แพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต

ลำดับตอนที่ #3 : วิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมายของคณะ

วิสัยทัศน์
 

คำจำกัดความขององค์การอนามัยโลก และกรอบความคิดระบบสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า "สุขภาพดี" คือ "สุขภาวะที่สมบูรณ์และเชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุล ทั้งทางกาย จิตใจ จิตวิญญาณ และ สังคม แต่การแพทย์แผนปัจจุบันแบบตะวันตกมุ่ง "รักษา" สุขภาพ (Curative medicine) เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยในขณะที่การแพทย์แผนตะวันออกเน้นการ "ป้องกัน" สุขภาพ (Preventive medicine)ให้สมบูรณ์เพื่อป้องกันโรค ดังนั้น การแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพจึงไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะการแพทย์แผนปัจจุบันหรือการแพทย์ตะวันตกเท่านั้น แต่ได้มุ่งความสนใจมาที่การแพทย์ท้องถิ่นและการแพทย์แผนตะวันออก ซึ่งสืบทอดกันมาหลายพันปี

การแพทย์แผนตะวันออก ซึ่งประกอบด้วยการแพทย์หลักในประเทศต่างๆ แถบเอเชีย เช่น การแพทย์แผนจีน การแพทย์แผนอินเดีย (อายุรเวท) การแพทย์แผนไทย และอื่นๆ จึงมีบทบาทในการพัฒนาและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีตามแนวคิดที่มองมนุษย์อย่างเป็นองค์รวม ใช้วัตถุที่พบได้ในธรรมชาติ เช่น สมุนไพร น้ำ แสงแดด และการใช้แร่ธาตุต่างๆ ผสมผสานกลมกลืนกับภูมิประเทศ ดินฟ้าอากาศ อาหาร การกิน เพื่อปรับสมดุลร่างกาย การพัฒนาจิตใจ เพื่อปรับสมดุลทางจิตใจ และใช้หลักธรรมทางศาสนา ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของภูมิปัญญาการแพทย์แผนตะวันออกที่ทำให้เกิดสุขภาพดี การแพทย์แผนไทยได้รับอิทธิพลจากภายนอก โดยเฉพาะจากจีนและอินเดีย ผสมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทย จึงมีเอกลักษณ์เป็นแขนงหนึ่งในการแพทย์แผนตะวันออก แต่เนื่องจากศาสตร์นี้ได้ถูกทอดทิ้งมาเป็นเวลานาน ไม่มีการถ่ายทอดองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ จึงต้องมีการค้นคว้าวิจัยควบคู่ไปกับการศึกษาเล่าเรียนและฝึกปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาและสร้างมาตรฐานที่ดีให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน

หลักสูตรการแพทย์แผนตะวันออก ไม่เพียงแต่ผลิตบุคลากรที่สามารถประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นที่ต้องการและจำเป็นสำหรับประชาชนไทย แต่ยังเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อด้านการแพทย์แขนงอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ บัณฑิตที่จบหลักสูตรนี้ยังเป็นกำลังสำคัญในการสืบทอดองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย สามารถพัฒนาให้เพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มหาวิทยาลัยรังสิตตระหนักดีถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงได้ก่อตั้ง "คณะการแพทย์แผนตะวันออก" ขึ้นในปี การศึกษา 2545 โดยมีเอกลักษณ์และแนวทางที่สอดคล้องกับแนวโน้มด้านสุขภาพในอนาคต
 

จุดมุ่งหมาย
 

คณะการแพทย์แผนตะวันออก มุ่งสู่การเป็นสถาบันวิชาการชั้นนำของประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ วิจัย พัฒนาและถ่ายทอดภูมิปัญญาเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ แผนตะวันออก มุ่งผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ด้านการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญาเกี่ยวกับการแพทย์แผนตะวันออก โดยเน้นศึกษาเป็นพิเศษเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย ในขณะเดียวกันก็ยังเรียนรู้องค์ความรู้การแพทย์แผนตะวันออกอื่นๆ เช่น การแพทย์แผนจีน (TCM : Traditional Chinese Medicine) การแพทย์อายุรเวท (Ayurvedic Medicine) ทั้งนี้ เพื่อประยุกต์ต่อยอดองค์ความรู้ดั้งเดิม โดยเน้นการวิจัยและพัฒนาอันจะก่อให้เกิดการพัฒนาวิธีการรักษาโรคและพัฒนาตำรับยาต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งสามารถนำมาผสมผสานปรับใช้ร่วมกับการแพทย์สมัยใหม่ รวมถึงมีการให้บริการทางวิชาการแก่สังคมด้วย