ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นักเรียนหมอขอเมาท์

    ลำดับตอนที่ #9 : เมาท์ : ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.31K
      7
      4 มิ.ย. 53

                   

    เจอฝรั่งถามทาง ฟังไม่รู้เรื่อง !    grammar ที่เรียนในห้องก็พอจำได้แต่เอามาใช้ไม่เป็น!

    ฟังเลดี้กาก้าร้องเพลงไม่เข้าใจ!    

    ทำไมเราถึงได้แย่ภาษาอังกฤษขนาดนี้ !! (แต่เรียนใน ห้องเรียนได้เกรด 4 ) Oh NOOOO!....เอ็ดเวิร์ดทิ้ง เจสสิก้าเมิน....เชิญฟังทางโน้น ^^

     

    สำหรับ น้องๆ ที่เคยประสบปัญหาดังกล่าว ไม่ต้องตกใจ.....ปัญหาของคนไทยในทุกยุคทุกสมัย

    ก็คือ เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนเข้ามหาวิทยาลัย แต่ทำไม๊ ทำไม บางคนก็ยังไม่กล้านำไปใช้

    ให้เกิด ประโยชน์  ณ ตอนนี้ พี่ไม่ได้กำลังพูดถึงการนำภาษาอังกฤษของน้องๆ ไปใช้ในการสอบเข้า

     หรือสอบเอาคะแนนเท่านั้น แต่พี่กำลังพูดถึงความกล้าที่จะฝึกฝนภาษาอังกฤษของเราให้ดียิ่งขึ้น

    อ้าวววว! แล้วเราจะเริ่มต้นอย่างไรกันดีล่ะ...วันนี้ พี่ก็มีวิธีแนะนำ เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้น้องเอาไปลองฝึกฝนวันละนิดวันละหน่อย

    เพื่อ เพิ่มพูนทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษให้เพิ่มยิ่งขึ้น มาลองดูกันเลย

     

    A. หาเพื่อนเป็นฝรั่ง วิธีนี้ขอรับประกันว่า ช่วยได้ผลมากๆ เลยค่ะ หาเพื่อนในที่นี้ ไม่ได้จำเป็นว่าเราต้องไปนัดกับฝรั่งเจอกันตามสถานเริงรมย์นะคะน้อง มันไม่ช่ายยยยย  แต่เราอาจติดต่อสื่อสารกับฝรั่งทาง อินเตอร์เน็ต อาจเป็นเพื่อนที่สนใจในสิ่งต่างๆ เหมือนๆ กันกับเรา

    Join group เดียวกันกับเรา เราก็สามารถพูดคุยเพื่อฝึกฝนภาษาอังกฤษกับเขาได้ ฝรั่งเขาไม่ได้ใจร้ายกับเราขนาดนั้นหรอก

    “ ยู่ววววว  แดทส์ วรองงง” เขาคงไม่ได้มานั่งจับผิดการใช้ภาษาของเราทุกคำ แต่เขาจะพยายามทำความเข้าใจ และอาจช่วยเราแก้ไขในสิ่งที่เราสื่อสารไปผิดๆ ซึ่งพี่ก็เจอหลายคน ที่ช่วยเราได้จริงๆ นะคะ นอกจากนี้เราก็ยังสังเกตจากลักษณะภาษาที่เขาใช้ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เราต่อไป (ก็ต้องคัดกรองด้วย ไม่ใช่ว่าเขาใช้คำหยาบคายมา ก็ลอกเลียนเอาไปใช้หมดนะคะ)  คำ บางคำ ไม่ทราบความหมาย แอบค้นหาในดิคชันนารี ก็คงไม่มีใครว่าเราหรอกค่ะ ขนาดภาษาไทยของเราเอง เรายังไม่ทราบความหมายของคำบางคำ จนต้องเปิดหากันเลย อย่าคิดมากค่ะน้อง
     

    B. กล้าเข้าหา หากมีฝรั่งหลงทางอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับที่น้องอยู่ ไม่ต้องตกใจค่ะ ยิ่งหัวทอง ยิ่งวิ่งเข้าชนค่ะ 55555 ไม่ใช่ว่าเจอแว้นท์แถวนั้นย้อมหัวทองๆ แล้วน้องวิ่งเข้าชนนะคะ อาจเจอฝ่าดงทีนได้.. พี่หมายถึง หากเขาต้องการความช่วยเหลือ แล้วเราคิดว่าเราอาจช่วยเขาได้ก็ขอให้ลองเสียเวลาสักนิด เพื่อเริ่มต้นบทสนทนาสั้นๆ ของน้องกับฝรั่ง น้องจะรู้สึกว่า มันไม่ได้เสียหายอะไรเลย หากน้องจะเริ่มกล้าพูดภาษา

    อังกฤษ อย่างง่ายๆ ในวันนี้ หากฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ ก็เดินหนีออกมาเลยก็ได้ค่ะ เขารู้จักเราแค่ครั้งเดียว 5555 (แต่ข้อหลังที่กล่าวมานี้ เป็นไปได้ไม่ควรทำนะคะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราเสียมารยาท กร๊ากๆๆๆ)


    C. ดูหนัง ฟังเพลง การพยายามฟังเพลง และดูหนังฝรั่งให้รู้เรื่องโดยไม่ต้องใช้ซับไตเติ้ล ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนุก ได้ทั้งความบันเทิง และได้ฝึกฝนทักษะการฟังของเราด้วยนะเออ ถ้าเกิดฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ ก็ลองไปเปิด Lyrics แล้วฟังตามไปด้วย ก็จะช่วยให้การฟังแจ่มกระจ่างขึ้น หรือจะดูรายการทีวีที่เขาสอนภาษาอังกฤษบ่อยๆ ก็มีหลายรายการ แต่รายการที่พี่คิดว่าดีจริงๆ คิดว่าน่าจะเป็นรายการของคุณคริส หอวัง ที่เล่นรถไฟฟ้ามาหานะเธอ (อ้าวววว! ไม่ใช่หรอก หรอ...55+)  ของคุณคริสซักคริส ที่เขาเป็นฝรั่งแต่พูดไทยปร๋อเลย ของเค้าดีจริงๆนะ!

     
    D. เล่น Ameba Pico ใน Facebook ข้อนี้ไม่ ใช่ข้อหลักๆ ที่แนะนำค่ะ 55555 แต่มีเพื่อนของพี่แนะนำมา บอกว่า มีชาวต่างชาติเล่นเยอะมากๆ เห็นใครดูดี น่ารักๆ ก็เข้าไปคุยกับเค้าหน่อยละกัน หาเพื่อนๆ จะได้สนทนาภาษาอังกฤษอย่างง่ายๆ และอิงกับข้อ A อีกด้วยนะ

     
    E. Work & Travel  เผอิญพี่ได้มีโอกาสไปพูดคุยกับเพื่อนเก่าของพี่ นามว่า สาวปุยฝ้าย ซึ่งเขาได้ไปเวิร์คที่ประเทศอเมริกาน้องๆ บางคนอาจจะรู้แล้วว่าคืออะไร แต่คนที่ไม่รู้ จะบอกให้ว่า มันก็คือการที่เราไปท่องเที่ยว และไปทำงาน ณ ประเทศนั้นๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งก็เป็นกิจกรรมสุดฮิปอีกอย่างหนึ่งของวัยรุ่นไทย ที่ช่วงนี้ไปกันเยอะมากๆ หากน้องๆ ที่สนใจก็สามารถไปสืบค้นได้ทางอินเตอร์เน็ตนะคะแต่ว่า ก็ต้องดูนิดนึง ว่าเราไม่ได้โดนหลอก หรือเจอโฆษณาชวนเชื่อ จะได้ไม่ช้ำใจในภายหลัง  สำหรับประสบการณ์ที่ได้จากการเวิร์คที่เกี่ยวข้องกับการ ใช้ภาษาในการสื่อสารกับชาวต่างชาตินั้น (เฉพาะเรื่องนี้นะคะ เรื่องอื่นๆ มีอีกเยอะ แต่อยากให้น้องๆ ไปสัมผัสหรือสอบถามด้วยตัวเองจะได้ข้อมูลมากกว่าค่ะ หากสนใจจะไปบ้างอะนะ ^^ ) เพื่อนของพี่ก็บอกว่า  บางครั้ง ได้ทำตำแหน่งเคาน์เตอร์ ก็ได้สนทนากับฝรั่งมากหน่อย แต่คำส่วนใหญ่ที่ใช้ก็จะเป็นคำพูดซ้ำๆ แต่คือที่สังเกตได้ชัด เค้าบอกว่า  คนไทยพูดภาษาอังกฤษในสำเนียงที่ฝรั่ง ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ดังนั้นการปรับตัวต่างๆ ที่ได้ ก็คือ การที่ได้ฟังฝรั่งพูดบ่อยๆ เราจะมีทักษะการฟังที่ดีขึ้น ฟังรู้เรื่อง และมีสำเนียงที่ดีขึ้น เนื่องจากได้ฟังสำเนียงที่เป็นของเจ้าของภาษาจริงๆ เราก็จะพูดได้ดีขึ้นและสื่อสารกับฝรั่งเข้าใจได้มากขึ้น  แต่ ถ้าถามถึงเรื่องคำศัพท์หรือการใช้ภาษาที่ระดับยากขึ้นไป ก็จะไม่ค่อยได้ใช้เท่าไรนัก คนที่ได้เปรียบ คือคนที่พูดคุยเก่งๆ ชวนฝรั่งคุย แต่ถ้าแค่เพียงแต่ไปทำงาน อย่างมากก็จะได้คุยกับเพื่อนร่วมงาน และคุยกับลูกค้าที่เราต้องไปทำงานด้วยไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมหนึ่ง ที่ช่วยส่งเสริมให้มีทักษะการใช้ภาษาที่ดีขึ้น ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน
     

    F. ฝึกปรือพูดฟังอ่านเขียนด้วยตัวเอง การฝึกกับตัวเองนี่แหละ จะทำให้เรารู้เท่าทันความสามารถของตัวเองมากที่สุด หากเราไม่มั่นใจว่าเรามีความสามารถเพียงใด เช่น เรื่องแกรมม่า เรื่องคำศัพท์ เราก็อาจวัดความรู้ได้จากแบบทดสอบต่างๆ เราพูดภาษาอังกฤษให้ตัวเองฟังได้ หรือไม่ก็ตอนที่เราทำฮา คุยล้อเล่นกับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงดัดๆ..หน่อย : P ก็ เป็นเครื่องแสดงว่า เราอยู่กับคนคุ้นเคยแล้วเรากล้าพูด แต่อยู่กับคนอื่นแล้วเราไม่กล้า ก็ควรปรับปรุงจุดนี้ หรือจะเป็น เราฟังไม่รู้เรื่อง เราก็ควรฝึกฟังในภาพยนตร์บ่อยๆ ว่า เขาพูดอย่างนี้ คำแปลอย่างนี้ จริงๆ แล้วที่เราฟังไม่ทัน เขาพูดว่าอะไร ปรับหูให้ชิน พี่ก็บอกไม่ได้ว่า จะทำได้ดีแค่ไหน คือตัวพี่เองก็ไม่ได้ฟังออกหมด หรือไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น แต่พี่รู้สึกว่า พอฝึกแล้วมันดีขึ้น เราไม่ต้องเอาไปเทียบกับเพื่อนที่เขาสามารถพูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ แต่เราเทียบกับตัวเราเองดีกว่า ว่าเราพัฒนาขึ้นจริงๆ หรือไม่ จากความตั้งใจตรงนี้ ....ถ้าหยุดไป แล้วไม่ฝึกอีก เดี๋ยวมันก็ลืมค่ะน้อง จริงๆ


                    นี่ก็เป็นทริคง่ายๆ ที่พี่อยากเอามาแนะนำ และอยากให้น้องๆ ลองเอาไปฝึกปฏิบัติดู หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ บ้าง สำหรับน้องที่กำลังเตรียมตัวเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย และมีความกังวลใจเกี่ยวกับวิชาภาษาอังกฤษ พี่คนอื่นๆ ก็อาจจะแนะนำน้องกันไปบ้างแล้ว เกี่ยวกับการเรียนพิเศษ หรือฝึกฝนด้านใดเป็นพิเศษ  นิสัยของวัยรุ่น ความเกียจคร้านก็เป็นเรื่องธรรมดา อยากให้มีคนมาสรุป มาชี้เฉพาะจุดสำคัญๆ เพื่อลดระยะเวลาในการอ่านหนังสือลงไปบ้าง เป็นความสะดวกสบายอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะคุณครูผู้สอนของสถาบันนั้นๆ ก็เป็นผู้ที่มีความสามารถ และเทคนิคการสอนที่แพรวพราว  แต่ ถ้าหากน้องไม่สะดวกหรือไม่มีความประสงค์จะใช้โรงเรียนกวดวิชาเป็นตัวช่วย ก็ขอให้น้องมีความตั้งใจ ขยันท่องศัพท์ ( ตอนสมัยพี่ พี่แปะกระดาษคำศัพท์เป็นสิบๆ ใบ ไว้รอบๆ บ้าน แม้กระทั่งข้างโถส้วม การมองมันทุกวัน จะทำให้เราถ่ายคล่อง เอ้ย ไม่ใช่..จะทำให้เราจำได้ จริงๆ นะ ไม่ได้โม้ = =)  ดูข้อสอบเก่า และแนวของข้อสอบที่นิยมออก การดูตัวอย่างข้อสอบบ่อยๆ และลองฝึกทำ จะทำให้น้องจับแนวทางของข้อสอบได้มากขึ้น หากรู้ว่าเราไม่ถนัดในเรื่องใด ก็ควรฝึกทำแบบทดสอบของเรื่องนั้นๆ เพราะสุดท้ายแล้ว จะเรียนหรือไม่เรียนพิเศษ  สิ่งเดียวที่สำคัญที่น้อง ต้องพกพาไปในห้องสอบด้วยนั้น คือความมุ่งมั่น ตั้งใจ และใส่ใจ หากน้องมีสิ่งเหล่านี้ประกอบกับความรู้ที่น้องได้รับมา ไม่ว่าจะจากตัวเอง หรือผู้อื่น ย่อมนำพาน้องไปในทิศทางที่ดีงาม และประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน


    นศพ.ทิงนองนอยประจำคณะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×