ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1
เมี้ยว! เมี้ยว! เมี้ยว!...
    “เสียงแมวที่ไหนนะ” เด็กน้อยผิวขาว นัยห์ตาเทาซีดฉายแววสงสัยกับเสียงที่ได้ยินมาตาสายลม
    สองเท้าเล็กๆ นำพาร่างกายให้มาหยุดตรงจุดที่ได้ยินเสียงนั้นได้ชัดเจนที่สุด พลันสายตาก็สะดุดกับร่างเล็กผอมแห้ง ที่นั่งคุดคู้ตัวสั่นด้วยความหนาวอยู่ตรงพุ่มไม้เตี้ยที่ถูกตัดแต่ง และได้รับการดูแลอย่างดี
   
    “เจอแล้ว...แกนี่เองเจ้าของเสียงที่รบกวนสมาธิเวลาฉันฝึกเวทมนตร์”  สายตาอ่อนโยนถูกส่งให้กับเจ้าแมวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดอุ่น
    “นายน้อย...นายน้อยขอรับ นายท่านให้มาตามไปพบขอรับ” เอลฟ์ประจำบ้านปรากฏกายขึ้นหลังจากได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนาย
    “รู้แล้ว...ด๊อบบี้แกพาแมวตัวนี้ไปอาบน้ำ แล้วหาอะไรให้มันกินด้วย เสร็จแล้วเอาไปไว้ที่ห้องฉัน” เมื่อสั่งความกับเอลฟ์พี่เลี้ยงเสร็จ เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ก็หันกายกลับ มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หลังงามทันที
******************************************
    “เดรโก...แกทำอะไรอยู่นะ ฉันเรียกแกตั้งนานแล้วมัวทำอะไรอยู่” ประตูบานสวยถูกเปิดออกอย่างแรง พร้อมกับเสียงเกรี้ยวกราดของผู้ที่ได้ชื่อว่าบิดา
    “พ่อ...คือผม” เสียงเล็กๆ ขานรับด้วยความกลัว
    “นั่นอะไร...แมวเหรอ มันมาจากไหนฉันเคยบอกแกแล้วใช่มั้ย ว่าห้ามเอาอะไรมาเลี้ยงนอกจากนกฮูก” นายลูเซียสมองบุตรชายและแมวในอ้อมกอดที่เด็กน้อยโอบกอดมันไว้ด้วยความหวงแหน
    \"ตระกูลมัลฟอยเลี้ยงได้แต่นกฮูกเท่านั้น สัตว์ชั้นต่ำแบบนี้ไม่เหมาะแก่การเป็นสัตว์เลี้ยงของสายเลือดบริสุทธิ์อย่างเรา\"
    “แต่พ่อฮะ ผมไม่เห็นว่ามันจะไม่ดีตรงไหน เจ้าแมวตัวนี้มันน่ารักจะตายแล้วมันก็ฉลาดมากด้วย” เด็กน้อยพยายามอธิบายให้ผู้เป็นพ่อเข้าใจ แต่แล้ว...
   
    “ไม่ได้ ฉันไม่ให้เลี้ยง เอามันมานี่” ร่างสูงสาวเท้าเข้าไปใกล้บุตรชาย ฉวยเอาร่างในอ้อมกอดจากเด็กชายอย่างรวดเร็ว
    กร๊อบ...เสียงๆ นี้ ช่างทำร้ายใจดวงน้อยของเด็กชายวัย 6 ขวบยิ่งนัก เดรโกได้แต่เฝ้ามองพ่อสังหารแมวตัวน้อยไปต่อหน้าต่อตา โดยที่ตัวเค้าเองไม่สามารถช่วยเหลืออะไรมันได้เลย
    “จำไว้นะ...เดรโก มัลฟอยต้องได้แต่สิ่งที่ดีเท่านั้น” นายลูเซียสหันมากำชับลูกชาย ก่อนจะหันหลังเดินจากไปพร้อมกับร่างไร้วิญญาณของแมวตัวน้อย
******************************   
    เฮือก!...ร่างสูงสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากเตียงสี่เสาขนาดใหญ่ ดวงตาสีเทากวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องด้วยความงุนงง  เหงื่อเม็ดหนาผุดขึ้นบนหน้าผากกว้าง  มือใหญ่ยกขึ้นปัดปอยผมสีบลอนด์อย่างลวกๆ เมื่อปรับสายตาได้แล้ว แล้วร่างสูงก็เริ่มทบทวนความฝันนั้นทันที
    “ฝัน...หึ...ทำไมมาฝันถึงตอนนั้นได้นะ แถมยังเป็นเหตุการณ์ไม่น่าจดจำเสียด้วย” ริมฝีปากกระตุก ยิ้มเยาะให้กับความฝันของตนเอง
    ตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้น ความอ่อนโยนที่มีอยู่ในตัวของเดรโก มัลฟอย ผู้นี้ ก็ไม่ปรากฏให้ใครได้เห็นอีกเลย เด็กหนุ่มกลายเป็นคนเย็นชา เย่อหยิ่ง และสายตาที่สร้างความกดดันให้กับใครก็ตามที่เผลอมาสบกับดวงตาสีเทาคู่นี้ ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และอุปนิสัย เรียกได้ว่าแทบจะถอดแบบจากนายลูเซียส  มัลฟอย มาทุกกระเบียดนิ้ว
    เด็กหนุ่มพยายามไล่ฝันร้ายในวัยเด็กให้ออกไปจากความคิด เมื่อเหลือบมองนาฬิกา เดรโกก็พบว่า วันใหม่ได้มาเยือนแล้ว ร่างสูงลุกขึ้นยืนและมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำใหญ่ทันที เช้าวันนี้ยังมีเรื่องให้เค้าต้องสะสางอีกมากมายนัก
************************************
    ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ ณ ตรอกไดแอกอน ได้ปรากฏร่างของคนดังแห่งโลกเวทมนตร์ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกถึงอารมณ์ของคนในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี ร่างบอบบางพยายามไม่สนใจต่อสายตาของคนรอบข้างที่จ้องมองมาด้วยความตื่นเต้น เค้าชินซะแล้วกับเหตุการณ์แบบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เค้าหงุดหงิดอยู่ในตอนนี้ก็คือ เจ้าเพื่อนตัวดีของเค้านะซิ นัดเค้าไว้ตั้งแต่เที่ยงนี่มันจะบ่ายโมงแล้วยังไม่เห็นแม้แต่หัวแดงๆ เลยสักนิด
    แต่แล้วความคิดก็ต้องหยุดชะงัก เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะแทนที่จะเห็นหัวแดงๆ แต่กลับกลายเป็นหัวบลอนด์ซะได้ แถมยังมีบอดี้การ์ดขนาบข้างทำยังกับว่ากลัวใครเค้าจะมาดักยิงเอานะซิ แล้วยังไอ้หน้าตาเย็นชาไร้ความรู้สึก จะว่าไปมันก็ดูดีหรอกนะแต่มันคงจะดีมากกว่านี้ถ้าเจ้าของหน้าหล่อๆ นั่น ไม่ได้ชื่อ เดรโก มัลฟอย
    ว๊ากกกกกก...นี่เราคิดว่าไอ้หมอนั่นมันหล่อได้ไงเนี่ย  แต่จริงๆ มันก็ดูดีจริงๆ นะ ร่างกายที่ดูสูงสมส่วน ผิวขาว ปากเรียวที่ได้รูป แล้วยังจะดวงตาสีเทาที่ดูเย็นชาแต่มันให้ความรู้สึกน่าหลงใหลยังไงไม่รู้ แฮร์รี่ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าเค้าแทบจะไม่สามารถละสายตาไปจากดวงตาคู่นั้นของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตมาตั้งแต่เข้าเรียนปีแรกยันปีสุดท้ายได้เลย
    ยังไม่ทันจะหยุดคิดแฮร์รี่ก็พบว่า ระยะห่างระหว่างเขากับเดรโกมัลฟอยมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และก็เช่นเคย บทสนทนาที่มีแต่ถ้อยคำเชือดเฉือนกำลังจะเริ่มขึ้น แต่แล้วเด็กหนุ่มก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อร่างสูงเดินผ่านหน้าเค้าไปเฉยๆ ไม่แม้แต่จะปลายตามองเลยด้วยซ้ำสร้างความงุนงงให้แก่แฮร์รี่เป็นอย่างมาก ร่างบางทำได้เพียงแค่มองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินไกลออกไป
    “...รี่...แฮร์รี่” รอน วีสลีย์สะกิดเรียกเพื่อนรัก
    “อ้าว...รอน” เด็กหนุ่มหันมาตามาเสียงเรียก ก็พบเข้ากับเจ้าเพื่อนตัวดีที่ปล่อยให้เค้ายืนรอมาตั้งนานสองนาน
    “นายเหม่ออะไรนะ ฉันเรียกนายตั้งนานก็ไม่ขานรับ”  เด็กหนุ่มผมแดงกวาดสายตามองสำรวจร่างบางของเพื่อนรักอย่างพินิจพิเคราะห์
    “ปะ...เปล่า ก็แค่คิดอะไรเพลินนะ” นั่นซิ...นี่เราเป็นอะไรกะอีแค่ไอ้เฟอเร็ตงี่เง่าไม่เข้ามาพูดจาหาเรื่องเหมือนทุกครั้ง ทำไมเราต้องคิดมากด้วย
    “นายจะมองชั้นอีกนานมั้ย...รอน”
    “แล้วนี่อะไรนี่มันบ่ายโมงแล้วนะนายนัดชั้นไว้เที่ยง รู้มั้ยว่ามันร้อน ปล่อยให้มายืนคอยอยู่ได้ตั้งนาน แล้วเฮอร์ไมโอนี่ล่ะ กลับมาหรือยัง” 
    “โอ๊ย...แฮร์รี่ ทีละคำถามได้มั้ย เอาล่ะ...ฉันขอโทษที่มาช้า คือว่า...ฉันตื่นสาย โอ๋ๆ อย่าเพิ่งโกรธเลย ฉันขอโทษ” รีบขอโทษทันทีเมื่อเห็นว่าพายุลูกใหม่กำลังเริ่มก่อตัว
    “ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ ยังอยู่ที่ฮาวายนะ เห็นบอกว่าจะกลับมาซื้อของก่อนเปิดเทอม”
    “อืม...งั้นเหรอ ว่าแต่เมื่อกี้นายจ้องฉันทำไม ฉันมีอะไรผิดปกติเหรอ”
    “ไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่ฉันคิดว่านายดูดีขึ้นนะ” ไม่ใช่แค่ดูดีอย่างเดียวนะ เค้าไม่อยากจะคิดเลยทำไมแค่เวลาไม่กี่เดือน เพื่อนฉันมันถึงได้สวยขึ้นขนาดนี้ฟ่ะ รูปร่างบอบบางดูน่าถนุถนอม ผิวกายที่ออกจะดูสีเข้มนิดๆ จากการเล่นควิชดิช ไหนจะปากอิ่มแดงนั่น แล้วยังจะดวงตาสีมรกตที่ดูจะสดใสขึ้น หลังจากที่จอมมารถูกกำจัดไปแล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันนะ จะจีบให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย อีกอย่างตอนนี้เค้าก็มีเฮอร์ไมโอนี่อยู่แล้วทั้งคน ถ้าขืนไปยุ่งกับคนอื่น ไม่อยากคิดถึงความปลอดภัยของตัวเองเลยว่ามันจะเป็นยังไง
    “โรนัลด์ วีสลีย์ เราจะไปซื้อของกันได้หรือยัง แล้วก็เลิกจ้องชั้นซะที” แฮร์รี่ร้องเตือนเพื่อนรักด้วยอาการทั้งโกรธทั้งเขิน อยู่ดีๆ ก็มาชมว่าดูดีขึ้นจะไม่ให้เขินได้ไง
    “เอ่อ...ไปซิ...ไปแฮร์รี่” ว่าแล้วก็คว้าแขนร่างบางให้รีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น