คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Jigsaw - INTRODUCTION
Jigsaw
-Introduction-
ผมยังจำได้ดีว่าตอนนั้นผมอายุได้แค่เจ็ดขวบ
มันเป็นวันที่เย็นพอสมควร เพราะตอนนั้นเป็นช่วงหน้าหนาวพอดี ผมเดินกลับบ้านที่ห่างจากโรงเรียนแค่สองป้ายรถบัส ผมไม่หวังอะไรมากเมื่อกลับไปถึงบ้าน เพราะทุกคนไม่มีใครสนใจผมอยู่แล้วด้วยซ้ำ ผมค่อยๆเดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยเล็กๆจนมาถึงบ้าน... ผมเปิดประตูรั้วบานใหญ่ออกก็พบกับสุนัขโกลเด้นตัวใหญ่สีน้ำตาลอ่อนสองตัว มันรีบเข้ามาต้อนรับผม แน่ล่ะก็เพราะมีมันนั่นแหละผมถึงอยู่ในบ้านหลังนี้ได้โดยไม่รู้สึกเหงา ผมเล่นกับมันอยู่ซักพักแล้วค่อยเข้าไปในตัวบ้าน
“กลับมาแล้วฮะ”
ผมปิดประตูอย่างเบามือ และได้ยินเสียงที่คุ้นเคยกับมันมาตั้งแต่ผมย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ มันไม่ใช่เสียงพูดคุย ทะเลาะ หรือ ดุด่า แต่เป็นเสียงที่ว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เสียงของการสนทนา แต่มีเพียงเสียง โทรศัพท์ และเครื่องพิมพ์เอกสารต่างๆ.. รู้ทั้งรู้ว่าถึงจะพูดอะไรออกไปเขาคนนั้นก็ไม่มาสนใจอะไรด้วยถึงอย่างนั้น ผมก็ทำมันเหมือนกับทุกครั้ง
“พ่อครับ ผมกลับมาแล้ว...”
ไร้ซึ่งเสียงใดๆ มีแต่เพียงเสียงคุยโทรศัพท์ กับเสียงของแป้นพิมพ์ดังระงมอยู่ทั่วบ้าน แน่ล่ะก็คงไม่พ้นเรื่องงานอยู่ดี ชีวิตของพ่อผมก็มีแต่งานกับงาน แม่ของผมที่ทนไม่ไหวจึงย้ายไปอยู่ที่อเมริกา ทิ้งผมให้อยู่กับพ่อสองคน ไม่รู้ทำไมเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ทีไรน้ำตามันไหลซะจนน่ารำคาญ
“พ่อครับ ผมออกไปเล่นข้างนอกนะ”
ผมไม่รอเสียงตอบรับใดๆเพราะรู้ว่าคงไม่มีเสียงนั้นตามมา ผมปล่อยให้สุนัขสองตัวนั้นตามออกมาเป็นเพื่อนด้วย ขาของผมเดินไปยังที่ที่ไม่มีจุดหมายปลายทาง สองมือเกาะสุนัขตัวโปรดเดินอย่างไร้จุดหมาย ผมเดินมาถึง..สนามเด็กเล่น ผมมองออกไปพบเด็กเล็กน้อยใหญ่กำลังยิ้ม หัวเราะกันอย่างสนุกสนานโดยมีผู้ปกครองดูอยู่ใกล้ๆ ผมอิจฉา..อิจฉาพวกเขาที่มีครอบครัวที่อบอุ่น อิจฉาที่เขามีพ่อ แม่ ลูก..อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาและอิจฉาที่พวกเขามีความสุข..ผมอยากมีความสุขแบบนี้จัง
18.56 A.M.
ตอนนี้ก็เป็นเวลาเย็นแล้วอีกไม่กี่นาทีก็คงจำค่ำ เด็กทุกคนที่อยู่ในสนามเด็กเล่นต่างพากันแยกย้ายกลับบ้าน เหลือแต่ผมที่ยังนั่งอยู่ที่ชิงช้าไม่ไปไหน ผมมองสุนัขตัวโปรดที่นอนเฝ้าผมอยู่
“ชั้นรู้ พวกแกอยากกลับบ้านแล้วใช่มั้ยล่ะ แต่ชั้นขออยู่แบบนี้อีกแปปนึงได้มั้ย?”
พวกมันมองหน้าผมเหมือนเป็นเชิงว่าอย่านานนักล่ะ
“ไม่ได้”
ผมหันไปมองเจ้าของเสียงนั่น แล้วทำหน้าเป็นเชิงไม่เข้าใจ
“ไม่ได้ ต้องกลับเดี๋ยวนี้ไม่งั้นฮยองจะไม่สบายเอานะ”
ผมมองหน้าบุคลที่มาใหม่ที่ดูท่าว่าอายุน่าจะอ่อนกว่าผมซักหนึ่งปีหรือสองปี เค้าดึงมือผมให้เป็นเชิงว่า เดินตามมาสิ นั่นทำให้ผมจึงต้องเดินตามเค้าไปอย่างเก่ๆกังๆ
“แม่ครับบ ดูสิผมพาใครมา”
“นี่จอน จองกุก!แม่บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่า..เอ๊ะนั่นใครหรอลูก”
ท่าทางของหญิงที่น่าจะมีอายุไล่เลียกับแม่ของตนเปลี่ยนไปเมื่อเห็นเด็กชายแปลกหน้าอย่างเขาเข้ามาในบ้านพร้อมกับสุนัขทั้งสองตัว
“ผมก็ไม่รู้หรอกครับเห็นพี่เข้านั่งเล่นชิงช้าอยู่กับเจ้าตูบสองตัวนี้เนี้ย เห็นว่าอากาศมันเย็นเลยพามาด้วย”
พูดไม่พอยังจะเอามือมาลูบหัวเจ้าสุนัขของผมอีก
“อ่อจ่ะ ...แล้วหนูชื่ออะไรหรอจ่ะ?”
“แทฮยอง..คิม แทฮยองฮะ”
“หนูแทฮยองนี่เอง นี่จองกุก ลูกชายน้านะจ่ะ”
พูดจบแม่ของเขาก็แนะนำเด็กผู้ชายคนตรงหน้าให้รู้จัก
“ยินดีรู้จักฮะ ฮยอง”
“ยินดีรู้จักเช่นกันน จองกุก”
ผมเผยยิ้มออกมานั่นทำให้คุณแม่ของเขายิ้มและชวนคุยอยู่เป็นเวลาระยะหนึ่ง ผมพูดคุยกับคุณแม่ของเขาและเขาเองถึงเรื่องครอบครัวของผม และเรื่องอื่นๆอย่างสนุกสนานในแบบที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน ..นี่สินะความสุข ผมนึกในใจ
“อ่ะ! จะสองทุ่มแล้วนี่จ่ะ แล้วบ้านหนูแทฮยองอยู่ไหนหรอ?น้าจะได้ไปส่ง”
“อยู่ใกล้ๆนี่เองฮะ ทัดจากที่นี่ไปประมาณสามป้ายรกบัสเอง”
“งั้นเดี๋ยวน้าเดินไปส่งนะจ่ะ”
คุณแม่ของเขาทำหน้าเป็นห่วง
“ม..ไม่ ไม่เป็นไรฮะ แค่นี้ก็รบกวนมากแล้ว งั้นผมกลับนะฮะ”
พูดจบผมก้มโค้งให้อย่างรู้มารยาท แล้วเดินเกาะเจ้าสุนัข ก่อนที่ผมจะก้าวเท้าออกจากบ้านหลังนั้นมีเสียงดังขึ้นว่า
“ฮยองมาที่นี้ได้ตาต้องการเลยนะ ผมจะรอ”
ผมจะรอ.. อะไรกันคำแค่นี้ทำให้ผมมีความสุขขนาดที่ยิ้มจนแก้มจะแตกได้อยู่แล้วหรอ?
“อื้อ! นายต้องรอชั้นนะ”
“ผมสัญญาฮะว่าจะรอ ฮยองห้ามหนีผมด้วยล่ะ”
“สัญญาสิสัญญา”
ผมเกี่ยวก้อยสัญญากับจองกุก สังเกตได้ว่าจองกุกแก้มแดงด้วยแหละ น่ารักจัง..
เวลาแห่งความสุขมันช่างผ่านไปเร็วจริงๆ แต่ความสุขนั่นก็หายวับไปกับตาในเมื่อผมกลับมาที่บ้านแล้วต้องพบกับโชคชะตาที่กลั่นแกล้ง
“แกต้องไปอยู่กับแม่แกที่L.A”
“ไม่!! ผมไม่ไปเด็ดขาดพ่อจะทำกับผมแบบนี้ไม่ได้นะ!”
ผมขืนเสียงแข็ง
“แกเลือกไม่ได้ตั้งแต่เริ่มแล้ว ดังนั้นใช่บอกให้ไปแกก็ต้องไป!”
“ฮ..ฮึก..แต่พ่อฮะผมไม่..”
“แกต้องไป!ไม่มีแต่ เข้าใจมั้ย!”
“ฮ..ฮึก ฮือ..อ!”
ผมวิ่งออกจากบ้าน ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้เสียใจขนาดนี้ เป็นเพราะว่าผมผูกผันกับที่นี่? หรือเป็นเพราะจองกุก? ผมไม่อยากไปเลยจริงๆผมไม่อยากจากจองกุกไปไหน..ไม่อยาก.. ผมจะหนี..หนีไปให้ไกลจากที่นี่
.
.
.
.
.
.
...ในวันรุ่งขึ้นของตอนเช้าพ่อของผมหาตัวผมจนเจอและส่งผมไปที่สนามบินทันที ไม่มีการพูดคุยในขณะนั่งรถไปยังสนามบิน มีแต่เสียงสะอื้นของผมและน้ำตา ผมยังไมได้กล่าวลาจองกุกเลย ผมเสียใจและกลัวเค้าจะเข้าใจผมผิด ในเวลาต่อมาผมถูกส่งตัวให้ขึ้นเครื่องและออกจากท่าของสนามบินอินชอน ผมมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพึมพำกับตัวเองในใจว่า
“บ๊ายบาย..จอน จองกุก..”
“Jigsaw”
NEXT..
- EP.1 FIRST PIECE-
ความคิดเห็น