ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crescendo ดนตรีรัก จังหวะร้าย (YaOi)

    ลำดับตอนที่ #3 : Rhythm 2 : Demand

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.37K
      14
      29 ธ.ค. 52

     Rhythm 2 : Demand

     

     

                ไอ้ห่านัท! มึงสายอีกแล้วนะ!”

                ผมโวยใส่ไอ้เพื่อนตัวดีที่เข้าชมรมช่วงเย็นสายยังกับอะไร ทุกเย็นวันพฤหัสโรงเรียนผมจะมีเวลาให้ทำกิจกรรมชมรมตั้งแต่คาบก่อนสุดท้ายจนถึงคาบสุดท้าย แต่สำหรับผมที่อยู่โยธวาทิตจะวันไหนก็ต้องซ้อมทุกเย็นอยู่แล้ว ดังนั้นวันพฤหัสก็เลยเป็นแค่อีกวันที่ซ้อมเยอะกว่าวันอื่นเท่านั้น

                โธ่...ก็กูอยากเหล่น้องมายด์นี่หว่า นี่อุตส่าห์แวบมาแล้วนะเนี่ยสาดนัทไม่สลดแถมยังมีหน้ามาลอยชายตอบหน้าตาเฉย ผมจึงตบกบาลมันไปทีหนึ่งจนได้ยินเสียงก้องดังสะท้อนกลับมา

                หัวมึงทำจากกะลากลวงรึไง ไอ้สมองกบคิดแต่เรื่องจีบหญิง!”ผมด่ากรอกหูมัน เดี๋ยวพี่อั๋นก็จับมึงยัดลงส้วมหรอก

                พี่อั๋นที่ว่าเป็นประธานวงโยฯครับ ดุ+โหด+เคร่งมาก ผมเลยอุตส่าห์เตือนไอ้ห่านัทด้วยความหวังดีก่อนที่มันจะถูกตีนพี่อั๋นบวกรุ่นพี่ ม.5 คนอื่นๆยำตาย

                ไอ้เชี่ยนัทลูบหูข้างที่ถูกตะโกนใส่เบาๆ แล้วบ่น โธ่...มึงมีสามีแล้วก็พูดได้นี่หว่า...กูอยากมีเมียไม่ใช่ผัวเหมือนมึง เลยต้องไขว่คว้าหน่อย

                ...ดูท่ามึงจะอยากตายแบบศพเน่าๆนะผมหักมือ เตรียมจะชกกับมันอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงกระแอมเบาๆจากด้านหลัง

                คือพี่ไม่ได้ขู่นะครับ แต่อั๋นมันฝากบอกว่าถ้ายังไม่ยอมซ้อม พวกน้องได้ตายอนาถทั้งคู่แน่

                ผมหันกลับไปยิ้มแหยๆให้พี่กานต์ เลิกยุ่งกับไอ้ห่านัททันที พี่กานต์เป็นรุ่นพี่สายตรงของผมเอง เป็นคนใจดีม้ากมาก อยู่ม.5 รุ่นเดียวกับพี่อั๋นแท้ๆแต่นิสัยคนละโลก

                พี่อั๋นโหด พี่กานต์ใจดี

                พี่อั๋นเคร่งเครียด พี่กานต์หย่อนได้หย่อนอีก

                พี่อั๋นด่าเก่ง ว้ากน้องรอบวง ในขณะที่พี่กานต์ไม่เคยด่าผมเลย 

                คนนี้ล่ะครับคนเดียวกับที่สอนผมมาตั้งแต่แรกเข้า แล้วก็...คนที่ผมจะซื้อน้ำไปให้แต่โดนไอ้บ้าซีฉกไปแด๊กเรียบนั่นแหละ

                วา พี่ไม่ได้ว่านะ แต่ลาสูงขึ้นไปอีกนิดได้มั้ย มันต่ำไปอ่ะพี่กานต์บอกยิ้มๆ หน้าตาดูปกติ แต่ไม่รู้ทำไมรังสีแปลกๆชักออก ผมเลยได้แต่หัวเราะแหะๆแล้วเริ่มเป่าใหม่

                ผมเคยบอกรึยังครับว่าผมเป่าเฟิร์สทรัมเป็ต? ผมเพิ่งจะหัดเมื่อปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ครบปีดี แต่พี่กานต์ก็สอนดีมากจนผมเล่นได้หลายเพลงแล้ว ลงเล่นในงานต่างๆของโรงเรียนก็บ่อย วงโยฯโรงเรียนเราซ้อมหนักมากทั้งเช้ากลางวันเย็น กลับบ้านดึกๆทุกวันจนแทบอยากนอนโรงเรียน โดยเฉพาะช่วงมีงานที่จะซ้อมหนักจนบางครั้งก็อยู่กินนอนที่โรงเรียนเป็นสัปดาห์

                ไอ้นัทเข้าวงพร้อมผมแต่เล่นแซ็กโซโฟน แล้วก็มีเพื่อนอีกหลายคนที่เข้ามารุ่นเดียวกัน(ยังไม่ขอพูดถึง เยอะเกิ๊น) แต่หนึ่งในนั้นไม่มีซีครับ...ไม่ใช่ว่าไม่ชวน...ชวนแล้วแต่มันไม่เข้าต่างหาก 

                ไอ้ท่ามากนั่นบอกว่า ไม่เอา ไม่น่าสนใจพอว่ะ

                เออ ก็รู้หรอกว่าเรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้ แต่กูผิดใช่มั้ยที่อยากได้เพื่อนเยอะๆอ่ะ

                วา คือพี่ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะเริ่มอีกแล้ว ผมสะดุ้ง พี่กานต์เริ่มขึ้นหัวประโยคแบบนี้ทีไรแปลว่าผมต้องทำอะไรผิดแหงๆ

                อะไรหรือฮะ?

                ก็แบบ...เขาซ้อม Thunderer กันอยู่อ่ะ ไม่ใช่ราชวัลลภ

                อ้าว...เป่าผิดเพลงซะงั้น...เวร...

                วามีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า? เห็นทุกทีไม่เคยเหม่อนิ?อุ้ย พี่กานต์ตาโคตรแหลม ผมสะดุ้งรอบสองแล้วส่ายหน้ายิกๆ

                เปล่าฮะๆ ไม่มีไรหร...

                มันแค่คิดถึงแฟนมันครับพี่กานต์!!”

                ชิบ!! ไอ้เชี่ยนัท!! แม่งอยู่ห่างคนละฟากห้องแต่เสือกตะโกนมาได้!! ผมอ้าปากจะแย้ง แต่พอมองพี่กานต์ที่หัวเราะร่วนแล้วก็ต้องรู้สึกสยอง

                นี่พี่คงไม่คิดจะเชื่อมันหรอกนะ!“

                แล้วทำไมพี่ถึงจะไม่เชื่อล่ะ?

                ผมพูดไม่ออก...บางทีพี่กานต์ก็เป็นคนน่ากลัวนิดๆเหมือนกันแฮะ...

                ผมสบถพึมพำ รู้สึกหงุดหงิดกับไอ้เพื่อนสันดานนี่จริง มันจะเผาให้ใครฟังก็ไม่น่าด่าเท่าเผาให้พี่กานต์ฟัง ผมแคร์พี่เขาสุดๆเพราะพี่เขาดีกับผมมาก แต่ไอ้บ้านี่เสือกทำเอาเครดิตป่นปี้

                วา เล่นตรงนี้ให้พี่ฟังหน่อยสิพี่กานต์ชี้ไปที่โน้ตท่อนหนึ่ง ผมมองตามก่อนจะทำหน้าแหย นี่ล่ะไอ้ลาซู้งสูง ตัวโน้ตนรกที่ผมเล่นไม่เคยถึง

                ผมลองเป่าดู แล้วก็ตามเคย เสียงมันแฟล็ตไปตัวครับ เซ็งเป็ด...

                เอามานี่สิพี่กานต์ฉวยทรัมเป็ตของผมไป ผมกะพริบตาปริบๆ อยากจะแย้งว่าไอ้ในมือพี่มีทำไมไม่เป่าของตัวเองไปล่ะคร้าบบบบ

                พี่กานต์เป่าลาสูงให้ฟัง เสียงชัดใสนิ้งไม่มีสะดุดทำเอาผมเครียด วะ พี่กานต์เก่งกว่าผมตั้งเยอะ จะให้ทำไงล่ะเฟ้ย(เริ่มพาล)

                มันก็ประมาณนี้ล่ะนะ บีบปากเข้าอีกนิดก็ใช้ได้แล้วพี่กานต์ส่งทรัมเป็ตคืนให้ แต่พอผมยื่นมือมาจะรับคืน พี่กานต์ก็สะดุดไปนิดแล้วทำท่าเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ อ๊ะ โทษทีนะ แบบนี้เหมือนจูบทางอ้อมเลย แฟนเราจะว่ามั้ยเนี่ย?

                เปรี๊ยะ!  ไอ้ทิวาวัยสิบห้าปีแข็งเป็นหินในบัดดล มือที่จะรับเครื่องคืนเลยพลอยหยุดอยู่กับที่ไปด้วยโดยอัตโนมัติ

                ผมยังไม่มีแฟนคร้าบบบบ!!“

                อ้าว? ก็ไหนเห็นนัทมันว่า...

                พี่ก็อย่าไปเชื่อมันเซ่!!”

                พี่กานต์เลิกคิ้วยิ้มๆ ก่อนจะปิดท้ายบทสนทนาด้วยประโยคชวนอึ้ง

                ถ้างั้น...ก็แปลว่ายังจูบได้สินะ ^^”

                ผมหยิบทรัมเป็ตคืนมาจากมือพี่กานต์ และได้แต่เกาหัวแกรกๆอย่างหาคำตอบไม่ได้

                ผมควรจะพยักหน้ารึเปล่าวะเนี่ย...

                เฮ้ย!! ไม่ควรอย่างยิ่งสิวะ!!

                ผมสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเผลอคิดอะไร แต่แล้วก็ต้องนึกเซ็งขึ้นมาอีกอย่างช่วยไม่ได้

                ให้ตายสิ...

                แย่จริง

                แย่ที่สุด

                โคตรจะแย่

                แย่บัดซบ

                ทำไมใจมันเต้นแรงงี้วะ!!

     

     

     

                วงโยฯเลิกซ้อมเย็นมาก เกือบจะสองทุ่มแล้วในตอนที่พี่อั๋นไล่พวกเราให้เก็บเครื่องแล้วรีบไสหัว+ตัวกลับบ้านซะ แต่โรงเรียนก็ไม่ร้างมากเพราะพวกชมรมกีฬาก็เลิกซ้อมเย็นพอๆกับเรา(แต่ผมว่าไม่น่าจะเรียก เย็นน่าจะบอกว่ามืดมากกว่า) ผมเห็นพวกฟุตบอลยังเปิดไฟไล่เตะกันอยู่กลางสนาม(เตะลูกนะครับ ไม่ใช่คนเล่น) แล้วก็...ผมเงยหน้า ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากหลังตึก

                เฮ้ย เชี่ยวา กลับก่อนนะเว้ยไอ้ห่านัทผลักหัวผมอย่างแรงแล้ววิ่งหนีไป ผมด่าไล่หลังแล้วชูนิ้วกลางใส่มันแทนคำตอบ ไหว้พวกพี่ๆที่ทยอยกันเดินออกจากตึกกิจกรรม ผมกำลังจะเดินอ้อมไปด้านหลัง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อพี่กานต์เรียกเอาไว้

                พี่เห็นนัทกลับไปแล้ว วาล่ะ มีเพื่อนกลับหรือเปล่า กลับด้วยกันมั้ย?พี่กานต์ถามยิ้มๆด้วยท่าทีเป็นห่วงตามปกติรุ่นพี่ที่ดี(เออ ผมปลื้มพี่เขาตรงนี้แหละ)

                ถ้าตามปกติก็คงตกลงล่ะครับ แต่วันนี้คงไม่ได้ 

                นัดคนไว้แล้วครับผมตอบพี่กานต์ นึกถึงไอ้เพื่อนบ้าทีไร กระดาษโพยคณิตก็ลอยหวืออยู่ในหัวแทนการบ่งบอกว่าถ้าผมพยักหน้าตอบตกลงพี่กานต์แล้วทิ้งไอ้ซีไว้โรงเรียนคนเดียว พรุ่งนี้ผมคงเป็นศพลอยอืดอยู่ในสระบัวหน้าตึกอำนวยการแน่  

                ก็ดี งั้นกลับดีๆนะรุ่นพี่ผู้แสนใจดีโบกมือลา ยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ผมได้แต่เอียงคอ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมายังไงชอบกล (มีคนลูบหัวแซ่กๆ นั่นแหละใช่เลย ไอ้ซีก็ชอบลูบหัวผมแล้วบอกว่าเหมือนอัลเซเชียนที่บ้านมัน ไอ้ห่าเอ๊ย)

                ห้องชมรมของโรงเรียนผมจะอยู่ที่ตึกกิจกรรมเกือบทั้งหมด และห้องวงโยฯก็อยู่ชั้นบนสุดด้วยเหตุผลทางเสียงรบกวน ด้านหน้าตึกกิจกรรมจะเป็นสนามฟุตบอล+อัฒจันทร์ ส่วนข้างหลังเป็นสนามบาส เทนนิส สระว่ายน้ำ แล้วก็สนามวอลเล่ย์เรียงต่อกันไป

                ผมมองไปที่สนามบาสซึ่งเปิดไฟทิ้งเอาไว้ เสียงลูกบาสกระทบพื้นดังกังวาน มีคนอยู่ในสนามสามสี่คน คนหนึ่งเป็นรุ่นพี่ม.ปลาย อีกคนคือไอ้จัมป์ที่อยู่ชั้นเดียวกัน และอีกคนก็...ไอ้ซี

                พอผมเดินเข้าไปใกล้ๆข้างสนามก็เหมือนซีมันจะเห็น เลยส่งลูกให้จัมป์เพื่อนมันพร้อมกับตะโกนบอกจัมป์กับรุ่นพี่อีกคนว่าจะกลับแล้ว

                ผมเดินไปที่กระเป๋ากีฬาที่ซีมันโยนทิ้งไว้ใต้แป้นบาส หยิบกระเป๋าให้ มันบอกขอบคุณเบาๆแล้วคุ้ยหาผ้าขนหนูขึ้นมาซับเหงื่อ ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ผมเองก็เช่นกัน ได้แต่มองมันเช็ดเหงื่อเงียบๆ

                จะอาบน้ำก่อนไปมะผมถาม เพราะสนามบาสมันไม่ได้ติดแอร์เหมือนห้องวง ตัวไอ้ซีมีแต่เหงื่อกับเหงื่อ เปียกไปหมดทั้งตัวยังกับเพิ่งไปเล่นสงกรานต์มา

                ดึกแล้ว จะรอเรอะ?มันถามกลับกวนๆ และผมก็ยักไหล่

                ป่านนี้ป๊ากับม้ากินข้าวไปแล้วล่ะ ยังไงก็ได้

                ซีไม่ได้ว่าอะไร ทำเพียงเดินนำไปที่ห้องอาบน้ำของตึกกิจกรรมซึ่งอยู่ด้านหลังตึกไม่ห่างจากสนามกีฬานัก ที่นี่ทำเป็นฝักบัวเรียงต่อกันยาวโดยมีฉากกั้นที่สูงแค่หัวไหล่กำบังแยกเป็นห้องๆ ผมมองไอ้ซีโยนเสื้อทีมของมันกองบนเก้าอี้แบบซกมกจนเหลือแค่กางเกงทีมตัวเดียวแล้วเดินเข้าฉากกั้นไป ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ซ่าดังมาเป็นสิ่งเดียวที่คั่นกลางความเงียบ

                นี่ผมเรียกคนที่อาบน้ำอยู่เบาๆ ทำไมตอนที่ชวน มึงถึงไม่เข้าวงกับกูล่ะ?

                บางทีอาจจะเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อน ผมก็เลยรู้สึกเสียศูนย์นิดๆ แล้วยิ่งมันเพิ่งมาพูดจา แบบนั้นกับผม ผมก็ยิ่งไม่เข้าใจในตัวซี   

                (อันที่จริงอยากจะถามว่าไม่อยากอยู่กับกูขนาดนั้นเชียวเหรอ แต่ไม่กล้าครับ - -)

                ซียังไม่ตอบ มีเพียงเสียงน้ำไหลเป็นระยะๆเท่านั้น  

                ผมถอนหายใจยาว มองผนังว่างเปล่าตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย

                ทำไม...ถึงต้องจงใจแยกตัวออกไปด้วยวะ?

                ตอนที่ผมชวนซีเข้าวงโยฯด้วยกัน มันปฏิเสธผมแล้วกระโดดเข้าชมรมบาสไปดื้อๆ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังกลับบ้านด้วยกันทุกวันเหมือนเก่าเพราะชมรมบาสกับวงโยฯเลิกเย็นพอกัน       

                ผมยอมรับ...ผมอยากอยู่กับมัน...แต่ก็แค่ในฐานะเพื่อนที่สนิทกันมาก...ไม่ใช่...แบบนั้น...

                ซี...กูน่ะ...

                ผมหยุดพูดไปเพราะคนฟังมายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ซีในชุดนักเรียนที่ชื้นนิดๆ(เพราะไม่ได้เช็ดตัว)และหลุดลุ่ยไม่เรียบร้อยจ้องมองผมนิ่ง ผมเพิ่งสังเกต ไอ้ซีสูงกว่าผมอยู่นิดหน่อย มันมองนิ่งเสียจนผมรู้สึกแปลกๆ แล้วอยู่ๆซีก็ยื่นมือมากดไหล่ผมเอาไว้

     

                แต่ตอนนี้กูอยู่กับมึงนะ...วา

     

                คำพูดนั้นลบเลือนทุกคำถามในใจไปจนหมดสิ้น ซีอยู่ใกล้จนผมได้กลิ่นจากตัวมัน กลิ่นเย็นๆที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซี...และทันใดนั้น...

                ตึก...

                ผมเบิกตากว้าง

                ตึก...ตึก...ตึก...

                อะ...แต่ไหนแต่ไรผมอยู่กับไอ้บ้าซีมาตลอด ไม่เคยรู้สึกแปลกๆ ไม่เคย...ใจเต้นแรงเท่าวันนี้เลย เสียงหัวใจดังชัดเสียจนผมรู้สึกอายตัวเอง ได้แต่เงยหน้ามองซีแบบพูดอะไรไม่ออก

                มือที่กดอยู่บนไหล่ผมเพิ่มน้ำหนักมากขึ้น และใบหน้าของซีก็โน้มเข้าใกล้ขึ้นอีกนิด

                วา...มึงจำคำพูดของตัวเองได้รึเปล่า...ไอ้ซีพูดเสียงเครียดจนผมพลอยเหงื่อตกไปด้วย ให้ตายสิ ผมน่าจะอาบน้ำด้วยอีกคน อยู่ๆอากาศรอบข้างก็อบอ้าวขึ้นอย่างกะทันหันจนรู้สึกร้อนซู่ไปหมด มึงจะทำทุกอย่างที่กูต้องการสินะ...  

                เอ่อ...ก็ถ้ามันไม่แย่มากหรือเกินกำลังอ่ะนะ...ผมเสมองไปทางอื่น พยายามคิดหาทางรอดสุดชีวิต ไอ้ห่าซี...มาไม้ไหนวะเนี่ย!

                หัวใจกูจะระเบิดอยู่แล้วนะ! เอาหน้ามึงออกไปไกลๆหน่อยเซ่!! -o-

                ซียิ้มด้วยตาชั้นเดียวที่รัศมีโคตรแคบของมัน เลยยิ่งทำให้ดูเจ้าเล่ห์เหมือนมาเฟียฮ่องกง

                มึงทำได้อยู่แล้วล่ะ...

                ผมเบิกตากว้าง สองมือของมันกอดรัดรอบตัวผม รั้งตัวผมให้ยืนขึ้น ด้วยความที่ไม่ทันตั้งตัวผมเลยเซไปพิงอกมันเต็มแรง และในตอนนั้นเองไอ้มาเฟียซีก็กระซิบข้างหู

     

                กูขอแค่ให้มึงลองมองกูในฐานะอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนบ้าง...แค่นั้นมึงทำให้กูได้ไหม? วา


     
    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ต่อช้าไป(ไม่)หน่อย ขออภัยเป็นอย่างสูง ช่วงนี้มีงานโรงเรียนครับผม ยุ่งมากมาย = =
    มาต่อให้แล้วกับ "คำขอ" ของตาซี แต่แหม....ขออะไรให้ยากจังเนอะ - -"
    ขอให้เพลิดเพลินกับการอ่าน มีข้อติประการใดบอกกันได้ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ฮะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×