ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Do not come back [KRISTAO]x[CHANTAO]

    ลำดับตอนที่ #2 : Do not comeback 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 280
      2
      19 ส.ค. 58

     


    ปาร์คชานยอล อาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ แน่นอนนอกจากจะเก่งภาษาพูดแล้วภาษากาย ปาร์คชานยอลยังเก่งกับฮวางจื่อเทาด้วยเช่นกัน

     

    อาจารย์หนุ่มพยายามสอนโดยให้มีสติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามบอกกับตัวเองว่าให้ตั้งใจสอนก่อนค่อยไปคิดถึงเรื่องของจื่อเทาที่ตอนนี้ยังไม่ยอมตอบแชทของเขาที่ส่งไปให้ตั้งแต่เช้า แถมตอนสอนในคาบที่จื่อเทามีเรียนกับเขาคนรักของเขากลับไม่ได้มาเรียนซะอย่างงั้น ไม่มีแม้แต่การโทรมาบอก จะให้เขาไม่สติหลุดได้ยังไงกัน

     

    จื่อเทานะจื่อเทา ดื้อกับเขาอีกแล้วสินะ

     

    พอหมดคาบสอน ปาร์คชานยอลรีบตรงไปยังห้องพักพร้อมเก็บข้าวของอย่างเร่งรีบ ต้องรีบกลับไปคุยกับไอ้ดื้อให้รู้เรื่องนอกจากจะไม่ยอมตอบแชทแล้วโทรไปก็ยังไม่ยอมรับอีก ได้เจอดีแน่ฮวางจื่อเทา

     

    “อาจารย์ชานยอลคะ คือฉันมีเรื่องขอร้องให้อาจารย์ช่วยหน่อยได้ไหมคะ” ยังไม่ทันที่ขายาว ๆ ของตนก้าวพ้นขอบประตูห้องพักเสียงหญิงสาวของอาจารย์คนสวยสุดอึ้มประจำวิชาพละก็ทำให้ขาของเขาต้องหยุดชะงัก หันไปมองหญิงสาวที่มองเขาด้วยใบหน้าเศร้า ๆ

     

    “เรื่องอะไรหรอครับ” ถึงเขาจะรีบมากสักแค่ไหนแต่ด้วยที่เขาเป็นผู้ชายแล้วมีผู้หญิงมาขอความช่วยเหลือถ้าไม่ช่วยก็คงโดนมองว่าไม่ดี ถึงจะไม่เต็มใจอยากจะช่วยแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี

     

    “คือรถของฉันมีปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ ถ้าอาจารย์ไม่ว่าอะไรฉันขอติดรถอาจารย์กลับได้ไหมคะ” ชานยอลมองนาฬิกาที่ข้อมือของตนเห็นเวลาที่บ่งบอกว่าเกือบจะห้าโมงเย็น ก็แอบถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้หญิงสาวตรงหน้า

     

    “ขอบคุณมากนะคะอาจารย์” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเดินตามชานยอลไปที่ลานจอดรถของมหาลัย ตลอดทางเดินที่ทั้งคู่เดินผ่านมีสายตาของนักศึกษาหลายคู่ที่มองพวกเขาด้วยสายตาหลากหลาย บางคนก็ซุบซิบนินทาบางคนก็พูดออกมาให้พวกเขาได้ยิน ว่าคบกันบ้างล่ะ บางคนก็บอกว่าเหมาะสม ชานยอลนี่แทบอยากจะยกโทรศัพท์ของตนขึ้นมาแล้วเปิดรูปจื่อเทาโชว์คนพวกนั้นดูแล้วตะโกนให้ดังลั่นว่าคนในรูปเนี่ย แม่ทูนหัวของเขา เสียจริง

     

    “อาจารย์คะ อย่าไปถือสาเลยนะคะ” หญิงสาวที่เดินตามเขามาคงรับรู้ว่าเขารู้สึกไม่ดีถึงพูดออกมาก่อนมือบางนั้นจะมากุมมือของเขา ชานยอลรีบยกมือของตนหนีทันที

     

    “ขอโทษค่ะ” หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเสียหน้าที่โดนอีกฝ่ายยกมือหนี จนชานยอลที่พึ่งรู้ตัวว่าทำไม่ดีก็หันไปขอโทษขอโพยก่อนจะตอบหญิงสาวไปว่าไม่ได้ถือสาอะไรกับนักศึกษาพวกนั้น พอมาถึงลานจอดรถชานยอลก็ไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายได้ขึ้นไปนั่งบนรถ ถึงแม้ว่าเขาจะแอบถอนหายใจไปหลายครั้งก็ตาม ถ้าจื่อเทารู้มีหวังโดนงอนไปอีกนาน แต่เขาก็ไม่ได้เต็มใจสักหน่อยนี่

     

    “ช่วยบอกเส้นทางให้ผมด้วยนะครับ”

     

     

     

     

     

     

     

     

    กว่าชานยอลจะไปส่งอาจารย์สาวเสร็จก็หมดเวลาไปเกือบชั่วโมง เขาไม่รู้หรอกนะว่าหญิงสาวจงใจบอกเส้นทางเขาผิดหรือเปล่าถึงให้เขาขับรถวนไปวนมาหลายรอบจนเสียเวลาไปมาก เฮ้อ อยากถอนหายใจให้กับนิสัยสุภาพบุรุษเกินไปของตัวเองเสียจริง

     

    ป่านนี้จื่อเทาจะกินข้าวเย็นหรือยัง

     

    คิดได้ดังนั้นชานยอลก็รีบขับรถกลับคอนโดของตัวเองอย่างเร็ว โดนงอนมาไม่คุ้มเลยจริง ๆ แล้วจื่อเทาง้อยากยิ่งกว่าอะไร ง้อทีเสียเงินเกือบเป็นแสนนะครับจะบอกให้ ก้มมองเงินในกระเป๋าตัวเองแล้วใจหายแล้วเมื่อไหร่จะมีเงินเยอะพอไปสู่ขอจื่อเทากับพ่อแม่ของจื่อเทาที่จีนล่ะเนี่ย

     

    พอถึงห้องตัวเอง ปาร์คชานยอล ก็แทบอยากสาปให้ตัวเองเป็นผู้ชายใจร้ายเสียจริง โดนงอนหนักแน่งานนี้ เมื่อสายตามองไปเห็นคนรักที่กำลังยืนมองเขาอย่างไม่พอใจ

     

    “ไป ไหน มา ครับ” จื่อเทาเน้นเสียงหนักแน่นทุกถ้อยคำก่อนจะมองมาที่ชานยอลด้วยสายตาจับผิด โดนหนักแน่ปาร์ชานยอล ปกติไม่เคยกลับห้องเกิน 6 โมงเย็น แต่ตอนนี้มันทุ่มกว่า ๆ ไปแล้ว

     

    “คือมีอาจารย์เขาขอร้องให้พี่ไปส่งนะครับ รถอาจารย์เขามีปัญหา” แน่นอนชานยอลเลือกที่จะพูดความจริงเสมอ แต่ก็นะยังไงก็โดนงอนอยู่ดี

     

    “ผู้หญิงหรือผู้ชาย” น้ำเสียงของจื่อเทาเริ่มเปลี่ยนไปจากที่ตอนแรกดูโมโหตอนนี้กลับเป็นเสียงที่แผ่วเบาจนคนฟังอย่างชานยอลใจหาย เขารู้ดีว่าจื่อเทากำลังกลัว กลัวโดนเขาทิ้ง

     

    “ผู้หญิงครับ แต่พี่สาบานได้เลยว่าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขา จะให้พี่ปฏิเสธเขาพี่ก็ทำไม่ได้ยังไงเขาก็เป็นผู้หญิง” ชานยอลมองใบหน้าของจื่อเทาที่มันกลับดูแย่ลงเมื่อเขาอธิบายออกไปแบบนั้น แล้วเขาก็ต้องมาสะฮึกกับคำพูดของจื่อเทา

     

    “งี้ถ้าเกิดพี่พลาดไปทำเขาท้อง ยังไงพี่ก็ต้องรับผิดชอบเขาด้วยใช่ไหม เพราะยังไงเขาก็เป็นผู้หญิง” จื่อเทาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สายตาที่มองมายังเขาดูเศร้าจนชานยอลต้องรีบเข้าไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น

     

    “เรื่องแบบนั้นมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด เชื่อพี่นะครับจื่อเทา” ไม่มีทางที่เขาจะพลาดทำเรื่องอะไรแบบนั้นแล้วทำให้คนที่เขารักต้องเสียใจ

     

    “ฮึก ผม...ผมกลัว”

     

    “โอ๋ ๆ ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะไม่มีวันทำให้จื่อเทาต้องเสียใจ เชื่อพี่นะครับ เชื่อพี่” ชานยอลปลอบคนในอ้อมกอดก่อนจะยกมือหนาขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้กับคนรักเบา ๆ พอจะดื้อก็ดื้อซะพอจะน่าสงสารก็ทำเอาใจของเขาเป็นกังวลแทบบ้า

     

    จื่อเทาพยักหน้ารับก่อนจะพยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอีก “แล้ววันนี้ทำไมไม่ไปเรียนครับ รู้ไหมว่าพี่รอเจอหน้าเราใจแทบขาด” ชานยอลพาตัวจื่อเทามานั่งบนโซฟาถึงแม้ว่าเขาจะยกตัวจื่อเทามานั่งบนตักของเขาอีกทีก็ตาม ถึงจื่อเทาจะส่วนสูงพอ ๆ กับเขาแต่ก็นะสัดส่วนบนร่างกายของจื่อเทามันต่างกับเขามากไหนจะเอวคอด ๆ ขาเรียวสวยหน้าอกแน่น ๆ เขาต้องอดทนห้ามใจไม่ให้ทำเรื่องอย่างว่ามากแค่ไหนลองคิดดูสิ

     

    “ก็ผมอยากทำอะไรให้พี่ชานยอลบ้างนิ เลยหยุดเรียนไปซื้อของเข้าครัวอยากทำอาหารที่พี่ชานยอลชอบให้กิน” พอจื่อเทาพูดแค่นั้นชานยอลก็ฉีกยิ้มกว้างพร้อมขโมยหอมแก้มจื่อเทาไปเต็มรัก

     

    “แล้วไหนล่ะครับ เอามาสิพี่จะกินให้หมดเกลี้ยงไปเลย” แขนหนาของชานยอลกระชับกับเอวคอดของจื่อเทากอดให้แน่นขึ้นพร้อมพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังของจื่อเทาที่มีเสื้อยืดบาง ๆ กลั้นผิวสีน้ำผึ้งน่าทำรอยนั้นเอาไว้

     

    “เททิ้งไปหมดแล้ว” จื่อเทาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่ก็เพราะอีกฝ่ายอย่างกลับมาช้าเองนี่ ก็คนมันงอนเลยเททิ้งไปหมดเลย ชานยอลหัวเราะกับน้ำเสียงของอีกฝ่ายอย่างนึกเอ็นดู

     

    “พี่ขอโทษนะครับ อดกินฝีมือจื่อเทาเลย” ชานยอลพูดออกมาอย่างนึกเสียดายที่ไม่ได้กินอาหารฝีมือจื่อเทา แต่อยู่ ๆ จื่อเทาก็พูดประโยคที่ทำให้หัวใจของชานยอลแทบวาย

     

     

     

    “กินผมแทนไปก่อนได้ไหมครับ”

     

    แถมน้ำเสียงที่พูดช่างดูออดอ้อนจนอารมณ์ของชานยอลที่เก็บอาการมาระเบิดออกมาทันที พูดเองนะครับ แบบนี้พี่จะกินให้เรียบเลยจะกลืนกินให้อิ่มไปอีกสักปี2ปี

     

     

     

     

     

     

     

     

    “จื่อเทาคิดได้หรือยังครับว่าจะไปฝึกงานที่ไหน” กว่าเมื่อคืนชานยอลจะกินจื่อเทาเสร็จก็เกือบเช้า ไม่หื่นจริงอย่างชานยอลทำไม่ได้หรอกครับ

     

    “ไม่รู้อ่ะครับ พี่ชานยอลช่วยหาให้ผมหน่อยสิ” จื่อเทาพูดพร้อมกับเอามือของตนไปหยิกแก้มคนรักเบา ๆ ใจจริงเขาอยากจะหยิกให้แรง ๆ ที่อีกฝ่ายชอบหื่นใส่เขาเกินเหตุ มีแฟนอย่างชานยอลต้องทำใจ ไม่รู้ว่าอีกคนมาเป็นอาจารย์สอนภาษาได้ยังไงน่าจะไปเป็นอาจารย์สอนเพศศึกษามากกว่า ทฤษฏีเอาไปสอนกับคนอื่นแต่ปฏิบัติเอามาสอนกับเขาสองต่อสองก็พอ

     

    “เราเรียนคณะบริหารใช้ไหมล่ะ พี่มีเพื่อนเป็นเจ้าของบริษัททำเกี่ยวกับธุรกิจอย่างนึงมันพึ่งย้ายมาจากจีน พี่ว่าจื่อเทาไปฝึกงานเป็นเลขาให้เพื่อนพี่ก็ได้นะ คนจีนเหมือนกันด้วย” สิ่งที่ชานยอลพูดมามันน่าสนใจระดับนึงในความคิดของจื่อเทาแต่จื่อเทาก็อยากฝึกงานที่มันได้อยู่ใกล้ชิดกับคนรักมากกว่า ซึ่งแน่นอนมันเป็นไปไม่ได้

     

    “น่าสนใจดีนะครับ พี่ลองคุยกับเพื่อนพี่ให้ผมทีนะ แต่ผมอยากฝึกงานที่มันใกล้กับพี่ชานยอลอ่า” จื่อเทาพูดออกไปด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ซุกหน้าลงกับอกแกร่ง อยากอยู่ในอ้อมกอดอุ่น ๆ ของชานยอลไปนาน ๆ หวังว่าอ้อมกอดนี้จะเป็นของเขาตลอดไป

     

    “ถ้าจื่อเทามาฝึกงานใกล้ ๆ พี่มีหวังจื่อเทาไม่ได้ฝึกงานหรอกครับ”

     

    “พี่ชานยอลนี่เมื่อไหร่จะเลิกหื่นครับ ตัวผมช้ำไปหมดแล้วนะรอยจูบของพี่เต็มตัวผมไปหมดแล้วเนี่ย” พูดแล้วจื่อเทาก็อยากจะร้องไห้เวลาไปเรียนทีก็ต้องแต่งตัวให้มิดชิดบางทีก็โดนไอ้พวกเพื่อนตัวดีแกล้งเปิดเสื้อบ้างละปลดกระดุมบ้างล่ะ จนไอ้รอยแดง ๆ เป็นจ้ำ ๆ โผล่พ้นมาให้คนอื่นได้เห็นเล่น แล้วคิดหรอว่าคนพวกนั้นจะคิดว่าเป็นรอยยุงกัดหรือรอยเกา

     

    “หื่นอะไรกันครับ ก็จื่อเทาอ่อยพี่เองนะ”

     

    “ผมอ่อยอะไรพี่ไม่ทราบ”

     

    “แค่หายใจจื่อเทาก็อ่อยพี่แล้วครับ”

     

    “ไอ้พี่ชานยอล”

     

    ไม่ต้องถามว่าปาร์คชานยอลโดนตีไปกี่ที ที่แน่ ๆ จื่อเทาโดนชานยอลเอาคืนมากกว่านั้นเยอะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×