คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : [SF] Minhyuk x Suzy : แค่อยากจะขอโอกาส... (50%)
Special Fic แค่อยากจะขอโอกาส
Paring : Minhyuk x Suzy
ในวัยรุ่นอย่างเราๆแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องสนใจเรื่องนอกห้องเรียนมากกว่าเรื่องในห้องเรียนแน่ๆ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกันครับ แม้ว่าผมจะเป็นเด็กในห้องหัวกะทิอย่างห้องเอก็ตาม แต่สักครั้งนึงก็อยากจะลองสัมผัสความท้าทายนี้ดูบ้าง
“คังมินฮยอกนั่นเธอจะไปไหน!” เสียงดุๆของคุณครูสุดโหดเอ่ยเรียกผมขึ้น เมื่อเธอพบว่าผมกำลังจะปีนออกนอกรั้วโรงเรียนทางสวนหลังโรงเรียน
”อ๋อ
ผมจะไปพักร้อนน่ะฮะคุณครู ไว้เจอกันพรุ่งนี้ผมจะมาให้คุณครูตีนะฮะ”
”นี่นายลงมาเดี๋ยวนี้นะ!”
”พรุ่งนี้เจอกันฮะคุณครู” ผมพูดกับเธอเพียงแค่นั้นก่อนจะรีบกระโดดลงไปอีกฝั่งของรั้วโรงเรียนทันที
ผมเดินไปตามถนนหลังโรงเรียนอย่างมีความสุข แม้ความรู้สึกแรกมันจะตื่นเต้นและออกจะน่าตกใจอยู่หน่อยๆ แต่ไม่นานความรู้สึกเป็นอิสระก็เข้ามาแทนที่ ผมเดินไปจนถึงถนนใหญ่ ผมรอขึ้นรถเมลล์สักพักเพื่อไปนั่งรถเล่นกินลมชมวิว แรกๆผมก็ไม่มั่นใจว่ารถเมลล์คันที่ผมขึ้นมันใช่สายรถเมลล์ที่ผมคุ้นเคยรึเปล่า แต่เพราะความสนุกที่มันบังตาทำให้คังมินฮยอกก้าวเท้าขึ้นรถคันนั้นไปอย่างรวดเร็ว
และแล้วความนึกสนุกของเขาก็ทำให้เกิดเรื่องจนได้ ตอนนี้เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวซะแล้วว่าเขามาอยู่ที่ไหน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ลุงคนขับรถเดินมาปลุกเขาเพราะว่ารถวิ่งมาจนถึงป้ายสุดท้ายแล้ว มินฮยอกงัวเงียอยู่สักพักก่อนจะเริ่มรู้ตัวว่าเขาหลงทางซะแล้ว แต่แทนที่เด็กหนุ่มจะรู้สึกตกใจหรือหวาดกลัว มินฮยอกกลับรู้สึกตื่นเต้นราวกับว่าเขากำลังมาทัศนศึกษาที่ต่างเมืองยังไงอย่างนั้น= =
”พี่จองชิน!! ฉันเหนื่อยอยากกลับบ้านจะตายอยู่แล้ว พี่ทำไมปั่นช้าอย่างนี้เล่า!!” เสียงเล็กๆเรียกความสนใจจากมินฮยอกให้หันไปมอง
”นี่ซูจีพี่ปวดหัวน่ะ ค่อยๆไปอย่างนี้ไม่ได้หรือไง”
”ไม่ได้! พี่ไม่ต้องมาแกล้งเลยนะ เมื่อเช้าฉันยังเห็นพี่ดูดีอยู่เลย ตอนเย็นมาจะเป็นไข้ปวดหัวได้ไง” ภาพที่เขาเห็นคือหญิงสาวหน้าตาน่ารักนั่งซ้อนท้ายอยู่บนรถจักรยานโดยมีเด็กหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งปั่นจักรยานอยู่อย่างเชื่องช้า
มินฮยอกเผลอเดินตามสองคนนั้นไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว ในตอนนี้เขาได้ยินเพียงแค่เสียงเล็กๆนั้นดังก้องอยู่ในหู ราวกับว่าเธอคนนั้นกำลังเรียกร้องให้เขาเดินตามเธอไปอย่างนั้นแหละ จนกระทั่งเด็กหนุ่มร่างสูงที่ปั่นจักรยานคันนั้นเสียการทรงตัวล้มลง ทำให้หญิงสาวตัวเล็กหล่นลงมาก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้น
”พี่จองชิน!!!” เสียงเล็กลืมตัวไปเลยว่าตัวเองก็เจ็บเหมือนกัน ร่างบางรีบโผเข้าไปดูอาการของคนตรงหน้า มินฮยอกที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นก็รีบวิ่งเข้าไปพยุงเด็กผู้ชายคนนั้นทันที
”มานี่ผมช่วย” มินฮยอกพยุงคนร่างสูงที่ตอนนี้หมดสติโดยมีจักรยานล้มทับอยู่
”
” หญิงสาวไม่พูดอะไรหากแต่ยินยอมให้เขาเข้าไปพยุงร่างของเด็กผู้ชายร่างสูงคนนั้นขึ้นมาโดยดี
”ฉะ ฉันจะช่วยอะไรคุณได้บ้างคะ
” เธอเอ่ยถามตะกุกตะกัก มินฮยอกรู้เลยว่าเธอเองคงตกใจไม่น้อยที่มาเห็นพี่ชายคนสนิทของตัวเองเป็นลมต่อหน้า
”เธอช่วยเข็นจักรยานแล้วนำทางฉันกลับไปบ้านของเขาที” หญิงสาวคนนั้นพยักหน้ารัวๆก่อนจะเริ่มจูงจักรยานก่อนจะออกเดินนำหน้าผมไปอย่างรวดเร็ว ผมมองตามเส้นผมสีดำยาวสลวยที่ปลิวไหวไปตามลมอย่างหลงใหล
เมื่อกี้นี้ที่เธอเดินเข้ามาอยู่ข้างๆ ผมว่าผมได้กลิ่นสบู่หอมๆจากตัวเธอด้วยล่ะ
ไม่นานนักมินฮยอกก็พาเด็กหนุ่มคนนั้นมาส่งถึงบ้านได้ในที่สุด มารดาของเด็กชายเข้ามาขอบคุณเขาเป็นการใหญ่
”ขอบใจมากนะจ๊ะ ที่ช่วยพาจองชินมาส่ง เธอเป็นเพื่อนในห้องของจองชินใช่มั๊ยจ๊ะ”
”อ๋อ เปล่าหรอกฮะ ผมเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกแล้วก็เจอเขาเป็นลมเลยเข้าไปช่วยพยุงมาส่งเฉยๆฮะ”
”งั้นหรอจ๊ะ แล้วมาเที่ยวนี่มีที่พักรึยังล่ะลูก”
”จริงๆแล้วผมแอบโดดเรียนมาน่ะฮะ ไม่ได้เตรียมที่พักไว้เลยกะว่าจะมาเที่ยวฆ่าเวลาแล้วก็กลับน่ะฮะ” วินาทีแรกที่มินฮยอกตอบคำถามของแม่จองชินออกไป เขากลัวว่าจะได้รับคำว่ากล่าวจากหญิงมีอายุตอบกลับมา แต่สิ่งที่แม่ของจองชินพูดกับเขากลับตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
“ใจกล้าเหมือนกันนะเรา งั้นคืนนี้อยู่กินข้าวเย็นที่นี่แล้วก็นอนพักที่บ้านแม่ก่อนดีกว่านะลูก” แม่ของจองชินเดินเข้ามาแตะที่ไหล่ของมินฮยอกเบาๆก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปเตรียมอาหาร มินฮยอกโค้งขอบคุณในความหวังดีก่อนจะค่อยๆเดินกลับเข้าไปในห้องของจองชิน
”เอ่อ
เธอจะไม่ไปพักหน่อยเหรอ” มินฮยอกเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าที่นั่งเฝ้าจองชินอยู่ข้างเตียงอย่างสงสัยที่ยังเห็นเธอยังนั่งอยู่ที่นี่อยู่ เมื่อเธอหันหน้ามาเขาก็ต้องตกใจมากกว่าเดิมเมื่อใบหน้าหวานนั้นมีน้ำตาใสๆเปรอะเปื้อนไปหมด
”ฮึก
เพราะฉันแท้ๆ เพราะฉันเอาแต่ใจพี่จองชินถึงได้ไม่สบายแบบนี้ ฮือๆ เพราะฉันคนเดียว”
”ทำไมเธอโทษตัวเองอย่างนั้นล่ะ เขาก็แค่ไม่สบายเองไม่เกี่ยวกับเธอหรอกน่า”
”เกี่ยวสิ! เพราะฉันไม่สนใจว่าเขากำลังไม่สบาย เอาแต่เร่งให้เขาปั่นจักรยานกลับมาส่งบ้านเร็วๆ ฮึก
ถ้าเพียงแค่ฉันยอมฟังพี่จองชินพูดบ้าง ฉันอาจจะเปลี่ยนไปเป็นคนปั่นจักรยานแทนเขา แล้วเขาก็คงไม่เป็นลมล้มไปอย่างนั้น ฮือออ~” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าเริ่มสะอื้นหนักขึ้นมินฮยอกก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก ร่างสูงค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะวางมือลูบไปบนเรือนผมสีดำของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา
”ไม่ใช่เพราะเธอหรอกน่า
” น้ำเสียงนุ่มๆพูดปลอบคนที่กำลังสะอื้นด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม หญิงสาวเริ่มนิ่งลงก่อนจะหันหน้ามามองคนร่างสูงที่กำลังยืนลูบหัวเธอช้าๆอย่างเต็มตา
”
”
”
” ไม่มีใครพูดอะไร หากแต่ฝ่ามือของมินฮยอกกลับเลื่อนมาปาดน้ำตาใสๆให้ออกไปจากพวงแก้มใสอย่างแผ่วเบา
”ไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะเฝ้าไข้เขาไว้ให้” เสียงนุ่มของมินฮยอกพูดกับคนตรงหน้าก่อนร่างสูงจะจูงมือคนตัวเล็กที่เริ่มนิ่งให้ลุกตามเขาออกไปนอกห้อง
”
”
”
” ร่างสูงส่งยิ้มกว้างให้แก่หญิงสาวตรงหน้า เธอเอียงคอมองการกระทำของเขาก่อนจะหมุนตัวเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าตามคำแนะนำของร่างสูงที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นใครมาจากไหน
และเย็นวันนั้นมินฮยอกก็ตัดสินใจนอนค้างที่บ้านของจองชินตามคำเชื้อเชิญของแม่ของจองชิน เมื่อทานมื้อเย็นเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องของจองชินอีกครั้งและพบว่าตอนนี้คนป่วยนั้นฟื้นขึ้นมาแล้ว
”เอ่อ
ลุกไหวมั๊ย” มินฮยอกไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดกับคนตรงหน้ายังไงเพราะพวกเขาเองก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
”นายใช่มั๊ยที่ช่วยพยุงฉันเอาไว้น่ะ” เสียงแหบพร่าถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากแห้งของจองชิน
”ฉันเองแหละที่เข้าไปพานายมาส่งที่บ้าน อ่ะกินน้ำหน่อยสิ” มินฮยอกส่งแก้วน้ำให้แก่คนป่วยตรงหน้า
”นายชื่ออะไร
หรอ”
”ฉันชื่อมินฮยอก คังมินฮยอก เกิดปี91 แล้วนายล่ะ”
”จองชิน
อีจองชิน อายุเท่านายน่ะแหละ”
”งั้นเราก็เป็นเพื่อนกันสินะ ฉันพูดสบายๆกับนายได้รึเปล่า”
“ได้สิ อ่า
ฉันยังไม่ได้ขอบใจนายเลยนะ ขอบใจมากๆนะมินฮยอก”
”ไม่เป็นไรหรอก แม่นายก็เลี้ยงข้าวฉันแล้วยังให้ที่พักฉันด้วยนะ”
”นายมาจากไหนหรอ”
”อ๋อ ฉันมาจาก
” ยังไม่ทันที่มินฮยอกจะได้พูดตอบจองชินออกไป ประตูห้องของคนป่วยก็ถูกเปิดเข้ามาก่อนร่างบางในชุดนอนสีฟ้าจะเดินหอบหมอนกับผ้าห่มผืนหนาเข้ามา
”พี่จองชิน!!!” เมื่อหญิงสาวเห็นว่าคนป่วยนั้นฟื้นแล้ว เธอก็ทิ้งทุกอย่างที่เธอหอบมาลงกับพื้นก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดชายหนุ่มที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงด้วยความดีใจ
”อะไรเล่ายัยเด็กนี่
” จองชินบ่นให้เด็กสาวน้อยๆก่อนจะโอบกอดตอบร่างบาง
”ฉันขอโทษนะคะที่ดื้อกับพี่” เสียงหวานๆเอ่ยขอโทษพี่ชายร่างสูงตรงหน้าอย่างแผ่วเบา จองชินหัวเราะออกมาเบาๆอย่างขบขันปนเอ็นดู มือหนาของเขาเอื้อมขึ้นไปดึงแก้มใสของคนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว
”ทีหลังก็เป็นห่วงพี่ให้มากกว่านี้สิ”
”
” มินฮยอกที่ยืนดูชายหญิงสองคนหยอกเย้ากันอย่างสนิทสนมนั้นก็เลี่ยงออกไปจากข้างเตียง ร่างสูงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาในอกด้วย เพียงแค่เขาเห็นว่าคนสองคนสนิทสนมกันมากขนาดนั้นหัวใจก็เต้นรัวอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาเลยงั้นหรอ นี่เขาเป็นอะไรกันแน่นะ
มินฮยอกเดินไปหอบผ้าห่มกับหมอนขึ้นมาวางไว้ข้างเตียงก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทว่าเสียงเรียกของจองชินก็รั้งเขาเอาไว้ซะก่อน
”เออนี่มินฮยอก มารู้จักน้องสาวของฉันก่อนสิ”
”
” ร่างสูงค่อยๆหมุนตัวกลับไปมองตามเสียงเรียก
”นี่เบซูจี
เอ๊ย!เบซูซี่ น้องสาวญาติห่างๆของฉันเอง ซูซี่นี่มินฮยอกเพื่อนใหม่พี่” จองชินทำหน้าที่แนะนำคนทั้งสองก่อนจะปล่อยให้พวกเขาได้พูดคุยกันเอง
”ขอบคุณนะคะสำหรับความช่วยเหลือ” หญิงสาวพูดขอบคุณอย่างนอบน้อม มินฮยอกได้แต่โค้งตอบกลับไปเพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาควรจะตอบอะไรกลับไปอย่างนั้นหรอ?
”คืนนี้ฉันจะนอนเฝ้าพี่ที่นี่นะคะพี่จองชิน”
”ได้ยังไงเล่า ไม่มีการบ้านหรือไง ไปนอนบ้านเธอเลยไป คืนนี้มินฮยอกจะนอนกับพี่”
”อะไรกันน่ะ ฉันอยากอยู่ดีแลพี่นี่คะ” หญิงสาวที่จองชินแนะนำให้มินฮยอกรู้ว่าเธอชื่อเบซูซี่หันหน้ามามองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
”เธอมองหน้าฉันอย่างนั้นได้ยังไงน่ะ ฉันไม่ได้บังคับให้เขาพูดนะ”
”ไม่รู้ล่ะวันนี้เราก็นอนด้วยกันมันสามคนนี่แหละ” ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงของจองชินก่อนจะเดินไปหอบผ้าห่มที่เธอเตรียมมาปูลงบนพื้นข้างเตียงจองชินทันที
“เฮ้ยย! นี่เธอเป็นผู้หญิงมานอนในห้องที่มีผู้ชายวัยรุ่นถึงสองคนแบบนี้ได้ยังไงน่ะ ถึงเขาจะเป็นญาติเธอแต่ฉันล่ะ ฉันน่ะเป็นคนแปลกหน้านะ” มินฮยอกก้าวเข้าไปประชิดตัวร่างบางก่อนจะจับข้อมือของเธอเอาไว้
”ก็ฉันเป็นห่วงพี่จองชินนี่นา”
”ห่วงก็ห่วงให้พอดีเถอะน่า มานี่มาห้องเธออยู่ไหนฉันจะไปส่ง” เสียงนุ่มของมินฮยอกพูดอย่างใจเย็นกับร่างบางที่ตอนนี้กำลังพยายามแกะมือของเขาออกจากข้อมือเล็กของเธอ
”พี่จองชิน ช่วยฉันด้วยสิ
” เมื่อเห็นว่าความพยายามไม่เป็นผล เธอจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มอีกคนที่นอนอยู่บนเตียง หากแต่ว่าอีจองชินนั้นได้นอนหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อนซะแล้ว
”ชู่วว~ อย่าเสียงดังแล้วออกมากับฉันนี่มา” มินฮยอกลากให้ซูซี่เดินตามเขาออกมาข้างนอกอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเธอจะพยายามขัดขืนทำท่าจะไม่ยอมเดินตามเขาออกมาแต่ในที่สุดเบซูซี่ก็ออกมาอยู่นอกห้องของจองชินกับมินฮยอกซะแล้ว
”ปล่อยฉันได้แล้วน่า” มินฮยอกหันไปมองหน้าหวานๆของหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะยอมปล่อยข้อมือของเธอให้เป็นอิสระ
”ไหนล่ะห้องเธอ บอกฉันสิฉันจะไปส่ง”
”
” หญิงสาวหันมาแลบลิ้นให้เขาหนึ่งทีก่อนจะเดินนำออกไปทางประตูหน้าบ้าน
เบซูซี่ไม่ได้พามินฮยอกไปที่ห้องนอนของเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ร่างบางเดินมานั่งรับลมอยู่ที่ริมสระว่ายน้ำของบ้านแทน ในละแวกบ้านของจองชิน มินฮยอกก็สังเกตเห็นว่ายังมีบ้านอีกสองหลังอยู่ในรั้วเดียวกัน คงเป็นบ้านหลังใดหลังหนึ่งของเบซูซี่เป็นแน่
”
” มินฮยอกเดินตามร่างบางออกมาอย่างสงสัยว่าเธอจะไปทำอะไรในเวลาค่ำคืนอย่างนี้ และเมื่อเขาเดินตามเธอออกมาเรื่อยๆชายหนุ่มก็พบว่าเบซูซี่นั้นหยิบกีต้าร์ตัวเล็กสีขาวมาด้วยก่อนหญิงสาวจะเดินไปหย่อนขาลงไปในสระว่ายน้ำแล้วเริ่มดีดกีต้าร์อย่างสบายใจ
”
”
” We were both young, when I first saw you
” เสียงหวานๆเริ่มร้องเพลงออกมาเบาๆคลอไปตามจังหวะที่นิ้วเรียวดีดสายกีต้าร์ทีละคอร์ด
” I close my eyes and the flashback starts.I'm standing there, on a balcony of summer air~”
”
” ร่างสูงไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองได้กำลังเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวที่กำลังร้องเพลงอยู่อย่างมีความสุขมากเท่าไหร่ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตัวเขานั้นค่อยๆหย่อนขายาวสองข้างลงไปในสระว่ายน้ำเหมือนที่หญิงสาวทำเสียแล้ว
” I see the lights; see the party, the ball gowns.I see you make your way through the crowd. You say hello, little did I know...~” เบซูซี่เงยหน้าขึ้นมามองคนข้างกายที่กำลังมองมาที่เธออย่างหลงใหล นัยน์ตาของเธอสบเข้าอย่างจังกับดวงตาเรียวเล็กของมินฮยอก และวินาทีนั้นเองหัวใจของเธอก็หล่นวูบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
” Romeo take me somewhere, we can be alone. I'll be waiting; all there's left to do is run.~” ชั่ววินาทีที่ดวงตาของคนทั้งสองต่างก็จ้องเข้าไปในตาของคนตรงหน้าเสียงทุ้มนุ่มที่แสนอบอุ่นของมินฮยอกก็ค่อยๆร้องคลอตามเพลงที่หญิงสาวกำลังร้องโดยไม่รู้ตัว
” You'll be the prince and I'll be the princess, It's a love story, baby, just say
”
”
”
”
YES!” ทั้งสองเสียงที่ถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากของคนสองคนต่างก็ขับขานเพลงท่อนสุดท้ายได้อย่างลงตัว
“เสียงนายเพราะดีนะ
” และท่ามกลางความเงียบนิ้วเรียวของเบซูซี่ก็หยุดดีดสายกีต้าร์ก่อนเธอจะหันหน้าหนีออกไปจากการจ้องตากับใบหน้าของคนร่างสูง
”เสียงเธอ
ก็เพราะเหมือนกัน” มินฮยอกหลุดออกจากภวังค์ก่อนจะพูดตอบคนข้างกายอย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ข้างแก้ม
”ฉันว่าฉันไปนอนดีกว่า ขืนนั่งนานกว่านี้คงได้เป็นหวัดตามพี่จองชินแน่เลย” หญิงสาวพูดขึ้นอีกครั้งก่อนร่างบางจะค่อยๆลุกขึ้นจากริมสระน้ำ มินฮยอกที่เห็นเธอกำลังจะลุกร่างสูงก็รีบลุกขึ้นก่อนเธอและอาศัยขายาวๆของเขาก้าวฉับๆไปหยิบผ้าขนหนูที่เตรียมเอาไว้ออกมา
”อย่าเพิ่งไป
” มินฮยอกพูดแค่นั้นก่อนร่างสูงจะค่อยๆย่อตัวลงคุกเข่าตรงหน้าหญิงสาวก่อนจะบรรจงเช็ดหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามเรียวขาเล็กของซูซี่อย่างแผ่วเบา
”
”
”เสร็จแล้ว
อ้อ!เธอก็นอนหลับอย่าลืมห่มผ้านะ
” มินฮยอกพูดโดยไม่หันมามองร่างบาง เมื่อพูดประโยคนั้นเสร็จเขาก็รีบเดินกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วด้วยหัวใจที่เต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาอยู่นอกอก
”ใจเย็นไว้ก่อนคังมินฮยอก
ใจเย็นๆ ฟู่ววว~”
เช้าวันถัดมาจองชินมาส่งเขาขึ้นรถเมลล์กลับมาที่โซล โดยทั้งสองคนสัญญากันว่าจะไม่ขาดการติดต่อกันเป็นอันขาด และเมื่อถึงเวลาได้เข้ามหาวิทยาลัย จองชินสัญญาว่าจะเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยโซลให้ได้ หลังจากทั้งสองคนทำสัญญาลูกผู้ชายเสร็จแล้วมินฮยอกก็นั่งรถเมลล์กลับมาที่โซล เขารีบกลับเข้ามาที่บ้านอย่างรวดเร็วและแน่นอนสิ่งที่รอเขาอยู่ก็คือคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงตระกูลจองน่ะสิ
”หายไปไหนมาทำไมไม่รู้จักบอกพ่อกับแม่บ้างฮะ!” คนเป็นแม่ เมื่อลูกชายหายไปทั้งคนจะให้นิ่งนอนใจอยู่มันก็ไม่ใช่
”ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อนนะครับแม่
” เมื่อผู้เป็นมารดาเห็นว่าลูกชายคนเล็กเริ่มทำหน้าตาน่าสงสารราวกับลูกหมาตัวน้อยๆเธอก็เริ่มใจอ่อน
--------------------- Coming soon 50% ------------------------
ความคิดเห็น