพื้น ก่อนจะใช้เวทมนตร์ยกศพออกไปจากห้อง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×