Unlucky Bank ความซวยเลี่ยงได้2
ในชีวิตของคุณจะเชื่อหรือไม่ครับว่าจะสามารถใช้เงินไปแลกกับการไม่ต้องเจอกับเรื่องซวยๆได้...............
ผู้เข้าชมรวม
206
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
****-----****
ผมเดินเข้ามาภายในอาคาร ชั้นที่ผมอยู่นั้นมองไปรอบๆเห็นห้องอาหารตั้งเรียงรายกันมากมายรวมถึงร้านค้าขายของจุกจิกต่างๆเรียงกันเป็นตับแต่คนซื้อไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ก็ 9.00 น.แล้วเป็นเวลาทำงานของพนักงาน
ลิฟต์เปิดออกพอดีกับที่ผมกำลังจะเอื่อมมือไปกด ประตูลิฟต์เปิดอย่างช้าๆเผยให้เห็นคนที่อยู่ข้างในผมแทบหัวใจวาย คนอะไรสวยมากๆ หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีผิวขาวละมุนละไม ผมบรอนสีน้ำตาลสะท้อนแสง รายกายได้สัดสวนหญิงสวยในอุดมคติ สวมชุดกระโปรงยาวใบซากุระสีชมพู แต่ที่สะดุดตายิ่งกว่าอื่นใดในหล้า ในมือของเธอถือสมุดบัญชี Unlucky Bank อยู่ด้วย เธอก้มหัวแล้วยิ้มให้ผมเล็กน้อย ทำตาหยีๆให้กับผม ผมก็ผงกหัวแล้วยิ้มให้กับเธอแล้วเดินสวนเข้าไปในลิฟต์กลิ่นน้ำหอมกลิ่นมะลิของเธอหอมมากเลยละ
“Unlucky Bank มันเป็นอย่างไรกันนะ” ผมพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะมองหาปุ่มกดลิฟต์ไปยังชั้นที่ 29
“เอ้าเฮ้ยชั้นที่ 29 ไม่มี เฮ้ยก็ในใบบอกว่าอยู่ชั้นที่ 29 นี่ แล้วทำไมลิฟต์มีแค่ชั้น 25 วะ”ผมงงกับตัวเองและในขณะที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตกนั่นเอง
“รอด้วยๆ”เสียงแข็งๆตะโกนอย่างกระหืดกระหอบบอกให้ลิฟต์ช่วยรอเขาด้วย แต่ว่าลิฟต์กำลังจะปิดแล้วด้วยความที่ผมเป็นคนมีน้ำใจเลยยื่นเท้าออกไปขวางประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิด (หากใครที่เคยขึ้นลิฟต์จะรู้ว่าหากอะไรไปกั้นไว้ลิฟต์ก็จะเปิดเองอัตโนมัติ)
“อย่า...............” เสียงตะโกนจากผู้ชายคนนั้นตะโกนเข้ามา อะโด่ทำเวอร์ไปได้เดี๋ยวลิฟต์ก็เปิดแล้ว ผมนึกด่าเขาอยู่ในใจ
ปึก....~
“โอ้ยยยยยย...” ผมร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ลิฟต์หนีบขาครับพระเจ้า ไอ้บ้าเอ้ยนี้มันลิฟต์ประเทศไหนกันวะ
“คุณรีบกดปุ่มลูกศรแยกออกเร็ว” ชายร่างอ้วนสวมชุดสูทประกอบไทต์สีฟ้าน้ำทะเลตะโกนบอก ผมกดอย่างไม่รีรอแล้วประตูลิฟต์ก็เปิดออก ผมกระโด่ดขาเดียวด้วยความเสียวขา
“เป็นไงมั่งครับคุณ” ชายคนเดิมถาม
“เจ็บดิครับ” ผมสวนกลับไปด้วยความฉุนใช่ซี้.....กรูคงตลกมั้งเห็นขาตัวเองโดนหนีบติดลิฟต์เนี่ย
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับนี่เป็นลิฟต์ที่สั่งตรงจากเมืองไทยนะครับระบบบางอย่างมันเลยไม่สมบูรณ์”
“เหอๆ”ผมไม่มีอะไรจะพูดครับ
“ไปโรงพยาบาลไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ช่วยบอกได้ไหมครับผมจะไป Unlucky Bank ไปยังไงครับ”
“ฮาๆ มาใหม่ใช่ไหมครับเนี่ย ตึกนี้มีลิฟต์ถึงชั้นที่ 25 ครับ ชั้นที่เหลือต้องเดินขึ้นเอาครับ”
โอ้ เท่ากับเราต้องเดินขึ้นไปอีก 4 ชั้นเนี่ยนะ
“รู้มั้ยครับทำไมเค้าไม่ทำลิฟต์ให้ครบไปเลยครับ” ผมถามด้วยความสงสัย
“อ่อก็เป็นเพราะ......เอ่อไม่มีอะไรครับ” เขากระอักกระอ่วนเล็กน้อย “เราขึ้นกันเถอะครับ ผมสายแล้วละ” ชายผู้นั้นพูดแล้วก็เอื้อมมือกดไปยังชั้น 16 “ของคุณชั้น 25 สินะครับ” แล้วเขาก็กดชั้นที่ 25 อีก
เรา 2 คนยืนนิ่งอยู่ในความเงียบสักพักจนถึงชั้นที่ 16 ชายสวมสูทก็เดินออกไป ในลิฟต์เหลือเพียงแค่ผมคนเดียว งามไส้ละครับทีนี้บรรยากาศวังเวงอย่างบอกไม่ถูก เหงื่อผมเริ่มออกมามากขึ้น ใจเริ่มสั่นรัว ลิฟต์เลื่อนขึ้นไปสักระยะก็เกิดอาการกระตุกๆ ใจผมตกไปที่ตาตุ่มแล้วครับตอนนี้ แต่พอลิฟต์เริ่มเลื่อนขึ้นผมก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่มันเริ่มไม่ดีก็ตรงที่ มันมีเสียงร้องโหยหวน เกิดขึ้นมานี่สิ
โอ้ยยยยยยยยยยยย..........โอ้ยยยยยยยยยยย
เป็นเหมือนเสียงร้องของผู้หญิง ครางอย่างโหยหวนน่ากลัวมากผมทนไม่ไหวจึงกดปุ่มขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วยคร้าบ ช่วยด้วย”ผมตะโกนผ่านช่องเสียงไป
“ขอโทษนะคะขณะนี้เจ้าหน้าที่ไปขี้กรุณาติดต่อภายหลังคะ” เอ้าเฮ้ย อีเตี้ยไปขี้ไรตอนนี้มาช่วยกรูก่อนเซ่ เหงือของผมเริ่มแตกพลัก
ตุง ตุง ตุง ตุง ตุง ตุง
ผมทุบลิฟต์ด้วยความกลัวตาย หวังว่าลิฟต์จะเปิดออก พระเจ้าช่วยลิฟต์เปิดออก โอ้สวรรค์กรูรอดตายแล้ว ก่อนออกผมเหลือบไปมองไปป้ายชั้น “นี่มันชั้น 25 แล้วนี่หว่า สาบานเลยขาลงกรูจะลงบันได” ผมกระเผลกออกจากลิฟต์อย่างรวดเร็วมายืนสูดหายใจเข้าปอดอยู่หน้าลิฟต์
“ฮึบ......อ่า ฮึบ.......อ่า การได้หายใจมันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง”
“เธอๆ ดูผู้ชายคนนั้นสิ”
“อะไรหรอ” เสียงเงียบไปแปบหนึ่งประมาณว่ากำลังหันมา “ โอ้โห เค้าไปเล่นน้ำที่ไหนมาเนี่ยเปียกทั้งตัวเลย”
“สงสัยเพิ่งจะมาครั้งแรกมั้ง 5555555555555”
ดูแม่งนินทา-ผมไม่กล้าจะหันไปมองหลอกครับว่าใครกำลังพูดถึงผมอยู่ อายพระยาคะ สงสัยจากที่ได้ยินคงเป็นเรื่องเคยชินของบริษัทนี้กระมัง ด้วยความแค้นฝังใจจึงเรียกลิฟต์ตัวที่กำลังไปขึ้นมาใหม่ เมื่อลิฟต์เปิดออกเขาหันหลังให้ลิฟต์
ปู๊ดดดดดดดดดดดดด
เขาตดใส่ลิฟต์ครับ รับไปเสียไอ้ลิฟต์บ้า (เฮ้ยลิฟต์มันไม่มีจมูกนะเว้ย แต่คนที่เค้าจะขึ้นต่อไปนะ....)
“พี่ๆ เค้าเป็นอะไรมากหรือเปล่านั่น”
“นั่นสิ”
วินัยนำร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำมาถึงชั้น 29 จนได้ เขาพยายามแข็งใจเดินตรงมาที่ประชาสัมพันธ์
“สวัสดีคะ ยินดีต้อนรับสู่ Unlucky Bank คะ” หญิงสาวไหว้ต้อนรับอย่างประทับใจ
“สวัสดีคร้าบ”โรคเก่ากำเริบต้องรับไหว้อยู่เรื่อยไป
“ลูกค้าใหม่หรือเปล่าครับ” โหประชาสัมพันธ์ที่นี่นอกจากสวยแล้วยังฉลาดอีก สุดยอด
“ใช่ครับ ต้องทำอย่างไรครับ”
“คะ สำหรับลูกค้าใหม่นะคะ เรามีบริการทดสอบสแกนซวยคะ เชิญโต๊ะหมายเลข 2 เลยคะ” พนักงานต้อนรับสาวผายมือไปยังโต๊ะสีขาวที่มีพนักงานสาวผมบ๊อบอีกคนนั่งทำงานอยู่
“รบกวนกรอกประวัติลงเอกสารนี่นะคะ” สาวผมบ๊อบยื่นเอกสารพร้อมปากกาให้ ผมกรอกตามช่องที่มีให้จนเสร็จแล้วก็ส่งกระดาษคืนกลับไป
“เชิญตรงเก้าอี้สีดำเลยคะ” หญิงสาวเดินนำไปยังเก้าอี้สีดำก่อนหยิบบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกับหมวกกันน๊อคคลุมเต็มหัวพร้อมสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด “เชิญนั่งเลยคะ” เมื่อผมไปนั่งเรียบร้อยสาวนางก็บรรจงสวมหมวกกันน๊อคให้กับผมอย่างนิ่มนวลในขณะเดียวกันที่ผมสูดหายใจเข้าพอดีกลิ่นมือของเธอหอมโลชั่นชั้นดีอย่างมากจากที่สัมผัสกลิ่นน่าจะเป็นโลชั่นของ แอนวอยด์กลิ่นน้ำอบ หึหึ โรคหื่นกามของผมกำเริบ
“หลับตาสบายๆนะคะไม่ต้องไปเกร็ง” แล้วสาวนางก็กดเปิดสวิทเปิดเครื่อง บรรยากาศภายในหมวกสีดำใบนี้เย็นมากๆเลยครับคล้ายกับเอาหัวไปแช่ในห้องฟิสของตู้เย็น
ปึก เสียงสวิทถูกกดอีกครั้ง หมวกกันน๊อคสีดำถูกดึงออกอย่างช้าๆ
“คุณวินัย พัฒนพงศ์พันธ์นะคะ ความซวยที่หนักที่สุดที่คุณจะได้เจอในช่วง 69 วันนี้นะคะ จะเกิดขึ้นประมาณวันที่ 6-7 คะหรือประมาณ 4-5 วันต่อจากนี้คะ คุณมีความประสงค์จะฝากซวยหรือไม่คะ”
อะไรกันเพียงแค่ไม่กี่วิที่สวมหมวกนี้เนี่ยนะ สามารถรู้ได้ถึงขนาดนี้
“ไม่ทราบว่าคุณมีความประสงค์จะฝากซวยหรือไม่คะ” เสียงพนักงานสาวกล่าวซ้ำขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อเห็นวินัยยืนนิ่งไป
“ครับๆได้เลยครับ” ผมตกใจเล็กน้อยจึงตอบรับไป
5 นาทีต่ามอ(ต่อมา)
“เรียบร้อยแล้วคะ ค่าฝากซวย 100,000 บาท ค่าเปิดบัญชีใหม่ 2,000 บาท รวม 102,000 บาทคะ ไม่ทราบว่าสะดวกจ่ายเงินสดหรือบัตรเครดิตคะ”
งามไส้ 1 แสน แพงเป็นบ้าเลย
วินัยอึ้งอยู่พักใหญ่ อึ้ง...............อึ้ง
“ว่าอย่างไรคะ”เสียงนุ่มๆหวานๆของเธอดึงสติกลับมา
“อ่อ บัตรเครดิตครับ นี่ครับ” โห่แม่งดีนะพกบัตรเครดิตมา ไม่งั้นแย่แน่ ทั้งตัวมีอยู่ 200
ไม่นานนักหญิงสาวก็เดินกลับมาพร้อมกับ บัตร 2 ใบและสมุดธนาคารที่เห็นเด่นมาแต่ไกล
“นี่คะ” เธอยื่นของทั้งหมดให้กับผม “สำหรับบัตรของอันลัคกี้ แบงค์ สามารถสั่งฝากซวยผ่าน ATM ของธนาคารทั่วไปได้ทุกสาขาคะ พร้อมเชคซวยที่เกิดขึ้นได้ด้วยคะและสำหรับวันที่ซวยสิ้นสุด ทางเราจะส่ง sms บอกซวยไปทางโทรศัพท์ของคุณนะคะ”
5 วันต่อมา
หลังจากวันนั้นผมก็ยังเจอเรื่องซวยๆไม่เว้นแต่ละวันทั้งเหยียบขี้หมา ตกรถเมล์ มะพร้าวตกใส่หัวแล้วนานาซวยที่มันพร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อสงสัยไอ้เรื่องอันลัคกี้แบงค์ผมก็คงจะซวยไปให้พวกมันหลอกแล้วละมั้ง นี่ก็วันที่ 7 มีนาคมแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรมาบรรเทาความซวยของผมไปได้เลย ฮาๆๆๆ เรานี่มันโง่จริงๆ
“คุณติ๋ม ชงกาแฟให้ผมที ขอแบบเย็นๆนะครับ” ผมกดโทรศัพท์โอนสายไปหาแม่บ้านประจำบริษัทเราเธอชื่อติ๋มครับชงกาแฟอร่อยเป็นบ้าเลยแหละ
ป๊อก ป๊อก ป๊อก
สงสัยคุณติ๋มคงจะมาถึงแล้ว “เชิญครับคุณติ๋ม” ประตูไม้สักสีน้ำตาลเข้มถูกเปิดออกอย่างช้าๆคุณติ๋มแม่บ้านสูงวัยเดินประคองแก้วกาแฟมาอย่างช้าๆด้วยความระมัดระวังแต่แล้วก่อนที่เธอจะเดินมาถึงโต๊ะทำงานผมไม่กี่ก้าวขาเธอก็ไปขัดกันเองแก้วกาแฟหลุดออกมาจากมือของเธอมาลงตรงโน๊ตบุคของผมพอดิบพอดีจอดับไปเลย
ผมนี่หน้าซีดไม่มีเลือดฝาดเลยครับ ธุรกิจ 10 ล้านในมือหายไปกับตาผมพยายามจะเปิดเครื่องอีกครั้งเผื่อจะเซฟข้อมูลที่สำคัญทันแต่ทว่าเครื่องกับไม่ติดอีกเลย
“ขอโทษคะคุณวินัย ขอโทษคะ” คุณติ๋มหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดเธอพูดเสียงสั่นๆยกมือไหว้ขอโทษผมน้ำตาเธอเริ่มคลอเบ้าก่อนที่ผมจะทำบาปไปมากกว่านี้ ผมหยิบหลอดที่ตกอยู่บนโต๊ะมาดูดน้ำกาแฟที่หกอยู่
ซ๊อดดดดดดดดดด.......
“กาแฟยังรสชาติอร่อยเหมือนเดิมเลยนะครับ” ผมยิ้มให้คุณติ๋มผมไม่อยากให้เธอร้องไห้นะครับ เธอคงไม่ได้ตั้งใจนั่นแหละ
ขอโทษนะคะคุณวินัยอย่าไล่ติ๋มออกเลยนะคะ” เธอยกมือไหว้ผมอยู่ไม่วางเลย “จะให้ติ๋มชดใช้ยังไงก็ได้”
“ไม่ต้องหรอกๆ แต่ถ้าคุณยังไม่ยอมไปเอาผ้ามาเช็ดเดี๋ยวนะครับ ผมคงจะต้องไล่คุณออกจริงๆแล้วละครับ ฮาๆ”คุณติ๋มเริ่มมีรอยยิ้มออกมาเธอรีบนำร่างตุ๊ยนุ้ยของเธออกไปตามคำสั่ง
ตายละไงนัดคุณวีรพลเอาไว้จะคุยเรื่องร่วมทุนธุรกิจดินสอกับไส้ดินสอของเราอยู่ด้วย เอาวะยังไงก็ต้องโทรไปบอกเค้านี่มันจะเที่ยงแล้วด้วยยังไงก็คงไม่ทัน
“อันยอง คุณวีรพลหรอครับ”ผมทำน้ำเสียงใสๆ
“ว่าไงครับคุณวินัย”
“คือว่า.........ผมคงไปไม่ทันนัดแน่ๆเลยครับขอเลื่อนไปวันหน้าได้ไหมครับ”
“อะไรกัน นัดไว้ไม่เป็นนัดคุณเห็นผมว่างมากนักหรอครับ งั้นผมขอยกเลิกธุรกิจทั้งหมดที่เราจะร่วมหุ้นกันนะคุณวินัย”
“โถ่.....คุณวีรพลครับ.....”ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อฝ่ายนั้นก็ตัดสายโทรศัพท์ไปแต่ผมว่าเค้าคงโกรธหนักรู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงปุ่มกดหลุดอย่างไรไม่รู้ลอดออกมาจากปลายสาย ฮาๆ
“เห้อ...............”ผมถอนหายใจยาวๆออกมานี่ผมจะซวยไปถึงไหนกัน
“เอ่อ..คุณวินัยคะมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” ติ้มเดินก้มหน้าเข้ามาในห้องพร้อมผ้าขาวๆ 3 ผืน
“อ่อผมก็รอคุณนี่แหละมาช้าเหลือเกิน โต๊ะเหนียวไปหมดแล้วนะครับเนี่ย ฮาๆ” ผมพยายามไม่ทำให้เธอไม่สบายใจ เมื่อเธอเช็ดโต๊ะเสร็จเรียบร้อยเธอก็กำลังจะกล่าวอะไรกับผม
“เอ่อ..ขอ....” แค่เอ่ยปากก็รู้แล้ว่าเธอจะพูดว่าอะไร
“ดีนะครับคอมนี้มีแต่เกมที่ผมเล่นแก้เซ็ง ไม่งั้นละแย่เลย ฮาๆๆๆๆ นี่คุณติ๋มเดี๋ยวเอาข้าวกระเพราหมูกรอบกับกาแฟมาเป็นมื้อเที่ยงให้ผมด้วยนะ หิวจะแย่แย้ววววว”
“คะ ขอบคุณมากนะคะ” สีหน้าเธอก็ยังไม่ดีขึ้นมา
“คุณติ๋ม”
“คะ”
“เงินนะหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ความสัมพันธ์ที่ดีๆมันหายากน่ะครับ ไม่ต้องคิดมากนะครับ อิอิ” ผมคิดว่าเธอคงจะไม่เชื่อเรื่องเกมแน่จึงจัดความรู้สึกข้างในไป โฮะๆๆๆ แล้วทั้งวันนี้ผมก็อยู่แต่ในห้องดูทีวีเพลินๆไปเพราะยกเลิกนัดกับคุณวีรพลแล้วก็ไม่มีอะไรต้องทำแล้วในวันนี้
ปี๊ดๆ ปี๊ดๆ เสียงข้อความโทรศัพท์ของผมดังขึ้นที่จริงก็ดังเป็นประจำนั่นแหละไอ้พวกดูดวง ผลบอล เลขเด็ดไรเนี่ยส่งมาจังเลยผมหยิบมันขึ้นมาดูก็คิดว่าจะกดลบทิ้งเหมือนทุกครั้งไป แต่ว่าคราวนี้มีบางอย่างทำให้ต้องหยุดดู ข้อความนี้มีที่มาจาก Unlucky Bank ผมจึงเปิดข้อความเข้าไปดู
-สวัสดีคะคุณวินัย เวลานี้ 13.00น. จะต้องเป็นเวลาตายของคุณในตึก Classical hotel ยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่นะคะ-
“Classical hotel ที่ที่เรานัดคุณวีรพลไว้นี่นา“ ผมรีบเปิดไล่ดูทีวีหาช่องข่าวเผื่อจะมีข่าวอะไรที่พอให้รู้ได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น
“เมื่อเวลา 12.30 น ที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ชั้น 40 ของโรงแรมคลาสสิคอล ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังชั้นล่างและชั้นบนที่อยู่ติดกันผู้คนต่างหนีตายออกจากตึกอย่างอลหม่าน และในเวลา 12.53 น. ตึกก็รับความร้อนไม่ไหวถล่มลงมาคาดมีผู้เคราะห์ร้ายไม่ต่ำกว่า 100 คนที่ยังไม่สามารถออกมาจากตึกได้ครับ”
“ตึกถล่ม เราๆๆๆๆๆ ยังไม่ตายหรอเนี่ย นี่นะหรอ ความสามารถของ Unlucky Bank สุดยอดไปเลยโว้ยเจ๋งเป็นบ้า”
**** จบ *****
ผลงานอื่นๆ ของ มาซึ้ง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ มาซึ้ง
ความคิดเห็น