ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] 21 DAYS, yunjae ♥

    ลำดับตอนที่ #60 : 21 days, yunho's part วันที่ ๑๖-๑๘

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 732
      5
      15 พ.ย. 55

    SIXTEENTH DAY (16th)

     

     

    ผมมั่นใจว่าที่ผมบอกแจจุงไปว่าหึงเมื่อวานน่ะ คนสวยได้ยินแน่นอน!

    ทำไมน่ะหรอ ??

    ก็ตอนนี้ดูเหมือนว่าแจจุงกำลังพยายามหลบหน้าผมอยู่น่ะสิ ตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่พูดกับผมอีกเลย ปกติแล้วแจจุงไม่ใช่หรอที่จะเป็นคนพยายามหาเรื่องมาพูดกับผมน่ะ?

    นี่ก็จะสิบโมงอยู่แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าแจจุงจะลงมาที่ลีอบบี้ที่ผมรออยู่เลย...ขึ้นไปตามหน่อยละกัน

     

    ติ๊งหน่อง

    ผมไม่รู้ว่าแจจุงกำลังพยายามหลับหน้าผม...หรือแจจุงจะเป็นอะไรอยู่ในห้องรึเปล่า?

    ติ๊งหน่อง~

    เปิดซักทีซี่แจจุง ~

    กริ๊ก

    ในที่สุดแจจุงก็เปิดประตูออกมา

    มาทำไม?

    ผมมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าของคนสวย

    ก็ปกติดีนี่...ต...แต่ว่า...ทำไมชุดเซ็กซี่จัง -3-

    ไม่ไปเรียนหรอ? ผมรีบถามไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรมองสำรวจแจจุงอย่างจาบจ้วงมากขนาดนั้น

    ก...กางเกงสั้นและพริ้วไหวมากอ้ะ -....-

    คืออ....

    ...

    แบบ...เดี๋ยวค่อยไปตอนเที่ยงๆ นายไปก่อนเลย

    ทำไม? ไม่อยากไปกับผมใช่มั้ยแจจุง! แน่จริงก็พูดออกมาตรงๆ เลยซี่ ว่าหลบหน้ากันอยู่น่ะ!!!

    พึ่งตื่นไง กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว นายไม่ต้องรอหรอก

    รอได้

    เห้ย ไม่เป็นไรเกรงใจ

    ไม่เป็นไรไม่รีบ

    ง่ะ...

    ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ยังไงก็ต้องบังคับให้ไปด้วยกันให้ได้!

    งั้น...เข้ามารอข้างในก่อนสิ ^^” แล้วแจจุงก็ยอมหลีกทางให้แต่โดยดี...

    หรือจะมีแผนอะไร ? หน้าตาไม่น่าไว้วางใจสุดๆ

    ผมยอมทำตามที่ร่างบางบอกโดยเดินเข้าไปนั่งที่โซฟากลางห้องชุดที่หน้าตาไม่ได้ต่างจากห้องของผมมากเท่าไรนัก

    ดื่มอะไรก่อนมั้ย? แจจุงเดินไปที่เคาท์เตอร์ในส่วนของห้องครัวก่อนจะเงยหน้ายิ้มถามผม

    อ่า...กาแฟแก้วนึงก็ได้ แจจุงพยักหน้ารับพร้อมกับหันหลังไปเตรียมอุปกรณ์ทำกาแฟ

    ปลายเท้าที่ถูกหุ้มด้วยรองเท้าสลิปเปอร์ขนปุยเขย่งตัวขึ้นเพื่อหยิบของในตู้ด้านบน มือสวยพยายามหยิบแก้วกาแฟใบสวยออกมา

    ส...เสื้อมันลอยขึ้นจนเผยให้เห็นเอวคอดๆ กับผิวขาวเนียนนั่น

    เห้ยยยยย ฟุ้งซ่านนน หยุดเดี๋ยวนี้นะชอองยุนโฮ!!

    จนในที่สุดแจจุงก็หยิบออกมาได้...

    แจจุงจะหันกลับมาแล้ว ทำไงดีๆๆๆๆ

    นิตยาสาร!

    ผมรีบคว้านิยาสารที่ถูกวางทิ้งไว้ข้างตัวขึ้นมาเปิดทำเป็นว่าผมอ่าน

    ห...เห้ย นิตยาสารแฟชั่นงั้นหรอ! แจจุงจะสังเกตเปล่าวะ?

    ใส่น้ำตาลกี่ช้อน?

    เฮือกกกก ตกใจหมด!!!!

    ไม่ใส่ ผมรีบตอบทันที

    ไม่นานแจจุงก็เดินกลับออกมาหาผมพร้อมกับถ้วยกาแฟมาวางตรงหน้า

    อ่ะ

    ...

    ซวยแล้ว!!! ไม่ได้ตั้งใจจะเงยหน้าขึ้นมาซักหน่อย แต่ดันเห็น...

    ทำไมแจจุงถึงได้ใส่เสื้อคอกว้างขนาดนี้ ~ T______________T ผมมองเห็นจนจะถึงสะดือเลยนะ

    แจจุงจ๋า ~ ทำไมทำอะไรไม่ระวังตัวเลยยยย ~!!!

    นั่งเล่นไปก่อน ตามสบายเลยนะ ขอไปอาบน้ำก่อน แจจุงยืดตัวกลับไปยืนปกติ

    ฟู่ววววววว

    ในที่สุดแจจุงก็หายเข้าไปในห้อง ผมทิ้งตัวลงกับโซฟาอย่างคนหมดแรง

    ต้องการอากาศหายใจด่วนๆ ผมหายใจไม่ทัน!!!

    จริงๆ แล้ว...ดูก็รู้ว่าแจจุงน่ะจงใจ ใบหน้าสวยเล่นฉาบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้นตลอดเวลา

    จะไม่รู้ได้ยังไงล่ะ...ผมไม่ใช่คนซื่อนะ...

    ก็ได้ ถ้าอยากไล่นัก ไปก็ได้ เชอะ งอน -3-!!

     

    เห้ย! มาน่าบูดอีกแล้ว ทำไมวะ?

    โดนแจจุงอ่อย -3-

    วู้วววว แล้วไม่ดี ????

    ไม่ดี (-- )( - -)(- - )( - -)” ผมส่ายหัวเป็นคำตอบ

    ทำไมวะ???

    เพราะแจจุงอ่อยฉัน เพื่อไล่ให้ฉันไปห่างๆ

    อ่อยบ้าไรจะทำให้ผู้ชายออกห่างได้วะ? มีแต่จะเข้าไปตะครุบน่ะสิ!”

    แจจุงรู้ไง ว่าผู้ช่ายคนนั้นเป็นฉัน ไม่ใช่แก

    เออสิ พ่อคนมีศีลธรรม กูมันหื่นนี่ =3=”

    เห้อออ ป่านนี้จะมาถึงโรงเรียนรึยังก็ไม่รู้ จะเที่ยงแล้ว

    แจจุงโตแล้วนะเว้ย ถ้ายังไม่มา เดี๋ยวก็โดนจุนซูโทรไปบ่นเองอ่ะ

    แฟนแกดูเป็นคนน่ากลัวเนอะ

    มากโคตรรรร!!!”

    ฉันฟ้องจุนซูแน่

    อย่านะ T3T” ฮ่าๆๆๆ คงมีแต่จุนซูนั่นแหละ ที่สยบคนอย่างปาร์คยูชอนได้...

     

     

    พักกลางวัน

    จุนซูบอกว่าแจจุงมาถึงโรงเรียนได้ซักพักแล้วนะ...

    ก็ดี ผมตอบรับพร้อมกับวางถาดข้าวแล้วนั่งลงตรงข้ามกับไอ่ปาร์ค

    แต่จุนซูบอกว่าแจจุงแปลกๆ

    แปลกๆ ไงวะ?? ผมเงยหน้าจากชามข้าวขึ้นมาถาม

    หงอยๆ...กังวล หรืออะไรซักอย่าง

    ... แจจุงเป็นอะไร ?

    ฟึ่บ!

    ไม่ทันทีผมจะได้สงสัยอะไรนาน บุคคลที่ 3 ที่ถูกพูดถึงเมื่อซักครู่ก็มาโผล่ตรงหน้า

    เชอะ งอนไม่สนใจ กินข้าวดีกว่า -3-

    ยุนโฮ Y^Y” น้ำเสียงอ้อนแปลกๆ ?

    ??? ผมจึงเงยหน้ามองดวงตากลมโตนั่นเป็นเชิงถามว่ามีอะไร ?

    เย็นนี้กลับด้วยน้า

    ไม่อยากนั่งรถเองแล้วหรือไง? ไม่อยากมากับผมไม่ใช่รึไงล่ะ! หึ!

    คือมันแบบ...

    เอ้ะ?...

    สีหน้าแจจุงเหมือนอยากจะบอกอะไร แปลกๆ จริงๆ ด้วย...

    มันแบบอะไร? ยูชอนมันคงรู้ว่าผมก็อยากจะรู้มันเลยยื่นหน้าเข้ามาสาระแน อย่างรวดเร็ว

    เออนั่นสิแจจุง เมื่อเช้าแกมาถึงก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เป็นอะไร?

    อย่าคาดคั้นกันดิ แจจุงก้มหน้างุด

    ??? ผมก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นแล้วนะ! บอกมาเดี๋ยวนี้นะแจจุง!!!!

    ก็....ขึ้นรถเมล์มา...

    ... ทุกคนรวมถึงผมตั้งใจฟังในสิ่งที่แจจุงกำลังพยายามพูดออกมาจากปาก

    แล้วตอนกำลังจะลง...

    ...

    ก็เจอกับ ชเว ซึงฮยอน...

    ชเว ซึงฮยอน...

    มันทำอะไร!? ไวเท่าความคิด ผมก็รีบถามขึ้นมาทันที

    ชเว ซึงฮยอน...เวลาอยู่ใกล้ๆ กับคนน่ารักน่ะ...มักจะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น!!!!!

    มัน...

    มันจับก้น TOT แล้วก็พูดว่า ไว้เจอกันใหม่นะจ๊ะ...ที่รัก ;D’” แจจุงพูดออกมาในที่สุด

    จับก้น!!! ที่รัก!!!!

    ไอ่เวรเอ๋ยยยยยยยยยย!!!!!!

    ฟึ่บ ตึง!!

    ผมรีบลุกขึ้นทันที ไอ่บ้าซึงฮยอน!! มึงเจอกูแน่!!

    จะไปไหน?

    เดี๋ยวมา

    ผมตอบจบก็รีบวิ่งไปในที่ๆ ผมคิดว่าตัวต้นเหตุนั่นน่าจะอยู่ทันที

    และผมก็เดาไม่ผิด...ใบหน้าคมหล่อของมันกำลังฉาบรอยยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่กำลังเตะบอล

    ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองซะแล้ว!!

    ฟึ่บ!!

    เห้ยอะไรวะ!!” ผมตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อมันด้วยมือทั้งสองข้างจนมันโวยวายอย่างตกใจ

    ผู้คนที่ดูการเล่นบอลอยู่ข้างสนามอย่างเพลิดเพลินต่างก็พากันตกใจ

    ไอ่ซึงมึง!” ผมเงื้อหมัดขึ้นอยากทนไม่ไหว ยิ่งคิดถึงใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ของแจจุง ยิ่งทำให้อารมณ์ของผมร้อนขึ้น!

    เห้ยใจเย็นดิวะไอ่ยุน นี่มันเรื่องอะไรกัน? เพื่อนคนอื่นๆ พยายามจะเข้ามาห้าม

    พวกมึงถอยออกไปให้หมดเลย กูขอเคลียร์กับมันสองคน

    ซึงฮยอนหันไปพยักหน้าให้เพื่อนๆ ทุกคนจึงยอมถอยห่างออกไป

    มึงมีไร?

    มึงทำอะไรไว้นี่ไม่รู้ตัวหรอ?

    มึงก็บอกกูมาดิ...เรื่องอะไรที่ทำให้คนนิ่งๆ อย่างมึง วิ่งเข้ามากระชากคอเสื้อกูได้ขนาดนี้

    หน้าตามันกวนตีนเหลือเกิน...ทนไม่ไหวแล้วเว้ยยย

    พลั่กกก!!!!

    ผมจัดหมัดหนักๆ ใส่มันจนมันเซไปทางด้านหลัง

    ต่อยกูแล้ว จะบอกกูได้ยัง? ซึงฮยอนใช้หลังมือเช็ดเลือดที่มุมปาก ก่อนจะตั้งตัวยืนให้มั่นคงแล้วเอ่ยถามยุนโฮ

    มึงยุ่งกับแจจุง!” ผมชี้หน้ามัน พร้อมกับบอกออกไปในที่สุด

    แจจุง...

    ...

    นี่มึงหวงของเล่นหรอวะ?

    ของเล่น??!!!!!

    ไอ่เทมมึง!!!” ยุนโฮทำท่าจะเข้าไปต่อยอีกครั้ง แต่ซึงฮยอนยกมือขึ้นห้าม

    ไม่ถูกหรอวะ?...คิมแจจุง...มึงไม่ได้แค่เล่นๆ รึไง?

    มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยคบใคร!! เพราะงั้นคนนี้กูรักจริง!!”

    จริงดิ?

    เออ!!!!!!!!”

    โว้วววว งั้นแปลว่าชาตินี้ มึงก็มีคนรักกับเขาแล้วสิ?

    นี่กูว่าเคลียเรื่องที่มึงลวนลามแจจุงนะเว้ย -*-

    ก็ต่อยกูแล้วไม่ใช่หรอวะ?

    มันพอที่ไหนเล่า!!”

    โห่ไอ่ยุน มึงก็รู้ว่าใครเขาก็หลงสเน่ห์แจจุงกันทั้งนั้นอ่ะ แล้วมีใครรู้มั่งว่าแจจุงกะมึงอ่ะคบกันจริงๆ...

    ... ยังไม่ได้คบกันซักหน่อย -3-

    แล้วมึงกับกูก็เพื่อนกันนะเว้ย มึงทำเหมือนไม่รู้ว่าคนไหนที่เพื่อนกูจริงจังด้วย กูไม่เล่น

    ... ก็ถูกของมัน...

    เพราะงั้นเรื่องวันนี้กูก็ขอโทษมึงละกัน

    หึ...

    อะไร หรือมึงจะไม่จบ?

    เออจบ ยุนโฮหันหลังเตรียมจะเดินออกจากสนาม

    อ้อ ยุนโฮ...

    อะไร?

    แต่ถ้าแจจุงเขามาเล่นกับฉันเอง อันนี้ฉันก็ไม่ผิดนะเว้ย ;P”

    ไอ่เทมมมม!!!” ผมวิ่งเข้าไปชนมันล้มลงกับพื้นก่อนจะถวายหมัดงามๆ ให้มันอีกที

    อัก!

    เชี่ยแม่ง ยังหมัดหนักเหมือนเดิม

    มึงกวนตีนว่ะแม่ง!!!”

    เอาเป็นว่าเรื่องแจจุงจบแล้วนะ...แต่กูขอต่อยมึงทีนึงละกัน

    ผลัก!!

    ซี้ดดดดดด เจ็บบบบ!!!

    ผมรับรู้ได้ถึงรสคาวในปาก...เลือดออกแหงเลย

    แล้วมึงต่อยกูเรื่องอะไร?

    มึงไม่เห็นหรอว่าคนอื่นมอง...มีเรื่องกะมึง แต่โดนมึงต่อยฝ่ายเดียวโดนที่มึงไม่มีบาดแผล กูก็เสียหมดดิ!”

    “=___=;” ผมยันตัวลุกขึ้น พร้อมกับยื่นมือไปให้มัน

    หมับ!

    มันจับไว้แล้วดึงตัวเองขึ้น

    จบแล้วนะเว้ย...

    เออจบ

    ผมเดินออกมาจากสนามบอลที่ทุกคนที่ยืนดูอยู่ต่างงงพอๆ กัน

    ก็ทุกคนเล่นหลีกทางซะไกล จนไม่ได้ยินในสิ่งที่ผมพูดกับไอ่เทมน่ะสิ...ดีแล้วล่ะ...จะได้ไม่มีใครรู้ว่าทะเลาะกันเรื่องแจจุง -3-

    ไอ่ยุน!” ผมหันไปมองตามเสียงเรียก

    ปาร์คยูชอนยืนพิงต้นไม้ข้างๆ สนามบอลมองผมด้วยหน้าตาสมเพช

    ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ อีกแล้วนะ กูก็นึกว่าจะมีเรื่องกันจริงจังถึงได้ตามมาดู

    ก็รู้ๆ อยู่ ว่าไอเทม ยังไงก็เพื่อนว่ะ

    เอออ...แล้วนี่เคลียร์แล้วใช่มั้ย?

    เออจบแล่ว...

    แต่กูว่าเรื่องนี้อ่ะ ทอล์คออฟเดอะทาวน์ชัวร์ๆ

    คงงั้น

     

    เลิกเรียน ผมเดินมาถึงรถ ก็มีเด็กหลงทางมายืนรอขอกลับบ้านด้วยอยู่แล้ว แล้วผมจะเล่นตัวอะไรได้?

    ก็ต้องจำยอม ถูกมั้ย?

    ผมขับรถออกมาเรื่อยๆ...จนเริ่มรู้สึกว่าตั้งแต่ขึ้นมาบนรถ แจจุงยังไม่ยอมละสายตาออกจากใบหน้าของผมเลย

    มีอะไรงั้นหรอ ?

    มองหน้าฉันตั้งแต่ออกจากมหาลัยจนจะถึงคอนโดแล้ว มีอะไร?

    หน้าไปโดนอะไรมา?

    ไหน?

    จิ้ม~

    โอ้ย!”

    จิ้มมาได้ยังไง!!!! ก็เห็นๆ อยู่ว่ามันช้ำ~

    นี่ไง ไปโดนอะไรมา?

    ก็เปล่าหนิก็ไม่ได้อยากปฏิเสธนะ แต่จะให้บอกออกไปตรงๆ เลยหรอ?? ไม่ดีมั้ง

    ไม่ต้องมาปฏิเสธเลย ไปต่อยกับซึงฮยอนมาใช่ป้ะ?

    แหนะ! รู้แล้วยังจะมาถามอีก

    รู้ด้วยหรอ?

    ได้ยินคนอื่นเขาพูด แล้วไปต่อยทำไม?

    ผมวนรถเข้ามาจอดในที่ประจำในลานจอดรถของคอนโด...

    แค่นี้ก็ไม่เข้าใจงั้นหรอ? พูดจบ ผมก็เปิดประตูและลงจากรถไปทันที

    แจจุงนะแจจุง...ทำไมถึงได้เป็นคนที่เข้าใจอะไรยากขนาดนี้!!

    เซนส์นะมีมั้งมั้ย ฮะ! ?

    ผมกลับขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่บนห้องให้สบายตัว ~

    อยากได้ที่ปรึกษาจัง...

    ฮัลโหล ไอ่ปาร์ค

    (อะไรวะ?)

    ขอเบอร์จุนซูหน่อยดิ -3-

    (ไม่ให้เว้ยยย เอาไปทำไร!)

    ไม่โทรไปจีบจุนซูหรอกหน่า...แค่อยากได้คำปรึกษาดีๆ เฉยๆ ไอ่นี่หนิ หวงแฟนไม่เข้าเรื่อง!

    (ปรึกษาฉันก็ได้นี่)

    ก็บอกล้วไงว่าอยากได้ที่ปรึกษา ดีๆ น่ะ

    (บร๊ะ! งั้นรอแปปนึงนะ)

    ...

    (...)

    มันไปไหนของมันวะ?

    (ฮัลโหลยุนโฮ ~)

    อ้าว จุนซูหรอ?? จุนซูมาได้ไง ???

    (เห็นยูชอนบอกว่าอยากได้ที่ปรึกษาดีๆ มีอะไรหรอ?)

    ตอนนี้จุนซูอยู่ไหนน่ะ ว่างคุยใช่มั้ย?

    (อยู่บ้านยูชอนน่ะ...ก็ว่างคุยนะ) บ้านยูชอน...จุนซูมีบ้านเป็นของตัวเองมั้ย? ทำไมกี่ทีๆ ก็อยู่แต่กับยูชอนๆๆๆๆ

    ระวังทำลูกสาวเขาท้องนะไอ่ปาร์ค -3-

    คืองี้จุนซู คราวที่แล้วที่บอกว่าให้แสดงออกน่ะ

    (อ่าฮะ...)

    คือแสดงออกไปแล้วอ่ะ แต่แจจุงเหมือนจะไม่รับรู้อะไรเลย

    (โอ้ยย แจจุงมันโง่) ถ้าจุนซูจะด่าแจจุงได้ตรงไปตรงมาขนาดนี้อ่ะนะ =__=!;

    (คืองี้นะยุนโฮ ถ้าใครต้องการจะบอกแจจุงอะไรซักอย่างนะ ต้องบอกตรงๆ ไปเลย อย่างรัก ก็ต้องพูดไปเลยว่ารัก ถ้ามัวแต่ทำดีกับมันอ้อมๆ อยู่งี้นะ ทั้งชาติมันก็ไม่มีทางรับรู้...คือมันเป็นคนไม่ค่อยกล้าคิดอะไรเอาเองน่ะ มันเป็นคนมีความมั่นใจต่ำ ขัดกับบุคลิกมันสุดๆ)

    ขนาดนั้นเลยหรอ...

    (ก็ใช่น่ะสิ...ก็บอกมันไปเลยซี่)

    จะบอกได้ยังไงล่ะ...ฉันเองก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าแจจุงคิดยังไงกับฉัน...

    (ขนาดนี้แล้วยุนโฮยังไม่รู้อีกหรอ? ฉันว่ายุนโฮก็ตกเป็นคนประเภทเดียวกับไอ่แจนไปแล้วล่ะ)

    คือจริงๆ แล้ว...ฉันรู้เรื่อง 21 วัน

    (!!!)

    ฉันเคยได้ยินตอนที่จุนซูกับแจจุงพูดกัน...แล้วก็เห็นในสมุดบันทึกของแจจุงน่ะ

    (งั้นหรอ...แต่ยุนโฮ...)

    ...?

    (ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าแจจุงมันทำไปทั้งหมดเพราะทฤษฎีนั่นน่ะนะ...แต่จริงๆ แล้วฉันเชื่อ ว่ามันน่ะมีใจให้ยุนโฮ...)

    ล้อเล่นหน่า...

    (จริงๆ นะยุนโฮ ถ้าไอ่แจมันฝืนทำทุกอย่าง มันคงทำได้ไม่เป็นธรรมชาติขนาดนี้หรอก ยุนโฮไม่รู้สึกมั่งหรอ...ว่ามันน่ะไม่ได้เสแสร้ง)

    ...

    (เอาเป็นว่า...แล้วแต่ยุนโฮละกันนะ ว่าจะเลือกแสดงออกยังไงให้มันรู้...ฉันบอกได้เท่านี้ล่ะ)

    โฮกกกฮากกกก

    ขอบคุณมากนะจุนซู...ฟ้าร้องแล้วอ่ะ สงสัยฝนจะตก งั้นฉันวางก่อนนะ

    (ฟ้าร้อง? แรงมามั้ย?)

    เปรี้ยง!

    ก็...

    (เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงฟ้าผ่า คงแรงมากเลยสินะ...ฉันจะบอกอะไรดีๆ ให้นะยุนโฮ)

    ...

    (แจจุงน่ะ มันอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก เวลาฟ้าร้องฟ้าผ่าแรงๆ น่ะ ยังไงก็ช่วยไปดูมันหน่อยนะ)

    อ่า...

    (แค่นี้นะ บายบาย)

    ติ๊ด

    คิดจะวางก็วางเลยนะจุนซู -0-;

    โฮกกกกฮากกกกก

     

    แจจุงน่ะ มันอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก เวลาฟ้าร้องฟ้าผ่าแรงๆ

     

    แล้วป่านนี้ จะเป็นยังไงมั่งนะ?

    ก็พอจะจำได้นะว่าวันนั้นที่ดูพารานอมอล แจจุงกลัวมากขนาดไหน...แล้วจะเอายังไงดี?

    เปรี้ยง!!!

    ลงขึ้นไปหาหน่อยก็แล้วกัน!

    ผมลุกขึ้นจากเตียง เตรียมตัวที่จะลงไปหาแจจุงข้างล่าง

    พึ่บ!!

    เห้ย!!!”

    ไฟดับ...แย่ล่ะสิ! ไฟดับแบบนี้ แล้ววันก่อนพึ่งไปดูพารานอมอลมา ป่านนี้แจจุงไม่ช๊อคตายไปแล้วหรอ ??

    ผมจัดการคลำทางไปหยิบไฟฉายที่อยู่ในลิ้นชักหัวเตียงออกมา ก่อนจะรีบโทรหาเด็กน้อยที่ป่านนี้คงจะกลัวจนตัวสั่นไปแล้ว

    ตู๊ดดด ตู๊ดดด

    รับสิแจจุง...

     

    (ฮัลโหล) แจจุงรับในที่สุด...

    ไฟดับใช่มั้ย...

    (อ...อื้ม ชั้นนายก็ดับหรอ?)

    ดับ...แล้วอยู่ยังไง?

    (ก็...ไม่รู้สิ ข้างนอกก็ฟ้าร้องดังด้วย...)

    กลัวรึเปล่า?ในขณะที่ผมคุยกับแจจุง ผมก็เดินออกจากห้องพร้อมกับตรงไปยังบันไดหนีไฟ

    (หืม??)

    กลัวรึเปล่าแจจุง?

    (ก็...กลัว)

    ถ้ากลัวก็รอก่อนนะแจจุง...ฉันกำลังไปหา...

    ...

    (...)

    ให้ไปอยู่เป็นเพื่อนมั้ย?

    (...)

    ...

    (ก...ก็ได้...แล้วจะมายังไง? ลิฟท์มันคงใช้ไม่ได้หนิ)

    ลงบันไดไง

    (มันตั้ง 20 ชั้นนะ)

    เดินลงไม่เป็นไรหรอกหน่า รอหน่อยนะ

    (อื้ม!)

    รอหน่อยนะ...

    รอฉันก่อนนะแจจุง...

     

    จากชั้น 40 ลงมาชั้น 20 ยอมรับว่าระยะทางไกลมากๆ และผมก็กลัวมาแจจุงจะรอนานเกินไป...ผมจึงต้องวิ่งลงบันไดลงมาท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจากไฟฉายกระบอกพอดีมือนี้ช่วยนำทางให้

    ผมเคาะประตูเรียกให้แจจุงเปิดออกมา นานเหมือนกันกว่าคนสวยจะเดินมาถึงประตูจนผมแทบจะพังเข้าไป...ก็กลัวว่าจะเดินสะดุดอะไร ยิ่งป้ำๆ เป๋อๆ อยู่

    แห่ก แห่ก แห่ก

    กลัวเหลือเกิน ว่าแจจุงจะได้ยินเสียงหอบที่มันดังมากของผม

    ดีแล้วล่ะที่ไฟดับ ไม่งั้นแจจุงคงจะเห็นร่างกายที่ชุ่มเหงื่อกับใบหน้าที่โคตรเหนื่อยของผม

    ดูเหมือนว่าย่านนี้จะไฟดับทั้งหมดเลย ั้งสองเดินมานั่งกันอยู่ที่โซฟาของแจจุง

    แล้วเมื่อไรไฟจะมาล่ะ?

    ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่ใช้ไฟฉายส่องไปตามจุดต่างๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไร

    ย...ยุนโฮ!” แจจุงคว้ามือของผมเอาไว้

    ทำไมหรอ?

    มันน่ากลัว ปิดไฟฉายเหอะ แจจุงรีบแย่งไฟฉายไปแล้วจัดการปิดมันทันที

    แต่เหมือนมือของร่างบางจะสั่นเพราะความกลัวหรือไม่ก็ลื่นจนเกินไปเพราะเหงื่อที่ซึมออกมาตามฝ่ามือ...จึงทำให้เมื่อกดปุ่มปิดไฟฉายก็หลุดออกจากมือและกลิ้งไปไกลที่ไหนซักแห่งในความมืด

    เห้ย ไปไหนแล้วอ่ะ!” แจจุงลุกขึ้นยืนเพื่อมองหาไฟฉาย แต่กลับมองไม่เห็น ทุกอย่างมืดไปหมด...แจจุงพยายามจะก้มลงเพื่อคลำหาแต่ก็ไม่เป็นไปตามที่หวัง...

    ฟึ่บ!

    ขาเรียวสะดุดกับขาโต๊ะเตี้ยที่อยู่หน้าโซฟา พร้อมกับร่างสวยที่คมำลงไปยังโซฟาตัวกว้างทันที...

    อ่ะ... และแจจุงก็ล้มลงมาทับตัวผมพอดิบพอดี...

    ข...ขอโทษ!” แจจุงรีบดันตัวเองออกแล้วลงนั่งข้างๆ กับยุนโฮบนโซฟาตัวยาวแทน

    ก็ผมบอกแล้วไง...ว่าแจจุงน่ะ ป้ำๆ เป๋อๆ เป็นที่สุด!

    ร้อนรึเปล่า? ผมถามแจจุง เพราะตอนนี้ผมน่ะร้อนมากๆ - -; เหงื่อท่วมตัวแถมยังไม่มีอะไรที่สามารถมาดับร้อนให้ผมได้เลย

    ก็...ไม่เท่าไร

    นี่ก็เริ่มมืดแล้ว...ง่วงหรือเปล่า ถ้าง่วงจะนอนก็ได้นะ

    ไม่เป็นไรหรอก

    ถ้าง่วงก็นอนบนนี้ซะ ฉันจะไปนั่งอีกตัวนึง ผมบอก...รู้สึกดีจังที่ได้เอาใจใส่แจจุงขนาดนี้...

    อ่า...จริงๆ ก็เริ่มง่วงแล้วล่ะ พอได้รับคำตอบของแจจุง ผมจึงลุกขึ้นแล้วขยับลงไปนั่งบนพื้นพรมข้างๆ โซฟาแทน

    ยุนโฮ!” แจจุงส่งเสียงเรียกอย่างตกใจ มือบางพยายามคลำหาว่าผมหายไปไหน

    ฉันอยู่นี่ ผมรีบจับมือนั้นมากุมไว้เพื่อให้อีกคนรู้ว่าผมจะไม่หนีไปไหนหรอก

    อื้มม แจจุงค่อยๆ เอนตัวลนอนในท่าที่สบาย

    ไม่นาน...ลมหายใจของแจจุงก็สม่ำเสมอทำให้ผมรู้ได้ว่าเจ้าตัวหลับไปแล้ว...มือของผมยังคงกุมอยู่ที่มือบาง

    ผมค่อยๆ ใช้มืออีกข้างเกลี่ยผมที่ตกลงมาปรกหน้าให้อีกคนเพราะกลัวว่าแจจุงอาจจะรำคาญมันก็ได้...

    แสงจากพระจันทร์ที่คืนนี้ดันเต็มดวงพอดีส่องเข้ามาทำให้ผมพอมองเห็นใบหน้าสีน้ำนมนี้ได้บ้าง

    สวยจัง...

    ริมฝีปากสีสดเด่นชัดท่ามกลางความมืด...มันช่างยั่วยวนผมเหลือเกิน...

    ผมไม่เคยคิดจะลวนลามแจจุงเวลาร่างบางเผลอหรือไม่มีแรงต่อต้าน...ใช่ตอนนี้แจจุงไม่มีแรงจะต่อต้านผม

    และผม...ก็ไม่มีแรงที่จะต่อต้านตัวเองเช่นเดียวกัน...

    ใบหน้าของยุนโฮค่อยๆ เลื่อนเข้าไปใกล้ๆ ริมฝีปากนั้นอย่างช้าๆ...

    พึ่บ!!

    “!!!!!” ผมตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ไฟและแอร์ก็กลับมาทำงานอีกครั้ง...มันจึงทำให้ แจจุงลืมตาตื่นขึ้นมาตามไปด้วย!

    ใบหน้าของเราตอนนี้ ห่างกันเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น...

    อีกนิดเดียวริมฝีปากของเราก็จะสัมผัสกันอยู่แล้ว...

    แจจุง... ผมเอ่ยเรียกชื่อคนที่ผมกำลังมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขาอยู่

    ว่าไง?

    จูบนะ

    “O_O!!!”

    ได้ใช่มั้ย?

    ด...ได้

    ดีจังที่แจจุงไม่ปฏิเสธ...ดีจังที่แจจุงอนุญาต...

    ริมฝีปากหยักค่อยๆ ประทับลงบนริมฝีปากอิ่มสีสวยสดน่าจูบนั่นทันทีเมื่อได้รับการอนุญาตจากเจ้าของมัน...

    ขอคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยเถอะนะแจจุง...ว่าแจจุงเอา...ก็มีใจให้ฉันเหมือนกัน

    ถึงแม้มันจะเป็นแค่เศษเสี้ยวเดียวก็ตาม...

     

     

     

    SEVENTEENTH DAY (17th)

     

    ยุนโฮนอนตะแคงหลังชิดกับพนักพิงของโซฟาโดยที่ในอ้อมแขนมีร่างสวยของคิมแจจุงที่นอนเอาหลังแนบชิดอยู่กับหน้าอกของยุนโฮอยู่

    อื้มมม กายสวยค่อยๆ เหยียดออกบิดไล่ความเมื่อยล้าออกจากตัวเอง

    ตื่นแล้วหรอ? ผมรับรู้ถึงร่างที่เคลื่อนไหวอยู่ถายในอ้อมกอด

    อื้ม ปล่อยได้แล้ว แจจุงว่า พร้อมๆ กับแกะมือของยุนโฮให้ออกไปจากเอวบางของตัวเอง

    แจจุงเป็นอิสระในที่สุดและค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นออกจากโซฟา เสื้อแขนยาวสีเทาคอกว้างหล่นลงมาอยู่ที่ไหล่เนียน ก่อนที่คนสวยจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับชูแขนขึ้นทั้งสองข้างเพื่อไล่ความเมื่อย...

    จะยั่วกันแต่เช้ารึไง? เมื่อไรกันนะ ที่แจจุงจะหยุดใส่ไอ่เสื้อตัวใหญ่ๆ คอกว้างๆ แบบนี้ซักที

    ผมล่ะหัวใจจะวายทุกครั้งที่แจจุงเคลื่อนไหวกายภายใต้เสื้อตัวนี้...

    ยั่ว?

    ก็เสื้อแบบนี้ไง มีเยอะหรอ?

    แล้วไอ่เสื้อกล้ามกางเกงขายาวนี่มีเยอะรึไง? ยอกย้อน!!

    ก็ชอบ

    อืม ก็ชอบเหมือนกัน

    ชอบฉันน่ะหรอ ?

    เห้ย!” แจจุงดูจะตกใจไม่น้อยกับคำพูดทีเล่นทีจริงของผม

    แสดงออกให้มากที่สุด...ในเมื่อบอกรักตรงๆ ผมยังไม่มีความกล้ามากพอ ก็ขอแสดงออกให้แจจุงรับรู้ได้มากที่สุดก็แล้วกันนะ...

    เห้ยอะไร?

    เปล่า แค่ตกใจไม่คิดว่าคนนิ่งๆ ไม่ค่อยสนใจอะไรจะพูดจาแบบนั้นออกมา

    ฉันพูดว่าอะไร...??

    ก็เมื่อกี้ไง ที่นายพูดว่า...ฉันชอบนายน่ะ!”

    ตกลงว่านายชอบฉันจริงๆ งั้นหรอ ?

    ห้ะ??

    ฉันขึ้นไปเตรียมตัวไปเรียนก่อนนะ นายก็ด้วย เดี๋ยวลงมาหา

    เมื่อเห็นว่าแจจุงคงจะงงกับคำพูดวกไปวนมาของผม ผมจึงขอตัวกลับขึ้นไปอาบน้ำ

    นอนทั้งๆ ที่มีเหงื่อ มันรู้สึกแย่เป็นบ้า -0-

    แต่ก็รู้สึกดีที่มีแจจุงอยู่ในอ้อมกอดนะ ~ อั้ยยยยยย > <!

     

    พอมาลองคิดๆ ด้วยตัวเองดูแล้ว...วันนี้เป็นวันที่ 17 แล้ว ถ้าไม่นับวันนี้ก็เหลืออีกแค่ 4 วันเท่านั้น

    4 วันที่แจจุงยังจะทำตัวแบบนี้กับเขา

    แตหลังจาก 4 วัน เขาก็ไม่อาจจะเดาได้ว่าแจจุงจะทำยังไงต่อไป...แจจุงจะเห็นทุกอย่างเป็นแค่เกมที่ต้องทำให้ครบ 21 วัน และเมื่อครบ แจจุงอาจจะทำเหมือนไม่เคยรู้จักเขามาก่อนเลยก็ได้...

    หรือไม่ ถ้าแจจุงเกิดมีใจให้เขาจริงๆ...แจจุงอาจจะไม่สนใจ 21 วันที่เกิดขึ้น และเราจะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ...

    เฮ้ออออออออออออออออออ

    ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด !

    เพราะฉะนั้น...ผมควรจะทำจิตใจให้แจ่มใส...แล้วใช้เวลาที่เหลืออีก 4 วันข้างหน้า ให้คุ้มค่าที่สุดเผื่อว่า...

    หลังจากหมด 21 วัน แจจุงอาจจะหายตัวไปจากผมแล้วจริงๆ

     

    หลังเลิกเรียน ผมพาแจจุงมาดูหนังตามที่เจ้าตัวอยากดูเมื่อวันก่อน

    ไอ่หนังภูติจิ๋วตัวสีฟ้าที่วิ่งไปวิ่งมาในเมืองใหญ่...ก็น่ารักดีหรอกนะ

    แต่ก็น่ารักไม่เท่าใบหน้าที่มีความสุขของแจจุงเวลาได้จ้องมองเจ้าตัวพวกนั้นวิ่งไปวิ่งมาหรอก

    กะแล้วว่าต้องเป็นหนังที่ขำและสนุกมาก!” แจจุงยังคงหัวเราะค้างกับหนังที่พึ่งจะดูจบ

    อืม ก็น่ารักดี

    ทำไมวันนี้คำพูดแบบนี้หลุดออกมาจากปากนายบ่อยจัง?

    แบบไหน? ผมพูดอะไรไปงั้นหรอ ?

    ก็ไอ่คำว่าน่ารักอะไรแบบนี้ไง

    คำว่าน่ารักน่ะหรอ...

    น่ารักน่ะหรอ...คงเพราะวันนี้อยู่กับคนน่ารักล่ะมั้งเลยพูดบ่อย เพราะว่าผม...อยากจะเป็นตัวเองและแสดงออกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ยังไงล่ะคิมแจจุง J

    ยุนโฮ!!”

    ครับ? ผมขานรับคนที่ตะโกนเรียกผม

    เอ่อออ....

    มีอะไร?

    ฉันว่านายเปลี่ยนไปนะ =__=; คือแบบ เป็นอะไรรึเปล่า?

    เปลี่ยนไปยังไง?

    ไม่นิ่ง ! ไม่เย็นชา ! ไม่ขี้เก็ก ! ไม่พูดน้อย !”

    แล้วตอนนี้ฉันพูดมากหรอ?

    ก็เออน่ะสิ!” แจจุงกระแทกเสียงใส่

    แล้ว...มันไม่ดีหรอ?

    ผมไม่เก็ก ไม่นิ่ง ไม่เย็นชา แถมยังพูดมาก มันไม่ดีงั้นหรอ ??

    มันก็ไม่ได้ไม่ดี...มันแบบ...

    ไม่ชอบให้เป็นแบบนี้หรอ?? ผมถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ...ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้วันที่เหลือของเรามีความสุขที่สุด

    แต่แจจุงกลับไม่ชอบงั้นหรอ ?

    ค...คือมันก็...

    อืม ถ้าไม่ชอบจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ได้

    ดูเหมือว่าแจจุงจะไม่ชอบที่ผมทำแบบนี้เลยจริงๆ...งั้นก็ได้ ผมจะกลับไปนิ่ง เย็นชา ขี้เก็ก เหมือนเดิม

    ถ้านั่นจะทำให้แจจุงคิดว่าผมปกติน่ะนะ...

     

    ยุนโฮ ~” แจจุงรีบวิ่งตามอีกคนที่ลงจากรถเดินเข้าคอนโดไปแล้วไปทันที

    ร่างสวยรีบกระโจนเข้าไปในลิฟท์ที่เกือบจะปิดตัวลงโดยไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ก่อนจะช่วยกดเปิดประตูไว้ให้เลยซักนิด

    ? ผมหันไปมองแจจุงอย่างงงๆ นี่ผมทำอะไรผิดอีกแล้วงั้นหรอ ?

    นายอย่านิ่งดี้ T__T”

    อืม

    โกรธฉันงั้นหรอ ?

    ...

    ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ นายพูดเองแล้วก็เออเองไปซะทุกอย่างเลย!!” แล้วแจจุงอยากจะให้ผมทำยังไงล่ะ? ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ นะ!!

    ผมอยากเป็นตัวเองให้มากที่สุด อยากสดใสร่าเริงได้อย่างที่แจจุงทำ แต่พอผมทำ แจจุงกลับหาว่าผมเปลี่ยนไป

    คนเราถ้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ก็ควรจะดีไม่ใช่รึไง?

    ...

    เออ! จะนิ่งก็นิ่งไปเลย! จะเงียบก็เงียบไปเลย! คนบ้าอะไร พูดเอง คิดเอง สรุปเอง คิดให้ร้ายตัวเองเหลือเกินว่าคนอื่นเขาจะไม่ชอบถ้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นน่ะ ไม่เคยจะฟังคนอื่นเขาอธิบายหรอก!” แจจุงพูดจบก็หันไปกดลิฟท์ชั้นที่ 26 ซึ่งลิฟท์ก็ถึงพอดี

    แจจุงกดปุ่มเปิดค้างไว้พร้อมกับหันกลับมาทางผม

    ถ้าชอบนักก็ทำต่อไปเถอะ ไอ่คิดให้ร้ายตัวเองน่ะ!”

    คิดให้ร้ายตัวเอง??

    แจจุงปล่อยปุ่มเปิดที่กดค้างไว้แล้วเดินออกมาจากลิฟท์

    ฉันคิดเข้าข้างตัวเองมามากพอจนลืมมองความจริงไปแล้วต่างหากล่ะคิมแจจุง...

    และประตูลิฟท์ก็ปิดลงในที่สุด

    เฮ้อออ...ทำไมเรื่องมันกลับวุ่นวายไปแบบนี้ล่ะ...

     

    ฉันคิดเข้าข้างตัวเองมามากพอจนลืมมองความจริงไปแล้วต่างหากล่ะคิมแจจุง

     

    ใช่ คิดเข้าข้างตัวเองจนลืมมองความจริง...คิดไปเองว่าที่แจจุงทำมาทั้งหมดที่ยอมให้จูบ ยอมให้กอด เพราะอาจจะมีใจให้กันบ้าง

    แต่ก็ลืมมองความจริงที่ว่า...ยังไงซะแจจุงก็ยังต้องการพิสูจน์ทฤษฎีนั่น ไม่แปลกหรอกที่แจจุงจะยอมทำทุกอย่าง...เพื่อหาคำตอบว่าที่ทำมาทั้งหมด ผมมีใจให้แจจุงบ้างรึเปล่า?

    ผมควรจะบอกให้แจจุงเลิกล้มการพิสูจน์ครั้งนี้ซะนะ

    เพราะไม่ว่าจะ 1 วัน 7 วัน หรือ 21 วัน คำตอบของผม ก็คือ รักแจจุงอยู่ดี...

    ก็เพราะผมรักแจจุงมาตั้งแต่ต้นหนิ...

     

     

    EIGHTEEN DAY (18th)

     

    ผมยังไม่ได้นอนเลย =_______________=;

    มัวแต่คิดนู่นคิดนี่อยู่ทั้งคืน เวลา ก็เริ่มเหลือน้อยเต็มทน...ผมรู้สึกว่าตัวเองเอาแต่จ้องมองเวลาที่สูญเสียไปอย่างกับว่าผมเป็นดรคร้ายแรง และกำลังจะตายภายในอีก 3 วัน...

    ไม่แน่นะ หลังจาก 21 วัน ผมอาจจะตายจริงๆ ก็ได้

    เพราะยังไงซะ ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองขาดแจจุงไม่ได้ไปซะแล้ว

    แล้ววันนี้แจจุงจะไปมหาลัยกับผมมั้ย?

    ครืดดด ครืดดด

    ยูชอนโทรมา...

    ว่าไง?

    (นี่จุนซูเองนะยุนโฮ)

    อ้อ จุนซู...ทำไมหรอ?

    (เมื่อกี้แจจุงโทรมาหาฉัน ทะเลาะอะไรกันรึเปล่า?)

    แจจุงโทรหาจุนซูทำไม

    (ก็จะให้ฉันไปรับน่ะสิ แต่ฉันปฎิเสธไปแล้วนะ คิดว่าทั้งสองคนควรจะได้เคลียร์กันน่ะ) ให้จุนซูมารับ...? คงจะไม่อยากเจอหน้าเขาจริงๆ สินะ

    เฮ้ออออ...เอาอีกแล้ว....

    ขอบใจมากนะจุนซู...จริงๆ แล้วเมื่อวานเราไม่เข้าใจกันนิดหน่อย

    (งั้นหรอ...งั้นนายก็ควรรีบๆ เคลียร์นะ เหลือเวลาอีกไม่มาก นายก็รู้ใช่มั้ยยุนโฮ?)

    รู้สิ...งั้นแค่นี้นะจุนซู

    (จ้ะ)

    แล้วแจจุงจะไปมหาลัยรึยัง ???

    ผมรีบคว้ากุญแจรถและกระเป๋าลงไปยังล๊อบบี้ทันที

    อารา!”

    ข...ขาคุณยุนโฮ

    แจจุงออกไปรึยัง?

    เดินออกไปซักพักแล้วค่ะ

    ขอบคุณมาก!” พอได้คำตอบ ผมก็รีบวิ่งไปขึ้นรถของตัวเองแล้วขับออกไปทันที

    คงจะไม่ได้จะไปขึ้นรถเมล์อีกหรอกนะ...เดี๋ยวก็โดนใครลวนลามขึ้นมาอีกหรอก...

    ผมขับรถเทียบฟุตบาทไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววของแจจุง

    อ๊ะ นั่นไง!! แต่ผมมาช้าเกินไป เพราะว่าแจจุงขึ้นรถเมลืที่จอดอยู่ไปแล้ว ผมขับตามรถคันนั้นไปเรื่อยๆ จนสามารถขับขนานกับรถเมล์ไปได้ ผมอยู่เลนส์นอกสุดเพื่อที่จะได้มองเห็นคนบนรถเมล์นั้นชัดๆ...

    นั่นไอ่เทมนั่งอยู่ติดหน้าต่างเลยหนิ...แล้วนั่นก็...

    แจจุง! นั่งอยู่ข้างๆ มัน!! ให้ตายสิ ทำไมทั้งสองคนนี้ถึงได้บังเอิญนั่งรถคันเดียวกันบ่อยจังเลยนะ!!

     

    แล้วมึงกับกูก็เพื่อนกันนะเว้ย มึงทำเหมือนไม่รู้ว่าคนไหนที่เพื่อนกูจริงจังด้วย กูไม่เล่น

     

    เอาเถอะ ยังไงซะเราก็รู้จักนิสัยไอ่เทมดีพอสมควร...

    ผมยังคงขับรถขนานคู่ไปกับรถเมล์เรื่อยๆ สายต็พลางเหลือบขึ้นไปมองคนสองคนที่นั่งคุยกันอยู่บนรถ

    แจจุงยิ้ม...หัวเราะ...

    มึงทำเหมือนไม่รู้ว่าคนไหนที่เพื่อนกูจริงจังด้วย กูไม่เล่น

     

    สุดหายใจเข้าลึกลึกกกกกกก ชเว ซึงฮยอน คนของเพื่อน มันไม่เล่น!

    เดี๋ยวก่อนนะ!!! ทำไมถึงจับมือกันด้วยล่ะ!!!!!!!!

     

    แต่ถ้าแจจุงเขามาเล่นกับฉันเอง อันนี้ฉันก็ไม่ผิดนะเว้ย ;P”

     

    !!!!!

    โว้ยยยยยยย ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!

    ผมถึงจุดพีคพอดีกับที่รถเมล์คันนั้นจอดลงที่ป้ายหน้ามหาลัย ผมหักเข้าเลนส์ในสุดและหยุดรถหลังรถเมล์คันนั้น

    ทั้งสองคนเดินลงมาด้วยกันพร้อมยังไม่หยุดคุยกัน!!

    ผมรอจนรถเมลืเคลื่อนตัวออกไป และมองดูจนทั้งสองคนนั้นเดินไปจนใกล้จะเข้าประตู

    บรื้นนนนนนนนนนนนนนนนนน

    ผมเหยียบคันเร่งอย่างแรงแล้วหักเลี้ยวโค้งเข้าไปทางประตูรั้วอย่างรวดเร็วด้วยความหงุดหงิด

    ก็รู้อยู่หรอกนะ ว่าเมื่อกี้เกือบจะเฉี่ยวโดนแจจุง...แต่ไม่โดนซักหน่อย!!

    เอี๊ยดดดดดดดดด!! ผมเหยียบเบรกอย่างแรงเมื่อถึงที่จอดรถท่ามกลางความตกใจของใครหลายๆ คน แต่คิดว่าผมจะสนใจหรอ?

    ผมเดินกลับไปทางประตูรั้วพร้อมกับหย่อนก้นลงนั่งลงบนม้านั่งเพื่อรอให้คนสองคนนั้นเดินเข้ามา...

    งั้นฉันไปเรียนก่อนนะแจจุง บ๊ายบาย ซึงฮยอนโบกมือลาคนสวยพร้อมด้วยรอยยิ้มมีสเน่ห์ แจจุงยิ้มกลับพร้อมกับโบกมือลาน้อยๆ

    มึงอ่อยที่รักกู ไอ่เทมมมมมมมม!!!!

    แม่ง หงุดหงิดว่ะ!

    ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินหนีไปอย่างไม่สบอารมณ์ ถ้าไม่บอกลากันอย่างหวานชื่น ก็กะจะนั่งรอคนมาง้อซักหน่อยหรอกนะ!

    ยุนโฮ!” คิดจะง้อตอนนี้ก็สายไปซะแล้วล่ะ คิมแจจุง!

    ไอ่บ้าเอ๋ย!!”

     

    ตึง!

    โอ้ยยยยยยยยยย ~” เสียงโอดครวญดังขึ้นเป็นผลข้างเคียงมาจากการที่ผมเดินอยู่ริมสนามบอลและเตะอัดลุกฟุตบอลระบายอารมณ์โมโหออกไปอย่างรุนแรง

    ผมไม่รู้สึกผิดอะไรหรอกนะ...

    เพราะคนที่เคราะห์ร้ายน่ะก็คือ...

    ไอ่เชี่ยยุน!! ไม่เห็นคนนั่งอยู่รึไงวะ!”

    ชเว ซึงฮยอน ;)

    ตั้งใจว่ะ!” ผมเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะไปนั่งข้างมันที่นั่งอยู่บนเนินที่อยู่ข้างๆ สนามฟุตบอล

    จิ้...เห็นล่ะสิ กูกับแจจุงเมื่อเช้าน่ะ

    คราวนี้รู้ตัวด้วยหรอวะ ? ผมหันไปเลิกคิ้วถามมันกวนๆ

    เออสิวะ! แสดงออกซะขนาดนี้ แต่คราวนี้กุไม่ได้ทำไรเลยนะเว้ย แค่คุยกันเฉยๆ...

    แล้วทำไมต้องจับมือกันด้วย?

    จับมือ...นี่มึงขับรถตามพวกกูหรอ?

    เปล๊า ก็แค่ขับผ่าน ผมไหวไหล่ปฏิเสธมันไป

    ปากแข็งเหมือนเดิม...แต่มึงโกหกกูนะยุนโฮ

    โกหกเรื่องอะไรวะ?

    มึงกับแจจุง ไม่ได้คบกันอยู่

    ...

    กูพูดถึงเรื่องมึงที่มึงชอบเขา จริงจังกับเขา...

    เห้ยยย!!!”

    แต่เขาดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยซักนิด...

    ...

    กูก็เลยบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคน กูเอาใจช่วย แล้วก็จับมือเขาแค่นั้นเอง

    เขาไม่รับรู้ความรู้สึกของกุจริงๆ หรอวะ

    ก็คงงั้น มึงแสดงออกมากพอรึยังล่ะ? ผมไม่ได้หันไปมองหน้ามัน แต่ผมมองวิวเบื้องหน้าไปเรื่อยๆ...สนามบอลที่มีคนวิ่งเล่นกันอยู่ไม่มาก...

    กูก็กำลังพยายามอยู่...

    ...

    กูว่าเขาน่ะรู้...แต่แค่ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองรู้ก็เท่านั้นเอง...

    ซึงฮยอนมองใบหน้าด้านข้างของเพื่อนที่ดุหงอยๆ อย่างรู้สึกสงสาร...เนี่ยล่ะน้า ความรัก ~

    รักใครจริง แม่งก็เจ็บงี้แหละวะ...แต่ก็ดีกว่าเจ็บเพราะหาคำว่ารักไม่เจอนะเว้ย

    ... ยุนโฮหันไปมองทางซึงฮยอนที่ยิ้มแหยๆ อย่างแปลกใจ

    มองงั้นทำไมวะ?

    พูดไรแบบนี้เป็นด้วยหรอวะ?

    ก็เออสิ!”

    ขอบใจมากนะเว้ย...

    ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็เอาใจช่วยนะเว้ย...แต่กูว่านะ...

    ??

    แจจุงแม่งโคตรซื่อเลยว่ะ!!!”

    ฮ่าๆๆๆๆ กูก็ว่างั้นแหละ

    เพื่อนทั้งสองต่างนั่งยิ้มให้กันอย่างอารมณ์ดี...

     

    ... ผมชะงักฝีเท้าไปเล็กน้อย เมื่อเดินมาที่รถแล้วผมกับร่างสวยที่ยืนพิงท้ายรถของผมอย่างเหม่อลอยอยู่

    และเมื่อสายตาของแจจุงหันมาเห็นผม คนสวยก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที

    ยุนโฮ๊~~”

    ?

    กลับบ้านด้วนนะ ^0^”

    ...

    น้า ~ *0*

    ...

    อย่าเงียบดี้ TOT” แจจุงที่เกาะแขนยุนโฮอยู่เงยหน้าสบใบหน้านิ่งๆ นั่นอย่างเริ่มรู้สึกกังวล

    ตอนนี้สายตาพิฆาตก็ใช้ไม่ได้ผลหรอกแจจุง...

    จะให้พูดอะไร?

    ก็...พูดว่าให้กลับหรือไม่ให้กลับไง!”

    ไม่ขึ้นรถเมล์หรอ?

    ไม่ขึ้น!”

    ไม่กลับกับซึงฮยอนหรอ?

    ไม่...เอ๊ะ? ทำไมถามแบบนี้อ่ะ?

    เปล่า ขึ้นรถสิ ถึงยังไง ก็ไม่เคยปฏิเสธซักครั้งอยู่แล้ว...

     

    จิ้มๆ

    ระหว่างทางที่กำลังขับกลับคอนโด...ก็มีนิ้วเรียวๆ จิ้มเข้าที่ต้นแขนของผม

    หืม

    ยุนโฮ ~ นายโกรธฉันหรอ

    เปล่า

    แล้วไมเงียบไม่สนใจกันเลยอ้ะ T_T”

    จะให้พูดอะไร?

    ... ดูเหมือนเจ้าตัวเอง...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้ผมพูดอะไร

    ฮะ จะให้พูดอะไรแจจุง?ผมถามย้ำอีกครั้ง

    พ...พูดอะไรก็ได้

    ...

    ยุนโฮอ้ะ TT’ งั้นตอบมาก็ได้ว่าหายโกรธฉันแล้ว

    ก็บอกว่าไม่ได้โกรธ

    ... แจจุงยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าผม

    อะไร?

    ถ้าไม่โกรธก็ต้องเกี่ยวก้อย แจจุงบอกพร้อมกับใบหน้าน่ารักที่หันมามองผมในขณะที่รถกำลังติดไฟแดง

    อายุเท่าไรแล้ว?ทำตัว(น่ารัก)เป็นเด็กไปได้ -3-

    นี่! เร็วๆ ซี่!!”

    ผมจึงต้องยื่นนิ้วก้อยของผม ไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของอีกคนในที่สุด

    เห้อออ ไฟเขียวซักที!!

    ยุนโฮ ~”

    อะไรอีก

    พูดมากๆ เหอะ

    ...

    ฉันชอบนะ...ชอบยุนโฮที่ไม่นิ่ง ไม่เย็นชา ไม่เก็ก พูดมากๆ... แจจุงหันมายิ้มให้ผม ในขณะที่ผมกำลังขับรถเข้ามาจอดตามปกติ

    ...เมื่อจอดรถเสร็จ ผมก็หันมามองคนที่มีหน้าตาสดใสที่ยังคงพูดเจื้อยแจ้วไม่ยอมหยุด

    ชอบยุนโฮที่ทำตัวแปลกๆ บางทีก็ดี บางทีก็ร้าย บางทีก็ดูเป็นห่วงฉัน...

    มาพูดจาแบบนี้ รู้รึเปล่าว่าจะเจอกับอะไรน่ะคิมแจจุง...

    แล้วยิ่งยุนโฮที่พูดว่าฉันน่ารักนะ ฉันโคตรชอบเลย ! ชอบมากมากมาก...อุบ!” ผมจึงจัดการปิดปากสวยนี่...ก่อนที่แจจุงจะพูดจาน่ารักมากไปกว่านี้...

    มาพูดว่าชอบนู่นชอบนี่ได้ยังไงกัน...

    มันไม่ปอดภัยต่อตัวแจจุงเองนะ ไม่รู้เหรอ...

    ที่พูดมาน่ะจริงหรอ?ผมถามในขณะที่มือทั้งสองข้างของผม ยังคงแนบอยู่ที่แก้มใสทั้งสองข้าง

    ห...หืม

    ที่พูดว่าชอบมาทั้งหมดน่ะจริงหรอ... ผมถามย้ำอีกครั้ง พลางใช้มือข้างนึง เกลี่ยผมที่ปรกลงมาที่หน้าของแจจุง

    จ...จริงสิ อื้มมม ไม่ทันที่แจจุงจะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้...ผมก็จัดการปิดปากของแจจุงอีกครั้ง

    อ่อนโยน...แต่หนักแน่น...

    โปรดรับรู้ความรักของฉันที่มีต่อนายซักทีเถอะนะแจจุง มันมากมายจนฉันแทบจะกระอักตายอยู่แล้ว...

     

    วันนี้วันที่ 18 แล้วนะยุนโฮ...แกจะทำยังไงดี...

    จากที่จุนซูบอกเล่าคร่าวๆ สิ่งเดียวที่สรุปได้ตอนนี้ก็คือ...แจจุงจะหายตัวไปหลังจาก 21 วันอย่างแน่นอน...

    แล้วถ้าเกิดว่าทำให้แจจุงยอมรับให้ได้ว่ารักเขาก่อนจะหมด 21 วันล่ะ ?

    มันจะเป็นไปได้ยังไง ถ้าแจจุงไม่เคยคิดอะไรกับเขาเลยจริงๆ แค่ 3 วัน มันไม่พอหรอก...

    เมื่อก่อนยอมรับ ว่าขอแค่ให้ได้มองแจจุงอยู่ห่างๆ แค่ได้รู้ว่าคนสวยไม่มีใครเท่านั้นก็มีความสุขแล้ว

    แต่ตั้งแต่แจจุงเข้ามาในชีวิต...ทุกนาทีมีความสุขมากก่าเดิม การที่เราสามารถมองคนที่เราชอบได้ตรงๆ ได้คุยกับเขาซึ่งๆ หน้า มันก็ดีกว่าการแอบมองอยู่มุมใดมุมนึงที่เขาไม่มีวันมองมาอยู่แล้วล่ะ...

    ชองยุนโฮไม่อยากจะกลับไปมีชีวิตที่ได้แต่แอบมองคิมแจจุงอีกแล้ว...

    ชองยุนโฮอยากให้ทุกวินาทีต่อจากนี้ มีคิมแจจุงอยู่ข้างๆ ตลอดไป.


    *อีกแค่ 3 วัน ก็จะครบ 21 วันแล้วนะคะ :)
    ไรเตอร์จะไม่ลง พาร์ท ยุนแจ* นะคะ (พาร์ทยุนแจคือหลังจาก 21วัน)
    แต่จะนำเอาสเปเชี่ยลบางตอนมาลงนะคะ :)
    *สำหรับกิจกรรม 21 DAYs ส่งกันมาเยอะๆ น้า ไม่ต้องห่วงไรเตอร์มีของรางวัลปลอบใจให้จ้า > <!
    วันอาทิตย์นี้ ใครไปงานฟิคแวะไปหากันได้นะคะ ♥ บู้ท C10 ค่า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×