ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #95 : Tasogare Otome X Amnesia ผีมีจริงหรือแค่คิดไปเอง?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.5K
      6
      3 ต.ค. 53


    ตอนที่ผมเขียนบทความนี้ผมอยากเขียนเกี่ยวกับการ์ตูนที่ดำเนินเรื่องที่อิงทฤษฏีผีเสียหน่อย แต่ปัญหาคือผมไม่รู้จะเอาการ์ตูนไหนมาเขียนถึงดี ตอนแรกผมอยากเอาการ์ตูนที่ผมชอบอย่าง Spiritual Paradise ก็ไม่มีคนรู้จักอีก จะเอาการ์ตูนเก่าๆ มาลงก็คงไม่ดี ผลสรุปคือเอาการ์ตูนเรื่อง Tasogare Otome X Amnesia เพราะสามารถหาอ่านได้ และนางเอกน่ารักมากๆ

     

      

    Tasogare Otome X Amnesia

    คอมมาดี้, ลึกลับ, เหนือธรรมชาติ, โชเน็น, ชีวิตในโรงเรียน,สยองขวัญ

    แปลไทยครับที่http://www.nekopost.net/content/tasogare_otome_x_amnesia

     

    Tasogare Otome X Amnesia หรือ (Dusk Maiden of Amnesia: ยามค่ำคืนของเด็กหญิงที่สูญเสียความทรงจำ)  เป็นการ์ตูนมังงะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนกับผี ผลงานของ Meibi ซึ่งผลงานก่อนหน้าส่วนใหญ่เป็นเรื่องสั้นทั้งสิ้น จะเป็นเรื่องเป็นราวก็การ์ตูนเรื่องนี้แหละ ที่การดำเนินเรื่องน่าสนใจและน่าคิดเรื่องหนึ่ง ปัจจุบันเป็นการออกมาแล้ว 3 เล่มและยังไม่จบ(เริ่มปี 2008)

    Tasogare Otome X Amnesia เป็นการ์ตูนที่มีฉากหลังเป็นโรงเรียนแห่งหนึ่งชื่อโรงเรียนเซเคียว เป็นโรงเรียนเอกชนที่รูปร่างเหมือนโรงงานขนาดใหญ่ ที่มีหลายอาคารซึ่งมีทั้งโรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายที่มีความเก่าแก่กว่า 60 ปี อาคารโรงเรียนเหล่านั้นถูกปรับปรุงและขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นเหตุทำให้มีอาคารเก่า(โรงเรียนเก่า)ร้างคนเกิดขึ้นมากมาย และหนึ่งในอาคารเหล่านั้นมีอาคารหนึ่งที่ปิดตายไม่ให้คนภายนอกเข้าไป มันถูกทอดทิ้งพร้อมด้วยการเกิดข่าวลื่อต่างๆ มากมายเกี่ยวกับการพบเห็นวิญญาณร้ายและเหตุการณ์ที่เหนือธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวออกมาเนื่องๆ และหนึ่งเรื่องน่าขนลุกเรื่องหนึ่งที่ขึ้นชื่อของโรงเรียนแห่งนี้มีอยู่ว่าถ้ามีเด็กนักเรียนคนใดหลงเข้าไปในอาคารร้างนี้ล่ะก็ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่ามองข้ามไหล่ตัวเองตอนที่ยืนอยู่กระจกบานใหญ่ในอาคารร้างเด็ดขาด มิฉะนั้นเขาจะพบผีสาวที่อดีตเคยเป็นเด็กสาวในโรงเรียนแห่งนี้ เธอจะลากเขาเข้าไปในโลกของกระจก และเขาคนนั้นจะไม่สามารถกลับออกมาอีกเลยชั่วนิรันดร

      

    แม้ว่าข่าวลือนี้จะเป็นจริงหรือเท็จก็ตาม หรือว่าจะเป็นเพราะโชคร้ายหรือเรื่องบังเอิญเมื่อนักเรียนปีหนึ่งคนหนึ่งชื่อ เทย์อิจิ นียะ ได้หลงเข้าไปอาคารโรงเรียนเก่าที่มีข่าวลือที่ว่าแห่งนี้พอดี ในขณะที่เขาพยายามหาทางออกเขาบังเอิญพบกระจกบานใหญ่ในห้องเก็บของ และนักเรียนสาวสวยคนหนึ่งชื่อคาโนเอะ ยูโกะที่อาสาช่วยเขาหาทางออกอาคารร้างนี้ให้ ในขณะที่เขาเดินตามเธอออกมาเขาก็นึกแปลกใจในพฤติกรรมของเธอว่าทำไมเธอถึงอยู่อาคารร้างแห่งนี้คนเดียว เขาจึงถามเธอว่า “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี้ได้ล่ะ?

    และแล้วคำตอบของหญิงสาวก็ทำให้นียะรู้ว่านักเรียนสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าของก็คือ “คุณยูโกะ ผีแห่งโรงเรียนเก่า” นั่นเอง

    น่าแปลกที่คุณยูโกะยอมรับว่าเธอเป็นผี เธอให้คำตอบแก่นิยะอย่างง่ายดาย แต่นิยะไม่เชื่อคำพูดของเธอเท่าใดนัก เนื่องจากเขาเห็นเธอเป็นตัวเป็นตนเหมือนคนธรรมดา(บวกกับเขายังสามารถสัมผัสเธอได้) จนในที่สุดเธอก็บังคับนิยะให้เชื่อว่าเธอเป็นผีแห่งโรงเรียนเก่าจริงๆ

    จากนั้นนียะก็รู้อีกข่าวลือว่าโรงเรียนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ต้องสาป เพื่อหลีกเลี่ยงคำสาปนี้ เขาเลยต้องฝังเด็กนักเรียนหญิงทั้งเป็นเพื่อเป็นเครื่องสังเวย และแล้วเด็กนักเรียนสาวคนหนึ่งถูกรับเลือกให้เสียสละ และได้ถูกฝังที่ใดที่หนึ่งในอาคารร้างแห่งนี้ เมื่อนียะถามยูโกะว่าหญิงคนนั้นคือเธอใช่หรือไม่ แต่ยูโกะปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่าเธอสูญเสียความทรงจำในสมัยที่มีชีวิตอยู่ ไม่รู้ว่าเธอตายเพราะอะไร ทำไมถึงได้เป็นผีแห่งโรงเรียนเก่าก็ไม่รู้ และแล้วยูโกะก็ปิ๊งไอเดียหนึ่งเข้า เธอบังคับให้นียะตั้งชมรม “เรื่องเหนือธรรมชาติ” ขึ้นมาเพื่อตามหาเรื่องราวความทรงจำของยูโกะที่แท้จริง และนี้คือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างคนกับผีที่น่าสยดสยองชวนหัว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ข่าวลือโรงเรียนต้องสาปมีอยู่จริงหรือไม่? คุณยูโกะเป็นผีต้องสาปจริงหรือ? สามารถหาอ่านได้จากเว็บทั่วไปได้เลย

      

    เทย์อิจิ นียะ (Teiichi Niiya) นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของโรงเรียนเอกชนเซเคียว เขาเป็นคนที่ไม่กลัวสิ่งเหนือธรรมชาติ และไม่เชื่อเรื่องลึกลับ(รวมทั้งผี) แต่เมื่อเขาเจอคุณยูโกะก็เริ่มเข้าใจว่าข่าวลื่อส่วนใหญ่ในโรงเรียนแห่งนี้เกิดขึ้นเพราะคุณยูโกะแทบทั้งสิ้น เขาเป็นคนประเภทเอาจริงเอาจังหากเขาตัดสินใจจะทำแล้วจะทำทันที เขาช่วยยูโกะตามหาความทรงจำและสาเหตุการตายของเธอ และเขาต้องหนักใจหลายครั้งเมื่อเขาต้องรับมือกับการก่อกวนของยูโกะที่ชอบกอดเขาและขี้หึ่งเหลือเกินเวลาเขาคุยกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ(เขาอาจรำคาญ แต่ไม่ได้โกรธเธอ)

      

    คาโนเอะ ยูโกะ(Kanoe Yuuko) เด็กผี(ที่เหมือนหนูปูแห่ง Bakemonogatari ทำให้หลายคนตั้งชื่อคุณยูโกะว่า ผีหนูปู) ที่ข่าวลือทั้งหมดนั้นมาจากเธอทั้งสิ้น หากแต่ความจริงแล้วเธอเป็นผีที่ดี ขี้สงสาร และชอบช่วยเหลือคนอื่น เธอเป็นผีที่ไม่ชอบอยู่เฉยๆ อยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่อง เธอสูญเสียความทรงจำในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด เขาเลยพยายามขอให้มิยะตามหาความทรงจำของเธอ โดยให้เขาสำรวจข่าวลื่อเรื่องเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้(แต่ดูเหมือนเธอไม่สนใจเท่าไหร่) บางครั้งเธออาจดูน่ากลัว และทำท่าทางเย็นชาไปบ้าง แต่ความจริงแล้วเธอชอบนียะ และชอบล้อเล่นกับเขาอยู่บ่อยๆ และมักหึ่งทุกครั้งเมื่อเห็นมียะคุยกับผู้หญิงคนอื่นๆ ซึ่งมีเพียงมียะเท่านั้นที่เห็นเธอในรูปร่างผู้หญิงธรรมดา ส่วนคนอื่นๆ นั้นมักเห็นเธอในรูปควันหรือไม่ก็วิญญาณร้ายที่น่ากลัว

      

                    โอโคโนกิ โมโมเอะ หญิงสาวปีหนึ่งของโรงเรียนเอกชนเซเคียว เป็นคนเชื่อเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ และรู้ดีเกี่ยวกับเรื่องลึกลับแห่งนี้(ส่วนใหญ่เป็นข่าวลือที่ผิดความเป็นจริง) ที่เป็นคนแรกที่มาปรึกษาชมรมเหนือธรรมชาติของคุณยูโกะและนียะ เธอก็เชื่อว่าคุณยูโกะนั้นเป็นผีน่ากลัว(เธอไม่มีความสามารถในการเห็นผี) เมื่อนียะแก้ปัญหาของเธอได้ เธอก็เริ่มชอบนียะ และมักนำข่าวลือลึกลับต่างๆ มาเล่าให้เขาฟังประจำ(โดยมีวัตถุประสงค์คือจะได้พบกับนียะบ่อยๆ)

             

    Tasogare Otome X Amnesia  เป็นการ์ตูนที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์ของตัวละครหรือเนื้อหา แม้เนื้อหาความสัมพันธ์ระหว่างคน(ผู้ชาย)กับผี(ผู้หญิง)นั้นไม่แปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะอดีตมีการ์ตูนแนวนี้ออกมามากมาย แต่เนื่องด้วยมันเป็นเรื่องผี เรื่องลึกลับ และการดำเนินเรื่องและลายเส้นที่น่าสนใจ น่าอ่าน น่าติดตาม จึงไม่น่าแปลกอะไรที่การ์ตูนเรื่องนี้ขายดีติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น

      

    ในด้านลายเส้น Tasogare Otome X Amnesia ได้สร้าง บรรยากาศของการ์ตูนเรื่องนี้ที่ดำเนินเรื่องดูแล้วได้อารมณ์น่ากลัว(ความจริงก็ลายเส้นเดียวกับการ์ตูนโป๊ที่ผ่านๆ มาของเขานั่นแหละ) ภาพหมึกสีดำที่ฉากหลังเป็นโรงเรียนใหญ่ ที่มีความเก่าแก่ของอาคารไม้ปูนที่ผุพัง ระเบียงแคบๆ ห้องว่างที่ไร้นักเรียน การดำเนินเรื่องส่วนใหญ่มักเป็นช่วงเวลาเลิกเรียน ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงน่ากลัวที่สุดสำหรับหลายคน ลองคิดดูสิ จากตอนเช้าจนถึงเที่ยงมีแต่เสียงดังมากมายไม่ว่าจะเป็นเสียงประกาศไมค์ เสียงคนคุยกัน เสียงฟุตบอล หากแต่พอตกตอนเย็นหลังทุกคนกลับบ้านกลับตรงข้ามกับตอนเช้าและช่วงกลางวันโดยสิ้นเชิง เสียงกลับเงียบกริบ มีเพียงแต่เสียงแมลงและนกร้อง บรรยากาศโรงเรียนมืดครึ้ม เสมือนกับว่าโรงเรียนหลุดไปยังมิติแดนสนธยา ชนิดที่ว่าถ้ามีสิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติโผล่ออกมาในช่วงเวลานี้ก็ไม่น่าแปลกอะไร ยิ่งถ้าโรงเรียนของคุณมีเรื่องลึกลับจำพวกเหนือธรรมชาติล่ะก็เสริมให้บรรยากาศหลังเลิกเรียนของคุณจะน่ากลัวยิ่งขึ้น และนี้คือภาพรวมของบรรยากาศการ์ตูนเรื่องนี้

    การดำเนินเรื่องอาจมีพล็อตเรื่องที่อาจจะดูเป็นสูตรสำเร็จนิดหน่อยจำพวกการ์ตูนผีที่พระเอกนางเอกร่วมมือกันสืบหาความจริงเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ หากแต่การเฉลยเรื่องลึกลับนี้ก็ฮ่าได้ใจจริงๆ เพราะว่าเรื่องลึกลับแต่ล่ะอย่างเฉลยง่ายที่คาด เรื่องลึกลับหลายเรื่องมีสาเหตุจากคุณยูโกะแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยูโกะทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ข่าวลือกันสาดสีตีไข่จนทำให้มันดูน่ากลัว บางเรื่องก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผี หากแต่เป็นเพราะจิตวิทยาของคนสิ่งลึกลับที่เกิดขึ้นเกิดจากความหวั่นไหวในจิตใจของแต่ละคน ความเครียด ความไม่รู้ ความรัก ความหึ่งหวง ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้จิตใจสับสน ไม่สามารถแยกได้ว่าอันไหนจริง อันไหนเท็จ เกิดขึ้นได้อย่างไร และคนที่ทำก็โบยความผิดว่าเป็นฝีมือยูโกะ เธอเป็นวิญญาณร้ายที่สร้างความเดือดร้อนแต่ผู้คน ยอนความผิดแก่สิ่งที่ไร้ตัวตนแทนที่จะปรับปรุงตัวเอง

    ในด้านตัวละคร ปกติผมชอบการ์ตูนที่คาแร็คเตอร์ประเภทนางเอกเจ้าแม่อาเจ๊ใหญ่ที่มีความลึกลับพลังอำนาจ ส่วนพระเอกเป็นลูกไล่อยู่แล้วนะครับ(ยกเว้นเรื่อง Holic) ยิ่งพระเอกเป็นคนเตี้ยยิ่งชอบใหญ่  และยิ่งเกี่ยวกับพวกวิญญาณ เรื่องเล่า สิ่งลี้ลับ ทำให้การ์ตูน Tasogare Otome X Amnesiaก็กลายเป็นส่วนผสมลงตัวน่าอร่อยทีเดียว ฉากเซอร์วิตก็อาจจะมีบ้าง เนื่องจากคนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ผลงานที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็นการ์ตูนโป๊(เช่นเรื่อง Maiden's Feelings Overflow, Shy Chick in the Box และ Trick Skip Maiden) แต่ฉากที่ว่าก็ไม่มีมากนัก และตัวละครที่ชูโรงการ์ตูนเรื่องนี้คงจะเห็นไม่เกินคุณยูโกะที่มีทั้งฉากเซอร์วิตนมทะลัก ฉากน่ากลัว ฉากเจ้าแม่ ฉากซึน ฉากโรแมนติก เรียกได้ว่าเป็นนางเอกที่มีอารมณ์ที่หลากหลายจริงๆ

     ความสนุกของการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ใช้การดูความฉากสยองขวัญจำพวกผีออกมาหลอกหลอนผู้คน หรือฉากฆ่ากันเลือดสาดเหมือนการ์ตูนผีทั่วๆ ไป หากแต่สิ่งที่สนุกก็คือการได้ดูพฤติกรรมตัวละครคือคุณยูโกะ ที่คนอ่านต่างติดตามว่าเธอเป็นวิญญาณดีหรือวิญญาณร้ายกันแน่? แม้เธอจะเป็นผี เป็นสิ่งที่ทุกคนหวาดกลัว หากแต่เมื่อเราได้ดูพฤติกรรมการกระทำของเธอหลายๆ ตอนแล้ว ก็น่าแปลกใจว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นผีแบบไหนกันแน่?    

    สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับคุณยูโกะ คือเธอช่างคล้ายกับซายะกินแมวจากเกม(Saya no Uta) ตรงที่พระเอกเห็นนางเอกในรูปร่างงดงามแม้พฤติกรรมของเธอบางครั้งอาจจะดูแล้วเหมือนให้พระเอกลุ่มหลง และพยายามหลอกล่อพระเอกเพื่อวัตถุประสงค์อะไรสักอย่าง ส่วนรูปร่างภายนอกถ้าพระเอกเห็นเธอละก็จะออกมาในรูปลักษณ์ชวนหลงใหล แต่ตรงกันข้ามกับคนอื่นที่ไม่ใช่พระเอกเมื่อเห็นนางเอก นั้นกลับกลายเป็นสิ่งอัปลักษณ์ที่แสนน่ากลัวแทน

    แม้ตัวละครนางเอกสองตัวนี้จะเหมือนกัน แต่สิ่งที่ยูโกะไม่เหมือนซายะ คือยูโกะจิตใจงดงาม ปรารถนาให้คนอื่นมีความสุขมากกว่า

    เช่นตอนที่ 0 ผีลักซ่อน โอโคโนกิ โมโมเอะหญิงสาวที่เล่นเกมพิธีกรรมผีลักซ่อน และกลายเป็นว่าตุ๊กตาที่ใช้ทำพิธีกรรมหาย เธอเลยคิดว่าเธอทำให้คุณยูโกะโกรธและเธออาจถูกคุณยูโกะฆ่า หากแต่ความจริงแล้วคุณยูโกะไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่เรื่องที่เด็กคนนั้นคิดไปเอง หากแต่ด้วยความไม่รู้ความจริงเด็กคนนั้นกลับหวาดกลัวจนเกินเหตุ แต่ยูโกะยอมแก้ปัญหานี้โดยยอมเล่นละครกับนียะ สร้างภาพให้เธอเป็นวิญญาณร้ายเพื่อให้เรื่องจบลงอย่างแฮปปี้ เมื่อเห็นคนที่มาขอความช่วยเหลือมีความสุข เธอก็มีความสุขตามโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรเลย

    หรือจะเป็นตอนที่ 1 -2 เรื่องของเด็กสาวคนหนึ่งที่ทำลายอุปกรณ์ห้องเรียนจนพังพินาศ แล้วหลายคนโบยความผิดให้คุณยูโกะ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเด็กสาวคนนั้นเป็นต้นเหตุ(ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์ก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นเลยโบยคุณยูโกะไปด้วย) แต่ยูโกะก็ไม่ได้โกรธเคืองการใส่ร้ายป้ายสีอันนี้ ซ้ำยังยินดีเล่นละครกับนียะแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นวิญญาณร้ายในร่างเงา เพื่อแสดงว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นตนทำ(ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เลย) เพียงเพื่อให้เด็กสาวคนนั้นมีความสุข

     

    นอกจากนี้ตัวละครอย่างยูโกะนั้นได้แสดงให้ผู้อ่านอย่างเราๆ ได้เห็นว่าเวลาเราจะเชื่อเรื่องของผีและสิ่งลึกลับ เราควรจะเชื่อในแง่ของหลักการและเหตุผลก่อนตัดสินใจว่าสิ่งนั้นคืออะไรมากกว่าที่จะเชื่อในข้อมูลที่คลุมเครือและการมองเห็นด้วยตาเปล่า เพราะข้อมูลบางข้ออาจเป็นเรื่องหลอกลวง มีคนแต่งขึ้นมาเกินจริง สิ่งที่เห็นด้วยตาอาจเป็นสิ่งหลอกลวง การที่จะเชื่ออะไรนั้นจะต้องมีการวิเคราะห์เหตุและผล

    เรื่องผี ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เหนือหลักวิทยาศาสตร์มาช้านาน  หัวข้อของผีถือได้ว่าเป็นหัวข้อยอดฮิตในการโต้เถียงว่ามันมีจริงหรือไม่ หลายคนกลัวผี แต่ในขณะเดียวกันก็ชอบเรื่องผี หลายคนชอบดูหนังประเภทผี ชอบอ่านเรื่องผี สาเหตุก็คือผีเป็นสิ่งที่ลึกลับที่ไม่สามารถอธิบายว่ามันคืออะไรกันแน่ เรื่องผีส่วนมากมีสีสันสนุกสนานแปลกใหม่ไม่จำเจ ฟังกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกเบื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องผีส่วนมากมักเล่าเกินความจริงหรือเนื้อหาแปลกประหลาดไปบ้าง แต่กระนั้นหลายคนพยายามที่จะเชื่อมัน

    เรื่องผีส่วนมากอธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไรแน่ ในขณะที่บางเรื่องเป็นเท็จ ทำปลอมขึ้น หากแต่หลายคนกลับยอมที่จะโดนหลอก ยอมที่จะเชื่อโดยไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่? เช่นนิตยสารผีในประเทศไทยทั้งหลายที่มักลงเรื่องเกี่ยวกับผีต่างๆ โดยไม่มีการวิเคราะห์และส่วนใหญ่เป็นเรื่องโกหกเพื่อหลอกลวง หากแต่หลายคนยินดีที่จะซื้อหนังสือชนิดนี้เนื่องจากเนื้อหาของมันสนุก

    ยกตัวอย่างที่โด่งดังมากที่สุด เช่นภาพยนตร์เรื่อง "Three men and baby" ที่ฉายในปี 1987 (มีการรีแม็กใหม่ แต่มันก็สู้ของเดิมไม่ได้เพราะมันไม่ถ่ายติดผี )  โดยเนื้อหาเป็นเรื่องราวของสามหนุ่มที่อาศัยอยู่ด้วยกันในอพาร์ทเมนท์ที่ต้องเลี้ยงดูเด็กทารกที่ถูกนำมาทิ้งที่หน้าบ้านอย่างไม่คาดฝัน ภาพยนตร์นี้ดังมาก หากแต่ที่ดังเพราะเนื้อหาหรือการแสดงของตัวละครในเรื่อง แต่ดังตรงที่มีฉากหนึ่งมีสิ่งที่ไม่พึ่งปรารถนาติดมาด้วย

    ฉากที่ว่าเป็นช่วงเกือบสุดท้ายของภาพยนตร์ เป็นฉากที่ แจ๊ค โฮลเด้น ( Ted Danson ) และแม่ของเขา ( Celeste Holm ) กำลังเดินไปหาทารกน้อยที่อยู่บนเตียงนอนให้สังเกตว่าตอนที่เดินนั้นมีปืนลูกซองอยู่ที่หน้าต่างที่มีผ้าม่านด้านซ้าย(ภาพเร็วมาก) จากนั้นเมื่อทั้งสองไปถึงทารกน้อย แม่ของเขาก็จับทารกขึ้นมาอุ้มแม่ของเขาก็อุ้มเด็กเดินกลับมาที่หน้าต่างที่มีปืนลูกซองวางยู่ จากนั้นให้สังเกตฉากที่หน้าต่างซ้ายมือที่ตอนแรกมีปืนลูกซองวางอยู่ตอนแรก แต่กลายเป็นว่ามันกลับหายไปและปรากฏว่ามีรูปเด็กชายแปลกหน้าลึกลับใส่เสื้อสีขาวและกางเกงสีดำกำลังยื่นอยู่หลังม่านติดมาแทนหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายก็สร้างความฮื่อฮ่าต่อฝูงชนมาก และทีมงานภาพยนตร์ก็ยื่นยันว่าโดยที่ถ่ายทำฉากที่ว่าไม่มีคนนอกที่ไหนเข้ามาในกล้องเด็ดขาด นอกจากนักแสดงในฉากนั้น  และเมื่อเรื่องนี้หาคำตอบไม่ได้ทำให้เรื่องนี้โด่งดังในฐานะตำนานเมืองในปี 1990(โด่งดังปะพร้อมกับสงครามอ่าวเปอร์เซีย) โดยเล่ากันว่าเป็นลูกชายเจ้าของบ้านที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่ฆ่าตัวตายเพราะปืนลูกซองที่เอามาเล่นจนเกิดอุบัติเหตุลั่นใส่จนเสียชีวิต บางก็ว่าเป็นเด็กตกตึกตายเมื่อหลายปีก่อน แต่กระนั้นหลังจากผีในภาพยนตร์เรื่องนี้โด่งดังก็มีผีอีกจำนวนมากที่ถูกฝ่ายติดในกล้องวีดีโอ

    หากแต่ภายหลัง มีการพิสูจน์แล้วว่าผีภาพยนตร์เรื่อง "Three men and baby"นั่นเป็นของปลอม โดยผู้สร้างเรื่องนี้ได้ออกมาแก้ข่าว บอกว่าภาพนั้นไม่ใช่ภาพเด็ก หากแต่เป็นภาพกระดาษที่นักแสดงคนหนึ่งลืมเก็บออกจากฉาก หลังจากนั่นไม่นานมีจดหมายออกมาด่ากันระนาวถึงบริษัทผู้สร้างพร้อมกับสำนักงานที่ลงเรื่องผีเหล่านั้น แต่กระนั้นก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งยอมเชื่อ และเอารูปไปโพสเป็นคลิปต่างๆ เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะคนไทยหลายคนต่างออกความเห็นทำนองว่าสิ่งนั่นคือผี

    อีกหนึ่งตัวอย่างที่โด่งดังไม่แพ้กัน คือกรณีบ้านตระกูลฟอกซ์(The Fox Sister) ในหมู่บ้านไฮส์วิล นิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดปรากฏการณ์โพลเตอร์ไกซ์(Polfergeist)เมื่อปี 1948 ที่บ้านแห่งนี้ปรากฏเหตุการณ์ประหลาดต่อเนื่อง คือมีเสียงเคาะถี่ๆ ดังจากในห้องของสองพี่น้องตระกูลฟอกซ์(Margaret & Kate Fox) และทุกค่ำคืนหลังจากนั่นสองพี่น้องได้ติดต่อกับเสียงเคาะนั้น โดยเคาะถามกับเสียงว่า ถ้าคุณเป็นวิญญาณช่วยส่งเสียงเคาะออกมาเป็นสองครั้งด้วย จนกระทั้งพวกเขาได้คำตอบว่าเจ้าของเสียงเคาะนั้นชื่อชาร์ลส อดีตเขาเคยอยู่บ้านหลังนี้ก่อนที่จะถูกฆ่าและฝังดินใต้ถุนบ้านนี้เอง(หลังจากที่พี่น้องตระกูลฟ็อกซ์เสียชีวิตไปแล้วในปี 1904 บ้านหลังดังกล่าวเกิดถล่มลงมา เพื่อนบ้านรอบๆจึงช่วยกันขุดและพบกระดูกคนตามที่พวก เธอกล่าวเอาไว้) ด้วยเหตุการณ์นี้เองทำให้มันได้รับความนิยมมากและถือกำเนิดศาสตร์ที่เรียกว่าสปิริชวล Spiritualism(ลัทธิเชื่อเรื่องผี) หลังจากนั้นสองพี่น้องก็กลายเป็นร่างทรง และทำพิธีอัญเชิญวิญญาณตามท้องที่ต่างๆ แต่แล้วในปี 1888 สองพี่น้องกับประกาศให้คนอื่นตะลึงว่า ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องหลอกลวง แต่กระนั้นกระแสสปริชวลได้เจริญเติบโตจนหยุดไม่อยู่ และได้กลายศาสตร์ในการศึกษาปรากฏการณ์ผีสมัยใหม่(ที่เริ่มจะเน้นวิทยาศาสตร์ขึ้น)จนบัดนี้

    หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่เป็นกรณีของออร์บ(Orbs) ที่รูปถ่ายที่มักติดรูปวงกลมสีขาวลางๆ ล่องลอยไปมาในอากาศเสมือนหนึ่งดวงวิญญาณ หากแต่วิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าตัวจริงของออร์บคือการหักเหของแสงต่อละอองฝุ่นในอากาศ ซึ่งเงื่อนไขที่ทำให้เกิดรูปนี้ง่ายทำได้ง่าย ทำให้มีรูปดังกล่าวจำนวนมากและส่งผลทำให้คนชอบโพสรูปประเภทนี้ลงในอินเตอร์เน็ตเยอะเช่นกัน หลายคนที่เข้ามาดูก็เชื่อว่านั่นคือผี

    ดังนั้นเรื่องผีจึงมักอยู่คู่กับเรื่องหลอกลวงและเรื่องเข้าใจผิดเสมอ เรื่องหลอกลวงเหล่านี้มักเป็นพวกนิทานหรือตำนานร่วมสมัยที่ทันสมัย ที่เป็นความเชื่อไม่มีหลักฐาน หากแต่หลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงและถูกนำมาเล่าปากต่อปากแต่งเติมหรือใส่สีตีไข่ให้มันสมจริง โดยตำนานส่วนใหญ่จะมีองค์ประกอบของความลึกลับ สยองขวัญ น่ากลัว และตลกเพื่อให้เกิดความน่าสนใจต่อผู้ฟัง โดยไม่สนสาระสำคัญของเรื่องเหล่านี้ เพราะว่าเรื่องลึกลับส่วนมากมักเป็นคำเตือนที่แฝงด้วยคำสอนหรือข้อห้ามต่างๆ ตัวอย่างเช่นที่ประเทศญี่ปุ่นมีตำนานเรื่องผีฮานาโกะในห้องน้ำโรงเรียนตอนกลางคืน หรือผีสาวปากฉีกที่ดักทำร้านเด็กหลังเลิกเรียน เป็นต้น

       

    การที่หลายคนเห็นคุณยูโกะในรูปร่างที่น่ากลัวสยดสยองก็เช่นกัน เสมือนหนึ่งกระจกสะท้อนของจิตใจของคน ว่าจินตนาการของคุณยูโกะนั้นเป็นอย่างไร หากคิดว่ายูโกะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสมองของคนรับข้อมูลก็สร้างตัวตนให้ออกมาเป็นสิ่งที่น่ากลัวตามไปด้วย หากจะมีแต่นียะคนเดียวเท่านั้นที่เห็นคุณยูโกะเป็นหญิงสวย และได้เห็นพฤติกรรมปิดทองหลังพระ เสมือนกับปรัชญาที่ว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น จงเชื่อในสิ่งที่เป็น การจะเข้าใจคนๆหนึ่ง ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ เมื่อพบกับเรื่องใดๆ ควรจะพิจารณาไตร่ตรองหลายๆด้านให้รอบคอบ มุมมองของตนเองเป็นเพียงด้านใดด้านหนึ่ง เป็นความจริงเพียงด้านหนึ่งเท่านั้น การจะตัดสินเรื่องใดเพียงด้านเดียว ไม่สามารถตัดสินเรื่องทั้งหมดได้

     การปรากฏตัวของซายะในภาพลักษณ์ที่น่ากลัวก็มีทฤษฏีหนึ่งที่น่าสนใจว่า ผีที่เราเห็นทุกวันนี้เกิดจากอาการจิตหลอนของสมองเราใช่หรือเปล่า เมื่อเราอยู่สภาพแวดล้อมที่สั่นคลอนต่อจิตใจของเรา เช่นที่มืด เสียงดังที่ไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไร บรรยากาศที่ไม่น่าไว้ใจ เรามักจะคิดโน่น คิดนี่ คิดไป คิดมา คิดฟุ้งซ่าน สมองมักสภาพภาพหลอกๆ เล่นตลกกับเราเสมอ

    อ่านการ์ตูนเรื่องนี้จบแล้วกลับมาดูบ้านเราบ้าง ว่าทุกวันนี้เราเชื่อเรื่องผีโดยใช้หลักเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หรือเปล่า

    Tasogare Otome X Amnesia  เป็นการ์ตูนที่น่าอ่าน แต่ผมไม่คิดว่าจะมีสำนักพิมพ์ในไทยไหนจะซื้อลิขสิทธิ์ไปตีพิมพ์วางจำหน่าย เนื่องจากผลงานของนักเขียนคนนี้ที่ผ่านมานั้นไม่ค่อยดังนัก อีกทั้งผลงานส่วนใหญ่เป็นการ์ตูนโป๊(ที่เนื้อหาไม่สนุกเท่าไหร่สำหรับผล) สำนักพิมพ์คงจะคิดหนักหลายยกในการจะลงทุนในครั้งนี้ ดังนั้นตอนนี้คนเน็ตอย่างเราๆ(โดยเฉพาะเน็ตแรง)ก็อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ในแบบซับอังกฤษแก้พลางไปก่อน หรือจะอ่านซับไทยก็ได้ในเว็บที่ลงลิงค์ไว้ข้างบน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×