ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sehun x luhan } .ผู้จัดการของผม

    ลำดับตอนที่ #28 : [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER TWENTY ONE

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.19K
      40
      14 ธ.ค. 56

    :) Shalunla



    [ SEHUN  x LUHAN ] CHAPTER TWENTY ONE

     

     

     

     

                ถึงกำหนดวันที่ลู่หานจะกลับมาแล้ว . .

                ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงผมยังคงสิงสถิตอยู่ที่กองถ่าย ผมมาที่นี่ตั้งแต่ตีห้าเริ่มถ่ายฉากแรกตอนเจ็ดโมง มันหนาวบรรลัยเอามากๆแถมก็ง่วงโคตรๆด้วย เมื่อคืนเลิกกองตอนตีสอง ถ่ายอีกทีตีห้า . . บอกเลยว่าไม่เหลือร่างให้ขาดให้แตกให้แหลกอีกแล้ว

                อยากได้กำลังใจชิบหาย . . ป่านนี้จะบินมาหาผมหรือยังนะ . .

                หลังจากวันที่เขาดื่มกับเพื่อนเขาก็อยู่กับพ่อแม่ของเขาครับ บ้านของเขาทำไร่ทำสวนอยู่แถวๆชานเมืองของปักกิ่ง ผมก็เลยได้ยินว่าเขาต้องออกไปเก็บผักเก็บผลไม้อยู่บ่อยๆ และบ่อยครั้งที่ผมต้องได้ยินเสียงไอ้เฉินที่เสนอหน้ามารับโทรศัพท์แทนลู่หานทุกครั้งที่ผมโทรไป ลู่หานบอก . . เขาเป็นแฟนบอยผมตัวยง ผมโดนยอซะจนลืมคิดบัญชีกับมันเรื่องปล่อยให้ลู่หานเมาและมันก็เมาก่อนลู่หานไปซะฉิบ(หลงคำยอซะงั้น)

                เขาจะมาถึงกี่โมงกันนะ อยากรู้จริงๆ . .

                ผมนั่งกึ่งหลับกึ่งตื่นอ่านบทระหว่างรอเข้าฉาก ในตึกที่เอาไว้ใช้แต่งตัว ผมที่แต่งตัวเครื่องแบบชุดนักเรียนผมเซ็ทเป๊ะตาจะปิดกับบทที่หนาแบบฟาดหัวหมาแตก ต้องเข้าฉากกับเยอึนอีกแล้ว . . เพราะไอ้อีวอนมันยังมาไม่ถึงสักทีผมเลยต้องเข้าฉากกับเยอึนเป็นว่าเล่นเหมือนเป็นพระเอกทั้งๆที่ไม่ใช่ ทำแบบนี้ดีอย่างหนึ่งคือตอนที่อีวอนมันมามันก็จะได้เข้าฉากกับเยอึน . . และตอนนั้นผมอาจจะมีเวลากลับเรียนที่โรงเรียนได้บ้าง

                อ่านอย่างมึนๆเบลอๆ ก็ไม่มีอะไรแค่ปะทะคารมณ์ธรรมดาตามประสาแบ๊ดบอยจีบสาว แต่ทว่า . .

                ทำไมมีบทจูบ . .

                จูบเลยเหรอ . .

                ผมตัวร้ายนะ . . ผมไม่ใช่พระเอก . . ทำไมต้องมีจูบ . .

                “นูน่า ผู้กำกับอยู่ไหนอ่ะ” ผมร้องถามสตาฟฟ์ทันที เธอชี้ไปข้างนอกที่มีเต็นท์วางอยู่ตรงหน้าฉากที่กำลังจะถ่าย ผมรีบลุกจากเก้าอี้ เดินผ่านพี่แจซอกที่ซื้อชานมไข่มุกมาเอาใจผมไป และไปหยุดอยู่ที่ผู้กำกับ

                “ฮยอง บทผิดรึเปล่าครับเนี่ย” ผมชี้ให้ดูในส่วนที่ผมต้องจูบกับเยอึน . . เขาก้มหน้าลงมาดูแล้วก็ยิ้มแฉ่ง หน้าตาสไตล์เดียวกันกับพี่แจซอกเลยครับ อ้วนและก็หนวดเคราดกเฟิ้ม แต่ใจดี

                “ไม่ต้องถึงกับจูบหรอกเซฮุน แค่เกือบๆน่ะ เราจะตัดไปตอนที่อีวอนมาเห็นพอดี และก็หึง”

                ค่อยโล่งอกหน่อย . . เพราะผมเชื่อว่าผมอ่านเกือบทั้งหมดแล้ว ไม่มีฉากไหนที่ต้องจูบนางเอก . .

                จริงๆผมก็เคยจูบกับนักแสดงผู้หญิงนะ เพียงแต่ว่าตั้งแต่มีแฟนรู้สึกไม่อยากจะจูบใครจริงๆนอกจากแฟนของผมคนเดียว . .

                ผมเท่ล่ะสิ . . ผมก็ว่างั้นแหละ

                “ขอบคุณครับฮยอง” ผมยิ้มให้เขา และก็เดินกลับไปยังห้องแต่งตัวที่เดิม

                ที่ๆมีเยอึนยืนรออยู่ก่อนแล้ว . . เธอมาพร้อมกับชุดอาหารสุขภาพของเธออีกแล้ว มีแต่ผัก และก็ผัก

                “พี่แจซอก ผมขอชานม” ผมเอื้อมมือไปหาพี่แจซอก แต่โดนเยอึนคว้าชานมไข่มุกตัดหน้าผมไปและเธอก็ดูดมันดังจ๊วบ

                เห้ย รู้สึกเหมือนโดนแย่งของรักของหวง . . นั่นของฉันนะ . .

                “กวนประสาท ผู้หญิงอะไร ไม่น่ารักเลย” ผมว่าเธอ . . เดินชนไหล่เธอเบาๆเข้าไปในห้อง

                “เดี๋ยวฉันให้ผู้จัดการของฉันไปซื้อให้นายใหม่ก็ได้ นายจะดื่มชานมไข่มุกก่อนทานอาหารของฉันไม่ได้นะ มันไม่ถูกหลัก”

                “ใครบอกว่าฉันจะทานอาหารของเธอ”

                “ก็ผู้จัดการคนนี้ไม่ได้ซื้ออะไรมาให้นายอ่ะ”

                ผมหันขวับไปหาผู้จัดการทันที ผู้ซึ่งทำหน้าเหลอหราไม่รู้เรื่อง ให้ตายสิ พอออกไปซื้อชานมไข่มุกแล้วคงจะขี้เกียจแวะซื้อข้าวมาชัวร์ ขี้เกียจกว่านี้มีอีกมั้ย

                “ผู้จัดการคนนี้ไม่ได้ซื้อให้ ผู้จัดการอีกคนอาจซื้อมาก็ได้” ผมเอาเท้าทั้งสองข้างวางบนหน้ากระจกที่มีเครื่องสำอางอยู่เต็ม และก็หลับตา . .

                “หมายความว่าไง”

                “เขากำลังจะกลับมา”

                เยอึนเงียบไป ในขณะที่ผมยังหลับตาอยู่อย่างนั้น . .

                “นายแน่ใจได้ยังไง” เธอถาม

                ผมลืมตาขึ้นมาทันทีและหันขวับไปมองหน้าเธอ “มีแผนอะไรอีก”

                “ฉัน . . เปล่า”

                “เยอึน” ผมเรียกเธอเสียงต่ำ . .

                “ฉันจะไปเข้าฉากล่ะ” เธอหายออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผมอยู่กับพี่แจซอกสองคนในห้อง ผมจิ๊ปากอย่างเซ็งๆ ไม่อยากเอาคำพูดของเธอมาคิดใส่ใจแต่ทว่า . . ก็อดคิดในใจไม่ได้ ถึงแม้ว่าสองวันต่อมาลู่หานจะตัวติดกับพ่อกับแม่และก็ไอ้เฉินใบไผ่หล่นอะไรนั่นไม่ได้ห่างไปไหน แต่ถ้าจะบินกลับมาที่โซล . . ไม่แน่ว่าอาจจะเจอไอ้อีวอน

                มันจะทำอะไรแฟนผมมั้ย ?

                ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเข้าเบอร์ตัวเอง . . ติดด้วยแฮะ . . เอ๊ะ หรือว่าเขาจะมาถึงโซลแล้ว!

                “ฮัลโหล . .” ลู่หานรับสาย

                “เสี่ยวลู่ อยู่ไหน!

                “เซฮุนน่า . .” น้ำเสียงไม่สู้ดีนัก ผมลุกขึ้นยืนทันที

                “เกิดอะไรขึ้น”

                “ฉันติดอยู่ตม.ที่กิมโป ลืมเอาพาสปอร์ตมา TT

                “หา . .” ผมร้องเสียงหลง พี่แจซอกที่คุ้ยอาหารเพื่อสุขภาพของเยอึนถึงกับสะดุ้งทำสลัดหล่นกระจาย “จริงอ่ะ อย่ามาอำ”

                “อำได้ไงเล่า นี่เรื่องซีเรียส”

                บอกได้เลยว่าชิบหาย . . ชิบหายเท่านั้น “ฉันพอจะช่วยอะไรนายได้บ้าง”

                “ไม่รู้สิ ตอนนี้รอคุยกับเจ้าหน้าที่อยู่” ลู่หานพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลมาก “ทำไงดีเซฮุนน่า . .

                “นี่ใจเย็นๆก่อนนะ” ผมเดินไปมาในห้องอย่างลุกลี้ลุกลน “อา ทำไงดีๆ พี่แจซอก ไปรับลู่หานทีสิ ที่กิมโป”

                ร่างหมีของพี่แจซอกสะดุ้งอีกครั้ง “มาถึงแล้วเหรอ”

                “อาจมีเรื่องด้วย ไม่รู้สิ ตามไปจัดการให้ที ผมไม่รู้จะจัดการยังไง” เด็กวัยสิบเจ็ดทึ้งหัวตัวเองเรื่องด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่เคยจัดการเรื่องนี้ ไม่รู้อะไรมากด้วย ส่วนใหญ่พี่แจซอกจัดการให้หมดเลย

                “อ่า ใจเย็นๆเลยนะทั้งคู่ เดี๋ยวฉันจะไปกิมโป ส่วนนายเซฮุนน่า . . ตั้งใจท่องบทเตรียมเข้าฉาก เดี๋ยวจะมีคนมาเรียก . .

                สายของลู่หานยังอยู่ในมือผม  . . ผมพยักหน้าให้พี่แจซอกที่เดินออกไปจากห้อง และก็คุยกับลู่หาน

                “เดี๋ยวพี่แจซอกจะไปหา ใจเย็นๆนะ ได้เข้าประเทศชัวร์”

                “แปลกแต่จริงที่ฉันไม่ลืมหมีเซฮุน แต่ดันลืมพาสปอร์ต”

                ผมแอบยิ้ม . . ก่อนที่ลู่หานจะกดวางสายไป . .

     

     

     

                ไม่มีคนมาเรียกให้เข้าฉากสักที . .

                โทรหาพี่แจซอก พี่เขาก็บอกว่าเรื่องของลู่หานต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการจัดการ ผมพยายามใจเย็นและคิดว่าพี่แจซอกน่าจะจัดการได้ ระหว่างนี้ผมก็เลยคิดว่าผมจะรอ รอจนกว่าลู่หานจะมาถึงที่กองถ่าย ไม่ว่าจะกี่ชั่วโมงก็ตามผมก็จะรอ . . บางทีถ้าเลิกกอง ผมอาจจะไปรับเขาเองก็ได้

                ผมนอนอ่านบทอยู่บนโซฟาระหว่างที่รอ จำได้จนขึ้นใจแล้วก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเล่นเกมส์ในโทรศัพท์แทน เล่นจนแพ้ เล่นจนชนะไปแล้วหลายตาก็ยังไม่มีคนมาเรียก และด้วยความเพลีย . . ผมผล็อยหลับไปเสียดื้อๆ

                พรึ่บ!

                รู้สึกได้ว่าไฟทั้งอาคารดับ ผมรีบลุกขึ้นจากโซฟา หันสายหันขวาที่เต็มไปด้วยความมืดสนิท นึกสงสัยว่าทำไมไม่ได้ยินเสียงทีมงานโวยวายหรือเสียงสตาฟฟ์วิ่งมาหาผมอย่างที่มันควรจะเป็น เกิดอะไรขึ้น

                ผมลุกขึ้นยืน . . กะจะเดินออกไปข้างนอก . . แต่มีอะไรบางอย่างมาเกาะผมจากทางด้านหลัง

                สวมกอดเข้าที่ลำตัวของผม พร้อมกับเอาหัวของเขามาซบกับแผ่นหลังของผม . .

     

                ให้ตาย . . ทำไมผมจะจำอ้อมกอดจากแขนเล็กๆนี้ไม่ได้ . .

               

                “ฉันกลับมาแล้ว . . เซฮุนน่า”

     

                ผมเอื้อมมือไปแตะแขนของเขา . . “จะเซอร์ไพรส์กันเหรอ ไหนบอกอีกหลายชั่วโมงไง”

                เขาหลุดหัวเราะนิดหน่อย “แฮ่ ไม่ค่อยเนียนใช่มั้ย”

                “มานี่เลย”

                ผมหันหลังกลับไปกอดลู่หานพร้อมๆกับซบหน้าลงบนไหล่ของเขา แอบหอมแก้มให้หายคิดถึง ทีนี้ได้หอมจริงเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ . .

                “พอ” ลู่หานที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองโดนลุกล้ำมากเกินไปผลักตัวผมออก ผมมองเห็นหน้าเขาไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ในความมืด “มีอะไรมาเซอร์ไพรส์ด้วย”

                “ยังเซอร์ไพรส์ไม่พอเหรอเนี่ย” ผมเกาหัว

                “พี่แจซอกเปิดไฟได้แล้วครับ”

               

                พรึ่บ!

     

                ไฟถูกเปิด

               

                ผมจึงได้เห็นหน้าคนตรงหน้าชัดสักที

                ลู่หานไปไถข้างมา . . ตัดผมสั้น . . ทำผมสีดำ . .

                “เป็นไง” เขาเกาหัวของตัวเองอย่างเก้อเขิน

                ส่วนผมอ้าปากค้าง ก่อนที่จะโวยวายเสียงดัง “ไปตัดผมอะไรมาเนี่ยยยยยยยย บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไถข้างๆ แง้” ถ้าผมลงไปดิ้นได้ ผมคงทำไปแล้ว . . ลู่หานหล่อดูดีในทรงนี้ก็จริงแต่มันดู . . แมน . . แมนขึ้นกว่าเดิม ดูเป็นเสี่ยวลู่น้อยลง . . ให้ตายเถอะ ผมอยากจะลงไปดิ้น

                “เท่ดีออก เฉินก็ยังบอกเลยว่าเท่”

                “แล้วก็ไปเชื่อมันเนี่ยนะ”

                “เซฮุน . .” ลู่หานเริ่มเข้าสู่โทนเสียงต่ำ เสียงที่ผมเอาชนะเขาไม่ได้ “ . . ฉันตัดผมแล้วมันยังไงเหรอ” เขาเริ่มพูดเสียงเบาลง “นายจะไม่รักฉันเพราะทรงผมฉันเหรอ หา . .” แอบชูกำปั้นขึ้นขู่ผมด้วย

                “มันไม่ใช่แบบนั้น แต่ . .” จะอธิบายยังไงดีวะเนี่ย . .

                “เออ ไอ้เซฮุน เรื่องมากนะเอ็งน่ะ เขาอุตส่าห์กลับมาหายังจะโวยวาย” พี่แจซอกพูดขึ้นมา กลับมาคุ้ยของกินที่ยังไม่ได้โดนผมแตะของเยอึนต่อ . .

                “งืออออ” ไม่มีใครเข้าใจผม . . ผมเลยคว้าหัวลู่หานมาซบไหล่ “ฝากไว้ก่อนเถอะ” แอบกดศีรษะเขานิดๆอย่างกลั่นแกล้ง

                ลู่หานทำท่าจะถีบผม แต่ผมออกมาจากรัศมีการถีบของเขาทัน . .

     

                สายตาพลันเห็นหมีเซฮุนกับหมีของลู่หานที่กลับมานั่งข้างๆกัน . . บรรยากาศเดิมๆเริ่มกลับคืนสู่ปกติอีกครั้ง . .

     

                คราวนี้ผมจะไม่ยอมอยู่ห่างจากลู่หานแม้แต่วินาทีเดียว










     

     

                แหมะ . . รู้สึกขยันทำงานขึ้นมาทันตาเห็น . .

                หลังจากที่โดนเรียกเข้าฉาก พอผมถ่ายเสร็จแล้วมาเห็นลู่หานนั่งอยู่กับพี่แจซอกนี่มัน . . ฟินเหลือเกิน ภาพบรรยากาศเดิมกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ไม่รู้ว่าลู่หานรู้สึกเหมือนผมมั้ย แทนที่เขาจะกลับไปพักผ่อนเพราะเดินทางมาเหนื่อยๆแต่เขาก็มาอยู่ที่กองถ่ายเลยโคตรน่ารักอ่ะ

                แต่มันจะไม่น่ารักก็ตรงที่ไอ้อีวอนกับคู่หูของมันนี่แหละครับ มาถึงแล้วเหมือนกัน ตอนมันแต่งตัวเสร็จมันก็จ้องผมเขม็ง และก็มองเลยไปยังลู่หานที่อยู่เบื้องหลังผม . .

                ผมเป็นคนไม่ขี้หวง แต่ผมยืนบังสายตาของมันเอาไว้ซะจนเต็มตัว อ้อ ไม่ลืมที่จะดึงร่างพี่แจซอกมาช่วยบังด้วย ทีนี้มิด . . อยากจะเห็นนักก็ต้องเอียงคอจนคอหักเลยนะ ไอ้คนเจ้าเล่ห์ . . (รู้สึกเหมือนด่าตัวเองยังไงไม่รู้)

                “เสี่ยวลู่จะไปไหน” ผมหันไปถามลู่หานที่กำลังอุ้มหมีสองตัวขึ้นมาและทำท่าจะเดินไปไหนไกลๆ

                “เอาหมีไปเก็บ” เขาบอก “หมีตัวใหญ่มากขวางทางคนอื่นเขาทำงาน”

                ผมยิ้ม ยักไหล่อย่างสุขใจ ไม่ว่าอะไรเพราะยังไงตัวจริงก็มาอยู่ใกล้ๆแล้วนี่ หึหึ (ทีวันสองวันก่อนนี่อย่างกับของมีค่า) ผมแย่งหมีมาจากมือเขาตัวหนึ่ง “งั้นไปด้วย ช่วยกันถือนะ”

                “ไม่ต้องเข้าฉากเหรอ” ลู่หานถาม เขาทำตาโตๆใส่ผม แม้เขาจะมีผมสีดำและทรงผมที่แมนสุดๆ(ในความคิดเขา)แต่ผมก็ยังมองว่ามันน่ารักน่าฟัดอยู่ดีนะ

                “พระเอกมาแล้ว เขาก็ต้องเน้นไปที่พระเอกสิ”

                เราสองคนเดินไปโรงรถด้วยกัน . . “ได้ข่าวว่าอีวอนเลื่อนคิวถ่าย”

                “เมื่อวาน? ใช่”

                “สร้างปัญหามากเลยใช่มั้ย”

                “ก็ไม่เท่าไหร่” เขาก็มาเน้นถ่ายผมแทนน่ะสิ เหนื่อยชิบหาย จริงๆอีวอนมีคิวเมื่อวานครับ แต่มันเพิ่งกลับมาถึงวันนี้ “ว่าแต่ . . มันไปจีนมันทำอะไรนายมั้ย”

                “หา จะทำอะไร” ลู่หานเปิดประตูรถตู้ เขาขึ้นไปบนรถตู้และก็วางตุ๊กตาหมีไว้บนที่นั่งข้างหลัง “ฉันเจอเขาหนเดียวเอง”

                “ตอนไหน” น้ำเสียงผมเข้มขึ้น แทนที่จะส่งหมีต่อให้ลู่หานเอาไปเก็บ ผมกลับเข้ามานั่งในรถตู้และก็ปิดประตูเฉย  

                ลู่หานมองประตูรถที่ปิดอย่างตะลึงหน่อยๆ แต่เขาก็ไม่ได้อะไรมากมาย เขาแย่งหมีอีกตัวไปจากผมและก็วางมันลงบนที่นั่งที่ยังว่างตัวอื่น “เจอตอนฉันตามหาสัญญาณโทรศัพท์ และก็ไม่เจออีก”

                “มันคิดจะทำอะไร . . ทำไมมันถึงต้องลงทุนตามนายไปถึงที่นั่น”

                “ไม่มีอะไรหรอกน่า เขาบอกเขามีงานนี่”

                “จริงเหรอ” ผมกดเขาลงบนเบาะที่นั่ง ปรับพนักเอนลงอย่างรวดเร็ว “โกหก”

                “เซฮุน” ลู่หานดูตกใจเอามากๆ . . “จะทำอะไร”

                “ปล้ำไง” ผมค่อยๆก้มหน้าลงไปหาเขา

                “เห้ย” ลู่หานเอียงคอหลบ เขาดิ้นแต่ดิ้นไม่หลุด เพราะมือผมจับมือของเขาเอาไว้อยู่

                “ฉันโมโหนะ”

                “อะไร ก็ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”

                “

                “ไม่ไว้ใจฉันเหรอ”

                ลู่หานเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับส่งสายตาตัดพ้อมาให้ผม . . ผมเลยได้โอกาสหลุดขำก๊ากออกมาและก้มลงไปประทับริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของเขา “โอ๋ๆ ตกใจเหรอเนี่ย”

                “ให้ตาย ลืมไปว่านายคือนักแสดง” ลู่หานผลักผมให้ออกห่างจากตัว . .

                “หยอกเล่นน่า” ผมค่อยๆบอกให้เขารู้สึกดีขึ้น ลู่หานเริ่มทำหน้างอ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร “แต่ทั้งหึงกับหวงอ่ะ คือเรื่องจริง”

                “คิดมาก” ลู่หานพูด “ลงจากรถไปได้แล้ว”

                “ไม่ลงไม่ได้เหรอ อยากอยู่กับแฟนบนนี้สองคน”

                “อึดอัด!

                “ก็ได้ๆ ลงแล้ว”

                ผมกับลู่หานหัวเราะคิกคักลงมาจากรถตู้ . . แต่ก็ต้องพากันหุบยิ้มฉับเมื่อได้เห็นว่าใครบางคนยืนรออยู่ก่อนแล้ว . .




                อีวอน



                ด้วยนิสัยหรืออะไรก็ไม่รู้ของผม ผมดึงตัวลู่หานมาหลบข้างหลังทันที ในขณะที่หน้าหล่อๆของอีวอนฉายแววขุ่นมัวอย่างเห็นได้ชัด . .

                “ฉันขอคุยด้วยหน่อย” อีวอนพูด

                “ข้ามศพฉันไปก่อน” ผมพูดขึ้นมาทันที

                “ไม่ใช่พูดกับลู่หาน พูดกับนาย”

                ผมตกใจนิดหน่อย . . มันจะมาไม้ไหนของมันวะ . .

                “เร็วเข้า อีกไม่กี่นาทีฉันต้องเข้าฉากแล้ว”

                ผมนึกไตร่ตรองอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้า ส่งสายตาบอกให้ลู่หานไปหาพี่แจซอก . . และตรงนี้เหลือแต่ผมกับไอ้อีวอนสองคน





                มันต้องการจะคุยอะไรกับผมกัน



                “มีอะไรก็ว่ามา” ตอนนี้ผมกับมันอยู่ในชุดนักเรียนทั้งคู่ น่าสงสารมันที่ต้องแต่งตัวถูกระเบียบ ไม่เหมือนผมที่เฟี้ยวตั้งแต่หัวจรดเท้า ชายเสื้อหลุดลุ่ย ไม่ติดกระดุม และเสื้อนอกก็ผิดระเบียบ . . มันเป็นคาแร็คเตอร์น่ะครับ



                “เรื่องลู่หาน”



                มันเข้าประเด็นได้ตรงๆดี ก็ดีนะ . . จะได้ไม่ต้องยืดเยื้อ . .


                “นายคบกับผู้จัดการของนายเองเหรอ เซฮุน”


                “ใช่” ผมตอบอย่างไม่ต้องคิด



                อีวอนกำหมัดแน่น . . เขาโยนอะไรบางอย่างมาใส่มือผม


                โทรศัพท์มือถือของลู่หาน


              ผมคว้าหมับไว้ได้ทัน ผมกำมันเสียแน่น . .




                “ถือว่านายฉลาด . . ที่ไม่เชื่อเมสเสจนั้น”




                “ฉันไม่ได้ฉลาด . . นายต่างหากที่โง่”




                “โอเซฮุน”


                “


                “นายไว้ใจ . . คนของนาย . . มากแค่ไหน”



                ผมจ้องหน้ามันเขม็ง จากที่มันทำหน้าโกรธตอนนี้อีวอนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่กวนประสาทพร้อมถูกต่อยได้ทุกเมื่อ .
    .


                “เท่าชีวิตฉัน”



                “หึ” มันกระตุกยิ้มมุมปาก “ขอให้เชื่อแบบนั้นต่อไปนะ”


                อีวอนตบไหล่ของผมแปะๆและก้าวเดินจากไป . . ทิ้งให้ผมมองตามหลังมันและคิดในใจอย่างฉงน . .

     

                ทำไมมันพูดแบบนั้น . .

     

                มันประชดกันเห็นๆ . .

     

                แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ . . ผมไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว ผมสนใจแค่ลู่หานคนเดียวเท่านั้น . .

     

     

     

     

     

                “จริงเหรอพี่! พรุ่งนี้จะได้ไปเรียน!” ลู่หานร้อง หลังจากที่พี่แจซอกมาบอกข่าวดีกับเรา ผมนอนคว่ำบนโซฟาฟุบหน้าหมดแรง ตอนนี้เวลาสี่ทุ่มกว่า เพิ่งจะได้กลับบ้านนี่แหละครับ คนที่มีแรงเหลือเฟืออย่างลู่หานก็แสดงความรู้สึกออกมาอย่างดีใจนิดหน่อย ส่วนผมน่ะเหรอ . . เรียนก็ได้ไม่เรียนก็ได้ แต่ถ้าลู่หานไปผมก็ไปแค่นั้นจบ

                “จริงสิ เซฮุนถ่ายไปเยอะตอนที่นายอยู่ปักกิ่ง พรุ่งนี้ก็เลยเน้นไปที่อีวอน”

                ผมเงยหน้าขึ้นมายิ้มตาเป็นสระอิหวังจะได้รับคำชมจากลู่หานเรื่องความขยัน แต่เปล่าเลยเขาไม่ได้ชมผมซ้ำยังเดินหนีไปกินน้ำที่ห้องครัวอีก


                เดี๋ยว . . เกิดอะไรขึ้น . .


                พี่แจซอกเหมือนจะรู้ซึ้งถึงบรรยากาศที่เริ่มมาคุขึ้นมาเรื่อยๆ(เรื่องอะไรล่ะเนี่ย)ก็เลยขอตัวกลับและก็บอกอีกว่าพรุ่งนี้จะมารับไปเรียนตอนหกโมงกว่า  ผมพยักหน้ารับรู้แต่สายตานั้นมองไปที่ลู่หานคนเดียวด้วยความมึนงงว่าเขาเป็นอะไร

                เซนส์ผมแรงเกินไปรึเปล่า . .


                “เสี่ยวลู่ เป็นอะไรไป”


                เขาหลบตาผม . . อะไรกัน . . เราจะหวานกันแบบตลอดรอดฝั่งไม่ได้รึไง งอนกันไปกันมาอยู่นั่น . .

                “โกรธฉันเหรอ”

                ผมถามอย่างเครียดๆ เดินเข้าไปใกล้ๆเขา เขาที่ถอยห่างไปจากผม . .

                “เพราะฉากที่ฉันจูบกับเยอึนใช่มั้ย มันไม่ใช่นะ ไม่ได้จูบ แค่เหมือนจูบอ่ะ” ผมอธิบายให้เขาฟังถึงฉากที่เพิ่งถ่ายเสร็จสดๆร้อนๆ “ไม่เชื่อไปถามผู้กำกับเลย ฉันไม่ได้จูบเขา”

                “ไม่ใช่เรื่องนั้นเซฮุน . .

                “แล้วเรื่องอะไร ทำไมถึงดูเหมือนโกรธฉันล่ะ”

                “ฉันขอโทษนะ มันน่าหงุดหงิดที่ฉันเป็นแบบนี้ . .แต่ฉัน  . . บอกนายไม่ได้”

                ลู่หานดูเครียดเอามากๆ . . ก่อนที่จะผลักผมออกและก็เดินเข้าไปที่ห้องของตัวเอง

                “ลู่หาน . .



                ปัง!


                ประตูปิด . .


                อะไรวะ มีใครงงเหมือนที่ผมงงมั้ย . . ผมไม่เข้าใจว่าลู่หานเป็นอะไร เขาเครียดเรื่องอะไร เขาน่าจะเล่าให้ผมฟังนะ เผื่อมีอะไรเราจะได้ช่วยเหลือกัน ไม่ใช่จู่ๆก็เงียบและก็ปิดประตูไม่ยอมคุยกันแบบนี้


                เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย . .


                ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จใส่ชุดนอนเดินมาหยุดรอลู่หานที่ห้อง เคาะสองสามครั้งข้างในห้องก็เงียบ


                “เสี่ยวลู่ ออกมาคุยกันหน่อย มีเรื่องอะไรเหรอ”


                เขาไม่ยอมตอบผม ผมเคาะแล้วเคาะอีกเขาก็ไม่ยอมตอบ หรือถ้าจะตอบเขาก็ตอบผมว่า . .


                “นายควรจะรีบไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนเช้านะ”


                “ออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง นี่ฉันคิดมากนะที่นายเป็นแบบนี้”

                “ไม่มีอะไรหรอก”

                “ลู่หาน”

                “ไปนอนซะ เซฮุน . .


                เป็นแบบนี้ผมจะหลับลงได้ยังไง . .


                “ถ้าไม่ออกมา ฉันจะเฝ้าอยู่หน้าห้องนี้ ไม่หลับไม่นอนนะ”


                “เซฮุน!” ลู่หานตวาดออกมาจากข้างในห้องเสียงตำหนิ “อย่าดื้อได้มั้ย”


                “ออกมาด่าข้างนอกสิ”


                “ . . ไม่”


                “งั้นฉันก็จะดื้อต่อไป”


                งัดไม้เด็ดออกมาแล้วน่าจะใช้ได้ . . สิบนาทีผ่านไป . . ประตูห้องลู่หานก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม


                ให้ตายสิ . .


                ผมเดินไปหยิบตุ๊กตาหมีสองตัวที่หน้าลิฟต์มานั่งเป็นเพื่อน ก่อนที่จะนั่งขัดสมาธิรอลู่หานอยู่ที่หน้าห้อง ผมนั่งพิงผนังข้างๆประตูห้องลู่หาน มองขึ้นไปทางขวาก็เห็นแต่ลูกบิดที่นิ่งสนิท ยิ่งไปกว่านั้นคือข้างในห้องไม่มีเสียงอะไรเลย เงียบเอามากๆหรือเขาหลับไปแล้ว . .


                แต่ผมน่ะ . . หลับลงยาก . .

                “เซฮุน . . เอ็งลองเคาะซิ” ผมคุยกับหมีเซฮุน เผื่อจะเฮงกว่าตัวจริงเคาะ ยกแขนมันขึ้นมาและก็เคาะเบาๆ “ก๊อกๆๆ” ทำเสียงดังให้ด้วย แต่ทว่า . .


                ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝากหัวใจ . .


                ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนในห้อง T________________T


                จะหมีหรือตัวจริงแม่งก็โดนพอกัน . . ผมเลยผลักหมีตัวแทนตัวเองออกไปและก็หันมาเล่นกับหมีลู่หานที่ผมแสนจะคุ้นเคยแทน . .


                “ออกมาจากห้องเดี๋ยวนี้นะ”


                หันไปมองขวาบนที่ลูกบิด . . ก็ยังคงนิ่งสนิท . .


                เฮ้อ . . หมดหวังสินะเรา . .


                ที่ผมทำตัวปัญญาอ่อนอยู่หน้าห้องของลู่หานทั้งหมดนี่เหตุผลนั้นมันก็มีหลายอย่าง ผมเป็นห่วงเขา ผมไม่อยากให้เขาเครียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ผมอยากให้เขามาคุยกับผมดีๆ เผื่อมีปัญหาจะได้ช่วยกันแก้ . .

                อันที่จริง ผมมีเรื่องคิดมากด้วยแหละ

                เพราะประโยคสั่วๆของไอ้อีวอน ทำให้ผมต้องมานั่งปัญญาอ่อนเป็นเด็กสี่ขวบทั้งๆที่ไม่ได้เป็น(ใช่เหรอ)อยู่หน้าห้องของลู่หานแบบนี้

     

              “ขอให้เชื่อแบบนั้นต่อไปนะ”

     
     

              มันพูดพร้อมๆกับรอยยิ้มที่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ แม้จะไม่อยากเก็บมาคิดแต่ . . แม่งก็อดคิดไม่ได้ว่ะ . .

     

     

     



     

     

     

     

                ในห้องลู่หานเดินไปเดินมาอย่างกระสับกระส่าย

                เขารอเพียงอย่างเดียวคือให้เซฮุนกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอน และเขาจะออกไปได้อย่างสะดวก

                ลู่หานเงี่ยหูฟังที่ประตู . . เสียงเงียบลงไปแล้ว และเงียบลงไปนานมากแล้ว บางทีตอนนี้อาจจะเหมาะที่สุดที่ลู่หานจะแอบออกไปข้างนอก

                เขาค่อยๆบิดลูกบิดประตูช้าๆ . . พยายามไม่ให้เกิดเสียงดัง

                แต่แล้วเขาก็ตกใจ เมื่อเห็นร่างใหญ่ๆสามร่างกองกันอยู่หน้าห้องเขา สองร่างเป็นตุ๊กตาหมี ส่วนอีกร่างเป็นคน คนที่นอนหลับซบหมีลู่หานอย่างสงบในท่านั่งที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่


                ลู่หานใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม . . เขาทำให้เซฮุนไม่สบายใจอีกแล้ว


                มือเล็กๆเกลี่ยแก้มเรียวของคนที่กำลังหลับอยู่อย่างแผ่วเบา ใบหน้าสวยแสดงออกถึงความรู้สึกผิดที่ออกมาจากใจจนเอ่อล้น เขาไม่ได้อยากทำกริยาใส่เซฮุนแบบนั้น แต่เขาไม่รู้ว่าเขาจะทำยังไง เขาอยู่ต่อหน้าเซฮุนนานๆไม่ได้เพราะเขากลัวเซฮุนรู้และก็กลัวเซฮุนสังเกตเห็น . .

     

                มันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเขา . . และมันก็เป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆสำหรับเซฮุนจากคำที่เขาเคยบอกเล่า . .

     

                ลู่หานค่อยๆเลื่อนใบหน้าของตัวเองเข้าไปประทับรอยจูบที่หน้าผากของคนที่กำลังหลับไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างแผ่วเบา . .ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องของตัวเองและก็หยิบผ้าห่มมาห่มให้ . .





     

                และลู่หานก็เดินออกไปจากห้อง . . อย่างไม่เหลียวหลังกลับมามอง . .

     

               

                จุดมุ่งหมายของเขาคือกองถ่ายที่เพิ่งเลิกกองกันไปเมื่อตะกี้นี้ . . แม้อากาศจะหนาวหิมะจะตก แต่ลู่หานก็ไม่แคร์ . . เพราะตอนนี้เขาแคร์อยู่เพียงไม่กี่สิ่งเท่านั้นคือเซฮุน . .

     

     

     


     

     

                และแหวนรุ่นของเซฮุนที่เขาเพิ่งทำหายไป . . และเขาจะไปตามหามัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

               



     

     






     

     

    เข้าสู่ครึ่งหลังของเรื่องแล้วนะคะ
    เกือบโค้งจะสุดท้ายแล้วด้วยซ้ำนะ T___________T
    ปล. รวมเล่ม VOL.1 ยังสั่งจองกันได้ถึงวันที่ 20 ธันวานี้นะคะ มาเอาของแถมไปจากเค้าเยอะๆน้าาา 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×