ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ป่วนนัก รักซะเลย (จบบริบูรณ์)

    ลำดับตอนที่ #2 : โรงเรียนเเห่งใหม่ (1/3+2/3+3/3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 647
      3
      13 ธ.ค. 57

    รมิตาเดินทําหน้ามุ่ยไปตลอดทางที่เดินเพื่อมุ่งตรงสู่ห้องพักของเธอ ในความคิดของรมิตาตอนนี้ที่มีต่อรูมเมตของเธอคือผู้หญิงเนิรดๆ เเต่งตัวเชยๆ หน้าตามอมเเมมๆคนนึง เเต่เมื่อเลขาของนฤชิตเปิดประตูห้องไป รมิตาก็ได้พบกับหญิงสาวหน้าสวยหวาน สไตล์น่ารักน้อมเเน้มๆที่พิดกับความคิดเธอไปบ้าง เเต่ดูจากการเเต่งตัวของรูมเมตสาวตรงหน้าก็รู้ว่าเป็นเด็กเรียนไม่ใช่เด็กบ้าบิ่นเหมือนกับเธอ
    "สวัสดีจ๊ะ เราชื่อนิลน่ะ" นิลเนตรยื่นมืออกไปหารมิตาด้วยความเป็นมิตรเเต่รมิตากลับเชิ่ดหน้าไม่สนใจเเล้วเดินเข้าไปดูรอบๆห้องที่ไม่ค่อยถูกตาเธอเสียเท่าไหร่เพราะห้องนี้มันช่างมีป้ายเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะต้องนอนภายในเวลาเท่าไหร่ ห้ามโดดเรียน ห้อมนู้นห้ามนี้สารพัด ชีวิตของรมิตาตอนนี้มันคงไม่ต่างจากการตกนรกทั้งเป็นเสียเเล้ว
    "ผมพอใจครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมฝากคุณช่วยดูยัยโซ่ให้หน่อยน่ะครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปทําเรื่องเอกสารในการย้ายตัวของยัยโซ่มาอยู่ที่นี่อย่างถาวรก่อน" อุดมยิ้มให้เลขาของนฤชิตเเล้วพาตัวของเขาเดินออกไปจากที่เเห่งนี้เพื่อมุ่งตรงไปทําเรื่องย้ายเข้าของรมิตา
    "พ่อไม่เอา....โซ่ไม่อยู่" รมิตาจะเดินตามไปเเต่เลขาของนฤชิตคว้าตัวไว้ก่อน รมิตาเลยเดินไปขึ้นเตียงของเธออย่างหมดหวังเเล้วค่อยๆเอาหัวของตัวเองทุบหมอนด้วยความเจ็บใจ
    "หมดกันชีวิตฉัน! ฮือๆๆๆๆ"
    นํ้าตาของรมิตาไหลพร่วงออกมา นิลเนตรที่มองดูอยู่ก็ทําตาลอยๆเพราะนิลเนตรก็หวังอยากที่จะได้รูมเมตซี่งมีความเป็นมิตร เเล้วเข้ากับเธอได้เเต่ที่นิลเนตรเห็นในตอนนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะสร้างความเป็นเพื่อนกับหญิงสาวตรงหน้าของเธอในตอนนี้ได้
     
    อุดมเซ็นเอกสารทั้งหมดเพื่อยินยอมให้รมิตาอยู่ที่โรงเรียนเเห่งนี้ เขาหวังว่ารมิตาจะเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาเพื่ออนาคตที่สดใสของตัวรมิตาเองเพราะถ้าขืนรมิตายังไม่ปรับปรุงตัว รมิตาก็จะมีปัญหาในการอยู่ร่วมในสังคม
    "พี่ฝากยัยโซ่ด้วยน่ะหนึ่ง" 
    อุดมวางปากกาที่ใช้เซ็นเอกสารเเล้วเงยหน้าสบตานฤชิต
    "พี่อุดมไม่ต้องห่วงไปหรอกครับ เดี๋ยวผมกับทางโรงเรียนจะช่วยกันดูเเลลูกโซ่ให้ได้อย่างดีที่สุดครับ" นฤชิตพูดขึ้นอย่างหวังดี
    "ขอบใจมากน่ะหนึ่ง ถ้าหนึ่งมีอะไรก็โทรมาหาพี่ได้น่ะ" 
    อุดมยื่นมือมือเข้าไปจับมือครูใหญ่ใบหน้าคมเข้มที่ก็ได้ตอบสนองจับมือของนฤชิตกลับเช่นกัน เขารู้ว่าการจะต้องดูเเลรมิตาคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเเต่เขาก็มั่นใจว่าเขามีความสามารถพอที่จะทําได้
     
    รมิตากําลังโทรเล่าเรื่องทั้งหมดให้อภินันท์ฟังด้วยความเกรี้ยวโกรธ นํ้าเสียงของรมิตาตอนนี้เปรียบดั่งอสูรร้ายที่กําลังพ่นพิษระเบิดออกมา นิลเนตรที่อยู่ในห้องนั้นก็ทําได้เพียงเเต่รับฟังเเล้วถอนหายใจเพราะเธอไม่มีสมาธิที่จะอ่านหนังสือเนื่องจากที่ว่าเสียงของรมิตานั้นมันช่างดังสนั่นเหลือเกิน 
    "กอลฟ์รู้ไหมว่าโซ่เกลียดที่นี่มากเเค่ไหน! โซ่เกลียดห้อง! เกลียดทุกอย่าง! โซ่อยากตาย! โซ่ไม่อยากอยู่เเล้ว!" รมิตาค่อยๆร้องไห้ออกมา นิลเนตรได้เเต่มองเเล้วตะลึงไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องเเค่นี้จะทําให้ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงถึงกับอยากที่จะคิดฆ่าตัวตายได้
    "โซ่....ใจเย็นๆก่อนน่ะ กอลฟ์รักโซ่น่ะ เดี๋ยวกอลฟ์จะค่อยๆคิดหาทางออกให้โซ่เองน่ะ" อภินันท์ปลอบโยนเเฟนสาวของเขา
    "เมื่อไหรล่ะกอลฟ์ โซ่ไม่อยากที่จะทนอยู่ในสภาพนี้อีกต่อไปเเล้วน่ะ ฮือๆๆๆ" เด็กเอาเเต่ใจค่อยๆร้องไห้ออกมาต่อด้วยความอัดอั้นใจ
    "อีกไม่นานหรอก เเต่ว่าตอนนี้โซ่ต้องทนไปก่อนน่ะ รู้ไว้เเค่ว่ากอลฟ์รักโซ่ก็พอ" อภินันท์ปลอบหญิงสาวที่ร้องไห้อยู่ นิลเนตรจึงได้เเต่ส่ายหัวเพราะตั้งเเต่ที่นิลเนตรเกิดเป็นคน นิลเนตรยังไม่เคยพบเจอกับใครที่เอาเเต่ใจได้เท่ารมิตามาก่อนเลยในชีวิต
     
    ผ่านไปเป็นเวลานับชั่วโมงรมิตาก็ยังไม่วางสายโทรศัพย์จากอภินันท์ นิลเนตรเองก็ได้เเต่ทนทําใจรับฟังเพราะรู้เเล้วว่าวันนี้นิลเนตรคงไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือของเธอเเน่ๆ เเล้วจู่ๆโชคชะตาก็เข้าข้างนิลเนตรเมื่อหน่มหล่อมากอายุอย่างนฤชิตเปิดประตูเข้ามาที่ห้องของเธอ
    "เป็นยังไงบ้างโซ่" 
    นฤชิตเรียกชื่อของรมิตาเสียงเข้ม 
    "เอ่อ....เเค่นี้ก่อนน่ะกอลฟ์" 
    รมิตาวางสายเเล้วหันหน้าเงยขี้นไปมองใบหน้าคมเข้มของนฤชิต
    "มีอะไรเหรอค่ะอาหนึ่ง"
    คําว่าอาหนึ่งเข้าไปสดุดหูของนิลเนตรเพราะว่าในโรงเรียนนี้มีเเต่คนกลัวนฤชิตเสียยิ่งกว่าอะไร เเต่รมิตากลับมาเรียกเขาว่าอาอย่างสนิทสนม นิลเนตรเลยพอเดาได้ว่าเขาทั้งสองคนคงสนิทกันมาก่อน
    "โรงเรียนนี้เขาไม่อนุญาติให้ใช้โทรศัพย์น่ะโซ่"
    นฤชิตยื่นมือเตรียมออกมารับโทรศัพย์จากมือของเธอเเต่คนกําลังจะถูกยึดของอ้าปากค้างเพราะตั้งเเต่เธอเกิดมาเธอยังไม่เคยอยู่ห่างโทรศัพย์ของเธอเลยเเม้เเต่ครั้งเดียว นฤชิตเห็นว่ารมิตายังนิ่งเลยเดินเข้าไปเเย่งโทรศัพย์ออกมาจากมือของรมิตาด้วยตัวของเขาเอง
    "ขอบใจน่ะ งั้นเดี๋ยวอากลับก่อนน่ะ มีอะไรก็เดินไปเรียกคนคุมหอให้มาจัดการให้ก็เเล้วกัน" นฤชิตทิ้งท้ายเเล้วเดินออกไปจากห้องเเห่งนี้ปล่อยให้หญิงสาวคนสวยจอมเอาเเต่ใจเอาหัวเข้าไปซุกกับหมอนด้วยความเจ็บใจว่าทําไมที่เเห่งนี้มันถึงได้โหดถึงเพียงนี้
     
    เมื่อตกดึกคนไม่มีอะไรทําก็ได้เเต่มองไปรอบๆห้อง เพราะตอนนี้โทรศัพย์เธอก็ไม่มี อินเทอร์เน็ตเธอก็ไม่มี เธอจึงเล่นคอมพิวเตอร์ของเธอไม่ได้ ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจทักทายนิลเนตรขึ้นมาเพราะดูเหมือนว่านิลเนตรจะเป็นสิ่งเดียวที่จะสื่อสารกับเธอได้ในยามนี้
    "เธอชื่อว่าอะไรน่ะ" 
    รมิตาทักนิลเนตรขึ้นเสียงสูง
    "เราเหรอ....."  นิลเนตรมองหน้ารมิตาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
    "อืม ถ้าไม่ใช่เธอเเล้วจะเป็นใคร" 
    "เราชื่อนิลจ๊ะ เธอชื่อว่าโซ่ใช่ไหม เราได้ยินครูหนึ่งเรียกชื่อของเธอเมื่อกี้นี้" นิลเนตรถามรมิตาที่ตอนนี้กําลังพยักหน้าให้เธออยู่
    "ฉันถามจริงๆเถอะน่ะ เธออยู่ที่นี่เเล้วเธอมีความสุขเหรอ"
    จากที่รมิตามองดูเเล้วโรงเรียนนี้ท่าทางจะมีเเต่ความทุกข์เเต่ทําไมเววตาของนิลเนตรกลับดูเหมือนคนมีความสุขเพราะรมิตาไม่คิดว่าโรงเรียนในสภาพเบบนี้จะมอบความสุขให้กับใครได้
    "ก็มีน่ะ ที่เเห่งนี้ก็เหมือนบ้านอีกหลังของทุกคนน่ะเเหล่ะ เเถมยังให้ความรู้กลับมาอีกด้วย" นิลเนตรตอบไปตามที่ใจคิด
    "เเหวะ" รมิตาเเขวะเสียงนิลเนตรเลยเดินเข้าไปจับมือของเธอไว้
    "เรารู้น่ะว่าเธอไม่ชอบที่เเห่งนี้ เเต่เธอไม่ต้องคิดมากหรอก ถ้ามีอะไรให้เราช่วยก็บอกเราได้" นิลเนตรพยายามที่จะผูกมิตรไว้กับรมิตาเพราะคิดว่าการผูกมิตรมันก็ดีกว่าการที่จะต้องเป็นศตรูกัน รมิตาเองก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดําอะไร พอได้ยินนิลเนตรพูดขึ้นมาเบบนี้จึงตัดสินใจยอมยิ้มให้นิลเนตรกลับเพื่อไม่ให้นิลเนตรเสียนํ้าใจ
    "ขอบใจน่ะ" รมิตาเอ่ยขึ้น นิลเนตรเลยพยักหน้าสบตามองรมิตาที่พอได้พูดคุยเเล้วสัมพัสเข้าด้วยตัวเองจริงๆ รมิตาก็ไม่ได้ดูเลวร้ายเหมือนอย่างที่เธอวางภาพไว้ในใจตอนเเรก
     
    ฝั่งจริยาก็นั่งรอลูกชายสุดหล่อตัวเเสบกับนฤชิตอยู่เพราะเวลานี้มันเป็นเวลาล่วงเลยใกล้จะตีสี่เเล้วเเต่ลูกชายตัวเเสบวัยยี่สิบสามปีก็ยังไม่กลับบ้านมาอีก เเต่เเล้วจู่ๆก็มีเสียงรถเข้ามาจอดไว้ที่บ้าน
    "สงสัยเจ้าตัวดีจะกลับมาเเล้ว" คนเจ้าระเบียบกัดฟันพูดเเล้วจู่ๆร่างเมามายของชัยพลก็ถูกผู้ชายนับห้าคนพยูงเข้ามาในบ้าน
    "ตาพีท!" จริยาตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออด เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่ชัยพลได้ทําตัวเสเพลเบบนี้ นฤชิตเลยฉีกยิ้มเเล้วเดินเข้าไปหาผู้ชายนับห้าที่ช่วยพยูงร่างหล่อเหลาของชัยพลกลับมาบ้าน
    "เราเห็นว่าคุณพีทเขาเมามากคงจะกลับบ้านไม่ไหว พวกเราเลยอาสามาส่งคุณพีทให้ครับ" กลุ่มชายหนุ่มผู้เฝ้าคลับบอกนฤชิต
    "ขอบใจพวกนายมากน่ะ เดี๋ยวฉันพาเจ้าพีทเขาไปส่งที่ห้องเอง"ใบหน้าหล่อเข้มมากอายุค่อยๆเอามือไปประกบตัวร่างสุดหล่อมาดเท่ห์ที่ตอนนี้ไม่ได้สติเลยเเม้เเต่นิดเดียว จริยาได้เเต่อ้าปากค้างเพราะเธอก็อยากจะมีลูกชายสักคนที่ตั้งใจทํางาน รักเธอเนื่องจากที่สามีของเธอได้เสียชีวิตไปเนิ่นนานเเล้ว ภาระในการเลี้ยงชัยพลเลยตกเป็นของเธอเพียงคนเดียวเเต่ก็ยังโชคดีที่เธอมีนฤชิตคอยช่วยเหลือ นฤชิตที่พยูงร่างหล่อเหลาร่างนี้ก็หอบด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพราะว่าตัวของชัยพลก็ไม่ใช่เบา ก่อนจะนําตัวชัยพลวางลงที่เตียง
    "ฉันหวังว่าเเกจะเป็นคนดีได้สักวันน่ะตาพีท" นฤชิตยังมั่นใจว่าชัยพลจะเป็นคนดีได้สักวัน มันอาจจะต้องใช้เวลาหน่อยเเต่นฤชิตก็ยังมั่นใจว่าเเท้จริงในตัวของชัยพลเเล้วก็เป็นคนดีคนนึงที่จะต้องกลับตัวกลับใจเป็นคนที่น่ารักให้กับจริยาเเล้วก็เขาได้สักวันนึง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×